This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Messages - admin
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 30
241
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 09:16:40 AM »
รวมที่เที่ยวกรุงเทพฯ หลากหลายรสชาติ
1. Habito Mall
ฮาบิโตะ มอลล์ (Habito Mall) เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ในย่านสุขุมวิท 77 ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป ด้วยการให้ที่นี่เป็นเสมือนดั่งส่วนหนึ่งของชีวิต คุณสามารถที่จะมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ บนพื้นที่แห่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านค้าคุณภาพดีมากมายที่พร้อมให้บริการที่นี่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ Co-Working Space สุดกว้างใหญ่ให้มาปล่อยไอเดียกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะวันไหน ๆ ที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุข
ที่ตั้ง : ถนนสุขุมวิท 77 ซอยอ่อนนุช 1/1 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sansiri.com, เฟซบุ๊ก Habito Mall
2. โครงการป่าในกรุง
อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดได้ที่โครงการป่าในกรุง บริเวณถนนสุขาภิบาล 2 ซึ่งเป็นโครงการของกลุ่ม ปตท. ที่จะพัฒนาและส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง โดยรอบพื้นที่กว่า 12 ไร่ของโครงการนี้ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้พื้นล่าง อาทิ กรวยป่า กระเจียว ขันทองพยาบาท พระเจ้าห้าพระองค์ แคแสด จันทน์ชะมด ชุมแสง ชำมะเลียง เต็งรัง ตะเคียนทอง มะกอกน้ำ มะเม่า สะตือ นุ่น สมพง ยางนา เหียง ฉนวน จัน-อิน สมอไทย ทองพันช่าง เป็นต้น
ทุกต้นได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ทำให้ที่นี่โอบล้อมไปด้วยสีเขียว บรรยากาศเย็นสบาย มีหนองน้ำให้ความเย็นสดชื่น นักท่องเที่ยวจะได้เดินไปบนทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) เพื่อชื่นชมความงดงามโดยรอบพื้นที่และสูดอากาศอันสดชื่น มีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูง พร้อมทั้งอาคารพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้อีกด้วย
ที่ตั้ง : เลขที่ 81 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
โทรศัพท์ : 0 2136 6380
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : pttreforestation.com, เฟซบุ๊ก โครงการป่าในกรุง ปตท.
3. บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand)
บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ พื้นที่ที่จะไม่ปล่อยให้คุณได้ยืนอยู่กับที่นิ่ง ๆ การวิ่งและกระโดดเท่านั้นที่จะทำให้คุณได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ภายในอารีน่าที่มีแทรมโพลีน หรือบอร์ดสปริงเชื่อมต่อกันไปมากว่า 100 ผืน ซึ่งมีสีสันสดใสสวยงาม กระตุ้นอะดรีนาลินในร่างกายให้พุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีกเท่าตัว
กิจกรรมสุดมันที่จะสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบ๊าวซ์ตีลังกาข้ามแทรมโพลีน การเล่นสแลมดังก์ การวิ่งขึ้นกำแพง การแข่งดอดจ์บอล เป็นต้น ใครอยากได้เหงื่อเพราะการออกกำลังกายที่ไม่ซ้ำจำเจ ต้องพุ่งตัวไปที่นี่เลย
ที่ตั้ง : ชั้น 5 ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2014 2446
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : bounceinc.co.th, เฟซบุ๊ก Bounce Thailand
4. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ (Bangkok Planetarium)
กลับมาครั้งใหม่สวยงามอลังการสุด ๆ สำหรับท้องฟ้าจำลอง สถานที่ที่จะทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้สนุกไปกับการเที่ยวในจักรวาลอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะในห้องฉายดาว ที่ได้มีการปรับโฉมใหม่จนไฉไลและน่าทึ่งมาก ๆ โดยมีลักษณะเป็นโดมคล้ายท้องฟ้าจริง สามารถฉายดาวต่าง ๆ รวมทั้งดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลได้อย่างครบถ้วน ผู้ชมจะได้เห็นท้องฟ้าจำลองในรูปแบบที่สวยงามแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีการแสดงมหัศจรรย์แห่งแสงออโรร่า ซึ่งเป็นการแสดงที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแสงออโรร่าหรือแสงเหนือแสงใต้อันงดงามอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นภายในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาแห่งนี้ยังมีนิทรรศการอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ, นิทรรศการไดโนเสาร์, โลกของแมลง, นิทรรศการเมืองเด็ก, นิทรรศการแสงอาทิตย์ เป็นต้น
ที่ตั้ง : 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
โทรศัพท์ : 0 2391 0544, 0 2392 0508, 0 2392 1773
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sciplanet.org, เฟซบุ๊ก ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium
5. โพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok)
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ยิ่งในกรุงเทพฯ อากาศก็ยิ่งร้อนระอุ เพราะฉะนั้นต้องหาที่คลายร้อนกันสักหน่อย ซึ่งโพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ ในการไปสลัดความร้อนออกจากร่างกาย ที่นี่เป็นสวนน้ำกลางกรุงและยังเป็นสวนน้ำลอยฟ้าอีกด้วย เพราะตั้งอยู่บนชั้น 6 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา ครบครันไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด อีกทั้งยังตกแต่งด้วยธีมของการ์ตูนซีรีส์สุดฮิตของเกาหลีอย่างโพโรโระ เพนกวินป่วนก๊วนขั้วโลก (Pororo the Little Penguin) วันหยุดว่าง ๆ ไปเติมความเย็นชุ่มฉ่ำให้ร่างกายบ้างก็ดีไม่ใช่เลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-19.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
ค่าบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 บาท, เด็ก 280 บาท, ผู้สูงอายุ 280 บาท และเด็กต่ำกว่า 90 ซม. ฟรี
โทรศัพท์ : 0 2745 7377
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : pororoaquapark.com, เฟซบุ๊ก Pororo Aquapark BKK
6. ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet)
ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet) ดินแดนสุดตื่นเต้นที่จะพาคุณกลับไปสนุกสนานกับโลกในยุคไดโนเสาร์ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของไดโนเสาร์อย่างตื่นตาตื่นใจ ด้วยการจัดนิทรรศการที่ผสมผสานเทคโนโลยีสุดทันสมัย แบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ Dinosaur District, Stars of Dino, Dino Eye, 4D Deep-World, The Great Volcano & The Extinction Live Show, Raptor X-Treme และ Dino Farm ซึ่งแต่ละโซนจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
ใครอยากชมวิวกรุงเทพฯ สวย ๆ ก็ขึ้นไปบน Dino Eye หรือถ้าต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟก็ต้องไม่พลาดการแสดง The Great Volcano & The Extinction Live Show แนะนำว่าให้เที่ยวชมทุกจุด แล้วคุณจะได้รับความประทับใจแบบสุด ๆ แน่นอน
ที่ตั้ง : สุขุมวิท 22 ดิ เอ็มสเฟียร์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 บาท, เด็ก 400 บาท, เด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี แต่มีค่าบริการ Dino Eye 200 บาท และขี่ไดโนเสาร์ 100 บาท
โทรศัพท์ : 06 3167 6975 , 06 3162 5830
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dinosaurplanet.net, เฟซบุ๊ก Dinosaur Planet
7. เดอะ สตรีท (The Street) รัชดา
เดอะ สตรีท (The Street) แหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิปบนถนนรัชดาภิเษก ศูนย์รวมความสนุกสนานของการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมากิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ออกกำลังกายที่นี่ก็มีหมด พบกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ หลากหลายแบบ ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าแฟชั่นอีกกว่า 200 ร้านให้เลือกเดินช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ไม่ถูกใจก็เดินวนไป รับรองมีแบบที่สวยและโดนใจแน่นอน
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีบ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand) สถานที่ออกกำลังกายสุดชิค ที่จะไม่ทำให้คุณได้อยู่นิ่ง ๆ คุณจะได้ทั้งกระโดดไปมา หรือจะปีนป่ายหน้าผา ก็เลือกเอาตามที่ใจชอบได้เลย ที่สำคัญร้านค้าร้านอาหารบางแห่งยังเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ที่ตั้ง : 139 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. บางร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thestreetratchada.com, เฟซบุ๊ก The Street Ratchada
8. The Commons ทองหล่อ
ไม่ว่าทองหล่อจะวุ่นวายสักแค่ไหน ก็ยังมีที่พักใจสุดเงียบสงบอย่างเดอะ คอมมอนส์ (The Commons) ไว้รอต้อนรับตลอดตั้งแต่เช้าจรดเย็น ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แบบใหม่ ออกแบบให้พื้นที่โปร่งโล่ง และตกแต่งทุกมุมด้วยต้นไม้สีเขียว คล้ายกับเป็นพื้นที่สวนสวย ๆ หลังบ้านที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟสุดอร่อยมากมายให้เลือกเดินชิมลิ้มรส
บรรยากาศโดยทั่วไปจึงดูผ่อนคลาย ไม่วุ่นวาย สามารถมานั่งเล่น นั่งพักผ่อน หรือนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน ถ้าหิวก็แค่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะได้กินอาหารสุดอร่อยมากมายหลากหลายเมนู โอ้ว ! แค่นี้ชีวิตก็แฮปปี้แล้ว ![ยิ้ม :)](https://xn--1-twfr4fvawck5a2fxa3b.com/Smileys/default/smiley.gif)
ที่ตั้ง : 335 ซอยทองหล่อ 17 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-24.00 น.
