This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Messages - admin
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 30
151
« เมื่อ: กันยายน 07, 2021, 10:29:33 PM »
18 ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
สถานที่ท่องเที่ยวสวนผึ้ง
1. บ้านหอมเทียน
ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของอำเภอสวนผึ้งก็ว่าได้สำหรับ "บ้านหอมเทียน" ประมาณว่าใครไปสวนผึ้งแล้วไม่ได้ไปที่นี่ถือว่าไปไม่ถึงนะจ๊ะ เพราะนอกจากจะมีเทียนหอมรูปร่างแปลกตาน่ารักน่าชัง ของฝาก และของทำมือดีไซน์เก๋ให้เลือกช้อป เลือกดูกันแล้ว ยังมีกิจกรรมทำเทียน, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, มุมศิลปะอย่างวาดภาพเหมือน และบริการนวดแผนไทย ฯลฯ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือมุมโพสท่าถ่ายภาพเก๋ ๆ แจ่ม ๆ ที่มีให้เลือกสรรตามใจเพียบ
ราคาบัตรเข้าชม : 60 บาท
ที่ตั้ง : 210 หมู่ 2 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น., วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น. และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1995 8144
เฟซบุ๊ก : บ้านหอมเทียน
2. อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง
สวนผึ้ง
อัลปาก้าฮิลล์ ฟาร์มอัลปาก้าแห่งแรกและแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดของไทย ดินแดนอันแสนสวยงามซึ่งเต็มไปด้วยอัลปาก้าขนปุย วิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวกว่า 250 ไร่ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ป้อน กอด และหยอกล้อกับสัตว์ที่เป็นมิตรอันหลากหลาย ทั้งอัลปาก้า จิงโจ้แคระ กระต่ายยักษ์ หนูตะเภา และอื่น ๆ อีกมากมาย อ๊ะ ๆ แต่เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมน้องอัลปาก้าเป็นจำนวนมาก เกินกว่าที่กำหนดไว้ต่อวัน (เพียง 200 ท่าน/วัน) อัลปาก้าฮิลล์จึงจะรับลูกค้าผ่านระบบทางการจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์เท่านั้น (สอบถามรายละเอียดได้ที่ 08 0821 2108/08 1145 9565)
อัตราค่าบริการ : เริ่มต้น 290 บาท *** ต้องจองการเข้าชมผ่านระบบออนไลน์ที่ alpacahill.com เท่านั้น***
ที่อยู่ : 357 หมู่ 8 ถนนผาปก-ตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น., วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. และกิจกรรม VIP Night Safari วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.30-22.00 น.
โทรศัพท์ : 08 0821 2108, 08 1145 9565
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : alpacahill.com, AlpacaHill
3. ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครในอำเภอสวนผึ้ง ที่ทุกท่านต้องมาสัมผัสด้วยตัวท่านเอง (ไม่เสียค่าเข้าชม) และทางไร่ยังได้มีบริการสถานที่กางเต็นท์ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและมีความเป็นธรรมชาติอีกด้วย สำหรับการเดินทางจากหน้าอำเภอสวนผึ้งตรงมาตามเส้นทางหลัก 14 กิโลเมตร จะเจอสามแยกที่มีป้อมตำรวจ ให้เลี้ยวขวาและตรงเข้ามาอีก 4 กิโลเมตร ไร่อยู่ซ้ายมือ
ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 09 7239 7791
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์ อ.สวนผึ้ง
4. ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto
ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนอันแสนโรแมนติก และศูนย์การค้าสุดอลังการกับรูปแบบของอาคารและร้านค้าที่ออกแบบมาอย่างลงตัว เพื่อความสนุกสนานในการจับจ่าย และเลือกซื้อสินค้า โดยร้านค้าตลาดน้ำ Veneto ถูกออกแบบอย่างมีสไตล์และมีเอกลักษณ์ ภายใต้กลิ่นอายอันแสนโรแมนติกของ Santorini ด้วยความโดดเด่นของตัวอาคารสีขาวสะอาดตาตัดกับสีน้ำเงินสด ท่ามกลางเทือกเขาที่เขียวขจีจนมีเอกลักษณ์และรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังได้ตื่นตาและเพลิดเพลินกับการเก็บภาพความประทับใจของลานน้ำพุ หอระฆัง และสวนหย่อม โดยเริ่มเปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556
อัตราค่าบริการ : สอบถามโดยตรงจากทางตลาดน้ำ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.30 น.
ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 09 1561 8848
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto
5. กล้วยไม้ออร์คิด
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
ใครชอบกล้วยไม้ไม่ควรพลาดกับ "สวนผึ้งออร์คิด" ศูนย์รวมแวนด้า แอสโคเซนด้า ลูกผสมหลากสีสวยงาม มีให้เลือกกันอย่างมากมาย ชอบต้นไหนก็ซื้อกลับบ้านได้เลย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน สถานที่สะอาด บรรยากาศสบาย โดยมีเจ้าของร้านใจดีอย่าง พี่เล็ก อนุโพธิ์ พรายมณี ที่ให้การต้อนรับพร้อมแนะนำให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับต้นกล้วยไม้เป็นอย่างดี พร้อมจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ทั้งนี้ ตอนนี้ทางสวนได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมสร้างทางเดินเป็นแพในบ่อเลี้ยงปลา สำหรับผู้ที่ต้องการไปให้อาหารปลากลางบ่อ เป็นอีกจุดหนึ่งสำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่อยากเดินชมสวนจ้า
อัตราค่าบริการ : เปิดให้เข้าชมฟรี
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.30 น.
ที่อยู่ : 313/2 หมู่ 3 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัด ราชบุรี
โทรศัพท์ : 0 3271 1230
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Suanpheungorchids-สวนผึ้งออร์คิด
6. จุดชมวิวห้วยคอกหมู
สุดเขตดินแดนสยาม สูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร เป็นพื้นที่ของฐานปฏิบัติการห้วยคอกหมูร้อย ตชด.137 แต่เดิมเป็นช่องทางการค้าไม้ที่รับการสัมปทานการค้าระหว่างไทย-พม่า ปัจจุบันนี้การค้าระหว่างไทย-พม่าได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เส้นทางนี้จึงได้มีการพัฒนาปรับปรุงเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวชมวิวภูเขาและชายแดนไทย-พม่า อีกทั้งบนจุดชมวิวห้วยคอกหมูนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูมิประเทศอันสวยงามของเทือกเขาตะนาวศรีและชายแดนพม่า พร้อมกับสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นและนกนานาชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมหนาแน่นดุจดั่งทะเลหมอก สวยงามไม่แพ้ภาคเหนือ ขณะที่ในวันท้องฟ้าโปร่งจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงาม
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเพชรบุรี (เพชรบุรี, ราชบุรี) โทรศัพท์ 0 3247 1005-6, 0 3247 1502 เวลา 08.30-16.30 น.
7. ธารน้ำร้อนบ่อคลึง
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
เดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและสระน้ำกระเบื้องสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ
อัตราค่าบริการ : ค่าอาบน้ำแร่สำหรับบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ คนไทย 30 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท สระน้ำกระเบื้อง คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 50 บาท
วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น.
ที่อยู่ : บ้านห้วยผาก หมู่ที่ 7 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 9918 2114, 0 3271 1086
เว็บไซต์ : bkhotspring.com
8. พิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือสวนภูมิปัญญาชาวบ้าน
จากหน้าสถานีตำรวจสวนผึ้งแยกซ้ายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านวัดสวนผึ้งแล้วแยกขวาข้ามสะพานไปก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือสวนภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ มีลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ รวบรวมวัตถุโบราณในอดีต รถม้า รวมทั้งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับของไทยชนิดต่าง ๆ ทั้งนี้ มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว
อัตราค่าบริการ : อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.00 น. และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ที่อยู่ : 94 ถนนสายสวนป่าสิริกิติ์-สวนผึ้ง ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 0 3239 5192
9. เขากระโจม
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
เขากระโจม ห่างจากอำเภอสวนผึ้งประมาณ 40 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดราชบุรีประมาณ 100 เป็นยอดเขาสูงสุดในเทือกเขาตะนาวศรี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,045 เมตร มีลักษณะรูปร่างของภูเขาคล้ายกระโจม ซึ่งเป็นคำพูดติดปากของชาวบ้านที่เมื่อก่อนบริเวณนี้มีการทำเหมือง เวลาใครเห็นเขาลูกนี้ก็มักเรียกว่า "เขากระโจม" (จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน) โดยนับเป็นจุดชมทะเลหมอกที่ได้รับความนิยมมาก เพราะใกล้กรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นภูเขาแบ่งเขตแดนระหว่างไทยและเมียนมา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบธรรมชาติป่าเขาและรักการผจญภัย
เขากระโจม เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่สวยงามของสวนผึ้ง หากวันไหนฟ้าฝนเป็นใจในยามเช้าก็จะได้เห็นทะเลหมอกงดงามมาก ทั้งนี้ การจะขึ้นไปชมความงามของทิวทัศน์บนเขากระโจม ต้องใช้รถ 4x4 ขึ้นไปเท่านั้น โดยสามารถใช้บริการรถจากชมรม "รักษ์เขากระโจม สวนผึ้ง" เฟซบุ๊ก กลุ่มรักษ์เขากระโจม สวนผึ้ง (กลุ่มรักเขากระโจม) อำเภอสวนผึ้ง ได้
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเพชรบุรี (เพชรบุรี, ราชบุรี) โทรศัพท์ 0 3247 1005-6, 0 3247 1502 เวลา 08.30-16.30 น.
10. น้ำตกเก้าชั้น
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
ภาพจาก ททท.
น้ำตกเก้าชั้น หรือเก้าโจน (เก้ากระโจน) ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปีปริมาณน้ำจะมากในชั้นบน ๆ หินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิต แต่เดิมน้ำตกนี้รู้จักกันเฉพาะในกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ต่อมาบริษัทต่างชาติเข้ามารับสัมปทานเหมืองแร่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484 จากนั้นเมื่อหมดสัมปทานทางอำเภอและกลุ่มองค์กรท้องถิ่นจึงได้เข้ามาดูแลพื้นที่ ซึ่งการเดินไปชมน้ำตกจากลานจอดรถเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงบริเวณน้ำตกชั้นล่าง ซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
อัตราค่าบริการ : ค่าเข้าชมรถยนต์ รถตู้ รถปิกอัพ คันละ 30 บาท รถบัส 100 บาท
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
ที่อยู่ : บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : ททท. สำนักงานเพชรบุรี (เพชรบุรี, ราชบุรี) โทรศัพท์ 0 3247 1005-6, 0 3247 1502 เวลา 08.30-16.30 น.
11. โป่งยุบ
โป่งยุบ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชาวบ้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะแปลกตา ในเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินทำให้เกิดลักษณะโตรกผาคล้ายกับแพะเมืองผี จังหวัดแพร่ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก การเกิดขึ้นของโป่งยุบสันนิษฐานว่าเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ทำให้แผ่นดินยุบตัวลงแล้วกลายเป็นหน้าผาสูงชัน โดยเป็นพื้นที่ของเอกชน
อัตราค่าบริการ : 40-400 บาท แล้วแต่จำนวนคนและขนาดของรถ หากมาเป็นหมู่คณะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าชม
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
ที่อยู่ : เลขที่ 99 หมู่ 6 บ้านท่าเคย ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
12. บ้านไร่พรสวรรค์
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
นอกจากบ้านไร่พรสวรรค์จะมีที่พักบริการแล้ว ยังมีทุ่งทานตะวันกว่า 50 ไร่ ให้ได้ไปถ่ายรูปเก๋ ๆ กัน อ๊ะ ๆ แต่ดอกทานตะวันจะบานตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมกราคม รวมถึงจะมีความแตกต่างจากที่อื่น ๆ คือจะมีการทำเกษตรควบคู่ไปกับรีสอร์ตด้วย ถ้าคุณเดินทางมาพักก็จะได้ชมวิธีการทำเกษตรและทุ่งทานตะวันไปด้วย หรือจะไปเล่น Zorb Ball เครื่องเล่นนี้จะพาคุณกลิ้งลงจากเนินในความยาวระยะทางประมาณ 70 เมตร ด้วยความยาวระยะนี้จะทำให้สนุกและตื่นเต้น และปิดท้ายด้วยความสนุกสนานกับการโหนสลิงในระยะทางกว่า 150 เมตร รับรองปลอดภัยและเสียวแน่นอน
อัตราค่าบริการ : สอบถามจากทางรีสอร์ต
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน
ที่อยู่ : 151 หมู่ที่ 4 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 5191 3023, 09 1604 6094
เว็บไซต์ : pornsawun.com และ เฟซบุ๊ก บ้านไร่พรสวรรค์ สวนผึ้ง กิจกรรมสวนผึ้ง กางเต็นท์สวนผึ้ง
13. ฟาร์มโคโรฟิลด์ (Coro Field)
เปิดตัวได้ไม่นานก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม เพราะที่นี่มีการจัดทำสวนเมลอนในสไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งรอบ ๆ สวนด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูทันสมัย ให้ความรู้สึกคล้ายกับเป็นฟาร์มเกษตรแบบญี่ปุ่น อาคารต่าง ๆ ออกแบบและตกแต่งในสไตล์มินิมอล จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ มีมุมให้ถ่ายรูปแล้วเช็กอินมากมาย และยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ทำไม่รู้เบื่อ ภายในฟาร์มยังมีคาเฟ่เรียกว่าโซนโคโร คาเฟ่ เสิร์ฟผักสด ๆ จากไร่ รวมทั้งมีเมนูเครื่องดื่มจากเมลอนสุดเย็นฉ่ำ ใครติดอกติดใจในรสชาติของเมลอน ก็สามารถเลือกซื้อกันได้ที่โคโร มาร์เกต โซนขายของฝากจากฟาร์ม
อัตราค่าบริการ : ฟรี
วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
ที่อยู่ : 117 ถนนราชบุรี-ผาปก ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 09 2569 4791
เว็บไซต์ : corofield.com เฟซบุ๊ก CORO FIELD
รีสอร์ตเก๋ ๆ มีกิจกรรมแจ่ม ๆ ให้ทำ
14. The Scenery Vintage Farm
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
สถานที่ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ไม่มีที่พักค้างคืน ให้บริการเยี่ยมชมฟาร์ม, ให้อาหารน้องแกะ, มีร้าน Honey Scene ที่ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และขนม, ให้บริการถ่ายรูปแบบวินเทจ, มีซุ้มเกมการละเล่นต่าง ๆ มากมาย เช่น ยิงธนู ยิงเป้า, มีร้าน Sheepie Sheep จำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าที่ระลึก สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าท้องถิ่นที่มีคุณภาพ เช่น น้ำผึ้ง
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (เอาบัตรไปแลกหญ้าได้คนละ 1 กำ)
วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-18.30 น.
