สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - admin

หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 30
151
18 ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

สถานที่ท่องเที่ยวสวนผึ้ง

1. บ้านหอมเทียน

          ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของอำเภอสวนผึ้งก็ว่าได้สำหรับ "บ้านหอมเทียน" ประมาณว่าใครไปสวนผึ้งแล้วไม่ได้ไปที่นี่ถือว่าไปไม่ถึงนะจ๊ะ เพราะนอกจากจะมีเทียนหอมรูปร่างแปลกตาน่ารักน่าชัง ของฝาก และของทำมือดีไซน์เก๋ให้เลือกช้อป เลือกดูกันแล้ว ยังมีกิจกรรมทำเทียน, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, มุมศิลปะอย่างวาดภาพเหมือน และบริการนวดแผนไทย ฯลฯ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือมุมโพสท่าถ่ายภาพเก๋ ๆ แจ่ม ๆ ที่มีให้เลือกสรรตามใจเพียบ

          ราคาบัตรเข้าชม : 60 บาท
          ที่ตั้ง : 210 หมู่ 2 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น., วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น. และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 1995 8144
          เฟซบุ๊ก : บ้านหอมเทียน

2. อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง

สวนผึ้ง

          อัลปาก้าฮิลล์ ฟาร์มอัลปาก้าแห่งแรกและแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดของไทย ดินแดนอันแสนสวยงามซึ่งเต็มไปด้วยอัลปาก้าขนปุย วิ่งเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวกว่า 250 ไร่ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ป้อน กอด และหยอกล้อกับสัตว์ที่เป็นมิตรอันหลากหลาย ทั้งอัลปาก้า จิงโจ้แคระ กระต่ายยักษ์ หนูตะเภา และอื่น ๆ อีกมากมาย อ๊ะ ๆ แต่เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมน้องอัลปาก้าเป็นจำนวนมาก เกินกว่าที่กำหนดไว้ต่อวัน (เพียง 200 ท่าน/วัน) อัลปาก้าฮิลล์จึงจะรับลูกค้าผ่านระบบทางการจองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์เท่านั้น (สอบถามรายละเอียดได้ที่ 08 0821 2108/08 1145 9565)

           อัตราค่าบริการ : เริ่มต้น 290 บาท *** ต้องจองการเข้าชมผ่านระบบออนไลน์ที่ alpacahill.com เท่านั้น***
          ที่อยู่ : 357 หมู่ 8 ถนนผาปก-ตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น., วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. และกิจกรรม VIP Night Safari วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.30-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 0821 2108, 08 1145 9565
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : alpacahill.com, AlpacaHill

3. ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครในอำเภอสวนผึ้ง ที่ทุกท่านต้องมาสัมผัสด้วยตัวท่านเอง (ไม่เสียค่าเข้าชม) และทางไร่ยังได้มีบริการสถานที่กางเต็นท์ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและมีความเป็นธรรมชาติอีกด้วย สำหรับการเดินทางจากหน้าอำเภอสวนผึ้งตรงมาตามเส้นทางหลัก 14 กิโลเมตร จะเจอสามแยกที่มีป้อมตำรวจ ให้เลี้ยวขวาและตรงเข้ามาอีก 4 กิโลเมตร ไร่อยู่ซ้ายมือ

          ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ :  09 7239 7791
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์ อ.สวนผึ้ง

4. ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto

          ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนอันแสนโรแมนติก และศูนย์การค้าสุดอลังการกับรูปแบบของอาคารและร้านค้าที่ออกแบบมาอย่างลงตัว เพื่อความสนุกสนานในการจับจ่าย และเลือกซื้อสินค้า โดยร้านค้าตลาดน้ำ Veneto ถูกออกแบบอย่างมีสไตล์และมีเอกลักษณ์ ภายใต้กลิ่นอายอันแสนโรแมนติกของ Santorini ด้วยความโดดเด่นของตัวอาคารสีขาวสะอาดตาตัดกับสีน้ำเงินสด ท่ามกลางเทือกเขาที่เขียวขจีจนมีเอกลักษณ์และรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังได้ตื่นตาและเพลิดเพลินกับการเก็บภาพความประทับใจของลานน้ำพุ หอระฆัง และสวนหย่อม โดยเริ่มเปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556

          อัตราค่าบริการ : สอบถามโดยตรงจากทางตลาดน้ำ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.30 น.
          ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ :  09 1561 8848
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto

5. กล้วยไม้ออร์คิด

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          ใครชอบกล้วยไม้ไม่ควรพลาดกับ "สวนผึ้งออร์คิด" ศูนย์รวมแวนด้า แอสโคเซนด้า ลูกผสมหลากสีสวยงาม มีให้เลือกกันอย่างมากมาย ชอบต้นไหนก็ซื้อกลับบ้านได้เลย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน สถานที่สะอาด บรรยากาศสบาย โดยมีเจ้าของร้านใจดีอย่าง พี่เล็ก อนุโพธิ์ พรายมณี ที่ให้การต้อนรับพร้อมแนะนำให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับต้นกล้วยไม้เป็นอย่างดี พร้อมจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ทั้งนี้ ตอนนี้ทางสวนได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมสร้างทางเดินเป็นแพในบ่อเลี้ยงปลา สำหรับผู้ที่ต้องการไปให้อาหารปลากลางบ่อ เป็นอีกจุดหนึ่งสำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่อยากเดินชมสวนจ้า

          อัตราค่าบริการ : เปิดให้เข้าชมฟรี
          วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.30 น.
          ที่อยู่ : 313/2 หมู่ 3 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัด ราชบุรี   
          โทรศัพท์ :  0 3271 1230
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Suanpheungorchids-สวนผึ้งออร์คิด

6. จุดชมวิวห้วยคอกหมู

          สุดเขตดินแดนสยาม สูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร เป็นพื้นที่ของฐานปฏิบัติการห้วยคอกหมูร้อย ตชด.137 แต่เดิมเป็นช่องทางการค้าไม้ที่รับการสัมปทานการค้าระหว่างไทย-พม่า ปัจจุบันนี้การค้าระหว่างไทย-พม่าได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เส้นทางนี้จึงได้มีการพัฒนาปรับปรุงเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวชมวิวภูเขาและชายแดนไทย-พม่า อีกทั้งบนจุดชมวิวห้วยคอกหมูนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูมิประเทศอันสวยงามของเทือกเขาตะนาวศรีและชายแดนพม่า พร้อมกับสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นและนกนานาชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมหนาแน่นดุจดั่งทะเลหมอก สวยงามไม่แพ้ภาคเหนือ ขณะที่ในวันท้องฟ้าโปร่งจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงาม

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเพชรบุรี (เพชรบุรี, ราชบุรี) โทรศัพท์ 0 3247 1005-6, 0 3247 1502 เวลา 08.30-16.30 น.

7. ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          เดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและสระน้ำกระเบื้องสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ

          อัตราค่าบริการ : ค่าอาบน้ำแร่สำหรับบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ คนไทย 30 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท สระน้ำกระเบื้อง คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 50 บาท
          วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น.
          ที่อยู่ : บ้านห้วยผาก หมู่ที่ 7 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ :  08 9918 2114, 0 3271 1086
          เว็บไซต์ : bkhotspring.com

8. พิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือสวนภูมิปัญญาชาวบ้าน


          จากหน้าสถานีตำรวจสวนผึ้งแยกซ้ายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านวัดสวนผึ้งแล้วแยกขวาข้ามสะพานไปก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือสวนภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ มีลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ รวบรวมวัตถุโบราณในอดีต รถม้า รวมทั้งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับของไทยชนิดต่าง ๆ ทั้งนี้ มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว

          อัตราค่าบริการ :  อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท
          วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.00 น. และวันหยุดนักขัตฤกษ์
          ที่อยู่ : 94 ถนนสายสวนป่าสิริกิติ์-สวนผึ้ง ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ :  0 3239 5192

9. เขากระโจม

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          เขากระโจม ห่างจากอำเภอสวนผึ้งประมาณ 40 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดราชบุรีประมาณ 100 เป็นยอดเขาสูงสุดในเทือกเขาตะนาวศรี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,045 เมตร มีลักษณะรูปร่างของภูเขาคล้ายกระโจม ซึ่งเป็นคำพูดติดปากของชาวบ้านที่เมื่อก่อนบริเวณนี้มีการทำเหมือง เวลาใครเห็นเขาลูกนี้ก็มักเรียกว่า "เขากระโจม" (จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน) โดยนับเป็นจุดชมทะเลหมอกที่ได้รับความนิยมมาก เพราะใกล้กรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นภูเขาแบ่งเขตแดนระหว่างไทยและเมียนมา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบธรรมชาติป่าเขาและรักการผจญภัย

          เขากระโจม เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่สวยงามของสวนผึ้ง หากวันไหนฟ้าฝนเป็นใจในยามเช้าก็จะได้เห็นทะเลหมอกงดงามมาก ทั้งนี้ การจะขึ้นไปชมความงามของทิวทัศน์บนเขากระโจม ต้องใช้รถ 4x4 ขึ้นไปเท่านั้น โดยสามารถใช้บริการรถจากชมรม "รักษ์เขากระโจม สวนผึ้ง" เฟซบุ๊ก กลุ่มรักษ์เขากระโจม สวนผึ้ง (กลุ่มรักเขากระโจม) อำเภอสวนผึ้ง ได้

          ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเพชรบุรี (เพชรบุรี, ราชบุรี) โทรศัพท์ 0 3247 1005-6, 0 3247 1502 เวลา 08.30-16.30 น.

10. น้ำตกเก้าชั้น

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ
ภาพจาก ททท.

          น้ำตกเก้าชั้น หรือเก้าโจน (เก้ากระโจน) ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปีปริมาณน้ำจะมากในชั้นบน ๆ  หินบริเวณน้ำตกเป็นหินแกรนิต แต่เดิมน้ำตกนี้รู้จักกันเฉพาะในกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ต่อมาบริษัทต่างชาติเข้ามารับสัมปทานเหมืองแร่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484 จากนั้นเมื่อหมดสัมปทานทางอำเภอและกลุ่มองค์กรท้องถิ่นจึงได้เข้ามาดูแลพื้นที่ ซึ่งการเดินไปชมน้ำตกจากลานจอดรถเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงบริเวณน้ำตกชั้นล่าง ซึ่งสามารถเดินเท้าขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

          อัตราค่าบริการ : ค่าเข้าชมรถยนต์ รถตู้ รถปิกอัพ คันละ 30 บาท รถบัส 100 บาท
          วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.
          ที่อยู่ : บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ :  ททท. สำนักงานเพชรบุรี (เพชรบุรี, ราชบุรี) โทรศัพท์ 0 3247 1005-6, 0 3247 1502 เวลา 08.30-16.30 น.

11. โป่งยุบ

          โป่งยุบ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชาวบ้าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะแปลกตา ในเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินทำให้เกิดลักษณะโตรกผาคล้ายกับแพะเมืองผี จังหวัดแพร่ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก การเกิดขึ้นของโป่งยุบสันนิษฐานว่าเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ทำให้แผ่นดินยุบตัวลงแล้วกลายเป็นหน้าผาสูงชัน โดยเป็นพื้นที่ของเอกชน

          อัตราค่าบริการ : 40-400 บาท แล้วแต่จำนวนคนและขนาดของรถ หากมาเป็นหมู่คณะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าชม
          วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
          ที่อยู่ : เลขที่ 99 หมู่ 6 บ้านท่าเคย ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

12. บ้านไร่พรสวรรค์

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          นอกจากบ้านไร่พรสวรรค์จะมีที่พักบริการแล้ว ยังมีทุ่งทานตะวันกว่า 50 ไร่ ให้ได้ไปถ่ายรูปเก๋ ๆ กัน อ๊ะ ๆ แต่ดอกทานตะวันจะบานตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมกราคม รวมถึงจะมีความแตกต่างจากที่อื่น ๆ คือจะมีการทำเกษตรควบคู่ไปกับรีสอร์ตด้วย ถ้าคุณเดินทางมาพักก็จะได้ชมวิธีการทำเกษตรและทุ่งทานตะวันไปด้วย หรือจะไปเล่น Zorb Ball เครื่องเล่นนี้จะพาคุณกลิ้งลงจากเนินในความยาวระยะทางประมาณ 70 เมตร ด้วยความยาวระยะนี้จะทำให้สนุกและตื่นเต้น และปิดท้ายด้วยความสนุกสนานกับการโหนสลิงในระยะทางกว่า 150 เมตร รับรองปลอดภัยและเสียวแน่นอน

          อัตราค่าบริการ : สอบถามจากทางรีสอร์ต
          วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน
          ที่อยู่ : 151 หมู่ที่ 4 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ : 08 5191 3023, 09 1604 6094
          เว็บไซต์ : pornsawun.com และ เฟซบุ๊ก บ้านไร่พรสวรรค์ สวนผึ้ง กิจกรรมสวนผึ้ง กางเต็นท์สวนผึ้ง

13. ฟาร์มโคโรฟิลด์ (Coro Field)

          เปิดตัวได้ไม่นานก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม เพราะที่นี่มีการจัดทำสวนเมลอนในสไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งรอบ ๆ สวนด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูทันสมัย ให้ความรู้สึกคล้ายกับเป็นฟาร์มเกษตรแบบญี่ปุ่น อาคารต่าง ๆ ออกแบบและตกแต่งในสไตล์มินิมอล จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ มีมุมให้ถ่ายรูปแล้วเช็กอินมากมาย และยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ทำไม่รู้เบื่อ ภายในฟาร์มยังมีคาเฟ่เรียกว่าโซนโคโร คาเฟ่ เสิร์ฟผักสด ๆ จากไร่ รวมทั้งมีเมนูเครื่องดื่มจากเมลอนสุดเย็นฉ่ำ ใครติดอกติดใจในรสชาติของเมลอน ก็สามารถเลือกซื้อกันได้ที่โคโร มาร์เกต โซนขายของฝากจากฟาร์ม

          อัตราค่าบริการ : ฟรี
          วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
          ที่อยู่ :  117 ถนนราชบุรี-ผาปก ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ : 09 2569 4791
          เว็บไซต์ : corofield.com  เฟซบุ๊ก CORO FIELD

รีสอร์ตเก๋ ๆ มีกิจกรรมแจ่ม ๆ ให้ทำ

14. The Scenery Vintage Farm

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          สถานที่ท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ไม่มีที่พักค้างคืน ให้บริการเยี่ยมชมฟาร์ม, ให้อาหารน้องแกะ, มีร้าน Honey Scene ที่ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และขนม, ให้บริการถ่ายรูปแบบวินเทจ, มีซุ้มเกมการละเล่นต่าง ๆ มากมาย เช่น ยิงธนู ยิงเป้า, มีร้าน Sheepie Sheep จำหน่ายเสื้อผ้า สินค้าที่ระลึก สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าท้องถิ่นที่มีคุณภาพ เช่น น้ำผึ้ง

          อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (เอาบัตรไปแลกหญ้าได้คนละ 1 กำ)
          วันเวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์, วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-18.30 น.
          ที่อยู่ : 234 หมู่ 7 อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ : 08 1000 6677 (ในเวลา 08.30-16.30 น.)
          เว็บไซต์ :  sceneryvintagefarm.com และ เฟซบุ๊ก The Scenery Vintage Farm

15. New Land

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          Newland เป็นดินแดนแห่งความสุขที่จะพาคุณย้อนกลับไปสนุกสดใสเหมือนในวัยเด็กอีกครั้ง กับกิจกรรมที่คอยต้อนรับมากมาย ทั้งขบวนรถไฟเล็กแสนสนุกที่จะพาไปชมบรรยากาศรอบ ๆ ไร่ ซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่สถานีเลี้ยงแกะ ที่รอให้คุณหนู ๆ มาป้อนนม ให้อาหาร และอุ้มถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม ATV ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ กิจกรรมยิงธนู สำหรับนักท่องเที่ยวขาลุย ซุ้มเล่นเกมต่าง ๆ และมุมสวย ๆ ไว้ถ่ายรูปอวดเพื่อนสำหรับคนที่รักการถ่ายรูป รวมถึงร้านอาหารและโซนของฝากที่คัดสรรแต่ของอร่อยมีคุณภาพมาเป็นอย่างดี เอาใจนักท่องเที่ยวขาช้อปที่ต้องการของติดไม้ติดมือกลับบ้าน

          อัตราค่าบริการ : รถไฟ ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 40 บาท, เลี้ยงแกะ 40 บาท, ATV กลาง (นั่ง 1 ท่าน) 200 บาท 3 รอบสนาม ใหญ่ (นั่ง 2 ท่าน) 300 บาท 3 รอบสนาม ลุยป่า 600 บาท, ยิงธนูชุดละ 100 บาท, ยิงปืนหน้าไม้ชุดละ 100 บาท และยิงปืนชุดละ 100 บาท ทั้งนี้ มีราคาสำหรับคณะทัวร์ (ติดต่อล่วงหน้า)
          วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
          ที่อยู่ : 214 หมู่ 2 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ : 08 0111 5892 และ 08 9746 4215
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Newland สวนผึ้ง ราชบุรี

16. Feraza Farm

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          ไม่ต้องบินไปไกลถึงนิวซีแลนด์คุณก็จะได้สัมผัสกับทุ่งหญ้าและเนินเขาที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย พบบรรยากาศแห่งทิวเขาตะนาวศรีที่ทอดยาวกั้นเส้นขอบฟ้า พร้อมกับฟาร์มแกะนับร้อยตัวได้ ณ Feraza Farm ฟาร์มที่เข้าใจถึงความต้องการที่จะสัมผัสกับความสงบและผ่อนคลายที่เจือไปด้วยความสนุกสนาน ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถร่วมสนุกด้วยกันได้ เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่กับวันพักผ่อน เช่น การขี่รถ ATV ในทุ่งกว้าง, เยี่ยมชมฟาร์มแกะ (สัมผัสกับแกะได้อย่างใกล้ชิด), กิจกรรมตามฤดูกาล และลิ้มรสอาหารที่ FERAZA RESTAURANT

          ที่อยู่ : 1/4 หมู่ 10 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ : 08 6884 2285 และ 08 9811 8389
          เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก Feraza Farm

17. โมอาย สวนผึ้ง

ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          โมอาย สวนผึ้ง อยู่ติดถนนใหญ่ทางหลวงเส้นหลักเข้าอำเภอสวนผึ้งด้านขวามือ ซึ่งเป็นมากกว่าคำว่า "ร้านกาแฟ" เพราะมีทั้ง โมอาย คอฟฟี่ (Moai Coffee) และ โมอาย ฟาร์มแกะ (Moai Sheep Farm) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอสวนผึ้ง ที่มีรูปแบบแปลกใหม่ สะดุดตา ซึ่งนอกจากที่นี่จะให้ความเพลิดเพลินในการท่องเที่ยว พักผ่อน ชมวิว และดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดที่เรียกความสนใจให้ลูกค้าหันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของอารยธรรม สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ได้รับการยกเป็นมรดกโลกอย่างโมอายอีกด้วย และนอกจากกาแฟและเครื่องดื่มยังมีสินค้าอื่น ๆ ให้เลือกซื้อสำหรับเป็นของขวัญและของฝาก

          วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
          ที่อยู่ : 9/9 หมู่ 10 ตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ : 09 4159 3554
          เว็บไซต์ : moai-coffee.com และ เฟซบุ๊ก Moai Coffee

18. Bellissimo Café & Resort
         
ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

          Bellissimo Café & Resort ตั้งอยู่ใจกลางของอำเภอสวนผึ้ง ที่คุณจะได้สัมผัสและดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามในแบบ 360 องศา อีกทั้งยังได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นทรงของห้องพักซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่น พร้อมด้วยการตกแต่งภายในในสไตล์วินเทจ รวมไปถึงบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ตที่ทั้งสวยงามทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่ทุกคนสามารถทำร่วมกันได้ เช่น กิจกรรมการให้อาหารแกะ พร้อมทั้งได้ถ่ายรูปกับน้องแกะอย่างใกล้ชิด หรือนั่งจิบกาแฟชิล ๆ พร้อมโฮมเมดเบเกอรี่ที่แสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ ล้วนแล้วแต่สนุกกับกิจกรรมเหล่านี้

          อัตราค่าบริการ : เข้าชมฟาร์มแกะ 40 บาท
          วันเวลาเปิด-ปิด : ร้านกาแฟและฟาร์มแกะเปิดให้บริการวันเสาร์, อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-17.00 น.
          ที่อยู่ : 138 หมู่ 2 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
          โทรศัพท์ : 08 9897 9839
          เว็บไซต์ : bellissimo-suanpeung.com, Bellissimo Cafe & Resort
ตั๊กออแกไนท์บ้านนารับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบ้านนา
นางรำบ้านนาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบ้านนา
บ้านนารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบ้านนา
รําบวงสรวงพญานาคบ้านนา
ฟ้อนบูชาพญานาคบ้านนา
รําบวงสรวงพญานาคบ้านนา

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


152
25 ที่เที่ยวราชบุรี เมืองคนอาร์ท สัมผัสเสน่ห์ท้องถิ่น

อำเภอบ้านโป่ง
 
สตรีทอาร์ต บ้านโป่ง
บ้านโป่ง ราชบุรี เมืองที่มีกลิ่นอายความคลาสิคของบ้านเรือนเก่าแก่ ผสมผสานความติสท์ด้วยภาพกราฟฟิตี้ และภาพสัญลักษณ์ที่สะท้อนเรื่องราวของเมืองราชบุรี ที่ปรากฎอยู่ทั่วเมือง มาชวนสายแชะสะพานกล้องรีบปักหมุดไปที่ สตรีทอาร์ต บ้านโป่ง หามุมชิคโพสต์ท่าเท่ กับศิลปะบนผนังกำแพง ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินทั้งจากท้องถิ่นและศิลปินจากหลากหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่นไต้หวันอิตาลี  โดยภาพมีให้เห็นตามอาคาร บ้านเรือน ร้านค้า และตรอกซอกซอย ใครผ่านไปมาอดไม่ได้ที่จะหยุดถ่ายภาพเก็บไว้ เป็นการเดินชมเมืองบ้านโป่งอย่างสนุก ถ่ายภาพคู่กับศิลปะบนกำแพง ที่สร้างสรรค์มาได้อย่างลงตัว

 unique77
คาเฟ่สไตล์อาร์ทผสมกลิ่นอายวินเทจที่จะพาคุณย้อนวัยรำลึกถึงวันหวานตามประสาวัยรุ่นยุค 90 อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยงานกราฟิตี้สุดสร้างสรรค์พร้อมให้คุณดื่มด่ำความงามและเก็บภาพประทับใจมากมาย เมื่อมาถึงหน้าร้าน จะพบกับภาพกราฟิตี้นกฮูกยักษ์ยิงธนูในชุดสไตล์โบฮีเมียนสีสันสดใสโดดเด่นสะดุดตา คอยทำหน้าที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนก่อนใคร


สวนเนื้อนาบุญ
อยากถ่ายรูปทุ่งดอกไม้สวยๆ ใกล้กรุงไป ที่ สวนเนื้อนาบุญ  อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี  ที่เจ้าของไร่ได้เนรมิตพื้นที่กว่า 9 ไร่ ให้กลายเป็นสวนดอกไม้สวยงาม  ทั้ง ทุ่งดอกซีโลเซีย  สร้อยไก่ญี่ปุ่น สีสันสดใส เรียงรายเป็นทิวแถวนับสิบแปลง โดดเด่นท่ามกลางท้องทุ่งนาและไร่สวนเขียวขจี  นอกจากทุ่งดอกไม้แล้วยังมี สวนก้านไม้สีม่วง ชมพู  ฟ้า และการจัดตกแต่งพร้อมพรอพตามมุมต่างให้ได้ถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลิน


วัดม่วง
วัดสวยริมน้ำกลอง ที่ตั้งในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี  วัดนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมใจไทยรามัญแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง เป็นวัดที่มีความเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี  มีสิ่งที่โดดเด่น คือ เจดีย์มอญที่ตั้งอยู่ริมน้ำมองเห็นมาแต่ไกลจากแม่น้ำกลอง รวมทั้งอุโบสถเก่าแก่ ที่งดงามด้วยลวดลายปูนปั้น งานแกะสลักและภาพจิตรกรรม ที่แต่งแต้มบริเวณหน้าบัน และหน้าต่างโดยรอบ รวมทั้งผนังบานประตูทั้งหน้าและหลัง สิ่งเหล่านี้ล้วนมีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาและชื่นชมยิ่งนัก

วัดมะขาม
ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านโป่ง ราชบุรี เป็นวัดมอญเก่าแก่ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ภายในวัดมบริเวณกว้างขวางร่มรื่น มีเจดีย์มอญที่ตั้งโดดเด่นอยู่ด้านหน้าวัด เป็นเจดีย์มอญที่สวยที่สุดองค์หนึ่งในไทย มีเจดีย์มุมประดับทั้งสี่มุม ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว มุมของกำแพงแก้วเป็นเจดีย์ประกอบทั้งสี่มุม อายุของเจดีย์ไม่อาจระบุแน่ชัด เพราะไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่สันนิษฐานว่ามีความเก่าแก่ราว 200 ปี ผ่านการบูรณะหลายครั้ง

วัดโพธิ์รัตนาราม
ชาวบ้านมักเรียก “วัดโพธิ์คู่” เนื่องจากในสมัยก่อนมีต้นโพธิ์ขึ้นคู่กันอยู่หลายคู่ วัดนี้มีสิ่งโดดเด่น คือ โบสถ์ที่ทำจากสแตนเลสสวยงาม เป็นหนึ่งในโบสถ์สแตนเลสที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ อุโบสถสร้างด้วยสแตนเลสทั้งด้านนอกและด้านใน ภายในโบสถ์มีพระพุทธชินราช เป็นพระประธานส่วนข้างหน้าโบสถ์มีพระพุทธรูปปาง มหาจักรพรรดิให้สักการะอีกด้วยวัดโพธิ์รัตนาราม ก่อตั้งขึ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เดิมอุโบสถสร้างด้วยอิฐและปูน ปัจจุบันบูรณะใหม่ด้วยการหุ้มสแตนเลสครอบหลังเดิมทั้งหลัง เป็นการบูรณะหุ้มสแตนเลสจากโบสถ์เดิม ผสานด้วยวัสดุไม้ภายในอย่างกลมกลืนลงตัว
อำเภอโพธาราม
 