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก The COMMONS
9. สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market)
สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market) มาร์เกตมอลล์สุดชิคในย่านพระราม 4 แค่ดีไซน์ภายนอกของอาคารก็ทำให้คนกรุงหลงใหลไปไม่น้อย เพราะออกแบบในสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์ ให้มีกลิ่นอายของสถานีรถไฟ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ที่ตั้งของโครงการเคยมีสายรถไฟสายแรกของประเทศไทยอย่างสายปากน้ำวิ่งผ่าน
ภายในโครงการยังออกแบบตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่เก๋ไก๋ โปร่งโล่งน่ามาเดินเล่นพักผ่อนสุด ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ไว้รอต้อนรับมากมาย จะมาเช้า สาย บ่าย เย็นก็เต็มที่กับชีวิตได้เหมือนกัน
ที่ตั้ง : 3654 ถนนพระราม4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-21.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2249 8854
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Suanplern Market - สวนเพลิน มาร์เก็ต
10. ณ กรุงเทเวศร์
ณ กรุงเทเวศร์ เป็นโครงการร้านค้าติดแอร์ และตลาดที่อยู่ท่ามกลางชุมชนเก่าแก่อย่างชุมชนเทเวศร์ ภายในโครงการเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของอดีตในสมัยรัชกาลที่ 6 ด้วยอาคารต่าง ๆ มีสถาปัตยกรรมตามสมัยนั้น รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ก็มีกลิ่นอายของอดีตด้วยเช่นกัน และยังมีต้นไม้ร่มรื่นสีเขียวขจี อากาศเย็นสบาย
เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายแบบ ไล่ไปตั้งแต่ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น และอาหารหลากหลายแบบ ณ กรุงเทเวศร์ จึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ดีของคนกรุงเทพฯ อีกหนึ่งแห่ง
ที่ตั้ง : 164-172 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-10.00 น.
โทรศัพท์ : 09 7009 3604
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก ณ กรุงเทเวศร์
11. เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT)
เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT) แหล่งช้อปปิ้งสุดทันสมัยย่านพระราม 2 ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ออกแบบอาคารให้ความโดดเด่นทันสมัย โปร่งโล่ง น่าเดินเที่ยวพักผ่อน มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถอันกว้างขวาง
ภายในอาคารของเดอะ ไบรท์ จะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ มากมาย จะอาหารไทย หรืออาหารนานาชาติที่นี่ก็มีให้บริการ บริเวณด้านบนของอาคารยังเป็นพื้นที่สวนสีเขียว จัดไว้เพื่อให้ได้นั่งพักผ่อนกันอีกด้วย
ที่ตั้ง : 15/6 ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thebright.cc, เฟซบุ๊ก THE BRIGHT
12. ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market)
ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market) ตลาดปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นที่เดียวในกรุงเทพฯ ซึ่งมีปลาทะเล ปูทะเล และซีฟู้ด หลากหลายแบบให้เลือกซื้อ มีทั้งแบบสดและแบบแช่แข็ง คัดเลือกคุณภาพมาแล้วอย่างดี ใครที่ชอบทานอาหารทะเลสด ๆ หรือเนื้อปลาดิบสไตล์ญี่ปุ่น สามารถมาเลือกเพื่อไปทำกินเองได้เลย หรือถ้าไม่ถนัดทำกินเอง ที่นี่ก็มีบาร์อาหารพร้อมเสิร์ฟไว้บริการด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีผัก-ผลไม้คุณภาพพรีเมียมไว้จำหน่ายอีกด้วย
ที่ตั้ง : 163/6 ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2260 6522
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Shinsen Fish Market
ตั๊กออแกไนท์ดินแดงรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคดินแดง
นางรำดินแดงเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคดินแดง
ดินแดงรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคดินแดง
รําบวงสรวงพญานาคดินแดง
ฟ้อนบูชาพญานาคดินแดง
รําบวงสรวงพญานาคดินแดง
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
242
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 09:07:15 AM »
15 ที่เที่ยวปทุมธานี ครบรสความสนุก อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่เอื้อม
1. พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยกับความสัมพันธ์ในด้านการเกษตรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งจะจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และโครงการพระราชพิธีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในอาคาร นำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการเกษตรและวิถีเกษตรไทยผ่านสื่อผสมผสานที่ทันสมัย และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งเป็นฐานเรียนรู้การทำการเกษตรต่าง ๆ
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท (กรณีเข้าชมต่อหนึ่งอาคาร)
ที่ตั้ง : ตรงข้ามโรงพยาบาลการุญเวช นวนคร ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : wisdomking.or.th, พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
2. ร้านกาแฟชายทุ่ง
ร้านกาแฟชายทุ่ง เป็นร้านกาแฟที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดขึ้น เป็นร้านกาแฟขนาดกะทัดรัด ภายนอกเป็นอาคารสีขาวชั้นเดียว รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ตกแต่งและออกแบบอย่างสวยงาม ผสมผสานระหว่างสไตล์ไทยและโมเดิร์น ให้บริการเครื่องดื่มมากมายหลากหลายเมนู พร้อมด้วยขนมหวานโฮมเมดสุดอร่อย บริเวณด้านหลังของร้านยังมีบ่อปลา แปลงนาสาธิต แปลงผักสวนครัว และแปลงสมุนไพร ให้ได้เดินเข้าไปศึกษากันอีกด้วย
ที่ตั้ง : โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรชุมชนเมืองในพื้นที่ดินเปรี้ยว บริเวณถนนรังสิต-นครนายก ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.
เฟซบุ๊ก : กาแฟชายทุ่ง
3. ตลาดอิงน้ำสามโคก
ตลาดอิงน้ำสามโคก เป็นตลาดบรรยากาศน่ารัก ตามแบบวิถีชาวบ้านที่เรียบง่าย ตั้งอยู่ริมคลองบางเตยและแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในตลาดเป็นนชุมชนเก่าแก่ บ้านเรือนจะเป็นเรือนแถวไม้แบบดั้งเดิม มีของกินอร่อย ๆ ให้ได้เลือกกินเพียบ พร้อมทั้งมีร้านขายของชำที่จำหน่ายสินค้าโบราณ ให้ได้มาย้อนวัยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟริมน้ำ ร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี ให้แวะพักใจชิล ๆ อีกต่างหาก
ที่ตั้ง : ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดอิงน้ำสามโคก ชุมชนตลาดเก่าบางเตย
4. วัดเจดีย์หอย
วัดเจดีย์หอย เป็นวัดที่มีโบราณสถานสำคัญอย่างเจดีย์หอยโบราณตั้งอยู่ ซึ่งเจดีย์ดังกล่าวก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2538 โดยพระครูสุนทรคุณธาดา หรือหลวงพ่อทองกลึง สุนทโร เจดีย์นี้หอยนี้ได้สร้างขึ้นมาจากซากหอยโบราณที่ฝังตัวอยู่ใต้พื้นดินและมีอายุนับพัน ๆ ปี ซึ่งขุดพบได้บริเวณวัดนั่นเอง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพระพุทธรูป ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ จำนวนมาก ให้ได้เที่ยวชมกันด้วย
ที่ตั้ง : หมู่ 4 ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
เฟซบุ๊ก : วัดเจดีย์หอย จ.ปทุมธานี
5. วัดป่าคลอง 11
วัดป่าคลอง 11 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว้างกว่า 16 ไร่ เป็นวัดที่ประชาชนเชื่อกันว่ามีพญานาคทำหน้าที่ปกปักรักษา ด้านในโดดเด่นด้วยโบสถ์ไม้กลางสระน้ำ มีรูปปั้นพญานาคแกะสลักล้อมรอบ พร้อมทั้งมีรูปปั้นพญานาคตั้งอยู่รอบ ๆ วัดด้วย ประชาชนที่ศรัทธาก็มักจะเดินทางมากราบไหว้ขอพร หากมีเวลาก็จะอยู่ถือศีลเพื่อเพิ่มบุญบารมีกันด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.