ที่อยู่ : 234 หมู่ 7 อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 1000 6677 (ในเวลา 08.30-16.30 น.)
เว็บไซต์ : sceneryvintagefarm.com และ เฟซบุ๊ก The Scenery Vintage Farm
15. New Land
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
Newland เป็นดินแดนแห่งความสุขที่จะพาคุณย้อนกลับไปสนุกสดใสเหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง กับกิจกรรมที่คอยต้อนรับมากมาย ทั้งขบวนรถไฟเล็กแสนสนุกที่จะพาไปชมบรรยากาศรอบ ๆ ไร่ ซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่สถานีเลี้ยงแกะ ที่รอให้คุณหนู ๆ มาป้อนนม ให้อาหาร และอุ้มถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม ATV ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ กิจกรรมยิงธนู สำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย ซุ้มเล่นเกมต่าง ๆ และมุมสวย ๆ ไว้ถ่ายรูปอวดเพื่อนสำหรับคนที่รักการถ่ายรูป รวมถึงร้านอาหารและโซนของฝากที่คัดสรรแต่ของอร่อยมีคุณภาพมาเป็นอย่างดี เอาใจนักท่องเที่ยวขาช้อปที่ต้องการของติดไม้ติดมือกลับบ้าน
อัตราค่าบริการ : รถไฟ ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 40 บาท, เลี้ยงแกะ 40 บาท, ATV กลาง (นั่ง 1 ท่าน) 200 บาท 3 รอบสนาม ใหญ่ (นั่ง 2 ท่าน) 300 บาท 3 รอบสนาม ลุยป่า 600 บาท, ยิงธนูชุดละ 100 บาท, ยิงปืนหน้าไม้ชุดละ 100 บาท และยิงปืนชุดละ 100 บาท ทั้งนี้ มีราคาสำหรับคณะทัวร์ (ติดต่อล่วงหน้า)
วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
ที่อยู่ : 214 หมู่ 2 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 0111 5892 และ 08 9746 4215
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Newland สวนผึ้ง ราชบุรี
16. Feraza Farm
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
ไม่ต้องบินไปไกลถึงนิวซีแลนด์คุณก็จะได้สัมผัสกับทุ่งหญ้าและเนินเขาที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย พบบรรยากาศแห่งทิวเขาตะนาวศรีที่ทอดยาวกั้นเส้นขอบฟ้า พร้อมกับฟาร์มแกะนับร้อยตัวได้ ณ Feraza Farm ฟาร์มที่เข้าใจถึงความต้องการที่จะสัมผัสกับความสงบและผ่อนคลายที่เจือไปด้วยความสนุกสนาน ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถร่วมสนุกด้วยกันได้ เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่กับวันพักผ่อน เช่น การขี่รถ ATV ในทุ่งกว้าง, เยี่ยมชมฟาร์มแกะ (สัมผัสกับแกะได้อย่างใกล้ชิด), กิจกรรมตามฤดูกาล และลิ้มรสอาหารที่ FERAZA RESTAURANT
ที่อยู่ : 1/4 หมู่ 10 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 6884 2285 และ 08 9811 8389
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Feraza Farm
17. โมอาย สวนผึ้ง
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
โมอาย สวนผึ้ง อยู่ติดถนนใหญ่ทางหลวงเส้นหลักเข้าอำเภอสวนผึ้งด้านขวามือ ซึ่งเป็นมากกว่าคำว่า "ร้านกาแฟ" เพราะมีทั้ง โมอาย คอฟฟี่ (Moai Coffee) และ โมอาย ฟาร์มแกะ (Moai Sheep Farm) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอสวนผึ้ง ที่มีรูปแบบแปลกใหม่ สะดุดตา ซึ่งนอกจากที่นี่จะให้ความเพลิดเพลินในการท่องเที่ยว พักผ่อน ชมวิว และดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดที่เรียกความสนใจให้ลูกค้าหันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของอารยธรรม สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ได้รับการยกเป็นมรดกโลกอย่างโมอายอีกด้วย และนอกจากกาแฟและเครื่องดื่มยังมีสินค้าอื่น ๆ ให้เลือกซื้อสำหรับเป็นของขวัญและของฝาก
วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
ที่อยู่ : 9/9 หมู่ 10 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 09 4159 3554
เว็บไซต์ : moai-coffee.com และ เฟซบุ๊ก Moai Coffee
18. Bellissimo Café & Resort
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
Bellissimo Café & Resort ตั้งอยู่ใจกลางของอำเภอสวนผึ้ง ที่คุณจะได้สัมผัสและดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามในแบบ 360 องศา อีกทั้งยังได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นทรงของห้องพักซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่น พร้อมด้วยการตกแต่งภายในในสไตล์วินเทจ รวมไปถึงบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ตที่ทั้งสวยงามทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่ทุกคนสามารถทำร่วมกันได้ เช่น กิจกรรมการให้อาหารแกะ พร้อมทั้งได้ถ่ายรูปกับน้องแกะอย่างใกล้ชิด หรือนั่งจิบกาแฟชิล ๆ พร้อมโฮมเมดเบเกอรี่ที่แสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ ล้วนแล้วแต่สนุกกับกิจกรรมเหล่านี้
อัตราค่าบริการ : เข้าชมฟาร์มแกะ 40 บาท
วันเวลาเปิด-ปิด : ร้านกาแฟและฟาร์มแกะเปิดให้บริการวันเสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-17.00 น.
ที่อยู่ : 138 หมู่ 2 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
โทรศัพท์ : 08 9897 9839
เว็บไซต์ : bellissimo-suanpeung.com, Bellissimo Cafe & Resort
ตั๊กออแกไนท์บ้านนารับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบ้านนา
นางรำบ้านนาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบ้านนา
บ้านนารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบ้านนา
รําบวงสรวงพญานาคบ้านนา
ฟ้อนบูชาพญานาคบ้านนา
รําบวงสรวงพญานาคบ้านนา
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
153
« เมื่อ: กันยายน 07, 2021, 08:56:38 AM »
บางคนที สมุทรสงคราม อำเภอเล็ก ๆ ใกล้กรุงเทพฯ ชิลในแบบฉบับ 2 วัน 1 คืน
ชวนเที่ยวอำเภอบางคนที อำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดสมุทรสงคราม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สุดชิล ที่ห้ามพลาด วางแผนเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ 2 วัน 1 คืน หรือไปเช้า-เย็นกลับได้แบบสบาย ๆ
อำเภอบางคนที เป็นอำเภอเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นเมืองที่เงียบสงบ มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดกันแบบชิล ๆ มากมาย ซึ่งเหมาะกับการจัดทริปเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน เที่ยวกันได้ทุกเพศทุกวัย ไปทั้งครอบครัวก็แฮปปี้ ถ้าใครมีเวลาน้อย ไปแบบเช้าไป-เย็นกลับก็ยังได้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมที่เที่ยวบางคนที ร้านอาหาร และร้านกาแฟบางคนทีมาฝากกัน ไปดูสิว่าอำเภอนี้จะน่าเที่ยวจริงไหม ![ยิ้ม :)](https://xn--1-twfr4fvawck5a2fxa3b.com/Smileys/default/smiley.gif)
1. วัดบางกุ้ง
วัดบางกุ้ง ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสมุทรสงครามที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ ของวัดแห่งนี้ก็คือ โบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีรากไม้ของต้นโพธิ์, ต้นไทร, ต้นไกร และต้นกร่างขนาดใหญ่ ปกคลุมตัวโบสถ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาอีกด้วย
2. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองในตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นอาสนวิหารที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีอายุมากกว่า 100 ปี ทั้งภายนอกและภายในวิหารมีการตกแต่งอย่างสวยงามในแบบศิลปะโกธิค ตกแต่งประดับประดาด้วยกระจกสีจากฝรั่งเศส เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน โปรดแต่งกายสุภาพในการเข้าเที่ยวชม
3. บ้านพญาซอ
บ้านพญาซอ ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที เป็นบ้านของครูสมพร เกตุแก้ว ซึ่งเป็นช่างแกะสลักซออู้ที่ชำนาญและมีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม โดยครูสมพรจะนำผลมะพร้าวมาแกะสลักทำซออู้ให้เป็นลวดลายที่สวยงามวิจิตรบรรจง เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ชาวบ้านจึงเรียกบ้านหลังนี้ว่า "บ้านพญาซอ" นอกจากนี้ครูสมพรยังได้สืบทอดวิชาการเล่นดนตรีไทยให้กับเยาวชนในพื้นที่อีกด้วย
4. ตลาดน้ำบางน้อย
ตลาดน้ำบางน้อย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที ใกล้กับวัดเกาะแก้ว เป็นตลาดน้ำเล็ก ๆ เปิดในช่วงกลางวันของเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00-15.00 น. โดยตัวตลาดจะเต็มไปด้วยของกินพื้นบ้านอร่อย ๆ มากมาย มีสินค้าแฮนด์เมดและของที่ระลึกน่ารัก ๆ ให้เลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึกหลากหลายแบบ ที่สำคัญคือ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ เดินเล่นได้แบบชิล ๆ
5. ตลาดเก่าบางนกแขวก
ตลาดเก่าบางนกแขวก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองในตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นตลาดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ตลอดแนวตลาดเป็นบ้านเรือนเก่าแก่ มีร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยเด็ดให้เลือกทานมากมาย รวมทั้งมีร้านขายของที่ระลึกแฮนด์เมด ราคาย่อมเยาให้ได้ช้อปปิ้งกันเบา ๆ บรรยากาศของตลาดแห่งนี้เงียบสงบมาก เหมาะแก่การไปเดินเล่นวันหยุดแบบเพลิน ๆ
6. วัดปราโมทย์
วัดปราโมทย์ ตั้งอยู่ตําบลบ้านปราโมทย์ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสมุทรสงคราม มีอายุมากกว่า 100 ปี เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต ชาวบ้านในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพศรัทธามาก มักจะเดินทางมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอย่างไม่ขาดสาย
7. สวนน้ำไข่มุก
สวนน้ำไข่มุก ตั้งอยู่ในตำบลบางคนที อำเภอบางคนที เป็นสวนน้ำขนาดกลาง มีสไลเดอร์และเครื่องเล่นให้เลือกสนุกสนานมากมาย พร้อมกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มีร้านอาหารไว้รองรับ เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 08 2292 4224
8. ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านสารภี
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านสารภี ตั้งอยู่ที่ตำบลจอมปลวก อำเภอบางคนที โดยมีคุณสุชล สุขเกษม เป็นเจ้าของพื้นที่และเป็นประธานกลุ่ม ภายในศูนย์แห่งนี้ เต็มไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ มากมาย ซึ่งได้นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ กลายเป็นการทำเกษตรผสมผสานที่สามารถเลี้ยงชีพได้ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สุชล สุขเกษม บ้านสารภี ต.จอมปลวก
9. สวนมะนาวโห่ลุงศิริ
สวนมะนาวโห่ลุงศิริ ตั้งอยู่หมู่ 2 ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่แบบเกษตรอินทรีย์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 40 ไร่ ซึ่งผลิตผลที่ได้จากไร่ก็มีการขายทั้งแบบผลสด และทำเป็นสินค้าแปรรูปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่, แยมมะนาวโห่, น้ำพริกมะนาวโห่, ไซเดอร์มะม่วงหาวมะนาวโห่, มะนาวโห่กวน, ชาผลมะนาวโห่, เยลลี่มะนาวโห่, มะนาวโห่ลอยแก้ว เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ และเฟซบุ๊ก มะม่วงหาวมะนาวโห่ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ
ที่กินบางคนที
1. แป๊ะก๋วยเตี๋ยวปู
ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวปูที่ขึ้นชื่อมากของสมุทรสงคราม เปิดมานานกว่า 30 ปี รสชาติน้ำซุปจะอร่อยกลมกล่อม เส้นเหนียวนุ่มกำลังพอดี ให้เนื้อปูและเครื่องต่าง ๆ แบบจัดเต็ม ที่สำคัญราคายังไม่แพงอีกด้วย เปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก แป๊ะก๋วยเตี๋ยวปู
2. เจ๊แตนผัดไทยกุ้งแม่น้ำ
เจ๊แตนผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ตั้งอยู่ภายในตลาดเก่าบางนกแขวก ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นร้านผัดไทยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสมุทรสงคราม นอกจากรสชาติผัดไทยที่อร่อยกลมกล่อมเหมือนผัดไทยดั้งเดิมแล้ว ก็ยังใส่กุ้งแม่น้ำสดตัวโต ๆ เนื้อแน่นลงไปด้วย บอกเลยว่าถ้าใครได้มาลองกินจะต้องฟินแน่นอน
3. สวนอาหารคนทีริมน้ำ
สวนอาหารคนทีริมน้ำ ร้านอาหารบรรยากาศดี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง บรรยากาศสุดเงียบสงบ ที่นี่ให้บริการอาหารไทย รสชาติจัดจ้านหลากหลายเมนู พร้อมทั้งขนมหวานแบบไทย ๆ ให้เลือกสรรกินกันอย่างจุใจ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 09 1441 3532, 0 3473 0817 หรือเฟซบุ๊ก สวนอาหารคนทีริมน้ำ
4. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อลุงพร คลองตะโก
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อลุงพร คลองตะโก ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนที เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่และมีชื่อเสียงในเรื่องความอร่อยของน้ำซุปและเครื่องต่าง ๆ ตัวน้ำซุปจะรสชาติเข้มข้น เข้ากันอย่างดีกับเส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่มและเนื้อต่าง ๆ ที่ถูกจัดเสิร์ฟมาในชามแบบจัดเต็ม ราคาย่อมเยา จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
5. ก๋วยเตี๋ยวรู แปะล้อ
ก๋วยเตี๋ยวรู แปะล้อ ตั้งอยู่ที่ 124 หมู่ 8 ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูและเนื้อตุ๋นสูตรเก่าแก่สุดอร่อย น้ำซุปเข้มข้น เส้นนุ่มกำลังดี โดยเฉพาะเนื้อตุ๋นและหมูตุ๋น ที่เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว ทานง่าย รสชาติหอมอร่อย เข้ากันกับน้ำซุปและเส้นได้อย่างดี ให้ปริมาณเยอะเต็มชาม พร้อมกับเครื่องเคียงต่าง ๆ มากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวรู แปะล้อ
6. ปูตา คาเฟ่
ปูตา คาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ หลากหลายเมนู ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ผสมผสานแนวลอฟท์เพื่อให้ดูผ่อนคลายและน่านั่งพักผ่อน มีพื้นที่ให้นั่งผ่อนคลายทั้งด้านในร้านและนอกร้าน บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Puta cafe
7. เดอะจีรัง อาร์ต คาเฟ่
เดอะจีรัง อาร์ต คาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนที เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ตกแต่งอย่างน่ารัก ออกแบบตัวร้านให้โล่งโปร่งด้วยเรือนกระจกเก๋ ๆ มีร่มไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นและความเย็น ตกแต่งสวนสวยในสไตล์อังกฤษ มีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแบบยุโรป ยิ่งเพิ่มความผ่อนคลายและทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอบางคนทีเลยทีเดียว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก The jeerang art cafe'
หูย...เห็นว่าเป็นอำเภอเล็ก ๆ แต่ก็มีที่เที่ยวสวย ๆ ที่น่าสนใจ ให้ไปเเยี่ยมเยือนไม่น้อยเลยนะคะ สามารถจัดทริปเที่ยว 2 วัน 1 คืนได้แบบสบาย ๆ ไม่ไกลกรุงเทพฯ ขับรถเที่ยวได้แบบชิล ๆ เสพความสุขได้เต็มเปี่ยมแบบนี้ ก็เอาใจไปเลยค่ะ ![ยิ้ม :)](https://xn--1-twfr4fvawck5a2fxa3b.com/Smileys/default/smiley.gif)
ตั๊กออแกไนท์บางคนที รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางคนที
นางรำบางคนทีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางคนที
บางคนทีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางคนที
รําบวงสรวงพญานาคบางคนที
ฟ้อนบูชาพญานาคบางคนที
รําบวงสรวงพญานาคบางคนที
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
155
« เมื่อ: กันยายน 03, 2021, 11:53:21 PM »
15 ที่เที่ยวสมุทรสงคราม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับสบาย ๆ
1. ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำยอดฮิตแห่งจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อทั้งคนไทยและต่างชาติ นอกเหนือไปจากการเดินเที่ยว ช้อปและชิมกันรัว ๆ แล้ว ยังจะได้สัมผัสธรรมชาติของวิถีชีวิตริมน้ำ ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ชิมอาหารพื้นบ้านทั้งคาวหวาน, เดินเยี่ยมชมร้านค้าขายของที่ระลึกและวิถีชีวิตชาวบ้าน, ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำแม่กลองและหิ่งห้อย เที่ยวเสร็จก็นอนค้างอัมพวาสักคืน แนะนำว่าให้นอนไกลตลาดน้ำไปสักหน่อย ตกกลางคืนก็ไปนั่งเล่นริมระเบียง แล้วคุณจะต้องหลงรักอัมพวาเข้าอย่างจัง
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 14.00-20.00 น.
ที่ตั้ง : ถนนประชาเศรษฐ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
2. นั่งเรือชมหิ่งห้อย
แหล่งชมหิ่งห้อยยอดฮิต โดยสามารถล่องเรือได้ที่จุดให้บริการเรือนักท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา มีค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 60 บาทต่อคนต่อเที่ยว ซึ่งเรือจะพาล่องไปตามแม่น้ำแม่กลอง จากคลองอัมพวาวนรอบเกาะแล้วนำกลับมาส่งที่เดิม ใช้ระยะเวลาประมาณ 60 นาทีต่อเที่ยว หากมากันเป็นหมู่คณะสามารถเหมาเรือทั้งลำ เพื่อล่องเรือเป็นหมู่คณะได้ โดยมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณลำละ 500 บาท ต่อ 10 คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและการต่อรองของแต่ละจุดให้บริการเรือ ในระหว่างทางที่ล่องเรือนักท่องเที่ยวจะได้พบกับต้นลำพูอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยเรียงรายตลอดสองข้างทาง พร้อมกับได้ชมหิ่งห้อยตัวน้อยใหญ่ส่องแสงสวยงามไปทั่วบริเวณ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 18.00-21.00 น.
ที่ตั้ง : ถนนโชติธำรงค์ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
3. นั่งเรือไหว้พระริมน้ำ
อีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ที่ไม่น่าพลาดเมื่อมาเที่ยวสมุทรสงคราม ก็คือ การล่องเรือไหว้พระทำบุญ โดยจุดลงเรืออยู่บริเวณตลาดน้ำอัมพวา จะมีเรือของชาวบ้านคอยให้บริการนำเที่ยวไปไหว้พระทำบุญตามวัดต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อ เช่น วัดบางนางลี่ใหญ่, วัดท้องคุ้ง, วัดบางแคกลาง, วัดบางแคใหญ่, วัดเกษมสรณาราม, วัดบางเกาะเทพศักดิ์ และวัดบางกุ้ง ฯลฯ ราคาเริ่มต้นเพียงแค่คนละ 50-100 บาท ได้ทำบุญไปพร้อม ๆ กับการนั่งเรือชมวิถีชีวิตสองฟากฝั่ง บ้านเรือนและสวนผลไม้ของชาวบ้าน แบบนี้คุ้มเกินคุ้มแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 12.00-17.00 น.
ที่ตั้ง : ถนนโชติธำรงค์ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
4. ตลาดสดแม่กลอง
ตลาดสดที่รวบรวมทุกความต้องการเอาไว้ให้ครบครัน ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟแม่กลองและวัดเพชรสมุทรวรวิหาร สินค้ายอดนิยมที่ใครไปเยือนก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน คือ "ปลาทูแม่กลอง" เจ้าของฉายาหน้างอคอหัก เนื้อแน่น มัน รสชาติดี รวมถึงอาหารทะเลทั้งสดและแห้ง ผัก ผลไม้ และขนมไทยต่าง ๆ ก็มีขายในราคาย่อมเยา
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เช้ามืดจรดเย็น
ที่ตั้ง : เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
5. ตลาดหุบร่ม
ตลาดที่ตั้งขายอยู่ริมทางรถไฟสายแม่กลอง-บ้านแหลม ซึ่งเป็นรถไฟสายสั้นที่วิ่งระหว่างมหาชัย-แม่กลอง ความยาวของตลาดประมาณ 100 เมตร ไฮไลต์ที่เราอยากแนะนำให้ไปชมสักครั้ง คือ ภาพบรรยากาศที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะวางขายสินค้าบนพื้นติดกับรางรถไฟ และเมื่อรถไฟมาถึงบริเวณโค้งก่อนเข้าตลาด พนักงานขับรถไฟจะส่งเสียงหวูดเพื่อเป็นสัญญาณให้พ่อค้าแม่ค้ารู้ตัวว่าต้องหุบร่มและเก็บข้าวของที่วางกีดขวางทางรถไฟได้แล้ว และทันทีที่รถไฟเคลื่อนผ่านสถานีรถไฟแม่กลอง ร่มและสินค้าจะถูกจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว จนเป็นที่มาของชื่อ "ตลาดหุบร่ม" นั่นเอง และเมื่อรถไฟผ่านไปเรียบร้อยบรรยากาศของตลาดก็จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 04.00-17.00 น.