ตลาดเก่าโพธาราม
ตลาดเก่าโพธาราม เป็นตลาดเก่าแก่แห่งนี้มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันยังคงเหลือเรือนแถวไม้และบ้านเก่าให้เดินชมอยู่หลายหลัง ตัวตลาดแบ่งเป็นสามส่วนคือ ตลาดบน ตลาดกลางที่เป็นตลาดสด และตลาดล่าง จุดที่น่าสนใจในตลาดเก่าโพธารามที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะ นั่นก็คือ ตลาดบน ซึ่งเป็นที่ตั้งของชมรมอย่าลืมโพธาราม ร้านกาแฟชื่อดัง ดูนม และกาลนาน รวมถึงวิกครูทวี ส่วนอีกจุดที่น่าสนใจ คือ ตลาดกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟโพธารามและร้านเต้าหู้ดำรสชาติอร่อยของฝากที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งทั้งตลาดบนและตลาดกลาง อยู่ไม่ไกลกันเพียงแต่ตั้งอยู่คนละโซนการเที่ยวชมตลาดเก่าโพธารามอาจไปยังตลาดบนก่อนไปชมตึกเก่า รวมถึงแวะชมรมอย่าลืม โพธารามก่อน จิบเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟที่ร้านดูนมและกาลนานขากลับก็ไปซื้อเต้าหู้ดำที่ตลาดกลางที่ร้านแม่เล็กโพธาราม และร้านเจ๊อั้งโพธาราม เป็นของฝากกลับบ้าน

ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก ตลาดเก่าโพธาราม

หนังใหญ่วัดขนอน
วัดขนอน มีส่วนสำคัญยิ่งต่อการอนุรักษ์หนังใหญ่  ปัจจุบันทางวัดได้จัดพิพิธภัณฑ์สถานแสดงนิทรรศการหนังใหญ่ เปิดให้ประชาชนและผู้สนใจเข้าร่วมชมศึกษา พร้อมทั้งการสาธิตการแสดงหนังใหญ่ ตลอดจนการฝึกเยาวชนให้เรียนรู้และสืบทอด ศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่านี้ครบทุกกระบวนการ เพื่อสนองโครงการตามพระราชดำริในสมเด็จ พระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีสืบต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก หนังใหญ่วัดขนอน

พระพุทธรูปแกะสลักหิน
ตั้งอยู่ที่อำเภอโพธาราม  พระพุทธะมหาคันธาราช (พระนั่งเมืองแก้ว)  เป็นพุทธรูปหินแกะสลัก ที่แกะจากหินแกรนิตจากผนังถ้ำซึ่งเป็นหินธรรมชาติอายุหลายพันปี  ใช้เวลาแกะสลักราว 6  ปี   พระพุทธะมหาคันธาราช (พระนั่งเมืองแก้ว) เป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ประทับนั่งห้อยพระบาทวางไว้บนดอกบัว รูปแบบสมัยทวารวดี มีความสูงประมาณ 3 เมตร 9 เซนติเมตร ฐานรองนั่งและองค์พระยึดติดกับหินของถ้ำ  เป็นพระพุทธรูปหินแกะสลักแบบลอยตัวติดกับตัวถ้ำแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 2 ของโลก องค์แรกอยู่ที่ประเทศศรีลังกา เป็น Unseen แห่งใหม่ของอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี


วัดถ้ำน้ำ
ตั้งอยู่ตำบลนางแก้ว อำเภอโพธารามภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่ ถ้ำน้ำ ซึ่งมีจุดเด่นคือมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเสาหินขนาดใหญ่ ภายในถ้ำมีน้ำไหลเวียนภายในถ้ำตลอดเวลา จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำ หินภายในถ้ำเป็นหินแกรนิตมีโพรงอากาศเป็นรอยหลุมอยู่ในเนื้อหินเกิดเป็นลวดลายที่สวยงาม รวมถึงหินงอกหินย้อยที่งดงาม หากมองไปจะเห็นประกายระยิบระยับสวยงาม โดยเสาหินตั้งอยู่บริเวณกลางถ้ำ สันนิษฐานว่าเกิดจากการน้ำที่บนเพดานถ้ำหยดกลายเป็นเสาหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่  ภายในถ้ำได้จัดทำเป็นทางเดินปูน สำหรับเดินชมความงามของถ้ำ จำลองคล้ายเมืองบาดาลพญานาค โดยในบ่อน้ำมีรูปปั้นของพญานาคอยู่ในน้ำ ตลอดเส้นทางมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ทั้งพระพุทธรูป พระสิวลี  รูปปั้นฤาษี  เจ้าแม่กวนอิม
 
วัดคงคาราม
วัดคงคาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ราชบุรี เป็นวัดของชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญ มีสิ่งที่ น่าสนใจ คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ และกุฏิเรือนไทย 9 ห้องสร้างในสมัยธนบุรี ปัจจุบันจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน รวบรวมวัตถุเก่าแก่ซึ่งเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุไม่ตำกว่า 250 ปี เป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ ภาพสวรรค์ชั้นต่างๆ ภาพอดีตของพระพุทธเจ้า ที่ประทับบนบัลลังก์ ภาพพระพุทธประวัติและพระพุทธชาติชาดก ภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือละเอียดอ่อน เหมือนถ่ายทอดจากต้นแบบที่มีชีวิตจริงเขียนขึ้นในสมัยรัตนโกสินตอนต้นนอกจากพระอุโบสถยังมีหมู่กุฏิสงฆ์ ขนาด 9 ห้องและ 7 ห้อง มีการสลัก บานหน้าต่างงดงาม
SOP โพธาราม
SOP (Sense of Pleace) โพธาราม ราชบุรี คาเฟ่ดีไซน์สุดล้ำริมน้ำแม่กลอง จุดเด่น คือ ทางเข้าอุโมงค์เหล็กที่ออกแบบให้มีช่องแสงเพื่อให้แสงส่องผ่านเข้ามา ได้แสงเงามีมิติสวยงาม เพิ่มความดิบเท่ห์ด้วยการทำเป็นสีสนิม เมื่อเดินผ่านอุโมงค์เหล็ก จะนำพาเราไปสู่ร้านกาแฟตัวร้าน จะได้เห็นธรรมชาติริมแม่น้ำสดชื่น พร้อมเสิร์ฟอาหารทั้งคาวหวาน รวมทั้งเครื่องดื่มต่าง ๆ แบบครบครัน


สุนทรีแลนด์
สุนทรีแลนด์ เกิดจากความตั้งใจของคุณสุนทรี เอี่ยมหนู ผู้บุกเบิกการทำโรงงานตุ๊กตาหลังจากที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับตุ๊กตาเลยเป็นแรงบันดาลใจในการ เปิดสุนทรีแลนด์แห่งนี้เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่หลงใหลในตุ๊กตา โดยปรับปรุงส่วนหนึ่งของพื้นที่โรงงานให้เป็นดินแดนแห่งตุ๊กตา ในชื่อ “สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา” มาที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพกับเหล่าตุ๊กตา ในบรรยากาศจำลองจากทั่วโลก สามารถมาเล่น อุ้ม กอด และถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการย้อนวัยได้อย่างมีความสุข ได้เลือกซื้อหาตุ๊กตาหลายหลายแบรนด์ในราคาโรงงาน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรีที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ดินแดนแห่งความลับ  ตั้งอยู่ในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี  เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่ตกแต่งสไตล์มินิมอลผสมสไตล์ลอฟ ที่รายรอบด้วยแมกไม้นานาชนิด ความเก๋ของที่นี่ คือ ทางเข้าไปยังตัวร้านที่ทำเป็นเส้นทางเดินเขาวงกต ให้ได้เดินค้นหาทางออก รวมทั้งถ่ายรูปชิคๆ กับผนังสีเขียวของต้นไม้เลื้อยที่ปกคลุมทั่วกำแพง กลายเป็นมุมถ่ายภาพชั้น

อำเภอเมือง
 
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่ง ท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือพายลำย่อมบรรทุกสินค้า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่าง ประเทศเข้ามา เที่ยวชมวิถีชีวิต ละการค้าขายในตลาดน้ำแห่งแห่งนี้เป็นจำนวนมาก โดยสามารถ เดินชม เลือกซื้อ เลือกชิม อาหารและสินค้าต่างๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขาย สินค้าที่นำมาขายส่วนมากจะ เป็นผลไม้ เช่น กล้วย ส้มโอ ชมพู่ ลำไย มะม่วง ฯลฯ สนนราคาก็ไม่แพง เพราะมาจากชาวสวนโดยตรง ของกินมีหลากหลายโดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งมีให้เลือกหลายเจ้า

ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

เถ้าฮ่งไถ่
เถ้า ฮง ไถ่ ราชบุรี โรงงานเซรามิคที่มีชื่อเสียงของ ราชบุรี   เป็นโรงงานที่ผลิตงานเซรามิคหรืองาน เครื่องปั้นดินเผาแห่งแรกอย่างโอ่งมังกรที่เราๆ รู้จักกันดี  จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เถ้าฮงไถ่ คือนำเอารูปทรงดั้งเดิมมาประยุกต์ ใช้กับสีสันที่ร่วมสมัย เป็นการผสมผสานระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จนกลายเป็น เอกลักษณ์ที่สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของ “เถ้าฮงไถ่” นอกจากนี้ยังมีการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ ออกมาทุกๆ 1-2 เดือน ก็เป็นการสร้างจุดเด่น และเกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ส่วนราคาอยู่ที่ขนาดของและสีสัน ความยากง่าย ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 100 บาท ถึงหลักหมื่น

พิพิธภัณฑ์ราชบุรี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง สร้างขึ้นในสมัย รัชกาล ที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2465 และได้รับการบูรณะเพื่อจัดตั้ง เป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2431 ลักษณะของอาคารศาลากลางจังหวัดราชบุรีหลังเดิมที่ใช้เป็นอาคารจัดแสดง นิทรรศการถาวร เป็นอาคารที่ได้รับอิทธิพลด้านรูปแบบการสร้างมาจากสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ที่ได้รับความนิยมนำมาสร้างกัน อย่างแพร่หลายในช่วงรัชกาลที่ 5 – 6  จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับราชบุรี ในทุกด้าน อาทิ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์วิทยา ธรณีวิทยา ศิลปะพื้นบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ในการจับสัตว์น้ำ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของกลุ่มชนต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี

อุทยานหินเขางู
ตั้งอยู่บริเวณแหล่งภูเขาหินปูน ในสวนสาธารณะเขางู ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี อยู่ห่างจาก ตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ 8  กิโลเมตร  จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมคือ  ทางเข้าสวนสาธารณะเขางู ซึ่งด้านหน้ามีภาพแกะสลักพระพุทธรูปปาง ประทานพรขนาดใหญ่ ไปจนสุดทางออกจะมีอีกจุดหนึ่งคือ ศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน มีสะพานเลียบแม่น้ำทอดยาวสำหรับเดินชม วิวถ่ายภาพซึ่งในส่วนนี้รถยนต์สามารถเข้าถึงได้

 เขาแก่นจันทร์
เขาแก่นจันทร์ หรือ เขาจันทร์แดง ยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดราชบุรี มีความสูงประมาณ  141 เมตร  เป็นจุดชมวิวชั้นดี สามารถมองเห็นตัวเมืองราชบุรีได้แบบ 360 องศา เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของจังหวัดราชบุรี บนยอดเขาแก่นจันทร์  มีวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธนิโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศหรือ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “พระสี่มุมเมือง” เป็นพระ 1 ใน 4 องค์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองต่าง ๆ ทั้ง 4 เมือง   เขาแก่นจันทร์ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ สำคัญยิ่ง เราจึงไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชม กราบสักการะพระสี่มุมเมือง อันศักดิ์สิทธิ์

เรื่องของโอ่ง
 สถานที่ท่องเที่ยวที่ บอกเล่าเรื่องราวสืบสารวิถีการปั้นโอ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมกิจกรรม Work shop ให้ร่วมสนุกเป็นผลงานชิ้นเดียวในโลกด้วยฝีมือของตัวเอง รวมทั้งกิจกรรม วาดลวดลายลงบนโอ่งจากจินตนาการ แถมมีมุมถ่ายภาพเก๋น่ารักหลายจุด โดยเฉพะมุมคูลๆ ยืนโพสต์ท่าเท่ในเตาเผาโอ่งจำลองที่มีโอ่งเรียงรายขนาบข้าง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว พาเด็กๆมาทำเรียนรู้กิจกรรมปั้นโอ่งหรือมากับเพื่อนฝูงหามุมถ่ายภาพสวยก็ได้เช่นกัน 

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก
ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก เป็นชุมชนชาวจีนตั้งแต่ครั้งเมื่อเริ่มขุดคลองดำเนินสะดวก ประมาณปี พ.ศ. 2409-2411 โดยชาวจีนซึ่งเป็น แรงงานหลักในการขุดคลองในครั้งนั้น ได้ตั้งรกรากอยู่ริมสองฝั่งคลอง ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก คือ ตลาดน้ำดำเนินสะดวกดั้งเดิม ก่อนที่จะมีขยายตัวไปพื้นที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากตลาดน้ำดำเนินสะดวกได้ย้ายจากสถานที่เดิมบริเวณปากคลองลัดพลีไปอยู่ในสถานที่ใหม่ มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางมาท่องเที่ยวอย่างหนาแน่นในทุก ๆ วัน ทำให้ ตลาดน้ำหล่าตั๊กลัก เงียบเหงาลงไปแต่ความงดงามของเรือนไม้ริมน้ำแบบจีน และวิถีชีวิตแบบจีนยังคงอยู่ นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่นิยมชมชอบในความงามแบบย้อนอดีตจึงเริ่มย้อนถวิลหาวิถีริมน้ำแบบเดิม ตลาดน้ำจีนเก่าที่เงียบสงบที่ยังมีมนต์เสน่ห์อยู่อย่างไม่รู้ลืม

ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊ก ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก

 
วัดหนองหอย
วัดหนองหอย จากตัวเมืองประมาณ 12 กม.สิ่งที่น่าสนใจคือรูปหล่อพระโพธิสัตว์กวนอิม ขนาดใหญ่ภายในวิหาร มีความสูง 16 เมตร หน้าตักกว้าง 9 เมตร ประชาชนทั่วไปเรียกกันว่า “เขาเจ้าแม่กวนอิม วัดหนองหอย” ซึ่งตั้งบนยอดเขาแร้งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองราชบุรีได้ในมุมกว้างโดยเฉพาะในยามเย็นซึ่งยังเป็น จุดชมพระอาทิตย์ตกอีกด้วย อีกด้านหนึ่งของยอดเขา (เขาพระใหญ่) ประดิษฐานพระพุทธรัตนโกสินทร์มหามุณี (หลวงพ่อใหญ่) เป็นวัดที่มีผู้ศรัทธานิยมมาไหว้พระกันมาก

อำเภอจอมบึง
แกรนด์แคนยอน
แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใกล้กรุง กับมุมถ่ายภาพสุดปัง แกรนด์แคนยอน ราชบุรี ที่ตั้งอยู่ในอำเภอจอมบึง  ชมปฏิมากรรมดินยุบตัวเป็นรูปทรงคล้ายหิน รายล้อมแอ่งน้ำสีเขียวฟ้า รวมทั้งริ้วลายดินต่างๆ ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นริ้วสวยงาม คล้ายแกรนด์แคนยอน  ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดเช็คอินที่ฮอตในเวลานี้ เรียกได้ว่า เป็นความอาร์ตที่ถูกธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว ในช่วงเวลาเย็นที่มีแสงอาทิตย์ส่องกระทบลงมาบรรยากาศนึกว่าอยู่เมืองแอริโซนา เดินท่ามกลางปฏิมากรรมดิน ได้ฟีลแบบเท่สุดๆไปเลย

ถ้ำจอมพล
ถ้ำจอมพล เป็นนามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า รัชกาลที่ 5 พระราชทานในคราวที่เสด็จประพาสถ้ำด้วย ทรงจินตนาการว่า หินย้อย ภายในถ้ำที่เรียกว่า“ผาวิจิตร” มีลักษณะเป็นริ้วไหมคล้ายอินทรธนูบนบ่าของ ทหารยศ จอมพลในสมัยก่อน แต่เดิมถ้ำจอมพล มีชื่อเรียกกันว่า“ถ้ำมุจรินทร์” อากาศข้างในถ้ำจอมพลไม่ร้อน เพราะบริเวณกลางถ้ำจอมพลมีปล่องจึงทำให้อากาศถ่ายเท ภายในถ้ำมีความกว้างประมาณ 30 เมตร ยาวประมาณ 25 เมตร เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยวิจิตรงดงามชวนชมอยู่หลายแห่ง ซึ่งบางแห่งก็คล้ายฉากละคร ในขณะที่บางจุดก็มี รูปทรงคล้ายตุ๊กตาหินและบัลลังก์ หินงอกหินย้อยที่มีความเด่นและสวยงาม จนมีผู้ตั้งชื่อเรียกให้ นอกจาก “ผาวิจิตร”อันเป็น ที่มาของ การเรียกชื่อถ้ำ แล้วก็ยังมี “ธารศิลา”“สร้อยระย้า” “แส้จามรี” “ท้องพระโรง” “ประสิทธิเทวา”และ “เกศาสลวย”
 
สวนเลม่อน พสุธารา
ไม่ต้องไปไกลถึงสวนเลม่อนเชียงใหม่ มาแค่ สวนเลม่อน พสุธารา Pasutara สวนผึ้ง ราชบุรี ก็สามารถเดินเก็บเลม่อนสวยๆจากต้นได้ฟีลสาวชาวฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่ให้บริการในส่วนของที่พัก และมีสวนเลม่อนภายในที่พัก เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมพร้อมไปกับการเดินเก็บเลม่อนสีเหลืองลูกโตสดจากต้นด้วยตัวเอง และยังมีร้านของที่ระลึกบรรยากาศดี ตั้งอยู่ริมน้ำ มีมุมต่างๆให้นั่งพักผ่อน พร้อมจิบเครื่องดื่มจากเลม่อนรสชาติดี และยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเลม่อน และน้ำผึ้ง ให้ซื้อกลับบ้านอีกด้วย  จากกรุงเทพใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง จะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับก็เดินทางได้สบายมาก
 
ตลาดโอ๊ะป่อย
สัมผัสชีวิตสโลว์ไลฟ์  ชิมอาหารพื้นถิ่น เพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมกะเหรี่ยง ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่ ตลาดโอ๊ะป่อย  อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี ตลาดวิถีชุมชนท่ามกลางป่าเขา ริมลำธารภาชี  มีแผงไม้ไผ่ขายสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง อาหารไทยพื้นบ้าน และการแสดงดนตรี  มีกิจกรรมใส่บาตรพระ ซึ่งพระจะล่องแพมาให้ได้ทำบุญตักบาตร ตลาดแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน ตกแต่งสถานที่ให้มีสีสันสวยงาม ตามแบบฉบับของวิถีพื้นบ้าน ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน สัมผัสความสุข ได้ความอิ่มเอมใจกลับไป ตลาดแห่งนี้เปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดตั้งแต่ 7.00-14.00 น
ตั๊กออแกไนท์ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคราชบุรี
นางรำราชบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคราชบุรี
ราชบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคราชบุรี
รําบวงสรวงพญานาคราชบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคราชบุรี
รําบวงสรวงพญานาคราชบุรี

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


153
บางคนที สมุทรสงคราม อำเภอเล็ก ๆ ใกล้กรุงเทพฯ ชิลในแบบฉบับ 2 วัน 1 คืน

ชวนเที่ยวอำเภอบางคนที อำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดสมุทรสงคราม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สุดชิล ที่ห้ามพลาด วางแผนเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ 2 วัน 1 คืน หรือไปเช้า-เย็นกลับได้แบบสบาย ๆ

          อำเภอบางคนที เป็นอำเภอเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นเมืองที่เงียบสงบ มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดกันแบบชิล ๆ มากมาย ซึ่งเหมาะกับการจัดทริปเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน เที่ยวกันได้ทุกเพศทุกวัย ไปทั้งครอบครัวก็แฮปปี้ ถ้าใครมีเวลาน้อย ไปแบบเช้าไป-เย็นกลับก็ยังได้ วันนี้เราจึงได้รวบรวมที่เที่ยวบางคนที ร้านอาหาร และร้านกาแฟบางคนทีมาฝากกัน ไปดูสิว่าอำเภอนี้จะน่าเที่ยวจริงไหม :)

1. วัดบางกุ้ง


          วัดบางกุ้ง ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสมุทรสงครามที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ ของวัดแห่งนี้ก็คือ โบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่มีรากไม้ของต้นโพธิ์, ต้นไทร, ต้นไกร และต้นกร่างขนาดใหญ่ ปกคลุมตัวโบสถ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาอีกด้วย

2. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก

          อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองในตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นอาสนวิหารที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีอายุมากกว่า 100 ปี ทั้งภายนอกและภายในวิหารมีการตกแต่งอย่างสวยงามในแบบศิลปะโกธิค ตกแต่งประดับประดาด้วยกระจกสีจากฝรั่งเศส เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน โปรดแต่งกายสุภาพในการเข้าเที่ยวชม

3. บ้านพญาซอ

          บ้านพญาซอ ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที เป็นบ้านของครูสมพร เกตุแก้ว ซึ่งเป็นช่างแกะสลักซออู้ที่ชำนาญและมีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม โดยครูสมพรจะนำผลมะพร้าวมาแกะสลักทำซออู้ให้เป็นลวดลายที่สวยงามวิจิตรบรรจง เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ชาวบ้านจึงเรียกบ้านหลังนี้ว่า "บ้านพญาซอ" นอกจากนี้ครูสมพรยังได้สืบทอดวิชาการเล่นดนตรีไทยให้กับเยาวชนในพื้นที่อีกด้วย

4. ตลาดน้ำบางน้อย

          ตลาดน้ำบางน้อย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที ใกล้กับวัดเกาะแก้ว เป็นตลาดน้ำเล็ก ๆ เปิดในช่วงกลางวันของเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00-15.00 น. โดยตัวตลาดจะเต็มไปด้วยของกินพื้นบ้านอร่อย ๆ มากมาย มีสินค้าแฮนด์เมดและของที่ระลึกน่ารัก ๆ ให้เลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึกหลากหลายแบบ ที่สำคัญคือ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ เดินเล่นได้แบบชิล ๆ

5. ตลาดเก่าบางนกแขวก

          ตลาดเก่าบางนกแขวก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลองในตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นตลาดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ตลอดแนวตลาดเป็นบ้านเรือนเก่าแก่ มีร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยเด็ดให้เลือกทานมากมาย รวมทั้งมีร้านขายของที่ระลึกแฮนด์เมด ราคาย่อมเยาให้ได้ช้อปปิ้งกันเบา ๆ บรรยากาศของตลาดแห่งนี้เงียบสงบมาก เหมาะแก่การไปเดินเล่นวันหยุดแบบเพลิน ๆ

6. วัดปราโมทย์

          วัดปราโมทย์ ตั้งอยู่ตําบลบ้านปราโมทย์ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสมุทรสงคราม มีอายุมากกว่า 100 ปี เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต ชาวบ้านในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพศรัทธามาก มักจะเดินทางมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันอย่างไม่ขาดสาย

7. สวนน้ำไข่มุก

          สวนน้ำไข่มุก ตั้งอยู่ในตำบลบางคนที อำเภอบางคนที เป็นสวนน้ำขนาดกลาง มีสไลเดอร์และเครื่องเล่นให้เลือกสนุกสนานมากมาย พร้อมกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มีร้านอาหารไว้รองรับ เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 08 2292 4224

8. ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านสารภี

          ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านสารภี ตั้งอยู่ที่ตำบลจอมปลวก อำเภอบางคนที โดยมีคุณสุชล สุขเกษม เป็นเจ้าของพื้นที่และเป็นประธานกลุ่ม ภายในศูนย์แห่งนี้ เต็มไปด้วยพืชพรรณต่าง ๆ มากมาย ซึ่งได้นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ กลายเป็นการทำเกษตรผสมผสานที่สามารถเลี้ยงชีพได้ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สุชล สุขเกษม บ้านสารภี ต.จอมปลวก

9. สวนมะนาวโห่ลุงศิริ


          สวนมะนาวโห่ลุงศิริ ตั้งอยู่หมู่ 2 ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่แบบเกษตรอินทรีย์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 40 ไร่ ซึ่งผลิตผลที่ได้จากไร่ก็มีการขายทั้งแบบผลสด และทำเป็นสินค้าแปรรูปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่, แยมมะนาวโห่, น้ำพริกมะนาวโห่, ไซเดอร์มะม่วงหาวมะนาวโห่, มะนาวโห่กวน, ชาผลมะนาวโห่, เยลลี่มะนาวโห่, มะนาวโห่ลอยแก้ว เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ และเฟซบุ๊ก มะม่วงหาวมะนาวโห่ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ

ที่กินบางคนที

1. แป๊ะก๋วยเตี๋ยวปู


          ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวปูที่ขึ้นชื่อมากของสมุทรสงคราม เปิดมานานกว่า 30 ปี รสชาติน้ำซุปจะอร่อยกลมกล่อม เส้นเหนียวนุ่มกำลังพอดี ให้เนื้อปูและเครื่องต่าง ๆ แบบจัดเต็ม ที่สำคัญราคายังไม่แพงอีกด้วย เปิดให้บริการวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก แป๊ะก๋วยเตี๋ยวปู

2. เจ๊แตนผัดไทยกุ้งแม่น้ำ

          เจ๊แตนผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ตั้งอยู่ภายในตลาดเก่าบางนกแขวก ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที เป็นร้านผัดไทยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสมุทรสงคราม นอกจากรสชาติผัดไทยที่อร่อยกลมกล่อมเหมือนผัดไทยดั้งเดิมแล้ว ก็ยังใส่กุ้งแม่น้ำสดตัวโต ๆ เนื้อแน่นลงไปด้วย บอกเลยว่าถ้าใครได้มาลองกินจะต้องฟินแน่นอน

3. สวนอาหารคนทีริมน้ำ

          สวนอาหารคนทีริมน้ำ ร้านอาหารบรรยากาศดี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง บรรยากาศสุดเงียบสงบ ที่นี่ให้บริการอาหารไทย รสชาติจัดจ้านหลากหลายเมนู พร้อมทั้งขนมหวานแบบไทย ๆ ให้เลือกสรรกินกันอย่างจุใจ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 09 1441 3532, 0 3473 0817 หรือเฟซบุ๊ก สวนอาหารคนทีริมน้ำ

4. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อลุงพร คลองตะโก

          ก๋วยเตี๋ยวเนื้อลุงพร คลองตะโก ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนที เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่และมีชื่อเสียงในเรื่องความอร่อยของน้ำซุปและเครื่องต่าง ๆ ตัวน้ำซุปจะรสชาติเข้มข้น เข้ากันอย่างดีกับเส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่มและเนื้อต่าง ๆ ที่ถูกจัดเสิร์ฟมาในชามแบบจัดเต็ม ราคาย่อมเยา จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

5. ก๋วยเตี๋ยวรู แปะล้อ

          ก๋วยเตี๋ยวรู แปะล้อ ตั้งอยู่ที่ 124 หมู่ 8 ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูและเนื้อตุ๋นสูตรเก่าแก่สุดอร่อย น้ำซุปเข้มข้น เส้นนุ่มกำลังดี โดยเฉพาะเนื้อตุ๋นและหมูตุ๋น ที่เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว ทานง่าย รสชาติหอมอร่อย เข้ากันกับน้ำซุปและเส้นได้อย่างดี ให้ปริมาณเยอะเต็มชาม พร้อมกับเครื่องเคียงต่าง ๆ มากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวรู แปะล้อ

6. ปูตา คาเฟ่

          ปูตา คาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ หลากหลายเมนู ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ผสมผสานแนวลอฟท์เพื่อให้ดูผ่อนคลายและน่านั่งพักผ่อน มีพื้นที่ให้นั่งผ่อนคลายทั้งด้านในร้านและนอกร้าน บรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Puta cafe

7. เดอะจีรัง อาร์ต คาเฟ่


          เดอะจีรัง อาร์ต คาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนที เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ตกแต่งอย่างน่ารัก ออกแบบตัวร้านให้โล่งโปร่งด้วยเรือนกระจกเก๋ ๆ มีร่มไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นและความเย็น ตกแต่งสวนสวยในสไตล์อังกฤษ มีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแบบยุโรป ยิ่งเพิ่มความผ่อนคลายและทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอบางคนทีเลยทีเดียว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก The jeerang art cafe'

          หูย...เห็นว่าเป็นอำเภอเล็ก ๆ แต่ก็มีที่เที่ยวสวย ๆ ที่น่าสนใจ ให้ไปเเยี่ยมเยือนไม่น้อยเลยนะคะ สามารถจัดทริปเที่ยว 2 วัน 1 คืนได้แบบสบาย ๆ ไม่ไกลกรุงเทพฯ ขับรถเที่ยวได้แบบชิล ๆ เสพความสุขได้เต็มเปี่ยมแบบนี้ ก็เอาใจไปเลยค่ะ :)
ตั๊กออแกไนท์บางคนที รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางคนที
นางรำบางคนทีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางคนที
บางคนทีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางคนที
รําบวงสรวงพญานาคบางคนที
ฟ้อนบูชาพญานาคบางคนที
รําบวงสรวงพญานาคบางคนที

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


154
10 ที่เที่ยวแบบอัมพวา ปี 2021 – วันเดียวก็เที่ยวครบ รวมจุดเช็คอินยอดฮิต มาถึงที่นี่ต้องเก็บให้หมด

ถ้าใครที่กำลังมองหาที่เที่ยว ที่ช้อป ที่กิน มีเวลาแค่วันเดียว แต่อยากทัวร์ให้ครบ ต้องมาเยือนอัมพวา จ.สมุทรสงคราม แล้วล่ะ สถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่มีของกินอร่อย ๆ รอเพียบ และมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัดวาอาราม ให้ได้สนุกเพลิดเพลินทั้งวัน กับ 10 ที่เที่ยวน่าสนใจในอัมพวา เช็คอินไม่ครบห้ามกลับนะบอกก่อน ไปลุยกันเลย

1. ตลาดน้ำยามเย็น อัมพวา

เช็คอินที่แรก กับตลาดน้ำที่ไม่มีใคร ไม่รู้จัก มาที่นี่เหมือนได้ย้อนไปอยู่ในบรรยากาศเก่า ๆ สมัยก่อน แม่ค้าพายเรือมาขายอาหาร ขายขนมเต็มสองฝั่งคลองอัมพวา มีร้านอาหารน่านั่งทานริมน้ำมากมาย และยังมีมุมวินเทจแต่ละร้านให้ได้เดินถ่ายรูปด้วย ยิ่งเย็นผู้คนยิ่งเยอะ มานั่งกินอาหารทะเลย่างสด ๆ ริมน้ำ หรือจะเดินเล่นซื้อขนมไทยโบราณ ก็มีเพียบเลย การเดินทางคลิกที่นี่

2. ตลาดน้ำบางน้อย

เป็นตลาดน้ำเก่าแก่ ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้ตลาดน้ำอัมพวา แต่จะมีผลไม้ ผักท้องถิ่น ที่ชาวบ้านนำมาขายเยอะกว่า อยู่ห่างจากอัมพวาประมาณ 4 กิโลเมตร ได้มาสัมผัสวิถีของชุมชมบางน้อย ที่ครั้งหนึ่งในหลวงรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสมา มีก๋วยเตี๋ยว ผัดไท ขนมหวานนานาชนิด ราคาไม่แพงน่าแวะมาอุดหนุน การเดินทางคลิกที่นี่

3. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก
 
อลังการดาวล้านดวงไปเลย เมื่อมาเจอสถานที่แห่งนี้ สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบถ่ายรูป ชอบมุมสวย ๆ อยากมีภาพไว้อัพลงไอจีเรื่อย ๆ มาเยือนที่นี่เลยจ้า จัดชุดสวย ๆ มาเลย หามุมดี ๆ บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ แต่ควรเป็นชุดที่ไม่โป๊ สำรวมและเคารพสถานที่ เพราะถือเป็นสถานที่สักการะศักดิ์สิทธิ์ของคริสต์ชนนิกายโรมันคาทอลิกที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ จะเข้าไปเดินชมภายอาสนวิหารก็จะได้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมด้วย การเดินทางคลิกที่นี่

4. วัดบางกุ้ง

วัดเก่าแก่ในย่านอัมพวา ที่ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวและผู้คนที่เลื่อมใสศรัทธา เดินทางมากราบไหว้อย่างต่อเนื่อง ไฮไลท์ของวัดบางกุ้งอยู่ที่พระอุโบสถ ซึ่งถูกปกคลุมทั้งอาคารด้วยรากของต้นโพธิ์ ต้นไทร เกิดเป็นภาพที่สวยงาม เมื่อมองตรงหน้าต่างของโบสถ์ จะเห็นภาพพระประธานอยู่ตรงกลางพอดี หากมาอัมพวา ควรแวะมากราบไหว้ขอพร “หลวงพ่อนิลมณี” แห่งวัดบางกุ้งสักครั้ง การเดินทางคลิกที่นี่

5. ตลาดร่มหุบ

เป็นตลาดที่เรียกเสียงฮือฮาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ใคร ๆ มาได้เจอก็ต้องตกใจ ว่าแม่ค้าที่นี่เก็บข้าวของหลบรถไฟได้ยังไงในเวลาสั้น ๆ เมื่อได้ยินสัญญาณเตือนว่ารถไฟจะมา แม่ค้าจะเริ่มหุบร่มที่แผงของตนเอง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินรอและถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอบันทึกไว้ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียง ยังเดินเล่นช้อปปิ้งที่ตลาดแม่กลองได้ด้วยนะ การเดินทางคลิกที่นี่
 
6. ตลาดน้ำท่าคา

ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว ที่มีตลาดน้ำเยอะมากในอัมพวา เพราะว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่แต่ดั้งเดิม ทำสวนผลไม้กันเป็นอาชีพหลัก ๆ ทั้งส้มโอ ส้ม ฝรั่ง ชมพู ถ้าอยากได้ผลไม้สด ๆ ต้องมาซื้อที่นี่ บรรยากาศดีตลอดวัน ผู้คนไม่เยอะแบบที่ตลาดอัมพวา มีมุมให้นั่งทานอาหารริมน้ำ และเดินเล่นซื้อของได้ทั้งวัน การเดินทางคลิกที่นี่

7. ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ

บรรดาทาสแมวต้องถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอน เพราะที่นี่จะรวบรวมประวัติของแมวไทยโบราณ และยังมีแมวบางตัวที่ทางศูนย์ได้เลี้ยงไว้ ให้เราได้เข้าชม และเล่นกับน้องแมว สำหรับแมวที่หายากและเป็นแมวมงคลก็มีตัวกันหลายพันธุ์ เช่น วิเชียรมาศ แมวสีสวาด แมวศุภลักษณ์ และแมวเก้าแต้ม ใครที่ชอบเล่น ชอบถ่ายรูปกับเจ้าเหมียว ห้ามพลาดเลย การเดินทางคลิกที่นี่

8. ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง


ไม่บอกไม่รู้ ว่าอยู่ในเมืองไทยบ้านเรา และอยู่ใกล้แค่อัมพวา สำหรับ ซอลท์ เลค เดอ แม่กลอง นาเกลือรูปแบบใหม่ ที่ให้เข้าชมและหามุมถ่ายรูปสวย ๆ ได้ นอกจากยังมีคาเฟ่ มีเครื่องดื่มกาแฟ ขนมเค้ก เบเกอรี่ต่าง ๆ ไว้บริการ นอกจากนี้จะได้ชมวิธีการทำนาเกลือจากชาวบ้านแบบใกล้ชิด ต้องหาเวลาแวะมาถ่ายรูปแบบชิค ๆ แล้วล่ะ การเดินทางคลิกที่นี่

9. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร

ถ้าจะมาเที่ยวอัมพวา ก็เป็นทริปที่ยกมาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว ยิ่งคุณพ่อ คุณแม่ ชอบให้ลูก ๆ ได้พาเข้าวัดไหว้พระ ทำบุญ แนะนำว่าห้ามพลาดวัดนี้ เพระาเป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อบ้านแหลม พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของคนในจังหวัดสมุทรสงคราม ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธา ภายในวัดมีพื้นที่กว้าง และมีจุดให้อาหารปลา ทำสังฆทานสร้างบุญ การเดินทางคลิกที่นี่

10. ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน

ปิดท้ายเอาใจสายชอบผจญภัยกันบ้าง ลองมาสัมผัสวิถีธรรมชาติ ล่องเรือ ชมป่าชายเลน และที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทดลองปลูกต้นโกงกาง ช่วยอนุรักษ์ป่าชายเลนให้ได้มีความอุดมสมบรณู์ เหมาะจะเดินทางมาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน และหมู่คณะ จะได้มีกิจกรรมทำตลอดทั้งวัน แนะนำให้โทรสอบถามและจองคิวก่อนเดินทาง การเดินทางคลิกที่นี่

เห็นมั้ยว่า ถ้ามาเที่ยวอัมพวา พกเงินมาแค่พันเดียวก็เอาอยู่ จะกินอาหารทะเล เดินเล่น ซื้อขนม ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวบ้านก็คุ้ม รีบมาเที่ยวกันเลย รับรองว่าเป็นวันเดย์ทริปที่เติมเต็มความสุขในวันหยุดได้อย่างแน่นอน

ตั๊กออแกไนท์อัมพวา รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคอัมพวา
นางรำอัมพวาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคอัมพวา
อัมพวารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคอัมพวา
รําบวงสรวงพญานาคอัมพวา
ฟ้อนบูชาพญานาคอัมพวา
รําบวงสรวงพญานาคอัมพวา


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


155
15 ที่เที่ยวสมุทรสงคราม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับสบาย ๆ

1. ตลาดน้ำอัมพวา
          ตลาดน้ำยอดฮิตแห่งจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อทั้งคนไทยและต่างชาติ นอกเหนือไปจากการเดินเที่ยว ช้อปและชิมกันรัว ๆ แล้ว ยังจะได้สัมผัสธรรมชาติของวิถีชีวิตริมน้ำ ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ชิมอาหารพื้นบ้านทั้งคาวหวาน, เดินเยี่ยมชมร้านค้าขายของที่ระลึกและวิถีชีวิตชาวบ้าน, ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำแม่กลองและหิ่งห้อย เที่ยวเสร็จก็นอนค้างอัมพวาสักคืน แนะนำว่าให้นอนไกลตลาดน้ำไปสักหน่อย ตกกลางคืนก็ไปนั่งเล่นริมระเบียง แล้วคุณจะต้องหลงรักอัมพวาเข้าอย่างจัง
 
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 14.00-20.00 น.
          ที่ตั้ง : ถนนประชาเศรษฐ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

2. นั่งเรือชมหิ่งห้อย
          แหล่งชมหิ่งห้อยยอดฮิต โดยสามารถล่องเรือได้ที่จุดให้บริการเรือนักท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา มีค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 60 บาทต่อคนต่อเที่ยว ซึ่งเรือจะพาล่องไปตามแม่น้ำแม่กลอง จากคลองอัมพวาวนรอบเกาะแล้วนำกลับมาส่งที่เดิม ใช้ระยะเวลาประมาณ 60 นาทีต่อเที่ยว หากมากันเป็นหมู่คณะสามารถเหมาเรือทั้งลำ เพื่อล่องเรือเป็นหมู่คณะได้ โดยมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณลำละ 500 บาท ต่อ 10 คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและการต่อรองของแต่ละจุดให้บริการเรือ ในระหว่างทางที่ล่องเรือนักท่องเที่ยวจะได้พบกับต้นลำพูอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยเรียงรายตลอดสองข้างทาง พร้อมกับได้ชมหิ่งห้อยตัวน้อยใหญ่ส่องแสงสวยงามไปทั่วบริเวณ

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 18.00-21.00 น.
          ที่ตั้ง : ถนนโชติธำรงค์ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
3. นั่งเรือไหว้พระริมน้ำ
          อีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ที่ไม่น่าพลาดเมื่อมาเที่ยวสมุทรสงคราม ก็คือ การล่องเรือไหว้พระทำบุญ โดยจุดลงเรืออยู่บริเวณตลาดน้ำอัมพวา จะมีเรือของชาวบ้านคอยให้บริการนำเที่ยวไปไหว้พระทำบุญตามวัดต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อ เช่น วัดบางนางลี่ใหญ่, วัดท้องคุ้ง, วัดบางแคกลาง, วัดบางแคใหญ่, วัดเกษมสรณาราม, วัดบางเกาะเทพศักดิ์ และวัดบางกุ้ง ฯลฯ ราคาเริ่มต้นเพียงแค่คนละ 50-100 บาท ได้ทำบุญไปพร้อม ๆ กับการนั่งเรือชมวิถีชีวิตสองฟากฝั่ง บ้านเรือนและสวนผลไม้ของชาวบ้าน แบบนี้คุ้มเกินคุ้มแน่นอน

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 12.00-17.00 น.
          ที่ตั้ง : ถนนโชติธำรงค์ ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
4. ตลาดสดแม่กลอง
          ตลาดสดที่รวบรวมทุกความต้องการเอาไว้ให้ครบครัน ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟแม่กลองและวัดเพชรสมุทรวรวิหาร สินค้ายอดนิยมที่ใครไปเยือนก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน คือ "ปลาทูแม่กลอง" เจ้าของฉายาหน้างอคอหัก เนื้อแน่น มัน รสชาติดี รวมถึงอาหารทะเลทั้งสดและแห้ง ผัก ผลไม้ และขนมไทยต่าง ๆ ก็มีขายในราคาย่อมเยา

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เช้ามืดจรดเย็น
          ที่ตั้ง : เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

5. ตลาดหุบร่ม
          ตลาดที่ตั้งขายอยู่ริมทางรถไฟสายแม่กลอง-บ้านแหลม ซึ่งเป็นรถไฟสายสั้นที่วิ่งระหว่างมหาชัย-แม่กลอง ความยาวของตลาดประมาณ 100 เมตร ไฮไลต์ที่เราอยากแนะนำให้ไปชมสักครั้ง คือ ภาพบรรยากาศที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะวางขายสินค้าบนพื้นติดกับรางรถไฟ และเมื่อรถไฟมาถึงบริเวณโค้งก่อนเข้าตลาด พนักงานขับรถไฟจะส่งเสียงหวูดเพื่อเป็นสัญญาณให้พ่อค้าแม่ค้ารู้ตัวว่าต้องหุบร่มและเก็บข้าวของที่วางกีดขวางทางรถไฟได้แล้ว และทันทีที่รถไฟเคลื่อนผ่านสถานีรถไฟแม่กลอง ร่มและสินค้าจะถูกจัดเก็บเรียบร้อยแล้ว จนเป็นที่มาของชื่อ "ตลาดหุบร่ม" นั่นเอง และเมื่อรถไฟผ่านไปเรียบร้อยบรรยากาศของตลาดก็จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 04.00-17.00 น.
          ที่ตั้ง : ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

6. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร
          หรือที่เราเรียกกันว่า "วัดบ้านแหลม" เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปนมัสการ "หลวงพ่อบ้านแหลม" พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริงสูง 167 เซนติเมตร และเป็น 1 ใน 5 พระพุทธรูปตามตำนานที่ลอยน้ำมาพร้อมกันจากภาคเหนือ คือ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม, หลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อโตวัดบางพลี, หลวงพ่อวัดเขาตะเครา และหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยมีความเชื่อว่าหากได้มาสักการะปิดทองหลวงพ่อบ้านแหลมแล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมทั้งสมความ

          ที่ตั้ง : ถนนเพชรสมุทร เขตตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

7. วัดบางกุ้ง
          แหล่งท่องเที่ยวสมุทรสงครามที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ ของวัดแห่งนี้ ก็คือ "โบสถ์ปรกโพธิ์" ความมหัศจรรย์ของโบสถ์วัดจะถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์, ต้นไทร, ต้นไกร และต้นกร่างขนาดใหญ่ จนทำให้วัดบางกุ้งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand แถมภายในโบสถ์ก็เป็นสถานที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อนิลมณี" (หลวงพ่อโบสถ์น้อย) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อดำ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นขนาดใหญ่ ให้เข้าไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

          ที่ตั้ง : หมู่ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

8. วัดจุฬามณี
          สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สถานที่สำคัญภายในวัดแห่งนี้ ได้แก่ หลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาส และเกจิอาจารย์ดังที่ศพไม่เน่าเปื่อย, ชมโบสถ์จัตุรมุขหินอ่อน ที่ปูพื้นด้วยหินหยกสีเขียวจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน และประดับภายในด้วยโคมไฟระย้า บานหน้าต่างด้านนอกลงรักฝังมุกเป็นภาพตราพระราชลัญจกร ในสมัยรัชกาลที่ 4 แกะสลักบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชาดก นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมแสดงพุทธประวัติและนิทานชาดก ที่เป็นฝีมือของจิตรกรหญิง นิตยา ศักดิ์เจริญ ซึ่งใช้เวลาในการวาดนานถึง 6 ปี อีกด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลบางช้าง (ริมฝั่งคลองอัมพวา) จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

9. วัดอัมพวันเจติยาราม
          นิวาสสถานเก่าของหลวงยกกระบัตร (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และคุณนาค (สมเด็จพระอัมรินทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1) และยังเป็นสถานที่ประสูติของรัชกาลที่ 2 ด้านหน้าจึงมีพระบรมรูปของพระองค์ประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านหลังพระรูปเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารและพระบรมอัฐิบางส่วนของพระองค์ เป็นวัดเก่าแก่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนถึงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันจัดเป็นพระอารามหลวงชั้นโท

          ภายในวัดมีสิ่งที่สำคัญ เช่น จิตรกรรมฝาผนังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เขียนขึ้นตามแบบศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และเรื่องราวเกี่ยวกับบทพระราชนิพนธ์ต่าง ๆ
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
          ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

10. วัดบางกะพ้อม
          อีกหนึ่งวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในวัดมีโบราณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ได้แก่ วิหารเก่าของวัด อาคารก่ออิฐถือปูนที่ได้รับอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมจากจีน มีลักษณะโดดเด่นที่ไม่มีช่อฟ้า, ใบระกา, หางหงส์ รวมทั้งผนังวิหารด้านบนเป็นภาพจิตรกรรม มีลักษณะที่แตกต่างจากทั่วไป คือเป็นปูนปั้นลวดลายนูนสูง และนูนต่ำ แสดงเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ ส่วนวิหารด้านล่างมีการเจาะช่องเป็นซุ้มประตูเพื่อใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป นอกจากนี้ยังสามารถชมวิหารหลวงพ่อคง หรือ "หลวงพ่อคง ธมฺมโชโต" อดีตเจ้าอาวาส และพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
ภาพจาก MUNGKHOOD STUDIO / Shutterstock.com

          ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
คลิกเลย

11. อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
          หรือที่เราเรียกกันว่า "อุทยาน ร.2" เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานศิลปะอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ ภายในแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ลานจอดรถหน้าอุทยาน, ส่วนที่ 2 โรงละครกลางแจ้ง, ส่วนที่ 3 อาคารทรงไทยหมู่ 5 หลัง พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตไทยสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แสดงศิลปวัตถุในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น, ส่วนที่ 4 สวนพรรณไม้ในวรรณคดี, ส่วนที่ 5 อาคารเรือนไทยหมู่ 9 หลัง จัดเป็นพิพิธภัณฑ์พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และส่วนที่ 6 พื้นที่ติดริมแม่น้ำแม่กลอง จุดชมวิว จุดถ่ายรูป มีเรือประพาสอุทยาน

ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-19.30 น.
          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
          ที่ตั้ง : สำนักงานอุทยานรัชกาลที่ 2 ตำบลกระดังงา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
          เว็บไซต์ : kingrama2found.or.th
12. อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก
          ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์ มีอายุมากกว่า 100 ปี สร้างโดยบาทหลวงเปาโล ซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส และได้มีการทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 งดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคของประเทศฝรั่งเศส เมื่อกวาดสายตามองไปยังผนังจะพบเรื่องราวของพระนางมารีย์ ภาพของนักบุญชายหญิง รูปปั้น ธรรมเทศน์ อ่างล้างบาป และรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติในพระคัมภีร์คริสต์ศาสนา นับได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีความงดงามอีกแห่งหนึ่ง

ที่เที่ยวสมุทรสงคราม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน โปรดแต่งกายสุภาพในการเข้าเที่ยวชม
          ที่อยู่ : ริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
13. ตลาดน้ำบางน้อย
          ตลาดน้ำเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ในอดีตเคยเป็นย่านการค้าที่รุ่งเรืองและสำคัญมาก ตัวตลาดจะเต็มไปด้วยของกินพื้นบ้านอร่อย ๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผลไม้ ซึ่งมีทั้งลิ้นจี่ มะม่วง ส้มโอ มะเฟือง ชมพู่ และอีกสารพัดผลไม้ รวมถึงอาหารคาวหวานหลากหลาย มีสินค้าแฮนด์เมดและของที่ระลึกน่ารัก ๆ ให้เลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึกเพียบ ที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวไม่เยอะ เดินเล่นได้แบบชิล ๆ รับรองว่าคุณจะได้ซึมซับบรรยากาศความคลาสสิกที่ไม่เหมือนใคร

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-15.00 น.
          ที่ตั้ง : ปากคลองบางน้อย (วัดเกาะแก้ว) ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
14. ตลาดเก่าบางนกแขวก
          ตลาดเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ตลอดแนวตลาดเป็นบ้านเรือนเก่าแก่ มีร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยเด็ดให้เลือกกินมากมาย รวมทั้งมีร้านขายของที่ระลึกแฮนด์เมด ราคาย่อมเยาให้ได้ช้อปปิ้งกันเบา ๆ บรรยากาศของตลาดแห่งนี้เงียบสงบมาก เหมาะแก่การไปเดินเล่นวันหยุดแบบเพลิน ๆ อ๊ะ ๆ และห้ามพลาดการลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวปู ผัดไทยกุ้งสดสูตรโบราณ ก๋วยเตี๋ยวกะลาโบราณ ขนมจีนซาวน้ำ หอยเชลล์อบเนย สละลอยแก้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย นับเป็นอีกหนึ่งตลาดน้ำที่มีความสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินไม่เป็นสองรองใครที่ไหนเลย

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น.
          ที่อยู่ : ริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

15. ตลาดน้ำท่าคา
          ตลาดน้ำที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตชาวบ้านดั้งเดิม อันสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างชีวิตและสายน้ำ จากเดิมที่ชาวบ้านจะพายเรือออกมาเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน จากนั้นพัฒนามาเป็นการนำเอาออกมาวางขายให้กับคนภายนอกได้ซื้อหา สินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายส่วนใหญ่มักเป็นผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอยู่ดั้งเดิมของจังหวัด รวมถึงผักและผลไม้สด ๆ ใหม่ ๆ จากท้องไร่ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ได้ชิมตามฤดูกาล มีทั้งกล้วย มะนาว ฟักทอง ผักบุ้ง ตำลึง เป็นต้น ตลาดน้ำท่าคา นับเป็นตลาดน้ำอีกแห่งหนึ่งที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นชาวสวน และคงไว้ซึ่งบรรยากาศชนบทแบบคลาสสิก ที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนง่าย ๆ

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ และทุกวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ (วันโกน) ตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น.
          ที่ตั้ง : ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
ตั๊กออแกไนท์สมุทรสงคราม รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
นางรำสมุทรสงครามเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
สมุทรสงครามรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
รําบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
ฟ้อนบูชาพญานาคสมุทรสงคราม
รําบวงสรวงพญานาคสมุทรสงคราม
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


156
10 ที่เที่ยวสมุทรสาคร เที่ยว “มหาชัย” เมืองน่าเที่ยวใกล้กรุงฯ

สมุทรสาคร หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “มหาชัย” เมืองทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงขับรถไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายทั้งวัดวาอารามที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์แถมยังมีตลาดอาหารทะเลสดที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีอาหารทะเลราคาย่อมเยาให้ได้เลือกซื้อเลือกหามากมาย

จะจัดเป็น One day trip มาเที่ยวได้วันเดียวแบบสบายๆ เดินทางจากกรุงเทพใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง หรือจะแวะมาเที่ยว มาค้างคืนที่นี่สักคืนก็น่าสนใจไม่น้อย บอกเลยว่า ถ้ามาเที่ยวที่นี่แล้ว จะลืมไปเลย ว่าเป็นเมืองทางผ่าน ถึงจะเป็นเมืองทางผ่าน แต่ก็เป็นทางผ่านที่ต้องแวะมาให้ได้เลยล่ะ