6. วัดโบสถ์
วัดโบสถ์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดเก่าแก่และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดปทุมธานี ด้วยมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อเหลือประดิษฐานอยู่ อีกทั้งยังมีรูปปั้นเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ สูงมากถึง 28 เมตร ให้พุทธศาสนิกชนได้เดินทางมากราบไหว้ขอพร และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้สร้างพระพุทธโสธรองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพ่อโตด้วย นอกจากนี้ยังมีโบราณสถาน และโบราณวัตถุ พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้ได้มาทำบุญเสริมบารมีกัน
ที่ตั้ง : ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
เฟซบุ๊ก : วัดโบสถ์ สมเด็จโต หลวงพ่อโสธร องค์ใหญ่ สามโคก ปทุมธานี
7. ตลาดระแหง 100 ปี
ตลาดระแหง 100 ปี ตั้งอยู่ในชุมชนเก่าแก่ริมคลองระแหง บ้านเรือนเป็นเรือนแถวไม้เก่าแก่ อายุมากกว่า 100 ปี บรรยากาศสบาย ๆ โดดเด่นด้วยร้านขายของชำแบบโบราณ พร้อมด้วยร้านอาหารเก่าแก่ที่เสิร์ฟแต่อาหารอร่อย ๆ เช่น ร้านแปโภชนา ร้านอากง เมี่ยงคำอิกคิว ก๋วยเตี๋ยวโบราณตาพ้ง เป็นต้น
ที่ตั้ง : ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าจะเปิดคึกคักเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
เฟซบุ๊ก : ตลาดระแหง 100 ปี ปทุมธานี
8. วัดปัญญานันทาราม
วัดปัญญานันทาราม ก่อตั้งโดยพระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปทุมุตฺตโร) หรือที่เรารู้จักกันคือ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เป็นวัดที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพศรัทธา ด้วยมีหลักปฏิบัติที่เรียบง่าย มีเหตุและผลตามหลักพระพุทธศาสนา คำสอนของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตได้จริง โดยมีกิจกรรมงานเผยแผ่พระศาสนา โดยมุ่งเน้นการศึกษา อบรมปฏิบัติธรรม และเผยแผ่ธรรมะ เปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าร่วมตลอดทั้งปี ทั้งนี้บรรยากาศในวัดก็เงียบสงบ ในวันพระก็มีการทำบุญตักบาตรใต้ร่มไม้ร่มรื่น เหมาะแก่การไปทำบุญกับครอบครัว มีเจดีย์พุทธคยาจำลองให้ได้มาเที่ยวชมกันด้วย
ที่ตั้ง : เลขที่ 1 หมู่ 10 ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : watpanya.org, วัดปัญญานันทาราม - สถานที่ที่ทำให้เกิดปัญญา
9. วัดเจดีย์ทอง
วัดเจดีย์ทอง เป็นอีกวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา โดยชาวมอญที่อพยพหนีพม่าจากเมืองเมาะตะมะ สิ่งที่สำคัญของวัดนี้ ได้แก่ เจดีย์ทอง มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงรามัญ เจดีย์ประธานมีสีทองอร่ามตา ล้อมรอบด้วยเจดีย์องค์เล็กสวยงามสะดุดตา นอกจากนี้ก็ยังมีพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร แบบทรงมอญ ทำมาจากแก้วหยกประดิษฐานอยู่ด้วย
ที่ตั้ง : หมู่ 1 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
10. ดรีมเวิลด์
ดรีมเวิลด์ เป็นสวนสนุกและสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีเนื้อที่กว้างขวางมากกว่า 160 ไร่ ซึ่งประกอบไปด้วยเอนเตอร์เทนเมนต์มากมาย ทั้งเครื่องเล่น สวนน้ำ สวนสัตว์ ทะเลสาบขนาดใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจ อาทิ เมืองหิมะ, ทอร์นาโด, เฮอริเคน, สกายโคสเตอร์, ไวกิ้ง, แกรนด์แคนยอน, ซูเปอร์สแปลช, ปราสาทผีสิง, เคเบิลคาร์, เรือบั๊มพ์, จักรยานน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
อัตราค่าเข้าชม : เริ่มต้น เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 250 บาท
ที่ตั้ง : 62 หมู่ 1 ถนนรังสิต-องครักษ์ (กม.7) ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dreamworld.co.th, Dream World
11. บ้านครูธานี หอมชื่น
บ้านครูธานี หอมชื่น เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการทำนา และการใช้ชีวิตสุดเรียบง่ายตามวิถีชีวิตของเกษตรกรชาวไทย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปมาเข้าชมบ้านเรือนไทยภาคกลางและร่วมเรียนรู้เกี่ยวกับการทำนาตามแบบดั้งเดิมกันแบบเป็นหมู่คณะ บางครั้งก็เปิดให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาที่ทางครูธานี หอมชื่น กำหนด โดยจะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไข่ในเล้าไก่ การทำความรู้จักกับควายไทย การเล่นเครื่องเล่นโบราณ การดำนาในท้องนาจริง ๆ ฯลฯ ซึ่งเหมาะกับการเที่ยวแบบครอบครัว สามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่เฟซบุ๊ก บ้านนาครูธานี
ที่ตั้ง : ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปุทมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดเฉพาะวัน-เวลา ที่มีกิจกรรม ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก
เฟซบุ๊ก : บ้านนาครูธานี
12. ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า
ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงบริเวณปากคลองบางหลวงเชียงราก อยู่ในบริเวณเดียวกับวัดศาลเจ้า และอยู่ใกล้กับวัดมะขาม เป็นตลาดในร่ม มีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน เป็นแหล่งรวบรวมร้านอาหารอร่อย ๆ ของจังหวัดปทุมธานี ที่น่าสนใจ อาทิ ร้านกุยช่ายต้นโพธิ์, กุยช่ายเจ้มล, ห่อหมกตาเรศ, ก๋วยเตี๋ยวโบราณนายทองสุข, หมูสะเต๊ะแม่สังเวียน, ก๋วยเตี๋ยวเรือนไม้, ป้าป่องกุ้งทอด เป็นต้น
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน (วันจันทร์ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิด ยกเว้นวัดหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า - วัดมะขาม ปทุมธานี
13. พิพิธภัณฑสถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พิพิธภัณฑสถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเครื่องปั้นดินเผาโบราณจำนวนกว่า 16,000 รายการ ที่อาจารย์สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย มอบให้ เป็นอาคารชั้นเดียว มีบางส่วนอยู่ใต้ดิน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเตาเผาโบราณ ด้านในอาคารจัดแสดงเรื่องพัฒนาการของเครื่องปั้นดินเผาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประวัติเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นสินค้าออกของประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งเครื่องปั้นดินเผาโบราณมากมาย
ที่ตั้ง : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต เลขที่ 9/1 หมู่ที่ 5 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : museum.bu.ac.th, Southeast Asian Ceramics Museum
14. ท้องฟ้าจำลองรังสิต
ท้องฟ้าจำลองรังสิต หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการศึกษาให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ โดยมีการฉายภาพยนตร์ทางวิทยาศาสตร์และการบรรยายดาว เป็นกิจกรรมที่ขึ้นชื่อ ซึ่งจะมีรอบการแสดงทุกวันอังคาร-อาทิตย์ รอบละ 160 ที่นั่ง 45 นาที/รอบ เรื่องที่จัดแสดง อาทิ Origin of life, The Secrets of Gravity, Polaris, Kaluokahina, From Earth to the University, การบรรยายดาว เป็นต้น
ค่าเข้าชม : คนละ 30 บาท
ที่ตั้ง : เลขที่ 5หมู่ 2 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) วันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : rscience.go.th, ท้องฟ้าจำลองรังสิต
15. บ้าน ๑,๐๐๐ไม้ Cafe' & Farm
บ้าน ๑,๐๐๐ไม้ Cafe' & Farm เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศน่านั่งพักผ่อน ด้วยร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และสวนน่ารัก ๆ มีแปลงผัก บ่อน้ำ นาข้าวเล็ก ๆ ให้ได้มาเดินชมกันชิล ๆ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์จะมีการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก ๆ ให้ได้มาสนุกสนานกับวิถีชีวิตของเกษตรกรแบบเรียบง่าย สนุกกันได้ทั้งครอบครัว
ที่ตั้ง : 48/8 หมู่ 6 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : บ้าน๑,๐๐๐ไม้cafe'&farm
ปทุมธานี ใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้ แล้วยังมีที่เที่ยวให้ได้ไปเช็กอินหลากหลายแบบด้วย วันไหนว่าง ๆ ก็พากันไปเที่ยวได้นะคะ ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง วันเดียวเที่ยวได้สบายมาก เป็นตัวเลือกของการพักผ่อนวันหยุดที่ดีทีเดียว ![ยิ้ม :)](https://xn--1-twfr4fvawck5a2fxa3b.com/Smileys/default/smiley.gif)
ตั๊กออแกไนท์ดอนเมือง รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคดอนเมือง
นางรำดอนเมืองเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาดอนเมือง
ดอนเมืองรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคดอนเมือง
รําบวงสรวงพญานาคดอนเมือง
ฟ้อนบูชาพญานาคดอนเมือง
รําบวงสรวงพญานาคดอนเมือง
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
245
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 01:48:24 AM »
รวมที่เที่ยวกรุงเทพฯ หลากหลายรสชาติ
วันนี้เราจึงได้รวบรวม 12 ที่เที่ยวกรุงเทพฯ 2016 ที่น่าสนใจมาไว้ให้ที่นี่แล้ว ไม่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัดก็สามารถที่จะเพลิดเพลินได้ จะมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง...ไปดูกัน
1. Habito Mall
ฮาบิโตะ มอลล์ (Habito Mall) เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ในย่านสุขุมวิท 77 ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป ด้วยการให้ที่นี่เป็นเสมือนดั่งส่วนหนึ่งของชีวิต คุณสามารถที่จะมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ บนพื้นที่แห่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านค้าคุณภาพดีมากมายที่พร้อมให้บริการที่นี่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ Co-Working Space สุดกว้างใหญ่ให้มาปล่อยไอเดียกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะวันไหน ๆ ที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุข
ที่ตั้ง : ถนนสุขุมวิท 77 ซอยอ่อนนุช 1/1 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sansiri.com, เฟซบุ๊ก Habito Mall
2. โครงการป่าในกรุง
อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดได้ที่โครงการป่าในกรุง บริเวณถนนสุขาภิบาล 2 ซึ่งเป็นโครงการของกลุ่ม ปตท. ที่จะพัฒนาและส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง โดยรอบพื้นที่กว่า 12 ไร่ของโครงการนี้ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้พื้นล่าง อาทิ กรวยป่า กระเจียว ขันทองพยาบาท พระเจ้าห้าพระองค์ แคแสด จันทน์ชะมด ชุมแสง ชำมะเลียง เต็งรัง ตะเคียนทอง มะกอกน้ำ มะเม่า สะตือ นุ่น สมพง ยางนา เหียง ฉนวน จัน-อิน สมอไทย ทองพันช่าง เป็นต้น
ทุกต้นได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ทำให้ที่นี่โอบล้อมไปด้วยสีเขียว บรรยากาศเย็นสบาย มีหนองน้ำให้ความเย็นสดชื่น นักท่องเที่ยวจะได้เดินไปบนทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) เพื่อชื่นชมความงดงามโดยรอบพื้นที่และสูดอากาศอันสดชื่น มีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูง พร้อมทั้งอาคารพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้อีกด้วย
ที่ตั้ง : เลขที่ 81 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
โทรศัพท์ : 0 2136 6380
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : pttreforestation.com, เฟซบุ๊ก โครงการป่าในกรุง ปตท.
3. บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand)
บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ พื้นที่ที่จะไม่ปล่อยให้คุณได้ยืนอยู่กับที่นิ่ง ๆ การวิ่งและกระโดดเท่านั้นที่จะทำให้คุณได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ภายในอารีน่าที่มีแทรมโพลีน หรือบอร์ดสปริงเชื่อมต่อกันไปมากว่า 100 ผืน ซึ่งมีสีสันสดใสสวยงาม กระตุ้นอะดรีนาลินในร่างกายให้พุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีกเท่าตัว
กิจกรรมสุดมันที่จะสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบ๊าวซ์ตีลังกาข้ามแทรมโพลีน การเล่นสแลมดังก์ การวิ่งขึ้นกำแพง การแข่งดอดจ์บอล เป็นต้น ใครอยากได้เหงื่อเพราะการออกกำลังกายที่ไม่ซ้ำจำเจ ต้องพุ่งตัวไปที่นี่เลย
ที่ตั้ง : ชั้น 5 ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2014 2446
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : bounceinc.co.th, เฟซบุ๊ก Bounce Thailand
4. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ (Bangkok Planetarium)
กลับมาครั้งใหม่สวยงามอลังการสุด ๆ สำหรับท้องฟ้าจำลอง สถานที่ที่จะทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้สนุกไปกับการเที่ยวในจักรวาลอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะในห้องฉายดาว ที่ได้มีการปรับโฉมใหม่จนไฉไลและน่าทึ่งมาก ๆ โดยมีลักษณะเป็นโดมคล้ายท้องฟ้าจริง สามารถฉายดาวต่าง ๆ รวมทั้งดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลได้อย่างครบถ้วน ผู้ชมจะได้เห็นท้องฟ้าจำลองในรูปแบบที่สวยงามแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีการแสดงมหัศจรรย์แห่งแสงออโรร่า ซึ่งเป็นการแสดงที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแสงออโรร่าหรือแสงเหนือแสงใต้อันงดงามอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นภายในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาแห่งนี้ยังมีนิทรรศการอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ, นิทรรศการไดโนเสาร์, โลกของแมลง, นิทรรศการเมืองเด็ก, นิทรรศการแสงอาทิตย์ เป็นต้น
ที่ตั้ง : 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
โทรศัพท์ : 0 2391 0544, 0 2392 0508, 0 2392 1773
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sciplanet.org, เฟซบุ๊ก ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium
5. โพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok)
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ยิ่งในกรุงเทพฯ อากาศก็ยิ่งร้อนระอุ เพราะฉะนั้นต้องหาที่คลายร้อนกันสักหน่อย ซึ่งโพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ ในการไปสลัดความร้อนออกจากร่างกาย ที่นี่เป็นสวนน้ำกลางกรุงและยังเป็นสวนน้ำลอยฟ้าอีกด้วย เพราะตั้งอยู่บนชั้น 6 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา ครบครันไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด อีกทั้งยังตกแต่งด้วยธีมของการ์ตูนซีรีส์สุดฮิตของเกาหลีอย่างโพโรโระ เพนกวินป่วนก๊วนขั้วโลก (Pororo the Little Penguin) วันหยุดว่าง ๆ ไปเติมความเย็นชุ่มฉ่ำให้ร่างกายบ้างก็ดีไม่ใช่เลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-19.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
ค่าบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 บาท, เด็ก 280 บาท, ผู้สูงอายุ 280 บาท และเด็กต่ำกว่า 90 ซม. ฟรี
โทรศัพท์ : 0 2745 7377
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : pororoaquapark.com, เฟซบุ๊ก Pororo Aquapark BKK
6. ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet)
ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet) ดินแดนสุดตื่นเต้นที่จะพาคุณกลับไปสนุกสนานกับโลกในยุคไดโนเสาร์ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของไดโนเสาร์อย่างตื่นตาตื่นใจ ด้วยการจัดนิทรรศการที่ผสมผสานเทคโนโลยีสุดทันสมัย แบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ Dinosaur District, Stars of Dino, Dino Eye, 4D Deep-World, The Great Volcano & The Extinction Live Show, Raptor X-Treme และ Dino Farm ซึ่งแต่ละโซนจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
ใครอยากชมวิวกรุงเทพฯ สวย ๆ ก็ขึ้นไปบน Dino Eye หรือถ้าต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟก็ต้องไม่พลาดการแสดง The Great Volcano & The Extinction Live Show แนะนำว่าให้เที่ยวชมทุกจุด แล้วคุณจะได้รับความประทับใจแบบสุด ๆ แน่นอน
ที่ตั้ง : สุขุมวิท 22 ดิ เอ็มสเฟียร์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 บาท, เด็ก 400 บาท, เด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี แต่มีค่าบริการ Dino Eye 200 บาท และขี่ไดโนเสาร์ 100 บาท
โทรศัพท์ : 06 3167 6975 , 06 3162 5830
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dinosaurplanet.net, เฟซบุ๊ก Dinosaur Planet
7. เดอะ สตรีท (The Street) รัชดา
เดอะ สตรีท (The Street) แหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิปบนถนนรัชดาภิเษก ศูนย์รวมความสนุกสนานของการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมากิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ออกกำลังกายที่นี่ก็มีหมด พบกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ หลากหลายแบบ ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าแฟชั่นอีกกว่า 200 ร้านให้เลือกเดินช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ไม่ถูกใจก็เดินวนไป รับรองมีแบบที่สวยและโดนใจแน่นอน
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีบ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand) สถานที่ออกกำลังกายสุดชิค ที่จะไม่ทำให้คุณได้อยู่นิ่ง ๆ คุณจะได้ทั้งกระโดดไปมา หรือจะปีนป่ายหน้าผา ก็เลือกเอาตามที่ใจชอบได้เลย ที่สำคัญร้านค้าร้านอาหารบางแห่งยังเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ที่ตั้ง : 139 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. บางร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thestreetratchada.com, เฟซบุ๊ก The Street Ratchada
8. The Commons ทองหล่อ
ไม่ว่าทองหล่อจะวุ่นวายสักแค่ไหน ก็ยังมีที่พักใจสุดเงียบสงบอย่างเดอะ คอมมอนส์ (The Commons) ไว้รอต้อนรับตลอดตั้งแต่เช้าจรดเย็น ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แบบใหม่ ออกแบบให้พื้นที่โปร่งโล่ง และตกแต่งทุกมุมด้วยต้นไม้สีเขียว คล้ายกับเป็นพื้นที่สวนสวย ๆ หลังบ้านที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟสุดอร่อยมากมายให้เลือกเดินชิมลิ้มรส
บรรยากาศโดยทั่วไปจึงดูผ่อนคลาย ไม่วุ่นวาย สามารถมานั่งเล่น นั่งพักผ่อน หรือนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน ถ้าหิวก็แค่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะได้กินอาหารสุดอร่อยมากมายหลากหลายเมนู โอ้ว ! แค่นี้ชีวิตก็แฮปปี้แล้ว ![ยิ้ม :)](https://xn--1-twfr4fvawck5a2fxa3b.com/Smileys/default/smiley.gif)
ที่ตั้ง : 335 ซอยทองหล่อ 17 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-24.00 น.
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก The COMMONS
9. สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market)
สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market) มาร์เกตมอลล์สุดชิคในย่านพระราม 4 แค่ดีไซน์ภายนอกของอาคารก็ทำให้คนกรุงหลงใหลไปไม่น้อย เพราะออกแบบในสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์ ให้มีกลิ่นอายของสถานีรถไฟ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ที่ตั้งของโครงการเคยมีสายรถไฟสายแรกของประเทศไทยอย่างสายปากน้ำวิ่งผ่าน
ภายในโครงการยังออกแบบตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่เก๋ไก๋ โปร่งโล่งน่ามาเดินเล่นพักผ่อนสุด ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ไว้รอต้อนรับมากมาย จะมาเช้า สาย บ่าย เย็นก็เต็มที่กับชีวิตได้เหมือนกัน
ที่ตั้ง : 3654 ถนนพระราม4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-21.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2249 8854
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Suanplern Market - สวนเพลิน มาร์เก็ต
10. ณ กรุงเทเวศร์
ณ กรุงเทเวศร์ เป็นโครงการร้านค้าติดแอร์ และตลาดที่อยู่ท่ามกลางชุมชนเก่าแก่อย่างชุมชนเทเวศร์ ภายในโครงการเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของอดีตในสมัยรัชกาลที่ 6 ด้วยอาคารต่าง ๆ มีสถาปัตยกรรมตามสมัยนั้น รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ก็มีกลิ่นอายของอดีตด้วยเช่นกัน และยังมีต้นไม้ร่มรื่นสีเขียวขจี อากาศเย็นสบาย
เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายแบบ ไล่ไปตั้งแต่ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น และอาหารหลากหลายแบบ ณ กรุงเทเวศร์ จึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ดีของคนกรุงเทพฯ อีกหนึ่งแห่ง
ที่ตั้ง : 164-172 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-10.00 น.