ที่ตั้ง : ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
6. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร
หรือที่เราเรียกกันว่า "วัดบ้านแหลม" เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปนมัสการ "หลวงพ่อบ้านแหลม" พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริงสูง 167 เซนติเมตร และเป็น 1 ใน 5 พระพุทธรูปตามตำนานที่ลอยน้ำมาพร้อมกันจากภาคเหนือ คือ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม, หลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อโตวัดบางพลี, หลวงพ่อวัดเขาตะเครา และหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยมีความเชื่อว่าหากได้มาสักการะปิดทองหลวงพ่อบ้านแหลมแล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมทั้งสมความ
ที่ตั้ง : ถนนเพชรสมุทร เขตตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
7. วัดบางกุ้ง
แหล่งท่องเที่ยวสมุทรสงครามที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ ของวัดแห่งนี้ ก็คือ "โบสถ์ปรกโพธิ์" ความมหัศจรรย์ของโบสถ์วัดจะถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์, ต้นไทร, ต้นไกร และต้นกร่างขนาดใหญ่ จนทำให้วัดบางกุ้งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand แถมภายในโบสถ์ก็เป็นสถานที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อนิลมณี" (หลวงพ่อโบสถ์น้อย) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อดำ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นขนาดใหญ่ ให้เข้าไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ที่ตั้ง : หมู่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
8. วัดจุฬามณี
สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สถานที่สำคัญภายในวัดแห่งนี้ ได้แก่ หลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาส และเกจิอาจารย์ดังที่ศพไม่เน่าเปื่อย, ชมโบสถ์จัตุรมุขหินอ่อน ที่ปูพื้นด้วยหินหยกสีเขียวจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน และประดับภายในด้วยโคมไฟระย้า บานหน้าต่างด้านนอกลงรักฝังมุกเป็นภาพตราพระราชลัญจกร ในสมัยรัชกาลที่ 4 แกะสลักบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชาดก นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมแสดงพุทธประวัติและนิทานชาดก ที่เป็นฝีมือของจิตรกรหญิง นิตยา ศักดิ์เจริญ ซึ่งใช้เวลาในการวาดนานถึง 6 ปี อีกด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลบางช้าง (ริมฝั่งคลองอัมพวา) จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
9. วัดอัมพวันเจติยาราม
นิวาสสถานเก่าของหลวงยกกระบัตร (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และคุณนาค (สมเด็จพระอัมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1) และยังเป็นสถานที่ประสูติของรัชกาลที่ 2 ด้านหน้าจึงมีพระบรมรูปของพระองค์ประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านหลังพระรูปเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารและพระบรมอัฐิบางส่วนของพระองค์ เป็นวัดเก่าแก่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนถึงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันจัดเป็นพระอารามหลวงชั้นโท
ภายในวัดมีสิ่งที่สำคัญ เช่น จิตรกรรมฝาผนังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เขียนขึ้นตามแบบศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเรื่องราวเกี่ยวกับบทพระราชนิพนธ์ต่าง ๆ
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
10. วัดบางกะพ้อม
อีกหนึ่งวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในวัดมีโบราณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ได้แก่ วิหารเก่าของวัด อาคารก่ออิฐถือปูนที่ได้รับอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมจากจีน มีลักษณะโดดเด่นที่ไม่มีช่อฟ้า, ใบระกา, หางหงส์ รวมทั้งผนังวิหารด้านบนเป็นภาพจิตรกรรม มีลักษณะที่แตกต่างจากทั่วไป คือเป็นปูนปั้นลวดลายนูนสูง และนูนต่ำ แสดงเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ ส่วนวิหารด้านล่างมีการเจาะช่องเป็นซุ้มประตูเพื่อใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป นอกจากนี้ยังสามารถชมวิหารหลวงพ่อคง หรือ "หลวงพ่อคง ธมฺมโชโต" อดีตเจ้าอาวาส และพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
ภาพจาก MUNGKHOOD STUDIO / Shutterstock.com
ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย
11. อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
หรือที่เราเรียกกันว่า "อุทยาน ร.2" เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปะอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ ภายในแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ลานจอดรถหน้าอุทยาน, ส่วนที่ 2 โรงละครกลางแจ้ง, ส่วนที่ 3 อาคารทรงไทยหมู่ 5 หลัง พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตไทยสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แสดงศิลปวัตถุในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น, ส่วนที่ 4 สวนพรรณไม้ในวรรณคดี, ส่วนที่ 5 อาคารเรือนไทยหมู่ 9 หลัง จัดเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และส่วนที่ 6 พื้นที่ติดริมแม่น้ำแม่กลอง จุดชมวิว จุดถ่ายรูป มีเรือประพาสอุทยาน
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-19.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
ที่ตั้ง : สำนักงานอุทยานรัชกาลที่ 2 ตำบลกระดังงา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
เว็บไซต์ : kingrama2found.or.th
12. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก
ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์ มีอายุมากกว่า 100 ปี สร้างโดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส และได้มีการทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 งดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคของประเทศฝรั่งเศส เมื่อกวาดสายตามองไปยังผนังจะพบเรื่องราวของพระนางมารีย์ ภาพของนักบุญชายหญิง รูปปั้น ธรรมเทศน์ อ่างล้างบาป และรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติในพระคัมภีร์คริสต์ศาสนา นับได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีความงดงามอีกแห่งหนึ่ง
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน โปรดแต่งกายสุภาพในการเข้าเที่ยวชม
ที่อยู่ : ริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
13. ตลาดน้ำบางน้อย
ตลาดน้ำเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในอดีตเคยเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองและสำคัญมาก ตัวตลาดจะเต็มไปด้วยของกินพื้นบ้านอร่อย ๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผลไม้ ซึ่งมีทั้งลิ้นจี่ มะม่วง ส้มโอ มะเฟือง ชมพู่ และอีกสารพัดผลไม้ รวมถึงอาหารคาวหวานหลากหลาย มีสินค้าแฮนด์เมดและของที่ระลึกน่ารัก ๆ ให้เลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึกเพียบ ที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวไม่เยอะ เดินเล่นได้แบบชิล ๆ รับรองว่าคุณจะได้ซึมซับบรรยากาศความคลาสสิกที่ไม่เหมือนใคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-15.00 น.
ที่ตั้ง : ปากคลองบางน้อย (วัดเกาะแก้ว) ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
14. ตลาดเก่าบางนกแขวก
ตลาดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ตลอดแนวตลาดเป็นบ้านเรือนเก่าแก่ มีร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยเด็ดให้เลือกกินมากมาย รวมทั้งมีร้านขายของที่ระลึกแฮนด์เมด ราคาย่อมเยาให้ได้ช้อปปิ้งกันเบา ๆ บรรยากาศของตลาดแห่งนี้เงียบสงบมาก เหมาะแก่การไปเดินเล่นวันหยุดแบบเพลิน ๆ อ๊ะ ๆ และห้ามพลาดการลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวปู ผัดไทยกุ้งสดสูตรโบราณ ก๋วยเตี๋ยวกะลาโบราณ ขนมจีนซาวน้ำ หอยเชลล์อบเนย สละลอยแก้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย นับเป็นอีกหนึ่งตลาดน้ำที่มีความสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินไม่เป็นสองรองใครที่ไหนเลย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น.
ที่อยู่ : ริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
15. ตลาดน้ำท่าคา
ตลาดน้ำที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตชาวบ้านดั้งเดิม อันสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างชีวิตและสายน้ำ จากเดิมที่ชาวบ้านจะพายเรือออกมาเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน จากนั้นพัฒนามาเป็นการนำเอาออกมาวางขายให้กับคนภายนอกได้ซื้อหา สินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายส่วนใหญ่มักเป็นผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอยู่ดั้งเดิมของจังหวัด รวมถึงผักและผลไม้สด ๆ ใหม่ ๆ จากท้องไร่ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ได้ชิมตามฤดูกาล มีทั้งกล้วย มะนาว ฟักทอง ผักบุ้ง ตำลึง เป็นต้น ตลาดน้ำท่าคา นับเป็นตลาดน้ำอีกแห่งหนึ่งที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นชาวสวน และคงไว้ซึ่งบรรยากาศชนบทแบบคลาสสิก ที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนง่าย ๆ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ และทุกวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ (วันโกน) ตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น.
ที่ตั้ง : ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
ตั๊กออแกไนท์สมุทรสงคราม รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
นางรำสมุทรสงครามเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
สมุทรสงครามรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
รําบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
ฟ้อนบูชาพญานาคสมุทรสงคราม
รําบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
159
« เมื่อ: กันยายน 03, 2021, 10:52:49 PM »
ที่เที่ยวสมุทรสาคร จัดมาเน้น ๆ ใกล้กรุงเทพฯ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้
วันหยุดสั้น ๆ ไม่อยากขับรถไกล เราขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวชิล ๆ ที่สมุทรสาครกัน ไปไหว้พระทำบุญ ถ่ายรูปสวย ๆ กับจุดชมวิวริมทะเล และป่าชายเลน พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย แวะช้อปปิ้งอาหารทะเลสดใหม่ กินอาหารทะเลสุดอร่อย ก่อนขับรถกลับเข้ากรุงเทพฯ แบบสบาย ๆ เที่ยวได้ทั้งครอบครัวอีกต่างหาก เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับคนที่อยากพักผ่อนกับวันหยุดสั้น ๆ ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวสมุทรสาครตามนี้เลย
1. ตลาดน้ำริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์
ตลาดน้ำใกล้กรุงเทพฯ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก อยู่ติดกับศาลพันท้ายนรสิงห์ เป็นแหล่งเลือกซื้ออาหารท้องถิ่น ขนมหวานโบราณ และพืชผัก-ผลไม้ไทยสดใหม่ รวมทั้งอาหารทะเล และของที่ระลึกน่ารัก ๆ จากชุมชน มีทั้งโซนในอาคารหลังคาสูงโปร่ง กว้างขวาง และโซนซุ้มไม้ไผ่ บรรยากาศร่มรื่น ทำให้สามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้แบบเพลิน ๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกัน ทางเดินปูน สะดวกสบายสำหรับเด็ก ๆ คนชรา และผู้พิการ
ที่ตั้ง : ใกล้กับศาลพันท้ายนรสิงห์ หมู่ 3 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์
2. ศาลพันท้ายนรสิงห์
สถานที่สำคัญของเมืองสมุทรสาคร มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยเป็นสถานที่ประหารชีวิตของพันท้ายนรสิงห์ นายท้ายเรือในรัชสมัยพระเจ้าเสือ หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ดั้งเดิมนั้นเป็นเพียงศาลไม้ธรรมดา แต่ต่อมามีผู้ใจบุญได้ร่วมกันถวายปัจจัยในการก่อสร้างศาลขึ้นใหม่ และปรับปรุงสถานที่โดยรอบให้สวยงาม ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ดูเย็นตา น่าเที่ยวชม ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากราบไหว้ขอพรมากมาย ด้วยศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อพันท้ายนรสิงห์