เก็บกระเป๋าแล้วตามพวกเรามาเที่ยวสมุทรสาคร อีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวในภาคกลางกัน

1.ตลาดมหาชัย

ตลาดมหาชัย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ใกล้กับ ป้อมวิเชียรโชฎก และศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นแหล่งศูนย์กลางการค้าขาย ของจังหวัดสมุทรสาคร และที่รวมอาหารทะเล ทั้งสดและแห้ง ทุกวันที่นี่ จะคลาคล่ำไปด้วยพ่อค้าแม่ขาย ที่นำสินค้าของตนเองมาจำหน่าย ทั้งกุ้ง ปลาหมึก ปูสดๆ ตัวโต ปลาทู ไปจนถึงผักผลไม้สารพัดชนิด และอาหารทะเลแปรรูป กุ้งแห้ง ปลาหมึกแดดเดียว ปลาแห้ง เรียกว่ายกทั้งทะเลส่งตรงมาถึงหน้าคุณเลยทีเดียว

บรรยากาศของตลาดมหาชัย เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และด้วยราคาที่ย่อมเยากว่าเมื่อเทียบกับตลาดอาหารทะเลอื่น ๆ รวมไปถึงการการันตีความสดใหม่ ทำให้ตลาดมหาชัยแห่งนี้ มีลูกค้าแวะเวียน มาจับจ่ายใช้สอยกันมากมาย

ที่ตั้ง : ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

2.ท่าฉลอม

ข้ามเรือข้ามฟากจากฝั่งตลาดมหาชัย ข้ามแม่น้ำท่าจีนมา ก็จะเป็นฝั่งของบ้านท่าฉลอม ชุมชนที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่หนาแน่นมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เป็นชุมชนที่มีอาชีพทำการประมงเป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ สถานีรถไฟบ้านแหลม สถานีรถไฟสายโดดเดี่ยว ที่วิ่งจาก ท่าฉลอม ไปยังแม่กลอง ซึ่งเป็นที่มาของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่เรารู้จักกันในนาม “ตลาดร่มหุบ” นั่นเอง

นอกจากนี้ “ท่าฉลอม” ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าใจอย่างเช่นวัดแหลมวัดช่องลมโบสถ์แม่พระอันนาเป็นต้น

ที่ตั้ง : ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

3.ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร หรือเจ้าพ่อวิเชียรโชติ สร้างแบบเก๋งจีน ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับป้อมวิเชียรโชฎก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประชาชนเคารพนับถือ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประมงในจังหวัด โดยก่อนออกเรือเพื่อไปหาปลาทุกครั้งชาวประมงจะต้องไปทำพิธีสักการบูชาศาลแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าพ่อวิเชียรโชติซึ่งแกะสลักด้วยไม้โพธิ์มีลักษณะคล้ายองค์พระสยามเทวาธิราชอยู่ในท่าประทับยืนบนเกี้ยวซึ่งแกะสลักอย่างประณีตจากนั้นปิดทองคำเปลวบริสุทธิ์ทับไปอีกชั้นหนึ่ง

ทุกครั้งก่อนออกเรือชาวประมงจะต้องทำพิธีสักการะบูชาพร้อมกับจุดประทัด บริเวณหน้าศาลให้ดังสนั่นเพื่อความเป็นสิริมงคลและหากเดินไปด้านหลังศาลเจ้าจะพบกับเสาหลักเมืองสมุทรสาครซึ่งเป็นเสาหลักเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยนะ

ที่ตั้ง : ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

4.วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร

วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร มีพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่นับถือของชาวบ้านแพ้ว และคนทั้งจังหวัดสมุทรสาคร หลวงพ่อโต พระพุทธรูปโบราณสมัยอู่ทองเนื้อหินทรายแดงฉาบปูน ปางมารวิชัย มีพระพักตร์เอิบอิ่ม ยิ้มละไม และท่าน้ำน่าวิหารที่มีปลามากมายหลายชนิดสามารถพักผ่อนหย่อนใจ ให้อาหารปลาได้

หลวงพ่อโต วัดหลักสี่เป็นพระพุทธรูปโบราณสมัยอู่ทองเนื้อหินทรายแดงฉาบปูน ปางมารวิชัย มีพระพักตร์เอิบอิ่ม ยิ้มละไมหน้าตักกว้าง 81 นิ้ว สูง 99 นิ้ว (เป็นที่อัศจรรย์ถึงสัดส่วนของหลวงพ่อโตที่ช่างสมัยโบราณได้ กำหนดไว้ล้วนเป็นเลขมงคลทั้งสิ้น เช่น ขนาดความกว้างของหน้าตักเมื่อนำตัวเลขมารวมกันจะได้ 9 ส่วนสูงรวมกันได้ 9 อีก เมื่อนำส่วนกว้างรวมกับส่วนสูงก็ได้ 9 ซึ่งเลข 9 คนทั่วโลกถือว่าเป็นเลข

ที่ตั้ง : ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

5.วัดช่องลม

วัดช่องลม พระอารามหลวงแห่งนี้ นับเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีอายุยั่งยืนมาเกือบ 200 ปี และนับว่าจะอยู่ยั่งยืนต่อไปอย่างไม่มีวันเสื่อมสลาย เป็นวัดที่พำนักของพระราชสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัด สมุทรสาคร และเจ้าอาวาสวัดช่องลม

ชัยภูมิที่ตั้งของวัดช่องลม ซึ่งด้านหน้าวัดหันสู่ทิศใต้ตรงกับปากน้ำท่าจีนพอดีมองเห็นทัศนียภาพปากอ่าวที่งดงาม ส่วนทางเบื้องหลังวัดก็ช่างมีความประหลาดมากเหมือนธรรมชาติช่วยสรรสร้างอย่างจำเพาะเจาะจงให้หันหลังสู่แม่น้ำท่าจีนอีกด้วย แผ่นดินสำคัญตอนที่เป็นชัยภูมิสำคัญที่ตั้งวัดช่องลมจึงอยู่ตรงตอนที่แคบคอด หากที่ดินตอนนี้มิได้เป็นที่ตั้งวัด และขาดการถมเสริมเติมต่อไว้เสมอ ๆ ก็น่าจะขาดออกเปลี่ยนทางเดินของกระแสน้ำเปลี่ยนปากน้ำท่าจีนใหม่ ตำบลท่าฉลอมก็จะกลายเป็นเกาะหลุดออกจากแผ่นดินใหญ่ไปแน่นอน

ที่ตั้ง : ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

6.วัดแหลมสุวรรณาราม

วัดแหลมสุวรรณาราม หรือที่ชาวบ้านเรียก วัดหัวแหลม อยู่ติดกับที่สถานีรถไฟ และแม่น้ำท่าจีน สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ 2369 ด้วยไม้ทั้งหลังภายในโบสถ์ประดิษฐานหลวงพ่อดำแต่เดิมองค์พระเป็นไม้เนื่องจากทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจึงมีการครอบด้วยปูนดังที่เห็นในปัจจุบันนอกจากความสวยงามของโบสถ์ไม้เก่าหลังนี้แล้วยังมีช่อฟ้าใบระกาที่สวยแปลกตาไม่เหมือนที่อื่นนั่นคือช่อฟ้าด้านบนสุดจะเป็นรูปหัวสิงโตถัดลงมาเป็นหัวพญานาคไหหลำและหัวพญานาคไทยรวมถึงกระเบื้องปูพื้นลวดลายโบราณจากจีนอายุกว่าร้อยปี

นอกจากนั้นยังมีซุ้มวงกบ ประตู ที่แกะสลักด้วยความปราณีตบรรจงอ่อนช้อยงดงาม จากช่างชาวจีนไหหลำ รวมถึงพระพุทธรูปรอบโบสถ์ที่ทำจากไม้อีก18องค์ แต่มีเพียงหนึ่งองค์ที่ทำจากเนื้อสำริด นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ สมเด็จองค์พระปฐมฯ พระพุทธรูปใหญ่ริมแม่น้ำท่าจีนอีกด้วย

ที่ตั้ง : ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

7.วัดธรรมจริยาภิรมณ์

วัดธรรมจริยาภิรมย์  ตั้งอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก  เดิมมีชื่อว่า “วัดใหม่มธุรส” ต่อมาก็เปลี่ยนเป็น “วัดธรรมจริยา” และ “วัดธรรมจริยาภิรมย์” ในปัจจุบัน ที่นี่มีเจดีย์ใหญ่ที่งดงามมากชันบนเป็นที่ประดิษฐานพระประธานและพระพุทธรูปที่มีความงดงามมากเช่นกัน

ภายในเจดีย์นอกจากกราบขอพระหลวงพ่ออู่ทองแล้ว ยังสามารถร่วมบุญบริจาคโรงศพ ทำบุญตักบาตรพระประจำวันเกิด ตามปีเกิด หรือชำระหนี้สงฆ์ได้ตามอัธยาศัย

ที่ตั้ง : ต.หลักสาม อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

8.โบสถ์นักบุญอันนา

ตามความเชื่อในศาสนาคริสต์ เชื่อกันว่านักบุญอันนานั้นเป็นมารดาของพระนางมารีอา ผู้เป็นพระมารดาของพระเยซู ชาวคริสต์จึงนับถือท่านในฐานะ “ท่านยาย” ของพระเยซูนั่นเอง พระรูปของท่านแต่เดิมนั้นตั้งหันหน้าออกสู่ท้องทะเล ตั้งแต่อดีตทุกครั้งที่ชาวประมงแห่งลุ่มน้ำท่าจีนต้องออกทะเลพวกเขามักจะแวะมาจอดเรือเพื่อสักการะขอพรพระรูปนักบุญอันนา เพื่อให้แคล้วคลาดจากอันตราย ขอพรจากนักบุญอันนาเพื่อให้หาปลาได้จำนวนมาก ให้คุ้มครองปกปักรักษาให้พ้นจากอันตรายต่างๆ ในทะเล นอกจากนี้ บ้านไหนที่มีลูกยากก็นิยมมาสวดขอลูก รวมถึงการขอพรให้หายจากโรคภัย ตลอดจนเรื่องของปัญหาชีวิตด้วย โดยทุกครั้งที่มาขอก็มักจะได้รับพรตามนั้น ทำให้ชาวบ้านทั้งพุทธ และคริสต์ชนหลั่งไหลมาศรัทธาจำนวนมาก

แต่ต่อมาในภายหลัง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ทำให้ชาวบ้านที่อยู่บนบกอยากให้นักบุญอันนาหันหน้ามาทางแผ่นดินบ้างเพื่อจะมาคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ในที่สุดแล้วชาวบ้านจึงได้ช่วยกันเอากว้านเรือมารองเป็นฐานของรูปปั้น เพื่อให้สามารถหมุนได้ ดังนั้น ช่วงที่มีการออกหาปลา พระรูปก็จะถูกหมุนออกสู่ทะเล แต่ช่วงที่ไม่ได้ไปหาปลา พระรูปก็จะหันหน้าเข้ามาที่แผ่นดินได้ค่ะ ต่อมายังมีการใส่กลไกเพื่อเนรมิตให้พระรูปสามารถหมุนได้ 360 องศา

ที่ตั้ง : ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

9.สถานีรถไฟบ้านแหลม

สถานีรถไฟบ้านแหลม เป็นสถานีรถไฟระดับ 3 ของทางรถไฟสายแม่กลอง เป็นสถานีต้นของเส้นทางช่วงบ้านแหลม–แม่กลอง ตั้งอยู่ถนนถวาย ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ผู้โดยสารที่เดินทางไปกรุงเทพ จะต้องลงจากขบวนรถที่สถานีรถไฟบ้านแหลม และต่อเรือข้ามฟากที่ท่าฉลอม ไปขึ้นรถไฟช่วงต่อที่สถานีรถไฟมหาชัย มีปลายทางที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ระยะทาง 31 กิโลเมตร

ความพิเศษของสถานีรถไฟบ้านแหลม นั่นคือ เป็นจุดเริ่มต้นของสถานีรถไฟสายโดดเดี่ยว ที่วิ่งจาก ท่าฉลอม ไปยังแม่กลอง ซึ่งเป็นที่มาของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่เรารู้จักกันในนาม “ตลาดร่มหุบ” นั่นเอง

ที่ตั้ง : ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

10.บ้านสวนพาฝัน

บ้านสวนพาฝัน เป็นคาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนมะพร้าวของอำเภอบ้านแพ้ว บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะมาก สามารถขับรถมาจอดที่หน้าร้านได้เลย หรือจะจอดรถไว้ที่วัดหนองสองห้อง แล้วนั่งเรือเข้าคาเฟ่ก็ได้เช่นกัน

อาหารรสชาติอร่อยสไตล์บ้านๆ ให้อารมณ์เหมือนมากินข้าวที่บ้านเพื่อน วัตถุดิบส่วนใหญ่ใช่ผลิตภัณฑ์จากชุมชนเป็นหลัก แถมยังมีเมนูพิซซ่าเตาฟืนโฮมเมดให้ได้ชิมกันด้วยนะ อาหารทุกเมนูเสิร์ฟมาอย่างสวยงาม ช่วยเพิ่มอรรถรสในการกินได้เป็นอย่างดี

ที่ตั้ง : ต.หนองสองห้อง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

โทรศัพท์ : 091 142 6551

เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 10:30–20:00 น.​(ปิดวันจันทร์)
ตั๊กออแกไนท์มหาชัย รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคมหาชัย
นางรำมหาชัยเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคมหาชัย
มหาชัยรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคมหาชัย
รําบวงสรวงพญานาคมหาชัย
ฟ้อนบูชาพญานาคมหาชัย
รําบวงสรวงพญานาคมหาชัย
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            




157
1 ตลาด 2 คาเฟ่ มนต์เสน่ห์สไตล์บ้านแพ้ว สมุทรสาคร

ไม่ไกลจากเมืองกรุงที่แสนวุ่นวาย มีหนึ่งอำเภอเล็กๆ ที่มนต์เสน่ห์แห่งสายน้ำชวนให้หลงใหล คงความเก่าดั้งเดิมไว้ให้ย้อนนึกถึงวันวาน หวนคิดถึงอดีต ที่นี่คือ อ. บ้านแพ้ว หนึ่งในสามอำเภอของจังหวัดสมุทรสาคร ในวันนี้ นายรอบรู้ นักเดินทาง จะพาคุณไปสัมผัสความวินเทจของตลาดเก่า 100 ปี พร้อมแวะชมแวะชิมของอร่อยที่คาเฟ่สุดชิคแอนด์ชิล สไตล์บ้านแพ้ว…ถ้าคุณพร้อมแล้วก็ตามมาได้เลย

เดินเล่น เดินกินที่ ตลาดน้ำบ้านแพ้ว

เริ่มต้นที่แรกกันด้วย ตลาดเก่าริมน้ำ 100 ปีบ้านแพ้ว เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ตลาดแห่งนี้ สัมผัสได้ถึงรอยยิ้มและความเป็นกันเองของพ่อค้าแม่ขายจากสองฝั่งทางเดิน ตลอดระยะทางกว่า 500 เมตรมีของขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ขนมพื้นถิ่น ของกินหายาก พืชผลทางการเกษตร และของใช้เบ็ดเตล็ด ให้เลือกซื้อเลือกหากันตามความต้องการ

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของตลาดแห่งนี้คือบ้านไม้เก่าแก่ที่เป็นแถวยาวติดกัน ห่างกันแค่ฝาผนังกั้นระหว่างบ้านเท่านั้น  บ้านฝั่งที่ติดริมคลองจะมีระเบียงยื่นออกมาชายคลอง ได้บรรยายของตลาดริมน้ำสุดๆ

เดินมาสักพักก็พบกับสะพานไม้ข้ามคลองดำเนินสะดวก สะพานนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ ที่ถ้าใครมาที่นี่ ก็ต้องแวะมาถ่ายรูป เก็บภาพบรรยากาศสองฝั่งคลอง และจะเห็นได้ว่าคลองเป็นเส้นตรงยาวจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ชื่อว่า “คลองดำเนินสะดวก”


ลงจากสะพานมาก็ไม่รอช้าหาของกินต่อ และก็ต้องสะดุดกับกลิ่นความหอมของขนมบ้าบิ่น ร้านคุณยายจำเนียร ที่ใช้มะพร้าวน้ำหอม ของดีของบ้านแพ้วมาทำขนม เราก็ไม่วายอุดหนุนสักกล่อง และขนมบ้าบิ่นของยายก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง มีทั้งความหอมและความมัน กรอบอร่อยจริงๆ

เดินแบบเพลินๆ ผ่านร้านรวงต่างๆ มากมาย จนมาถึงสุดตลาดซึ่งเป็นท่าเรือหางยาว “ท่าเรือมาลี” ที่นี่ยังมีร้านอาหารตามสั่งในตำนาน คือ ร้านค้วงข้าวหมูกรอบหมูแดง ที่ถ้าใครได้ชิมต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อร่อยเด็ด”  และหากใครสนใจอยากนั่งเรือหางยาวชมบรรยากาศสองฝั่งคลองดำเนินสะดวก ท่าเรือก็มีเรือหางยาวโดยสารไว้บริการโดยจะผ่านตั้งแต่หลัก 3 หลัก 4 และสุดสายที่หลัก 5 ซึ่งค่าโดยสารนั้นก็ไม่แพงอีกด้วย

ตลาดน้ำบ้านแพ้ว

ที่ตั้ง : ตำบล บ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว สมุทรสาคร 74120

เปิด ทุกวัน 04.00 – 18.00 น.

ณ.บ้านแพ้ว คอฟฟี่ คาเฟ่ ในตึก

หลังจากเที่ยวตลาดกันอย่างหนำใจแล้ว แวะหลบแดดคลายร้อนกันสักนิดที่ ณ.บ้านแพ้วคอฟฟี่ คาเฟ่ใต้ตึก     คาเฟ่สุดชิคสไตล์ลอฟท์แบบปูนเปลือยที่ใช้โทนสีแบบคุมโทนด้วยสีเทา สีดำ และสีน้ำตาล ทำให้ยิ่งดูยิ่งน่าค้นหา

ที่นี่ยังเป็นคาเฟ่กึ่งแกลเลอรี่ขนาดย่อมอีกด้วย หากคุณอยากเห็นว่า อ. บ้านแพ้วในอดีตเป็นอย่างไร ที่นี่เขาก็มีภาพบรรยากาศต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันโชว์อยู่ทั่วร้าน

นอกจากภาพบรรยากาศสวยๆ แล้วทางร้านยังมีเครื่องดื่มเย็นๆ และของหวานทานเล่นอีกหลากหลายเมนูให้เลือกสั่ง ไม่ว่าจะเป็น สตรอว์เบอร์รีโซดา ที่เปรี้ยวซ่าดับกระหายคลายความร้อนได้เป็นอย่างดี

และหากใครที่สาวกบิงซู ทางร้านก็ยังมีเมนูบิงซูหน้าต่างๆ ให้เลือกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น บิงซูเมล่อน บิงซูข้าวเหนียวมะม่วง และที่พลาดไม่ได้เลยในขณะนี้ นั่นก็คือเมนูบิงซูชาไทย & ไข่มุก เมนูที่รวม 3 ความอร่อยของ 3 ชาติเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะแบบเกาหลี การใช้วัตถุดิบหลักคือชาไทยของไทย และการใช้ไข่มุก 2 แบบ 2 สไตล์ที่อิมพอตมาจากไต้หวัน เรียกไดว่าเป็นคอมบิเนชั่นที่ลงตัวสุดๆ


ณ.บ้านแพ้ว คอฟฟี่ คาเฟ่ ในตึก

ที่ตั้ง : ถนนบ้านแพ้ว – พระประโทน ตำบล บ้านแพ้ว อำเภอบ้านแพ้ว สมุทรสาครโทร : 098 578 8119

เปิด ทุกวัน 08.00 – 22.00 น.

บ้านสวนพาฝัน The Story Of Coconut At Banphaeo คาเฟ่เล็กๆ ของคนฝันใหญ่
-4-odo6xhenzi7jvjr78q2rjl0lmz

ชมภาพบรรยากาศกันพอหอมปากหอมคอ เราจะพาคุณนั่งเรือต่อ ไปชมบรรยากาศสองฝั่งคลองกันที่คาเฟ่เปิดใหม่ที่กำลังฮอตฮิตติดลมบนที่สุดใน อ. บ้านแพ้ว ที่นี้ก็คือ บ้านสวนพาฝัน The Story Of Coconut At Banphaeo คาเฟ่ลึกลับที่ซ้อนตัวอยู่ท่ามกลางสวนมะพร้าวน้ำหอมแพ้ว

การเดินทางมาที่บ้านสวนพาฝันนั้นเลือกได้ 2 เส้นทางคือ เดินทางด้วยรถยนต์ที่เข้าถึงได้สะดวก และนั่งเรือจากวัดหนองสองห้องล่องตามลำคลองมาถึงร้าน คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตแบบชาวคลอง บอกเลยว่าฟินสุดๆ

เมื่อเรือเทียบท่าสนิทดีแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติของสวนมะพร้าวบ้านแพ้วที่ยังคงความดั่งเดิม คุณฌนกมน ดิษยวราธร เจ้าของร้าน มีความคิดที่อยากจะทำให้พื้นที่ของพ่อกับแม่มีประโยชน์มากกว่าคำว่า “สวน” และเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ วิถีชีวิตของคนในชุมชนเรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟื่อ ไม่ว่าจะเป็นการทำสวนมะพร้าว หรือการใช้เรือในการไปมาหาสู่กัน จึงเกิดไอเดียร่วมกับเพื่อนเปิดเป็นคาเฟ่กลางสวนมะพร้าวแห่งนี้ขึ้น

โดยคอนเซ็ปต์ของร้านนี้ก็คือ The Story Of Coconut At Banphaeo เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของสวนมะพร้าวบ้านแพ้วและวิถีชีวิตของคนในชุมชนผ่านตัวคาเฟ่ที่อยู่ท่ามกลางสวนมะพร้าว เท่านี้ยังไม่พอ อาหารของทางร้านจะเป็นอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น เช่น โรตีชีสแกงเขียวหวานไก่ เมนูโรตีกรอบๆ ที่สอดใส่มอสซาเรลล่าชีสยืดๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับแกงเขียวหวานไก่สุดเข้มข้น กินคู่กันก็ยิ่งเข้ากันสุดๆ

อีกหนึ่งเมนูที่อร่อยเด็ดไม่แพ้กันนั่นก็คือ ข้าวเหนียวอัญชันคอหมูย่างแซ่บอีสาน เมนูอีสานสุดแซ่บที่จัดมาเป็นเซต ทั้งคอหมูย่างนุ่มๆ และข้าวเหนียวดอกอัญชันที่เคี้ยวสู้ฟันสุดๆ เสิร์ฟมาพร้อมผักเคียงและน้ำจิ้มแจ่วสุดเด็ด

ที่นี่ยังมีพิซซ่าเตาถ่านแบบฉบับอิตาเลี่ยนแท้ๆ ให้ได้เลือกชิมอีกอีกด้วย เช่น Andaman Seafood พิซซ่าหน้าซีฟู้ดเครื่องแน่น แป้งบางกรอบ กินแล้วฟินสุดๆ

นอกจากอาหารแล้วที่นี่ก็ยังมีเครื่องดื่มอีกหลากหลายเมนูเช่น ชาพร้าว เมนูชาไทยโบราณที่ใส่ทั้งน้ำและเนื้อของมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว ทำให้ได้รสสัมผัสที่หวานหอมละมุนของชาไทยโบราณและน้ำมะพร้าวแบบเต็มๆ และอีกหนึ่งเมนูเด็ดอย่าง สาคูมะพร้าวนมสด เมนูมะพร้าวนมสดหอมๆ กับสาคูนุ่มๆ เคี้ยวเพลินที่ดื่มแล้วอยากดื่มอีก

หากวันหยุดยาวที่จะถึงนี้คุณยังไม่มีแพลนพาคุณแม่หรือคนที่คุณรักไปเที่ยวไหน บ้านแพ้วถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี เป็นอีกหนึ่งสถานที่แห่งความมีความสุข ที่ที่รอยยิ้มและวิถีชีวิตของผู้คนไม่เคยจางหายไปไหน และหากคุณได้มาสัมผัสเมื่อไร เสียงหัวใจจะพาให้คุณกลับมาเยือนที่แห่งนี้อีกแน่นอน
ตั๊กออแกไนท์บ้านแพ้ว รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบ้านแพ้ว
นางรำบ้านแพ้วเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบ้านแพ้ว
บ้านแพ้ว.รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบ้านแพ้ว
รําบวงสรวงพญานาค..............
ฟ้อนบูชาพญานาค.................
รําบวงสรวงพญานาค..............
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


158
Oneday trip กระทุ่มแบน ควงแขนกันมาเลย

กระทุ่มแบน อีกหนึ่งอำเภอในสมุทรสาคร ที่น่าจะคุ้นเคยกัน หากขับรถผ่านไปมาในจังหวัดนี้ หรือไปจังหัดอื่นทางเส้นลงสายใต้ คงจะเคยเห็นชื่อในป้ายบอกทางกันบ้าง ถ้าจะให้บอกสถานที่มีชื่อในกระทุ่มแบน ชื่อ วัดท่าไม้ คงเป็นที่รู้จักกันดี นอกจากวัดท่าไม้อยากมาเที่ยวกระทุ่มแบนแบบเน้นๆ ไม่ออกนอกลู่นอกทางไปยังอำเภออื่น แวะตรงจุดไหนได้อีกบ้าง บอกเลยว่าหลายจุด ทั้งวัดสวย ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ มีให้แวะตลอดเส้นทางที่ขับรถผ่าน ถนนสองข้างบางช่วงมีเทือกสวนของชาวบ้านให้มองแบบสบายตา ได้ฟีลแบบเที่ยวบ้านสวน  มีเวลาแค่ 1 วัน ก็เพียงพอให้ได้อะไรดีๆ กลับไปแน่นอน

วัดท่ากระบือ
ออกจากกรุงเทพค่อนข้างสาย ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งมาถึงกระทุ่มแบน สถานที่แรกที่ถึงก่อน คือ วัดท่าไม้ แต่จะเริ่มสถานที่ไกลที่สุดก่อน มุ่งหน้าไปยัง วัดท่ากระบือ เป็นอีกหนึ่งวัดดังอีกแห่งของสมุทรสาคร ที่มีพระองค์ใหญ่กลางแจ้งที่เห็นเด่นชัด คือ พระไพโรจน์วุฒาจารย์ (หลวงพ่อรุ่ง) เป็นที่นับถือของชาวกระทุ่มแบน  ทำบุญ เสริมมงคล  กราบไหว้พระองค์ใหญ่แล้ว