โทรศัพท์ : 09 7009 3604
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก ณ กรุงเทเวศร์
11. เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT)
เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT) แหล่งช้อปปิ้งสุดทันสมัยย่านพระราม 2 ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ออกแบบอาคารให้ความโดดเด่นทันสมัย โปร่งโล่ง น่าเดินเที่ยวพักผ่อน มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถอันกว้างขวาง
ภายในอาคารของเดอะ ไบรท์ จะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ มากมาย จะอาหารไทย หรืออาหารนานาชาติที่นี่ก็มีให้บริการ บริเวณด้านบนของอาคารยังเป็นพื้นที่สวนสีเขียว จัดไว้เพื่อให้ได้นั่งพักผ่อนกันอีกด้วย
ที่ตั้ง : 15/6 ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thebright.cc, เฟซบุ๊ก THE BRIGHT
12. ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market)
ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market) ตลาดปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นที่เดียวในกรุงเทพฯ ซึ่งมีปลาทะเล ปูทะเล และซีฟู้ด หลากหลายแบบให้เลือกซื้อ มีทั้งแบบสดและแบบแช่แข็ง คัดเลือกคุณภาพมาแล้วอย่างดี ใครที่ชอบทานอาหารทะเลสด ๆ หรือเนื้อปลาดิบสไตล์ญี่ปุ่น สามารถมาเลือกเพื่อไปทำกินเองได้เลย หรือถ้าไม่ถนัดทำกินเอง ที่นี่ก็มีบาร์อาหารพร้อมเสิร์ฟไว้บริการด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีผัก-ผลไม้คุณภาพพรีเมียมไว้จำหน่ายอีกด้วย
ที่ตั้ง : 163/6 ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2260 6522
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Shinsen Fish Market
เช็กลิสต์แล้วยังมีที่ไหนที่ยังพลาดไปหรือเปล่าคะ ถ้ายังมีสถานที่ไหนยังไม่ได้ไปเดินเที่ยว วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ว่าง ๆ ลองไปเดินเล่น พักผ่อนสมองกันนะคะ ไปต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด ก็ผ่อนคลายได้เหมือนกัน ![ยิ้ม :)](https://xn--1-twfr4fvawck5a2fxa3b.com/Smileys/default/smiley.gif)
หมายเหตุ : ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2559
ตั๊กออแกไนท์เขตคลองเตย รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
นางรำเขตคลองเตยเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
เขตคลองเตยรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
รําบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
ฟ้อนบูชาพญานาคเขตคลองเตย
รําบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
247
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 01:27:43 AM »
One Day Trip เที่ยวย่านฝั่งธนบุรี เดินทางสบาย ๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม และสายสีทอง
1. ตะลุยกินของอร่อยตลาดพลู
ตลาดพลู ย่านการค้าที่มีความคึกคักมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินที่หลากหลายเมนูยังคงความอร่อยไว้ไม่เสื่อมคลาย มีนักชิมมากหน้าหลายตาแวะเวียนไปกินเมนูอร่อยกันแทบทุกวัน บางร้านต้องต่อคิวยาวนานก็อดทนยืนรอ เพื่อให้ได้ลิ้มรสเมนูในดวงใจ ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใหญ่โต เป็นเพียงร้านค้าริมทางที่มีการสืบทอดสูตรกันมารุ่นต่อรุ่น
เมนูที่น่าสนใจในตลาดพลู เรียกได้ว่าไม่ต้องนับ เพราะเยอะมากจริงๆ เช่น ขนมกุยช่ายแป้นศรี, ข้าวหมูแดงนายอ้า, สุณีข้าวหมูแดง, นิ-อ่าง ไอศกรีมกะทิไข่แข็ง, ขนมไทยโบราณ ปากซอยเทอดไท 25, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ต.จันทร์เพ็ญ, เย็นตาโฟ, ขนมเค้กโบราณ, หมี่กรอบจีนหลี, เจ๊บิ เปาะเปี๊ยะสด, กระเพาะปลาขันน้ำ, ผัดไทลูกชายบางสะแก, เล็กหงษ์ ข้าวต้มปลา, สรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทย, ฉอเล้ง หมี่กระเฉด, หลีเฮง คั่วไก่, กระเพาะปลานายบ๊วย, บะหมี่ตงเล้ง และขนมเบื้องญวนสุอาภา เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีตลาดพลู
2. อิ่มพุงกางไปกับของกินในตำนานย่านท่าดินแดง
ถนนท่าดินแดง เป็นถนนที่มีชีวิตชีวามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยเป็นจุดเชื่อมต่อของท่าเรือดินแดงริมแม่น้ำเจ้าพระยากับถนนสายหลักอย่างถนนสมเด็จเจ้าพระยา และถนนลาดหญ้า และยังมีตรอกซอกซอยเล็ก ๆ ให้เลี้ยวลัดเลาะไปยังถนนสายอื่น ๆ ได้อีกด้วย พร้อมทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหารอร่อยเด็ดมากมาย จึงทำให้ย่านนี้ไม่เคยหลับใหล ผู้คนต่างแวะเวียนมาลิ้มลองของอร่อยกันทุกวัน
ร้านอาหารท่าดินแดงที่อยู่ในลิสต์ไม่ควรพลาด เช่น บะหมี่ท่าดินแดง, ร้านอาหารจานเดียวกุ๊กกุ๊กไก่, ร้านท่าดินแดงโภชนา, ตี๋ หมูสะเต๊ะ, ร้านส้มตำอิ่มครบรส, ธ. ก๋วยจั๊บญวน, ข้าวมันไก่ป้าเล็ก, โอวกี่หมูสะเต๊ะ, ก๋วยจั๊บเจ๊หลา, ข้าวพระรามลงสรง ท่าดินแดง, ข้าวขาหมู IMF, ก๋วยเตี๋ยวไก่ป้าดำ, ราดหน้านายฉุน ท่าดินแดงซอย 3, ข้าวต้มปลานายฮ้อ ท่าดินแดง, ก๋วยเตี๋ยวเป็ดรสเด็ด, นมสดท่าดินแดง และโบ๊กเกี้ยท่าดินแดง เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีคลองสาน หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีคลองสาน
3. ช้อปปิ้ง ชมวิวริมแม่น้ำ และอิ่มอร่อยกับอาหารไทย/นานาชาติ ณ ไอคอนสยาม
ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า 50 ไร่ ที่นอกจากจะนำเสนอประสบการณ์เหนือระดับในการช้อปปิ้ง ไอคอนสยามยังเป็นศูนย์การค้าที่รวบรวมศิลปะ ประเพณีท้องถิ่น นวัตกรรม สถาปัตยกรรมระดับโลกได้อย่างลงตัว ไอคอนสยามประกอบด้วยลักชัวรี่แบรนด์ แบรนด์ชั้นนำระดับนานาชาติ และของไทย ร้านอาหารชื่อดัง ซุปเปอร์มาร์เก็ต สุขสยาม ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง Takashimaya จากญี่ปุ่น ตลอดจน Entertainment หลากหลายประเภท อาทิเช่น ลานริเวอร์ พาร์ค ที่มีการแสดงระบำสายน้ำ แสง สี เสียง มัลติมีเดีย ที่ยาวและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงศูนย์การประชุมระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีเจริญนคร หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีเจริญนคร
4. ตะลุยช้อปปิ้งสินค้าราคาเบา ๆ กินอาหารสตรีตฟู้ด พักผ่อนคาเฟ่ชิล ๆ ย่านคลองสาน
ด้วยความที่ย่านคลองสานเป็นจุดต่อเรือโดยสารทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา เรือข้ามฟากไปยังฝั่งบางรัก และรถไฟฟ้า BTS จึงทำให้ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย พร้อมทั้งตลาดขนาดใหญ่อันเป็นแหล่งรวมสินค้าราคาเบา ๆ นับร้อยร้านค้า บรรยากาศคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน แถมยังมีร้านหนังสือและคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ อย่าง The Jam Factory รวมถึงร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ด้านในของที่นี่ให้ไปนั่งชิลแวะพักเหนื่อยระหว่างวันได้ด้วย
ร้านอาหารอร่อยย่านคลองสานที่อยากแนะนำ เช่น บัวลอยไข่เค็ม ท่าน้ำคลองสาน, ร้านพูนเลิศ เป็ดย่าง, BKK Grill, ข้าวต้มเจ๊เหมี่ยว เจริญรัถ, อาหารจีนกอกใจเจ๋าเหล่า, ร่มโพธิ์ ร้านอาหารอีสานรสเด็ด, ดวงดีทะเลเผา, ข้าวมันไก่ สมหมาย ถนนเจริญรัถ และเจริญรัถเป็ดพะโล้ เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีคลองสาน หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีคลองสาน
5. สักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ลิ้มรสอาหารอร่อยเด็ดวงเวียนใหญ่
ย่านที่คึกคักอีกแห่งของฝั่งธนบุรี เพราะเป็นจุดต่อรถโดยสารสาธารณะ และรถไฟไปยังแถบชานเมือง มีจุดแลนด์มาร์กสำคัญก็คือ พระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2497 โดยได้ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ออกแบบ ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณวงเวียน ใกล้กับตลาดวงเวียนใหญ่
สิ่งที่น่าสนใจของย่านนี้ก็คือ ร้านอาหาร ซึ่งมีร้านอร่อย ๆ เก่าแก่ซ่อนตัวอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสมศักดิ์ปูอบ, ผัดไทยรสเด็ด, เจริญไทย สุกี้เจ้าเก่า, จุ่มลาดหญ้าหน้าสหกรณ์, ไข่หวานบ้านซูชิ, ข้าวซอยแม่สะเรียง, ครัวเฮงเฮง, หอยแครงลวกเจ้ภา, เหวินหลงก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา, ผัดไทยนรกแตก, ร้านรุ่งฟ้า, หมูสะเต๊ะสมมิตร, บะหมี่เยาวราช ตากสิน 4 และสุดแซ่บยำมะม่วงปูม้า, เฝอหม้อไฟ, ทอดมันปลา และสุกี้สไตล์เวียดนาม เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็ลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย แล้วก็ต่อรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
เส้นทางชมวิถีชุมชน
6. สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนคลองบางหลวง
ชุมชนเก่าแก่ริมคลองบางกอกใหญ่ที่ยังคงมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ผสมผสานทั้งความเป็นจีนและไทยไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ชาวบ้านยังคงสัญจรไป-มาในชุมชนโดยใช้เรือหางยาว ตลอดสองฝั่งคลองจะมีทั้งวัดวาอาราม ร้านขายของชำเก่าแก่ ร้านอาหารดั้งเดิม และสถานที่ท่องเที่ยวอย่างบ้านศิลปินให้ได้เที่ยวชม นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเช่าเหมาเรือนั่งชมวิถีชีวิตของชาวบ้านได้
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น บ้านศิลปิน ศูนย์รวมงานศิลปะต่าง ๆ รวมถึงการแสดงหุ่นละครเล็ก, วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร ที่ประดิษฐานพระพุทธเทวนฤมิตพิชิตมาร, ร้านอนันต์การค้า ร้านขายของชำเก่าแก่ที่อยู่คู่คลองมายาวนานหลายสิบปี และวัดประดู่ฉิมพลี สถานที่ตั้งของเจดีย์กลมทรงรามัญ เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีบางหว้า แล้วต่อเรือโดยสารจากท่าเรือบางหว้าไปลงที่คลองบางหลวง
7. เที่ยวเพลิน ๆ ท่ามกลางบรรยากาศไทย-จีน และไหว้ขอพรเจ้าแม่ทับทิม ณ ล้ง 1919
ที่เที่ยวฝั่งธนบุรีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มายาวนาน โดยเนรมิตท่าเรือเก่าแก่ให้ฟื้นคืนชีพกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงมรดกวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่นในเรื่องของศิลปะไทย-จีน มีร้านค้าให้เดินชมเพลิน ๆ พร้อมด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมไปถึงพื้นที่พักผ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมเดินทางไปสักการะ “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” หรือเจ้าแม่ทับทิม ที่ประดิษฐานอยู่คู่ “ฮวย จุ่ง ล้ง” มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2393 โดยองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วทำขึ้นจากไม้ มีทั้งหมด 3 ปาง ได้แก่ ปางเด็กสาว ปางผู้ใหญ่ และปางผู้สูงอายุ โดยทั้ง 3 ปาง ชาวจีนได้นำขึ้นเรือมาจากประเทศจีน เมื่อถึงประเทศไทยก็ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก LHONG 1919
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีคลองสาน หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีคลองสาน
เส้นทางไหว้พระเสริมบุญ
8. ไหว้พระขอพร วัดปากน้ำภาษีเจริญ
พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง มีสถาปัตยกรรมและศิลปวัตถุที่อยู่คู่วัดมา เช่น หอพระไตรปิฎก และตู้พระไตรปิฎกทรงบุษบก ซึ่งเป็นฝีมือช่างหลวงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญของเขตภาษีเจริญ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล, พระพุทธธรรมกายเทพมงคล พระพุทธรูปปางสมาธิซึ่งสูงกว่า 69 เมตร, รูปหล่อเหมือนหลวงพ่อสด, หอสังเวชนีย์มงคลเทพนิรมิต และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีตลาดพลู/วุฒากาศ หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็ลงที่สถานีตลาดพลู/วุฒากาศ โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย แล้วก็ต่อรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
สำหรับคนที่ต้องการหาสถานที่เที่ยวพักผ่อนในกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ฝั่งธนบุรีก็เป็นอีกย่านที่น่าสนใจไม่น้อย มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกครบทุกสไตล์ ได้ทั้งสายกิน สายบุญ สายเที่ยวเดินชิลและช้อปปิ้ง แถมยังใช้เวลาไม่เยอะ มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้แล้ว หากวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวในช่วงนี้ ก็อย่าลืมป้องกันและดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจาก Covid-19 กันด้วยนะ
ตั๊กออแกไนท์คลองสานรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคคลองสาน
นางรำคลองสานเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคคลองสาน
คลองสานรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคคลองสาน
รําบวงสรวงพญานาคคลองสาน
ฟ้อนบูชาพญานาคคลองสาน
รําบวงสรวงพญานาคคลองสาน
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
250
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 01:04:03 AM »
เที่ยวยะลา กับ 11 เรื่องน่ารู้ ก่อนล่องดินแดนปลายด้ามขวานไทย
1. ประวัติจังหวัดยะลา มีความเป็นมาอย่างไร ?
ยะลา ถือเป็นจังหวัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่จังหวัดหนึ่งของประเทศ คำว่า “ยะลา” มีที่มาจากภาษาพื้นเมืองเดิมว่า “ยะลอ” แปลว่า “แห”
ตามประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยสุโขทัยถึงช่วงตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ “เมืองยะลา” เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลปัตตานี ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้มีการปรับปรุงการปกครองส่วนภูมิภาคใหม่ เป็นการปกครองแบบเทศาภิบาล โดยออกประกาศข้อบังคับสำหรับการปกครอง 7 หัวเมือง ร.ศ. 120 ประกอบด้วย
- เมืองปัตตานี
- หนองจิก
- ยะหริ่ง
- สายบุรี
- ยะลา
- ระแงะ
- เมืองรามัน
ในแต่ละเมืองมีพระยาเมืองเป็นผู้รักษาราชการ อยู่ภายใต้การดูแลของข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 มีการยุบมณฑลปัตตานี และได้มีการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน “เมืองยะลา” จึงเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายู รองลงมาคือ ชาวไทยพุทธ, ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวซาไก อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 4 จังหวัดของไทยที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 75.42 รองลงมาคือศาสนาพุทธ ร้อยละ 24.25 และศาสนาอื่น ๆ
2. จังหวัดยะลา มีทั้งหมดกี่อำเภอ ?
จังหวัดยะลา ประกอบด้วยทั้งหมด 8 อำเภอ ได้แก่
อำเภอเมืองยะลา
อำเภอเมืองบันนังสตา ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 36 กิโลเมตร
อำเภอเบตง ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 123 กิโลเมตร
อำเภอกาบัง ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 54 กิโลเมตร
อำเภอกรงปินัง ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 26 กิโลเมตร
อำเภอรามัน ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 16 กิโลเมตร
อำเภอธารโต ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 70 กิโลเมตร
อำเภอยะหา ห่างจากอำเภอเมืองยะลาประมาณ 23 กิโลเมตร
เมืองยะลามีการจัดวางผังเมืองแบบใยแมงมุมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
3. คำขวัญจังหวัดยะลา ว่าอย่างไร ?
คำขวัญประจำจังหวัดยะลา คือ “ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” โดยมีตราประจำจังหวัดเป็นรูปเหมืองแร่ดีบุก หมายถึง พื้นที่ของจังหวัดยะลาอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ดีบุก ทั้งยังเป็นอาชีพหลักของประชาชนในอดีต นั่นคือ การทำเหมืองแร่ดีบุกนั่นเอง โดยมีต้นไม้ประจำจังหวัด คือ ต้นอโศกเหลือง หรือศรียะลา และดอกไม้ประจำจังหวัด คือ ดอกพิกุล
4. ยะลาติดทะไลไหม ?
ด้วยพิกัดที่ตั้งของจังหวัดยะลาอยู่ภาคใต้ จึงทำให้หลายคนคิดว่ายะลาน่าจะเป็นจังหวัดที่ติดทะเลแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้วยะลาเป็นจังหวัดที่ไม่ติดทะเลเลยสักนิด โดยแต่ละทิศของยะลาประกอบด้วย
- ทิศเหนือ จดอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
- ทางใต้ จดรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย
- ทางตะวันออก จดอำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย
- ทางตะวันตก จดจังหวัดสงขลา และรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย
5. การเดินทางไปยะลา ?
สำหรับใครที่คิดอยากมาเช็กอินที่จังหวัดยะลาดูสักครั้ง ปัจจุบันมีวิธีการเดินทางอยู่หลายวิธีด้วยกัน เช่น
- รถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ไปยะลา ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านสุราษฎร์ธานี ทุ่งสง พัทลุง หาดใหญ่ แล้วเดินทางต่อไปทางปัตตานี จนถึงยะลา
- รถไฟ
มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงไปถึงสถานียะลาทุกวัน สามารถตรวจสอบเที่ยวรถไฟเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ procurement.railway.co.th
- รถโดยสารประจำทาง
มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ยะลา ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว
- เครื่องบิน
โดยปกติแล้วไม่มีเที่ยวบินตรงมายังยะลา แต่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังจากนั้นค่อยต่อรถยนต์ไปยังยะลาได้
6. ที่เที่ยวยะลา มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ?