ที่ตั้ง : หมู่ 3 วัดศาลพ้นท้ายนรสิงห์ ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
เว็บไซต์ : sanpantainorasing.org
3. ตลาดน้ำคลองสนามไชย
ตลาดน้ำแห่งใหม่ริมคลองสนามชัย ในตำบลพันท้ายนรสิงห์ ตัวตลาดทำเป็นอาคารสูงโปร่ง มุงจาก ให้บรรยากาศแบบพื้นบ้าน แม่ค้าพ่อค้าเป็นคนในชุมชน ร่วมใจกันแต่งกายด้วยชุดไทยสวยงาม น่ารัก ดูอบอุ่น ภายในตลาดมีร้านค้ามากมาย จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งอาหารคาว ขนมหวาน เครื่องดื่ม ผัก-ผลไม้ท้องถิ่น อาหารทะเล สินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึก ราคาไม่แพง และทุกวันอาทิตย์ยังมีการแสดงจากเยาวชนให้ได้ชมด้วย
ที่ตั้ง : 9/97 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำคลองสนามไชย
4. สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์
สวนน้ำใกล้กรุงเทพฯ ที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง เต็มไปด้วยเครื่องเล่นทางน้ำสนุก ๆ มากมาย โดยมีคอนเซ็ปต์ คือ Jurassic Water Park สนุกสนานกับสายน้ำไปกับไดโนเสาร์หลายสิบตัว แบ่งเป็นโซนเด็ก โซนผู้ใหญ่ชัดเจน อีกทั้งยังจะจัดงานคอนเสิร์ตสนุก ๆ อยู่เรื่อย ๆ เปียกกันให้ชุ่มฉ่ำ เต้นกันให้ยับไปเลย
ที่ตั้ง : 9/9 หมู่ที่ 3 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (ปิดวันพุธ) วันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี และศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
เฟซบุ๊ก : สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์
5. ศาลาพระกลางน้ำ
มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ศาลาพุทธมหาสมุทร ตั้งอยู่กลางทะเล ใกล้กับชายฝั่งตำบลพันท้ายนรสิงห์ เป็นศาลาทรงไทย ด้านในประดิษฐานพระพุทธมหาสมุทร ไม่มีทางเดินเชื่อมถึง เพราะก่อนหน้าที่จะนำพระพุทธมหาสมุทรขึ้นไปประดิษฐานนั้นได้เกิดภัยพิบัติหลายครั้งทำให้สะพานพังทลายลงมา แต่ปัจจุบันเกิดภัยพิบัติน้อยลง ชาวบ้านต่างก็นั่งเรือไปกราบไหว้ขอพรพระกลางน้ำกันเป็นประจำ นักท่องเที่ยวก็สามารถนั่งเรือไปได้เช่นกัน สามารถติดต่อเรือได้ที่ร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง
ที่ตั้ง : ชายทะเลในตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน
เที่ยวสมุทรสาคร
6. สะพานไม้สายรุ้ง ชายทะเลกาหลง
สะพานไม้ที่ยอดยาวเข้าไปกลางทะเลอ่าวไทยจากบริเวณตำบลกาหลง โดดเด่นด้วยการทาสีให้เป็นสีรุ้งสดใสน่ารัก เป็นจุดเช็กอิน และจุดถ่ายรูปเก๋ ๆ พร้อมทั้งยังสามารถมาชมวิวได้ทั้งยามเช้า และยามเย็น มีนกทะเลบินงดงาม บรรยากาศเงียบสงบ นอกจากนี้ที่ใกล้ ๆ กัน ก็มีสะพานปูนสีสันน่ารัก ๆ พร้อมทั้งทางเดินศึกษาป่าชายเลนให้ไปเที่ยวชมด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน
เที่ยวสมุทรสาคร
7. สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา และป่าชายเลน
สะพานไม้ที่ทอดยาวไปในท้องทะเลกว้างใหญ่ สร้างมายาวนานนับสิบปี โดดเด่นด้วยสีแดงสด ตัดกับท้องทะเลและธรรมชาติรอบด้านอย่างชัดเจน มีความยาวราว ๆ 200 เมตร เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ยามเช้าและยามเย็นวิวจะสวยงามมาก ลมทะเลพัดเย็นสบาย ๆ นอกจากนี้ในบางช่วงยังสามารถพบเห็นฝูงปลาโลมาจากบริเวณนี้ได้ด้วย
ที่ตั้ง : หมู่บ้านประมง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน
เที่ยวสมุทรสาคร
8. บ้านคลองแค คลองตาขำ
ชุมชนเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยสวนผลไม้ และคลองธรรมชาติสวยใส ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจึงร่วมมือร่วมใจ พัฒนาชุมชน ปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมคลองตาขำให้กลายเป็นสวนน้ำธรรมชาติขนาดเล็ก ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยว ไปนั่งเล่นพักผ่อนริมคลอง ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย มีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ
ที่ตั้ง : ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เฟซบุ๊ก : บ้านคลองแค บ้านแพ้ว
9. หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี
หมู่บ้านน่าเที่ยวอีกแห่งของสมุทรสาคร เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีการทำเครื่องเบญจรงค์สืบทอดกันมาหลายปี ชาวบ้านในชุมชนจะมีอาชีพทำเครื่องเบญจรงค์เป็นหลัก ซึ่งนักท่องเที่ยวก็จะได้เรียนรู้วิธีการทำเครื่องเบญจรงค์กันอย่างใกล้ชิด และสามารถพูดคุยกับชาวบ้านได้เลย และที่สำคัญยังสามารถลงมือทำเองได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเบญจรงค์หลากหลายรูปแบบและลวดลายให้เลือกซื้อกลับบ้านไปเป็นของที่ระลึกอีกต่างหาก
ที่ตั้ง : ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน (ควรติดต่อล่วงหน้า)
เฟซบุ๊ก : หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี
10. นาเกลือ
อีกหนึ่งจุดเช็กอินห้ามพลาดของสมุทรสาคร ก็คือ นาเกลือ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเมืองริมฝั่งทะเลที่จะมีนาเกลืออยู่ด้วย โดยจุดที่ทำนาเกลือเยอะ ๆ จะอยู่ริมทะเลในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ และตำบลโคกขาม หรือปักหมุดไปที่ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนคนทำนาเกลือก็ได้ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา สามารถเที่ยวชมได้ราว ๆ เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ของทุกปี
ที่ตั้ง : ตำบลดอนไก่ดี ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ของทุกปี
เที่ยวสมุทรสาคร
11. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร
สถานที่สำคัญอีกแห่งของสมุทรสาคร ตั้งอยู่ที่ตำบลมหาชัย มีลักษณะเป็นอาคารแบบเก๋งจีน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประมงในจังหวัด โดยก่อนออกเรือเพื่อไปหาปลาทุกครั้งชาวประมงจะต้องไปทำพิธีสักการบูชา ด้านในประดิษฐานเจ้าพ่อวิเชียรโชติ ซึ่งแกะสลักด้วยไม้โพธิ์ ปิดทองคำเปลวบริสุทธิ์สีทองสวยงาม มีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีการจัดงานแห่เจ้าพ่อหลักเมืองทุกปี
ที่ตั้ง : ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร
12. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวมหาชัย
ศูนย์ที่ดูแลผืนป่าชายเลน ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเรียกกันว่า ป่าชายเลนอ่าวมหาชัย มีสองฝั่ง คือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก คั่นกลางด้วยแม่น้ำท่าจีน ด้านในมีสะพานไม้ที่ลัดเลาะไปตามป่าชายเลนยาว 1.5 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินชมป่าชายเลน และธรรมชาติรอบ ๆ ได้ โดยจะมีทางเดินเชื่อมออกไปยังท้องทะเล ณ บริเวณนั้นสามารถชมนกทะเลนับพันตัวได้อย่างสวยงาม พร้อมกับภาพของพระอาทิตย์ตกดิน และอากาศเย็นสบาย
ที่ตั้ง : หมู่ 6 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.
เที่ยวสมุทรสาคร
13. บ้านท่าฉลอม
ชุมชนเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยแม่น้ำท่าจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจของนักท่องเที่ยวสายฮิปสเตอร์ เพราะที่นี่มีสถานีรถไฟเก่าแก่ อาคารบ้านเรือนยังคงเป็นไม้ จึงเป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ เก๋ ๆ มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านให้ความรู้เกี่ยวกับชุมชน วัดแหลมสุวรรณาราม และมีร้านอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกกินกันจนจุใจ พร้อมทั้งยังสามารถต่อรถไฟไปเที่ยวตลาดร่มหุบได้ด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน
14. วัดท่าไม้
วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยบุคคลในวงการบันเทิงหลายท่านให้ความศรัทธา มีพระครูปลัดอุเทน สิริสาโร เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ภายในวัดน่าเที่ยวชมด้วยมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม พร้อมด้วยพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญจากทั่วเมืองไทย สถานที่สำคัญภายในวัด เช่น พระอุโบสถมหาปรินิพพาน, พระอุโบสถหลังเก่า, ศาลาการเปรียญ, สมเด็จพระพุฒาจารย์, หลวงปู่ทวด, พระไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง ติสสโร), ศาลาเทวาพิทักษ์, หลวงพ่อยี, ศาลาพระธรรมจักรแก้ว, ศาลาเจ้าแม่กวนอิม, ศาลาพระแม่สิริมหามายา, ศาลากุฏิทรงพรตภิรมย์ภักดี, ศาลาปู่ไวยทัศน์, พระมหาเจดีย์เศรษฐี 9 โกฏิ และอนุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราช เป็นต้น
ที่ตั้ง : 51 หมู่ 11 ถนนเศรษฐกิจ 1 ซอย 8 ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร
15. วัดโคกขาม
วัดประจำตำบลโคกขาม เป็นวัดเก่าแก่ สัญนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ด้วยปรากฏพระอุโบสถและเจดีย์ศิลปะแบบอยุธยา และด้านในของพระอุโบสถหลังเก่านี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงส์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา เล่าลือกันว่าหากใครขออะไรก็จะสมความปรารถนา
ที่ตั้ง : ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
เฟซบุ๊ก : วัดโคกขาม จ.สมุทรสาคร
ตั๊กออแกไนท์เมืองสมุทรสาคร รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
นางรำเมืองสมุทรสาครเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
เมืองสมุทรสาครรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
รําบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
ฟ้อนบูชาพญานาคเมืองสมุทรสาคร
รําบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
161
« เมื่อ: กันยายน 03, 2021, 10:35:40 PM »
11 ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต มาถึงถิ่น ต้องจัดให้ครบ
ที่เที่ยวสัตหีบ ชลบุรี หลากหลายบรรยากาศ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างทะเล และที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ สัตหีบมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ลองเข้ามาดูกัน
สัตหีบ อำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดชลบุรี ที่รวยเสน่ห์ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล มีทั้งชายหาด เกาะแก่งต่าง ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะมาเที่ยวพักผ่อนชิล ๆ เช่นเดียวกับกระทู้ "10 ที่เที่ยวสัตหีบน่าไปเยือน อำเภอเล็ก ๆ แต่น่ารัก" ที่เราได้แนะนำที่เที่ยวสัตหีบไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะพาไปรู้จักที่เที่ยวสัตหีบที่อื่น ๆ กันบ้าง ทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สวนน้ำ และสวนสนุก เหล่านี้ล้วนแล้วแต่คอยสร้างความสุขและความสนุกตลอดช่วงเวลาที่คุณพักผ่อนอยู่ที่สัตหีบ
1. หาดนางรำและหาดนางรอง
ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต
มีลักษณะเป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องกัน หาดสวย น้ำใส โดย "หาดนางรำ" เป็นหาดที่คึกคักด้วยบรรยากาศของนักท่องเที่ยว ด้วยเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ พร้อมด้วยกิจกรรมเล่นน้ำอีกเพียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ระหว่างหาดนางรำและหาดนางรองมีรูปปั้นพระอภัยมณีและผีเสื้อสมุทร สามารถเดินทะลุระหว่าง 2 หาดได้
ขณะที่ "หาดนางรอง" ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นชายหาดที่อยู่ติดกัน แต่บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งด้านความร่มรื่น ความเป็นธรรมชาติ และความเป็นส่วนตัว อยู่ที่ว่านักท่องเที่ยวชอบสไตล์แบบไหนก็เลือกไปชิลที่หาดนั้นได้เลย
2. หาดบางเสร่
ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต
ชายหาดที่กำลังเป็นที่นิยมของสัตหีบ ที่นี่คุณจะได้พบกับความสงบ ด้วยเพราะหาดบางเสร่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีที่พักและรีสอร์ทไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านบางเสร่ แล้วแวะทานอาหารทะเลสด ๆ ซึ่งทุกวันจะมีเรือประมงมาเทียบท่า นำกุ้ง หอย ปู ปลามาให้พ่อค้าแม่ค้าได้ซื้อหาทุกวัน จึงรับประกันความสดใหม่ได้เลย
3. อ่าวดงตาล
ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหาดที่มีกิจกรรมมากมาย และมีธรรมชาติที่งดงาม ที่เห็นได้เด่นชัดคือ "ทิวต้นตาล" ที่เรียงตัวหนาแน่นกลายเป็นสัญลักษณ์ของหาดนี้ บรรยากาศเงียบสงบ ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว พลาดไม่ได้กับกิจกรรมการเล่นเรือใบ ทุกวันจะมีการเรียนการสอนเรือใบอีกด้วย หาดทรายและน้ำทะเลที่นี่ก็สวยงาม สามารถพาเด็ก ๆ มาลงเล่นน้ำได้อย่างไร้กังวล จึงเป็นอีกหนึ่งหาดของอำเภอสัตหีบที่ได้รับความนิยมมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด
4. สวนนงนุช
ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต
หนึ่งในสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของสัตหีบ ภายในประกอบด้วยบ้านทรงไทย สวนดอกไม้ ไม้ประดับนานาชนิด มาเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับสีสันของธรรมชาติ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยว ทั้งการบริการเรือชนิดต่าง ๆ ให้เช่าพาย เยี่ยมชมความน่ารักของสัตว์เลี้ยง ชมศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม การฟ้อนรำพื้นบ้าน การแสดงช้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้รู้สึกประทับใจเมื่อมาเที่ยวชมความงดงามทั้งหมดของสวนแห่งนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ nongnoochtropicalgarden.com หรือโทรศัพท์ 038 238 061-63, 087 488 0028, 061 647 7088
5. Minosa Pattaya
มิโมซ่า
แหล่งช้อปปิ้ง เดินเล่น ที่จำลองแบบเมือง Colmar (โกลมาร์) เมืองชนบทใกล้ชายแดนประเทศฝรั่งเศส-เยอรมนี และเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมสีสันสดใส และโอบล้อมด้วยบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก พลาดไม่ได้กับการชม Mimosa Show การแสดงคาบาเรต์โชว์บนลานน้ำพุ รวมถึงเดินเล่นและกินอาหารอร่อย ๆ เพราะที่นี่อัดแน่นทั้งร้านอาหารไทย อาหารนานาชาติ และร้านขนมหวานอร่อย ๆ ที่พร้อมให้บริการอย่างครบครัน รับรองว่ามาที่นี่ได้รับแต่ความสุขและสนุกอย่างแน่นอน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ mimosa-pattaya.com หรือโทรศัพท์ 038 237 318
6. สวนน้ำ Cartoon Network Amazone
สวนน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 35 ไร่ ใกล้หาดบางเสร่ ภายในสวนน้ำจำลองบรรยากาศป่าฝนอเมซอน ที่พร้อมสร้างความสนุกสนานร่วมกับบรรดากองทัพการ์ตูนฮีโร่จากซีรีส์การ์ตูนดังมากมาย เช่น Ben 10, The Powerpuff Girls, Johnny Bravo และ The Amazing World of Gumball เป็นต้น และสนุกไปกับเครื่องเล่นนานาชนิด ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีการจำลองให้เหมือนคลื่นทะเล สไลเดอร์สปีดเรซซิ่ง ล่องแพ เครื่องเล่นป้อมปราการน้ำในระบบอินเตอร์แอ็คทีฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ cartoonnetworkamazone.com หรือโทรศัพท์ 033 004 999
7. ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค
ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งของอำเภอสัตหีบ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในไร่ เช่น การขี่รถ ATV เพื่อสัมผัสบรรยากาศไร่องุ่นอย่างใกล้ชิด และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถม้า ขี่จักรยานเสือภูเขา นั่งช้างชมบรรยากาศรอบ ๆ ไร่ รวมถึงการดื่มด่ำบรรยากาศที่สวยงามของพระอาทิตย์ตกดิน นอกเหนือจากการได้ชื่นชมวิวสวย ๆ แล้ว ทางไร่ยังมีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว บรรยากาศดีเยี่ยม มองวิวสวย ๆ ได้สุดสายตา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Silverlake - Pattaya, Thailand หรือโทรศัพท์ 087 079 9922
8. Swiss Sheep Farm Pattaya
หนึ่งในสถานที่พักผ่อนชิล ๆ ที่สัตหีบ นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับน้องแกะน่ารัก ๆ เหมาะเป็นที่เที่ยวพักผ่อนสำหรับทุกคนในครอบครัว สนุกไปกับการขี่ม้า ชมวิว เลี้ยงแกะท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม นอกจากนี้ใครที่รักการช้อปปิ้ง Swiss Sheep Farm Pattaya ยังมีร้านค้าหลายประเภทให้คุณเข้าเลือกชมเลือกซื้อหา และสำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับบรรยากาศให้มากขึ้น ที่นี่ก็ยังมีบริการห้องพักหลากหลายสไตล์ แถมแต่ละห้องตกแต่งได้อย่างสวยงามและน่ารักลงตัวทุกกระเบียดนิ้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Swiss Sheep Farm Pattaya
9. สวนน้ำรามายณะ
สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หรือเทียบเท่ากับสนามเทนนิส 700 สนาม ภายในสวนน้ำออกแบบและก่อสร้างด้วยมาตรฐานระดับนานาชาติ ภายในสวนน้ำมีเครื่องเล่นรุ่นล่าสุดที่จะมาสร้างความตื่นเต้นให้ทุกคนในครอบครัว ซึ่งเครื่องเล่นจะใช้เรื่องราวของรามเกียรติ์เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ ภายใต้บรรยากาศที่สวยงามร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องห่วงในเรื่องของน้ำ เพราะเน้นใส สะอาด คุณภาพระดับเดียวกับน้ำดื่ม และยังเปิดบริการที่พักผ่อนส่วนตัวบนเนินเขา พร้อมเสิร์ฟอาหารที่สุดแสนอร่อยจากร้านอาหาร จนทำให้รู้สึกเต็มอิ่มกับวันหยุดที่แสนพิเศษอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Ramayana Water Park Thailand หรือโทรศัพท์ 033 005 929
10. วัดช่องแสมสาร
วัดเก่าแก่ของตำบลแสมสาร เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาเป็นเวลาช้านาน เชื่อกันว่าที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ใครขอพรสิ่งใดก็ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จไปเสียทุกประการ พลาดไม่ได้กับการลอดโบสถ์พระราหู มีประชาชนมากมายที่มีจิตศรัทธาได้ยินในกิตติศัพท์ เข้ามาลอดโบสถ์พระราหูจากทั่วทุกสารทิศ หลังจากลอดโบสถ์พระราหูเสร็จแล้วอย่าลืมกระซิบที่รูปปั้นหนู ซึ่งมีความเชื่อว่าหนูจะนำข้อความดังกล่าวไปทูลพระพิฆเนศเพื่อดลบันดาลให้สิ่งที่ขอเป็นจริง และไม่ลืมที่จะไหว้พระพุทธรูปท้าวมหาพรหมปางสวัสดิ์ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวอำเภอสัตหีบและใกล้เคียง
11. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
อยู่บริเวณเขาหมาจอ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ เป็นจุดที่น่าแวะเที่ยวชมเป็นอันดับแรก ก่อนการเดินทางท่องสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่กองทัพเรือสัตหีบ การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึงควรมีเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เริ่มด้วยการสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งอยู่เชิงเขา จากนั้นเดินขึ้นไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่เรียงรายขึ้นไปบนเขา อาคารพิพิธภัณฑ์แต่ละหลังมีชื่อเรียงร้อยกันอย่างไพเราะ สอดคล้องกับการจัดแสดงนิทรรศการ เช่น เทิดพระเกียรติมหาราช, ปวงปราชญ์ร่วมแรงใจ, ใฝ่เรียนรู้ผู้ฉลาด, พิฆาตความไม่ดีที่ประจักษ์ และพิทักษ์ศักยภาพทะเลไทย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ tis-museum.org หรือโทรศัพท์ 038 432 475
เป็นยังไงบ้างคะ ? กับที่เที่ยวสัตหีบที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ กันในวันนี้ ยังไงลองหาวันหยุดสุดสัปดาห์ว่าง ๆ สักวันสองวัน ลองตระเวนเที่ยวที่เที่ยวเหล่านี้ดูนะคะ แล้วเพื่อน ๆ จะรู้เลยว่าที่สัตหีบยังมีที่เที่ยวดี ๆ ที่น่าสนใจซุกซ่อนอยู่เพียบไปหมด ^ ^
ตั๊กออแกไนท์สัตหีบ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
นางรำ.สัตหีบเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
สัตหีบรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
รําบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
ฟ้อนบูชาพญานาคสัตหีบ
รําบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
163
« เมื่อ: กันยายน 03, 2021, 09:56:12 PM »
15 ที่เที่ยวชลบุรี ธรรมชาติดี เกาะสวยที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
ชลบุรี...เมืองแห่งการท่องเที่ยวระดับโลกที่หลากหลายเกินใจคิด เพราะมีทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัด วัง หรือจะไปดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ ผืนไพร และสัตว์ป่าก็มีพร้อม แถมใครชื่นชอบกิจกรรมสนุก ๆ ที่นี่ก็มีพร้อม หรือจะปล่อยใจไปกับโชว์สุดอลังการระดับโลก เดินช้อปปิ้งสุดสนุก มีเพียงชลบุรีเท่านั้นที่จะพาคุณไปพบประสบการณ์ทั้งหมดนั้นได้ โดยวันนี้เราได้รวบรวมเอาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเมืองชลบุรีมาแนะนำกัน
1. วัดใหญ่อินทาราม
วัดใหญ่อินทาราม เดิมชื่อ "วัดหลวง" เป็นวัดสำคัญเก่าแก่คู่เมืองชลบุรี สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชั้นครูที่งดงามมาก สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงตรัสชมว่า "ฝีมืองามมาก อย่าให้ซ่อมแซมเป็นอันขาด" โดยเฉพะภาพจิตรกรรมฝาผนังเหนือขอบหน้าต่างเป็นภาพเทพชุมนุม ส่วนที่ผนังสองด้านเขียนเรื่องทศชาติชาดก พระเวสสันดรชาดก และยังมีพลับพลาตรีมุข สร้างด้วยไม้ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อสำริดทรงเครื่องกษัตริย์ เรียกกันว่า "หลวงพ่อเฉย" ถ้าเป็นไปได้ควรไปเที่ยวชมวัดนี้ในวันพระ เพราะถ้าเป็นวันธรรมดาต้องติดต่อขอกุญแจโบสถ์จากเจ้าอาวาส นอกจากนี้ยังมีพระนักวิชาการพานำชมและอธิบายให้ความรู้ด้วย
ที่ตั้ง : อยู่กลางเมืองชลบุรี จากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าตัวเมืองชลฯ ที่สี่แยกเฉลิมไทย เข้าสู่ถนนโพธิ์ทอง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจตน์จำนงค์ วัดอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนถึงสี่แยกตัดกับถนนอัคนิวาต (สี่แยกท่าเกวียน) หน้าวัดมีลานจอดรถกว้างขวาง
การเดินทาง : ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถขึ้นรถสองแถวสายรอบเมืองชลบุรีได้
ติดต่อ : โทร. 038 285 397, 081 570 1469 หรือ เฟซบุ๊ก วัดใหญ่อินทาราม พระอารามหลวง ชลบุรี
2. หาดบางแสน
หาดบางแสน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยมาช้านาน มีถนนตัดเลียบหาดเคียงคู่ไปกับทิวมะพร้าว ถัดเข้าไปมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และที่พักเรียงรายอยู่จำนวนมาก นักท่องเที่ยวนิยมไปนั่งพักผ่อนชมทิวทัศน์ทะเลกันบนเก้าอี้ผ้าใบบนชายหาด พร้อมมีบริการห่วงยางให้เช่าว่ายน้ำ มีเรือบานาน่าโบ๊ท จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด ทุกวันหยุดหาดบางแสนจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นชายหาดขนาดใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด จึงสามารถเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับได้
บางแสนเริ่มเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 จนถูกขนานนามว่า "บางแสนดินแดนสุขี" มีผู้เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก จนครั้งหนึ่งบางแสนเคยทรุดโทรม ผิดกับปัจจุบันที่ได้รับการดูแลจัดระเบียบอย่างดี จึงกลายเป็นชายหาดที่สะอาดน่าเที่ยวในทุกฤดูกาล โดยหาดบางแสนนี้มีความยาวต่อเนื่องกันถึง 4.5 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือหาดบางแสน เป็นช่วงกลางของหาดและเป็นจุดที่นิยมลงเล่นน้ำกัน ถัดมาคือแหลมแท่น เป็นช่วงเหนือสุดของหาด มีโขดหินสวยงาม ลงเล่นน้ำไม่ได้ และส่วนสุดท้ายคือหาดวอนนภา เป็นชายหาดตอนใต้สุด บรรยากาศเงียบสงบ มีหมู่บ้านประมงพื้นถิ่นเล็ก ๆ กระจายอยู่ห่าง ๆ กัน
ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรี 14 กิโลเมตร ที่ตำบลแสนสุข แยกขวาจากถนนสุขุมวิท ตรงหลักกิโลเมตร 104 เข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
การเดินทาง : ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถขึ้นรถสองแถวได้ที่ตลาดหนองมนเข้าสู่หาดบางแสน มีรถวิ่งตลอดวัน
3. เขาสามมุข
เขาสามมุข เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงควบคู่กับหาดบางแสน เป็นทั้งที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สามมุขอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นจุดชมวิวบนยอดเขาสูงที่มีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก และชอบออกมาอวดโฉมเพื่อขออาหารกันอยู่ตลอดวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไปเล่นน้ำที่หาดบางแสน ก่อนกลับบ้านมักจะแวะเที่ยวที่นี่เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่มีร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ อยู่หลายร้าน