มาถึงแล้วสามารถจอดรถไว้ยังลานจอดที่มีพื้นที่กว้างขวาง จากนั้นเดินขึ้นไปกราบสักการะ หลวงปู่รุ่งองค์ใหญ่ หลวงพ่อรุ่ง ติสฺสโร หรือ พระไพโรจน์วุฒาจารย์ ท่านคืออดีตเจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน อดีตเจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ ผู้เข้มขลังด้านเวทมนตร์คาถาวิทยาคม ลูกศิษย์รุ่นเก่ามักได้รับวัตถุมงคลหลายชนิดประเภท พระกรุ ผ้ายันต์ ผ้าประเจียด ธง ตะกรุด เลื่องลือเรื่องพลังพุทธานุภาพ ปกป้องคุ้มครองภยันตราย โรคภัยไข้เจ็บ ค้าขายเจริญรุ่งเรือง ด้านข้างสองมุม มีรูปปั้นช้าง และรูปหล่อหลวงปู่รุ่งให้ปิดทอง ตีฆ้อง ระฆัง เสริมมงคล 
ฝั่งตรงข้ามกับพระองค์ใหญ่ เป็นพื้นที่ในส่นของวัด ที่มี วิหารหลวงพ่อรุ่ง พระอุโบสถ เจดีย์ราย พระปรางค์ 4 องค์ หรือจะให้ทานให้อาหารปลาหน้าวัดท่ากระบือ ริมแม่น้ำท่าจีน

วิหารหลวงพ่อรุ่งสีขาวเป็นรูปทรงเรือสำเภา บริเวณหน้าบันประตู มีลวดลายปูนปั้นที่งดงาม เมื่อเข้าไปภายในพระวิหารมีรูปหล่อหลวงพ่อรุ่งให้กราบไหว้ บริเวณผนังสวยงามด้วยลวดลายลงรักปิดทอง

La bella café
จากนั้นแวะไปต่อยัง La bella café ตั้งอยู่ใกล้กับวัดท่ากระบือ คาเฟ่ริมแม่น้ำท่าจีนตกแต่งในสไตล์ยุโรป ตัวร้านมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง โดดเด่นด้วยบ้านสีขาวแบบเรือนกระจกทรงโดมสุดเก๋สามารถมองเห็นวิวภายนอก รวมทั้งโซนเอาท์ดอร์วิวริมแม่น้ำให้ได้นั่งรับลมในยามเย็น ที่นั่งกลางสวนท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้และสนามหญ้ากว้างสีเขียว

 ตัวร้านซึ่งเป็นบ้านสีขาวหลังคาจั่วมีพื้นที่ในส่วนของเรือนกระจกทรงโดม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกร้านได้ ภายในอาคารเป็นแบบห้องแอร์ ซึ่งเป็นส่วนของเคาน์เตอร์สั่งอาหาร และที่นั่งริมกระจกซึ่งจะมีพื้นที่ไม่มากนั่ง หลังจากได้ที่นั่งแล้ว สามารถมาสั่งเครื่องดื่มได้จากเคาน์เตอร์ จากนั้ยนจะมีพนักงานมาเสิร์ฟ์ที่โต๊ะ
โซนที่นั่งแบบเอาท์ดอร์ติดริมน้ำ มีทั้งแบบโต๊ะเก้าอี้ และเคาน์เตอร์บาร์นั่งชิลมองวิวของแม่น้ำท่าจีน โซนนี้มีที่นั่งส่วนตัวเป็นห้องแอร์สำหรับลูกค้าที่มากันหลายท่าน ทางร้านก็จะให้นั่งในห้องรวมกันได้  มีพื้นที่ Rooftop และบันไดสำหรับเดินขึ้นไปบริเวณ ระเบียงเพื่อชมวิวในมุมสูงได้

มุมต่างๆ ภายในร้านมีมุมถ่ายภาพเยอะมาก ทั้งมุมริมน้ำมีหลายจุด และมุมภายในสวน และเบาะนั่งเล่นติดบ่อปลา

ที่นั่งอีกโซนซึ่งอยู่บริเวณทางเข้าเป็นบ้านสีขาวสไตล์ยุโรป ตกแต่งมุมต่างๆ ได้น่ารักหวานแหวว

มาถึงเมนูกันบ้าง ส่วนใหญ่เน้นเครื่องดื่มและของหวาน เราสั่งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์เป็นกาแฟอเมริกาฌน่ใส่น้ำสัปปะรด สีสันสดใส รสชาติอร่อยมากปกติเคยทานแต่กาแฟใส่ส้ม เจอเมนูไปแอบติดใจรสชาติ ในส่วนของหวานสั่งวาฟเฟิล เมนูนี้แนะนำว่าต้องสั่งเพราะอร่อยมาก ทั้งแป้งวาฟเฟิลนุ่มหอม ทานคู่กับไอศครีมที่สามารถเลือกรสชาติได้ เพิ่มความเปรี้ยวด้วยผลไม้ อร่อยมากไม่ถึง 5 นาทีเกลี้ยงจาน  ส่วนเค้กชีสช็อกโกเลตรสชาติละมุมได้กลิ่นหอมของเนื้อเค้กที่ผสมกับชีทได้แบบลงตัว ช็อกโกเลตที่ท๊อปปิ้งได้หมดก็มีความเข้มข้นมาก เป็นร้านกาแฟบรรยากาศดี ติดริมน้ำ เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจอย่างยิ่ง

La bella café

พิกัด 10/9 ม.5 ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร  ร้านเข้าทางเดียวกับตลาดประชารัฐ ของวัดท่ากระบือ

เปิดให้บริการ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-16.00 น.

เฟสบุค คลิ๊ก La bella café

วัดนางสาว
วัดนางสาว วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของสมุทรสาคร ตั้งอยู่ไม่ไกลจากัดท่าไม้ ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญ คือ พระอุโบสถที่มีลักษณะพิเศษเป็นโบสถ์ที่มีฐานโค้งเป็นรูปเรือสำเภาก่ออิฐ  มีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียวไม่มีหน้าต่าง ชาวบ้านเรียกว่า “โบสถ์มหาอุต” ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังลงรักปิดทองที่มีความอ่อนช้อยและงดงามมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งก่อสร้างที่งดงาม ทั้งพระวิหารที่ที่ด้านหน้ามีบันไดพญานาคที่งดงาม วิหารประดิษฐานองค์หลวงพ่อดำ หลวงพ่อวัดป่าเลย์ไลย์จำลอง

โบสถ์มหาอุตหลังคามุงกระเบื้องดินเผาแบบเก่า ขื่อข้างบนใช้ไม้ซุงทั้งต้น มีเสมาคู่เป็นหินทรายขนาดเล็กอยู่รอบๆโบสถ์ ปัจจุบันพระอุโบสถมหาอุตตม์นี้ คงเหลืออยู่น้อยมากภายในประเทศไทย อาจเหลืออยู่เพียง 3-4 แห่งเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นศาสนโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ บริเวณผนังโดยรอบงดงามด้วยลวดลายปูนปั้นที่มีสีสันงดงาม

ภายในโบสถ์มหาอุตประดิษฐานองค์พระประธาน บริเวณผนังงดงามด้วยเรื่องราวของภาพจิตกรรมแบบลงรักปิดทอง ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในกรุงศรีอยุธยาโบราณ มีมนต์ขลังมากๆ

วิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อดำ และหลวงพ่อวัดป่าเลย์ไลย์จำลอง มีความงดงามอลังการ โดดเด่นด้วยบันไดพญานาค และรูปปั้นยักษ์ทวารบาล

วัดท่าไม้
เชื่อว่าใครหลายคนที่ใช้รถใช้ถนนคงเคยเห็นสติกเกอร์ติดท้ายรถ ที่ระบุคำว่า วัดท่าไม้ หลายคัน จนอยากรู้จักวัดนี้กันมากขึ้น วัดท่าไม้ วัดโด่งดังศูนย์รวมศรัทธาของชาวท่าไม้ ตั้งอยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ภายในวัดประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงาม อาทิ พระอุโบสถมหาปรินิพพาน  นอกจากนี้ยังเด่นดัง ในเรื่องของการประกอบพิธีต่างๆ ทั้งงานครอบครู แก้กรรม ต่อบุญ เสริมดวงชะตา โดยเฉพาะเรื่องดวง ที่ใครต่อใครต่างบอกว่าแม่นยำมากและการดูดวงต้องจองคิวล่วงหน้า ปัจจุบันวัดท่าไม้ เป็นวัดที่เหล่าบรรดาศิลปิน ตลอดจนดารานักแสดงนิยมเดินทางมาทำบุญ และฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของวัดหลายท่าน

มาถึงทางเข้าวัดท่าไม้ จะเห็นป้ายโฆษณาเป็นรูปดาราหลายคน  ทั้ง คณอั้ม พัชราภา  ณเดชน์ คูกิมิยะ เคน ภูภูมิ ที่ต่างพากันไปทำบุญไหว้พระขอพร สักการะบูชา กันบ่อยๆ เชื่อกันว่า วัดแห่งนี้จะมีการทำบุญสะเดาะเคราะห์เสริมดวง โดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม  มีเครื่อรางของขลังมากมาย สติ๊กเกอร์วัดท่าไม้ เป็นอีกหนึ่งเพียงวัตถุมงคลที่ลูกศิษย์นำมาติดไว้ที่รถ  โดยสติ๊กเกอร์ของวัดท่าไม้จะแบ่งออกเป็น 2 สี ประกอบด้วย 1.สีเหลืองใช้ติดสำหรับรถของคนที่มาถือศีลปฏิบัติธรรม และ 2.สติ๊กเกอร์สีขาวใช้สำหรับคนที่มาไหว้พระทำบุญ สติเกอร์เป็นสื่อเตือนใจ เวลาใช้รถใช้ถนน หากมีกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือมีเรื่องเบียดเบียนกัน ก็ต้องให้อภัยซึ่งกันและกันเวลาเกิดปัญหา เสมือนเป็นศิษย์วัดเดียวกันต้องรู้จักเอื้อเฟื้อกัน

ภายในวัดมีลานจอดรถกว้างขวางและด้านหน้าก่อนถึงตัววัด มีโค กระบือ มากมายหลายตัวอยู่ในคอก สำหรับผู้มีจิตศรัทธาได้ทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ เพื่อเป็นบุญกุศล เมื่อมาถึงตัววัด ต้องตะลึงในความงดงามของพระอุโบสถมหาปรินิพพาน  ที่มีสถาปัตยกรรมคล้ายกับโบสถ์ทางภาพเหนือ มีเสาหินอ่อนสีขาวแกะสลักลวดลายสวยงาม ตั้งเป็นทิวแถวเรียงรายไปจนถึงอุโบสถ มาจนถึงทางเข้าอุโบสถงดงามอ่อนช้อยด้วยรูปปั้นพญานาคสีทอง

เข้ามาภายในพระอุโบสถยิ่งตะลึงในความงดงาม ประดิษฐานพระประธาน คือพระพุทธชินราชจำลองหน้าตัก 69 นิ้ว เป็นพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งมีพระเชียงแสน พระสุโขทัย และพระอู่ทอง ร่วมประดิษฐานในพระอุโบสถด้วย งดงามด้วยลวดลายลงรักปิดทองบริเวณผนัง

จากนั้นลงมาข้างล่างให้ลอดพระอุโบสถเพื่อสะเดราะห์ โดยมีรูปปั้นเทพศักดิ์สิทธิ์มากมาย โดยยเฉพาะพิฆเนศปางต่างๆ

ท่านพ่อท้าวมหาพรมหม ชินบัญชร ประดิษฐานไม่ไกลจากพระอุโบสถ  พระพุทธรูปปางประธานพรขนาดใหญ่ ให้ได้กราบไหว้ขอพร

ดีกัน คาเฟ่
ปืดท้ายกันที่ ดีกันคาเฟ้ ร้านกาแฟในสวนมีทั้งสวนมะพร้าว และต้นไม้เขียวชอุ่ม ร้านตั้งอยู่ใกล้กับวัดท่าไม้ อิ่มบุญแล้วมาอิ่มท้องกันที่ร้านนนี้ต่อได้เลย  ภายในร้านตกแต่งน่ารักบรรยากาศร่มรื่น มีลำคลองเล็กๆไหลผ่าน จัดที่นั่งเป็นซุ้มกระท่อม ทั้งแบบติดริมคลอง  ที่นั่งกลางสวน  แบบนั่งในห้องแอร์สำหรับคนที่ชอบอากาศเย็นสบาย ด้านในสุดมุมถ่ายรูปสวยหลายมุม ทั้ง  รังนกบาหลีริมน้ำ รังนกบาหลีวิวสวน แปลชิงช้าริมน้ำ และยังมีอีกหลายมุม ให้แชะภาพกันอย่างสนุกสนาน 

ภายในร้านค่อนข้างกว้าง มีที่นั่งให้เลือกนั่งทานหลากหลายมุมหลายโซน ทั้งในร่องสวน ในห้องแอร์  พื้นที่ด้านหน้าเป็นบ้านขนาดเล็ก ซึ่งเป็นส่วนของเคาน์เตอร์สั่งอาหาร และที่นั่งในโซนห้องแอร์ มีเทอเรสติดริมน้ำให้นั่งเล่นแบบชิลๆ

เมนูอาหารเน้นอาหารจานเดียวและอาหารว่าง เครื่องดื่มและของหวาน เมนูอาหารคาว เช่น  ข้าวอาหารจานเดียว ยำ ส้มตำ ลาบ  เป็นต้น รสชาติอาหารโดยรวมถือว่าพอใช้ได้ค่ะ พนักงานสาใจลูกค้า บริการค่อนข้างดีมาก

โต๊ะที่นั่งส่วนใหญ่ติดริมน้ำทั้งหมดชม บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่ปกคลุม สามารถนั่งพักผ่อนได้แบบชิวๆ มีทั้งแบบโต๊ะเก้าอี้ และแบบโต๊ะญี่ปุ่น แต่ละโต๊ะแบ่งเป็นสัดส่วน ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว

เดินเข้ามาด้านในสุดของร้าน มีสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีที่ซุ้มที่นั่ง รวมทั้งจุดถ่ายรูปสวยต่างๆ ทั้ง ชิงช้า รังนกบาหลี  มาในช่วงเย็นจะดีหน่อยไม่ร้อนมาก และเป็นช่วงจังหวะที่แสงกำลังส่องลงมาพอดี

นอกจากรังนกบาหลีริมน้ำ ยังมีตามจุดต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่บนสะพานที่ยกสูง สำหรับเดินชมบรรยากาศของสวนได้แบบกว้างไกล เป็นอีกหนึ่งร้านที่มาแล้วจะได้ถ่ายรูปกันแบบจุใจมีมุมเยอะมาก

ดีกัน คาเฟ่

พิกัด 76/6 ตำบล ท่าไม้ อำเภอ กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

เปิดให้บริการ ทุกวัน  09:00 น. – 19:00 น.

เฟสบุค คลิ๊ก ดีกันคาเฟ่

ตั๊กออแกไนท์อ.กระทุ่มแบน รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคอ.กระทุ่มแบน
นางรำอ.กระทุ่มแบนเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคอ.กระทุ่มแบน
อ.กระทุ่มแบนรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคอ.กระทุ่มแบน
รําบวงสรวงพญานาคอ.กระทุ่มแบน
ฟ้อนบูชาพญานาคอ.กระทุ่มแบน
รําบวงสรวงพญานาคอ.กระทุ่มแบน
 
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            



159
ที่เที่ยวสมุทรสาคร จัดมาเน้น ๆ ใกล้กรุงเทพฯ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้

 วันหยุดสั้น ๆ ไม่อยากขับรถไกล เราขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวชิล ๆ ที่สมุทรสาครกัน ไปไหว้พระทำบุญ ถ่ายรูปสวย ๆ กับจุดชมวิวริมทะเล และป่าชายเลน พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย แวะช้อปปิ้งอาหารทะเลสดใหม่ กินอาหารทะเลสุดอร่อย ก่อนขับรถกลับเข้ากรุงเทพฯ แบบสบาย ๆ เที่ยวได้ทั้งครอบครัวอีกต่างหาก เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับคนที่อยากพักผ่อนกับวันหยุดสั้น ๆ ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวสมุทรสาครตามนี้เลย
1. ตลาดน้ำริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์
          ตลาดน้ำใกล้กรุงเทพฯ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก อยู่ติดกับศาลพันท้ายนรสิงห์ เป็นแหล่งเลือกซื้ออาหารท้องถิ่น ขนมหวานโบราณ และพืชผัก-ผลไม้ไทยสดใหม่ รวมทั้งอาหารทะเล และของที่ระลึกน่ารัก ๆ จากชุมชน มีทั้งโซนในอาคารหลังคาสูงโปร่ง กว้างขวาง และโซนซุ้มไม้ไผ่ บรรยากาศร่มรื่น ทำให้สามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้แบบเพลิน ๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกัน ทางเดินปูน สะดวกสบายสำหรับเด็ก ๆ คนชรา และผู้พิการ

          ที่ตั้ง : ใกล้กับศาลพันท้ายนรสิงห์ หมู่ 3 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์

2. ศาลพันท้ายนรสิงห์
          สถานที่สำคัญของเมืองสมุทรสาคร มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยเป็นสถานที่ประหารชีวิตของพันท้ายนรสิงห์ นายท้ายเรือในรัชสมัยพระเจ้าเสือ หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ดั้งเดิมนั้นเป็นเพียงศาลไม้ธรรมดา แต่ต่อมามีผู้ใจบุญได้ร่วมกันถวายปัจจัยในการก่อสร้างศาลขึ้นใหม่ และปรับปรุงสถานที่โดยรอบให้สวยงาม ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ดูเย็นตา น่าเที่ยวชม ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากราบไหว้ขอพรมากมาย ด้วยศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อพันท้ายนรสิงห์

          ที่ตั้ง : หมู่ 3 วัดศาลพ้นท้ายนรสิงห์ ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          เว็บไซต์ : sanpantainorasing.org

3. ตลาดน้ำคลองสนามไชย
          ตลาดน้ำแห่งใหม่ริมคลองสนามชัย ในตำบลพันท้ายนรสิงห์ ตัวตลาดทำเป็นอาคารสูงโปร่ง มุงจาก ให้บรรยากาศแบบพื้นบ้าน แม่ค้าพ่อค้าเป็นคนในชุมชน ร่วมใจกันแต่งกายด้วยชุดไทยสวยงาม น่ารัก ดูอบอุ่น ภายในตลาดมีร้านค้ามากมาย จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งอาหารคาว ขนมหวาน เครื่องดื่ม ผัก-ผลไม้ท้องถิ่น อาหารทะเล สินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึก ราคาไม่แพง และทุกวันอาทิตย์ยังมีการแสดงจากเยาวชนให้ได้ชมด้วย

          ที่ตั้ง : 9/97 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำคลองสนามไชย


4. สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์
          สวนน้ำใกล้กรุงเทพฯ ที่มีบรรยากาศเป็นกันเอง เต็มไปด้วยเครื่องเล่นทางน้ำสนุก ๆ มากมาย โดยมีคอนเซ็ปต์ คือ Jurassic Water Park สนุกสนานกับสายน้ำไปกับไดโนเสาร์หลายสิบตัว แบ่งเป็นโซนเด็ก โซนผู้ใหญ่ชัดเจน อีกทั้งยังจะจัดงานคอนเสิร์ตสนุก ๆ อยู่เรื่อย ๆ เปียกกันให้ชุ่มฉ่ำ เต้นกันให้ยับไปเลย

          ที่ตั้ง : 9/9 หมู่ที่ 3 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (ปิดวันพุธ) วันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี และศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : สวนน้ำพันท้ายนรสิงห์


5. ศาลาพระกลางน้ำ
          มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ศาลาพุทธมหาสมุทร ตั้งอยู่กลางทะเล ใกล้กับชายฝั่งตำบลพันท้ายนรสิงห์ เป็นศาลาทรงไทย ด้านในประดิษฐานพระพุทธมหาสมุทร ไม่มีทางเดินเชื่อมถึง เพราะก่อนหน้าที่จะนำพระพุทธมหาสมุทรขึ้นไปประดิษฐานนั้นได้เกิดภัยพิบัติหลายครั้งทำให้สะพานพังทลายลงมา แต่ปัจจุบันเกิดภัยพิบัติน้อยลง ชาวบ้านต่างก็นั่งเรือไปกราบไหว้ขอพรพระกลางน้ำกันเป็นประจำ นักท่องเที่ยวก็สามารถนั่งเรือไปได้เช่นกัน สามารถติดต่อเรือได้ที่ร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง

          ที่ตั้ง : ชายทะเลในตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน

เที่ยวสมุทรสาคร
6. สะพานไม้สายรุ้ง ชายทะเลกาหลง
          สะพานไม้ที่ยอดยาวเข้าไปกลางทะเลอ่าวไทยจากบริเวณตำบลกาหลง โดดเด่นด้วยการทาสีให้เป็นสีรุ้งสดใสน่ารัก เป็นจุดเช็กอิน และจุดถ่ายรูปเก๋ ๆ พร้อมทั้งยังสามารถมาชมวิวได้ทั้งยามเช้า และยามเย็น มีนกทะเลบินงดงาม บรรยากาศเงียบสงบ นอกจากนี้ที่ใกล้ ๆ กัน ก็มีสะพานปูนสีสันน่ารัก ๆ พร้อมทั้งทางเดินศึกษาป่าชายเลนให้ไปเที่ยวชมด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน

เที่ยวสมุทรสาคร
7. สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา และป่าชายเลน
          สะพานไม้ที่ทอดยาวไปในท้องทะเลกว้างใหญ่ สร้างมายาวนานนับสิบปี โดดเด่นด้วยสีแดงสด ตัดกับท้องทะเลและธรรมชาติรอบด้านอย่างชัดเจน มีความยาวราว ๆ 200 เมตร เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ยามเช้าและยามเย็นวิวจะสวยงามมาก ลมทะเลพัดเย็นสบาย ๆ นอกจากนี้ในบางช่วงยังสามารถพบเห็นฝูงปลาโลมาจากบริเวณนี้ได้ด้วย

          ที่ตั้ง : หมู่บ้านประมง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน

เที่ยวสมุทรสาคร
8. บ้านคลองแค คลองตาขำ
          ชุมชนเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยสวนผลไม้ และคลองธรรมชาติสวยใส ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจึงร่วมมือร่วมใจ พัฒนาชุมชน ปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมคลองตาขำให้กลายเป็นสวนน้ำธรรมชาติขนาดเล็ก ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าไปเที่ยว ไปนั่งเล่นพักผ่อนริมคลอง ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย มีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ
         
          ที่ตั้ง : ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
          เฟซบุ๊ก : บ้านคลองแค บ้านแพ้ว


9. หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี
          หมู่บ้านน่าเที่ยวอีกแห่งของสมุทรสาคร เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีการทำเครื่องเบญจรงค์สืบทอดกันมาหลายปี ชาวบ้านในชุมชนจะมีอาชีพทำเครื่องเบญจรงค์เป็นหลัก ซึ่งนักท่องเที่ยวก็จะได้เรียนรู้วิธีการทำเครื่องเบญจรงค์กันอย่างใกล้ชิด และสามารถพูดคุยกับชาวบ้านได้เลย และที่สำคัญยังสามารถลงมือทำเองได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเบญจรงค์หลากหลายรูปแบบและลวดลายให้เลือกซื้อกลับบ้านไปเป็นของที่ระลึกอีกต่างหาก

          ที่ตั้ง : ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน (ควรติดต่อล่วงหน้า)
          เฟซบุ๊ก : หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี

10. นาเกลือ
          อีกหนึ่งจุดเช็กอินห้ามพลาดของสมุทรสาคร ก็คือ นาเกลือ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเมืองริมฝั่งทะเลที่จะมีนาเกลืออยู่ด้วย โดยจุดที่ทำนาเกลือเยอะ ๆ จะอยู่ริมทะเลในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ และตำบลโคกขาม หรือปักหมุดไปที่ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนคนทำนาเกลือก็ได้ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา สามารถเที่ยวชมได้ราว ๆ เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ของทุกปี

          ที่ตั้ง : ตำบลดอนไก่ดี ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด :  เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ของทุกปี

เที่ยวสมุทรสาคร
11. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร
          สถานที่สำคัญอีกแห่งของสมุทรสาคร ตั้งอยู่ที่ตำบลมหาชัย มีลักษณะเป็นอาคารแบบเก๋งจีน เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประมงในจังหวัด โดยก่อนออกเรือเพื่อไปหาปลาทุกครั้งชาวประมงจะต้องไปทำพิธีสักการบูชา ด้านในประดิษฐานเจ้าพ่อวิเชียรโชติ ซึ่งแกะสลักด้วยไม้โพธิ์ ปิดทองคำเปลวบริสุทธิ์สีทองสวยงาม มีความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีการจัดงานแห่เจ้าพ่อหลักเมืองทุกปี

          ที่ตั้ง : ถนนเศรษฐกิจ 1 ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร

12. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวมหาชัย
          ศูนย์ที่ดูแลผืนป่าชายเลน ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเรียกกันว่า ป่าชายเลนอ่าวมหาชัย มีสองฝั่ง คือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก คั่นกลางด้วยแม่น้ำท่าจีน ด้านในมีสะพานไม้ที่ลัดเลาะไปตามป่าชายเลนยาว 1.5 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินชมป่าชายเลน และธรรมชาติรอบ ๆ ได้ โดยจะมีทางเดินเชื่อมออกไปยังท้องทะเล ณ บริเวณนั้นสามารถชมนกทะเลนับพันตัวได้อย่างสวยงาม พร้อมกับภาพของพระอาทิตย์ตกดิน และอากาศเย็นสบาย

          ที่ตั้ง : หมู่ 6 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.