สถานที่ท่องเที่ยวยะลามีอยู่มากมาย ทั้งที่เที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น
- อุโมงค์ปิยะมิตร
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง มีลักษณะเป็นอุโมงค์ดิน ครั้งหนึ่งเป็นสถานที่ที่อดีตขบวนการโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการต่อสู้ทางการเมือง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง ในปัจจุบันได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอดีต
- มัสยิดกลางอำเภอเบตง
ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเบตง เยื้องกับที่ทำการไปรษณีย์เบตง เดิมเป็นเพียงโครงไม้และหลังคาสังกะสี สมัยหะยีหะมะ ดาเดะ เป็นอิหม่าม จึงได้สร้างมัสยิดหลังใหม่ เก็บรวบรวมเงินจากชาวมลายู เป็นทุนดำเนินการก่อสร้าง โดยใช้รูปแบบมัสยิดของประเทศมาเลเซียมาเป็นแบบในการสร้าง กลายเป็นมัสยิดกลางอันงดงามของอำเภอเบตงมาจนถึงทุกวันนี้
- ป้ายใต้สุดสยาม
หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญเมื่อมาเที่ยวยะลา อยู่ที่อำเภอเบตง เป็นป้ายที่กั้นอาณาเขตระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย ทั้งยังกลายเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไปถ่ายรูปอยู่เสมอ หรือถ้าใครจะไปมาเลเซียต่อก็สามารถเดินทางโดยผ่านจุดนี้ไปได้เช่นกัน
- ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
ทะเลหมอกภาคใต้สุดอลังการ ตั้งอยู่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่ 32 เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอกแบบหนา ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดได้อย่างสวยงาม และจุดชมวิวไฮไลต์ของที่นี่อีกหนึ่งแห่ง คือ บริเวณยอดเขาฆูนุงซีลีปัต (ฆูนุงสาลี) ที่ต้องเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมทะเลหมอกในมุมมองกว้าง 360 องศา เป็นความอันซีนธรรมชาติที่น่าค้นหาเป็นอย่างยิ่ง
อันซีนชายแดนใต้ ณ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เบตง
- วัดคูหาภิมุข
หนึ่งในวัดสำคัญของยะลา ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมืองยะลา ภายในวัดมีถ้ำใหญ่ ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ และพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ท่ามกลางหินงอกหินย้อยสวยงาม โดยเราจะเห็นหยดน้ำใสไหลรินออกมาจากหินงอกหินย้อยเหล่านั้น นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศรีวิชัย สถานที่ซึ่งเก็บวัตถุโบราณที่ขุดค้นได้จากถ้ำต่าง ๆ บนภูเขาวัดถ้ำและภูเขากำปั่น ไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์ดินดิบ สถูป เม็ดพระศก และอิฐฐานพระพุทธรูป ล้วนทรงคุณค่าในแง่ประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
- บ่อน้ำร้อนเบตง
ตั้งอยู่ที่บ้านจะเราะปะไร ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง มีความเชื่อกันว่าบ่อน้ำร้อนแห่งนี้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ อย่างโรคผิวหนังและอาการปวดเมื่อยตามร่างกายต่าง ๆ โดยมีการจัดสถานที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้อาบน้ำร้อนอย่างเป็นสัดส่วน แถมพื้นที่โดยรอบยังล้อมรอบด้วยธรรมชาติสวย เหมาะสำหรับการเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนอีกด้วย
- สวนไม้เมืองหนาวเบตง
สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวของภาคใต้ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านปิยะมิตร 2 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง เป็นโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ภายในสวยงามด้วยหมู่มวลดอกไม้นานาชนิด ได้แก่ แอสเตอร์ ไฮเดรนเยีย เบญจมาศ กุหลาบ พีค็อก เยอบีร่า ลิลลี่ แกลดิโอลัส ตุ้มหูนางฟ้า และอีกหลายสายพันธุ์ ทำเอานักท่องเที่ยวอย่างเราอดประทับใจไปกับความสวยงามที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้
- เขื่อนบางลาง
ตั้งอยู่ที่บ้านบางลาง อำเภอบันนังสตา เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำปัตตานี อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่ นอกเหนือจากการชื่นชมวิวกว้างสุดสายตาแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการล่องแพหรือนั่งเรือชมทัศนียภาพป่าฮาลา-บาลา และสำรวจธรรมชาติป่าฮาล-บาลา ผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ด้วยพรรณไม้แปลก ๆ และสัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนน้ำตกสวย เป็นความอันซีนธรรมชาติที่ไม่เห็นได้บ่อยนัก
- น้ำตกธารโต
น้ำตกที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติบางลาง อำเภอบันนังสตา เป็นน้ำตกที่มีความสูงมากถึง 9 ชั้น โดยทุกชั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบาย ๆ โดยแต่ละชั้นจะมีชื่อเรียก ได้แก่ ธารสามสาย, ธารเซาะหิน, ธารมัจฉา, ธารกระเซ็น, ธารเสน่หา, ธารดาหลา, ธารหินตั้ง, ธารพฤกษา และธารโต เป็นต้น ตลอดเส้นทางคุณจะได้พบเจอกับความสวยงามของธรรมชาติได้ตลอดสองข้างทาง ทำเอาคุณประทับใจจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว
- น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9
แต่เดิมมีชื่อว่า "น้ำตกวังเวง" หรือ "อัยเยอร์เค็ม" ตั้งอยู่ที่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่น่าเช็กอิน ด้วยเพราะธรรมชาติสวย ต่อมาในปีมหามงคลครบรอบ 72 พรรษาของในหลวง รัชกาลที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2542 อบต.อัยเยอร์เวง จึงได้เข้ามาพัฒนาบุกเบิกเส้นทาง พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และได้เปลี่ยนชื่อเป็นน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
อุโมงค์ลอดภูเขาแห่งแรกของไทย ตั้งอยู่บริเวณถนนอมรฤทธิ์ ตัดกับถนนภักดีดำรงค์ ผ่านสวนสาธารณะเทศบาลเมืองเบตง เปิดใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2544 เชื่อมเขตเมืองเก่ากับชุมชนเมืองใหม่ โดยปกติอุโมงค์แห่งนี้จะมีรถผ่านเข้า-ออกตลอดทั้งวัน และเป็นทางเดินได้ด้วย หากแต่ในบางช่วงจะเปิดไฟประดับอุโมงค์ มีความสวยงาม กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีคนไปถ่ายรูปอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย โดยเหนืออุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ยังเป็นสนามกีฬาและสวนสาธารณะเทศบาลเมืองเบตง เหมาะสำหรับการพักผ่อนรวมถึงชมทัศนียภาพของเบตงในมุมสูงได้อีกด้วย
แม้ว่ายะลาจะไม่มีชายหาดสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวมาเยือน แต่เสน่ห์ของยะลากลับอยู่ที่ความน่ารักและรอยยิ้มของผู้คน บวกกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ กลายเป็นว่านั่นทำให้ยะลามีเสน่ห์ชวนน่าหลงใหลในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งนั่นไม่มีใครรู้ นอกเสียจากว่าจะได้มีโอกาสไปสัมผัสด้วยตัวเอง
7. ร้านอาหารยะลา มีร้านไหนน่ากินบ้าง ?
บอกเลยว่ายะลาเป็นจังหวัดที่มีของอร่อยขึ้นชื่ออยู่เพียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเด็ดอย่างไก่เบตง ที่ใครไปถึงยะลาก็ต้องแวะกิน แต่นอกเหนือจากเมนูไก่เบตงแล้วก็ยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ เป็นที่เลื่องลือทั่วทั้งจังหวัดยะลา เช่น
หวายร้อยลี้ Boutique Restaurant
ร้านอาหารอร่อยประจำอำเภอเบตง การันตีรสชาติความอร่อย บรรยากาศสบาย ๆ ร้านล้อมรอบด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด มีเมนูอาหารแนะนำน่ากินมากมาย เช่น "ไก่สับเบตง" เนื้อแน่น หนังกรอบ, "แกงกะหรี่หัวปลา" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ใครมาก็ต้องสั่ง, "กบภูเขาทอดกระเทียม" กรอบนุ่ม รสชาติเข้าเนื้อ และ "แกงส้มแป๊ะซะ" รสชาติจัดจ้านหอมเครื่องสมุนไพร เป็นต้น และยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย รับรองว่าถูกใจคนกินแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-15.00 น. และ 17.00-24.00 น.
ที่อยู่ : ถนนรวมวิทย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 235 368
เฟซบุ๊ก : หวายร้อยลี้ Boutique Restaurant
ต้าเหยิน
ร้านอาหารชื่อดังยะลา ที่ว่ากันว่าถ้าใครอยากกินอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ ให้แวะมากินที่นี่ ที่ร้านเน้นเสิร์ฟเมนูอาหารจีนแบบท้องถิ่น จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมใครมาเที่ยวยะลาก็ต้องแวะมาลิ้มลองความอร่อยที่นี่ด้วยกันทั้งนั้น หลากหลายเมนูเด็ดให้เลือกลิ้มลอง เช่น ไก่เบตง, หมี่เหลืองผัด, เคาหยก, ปลาจีนนึ่งบ๊วย, ผักน้ำผัดน้ำมันกระเทียม และเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย ใครที่อยากลิ้มลองเมนูอาหารเก่าแก่ไปที่นี่ไม่มีผิดหวัง
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-14.00 น. และเวลา 17.00-22.00 น.
ที่อยู่ : ถนนสุขยางค์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 230 461
ธาราซีฟู้ด
ร้านอาหารซีฟู้ดน่าอร่อยของจังหวัดยะลา ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารทะเลสด ๆ แบบไม่ยั้ง ใครได้กินก็ต้องชอบ ว่ากันว่าใครมาที่ร้านต้องสั่ง "ปลาเผา" กลิ่นหอมด้วยใบเตยและผักชี นอกจากนี้ยังมีทั้งกุ้งเผา, ปลาหมึกเผา กินคู่กับน้ำจิ้มรสแซ่บ เอาเข้าปากไปหนึ่งคำ รับรองว่าติดใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารให้สั่งอีกเพียบ เช่น ข้าวผัดปู, ผัดผักน้ำเบตง, หอยหวานเผา, ผัดหอยลายพริกเผา และเมนูน่ากินอื่น ๆ เพียบ เป็นต้น การันตีความอร่อยทุกคำแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.