ศาลเจ้าแม่สามมุข เป็นศาลเจ้าจีนที่ตั้งอยู่ภายใต้หลืบผาหิน บริเวณเชิงเขาสามมุขด้านทิศเหนือหันหน้าออกสู่ทะเล โดยย้ายมาจากบริเวณด้านตะวันตกของเขาสามมุข ศาลแห่งนี้มักมีผู้คนแวะมากราบไหว้ขอพรและบนบานกันอยู่เสมอ โดยผู้ที่ได้รับผลสำเร็จตามคำขอจะแก้บนด้วยการจุดประทัดและซื้อสร้อยมุขมา ถวายแด่รูปปั้นเจ้าแม่ นับเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ฮ่องกง และไต้หวัน นิยมปฏิบัติกันมาก ชั้นบนของศาลเจ้าแม่ เป็นวิหารพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ให้สักการะ บริเวณหน้าวิหารมีระเบียงชมวิวทะเลด้วย
ที่ตั้ง : อยู่บริเวณแหลมสามมุข จากอ่างศิลาไปตามทางหลวงหมายเลข 3134 อีกราว 3 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปเขาสามมุข เลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 1 กิโลเมตร จนถึงศาลเจ้าแม่สามมุข หรือถ้ามาจากหาดบางแสน ใช้ถนนเส้นเลียบหาดมุ่งตรงสู่แหลมแท่น จะมีป้ายบอกทางไปตลอด ห่างจากหาดบางแสนราว ๆ 2 กิโลเมตร
การเดินทาง : เขาสามมุขไม่มีรถสองแถวผ่าน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก หรือไม่ต้องเช่ารถสองแถวจากตลาดหนองมนให้ไปส่ง แล้วรอรับกลับก็ได้
4. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นป่าแห่งเดียวของชลบุรี ดำเนินงานโดยองค์การสวนสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้ชมสัตว์มากถึง 300 ชนิด ทั้งสัตว์ของไทยและจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นช้าง กระทิง วัวแดง ฮิปโปโปเตมัส ชะนี ค่าง ลิงลม (นางอาย) ม้าลาย ยีราฟ นกกระจอกเทศ ไฮยีน่า เสือ สิงโต กวางดาว ละมั่ง แพะภูเขา เลียงผา หมี นกยูง นกกระเรียน นกเงือก ฯลฯ ซึ่งสัตว์ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กว้างขวาง มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นธรรมชาติเหมาะแก่อุปนิสัยของสัตว์นั้น ๆ และสามารถให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังมีบางส่วนอยู่ในกรงเพื่อกันการหลบหนี และเพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยวเอง
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 โดยฟื้นฟูสภาพป่าเขาเขียวที่เสื่อมโทรมขึ้นมาใหม่ จากนั้นได้นำสัตว์บางส่วนจากสวนสัตว์ดุสิตมาปล่อยเลี้ยงไว้ตามสภาพธรรมชาติ แล้วเริ่มเปิดให้คนเข้าชมเมื่อปี พ.ศ. 2521 ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ นับเป็นสวนสัตว์เปิดที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลก แบ่งออกเป็นส่วนวิจัยและศึกษาพันธุ์สัตว์ป่าหายาก สวนสัตว์เปิด และส่วนบริการ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ "สวนนก" ซึ่งสร้างขึ้นด้วยโครงเหล็กขนาดใหญ่คลุมด้วยตาข่าย กินพื้นที่ถึง 5 ไร่ ภายในมีเส้นทางเดินขึ้นไปเนินเขา แล้ววนกลับลงมา ที่นี่มีนกหลายชนิดส่งเสียงร้องและบินไปมาอยู่ทั่วสวน อาทิ นกฟลามิงโก้ นกเขียวคราม นกกางเขนดง นกแต้วแร้ว นกขมิ้น ไก่ฟ้า เป็ดก่า และอื่น ๆ นอกจากนี้ ทุกวันยังมีการจัดกิจกรรมชมสัตว์ในเวลากลางคืน (Night Safari) แก่บุคคลทั่วไปอีกด้วย
ที่ตั้ง : บริเวณเชิงเขาเขียว ห่างจากตัวเมืองศรีราชาเข้าไป 25 กิโลเมตร
การเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว จากถนนสุขุมวิทบริเวณตลาดบางพระ เดินทางไปตามป้ายบอกทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่มีอยู่อย่างชัดเจนเป็นระยะ ๆ ถนนจะลัดเลาะไปตามขอบอ่างเก็บน้ำบางพระ ผ่านสนามกอล์ฟบางพระ ขึ้นสะพานข้ามทางหลวงหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-พัทยา) จากนั้นตรงต่อไปอีก 7 กิโลเมตร จนถึงปากทางเข้าสวนสัตว์ สามารถขับรถวนภายในสวนสัตว์ และจอดแวะชมตามจุดต่าง ๆ ได้โดยสะดวก
- รถสองแถว คิวอยู่ในถนนไปอ่างเก็บน้ำบางพระ ตรงข้ามศาลเจ้า จะรอให้คนเต็มหรือจะเหมาไปก็ได้
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ติดต่อ : โทร. 038 318 444 หรือ kkopenzoo, เฟซบุ๊ก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo
5. พัทยา
พัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำ จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวเริ่มจากทหารอเมริกันได้แวะขึ้นฝั่ง แล้วเช่าบ้านพักตากอากาศที่พัทยาเป็นประจำทุกสัปดาห์ ต่อมาพัทยาจึงได้พัฒนาขึ้นจากหมู่บ้านชายทะเลอันเงียบสงบ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศระดับนานาชาติดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
หาดพัทยา เป็นหาดทรายที่มีความยาวต่อเนื่องประมาณ 3 กิโลเมตรเศษ โดยแบ่งเป็นพัทยาเหนือ พัทยากลาง และพัทยาใต้ โดยที่หาดพัทยาใต้นั้นถือเป็นศูนย์รวมความเจริญและแสงสี ยามค่ำคืนมีการปิดถนนเป็น Walking Street ให้นักท่องเที่ยวเดินช้อปปิ้งได้โดยสะดวก ส่วนบริเวณชายหาดก็ร่มรื่น แถว ๆ หาดพัทยาเหนือเป็นบริเวณที่สงบกว่าส่วนอื่น นักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวนิยมไปเล่นน้ำพักผ่อน หรือเล่นกีฬาทางน้ำต่าง ๆ ส่วนชายหาดพัทยากลางไปถึงพัทยาใต้จะคึกคักคับคั่งกว่า เพราะเป็นย่านธุรกิจ ร้านค้า โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึก และแหล่งบันเทิงครบวงจร
ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากอำเภอเมืองชลบุรีประมาณ 50 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ 140 กิโลเมตร ช่วงระหว่างอำเภอบางละมุงและอำเภอสัตหีบ
การเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขุมวิทเข้าสู่เมืองพัทยา มี 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ สุขุมวิท-พัทยาเหนือ (หลักกิโลเมตร 144) สุขุมวิท-พัทยากลาง (หลักกิโลเมตร 145-156) และสุขุมวิท-พัทยาใต้ (หลักกิโลเมตร 147) ทั้งสามสายจะไปพบกันที่ถนนเลียบหาดพัทยา โดยถนนที่ใช้ท่องเที่ยวย่านเมืองพัทยา คือ ถนนนาเกลือ ผ่านหาดวงอมาตย์ ปราสาทสัจธรรม ถนนเลียบชายหาด เป็นวันเวย์ผ่านพัทยาเหนือ พัทยากลาง และพัทยาใต้ ถนนพัทยาสาย 2 จะผ่านแหล่งบันเทิง ที่กิน ที่พักมากมาย ถนนเขาพระบาท เป็นทางไปเที่ยวชมวิวบนเขาพระบาทและต่อไปยังหาดจอมเทียนได้ หรือจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (Motorway) สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา เริ่มต้นจากด่านพระราม 9 ไปออกที่อำเภอบางละมุง แล้วตรงสู่พัทยา ระยะทาง 124 กิโลเมตร
- รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯ ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย) และสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ มีรถออกตลอดวัน
- รถไฟ มีสายกรุงเทพฯ-พัทยา-พลูตาหลวง ออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง วันละ 1 เที่ยว เวลา 06.55 น. ถึงสถานีพัทยาเวลา 10.45 น. (รวมเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 40 นาที) สถานีรถไฟพัทยาอยู่นอกเมืองพัทยาเยื้องกับทางเข้าถนนพัทยานอก
ติดต่อ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา โทร. 038 427 667, 038 428 750, 038 42 3990
6. สวนเสือศรีราชา
สวนเสือศรีราชา (Sriracha Tiger Zoo) เป็นสถานที่จัดแสดงเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลกว่า 200 ตัว รวมทั้งยังมีจระเข้อีกกว่า 100,000 ตัว และสัตว์อื่น ๆ อีกนานาชนิด นักท่องเที่ยวจะได้ชมการอยู่ร่วมกันของเสือกับหมูและสุนัข มีการแสดงจับจระเข้ การแสดงหมูวิ่งแข่ง ราชินีแมงป่อง ฯลฯ สวนเสือศรีราชาจัดตั้งขึ้นบนพื้นที่กว่า 250 ไร่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2540 โดยดำเนินงานอย่างมีมาตรฐานเพื่อพัฒนาพันธุ์สัตว์ อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และนันทนาการ พร้อมให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
โดยความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ โชว์ละครสัตว์ "Amazing Circus" เป็นการแสดงความสามารถของสัตว์ ประกอบด้วยการแสดงของเสือโคร่ง หมี ลิงชิมแพนซี โจ๊กเกอร์โชว์ ชมความสามารถของเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลที่สามารถลอดบ่วงไฟ เดินบนสะพานเชือก ทำตามคำสั่งของครูฝึก และอีกหลายความสามารถ โดยโรงละครสัตว์นี้สามารถบรรจุผู้ชมได้มากถึง 1,500 คน
ที่ตั้ง : เลขที่ 341 หมู่ 3 กิโลเมตร 20 ทางหลวงสาย 7 (ชลบุรี-พัทยาสายใหม่) ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา
การเดินทาง : อยู่ห่างจากตลาดศรีราชา (ทางไปโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา) ไปตามทางหลวงหมายเลข 3241 ประมาณ 10 กิโลเมตร
เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท (ส่วนสูง 140 เซนติเมตรขึ้นไป) เด็ก 100 บาท (ส่วนสูง 100-140 เซนติเมตร) และส่วนสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร เข้าชมฟรี และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 450 บาท (ส่วนสูง 140 เซนติเมตรขึ้นไป) เด็ก 250 บาท (ส่วนสูง 100-140 เซนติเมตร) และส่วนสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร เข้าชมฟรี
ติดต่อ : โทร. 038 296 556-8, 038 339 111, 038 339 517, 038 338 884 หรือเว็บไซต์ tigerzoo, เฟซบุ๊ก Sriracha Tiger Zoo
7. เกาะล้าน
เกาะล้าน เป็นเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมานานหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้กับพัทยา จึงเดินทางถึงกันได้โดยสะดวก ตัวเกาะล้านมีความยาว 5 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ท โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้านและเกาะเล็ก ๆ โดยรอบ อย่างเกาะครก-เกาะสาก เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ฝึกเรียนดำน้ำ และแหล่งตกปลาที่สำคัญ
จุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะล้าน ได้แก่ ท่าหน้าบ้าน เป็นท่าเรือของชุมชนเกาะล้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือเมล์จะไปถึง เมื่อมองย้อนกลับไปยังฝั่งจะเห็นเมืองพัทยาและหาดจอมเทียน ที่มีตึกสูงเรียงรายตลอดแนวชายฝั่ง นับเป็นจุดชมเมืองพัทยาที่สวยงามแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง, หาดแสม เป็นหาดทรายขาวเนียนละเอียดทอดยาวประมาณ 800 เมตร เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่ดี ในอดีตเคยมีการพบแร่ทองคำและเป็นที่มาของชื่อแหลมทอง ทางหัวหาดด้านเหนือมีศาลเจ้าแม่แหลมทองที่ชาวเกาะล้านเคารพสักการะ
ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งออกไปราว 7.5 กิโลเมตร
การเดินทาง : นั่งเรือโดยสารประมาณ 45 นาที แต่ถ้าเป็นเรือเร็วใช้เวลาเพียง 15 นาที มีเรือโดยสารออกจากท่าพัทยาใต้ไปเกาะล้านทุกวัน และที่เกาะล้านเรือจอดบริเวณท่าหน้าบ้าน หากเดินทางต่อไปชายหาดอื่น สามารถเช่าเรือหางยาวหรือรถรับจ้าง นอกจากนี้ ยังมีบริการเรือเร็วให้เช่าอยู่ทั่วไปตามชายหาดพัทยา อัตราค่าเช่าสามารถแวะเที่ยวได้หลายหาด แล้วแต่จะตกลงกัน
8. เกาะสีชัง
เกาะสีชัง เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี เป็นที่จอดเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะน่าท่องเที่ยวในบรรยากาศท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ และเป็นพื้นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) รวมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็บไปสู่ จุดท่องเที่ยวต่าง ๆ บนเกาะ
จุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะสีชัง ได้แก่ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" ตั้งอยู่บนเขาคยาศิระ ห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ "หาดเขาถ้ำพัง" อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง น้ำใสสะอาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ "ช่องเขาขาด" มีสะพานสำหรับเดินชมวิวทิวทัศน์ จุดดูพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม "พระจุฑาธุชราชฐาน" สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับฤดูร้อน
ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอำเภอศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร
การเดินทาง : เดินทางโดยเรือเมล์จากศรีราชา ใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือจรินทร์ ถนนเจิมจอมพลในอำเภอศรีราชา มีเรือโดยสารไปเกาะสีชังทุกวัน ระหว่างเวลา 07.00-20.00 น. ออกทุก ๆ ชั่วโมง อัตราค่าโดยสาร คนละ 50 บาท และจากเกาะสีชังกลับเข้าฝั่งศรีราชา มีเรือวิ่งตั้งแต่ 06.00-18.00 น. มีเรือออกทุก ๆ ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เรือสีชังพาเลซ โทร. 0 3821 6276-82 และเรือแสงประทีปบริการ โทร. 038 313 687
9. Underwater World พัทยา