เที่ยวสมุทรสาคร
13. บ้านท่าฉลอม
          ชุมชนเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยแม่น้ำท่าจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจของนักท่องเที่ยวสายฮิปสเตอร์ เพราะที่นี่มีสถานีรถไฟเก่าแก่ อาคารบ้านเรือนยังคงเป็นไม้ จึงเป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ เก๋ ๆ มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านให้ความรู้เกี่ยวกับชุมชน วัดแหลมสุวรรณาราม และมีร้านอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกกินกันจนจุใจ พร้อมทั้งยังสามารถต่อรถไฟไปเที่ยวตลาดร่มหุบได้ด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน

14. วัดท่าไม้
          วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยบุคคลในวงการบันเทิงหลายท่านให้ความศรัทธา มีพระครูปลัดอุเทน สิริสาโร เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ภายในวัดน่าเที่ยวชมด้วยมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม พร้อมด้วยพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญจากทั่วเมืองไทย สถานที่สำคัญภายในวัด เช่น พระอุโบสถมหาปรินิพพาน, พระอุโบสถหลังเก่า, ศาลาการเปรียญ, สมเด็จพระพุฒาจารย์, หลวงปู่ทวด, พระไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง ติสสโร), ศาลาเทวาพิทักษ์, หลวงพ่อยี, ศาลาพระธรรมจักรแก้ว, ศาลาเจ้าแม่กวนอิม, ศาลาพระแม่สิริมหามายา, ศาลากุฏิทรงพรตภิรมย์ภักดี, ศาลาปู่ไวยทัศน์, พระมหาเจดีย์เศรษฐี 9 โกฏิ และอนุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราช เป็นต้น

          ที่ตั้ง :  51 หมู่ 11 ถนนเศรษฐกิจ 1 ซอย 8 ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
          เฟซบุ๊ก : วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร

15. วัดโคกขาม
          วัดประจำตำบลโคกขาม เป็นวัดเก่าแก่ สัญนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ด้วยปรากฏพระอุโบสถและเจดีย์ศิลปะแบบอยุธยา และด้านในของพระอุโบสถหลังเก่านี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงส์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา เล่าลือกันว่าหากใครขออะไรก็จะสมความปรารถนา

          ที่ตั้ง : ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
          เฟซบุ๊ก : วัดโคกขาม จ.สมุทรสาคร

ตั๊กออแกไนท์เมืองสมุทรสาคร รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
นางรำเมืองสมุทรสาครเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
เมืองสมุทรสาครรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
รําบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
ฟ้อนบูชาพญานาคเมืองสมุทรสาคร
รําบวงสรวงพญานาคเมืองสมุทรสาคร
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


160
เอาใจไปพักผ่อน เที่ยวเกาะสีชัง ในแบบฉบับ 2 วัน 1 คืน

เกาะสีชัง 2 วัน 1 คืน เป็นที่เที่ยวชลบุรี และที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ไปเที่ยวได้ง่าย ๆ ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถไปเที่ยวได้ มีธรรมชาติทางท้องทะเลที่สวยงาม พร้อมทั้งที่พักสวย ๆ และร้านอาหารสุดอร่อยมากมายให้ได้ไปสัมผัส

          วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่รู้จะไปเที่ยวพักผ่อนหัวสมองที่ไหนดี ลองมาดูตัวเลือกดี ๆ ทางนี้ไหม...เราจะชวนไปเที่ยวเกาะสีชัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในแบบฉบับ 2 วัน 1 คืน เพราะที่นี่สามารถเดินทางง่ายดาย ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถไปเที่ยวได้ง่าย ๆ อีกทั้งบรรยากาศยังเงียบสงบ มีกิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เหมาะสำหรับการไปเยือนแบบ 2 วัน 1 คืน ที่นี่จะมีที่เที่ยว ร้านอาหาร หรือที่พักอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกัน

          - ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

          สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านบนเกาะสีชังให้ความเคารพนับถืออย่างมาก เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่สำคัญของคนที่นี่ โดยศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่จะตั้งอยู่บนเขาไปทางด้านเหนือของเกาะ มีรถรางให้บริการขึ้นด้านบน หรือถ้าใครแข็งแรงพอ ก็สามารถเดินขึ้นเขาไปได้เลยแบบชิล ๆ ตลอดทางจะมีต้นไม้ร่มเย็น เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะเป็นลักษณะของถ้ำ ดัดแปลงพื้นที่ให้มีสถาปัตยกรรมแบบจีน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้ขอพร

          - มณฑปรอยพระพุทธบาท

          จุดชมวิวเกาะสีชังในมุมสูง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวท้องทะเลได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ตั้งอยู่สูงขึ้นไปจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ และบนยอดเขายังเป็นจุดชมวิวเกาะแบบพาโนรามา

          - พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน

          ถ้าพูดถึงเกาะสีชัง เรามักนึกถึงภาพของสะพานไม้สีขาวที่ทอดยาวลงไปในทะเล ซึ่งนั่นเป็นศาลาริมทะเลเก่าแก่บริเวณพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐานแห่งนี้นี่เอง เดิมทีพระจุฑาธุชราชฐานเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ ตัวอาคารจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างศิลปะแบบไทยและตะวันตก มีการออกแบบอย่างสวยงาม ในบริเวณเดียวกันยังมีสระน้ำ บ่อน้ำ และประภาคารให้เดินเที่ยวชมอีกด้วย

          ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐานเป็นชายหาดท่าวัง และเลยขึ้นไปคือพระตำหนักทรงปั้นหยาที่สร้างขึ้นเป็นเรือนไม้ ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์ และ "วัดอัษฎางคนิมิตร" บนยอดเขา ที่สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานไทย-ตะวันตก ส่วนพระราชวังที่ทำด้วยไม้สักนั้น ได้ถูกรื้อไปก่อสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆในกรุงเทพฯ

        - ช่องเขาขาด

          อยู่บริเวณด้านหลังของเกาะ ถ้ามองจากระยะไกลจะเห็นว่าบริเวณนี้มีลักษณะเป็นช่องโหว่ ชาวบ้านจึงเรียกว่าช่องเขาขาด ในบริเวณนี้มีการสร้างสะพานเลียบหน้าผา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งชมวิวรับลมทะเลเย็น ๆ และชมพระอาทิตย์ตกดินลงทะเลอย่างงดงาม

เกาะสีชัง

          - บ่อน้ำผุด

          บ่อน้ำจืดบนเกาะสีชัง มีด้วยกันทั้งหมด 2 บ่อ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก เป็นแหล่งน้ำจืดที่ชาวบ้านมักจะมาตักไปกินไปใช้ โดยจะแยกกัน คือ บ่อหนึ่งสามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วนอีกบ่อให้นำไปใช้ในการอุปโภคบริโภค

          - ท่ายายทิม

          หาดทรายเล็ก ๆ อยู่บริเวณด้านหลังเกาะ บริเวณชายหาดจะมีหินเล็กหินน้อยตั้งอยู่สลับกับผืนทราย น้ำทะเลบริเวณนี้จะเป็นสีขาวใสแจ๋ว บรรยากาศเงียบสงบมาก ๆ เพราะนักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยนิยมมากันเท่าไร ด้วยการเดินทางจะลำบากเล็กน้อย ต้องใช้วิธีเดินหรือปั่นจักรยานเข้ามา รถสกายแล็บยังไม่สามารถเข้ามาได้

          - หาดถ้ำเขาพัง

          ชายหาดที่สวยงามของเกาะสีชัง มีลักษณะเป็นชายหาดกว้างและสะอาด หาดทรายเป็นเม็ดเล็ก ๆ เนียนละเอียด น้ำทะเลในจุดนี้จะใสสวยงาม สามารถลงเล่นน้ำได้ ยามเย็นจะมีร้านอาหารริมชายหาดให้บริการ

เกาะสีชัง

          - แหลมจักรพงษ์
 
          แหลมเล็ก ๆ ตั้งอยู่แถว ๆ กลางเกาะสีชัง ไม่ไกลจากหาดถ้ำพังมากนัก มีการสร้างถนนคอนกรีตอย่างดีไปสู่แหลมจักรพงษ์ โดยบริเวณแหลมจะมีลักษณะเป็นหน้าผาหิน มีทุ่งหญ้าสีเขียวขจีสวยงาม มีศาลาพักร้อนตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมอีกด้วย

          - วัดถ้ำยายปริก

          ศาสนสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง ตั้งอยู่บนเชิงเขา มีสถานที่สำคัญภายในวัด เช่น ถ้ำยายปริก, สถูปสังเวชนียสถาน, พระอุโบสถ, หอระฆัง เป็นต้น โดยจากด้านบนวัดยังสามารถที่จะชมวิวเกาะสีชังได้ในมุมสูงอีกด้วย

          - พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน

          พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับทะเล มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติบริเวณหมู่เกาะสีชัง มีการจัดนิทรรศการแบ่งออกเป็น 10 โซน เน้นงานวิจัยด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ทางทะเลของสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ โดยจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณหมู่เกาะสีชัง เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.


ที่พักเกาะสีชัง

          - ปารี ฮัท รีสอร์ท (Paree Hut Resort)

          ที่พักบรรยากาศสุดเลิศของเกาะสีชัง ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาทางด้านหลังเกาะสีชัง บรรยากาศโดยรอบรีสอร์ตจะเงียบสงบ บ้านพักแต่ละหลังสร้างขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ จึงดูกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ภายในที่พักเต็มไปด้วยความสะดวกครบครัน ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ให้บรรยากาศที่ดูผ่อนคลาย ไม่ว่าจะยามตื่นหรือก่อนนอนที่นี่ก็ดูสวยงาม เงียบสงบและน่าพักผ่อนมาก ๆ

          โทรศัพท์ : 08 7903 4300
          เว็บไซต์ : pareehut.com
          เฟซบุ๊ก : PareeHut Resort Koh Sichang ปารีฮัท เกาะสีชัง

เกาะสีชัง

          - ซัมแวร์ เกาะสีชัง (Somewhere Koh Sichang)

          ที่พักสไตล์บูทีค ที่ออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยการใช้โทนสีขาวและสีฟ้าน้ำเงิน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศทะเลแบบสุด ๆ ภายในที่พักมีบรรยากาศผ่อนคลาย โปร่งโล่งสบาย เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักบางห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลอันสวยงาม ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแน่นอน และยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเกาะสีชังอีกด้วย

          โทรศัพท์ : 0 3810 9400
          เว็บไซต์ : somewherehotel.com
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Cape & Kantary Hotels

          - พวงพยอมรีสอร์ท

          ที่พักเล็ก ๆ สุดอบอุ่น ตกแต่งอย่างน่ารัก ด้วยการใช้สีสันมาช่วยเติมแต่งบรรยากาศให้ดูสดชื่น ผ่อนคลาย บ้านพักแต่ละหลังมีความเป็นส่วนตัว ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บรรยากาศโดยรอบรีสอร์ตเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน

          ราคา : สอบถามได้โดยตรงจากทางรีสอร์ต
          โทรศัพท์ : 08 6162 4656
          เฟซบุ๊ก : ที่พักเกาะสีชัง พวงพยอมรีสอร์ท เกาะสีชัง

         +++ ดูข้อมูลเกี่ยวกับที่พักเกาะสีชังเพิ่มเติมได้ที่ 12 ที่พักเกาะสีชัง นอนเช็กอินเก๋ ๆ ราคาไม่เกิน 1,200 บาท

ร้านอาหารเกาะสีชัง

          - ครัวไอทะเล

          ร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง บรรยากาศเย็นสบาย เปิดโล่งผ่อนคลาย มีวิวทะเลให้ได้ชมแบบไกลสุดลูกหูลูกตา แน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้เด่นเพียงแค่บรรยากาศเท่านั้น แต่รสชาติอาหารยังอร่อยกินขาดอีกด้วย เพราะทางร้านจะเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพดี คัดสรรแต่อาหารทะเลที่สดใหม่ และไซซ์บิ๊กเบิ้ม นำมาทำความสะอาดและปรุงรสอย่างดี จนกลายเป็นเมนูสุดอร่อย จัดจ้าน รสชาติเข้มข้น ถูกปากคนไทยแน่นอน

          เวลาเปิด-ปิด : 10.00-20.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 7744 4923
          เฟซบุ๊ก : ครัวไอทะเล
          - FlowerBlue Coffee & Bistro

          เกาะสีชังไม่ได้มีเพียงแค่ร้านอาหารทะเลเด็ด ๆ เท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีร้านกาแฟสุดชิล ให้ได้ไปนั่งจิบกาแฟอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย FlowerBlue Coffee & Bistro เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศโดยรอบจึงผ่อนคลายสดชื่น น่ามานั่งพักผ่อน และนอกจากกาแฟและเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่ทางร้านมีบริการแล้ว ที่นี่ก็ยังมีของหวานสุดอร่อย พร้อมเมนูอาหารว่างที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย

          เวลาเปิด-ปิด : 08.00-21.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 1305 5544
          เฟซบุ๊ก :  FlowerBlue Coffee & Bistro

         - ป้าหน่อยทะเลเผา

         ร้านอาหารทะเลสด ๆ บนเกาะสีชัง ยิ่งตกดึกคนยิ่งเยอะ ด้วยเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความอร่อย และอาหารทะเลที่ทั้งสดและสะอาด ไม่ว่าจะเป็นหมึกไข่ทอด กระเทียมไข่แน่น ๆ ยำแมงกะพรุนเนื้อกรอบ ไข่ตุ๋นหม้อไฟทะเล กุ้งอบวุ้นเส้น และเมนูอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย รสชาติเยี่ยม ชนิดที่เรียกว่าไม่ทำให้คนกินต้องผิดหวัง แถมยังจะกลับมาอุดหนุนอีกรอบแน่นอนเลยทีเดียว

         เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
         เบอร์โทรศัพท์ : 080 017 8707
         เฟซบุ๊ก : ร้านอาหาร ป้าหน่อย ทะเลเผา

          - โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายบางนา-ตราด ไปจนถึงบางแสน เมื่อถึงหาดบางแสนให้ตรงไปยังโรบินสัน ศรีราชา สังเกตป้ายบอกทางท่าเรือเกาะสีชัง หรือมีชื่อเรียกว่าท่าเรือเกาะลอย นักท่องเที่ยวต้องจอดรถยนต์ไว้ที่นี่ แล้วนั่งเรือข้ามไปยังเกาะสีชัง

          -โดยรถโดยสารประจำทาง มีรถตู้ให้บริการอยู่ที่สถานีเอกมัย เส้นทางกรุงเทพฯ-ศรีราชา ให้สอบถามรถตู้ว่าเข้าไปส่งที่ท่าเรือเกาะลอยหรือไม่ ถ้าไม่เข้าไปให้ลงตรงโรบินสัน ศรีราชา ข้ามฝั่งมาฝั่งเดียวกับห้าง แล้วจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปที่ท่าเรือเกาะลอย

          - จากท่าเรือเกาะลอย มีเรือโดยสารประจำทางให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว ก็มีสปีดโบ๊ทให้บริการ

          - การเดินทางในเกาะสีชัง บนเกาะสีชังจะมีทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถจักรยาน ให้นักท่องเที่ยวได้เช่าขี่รอบ ๆ เกาะ หรือจะใช้บริการรถสกายแล็บ ซึ่งเป็นรถคล้าย ๆ รถตุุ๊ก ๆ ก็ได้เช่นกัน

          เกาะสีชัง เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ การเที่ยวในแบบ 2 วัน 1 คืน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ลางานได้ไม่กี่วัน หรือมีวันว่างเฉพาะเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น และยังเดินทางได้ง่ายดาย ใช้เวลาจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ใครที่กำลังอยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากเห็นวิวท้องทะเลและเส้นขอบฟ้าสุดกว้างใหญ่แทนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เกาะสีชังก็ถือได้ว่าเป็นที่เที่ยวที่ดีไม่ใช่เล่นเลยล่ะ :)
ตั๊กออแกไนท์เกาะสีชังรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเกาะสีชัง
นางรำเกาะสีชังเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเกาะสีชัง
เกาะสีชังรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเกาะสีชัง
รําบวงสรวงพญานาคเกาะสีชัง
ฟ้อนบูชาพญานาคเกาะสีชัง
รําบวงสรวงพญานาคเกาะสีชัง
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


161
11 ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต มาถึงถิ่น ต้องจัดให้ครบ

 ที่เที่ยวสัตหีบ ชลบุรี หลากหลายบรรยากาศ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างทะเล และที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ สัตหีบมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ลองเข้ามาดูกัน

          สัตหีบ อำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดชลบุรี ที่รวยเสน่ห์ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล มีทั้งชายหาด เกาะแก่งต่าง ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะมาเที่ยวพักผ่อนชิล ๆ เช่นเดียวกับกระทู้ "10 ที่เที่ยวสัตหีบน่าไปเยือน อำเภอเล็ก ๆ แต่น่ารัก" ที่เราได้แนะนำที่เที่ยวสัตหีบไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะพาไปรู้จักที่เที่ยวสัตหีบที่อื่น ๆ กันบ้าง ทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สวนน้ำ และสวนสนุก เหล่านี้ล้วนแล้วแต่คอยสร้างความสุขและความสนุกตลอดช่วงเวลาที่คุณพักผ่อนอยู่ที่สัตหีบ

1. หาดนางรำและหาดนางรอง

ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต


          มีลักษณะเป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องกัน หาดสวย น้ำใส โดย "หาดนางรำ" เป็นหาดที่คึกคักด้วยบรรยากาศของนักท่องเที่ยว ด้วยเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ พร้อมด้วยกิจกรรมเล่นน้ำอีกเพียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ระหว่างหาดนางรำและหาดนางรองมีรูปปั้นพระอภัยมณีและผีเสื้อสมุทร สามารถเดินทะลุระหว่าง 2 หาดได้

         ขณะที่ "หาดนางรอง" ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นชายหาดที่อยู่ติดกัน แต่บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งด้านความร่มรื่น ความเป็นธรรมชาติ และความเป็นส่วนตัว อยู่ที่ว่านักท่องเที่ยวชอบสไตล์แบบไหนก็เลือกไปชิลที่หาดนั้นได้เลย

2. หาดบางเสร่

ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต

          ชายหาดที่กำลังเป็นที่นิยมของสัตหีบ ที่นี่คุณจะได้พบกับความสงบ ด้วยเพราะหาดบางเสร่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีที่พักและรีสอร์ทไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านบางเสร่ แล้วแวะทานอาหารทะเลสด ๆ ซึ่งทุกวันจะมีเรือประมงมาเทียบท่า นำกุ้ง หอย ปู ปลามาให้พ่อค้าแม่ค้าได้ซื้อหาทุกวัน จึงรับประกันความสดใหม่ได้เลย

3. อ่าวดงตาล

ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต

          ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหาดที่มีกิจกรรมมากมาย และมีธรรมชาติที่งดงาม ที่เห็นได้เด่นชัดคือ "ทิวต้นตาล" ที่เรียงตัวหนาแน่นกลายเป็นสัญลักษณ์ของหาดนี้ บรรยากาศเงียบสงบ ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว พลาดไม่ได้กับกิจกรรมการเล่นเรือใบ ทุกวันจะมีการเรียนการสอนเรือใบอีกด้วย หาดทรายและน้ำทะเลที่นี่ก็สวยงาม สามารถพาเด็ก ๆ มาลงเล่นน้ำได้อย่างไร้กังวล จึงเป็นอีกหนึ่งหาดของอำเภอสัตหีบที่ได้รับความนิยมมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด

4. สวนนงนุช

ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต


          หนึ่งในสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของสัตหีบ ภายในประกอบด้วยบ้านทรงไทย สวนดอกไม้ ไม้ประดับนานาชนิด มาเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับสีสันของธรรมชาติ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยว ทั้งการบริการเรือชนิดต่าง ๆ ให้เช่าพาย เยี่ยมชมความน่ารักของสัตว์เลี้ยง ชมศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม การฟ้อนรำพื้นบ้าน การแสดงช้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้รู้สึกประทับใจเมื่อมาเที่ยวชมความงดงามทั้งหมดของสวนแห่งนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ nongnoochtropicalgarden.com หรือโทรศัพท์ 038 238 061-63, 087 488 0028, 061 647 7088

5. Minosa Pattaya

มิโมซ่า

          แหล่งช้อปปิ้ง เดินเล่น ที่จำลองแบบเมือง Colmar (โกลมาร์) เมืองชนบทใกล้ชายแดนประเทศฝรั่งเศส-เยอรมนี และเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมสีสันสดใส และโอบล้อมด้วยบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก พลาดไม่ได้กับการชม Mimosa Show การแสดงคาบาเรต์โชว์บนลานน้ำพุ รวมถึงเดินเล่นและกินอาหารอร่อย ๆ เพราะที่นี่อัดแน่นทั้งร้านอาหารไทย อาหารนานาชาติ และร้านขนมหวานอร่อย ๆ ที่พร้อมให้บริการอย่างครบครัน รับรองว่ามาที่นี่ได้รับแต่ความสุขและสนุกอย่างแน่นอน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ mimosa-pattaya.com หรือโทรศัพท์ 038 237 318

6. สวนน้ำ Cartoon Network Amazone
 
          สวนน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 35 ไร่ ใกล้หาดบางเสร่ ภายในสวนน้ำจำลองบรรยากาศป่าฝนอเมซอน ที่พร้อมสร้างความสนุกสนานร่วมกับบรรดากองทัพการ์ตูนฮีโร่จากซีรีส์การ์ตูนดังมากมาย เช่น Ben 10, The Powerpuff Girls, Johnny Bravo และ The Amazing World of Gumball เป็นต้น และสนุกไปกับเครื่องเล่นนานาชนิด ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีการจำลองให้เหมือนคลื่นทะเล สไลเดอร์สปีดเรซซิ่ง ล่องแพ เครื่องเล่นป้อมปราการน้ำในระบบอินเตอร์แอ็คทีฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ cartoonnetworkamazone.com หรือโทรศัพท์ 033 004 999

7. ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค

ที่เที่ยวสัตหีบสุดฮอต

          แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งของอำเภอสัตหีบ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในไร่ เช่น การขี่รถ ATV เพื่อสัมผัสบรรยากาศไร่องุ่นอย่างใกล้ชิด และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถม้า ขี่จักรยานเสือภูเขา นั่งช้างชมบรรยากาศรอบ ๆ ไร่ รวมถึงการดื่มด่ำบรรยากาศที่สวยงามของพระอาทิตย์ตกดิน นอกเหนือจากการได้ชื่นชมวิวสวย ๆ แล้ว ทางไร่ยังมีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว บรรยากาศดีเยี่ยม มองวิวสวย ๆ ได้สุดสายตา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Silverlake - Pattaya, Thailand หรือโทรศัพท์ 087 079 9922

8. Swiss Sheep Farm Pattaya

          หนึ่งในสถานที่พักผ่อนชิล ๆ ที่สัตหีบ นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับน้องแกะน่ารัก ๆ เหมาะเป็นที่เที่ยวพักผ่อนสำหรับทุกคนในครอบครัว สนุกไปกับการขี่ม้า ชมวิว เลี้ยงแกะท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม นอกจากนี้ใครที่รักการช้อปปิ้ง Swiss Sheep Farm Pattaya ยังมีร้านค้าหลายประเภทให้คุณเข้าเลือกชมเลือกซื้อหา และสำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับบรรยากาศให้มากขึ้น ที่นี่ก็ยังมีบริการห้องพักหลากหลายสไตล์ แถมแต่ละห้องตกแต่งได้อย่างสวยงามและน่ารักลงตัวทุกกระเบียดนิ้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Swiss Sheep Farm Pattaya

9. สวนน้ำรามายณะ

          สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หรือเทียบเท่ากับสนามเทนนิส 700 สนาม ภายในสวนน้ำออกแบบและก่อสร้างด้วยมาตรฐานระดับนานาชาติ ภายในสวนน้ำมีเครื่องเล่นรุ่นล่าสุดที่จะมาสร้างความตื่นเต้นให้ทุกคนในครอบครัว ซึ่งเครื่องเล่นจะใช้เรื่องราวของรามเกียรติ์เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบ ภายใต้บรรยากาศที่สวยงามร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องห่วงในเรื่องของน้ำ เพราะเน้นใส สะอาด คุณภาพระดับเดียวกับน้ำดื่ม และยังเปิดบริการที่พักผ่อนส่วนตัวบนเนินเขา พร้อมเสิร์ฟอาหารที่สุดแสนอร่อยจากร้านอาหาร จนทำให้รู้สึกเต็มอิ่มกับวันหยุดที่แสนพิเศษอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Ramayana Water Park Thailand หรือโทรศัพท์ 033 005 929

10. วัดช่องแสมสาร

          วัดเก่าแก่ของตำบลแสมสาร เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมาเป็นเวลาช้านาน เชื่อกันว่าที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก ใครขอพรสิ่งใดก็ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จไปเสียทุกประการ พลาดไม่ได้กับการลอดโบสถ์พระราหู มีประชาชนมากมายที่มีจิตศรัทธาได้ยินในกิตติศัพท์ เข้ามาลอดโบสถ์พระราหูจากทั่วทุกสารทิศ หลังจากลอดโบสถ์พระราหูเสร็จแล้วอย่าลืมกระซิบที่รูปปั้นหนู ซึ่งมีความเชื่อว่าหนูจะนำข้อความดังกล่าวไปทูลพระพิฆเนศเพื่อดลบันดาลให้สิ่งที่ขอเป็นจริง และไม่ลืมที่จะไหว้พระพุทธรูปท้าวมหาพรหมปางสวัสดิ์ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวอำเภอสัตหีบและใกล้เคียง

11. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

          อยู่บริเวณเขาหมาจอ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ เป็นจุดที่น่าแวะเที่ยวชมเป็นอันดับแรก ก่อนการเดินทางท่องสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่กองทัพเรือสัตหีบ การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ได้อย่างทั่วถึงควรมีเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เริ่มด้วยการสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งอยู่เชิงเขา จากนั้นเดินขึ้นไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่เรียงรายขึ้นไปบนเขา อาคารพิพิธภัณฑ์แต่ละหลังมีชื่อเรียงร้อยกันอย่างไพเราะ สอดคล้องกับการจัดแสดงนิทรรศการ เช่น เทิดพระเกียรติมหาราช, ปวงปราชญ์ร่วมแรงใจ, ใฝ่เรียนรู้ผู้ฉลาด, พิฆาตความไม่ดีที่ประจักษ์ และพิทักษ์ศักยภาพทะเลไทย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ tis-museum.org หรือโทรศัพท์ 038 432 475

          เป็นยังไงบ้างคะ ? กับที่เที่ยวสัตหีบที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ กันในวันนี้ ยังไงลองหาวันหยุดสุดสัปดาห์ว่าง ๆ สักวันสองวัน ลองตระเวนเที่ยวที่เที่ยวเหล่านี้ดูนะคะ แล้วเพื่อน ๆ จะรู้เลยว่าที่สัตหีบยังมีที่เที่ยวดี ๆ ที่น่าสนใจซุกซ่อนอยู่เพียบไปหมด ^ ^

ตั๊กออแกไนท์สัตหีบ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
นางรำ.สัตหีบเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
สัตหีบรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
รําบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
ฟ้อนบูชาพญานาคสัตหีบ
รําบวงสรวงพญานาคสัตหีบ
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


162
8 ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี จัดเต็ม! เมืองทะเล ที่มีมากกว่าทะเล

 ชลบุรี เป็นจังหวัดใหญ่ที่มีเมืองท่องเที่ยวมากมาย แต่ละเมืองก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ในส่วนเสน่ห์ของอำเภอ ศรีราชา นั้นอยู่ที่ความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งขอบอกเลยว่า ไม่ได้มีดีแค่ทะเลอย่างเดียวแน่นอน เราเลยรวมพิกัด 8 ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี แบบจัดเต็ม สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเมืองทะเล ที่มีมากกว่าทะเลกันให้จุใจไปเลย!

อัพเดท 35 ที่เที่ยวชลบุรี 2021 เที่ยวใกล้กรุงเทพ เที่ยวง่ายๆ ในวันหยุด

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี
เมืองทะเล ที่มีมากกว่าทะเล

1. สวนเสือศรีราชา

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

     เปิดตัวด้วยแก๊งน้องเสือ และเพื่อนพ้องทั้งหลายที่ สวนเสือศรีราชา ดินแดนอันเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ทุกคน แม้จะเกิดจากความตั้งใจเดิมที่จะเพาะขยายพันธุ์เสือและจระเข้ แต่ที่นี่กลับไม่ได้มีแค่เสือกับจระเข้อย่างเดียว เพราะเหล่าเพื่อนๆ กระต่าย ช้าง หมู ปลาคราฟ ปลาช่อน ก็ต่างยกขบวนมาให้พวกเราได้ชื่นชมกันแล้ว แถมยังการแสดงของน้องๆ ที่จะมาโชว์ความสามารถพิเศษให้พวกเราได้ดูกันอีกด้วย

🐯 อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ สวนเสือศรีราชา ที่เที่ยวชลบุรี ใกล้กรุงเทพ ที่ไม่ได้มีแค่เสือ !

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

     นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของที่นี่ด้วย เช่น ให้อาหารเสือ และ จระเข้! เราจะได้เปิดประสบการณ์ให้อาหารน้องๆ ในวิธีคล้ายตกปลา โดยใช้เบ็ดหย่อนอาหารลงไป อาจลุ้นระทึกหน่อย แต่ขอรับรองความสนุกและปลอดภัยค่ะ นอกจากนี้ก็สามารถไปเล่นและป้อนนมให้กับเหล่าลูกเสือได้เช่นกันค่ะ บอกเลยว่าทุกคนต้องหลงรักความน่ารักของน้องๆ แน่ๆ 🐯

ที่อยู่ : 341 หมู่ที่ 3 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/TfM24nLBsrpKZrhB6   
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 08.00-17.30 น.
โทร : 0-3829-6556-8
เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/srirachatigerzoo/
 
2. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
 
ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

     เอาใจคนรักสัตว์กันต่อด้วย สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่มีสัตว์ทั้งหมด 300 ชนิด ในพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ มีพันธุ์สัตว์ทั้งในเมืองไทยและจากเมืองนอก ไม่ว่าจะเป็น ช้าง กระทิง ลิง ค่าง ม้าลาย เสือ สิงโต หมี ฮิปโป กวาง และนกอีกหลายสายพันธุ์ ให้ทุกคนได้เห็นวิถีชีวิตและความน่ารักของน้องๆ กันแบบจุใจ นอกจากนี้ตอนนี้ยังมี ขบวนพาเหรดนกเพนกวิน ที่เราจะได้เห็นน้องๆ ออกมาเดินขบวนพาเหรดกันดุ๊กดิ๊ก รับรองว่าทุกคนจะต้องอารมณ์ดีกับความน่ารักของน้องๆ แน่นอนค่ะ 🐧

🐯 อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่เที่ยวชลบุรี One Day Trip

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

ที่อยู่ : 235 หมู่ 7 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/LNvZD5gCXNLzAXej9
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
โทร : 0-3831-8444
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/kkopenzoo

3. J Park ศรีราชา

     สำหรับคนที่คิดถึงการไปเที่ยวญี่ปุ่นม๊ากมากกก แนะนำให้มาเที่ยวแก้ขัดที่ J Park ศรีราชา คอมมิวนิตี้มอลในย่าน Little Osaka ที่ยกเอาเมืองญี่ปุ่นขนาดย่อมๆ มาไว้ในที่เดียว ทำให้พวกเราได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นแจแปน ได้ถ่ายรูปมุมสวยๆ และลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ เหมือนกับได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นจริงๆ

     ที่มาของชื่อ Little Osaka มาจากการที่เมืองศรีราชาถือเป็นหนึ่งในเมืองท่าที่สำคัญในเมืองไทย และเป็นที่ที่มีชาวญี่ปุ่นมาอาศัยและทำงานเป็นจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดเป็นย่านเล็กๆ ที่ให้ฟีลเหมือนญี่ปุ่น ซึ่งเสน่ห์ของย่านนี้อยู่ในช่วงค่ำคืนเป็นต้นไป เพราะจะมีร้านอาหาร ร้านค้า และคาราโอเกะ ที่มีฟีลคล้ายถนนคนเดินที่โอโซก้า ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นๆ แบบไม่ต้องบินไปไหนไกลเลยค่ะ

ที่อยู่ : 1 หมู่ที่ 6 ตําบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/xkfztQxxQkhTJZ556
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
โทร : 0-3833-8444
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/jpark.nihonmura/
 
4. เกาะลอย

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

     ก่อนจะขึ้นเรือไปเที่ยวเกาะสีชัง เราจะพาทุกคนไปที่ เกาะลอย กัน ที่นี่เป็นเกาะขนาดเล็ก อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 500 เมตร มี สวนสาธารณะ สวนเต่าทะเล และ วัดเกาะลอย ศรีมหาราชา ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้ เจ้าแม้กวนอิมทองคำ และ หลวงพ่อทันใจ บนเกาะมีบรรยากาศร่มรื่น เป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนที่คนศรีราชาและนักท่องเที่ยวนิยมมากันค่ะ
ที่อยู่ : เกาะลอยศรีราชา ตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/n5eDWCrJg6dWxSd58 
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 7.00-20.00 น.
โทร : 0-3832-7888
เว็บไซต์ : -

5. เกาะสีชัง

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

     เกาะสีชัง เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากฝั่ง ศรีราชา ประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เช่น ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะให้ความเคารพนับถือ พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชฐานที่ประทับในฤดูร้อนของรัชกาลที่ 5 และ มณฑปรอยพระพุทธบาท ที่รัชกาลที่ 5 ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี ช่องเขาขาด ที่ให้นักท่องเที่ยวเดินชมวิวทิวทัศน์บนสะพาน และ หาดหินกลม ที่เคยเป็นพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 ด้วยเช่นกันค่ะ

🌤 อ่านรีวิวเต็มๆ ได้ที่ ปักหมุด เที่ยวใกล้กรุงเทพ เกาะสีชัง 2 วัน 1 คืน 9 ที่เที่ยว ต้องห้ามพลาด !

ที่อยู่ : ท่าเทววงษ์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/GDnjSuEeyX87wnXY8   
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 8.00-18.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
 
6. อ่างเก็บน้ำบางพระ
 
ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

ARNON1995 / Shutterstock.com

     เปลี่ยนบรรยากาศจากทะเล มาเที่ยว อ่างเก็บน้ำบางพระ แหล่งเก็บน้ำจากเทือกเขาเขียวที่รวบรวม น้ำจาก ห้วยสุครีพ ห้วยวังหิน ห้วยกลุ่ม และ ห้วยปราบ ลอมรอบด้วยป่าละเมาะที่มีสัตว์ป่ากว่า 130 ชนิดอาศัยอยู่ บรรยากาศรอบๆ ร่มรื่น มีถนนสวยๆ ให้ได้ขับรถกินลมชมวิว และสามารถลงไปเล่นน้ำ พายเรือคายัค ส่องนก ตกปลากันได้ด้วยค่ะ
🌤 อ่านรีวิวเต็มๆ ได้ที่ ขับรถเที่ยว ชมวิวสุดโรแมนติก ที่ อ่างเก็บน้ำบางพระ ชลบุรี

ที่อยู่ : อ่างเก็บน้ำบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/yShKgYmHNJgexuAQ6
เปิดให้เข้าชม : -
โทร : -
เว็บไซต์ : -
 
7. อ่าวอุดม

ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี

     อ่าวอุดม ตั้งอยู่ตรงชายฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทย เป็นชุมชนเก่า ที่มีทั้งคนท้องถิ่นและชาวจีนที่มาโล้สำเภา ตั้งรกรากอยู่กันเป็นกงสี ซึ่งทุกวันนี้ก็มีตลาดและศาสนถานต่างๆ ที่สะท้อนถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนหลงเหลืออยู่ เช่น ตลาดศรีอ่าวอุดม ศาลเจ้าแม่ทองสุข ศาลเจ้าแม่เซี๊ยะบ้อเนี้ยเนี้ย ศาลเจ้าพ่อโกมินทร์ซำเทียนไกล่อ่าวอุดม และอื่นๆ นอกจากนี้บริเวณ ก้นอ่าวอุดม ยังมีส่วนของชายหาด และเครื่องออกกำลังกายข้างชายหาด ให้ผู้คนได้ไปเดินเล่น และออกกำลังกายกันได้

ตั๊กออแกไนท์ศรีราชา รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคศรีราชา
นางรำศรีราชาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคศรีราชา
ศรีราชารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคศรีราชา
รําบวงสรวงพญานาคศรีราชา
ฟ้อนบูชาพญานาคศรีราชา
รําบวงสรวงพญานาคศรีราชา
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


163
15 ที่เที่ยวชลบุรี ธรรมชาติดี เกาะสวยที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

ชลบุรี...เมืองแห่งการท่องเที่ยวระดับโลกที่หลากหลายเกินใจคิด เพราะมีทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัด วัง หรือจะไปดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ ผืนไพร และสัตว์ป่าก็มีพร้อม แถมใครชื่นชอบกิจกรรมสนุก ๆ ที่นี่ก็มีพร้อม หรือจะปล่อยใจไปกับโชว์สุดอลังการระดับโลก เดินช้อปปิ้งสุดสนุก มีเพียงชลบุรีเท่านั้นที่จะพาคุณไปพบประสบการณ์ทั้งหมดนั้นได้ โดยวันนี้เราได้รวบรวมเอาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเมืองชลบุรีมาแนะนำกัน

1. วัดใหญ่อินทาราม

          วัดใหญ่อินทาราม เดิมชื่อ "วัดหลวง" เป็นวัดสำคัญเก่าแก่คู่เมืองชลบุรี สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชั้นครูที่งดงามมาก สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงตรัสชมว่า "ฝีมืองามมาก อย่าให้ซ่อมแซมเป็นอันขาด" โดยเฉพะภาพจิตรกรรมฝาผนังเหนือขอบหน้าต่างเป็นภาพเทพชุมนุม ส่วนที่ผนังสองด้านเขียนเรื่องทศชาติชาดก พระเวสสันดรชาดก และยังมีพลับพลาตรีมุข สร้างด้วยไม้ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อสำริดทรงเครื่องกษัตริย์ เรียกกันว่า "หลวงพ่อเฉย" ถ้าเป็นไปได้ควรไปเที่ยวชมวัดนี้ในวันพระ เพราะถ้าเป็นวันธรรมดาต้องติดต่อขอกุญแจโบสถ์จากเจ้าอาวาส นอกจากนี้ยังมีพระนักวิชาการพานำชมและอธิบายให้ความรู้ด้วย

          ที่ตั้ง : อยู่กลางเมืองชลบุรี จากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าตัวเมืองชลฯ ที่สี่แยกเฉลิมไทย เข้าสู่ถนนโพธิ์ทอง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจตน์จำนงค์ วัดอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนถึงสี่แยกตัดกับถนนอัคนิวาต (สี่แยกท่าเกวียน) หน้าวัดมีลานจอดรถกว้างขวาง

          การเดินทาง : ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถขึ้นรถสองแถวสายรอบเมืองชลบุรีได้

          ติดต่อ : โทร. 038 285 397, 081 570 1469 หรือ เฟซบุ๊ก วัดใหญ่อินทาราม พระอารามหลวง ชลบุรี

2. หาดบางแสน

          หาดบางแสน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยมาช้านาน มีถนนตัดเลียบหาดเคียงคู่ไปกับทิวมะพร้าว ถัดเข้าไปมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และที่พักเรียงรายอยู่จำนวนมาก นักท่องเที่ยวนิยมไปนั่งพักผ่อนชมทิวทัศน์ทะเลกันบนเก้าอี้ผ้าใบบนชายหาด พร้อมมีบริการห่วงยางให้เช่าว่ายน้ำ มีเรือบานาน่าโบ๊ท จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด ทุกวันหยุดหาดบางแสนจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นชายหาดขนาดใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด จึงสามารถเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับได้

          บางแสนเริ่มเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 จนถูกขนานนามว่า "บางแสนดินแดนสุขี" มีผู้เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก จนครั้งหนึ่งบางแสนเคยทรุดโทรม ผิดกับปัจจุบันที่ได้รับการดูแลจัดระเบียบอย่างดี จึงกลายเป็นชายหาดที่สะอาดน่าเที่ยวในทุกฤดูกาล โดยหาดบางแสนนี้มีความยาวต่อเนื่องกันถึง 4.5 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือหาดบางแสน เป็นช่วงกลางของหาดและเป็นจุดที่นิยมลงเล่นน้ำกัน ถัดมาคือแหลมแท่น เป็นช่วงเหนือสุดของหาด มีโขดหินสวยงาม ลงเล่นน้ำไม่ได้ และส่วนสุดท้ายคือหาดวอนนภา เป็นชายหาดตอนใต้สุด บรรยากาศเงียบสงบ มีหมู่บ้านประมงพื้นถิ่นเล็ก ๆ กระจายอยู่ห่าง ๆ กัน

          ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรี 14 กิโลเมตร ที่ตำบลแสนสุข แยกขวาจากถนนสุขุมวิท ตรงหลักกิโลเมตร 104 เข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร

          การเดินทาง : ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถขึ้นรถสองแถวได้ที่ตลาดหนองมนเข้าสู่หาดบางแสน มีรถวิ่งตลอดวัน

3. เขาสามมุข

          เขาสามมุข เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงควบคู่กับหาดบางแสน เป็นทั้งที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สามมุขอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นจุดชมวิวบนยอดเขาสูงที่มีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก และชอบออกมาอวดโฉมเพื่อขออาหารกันอยู่ตลอดวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ไปเล่นน้ำที่หาดบางแสน ก่อนกลับบ้านมักจะแวะเที่ยวที่นี่เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่มีร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ อยู่หลายร้าน

          ศาลเจ้าแม่สามมุข เป็นศาลเจ้าจีนที่ตั้งอยู่ภายใต้หลืบผาหิน บริเวณเชิงเขาสามมุขด้านทิศเหนือหันหน้าออกสู่ทะเล โดยย้ายมาจากบริเวณด้านตะวันตกของเขาสามมุข ศาลแห่งนี้มักมีผู้คนแวะมากราบไหว้ขอพรและบนบานกันอยู่เสมอ โดยผู้ที่ได้รับผลสำเร็จตามคำขอจะแก้บนด้วยการจุดประทัดและซื้อสร้อยมุขมา ถวายแด่รูปปั้นเจ้าแม่ นับเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ฮ่องกง และไต้หวัน นิยมปฏิบัติกันมาก ชั้นบนของศาลเจ้าแม่ เป็นวิหารพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ให้สักการะ บริเวณหน้าวิหารมีระเบียงชมวิวทะเลด้วย

          ที่ตั้ง : อยู่บริเวณแหลมสามมุข จากอ่างศิลาไปตามทางหลวงหมายเลข 3134 อีกราว 3 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปเขาสามมุข เลี้ยวขวาไปตามป้ายอีก 1 กิโลเมตร จนถึงศาลเจ้าแม่สามมุข หรือถ้ามาจากหาดบางแสน ใช้ถนนเส้นเลียบหาดมุ่งตรงสู่แหลมแท่น จะมีป้ายบอกทางไปตลอด ห่างจากหาดบางแสนราว ๆ 2 กิโลเมตร

          การเดินทาง : เขาสามมุขไม่มีรถสองแถวผ่าน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก หรือไม่ต้องเช่ารถสองแถวจากตลาดหนองมนให้ไปส่ง แล้วรอรับกลับก็ได้

4. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

          สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นป่าแห่งเดียวของชลบุรี ดำเนินงานโดยองค์การสวนสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้ชมสัตว์มากถึง 300 ชนิด ทั้งสัตว์ของไทยและจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นช้าง กระทิง วัวแดง ฮิปโปโปเตมัส ชะนี ค่าง  ลิงลม (นางอาย) ม้าลาย ยีราฟ นกกระจอกเทศ ไฮยีน่า เสือ สิงโต กวางดาว ละมั่ง แพะภูเขา เลียงผา หมี นกยูง นกกระเรียน นกเงือก ฯลฯ ซึ่งสัตว์ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กว้างขวาง มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นธรรมชาติเหมาะแก่อุปนิสัยของสัตว์นั้น ๆ และสามารถให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังมีบางส่วนอยู่ในกรงเพื่อกันการหลบหนี และเพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยวเอง

          สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 โดยฟื้นฟูสภาพป่าเขาเขียวที่เสื่อมโทรมขึ้นมาใหม่ จากนั้นได้นำสัตว์บางส่วนจากสวนสัตว์ดุสิตมาปล่อยเลี้ยงไว้ตามสภาพธรรมชาติ แล้วเริ่มเปิดให้คนเข้าชมเมื่อปี พ.ศ. 2521 ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ นับเป็นสวนสัตว์เปิดที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลก แบ่งออกเป็นส่วนวิจัยและศึกษาพันธุ์สัตว์ป่าหายาก สวนสัตว์เปิด และส่วนบริการ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือ "สวนนก" ซึ่งสร้างขึ้นด้วยโครงเหล็กขนาดใหญ่คลุมด้วยตาข่าย กินพื้นที่ถึง 5 ไร่ ภายในมีเส้นทางเดินขึ้นไปเนินเขา แล้ววนกลับลงมา ที่นี่มีนกหลายชนิดส่งเสียงร้องและบินไปมาอยู่ทั่วสวน อาทิ นกฟลามิงโก้ นกเขียวคราม นกกางเขนดง นกแต้วแร้ว นกขมิ้น ไก่ฟ้า เป็ดก่า และอื่น ๆ นอกจากนี้ ทุกวันยังมีการจัดกิจกรรมชมสัตว์ในเวลากลางคืน (Night Safari) แก่บุคคลทั่วไปอีกด้วย

          ที่ตั้ง : บริเวณเชิงเขาเขียว ห่างจากตัวเมืองศรีราชาเข้าไป 25 กิโลเมตร

          การเดินทาง

          - รถยนต์ส่วนตัว จากถนนสุขุมวิทบริเวณตลาดบางพระ เดินทางไปตามป้ายบอกทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่มีอยู่อย่างชัดเจนเป็นระยะ ๆ ถนนจะลัดเลาะไปตามขอบอ่างเก็บน้ำบางพระ ผ่านสนามกอล์ฟบางพระ ขึ้นสะพานข้ามทางหลวงหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-พัทยา) จากนั้นตรงต่อไปอีก 7 กิโลเมตร จนถึงปากทางเข้าสวนสัตว์ สามารถขับรถวนภายในสวนสัตว์ และจอดแวะชมตามจุดต่าง ๆ ได้โดยสะดวก

          - รถสองแถว คิวอยู่ในถนนไปอ่างเก็บน้ำบางพระ ตรงข้ามศาลเจ้า จะรอให้คนเต็มหรือจะเหมาไปก็ได้

          เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

          ติดต่อ : โทร. 038 318 444 หรือ kkopenzoo,  เฟซบุ๊ก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว Khao Kheow Open Zoo

5. พัทยา

          พัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำ จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวเริ่มจากทหารอเมริกันได้แวะขึ้นฝั่ง แล้วเช่าบ้านพักตากอากาศที่พัทยาเป็นประจำทุกสัปดาห์ ต่อมาพัทยาจึงได้พัฒนาขึ้นจากหมู่บ้านชายทะเลอันเงียบสงบ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศระดับนานาชาติดังที่ปรากฏในปัจจุบัน

          หาดพัทยา เป็นหาดทรายที่มีความยาวต่อเนื่องประมาณ 3 กิโลเมตรเศษ โดยแบ่งเป็นพัทยาเหนือ พัทยากลาง และพัทยาใต้ โดยที่หาดพัทยาใต้นั้นถือเป็นศูนย์รวมความเจริญและแสงสี ยามค่ำคืนมีการปิดถนนเป็น Walking Street ให้นักท่องเที่ยวเดินช้อปปิ้งได้โดยสะดวก ส่วนบริเวณชายหาดก็ร่มรื่น แถว ๆ หาดพัทยาเหนือเป็นบริเวณที่สงบกว่าส่วนอื่น นักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวนิยมไปเล่นน้ำพักผ่อน หรือเล่นกีฬาทางน้ำต่าง ๆ ส่วนชายหาดพัทยากลางไปถึงพัทยาใต้จะคึกคักคับคั่งกว่า เพราะเป็นย่านธุรกิจ ร้านค้า โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึก และแหล่งบันเทิงครบวงจร

          ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากอำเภอเมืองชลบุรีประมาณ 50 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ 140 กิโลเมตร ช่วงระหว่างอำเภอบางละมุงและอำเภอสัตหีบ

          การเดินทาง

          - รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขุมวิทเข้าสู่เมืองพัทยา มี 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ สุขุมวิท-พัทยาเหนือ (หลักกิโลเมตร 144) สุขุมวิท-พัทยากลาง (หลักกิโลเมตร 145-156) และสุขุมวิท-พัทยาใต้ (หลักกิโลเมตร 147) ทั้งสามสายจะไปพบกันที่ถนนเลียบหาดพัทยา โดยถนนที่ใช้ท่องเที่ยวย่านเมืองพัทยา คือ ถนนนาเกลือ ผ่านหาดวงอมาตย์ ปราสาทสัจธรรม ถนนเลียบชายหาด เป็นวันเวย์ผ่านพัทยาเหนือ พัทยากลาง และพัทยาใต้ ถนนพัทยาสาย 2 จะผ่านแหล่งบันเทิง ที่กิน ที่พักมากมาย ถนนเขาพระบาท เป็นทางไปเที่ยวชมวิวบนเขาพระบาทและต่อไปยังหาดจอมเทียนได้ หรือจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (Motorway) สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา เริ่มต้นจากด่านพระราม 9 ไปออกที่อำเภอบางละมุง แล้วตรงสู่พัทยา ระยะทาง 124 กิโลเมตร

          - รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯ ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย) และสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ มีรถออกตลอดวัน

          - รถไฟ มีสายกรุงเทพฯ-พัทยา-พลูตาหลวง ออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง วันละ 1 เที่ยว เวลา 06.55 น. ถึงสถานีพัทยาเวลา 10.45 น. (รวมเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 40 นาที) สถานีรถไฟพัทยาอยู่นอกเมืองพัทยาเยื้องกับทางเข้าถนนพัทยานอก

          ติดต่อ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา โทร. 038 427 667, 038 428 750, 038 42 3990

6. สวนเสือศรีราชา

          สวนเสือศรีราชา (Sriracha Tiger Zoo) เป็นสถานที่จัดแสดงเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลกว่า 200 ตัว รวมทั้งยังมีจระเข้อีกกว่า 100,000 ตัว และสัตว์อื่น ๆ อีกนานาชนิด นักท่องเที่ยวจะได้ชมการอยู่ร่วมกันของเสือกับหมูและสุนัข มีการแสดงจับจระเข้ การแสดงหมูวิ่งแข่ง ราชินีแมงป่อง ฯลฯ สวนเสือศรีราชาจัดตั้งขึ้นบนพื้นที่กว่า 250 ไร่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2540 โดยดำเนินงานอย่างมีมาตรฐานเพื่อพัฒนาพันธุ์สัตว์ อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และนันทนาการ พร้อมให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

          โดยความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ โชว์ละครสัตว์ "Amazing Circus" เป็นการแสดงความสามารถของสัตว์ ประกอบด้วยการแสดงของเสือโคร่ง หมี ลิงชิมแพนซี โจ๊กเกอร์โชว์ ชมความสามารถของเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลที่สามารถลอดบ่วงไฟ เดินบนสะพานเชือก ทำตามคำสั่งของครูฝึก และอีกหลายความสามารถ โดยโรงละครสัตว์นี้สามารถบรรจุผู้ชมได้มากถึง 1,500 คน

          ที่ตั้ง : เลขที่ 341 หมู่ 3 กิโลเมตร 20 ทางหลวงสาย 7 (ชลบุรี-พัทยาสายใหม่) ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา

          การเดินทาง : อยู่ห่างจากตลาดศรีราชา (ทางไปโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา) ไปตามทางหลวงหมายเลข 3241 ประมาณ 10 กิโลเมตร

          เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

          ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท (ส่วนสูง 140 เซนติเมตรขึ้นไป) เด็ก 100 บาท (ส่วนสูง 100-140 เซนติเมตร) และส่วนสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร เข้าชมฟรี และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 450 บาท (ส่วนสูง 140 เซนติเมตรขึ้นไป) เด็ก 250 บาท (ส่วนสูง 100-140 เซนติเมตร) และส่วนสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร เข้าชมฟรี

          ติดต่อ : โทร. 038 296 556-8, 038 339 111, 038 339 517, 038 338 884 หรือเว็บไซต์ tigerzoo, เฟซบุ๊ก Sriracha Tiger Zoo

7. เกาะล้าน

          เกาะล้าน เป็นเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมานานหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้กับพัทยา จึงเดินทางถึงกันได้โดยสะดวก ตัวเกาะล้านมีความยาว 5 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เจ็ตสกี บานาน่าโบ๊ท โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้านและเกาะเล็ก ๆ โดยรอบ อย่างเกาะครก-เกาะสาก เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก รวมทั้งยังเป็นสถานที่ฝึกเรียนดำน้ำ และแหล่งตกปลาที่สำคัญ

          จุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะล้าน ได้แก่ ท่าหน้าบ้าน เป็นท่าเรือของชุมชนเกาะล้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือเมล์จะไปถึง เมื่อมองย้อนกลับไปยังฝั่งจะเห็นเมืองพัทยาและหาดจอมเทียน ที่มีตึกสูงเรียงรายตลอดแนวชายฝั่ง นับเป็นจุดชมเมืองพัทยาที่สวยงามแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง, หาดแสม เป็นหาดทรายขาวเนียนละเอียดทอดยาวประมาณ 800 เมตร เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่ดี ในอดีตเคยมีการพบแร่ทองคำและเป็นที่มาของชื่อแหลมทอง ทางหัวหาดด้านเหนือมีศาลเจ้าแม่แหลมทองที่ชาวเกาะล้านเคารพสักการะ
 
          ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งออกไปราว 7.5 กิโลเมตร

          การเดินทาง : นั่งเรือโดยสารประมาณ 45 นาที แต่ถ้าเป็นเรือเร็วใช้เวลาเพียง 15 นาที มีเรือโดยสารออกจากท่าพัทยาใต้ไปเกาะล้านทุกวัน และที่เกาะล้านเรือจอดบริเวณท่าหน้าบ้าน หากเดินทางต่อไปชายหาดอื่น สามารถเช่าเรือหางยาวหรือรถรับจ้าง นอกจากนี้ ยังมีบริการเรือเร็วให้เช่าอยู่ทั่วไปตามชายหาดพัทยา อัตราค่าเช่าสามารถแวะเที่ยวได้หลายหาด แล้วแต่จะตกลงกัน

8. เกาะสีชัง

          เกาะสีชัง เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี เป็นที่จอดเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะน่าท่องเที่ยวในบรรยากาศท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ และเป็นพื้นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) รวมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็บไปสู่ จุดท่องเที่ยวต่าง ๆ บนเกาะ

          จุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะสีชัง ได้แก่ "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" ตั้งอยู่บนเขาคยาศิระ ห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ "หาดเขาถ้ำพัง" อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง น้ำใสสะอาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ "ช่องเขาขาด" มีสะพานสำหรับเดินชมวิวทิวทัศน์ จุดดูพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม "พระจุฑาธุชราชฐาน" สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับฤดูร้อน
 
          ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอำเภอศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร

          การเดินทาง : เดินทางโดยเรือเมล์จากศรีราชา ใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือจรินทร์ ถนนเจิมจอมพลในอำเภอศรีราชา มีเรือโดยสารไปเกาะสีชังทุกวัน ระหว่างเวลา 07.00-20.00 น. ออกทุก ๆ ชั่วโมง อัตราค่าโดยสาร คนละ 50 บาท และจากเกาะสีชังกลับเข้าฝั่งศรีราชา มีเรือวิ่งตั้งแต่ 06.00-18.00 น. มีเรือออกทุก ๆ ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เรือสีชังพาเลซ โทร. 0 3821 6276-82 และเรือแสงประทีปบริการ โทร. 038 313 687

9. Underwater World พัทยา

          อันเดอร์วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา (Underwater World Pattaya) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งทำให้ผู้มาเยือนเหมือนกับได้เดินทางดำดิ่งลงสู่ โลกใต้ทะเล โดยเริ่มจากชายฝั่งอันเป็นหาดทรายและแก่งหิน ลงลึกไปยังดงปะการังสีสันสดใส จนถึงท้องทะเลลึก นักท่องเที่ยวจะได้เข้าชมในอุโมงค์ซึ่งสร้างเป็นทางลอดไปในอควาเรียมขนาด ใหญ่ ที่จำลองสภาพแวดล้อมธรรมชาติใต้ทะเลไว้อย่างสวยงามและใกล้ชิด

          อันเดอร์วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา เปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ในเนื้อที่ 12 ไร่ และมีสัตว์น้ำมากกว่า 4,500 ตัว จาก 200 กว่าชนิด โดยจัดแสดงสัตว์น้ำไว้ในอาคารได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ มีการสร้างเป็นอุโมงค์กระจกใสที่ยาวมากกว่า 100 เมตร นับเป็นอุโมงค์กระจกใสที่ยาวที่สุดของเอเชีย มีสัตว์ทะเลหลายชนิดจัดแสดง ตั้งแต่สัตว์ขนาดเล็กอย่างปลาการ์ตูน ม้าน้ำ ไปจนถึงสัตว์อย่างฉลาม กระเบนขนาดใหญ่ และนากเล็กเล็บสั้น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบ่อสัมผัส (Touch Pool) ให้นักท่องเที่ยวจุ่มมือลงไปสัมผัสสัตว์ทะเลที่มีนิสัยเป็นมิตรบางชนิดได้ อย่างปลอดภัย อาทิ ปลาดาว ฉลามกบ ฯลฯ

          ที่ตั้ง : เลขที่ 22/22  หมู่ 11 หลักกิโลเมตร 151 ริมถนนสุขุมวิท ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง (ช่วงจอมเทียน)

          การเดินทาง : ตั้งอยู่ริมถนน สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง

          เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. (เปิดรับนักท่องเที่ยวชุดสุดท้าย 17.30 น.)

          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (ชาวไทย) ราคา 250 บาท, ผู้ใหญ่ (ชาวต่างชาติ) ราคา 450 บาท, เด็ก (ชาวไทย) ราคา 150 บาท, เด็ก(ชาวต่างชาติ) ราคา 250 บาท แต่ถ้าเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร เข้าชมฟรี

          ติดต่อ : โทร. 038 756 877-8 หรือเว็บไซต์ underwaterworldpattaya

10. ปราสาทสัจธรรม

          ปราสาทสัจธรรม (Sanctuary of Truth) ตั้งอยู่ ณ บริเวณอ่าววงพระจันทร์ แหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ ในเนื้อที่  80 ไร่ งดงามด้วย "สถาปัตยกรรมไม้ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก" ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า "วังโบราณ" บ้างก็เรียกตามวัสดุของตัวอาคารว่า "ปราสาทไม้" แต่เจ้าของความคิดและผู้ดำเนินการก่อสร้าง คือ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์  ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ) เรียกอาคารแห่งนี้ว่า "ปราสาทสัจธรรม" โดยเริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2524 จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

          ตัวปราสาทสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต มีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ ตัวปราสาทเป็นทรงจัตุรมุข สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรพิสดาร ทั้งภายนอกและภายใน กล่าวกันว่างามดั่งเทพนฤมิต สะท้อนแนวคิดนามธรรมออกมาตีแผ่เป็นรูปธรรมให้สัมผัสได้ สื่อถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญาตะวันออก

          ที่ตั้ง : เลขที่ 206/2 หมู่ 5 แหลมราชเวช อ่าววงพระจันทร์ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง ห่างจากพัทยาใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร

          การเดินทาง : ทางเข้าอยู่บริเวณซอยนาเกลือ 12 ตรงเข้าไปจนเกือบสุดซอย มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ของปราสาทสัจธรรมอยู่ทางขวามือ

          เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 450 บาท เด็ก (ส่วนสูง 110-140 เซนติเมตร) 225 บาท

          ติดต่อ : โทร. 038 367 229-30 เว็บไซต์ sanctuaryoftrut, เฟซบุ๊ก ปราสาทสัจธรรม พัทยา

11. ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา     

         สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรมไทยกลางใจเมืองพัทยา จำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย และแสดงให้เห็นถึงความผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน 4 ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ และที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งน้ำ สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การค้าขายทางน้ำ ตระการตากับร้านค้าเรือนไทยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ จุดเด่นของเรือนไม้สักของแต่ละภาคที่สังเกตง่าย ๆ คือ หน้าจั่วที่มีลักษณะแตกต่างกัน สำหรับสินค้าทั้ง 4 ภาค จะแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตแต่ละภาค

          ที่ตั้ง : ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท อยู่ห่างจากพัทยาใต้ไปทางสัตหีบ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร (ฝั่งซ้ายมือ) ก่อนถึงป้ายสุดเขตเมืองพัทยา

          เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.

          ติดต่อ : โทร. 038 706 340 หรือ เฟซบุ๊ก Pattaya Floating Market ตลาดน้ำ ๔ ภาค พัทยา, เว็บไซต์ pattayafloatingmarket

 
12. ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค

          ไร่องุ่นของดารา สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ตั้งอยู่ติดกับเขาชีจรรย์ มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 1,200 ไร่ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในยามที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าคือความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างไว้ อย่างลงตัว แสงอาทิตย์สะท้อนผิวน้ำส่องประกายระยิบระยับสีเงินแวววาว นั่นคือที่มาของชื่อ Silver Lake หรือ ทะเลสาบสีเงิน ส่วนภายในไร่มีองุ่นสด องุ่นแปรรูป ไวน์ ร้านอาหาร และบริการรถสำหรับนั่งชมทั่วไร่องุ่น คุณสุพรรษาภูมิใจให้คุณได้บันทึกภาพ และเปิดรับประสบการณ์แห่งความทรงจำที่ไม่อาจลืมได้ที่ไร่องุ่น Silver Lake แห่งนี้

          ความงดงามของไร่องุ่นสุดสายตา อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สะท้อนแสงอาทิตย์เป็นสีเงินแวววาว อันเป็นที่มาของชื่อ "ซิลเวอร์เลค" ทำให้ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกองุ่นซึ่งมีทั้งองุ่น ทานสดและองุ่นสำหรับทำไวน์ โดยไร่องุ่นเป็นของดารารุ่นใหญ่ สุพรรษา เนื่องภิรมย์ นอกจากนี้ ยังมีบ้านพักท่ามกลางธรรมชาติในไร่องุ่นที่มีแห่งเดียวในชลบุรี ให้คุณได้ไปนอนสัมผัสกับธรรมชาติของภูเขา ทะเลสาบ และสวนดอกไม้ที่สวยงาม

          ติดต่อ : สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 261 6565 หรือเว็บไซต์ silverlakevineyard,  เฟซบุ๊ก Silverlake - Pattaya, Thailand

13. Art in Paradise พัทยา

          Art in Paradise พิพิธภัณฑ์ศิลปะเก๋ ๆ ที่รวบรวมเอาภาพวาด 3 มิติ เอาไว้มากกว่า 140 ภาพ บนพื้นที่ประมาณ 5,800 ตารางเมตร โดยมีศิลปินชาวเกาหลีใต้ ชิน แจ ยอล (Shin Jae Yeoul) เป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ ด้วยการเนรมิตพัทยาพัลลาเดียมเก่าให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดอลังการ ชนิดที่ว่าคนรักการถ่ายภาพมาเห็นเป็นต้องแชะภาพแบบนันสต็อปเลยล่ะ นอกจากนี้ ยังแบ่งห้องแสดงภาพออกเป็น 10 ห้องด้วยกัน เพื่อจัดแสดงภาพให้เป็นหมวดหมู่ มีทั้ง ห้องลวงตา, ห้องใต้สมุทร, ห้องสัตว์ป่า, ห้องภาพจิตรกรรมของศิลปินระดับโลก, โถงอารยธรรม, ห้องศิลปะเหนือจริง, ห้องไดโนเสาร์, ห้องน้ำตกสูงชัน, ห้องวิวทิวทัศน์ และสุดท้ายห้องนิทรรศการศิลปะ ที่ตั้งใจเตรียมไว้สำหรับจัดแสดงผลงานทางศิลปะของศิลปินที่สนใจจะเข้าไปใช้ พื้นที่ด้วย

          ภาพทุกภาพในพิพิธภัณฑ์ Art in Paradise ถูกวาดขึ้นบนกำแพงสีขาวในแบบที่ไม่มีตัวช่วยใด ๆ ถ้าเอามือไปสัมผัสจะพบได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในภาพไม่เว้นแม้แต่กรอบรูปคือ สิ่งที่วาดขึ้นมาทั้งหมด แม้กระทั่งบันไดสูงชันที่อาจเผลอก้าวขาขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็เป็นเพียงบันไดภาพ วาดบนพื้นราบเรียบเท่านั้น ที่สำคัญคือนอกจากภาพวาดทั่วไปแล้ว เขายังเอาใจคนไทยด้วยภาพวาดที่แสดงอารยธรรมไทยหลายภาพ โดยเฉพาะภาพสระบัวที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ เป็นภาพที่ดูอบอุ่นและเข้าใจแก่นแท้ของศาสนาพุทธได้ดีทีเดียว

          การเดินทาง : ใครอยากลองไปสัมผัสความอาร์ตที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปพัทยาได้เลย หาไม่ยากแค่เลี้ยวขวาจากถนนสุขุมวิทเข้าพัทยาเหนือ ผ่านหน้าโลตัสและศาลากลางเมืองพัทยา เลี้ยวซ้ายไปทางบิ๊กซีพัทยาเหนือตรงไปอีก 300 เมตร ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ Art in Paradise แล้ว

          เวลาทำการ : โดยเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00-22.30 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชม 21.30 น.)

          ติดต่อ : โทร. 038 424 500 หรือเว็บไซต์ artinparadise, เฟซบุ๊ก Art in Paradise

14. Mimosa Pattaya

          มิโมซ่า พัทยา แหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่สุดน่ารักภายใต้แนวคิด "The City of Love" และบรรจงสร้างสรรค์ทัศนียภาพให้เกิดเป็นเมืองแห่งความรัก โดย Mimosa Pattaya เป็นเมืองที่มีกลิ่นอายสถาปัตยกรรมเมืองโบราณของฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยสีสันสดใส น่ารักน่ามอง บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์แห่งเดียวในเมืองพัทยา แถมยังโอบล้อมด้วยบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติก และหอมหวนไปกับกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมีคลองเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านกลางเมือง มีหงส์คู่ที่ว่ายเวียนวนไปมาให้ได้ชื่นชมกันเพลิน ๆ หรือพิเศษสุด ๆ กับโชว์สุดอลังการ ที่น่าประทับใจ ณ ลานน้ำพุดนตรี ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนมาสร้างความบันเทิงทุกวัน

          อีกทั้ง Mimosa Pattaya ยังเป็นศูนย์รวมสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งร้านอาหารไทย อาหารนานาชาติหลากหลายชนิด ร้านขนมหวานที่ตกแต่งร้านสไตล์น่ารักน่านั่ง ที่พร้อมให้บริการอย่างครบครัน หรือหากเดินเล่นจนเมื่อยแล้วก็ไปผ่อนคลายสบาย ๆ ด้วยการนวดแผนไทยและการนวดอโรมา ฯลฯ

          ที่ตั้ง : 28/19-20 หมู่ 2 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

          เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

          ติดต่อ : โทร. 038 237 318-9 หรือเว็บไซต์ mimosa-pattaya, เฟซบุ๊ก Mimosa Pattaya

15. สวนนงนุช

          สวนนงนุช (Nong Nooch Tropical Botanical Garden) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด เช่น สวนกล้วยไม้ เฟิร์น สับปะรดสี สวนไม้พุ่มไม้ดัด สวนปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก สวนตะบองเพชรและไม้อวบน้ำ สวนบอนไซ สวนเฟื่องฟ้า สวนโมก สวนน้ำพุ สวนหิน สวนฝรั่ง สวนผีเสื้อ สวนรถไฟจำลอง สโตนเฮนจ์ ฯลฯ พร้อมที่พักเป็นเรือนไม้สักทรงไทย มีห้องประชุมสัมมนา สวนสัตว์ และศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วยการฟ้อนรำพื้นเมือง ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นบ้าน และการแสดงของช้าง

          เดิมพื้นที่สวนนงนุชเคยเป็นสวนผลไม้มาก่อน กระทั่งปี พ.ศ. 2497 คุณพิสิทธิ์และคุณนงนุช ตันสัจจา ได้ซื้อที่ดินบริเวณนี้ไว้ แล้วจัดเป็นสวนให้ประชาชนเข้าชม โดยเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2523 ปัจจุบันนี้สวนนงนุชกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับแนวหน้าในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้าเยี่ยมชมประมาณวันละ 2,000 คน

          ที่ตั้ง : เลขที่ 34/1 หมู่ 7 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

          การเดินทาง : อยู่ห่างจากปากทางเข้าพัทยาใต้ 18 กิโลเมตร โดยแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิท บริเวณกิโลเมตร 163 เข้าไปประมาณ 3.5 กิโลเมตร

          เวลาทำการ : 08.00-18.00 น. ทุกวัน

          ติดต่อ : โทร. 038 238 061-63, 087 488 0028, 061 647 7088 หรือเว็บไซต์ nongnoochtropicalgarden, เฟซบุ๊ก สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya

ตั๊กออแกไนท์หนองใหญ่ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
นางรำหนองใหญ่เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
หนองใหญ่รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
ฟ้อนบูชาพญานาคหนองใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคหนองใหญ่
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            

[img]https://cw.lnwfile.com/_/cw/_raw

164
ตลาดน้ำสามวัง จ.ชลบุรี เที่ยว กิน ช้อป ล่องเรือชมธรรมชาติ

ตลาดน้ำสามวัง จ.ชลบุรี
เที่ยว กิน ช้อป ล่องเรือชมธรรมชาติ

ตลาดน้ำสามวัง ตั้งอยู่ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยเกิดขึ้นจากความร่วมมือของคนในชุมชน ที่มองเห็นว่าพื้นที่เหมาะสมกับทำตลาดน้ำ เพราะมีลำคลองขนาดใหญ่ไหลผ่าน ซึ่งชื่อตลาดน้ำสามวังก็มาจากวังน้ำในคลองสายนี้ คือ วังหิน วังตะเคียน และวังโมก นั่นเอง

ADVERTISEMENT

บรรยากาศในตลาดจะเป็นสไตล์บ้าน ๆ กลิ่นอายชนบท มีซุ้มขายอาหารต่าง ๆ ขนาบไปตลอดแนวทางเดิน อาหารที่จำหน่าย เช่น ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา กุ้งเผา ผัก ผลไม้ และของคาว-หวาน อีกมากมาย เลือกซื้อเสร็จแล้วก็ไปนั่งพักหลบร้อน เอาเท้าแช่น้ำ พร้อมทานอาหารชิลล์ ๆ บนแคร่ไม้ไผ่ริมตลองได้

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีให้บริการล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง หรือจะพายเรือเล่นเองเค้าก็ไม่ว่า หากนั่งเรือไปถึงท้ายคลอง จะเจอวิวทุ่งนา มุมถ่ายรูปสวย ๆ กับเปลญวนไว้นอนรับลมเย็น ๆ ส่วนตอนค่ำ ก็มีบริการล่องเรือชมหิ่งห้อยด้วย

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09:00 น.เป็นต้นไป

อัตราค่าบริการ :
– นั่งเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง คนละ 30 บาท
– นั่งเรือชมหิ่งห้อย (รอบค่ำ) คนละ 50 บาท
– พายเรือ ลำละ 50 บาท

พิกัด : หลังวัดใหม่นาวังหิน ต.นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ห่างจากที่ว่าการอำเภอพนัสนิคมประมาณ 5 กม.
 
ตั๊กออแกไนท์พนัสนิคม รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคพนัสนิคม
นางรำพนัสนิคมเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคพนัสนิคม
พนัสนิคมรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคพนัสนิคม
รําบวงสรวงพญานาคพนัสนิคม
ฟ้อนบูชาพญานาคพนัสนิคม
รําบวงสรวงพญานาคพนัสนิคม
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


165
บ้านบึง / แหล่งท่องเที่ยวอำเภอบ้านบึง
« เมื่อ: กันยายน 03, 2021, 09:22:17 PM »
แหล่งท่องเที่ยวอำเภอบ้านบึง

วัดสันติคาม

วัดนี้มีอายุเกือบ 200 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2389 เล่ากันว่ามีหลวงพ่อทองดี ธุดงค์มาจากจังหวัดนครราชสีมา ได้มาปักกลดบริเวณนี้ ชาวบ้านได้นิมนต์ให้ท่านจำพรรษาที่นี้ โดยได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะขึ้น และตั้งชื่อวัดว่า วัดนพทองดีศรีพฤฒาราม ตามชื่อเดิมของท่าน (นพ ทองดี) แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านเรียกว่าวัดบ้านโป่งตามชื่อตำบล  ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 นอกจากที่นี่จะมีรูปปั้นหลวงพ่อดีแล้ว ยังมีพระอาจารย์ท่านอื่นเช่น หลวงพ่อชมที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้วถึง 13 ปี ก็ตาม แต่ร่างกายก็ไม่เน่าเปื่อย ประชาชนสามารถมาสักการะเพื่อระลึกถึงคุณความดีของท่านได้

วัดนี้ตั้งเมื่อวันที่ 31 กันยายน พ.ศ. 2521 เดิมมีชื่อว่าวัดบ้านแกรก ตามชื่อของพระยาแกรกที่ได้มาซุ่มหลบภัยอยู่ในเขตนี้ในช่วงที่เกิดศึกสงคราม ต่อมากรมการศาสนาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ตามมติมหาเถรสมาคมเป็น วัดสันติคาม ซึ่งหมายถึง หมู่บ้านแห่งความสงบจนถึงปัจจุบันนี้

สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2186 จากผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินให้วัดและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 มีพื้นที่ 29 ไร่ มีประชาชนจากที่ต่างๆ เข้ามากราบไหว้บูชาร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อก้านซึ่งบรรจุอยู่ในโลงแก้วในพระอุโบสถที่ประดับประดาอย่างสวยงามเพื่อระลึกถึงหลวงพ่อก้านหรือพระครูภัทร กิจวิบูล ซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นพระนักพัฒนาและมีเมตตาธรรม ให้ความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากมาตลอด มีลูกศิษย์ทั้งในและต่างประเทศสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2455 โดยหลวงพ่อวินัย สาคร หรือหลวงพ่อสาย เป็นผู้ริเริ่มและเป็นเจ้าอาวาสวัดองค์แรก แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่าวัดนก แต่เปลี่ยนชื่อเพื่อให้คล้องกับวัดหนองเกตุใหญ่ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และมีการบูรณะและพัฒนาจากเจ้าอาวาสรูปต่อๆ มาและ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2521 วัดนี้เป็นที่รู้จักโดยหลวงพ่อสาย จนฺทสโร ได้รับการนับถือในฐานะพระผู้ที่มีอาคมขลัง เชี่ยวชาญในการสร้างเครื่องรางของคลัง เช่น หน้าผากเสือ เหล็กไหล ฯลฯ

วัดถ้ำประทุน

                เป็นวัดป่าปฏิบัติในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตวัดนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ปลีกวิเวก ซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขา 3 ลูก ป่ารกชัฏ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่เงียบสงบเหมาะแก่การเรียนรู้และปฏิบัติธรรม แต่เดิมวัดนี้ชื่อว่า “วัดตรอกซุง” ตามชื่อหมู่บ้านเก่าซึ่งปัจจุบันไม่มีหมู่บ้านนี้แล้ว มีเพียงกุฏิเล็กๆ ชื่อวัดในปัจจุบันเป็นชื่อเรียกของคนในพื้นที่ด้วยหลังคาวัดมีลักษณะคล้ายหลังคาเรือ ซึ่งในภาษาไทยเรียกว่าประทุน จึงเปลี่ยนชื่อวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา ในตอนนั้นหลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโรได้เข้ามาพำนักที่วัดโดยมีฐานะเป็นประธานสงฆ์ ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากท่านจะเป็นแม่แบบในการดำเนินแนวทางปฏิบัติที่เน้นการพัฒนาทางด้านจิตใจแล้วท่านยังเป็นผู้ริเริ่มโครงการสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่อีกด้วย จนกระทั่งท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2551 ปัจจุบันพระอธิการยุทธนา อคฺคยุทธโนเจ้าอาวาสของวัดเป็นผู้สานต่อโครงการ

พระมหาเจดีย์อุโบสถ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่อ่อนศรีได้ทิ้งไว้ให้กับรุ่นต่อไป เดิมทีท่านได้ทำสมาธิแล้วเกิดนิมิต เห็นรัศมีแปล่งแสงเสด็จลอยอยู่บริเวณรอบๆ ท่านจึงตระหนักได้ว่าสถานที่นี้คือสถานที่ที่เคยมีพระบรมสารีริกธาตุ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2549 จึงได้มีการเตรียมการสร้างพระเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุจากสมเด็จพระสังฆราชฯ จำนวน 9 องค์

                พรมหาเจดีย์อุโบสถออกแบบมาเป็นพิเศษโดยมีลักษณะเป็น 8 เหลี่ยม ยอดเจดีย์มีลักษณะคล้ายรูปทรงคล้ายพระธาตุพนม จังหวัดสกลนคร ภายในตกแต่งด้วยศิลปะร่วมสมัย มีพระพุทธชินสีห์จำลองประดิษฐานเป็นพระประธาน และมีพระพุทธรูปหลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโรและอัฐิของท่านอยู่ด้วย สำหรับผู้ที่สนใจในธรรมะและต้องการปฏิบัติธรรมสามารถแวะไปที่วัดได้ทุกเวลา สำหรับผู้หญิงจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากแม่ชี ในขณะที่ผู้ชายจะได้รับการดูแลจากพระภิกษุ เจ้าอาวาสจะออกมาสนทนาธรรมทุกวันหลังฉันภัตตาหารเช้า

ก๋วยเตี๊ยวเส้นปลาต้นตำหรับบ้านบึง  ที่อยู่ : 145/30 อาคาร ใต้สะพานแกลง ถนนชลบุรี-บ้านบึง ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง ชลบุรีบ้านคลองหลวง ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี  สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2448 โดยสถาปัตยกรรมจากช่างท้องถื่น ทั้งศาลาการเปรียญไม้เก่าแก่ เสาหงษ์คู่ และปูนปั้นรูปยักษ์ พื้นอุโบสถปูด้วยกระเบื้องกังไสเก่าแก่ของจีน มีหอไตรกลางน้ำสร้างด้วยไม้สัก
ตั๊กออแกไนท์บ้านบึง รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบ้านบึง
นางรำบ้านบึงเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบ้านบึง
บ้านบึงรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบ้านบึง
รําบวงสรวงพญานาคบ้านบึง
ฟ้อนบูชาพญานาคบ้านบึง
รําบวงสรวงพญานาคบ้านบึง
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13 ... 30