อันเดอร์วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา (Underwater World Pattaya) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งทำให้ผู้มาเยือนเหมือนกับได้เดินทางดำดิ่งลงสู่ โลกใต้ทะเล โดยเริ่มจากชายฝั่งอันเป็นหาดทรายและแก่งหิน ลงลึกไปยังดงปะการังสีสันสดใส จนถึงท้องทะเลลึก นักท่องเที่ยวจะได้เข้าชมในอุโมงค์ซึ่งสร้างเป็นทางลอดไปในอควาเรียมขนาด ใหญ่ ที่จำลองสภาพแวดล้อมธรรมชาติใต้ทะเลไว้อย่างสวยงามและใกล้ชิด
อันเดอร์วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา เปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ในเนื้อที่ 12 ไร่ และมีสัตว์น้ำมากกว่า 4,500 ตัว จาก 200 กว่าชนิด โดยจัดแสดงสัตว์น้ำไว้ในอาคารได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ มีการสร้างเป็นอุโมงค์กระจกใสที่ยาวมากกว่า 100 เมตร นับเป็นอุโมงค์กระจกใสที่ยาวที่สุดของเอเชีย มีสัตว์ทะเลหลายชนิดจัดแสดง ตั้งแต่สัตว์ขนาดเล็กอย่างปลาการ์ตูน ม้าน้ำ ไปจนถึงสัตว์อย่างฉลาม กระเบนขนาดใหญ่ และนากเล็กเล็บสั้น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบ่อสัมผัส (Touch Pool) ให้นักท่องเที่ยวจุ่มมือลงไปสัมผัสสัตว์ทะเลที่มีนิสัยเป็นมิตรบางชนิดได้ อย่างปลอดภัย อาทิ ปลาดาว ฉลามกบ ฯลฯ
ที่ตั้ง : เลขที่ 22/22 หมู่ 11 หลักกิโลเมตร 151 ริมถนนสุขุมวิท ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง (ช่วงจอมเทียน)
การเดินทาง : ตั้งอยู่ริมถนน สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. (เปิดรับนักท่องเที่ยวชุดสุดท้าย 17.30 น.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (ชาวไทย) ราคา 250 บาท, ผู้ใหญ่ (ชาวต่างชาติ) ราคา 450 บาท, เด็ก (ชาวไทย) ราคา 150 บาท, เด็ก(ชาวต่างชาติ) ราคา 250 บาท แต่ถ้าเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร เข้าชมฟรี
ติดต่อ : โทร. 038 756 877-8 หรือเว็บไซต์ underwaterworldpattaya
10. ปราสาทสัจธรรม
ปราสาทสัจธรรม (Sanctuary of Truth) ตั้งอยู่ ณ บริเวณอ่าววงพระจันทร์ แหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ ในเนื้อที่ 80 ไร่ งดงามด้วย "สถาปัตยกรรมไม้ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก" ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า "วังโบราณ" บ้างก็เรียกตามวัสดุของตัวอาคารว่า "ปราสาทไม้" แต่เจ้าของความคิดและผู้ดำเนินการก่อสร้าง คือ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ) เรียกอาคารแห่งนี้ว่า "ปราสาทสัจธรรม" โดยเริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2524 จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ตัวปราสาทสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต มีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ ตัวปราสาทเป็นทรงจัตุรมุข สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรพิสดาร ทั้งภายนอกและภายใน กล่าวกันว่างามดั่งเทพนฤมิต สะท้อนแนวคิดนามธรรมออกมาตีแผ่เป็นรูปธรรมให้สัมผัสได้ สื่อถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญาตะวันออก
ที่ตั้ง : เลขที่ 206/2 หมู่ 5 แหลมราชเวช อ่าววงพระจันทร์ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง ห่างจากพัทยาใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร
การเดินทาง : ทางเข้าอยู่บริเวณซอยนาเกลือ 12 ตรงเข้าไปจนเกือบสุดซอย มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ของปราสาทสัจธรรมอยู่ทางขวามือ
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็ก (ส่วนสูง 110-140 เซนติเมตร) 225 บาท
ติดต่อ : โทร. 038 367 229-30 เว็บไซต์ sanctuaryoftrut, เฟซบุ๊ก ปราสาทสัจธรรม พัทยา
11. ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรมไทยกลางใจเมืองพัทยา จำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย และแสดงให้เห็นถึงความผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน 4 ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ และที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งน้ำ สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การค้าขายทางน้ำ ตระการตากับร้านค้าเรือนไทยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ จุดเด่นของเรือนไม้สักของแต่ละภาคที่สังเกตง่าย ๆ คือ หน้าจั่วที่มีลักษณะแตกต่างกัน สำหรับสินค้าทั้ง 4 ภาค จะแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตแต่ละภาค
ที่ตั้ง : ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท อยู่ห่างจากพัทยาใต้ไปทางสัตหีบ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร (ฝั่งซ้ายมือ) ก่อนถึงป้ายสุดเขตเมืองพัทยา
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
ติดต่อ : โทร. 038 706 340 หรือ เฟซบุ๊ก Pattaya Floating Market ตลาดน้ำ ๔ ภาค พัทยา, เว็บไซต์ pattayafloatingmarket
12. ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค
ไร่องุ่นของดารา สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ตั้งอยู่ติดกับเขาชีจรรย์ มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 1,200 ไร่ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในยามที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าคือความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างไว้ อย่างลงตัว แสงอาทิตย์สะท้อนผิวน้ำส่องประกายระยิบระยับสีเงินแวววาว นั่นคือที่มาของชื่อ Silver Lake หรือ ทะเลสาบสีเงิน ส่วนภายในไร่มีองุ่นสด องุ่นแปรรูป ไวน์ ร้านอาหาร และบริการรถสำหรับนั่งชมทั่วไร่องุ่น คุณสุพรรษาภูมิใจให้คุณได้บันทึกภาพ และเปิดรับประสบการณ์แห่งความทรงจำที่ไม่อาจลืมได้ที่ไร่องุ่น Silver Lake แห่งนี้
ความงดงามของไร่องุ่นสุดสายตา อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สะท้อนแสงอาทิตย์เป็นสีเงินแวววาว อันเป็นที่มาของชื่อ "ซิลเวอร์เลค" ทำให้ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกองุ่นซึ่งมีทั้งองุ่น ทานสดและองุ่นสำหรับทำไวน์ โดยไร่องุ่นเป็นของดารารุ่นใหญ่ สุพรรษา เนื่องภิรมย์ นอกจากนี้ ยังมีบ้านพักท่ามกลางธรรมชาติในไร่องุ่นที่มีแห่งเดียวในชลบุรี ให้คุณได้ไปนอนสัมผัสกับธรรมชาติของภูเขา ทะเลสาบ และสวนดอกไม้ที่สวยงาม
ติดต่อ : สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 261 6565 หรือเว็บไซต์ silverlakevineyard, เฟซบุ๊ก Silverlake - Pattaya, Thailand
13. Art in Paradise พัทยา
Art in Paradise พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก๋ ๆ ที่รวบรวมเอาภาพวาด 3 มิติ เอาไว้มากกว่า 140 ภาพ บนพื้นที่ประมาณ 5,800 ตารางเมตร โดยมีศิลปินชาวเกาหลีใต้ ชิน แจ ยอล (Shin Jae Yeoul) เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ ด้วยการเนรมิตพัทยาพัลลาเดียมเก่าให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดอลังการ ชนิดที่ว่าคนรักการถ่ายภาพมาเห็นเป็นต้องแชะภาพแบบนันสต็อปเลยล่ะ นอกจากนี้ ยังแบ่งห้องแสดงภาพออกเป็น 10 ห้องด้วยกัน เพื่อจัดแสดงภาพให้เป็นหมวดหมู่ มีทั้ง ห้องลวงตา, ห้องใต้สมุทร, ห้องสัตว์ป่า, ห้องภาพจิตรกรรมของศิลปินระดับโลก, โถงอารยธรรม, ห้องศิลปะเหนือจริง, ห้องไดโนเสาร์, ห้องน้ำตกสูงชัน, ห้องวิวทิวทัศน์ และสุดท้ายห้องนิทรรศการศิลปะ ที่ตั้งใจเตรียมไว้สำหรับจัดแสดงผลงานทางศิลปะของศิลปินที่สนใจจะเข้าไปใช้ พื้นที่ด้วย
ภาพทุกภาพในพิพิธภัณฑ์ Art in Paradise ถูกวาดขึ้นบนกำแพงสีขาวในแบบที่ไม่มีตัวช่วยใด ๆ ถ้าเอามือไปสัมผัสจะพบได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในภาพไม่เว้นแม้แต่กรอบรูปคือ สิ่งที่วาดขึ้นมาทั้งหมด แม้กระทั่งบันไดสูงชันที่อาจเผลอก้าวขาขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็เป็นเพียงบันไดภาพ วาดบนพื้นราบเรียบเท่านั้น ที่สำคัญคือนอกจากภาพวาดทั่วไปแล้ว เขายังเอาใจคนไทยด้วยภาพวาดที่แสดงอารยธรรมไทยหลายภาพ โดยเฉพาะภาพสระบัวที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ เป็นภาพที่ดูอบอุ่นและเข้าใจแก่นแท้ของศาสนาพุทธได้ดีทีเดียว
การเดินทาง : ใครอยากลองไปสัมผัสความอาร์ตที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปพัทยาได้เลย หาไม่ยากแค่เลี้ยวขวาจากถนนสุขุมวิทเข้าพัทยาเหนือ ผ่านหน้าโลตัสและศาลากลางเมืองพัทยา เลี้ยวซ้ายไปทางบิ๊กซีพัทยาเหนือตรงไปอีก 300 เมตร ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ Art in Paradise แล้ว
เวลาทำการ : โดยเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00-22.30 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชม 21.30 น.)
ติดต่อ : โทร. 038 424 500 หรือเว็บไซต์ artinparadise, เฟซบุ๊ก Art in Paradise
14. Mimosa Pattaya
มิโมซ่า พัทยา แหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่สุดน่ารักภายใต้แนวคิด "The City of Love" และบรรจงสร้างสรรค์ทัศนียภาพให้เกิดเป็นเมืองแห่งความรัก โดย Mimosa Pattaya เป็นเมืองที่มีกลิ่นอายสถาปัตยกรรมเมืองโบราณของฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยสีสันสดใส น่ารักน่ามอง บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์แห่งเดียวในเมืองพัทยา แถมยังโอบล้อมด้วยบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติก และหอมหวนไปกับกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมีคลองเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านกลางเมือง มีหงส์คู่ที่ว่ายเวียนวนไปมาให้ได้ชื่นชมกันเพลิน ๆ หรือพิเศษสุด ๆ กับโชว์สุดอลังการ ที่น่าประทับใจ ณ ลานน้ำพุดนตรี ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนมาสร้างความบันเทิงทุกวัน
อีกทั้ง Mimosa Pattaya ยังเป็นศูนย์รวมสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งร้านอาหารไทย อาหารนานาชาติหลากหลายชนิด ร้านขนมหวานที่ตกแต่งร้านสไตล์น่ารักน่านั่ง ที่พร้อมให้บริการอย่างครบครัน หรือหากเดินเล่นจนเมื่อยแล้วก็ไปผ่อนคลายสบาย ๆ ด้วยการนวดแผนไทยและการนวดอโรมา ฯลฯ
ที่ตั้ง : 28/19-20 หมู่ 2 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
ติดต่อ : โทร. 038 237 318-9 หรือเว็บไซต์ mimosa-pattaya, เฟซบุ๊ก Mimosa Pattaya
15. สวนนงนุช
สวนนงนุช (Nong Nooch Tropical Botanical Garden) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด เช่น สวนกล้วยไม้ เฟิร์น สับปะรดสี สวนไม้พุ่มไม้ดัด สวนปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก สวนตะบองเพชรและไม้อวบน้ำ สวนบอนไซ สวนเฟื่องฟ้า สวนโมก สวนน้ำพุ สวนหิน สวนฝรั่ง สวนผีเสื้อ สวนรถไฟจำลอง สโตนเฮนจ์ ฯลฯ พร้อมที่พักเป็นเรือนไม้สักทรงไทย มีห้องประชุมสัมมนา สวนสัตว์ และศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วยการฟ้อนรำพื้นเมือง ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นบ้าน และการแสดงของช้าง
เดิมพื้นที่สวนนงนุชเคยเป็นสวนผลไม้มาก่อน กระทั่งปี พ.ศ. 2497 คุณพิสิทธิ์และคุณนงนุช ตันสัจจา ได้ซื้อที่ดินบริเวณนี้ไว้ แล้วจัดเป็นสวนให้ประชาชนเข้าชม โดยเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2523 ปัจจุบันนี้สวนนงนุชกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับแนวหน้าในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้าเยี่ยมชมประมาณวันละ 2,000 คน
ที่ตั้ง : เลขที่ 34/1 หมู่ 7 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
การเดินทาง : อยู่ห่างจากปากทางเข้าพัทยาใต้ 18 กิโลเมตร โดยแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิท บริเวณกิโลเมตร 163 เข้าไปประมาณ 3.5 กิโลเมตร
เวลาทำการ : 08.00-18.00 น. ทุกวัน
ติดต่อ : โทร. 038 238 061-63, 087 488 0028, 061 647 7088 หรือเว็บไซต์ nongnoochtropicalgarden, เฟซบุ๊ก สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
ตั๊กออแกไนท์หนองใหญ่ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
นางรำหนองใหญ่เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
หนองใหญ่รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
ฟ้อนบูชาพญานาคหนองใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
[img]https://cw.lnwfile.com/_/cw/_raw
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 30