ที่อยู่ : ถนนพิพิธภักดี ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 212 356
เฟซบุ๊ก : ร้านธาราซีฟู้ด จังหวัดยะลา
ไทซีฮี้
ใครอยากกินมื้อเช้าในยะลาอร่อย ๆ มาร้านนี้ไม่ผิดหวัง หลากหลายเมนูติ่มซำและเมนูอาหารเด็ด ๆ มากมาย ในส่วนของติ่มซำมีให้เลือกทั้ง ขนมจีบ ซาลาเปา บ๊ะจ่าง ซี่โครงหมู และอื่น ๆ แต่ในส่วนของเมนูอาหาร แน่นอนว่าพลาดไม่ได้เลยกับ ไก่เบตง, เคาหยก และกบภูเขาผัดเม็ดมะม่วง เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งเครื่องและรส เผลอ ๆ อาจกลายเป็นหนึ่งในร้านประจำเมื่อไปเที่ยวยะลาก็ได้
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น.
ที่อยู่ : ถนนเทศจินดา ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 325 802
ก๋วยจั๊บหมูกรอบ (เฮียสุย)
ร้านกวยจั๊บของดีของจังหวัดยะลา ที่ใครมาก็ไม่ควรพลาด การันตีความอร่อย ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ความอร่อยอยู่ที่น้ำซุป รสไม่จัดจนเกินไป หอมน้ำพะโล้เบา ๆ แถมเครื่องในสะอาด ไม่มีกลิ่น หมูกรอบก็เด็ด จนความอร่อยเป็นที่เลื่องชื่อลือชา ใครไปใครมาก็ต้องแวะมากิน รู้อย่างนี้แล้วสงสัยว่าต้องไปลองกินสักชาม
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
ที่อยู่ : ถนนคชเสนีย์ 2 ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 084 750 1854
ร้านเจริญข้าวมันไก่เบตงพันธุ์แท้. สท.แม้ว
ร้านข้าวมันไก่เบตงขึ้นชื่อ ข้าวมันไก่ที่ร้านบอกเลยว่าเนื้อแน่น ไม่ยุ่ย แถมข้าวก็ยังร่วนอร่อย ยิ่งได้กินคู่กับน้ำจิ้ม ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำจิ้มข้าวมันไก่ปกติ และซีอิ๊วดำหวาน จะเลือกกินแบบไหนก็ถูกใจ นอกจากข้าวมันไก่แล้ว ที่ร้านยังมีข้าวมันไก่ทอด, ข้าวหมูแดง, ข้าวขาหมู และกวยจั๊บ ให้คุณได้เลือกสั่งอีกต่างหาก เราจึงเห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนกันไม่ขาดสาย เพราะอร่อยถูกใจคนกินไปเสียหมดทุกอย่างแบบนี้นี่เอง
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 06.00-14.00 น.
ที่อยู่ : ถนนสุขยางค์ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 089 654 2490
เฟซบุ๊ก : ร้านเจริญข้าวมันไก่เบตงพันธุ์แท้. สท.แม้ว
8. ที่พักยะลา นอนที่ไหนดี ?
มาเที่ยวยะลาไม่ต้องห่วงเรื่องที่พัก เพราะมีที่พักหลากหลายประเภทไว้คอยบริการ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในอำเภอเบตงและในอำเภอเมืองยะลา
ที่พักยะลาอำเภอเมือง
Yala Rama Hotel
ที่อยู่ : ถนนศรีบำรุง ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 212 563
เฟซบุ๊ก : โรงแรมยะลารามา YALA RAMA HOTEL
Nibong Resort
ที่อยู่ : ถนนเทศบาล 1 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 224 341
เฟซบุ๊ก : นิบงรีสอร์ท
The Linux garden hotel
ที่อยู่ : ถนนสันติสุข ซอย 3 ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 065 372 0700
เฟซบุ๊ก : The Linux Garden Hotel
ที่พักในอำเภอเบตง
Sri Betong Hotel
ที่อยู่ : ถนนธรรมวิถี ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 230 188
เฟซบุ๊ก : โรงแรมศรีเบตง Sri Betong Hotel
Grand Mandarin Betong Hotel
ที่อยู่ : ถนนภักดีดำรงค์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 235 777
เฟซบุ๊ก : Grand Mandarin Betong Hotel
เว็บไซต์ : www.mandarinbetong.co.th
Garden View Betong Hotel
ที่อยู่ : ซอย 2 ถนนอัยเยอร์เบอร์จัง ตำบลเบตง อำบลเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 246 222
เฟซบุ๊ก : Garden View Betong Hotel
เว็บไซต์ : gardenviewbetonghotel.com
Butterfly Princess Hotel
ที่อยู่ : ถนนประชาธิปัตย์ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 230 888
เฟซบุ๊ก : Butterfly Princess Hotel Betong
เว็บไซต์ : www.butterflybetonghotel.com
บ่อน้ำร้อนรีสอร์ท แอนด์ สปา
ที่อยู่ : ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 089 655 5016
เฟซบุ๊ก : บ่อน้ำร้อนรีสอร์ท แอนด์ สปา อ.เบตง จ.ยะลา
Pupha&Sila Home
ที่อยู่ : ถนนมงคลวิถี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 246 122
เฟซบุ๊ก : Pupha&Sila Home
Modern Thai Hotel
ที่อยู่ : ถนนรัตนกิจ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เบอร์โทรศัพท์ : 073 235 666
เฟซบุ๊ก : Modern Thai Hotel
9. ของฝากยะลา มีอะไรดีและเด็ดบ้าง ?
กลายเป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมสำหรับการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดไปแล้ว กับการช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน ซึ่งยะลาเองก็มีของดีของเด็ดให้เลือกซื้ออยู่ไม่น้อยเลย เช่น หมี่อบแห้ง, กล้วยหินฉาบ, ส้มโชกุน และลองกอง เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์หัตถกรรมพื้นบ้านต่าง ๆ ผ้าบาติก และผลิตภัณฑ์ไม้ยางพารา บอกเลยว่าน่าอุดหนุนอยู่ไม่น้อย ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้คืนกลับไปยังชุมชนอีกด้วย
10. ประเพณีสำคัญจังหวัดยะลา มีอะไรบ้าง ?
ยะลา เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน แน่นอนว่ากว่าจะมาถึงทุกวันนี้ ยะลากลายเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ในแง่ของประเพณีและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ก่อเกิดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดและส่งต่อกันมาชั่วลูกชั่วหลาน วัฒนธรรมและประเพณีที่มีความสำคัญประจำจังหวัดยะลา ได้แก่
งานมหกรรมแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน งานประจำปีของจังหวัดยะลา ในงานมีขบวนแห่โดยกลุ่มผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียงของทั้งประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน และชมรมผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียงของทุกจังหวัดในประเทศไทย
งานสมโภชเจ้าพ่อหลักเมือง บริเวณเทศบาลเมืองยะลา ในงานมีขบวนแห่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจำลอง การออกร้านจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของส่วนราชการ นิทรรศการและมหรสพการแสดงพื้นบ้านต่าง ๆ
เทศกาลฟื้นฟูประเพณีของดีเมืองยะลา บริเวณเทศบาลเมืองยะลา มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การประกวดรำซีละ ประกวดสตรีแต่งกาย ชุดบานง ประกวดศรีบุหงาศิริ ประกวดรำรองเง็ง ประกวดขับร้องเพลงอานาซีดภาษามลายู และภาษาไทย มีนิทรรศการของดีเมืองยะลา
ตั๊กออแกไนท์ยะลารับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคยะลา
นางรำยะลาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคยะลา
ยะลารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคยะลา
รําบวงสรวงพญานาคยะลา
ฟ้อนบูชาพญานาคยะลา
รําบวงสรวงพญานาคยะลา
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
251
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 12:55:01 AM »
ยิ้มตลอดทั้งทริป เมื่อหนีเที่ยวสุราษฎร์ธานี เมืองแห่งความสุข
เกาะสมุย
คงไม่มีใครไม่รู้จักเกาะสวรรค์แห่งนี้ เกาะสมุยตั้งอยู่ในน่านน้ำทางฝั่งทะเลอ่าวไทย ในเขตพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยความที่เกาะสมุยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเกาะในเมืองไทย ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 247 ตารางกิโลเมตร จึงได้ยกให้เกาะสมุยเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะสมุยอยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ประมาณ 84 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือดอนสัก ประมาณ 35 กิโลเมตร ภายในเกาะสมุยเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี เสน่ห์ของที่นี่ ก็คือ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส หาดที่มีชื่อเสียงและสวยงาม อาทิ หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน นอกจากนี้บนเกาะสมุยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิ หินตาหินยาย, น้ำตกหน้าเมือง, วัดพระใหญ่, ถนนคนเดินบ่อผุด, พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดละไม, สวนผีเสื้อสมุย เป็นต้น สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเมื่อมาถึงเกาะสมุยก็คือการลิ้มรสน้ำมะพร้าวพันธุ์ดั้งเดิมของเกาะสมุย ที่มีรสชาติหวานหอมไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน
การเดินทางมายังเกาะสมุย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง บนเกาะสมุยมีทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่า หรือจะนั่งรถประจำทางท่องเที่ยวบนเกาะก็ได้ และยังเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7728 8817-9, 0 7728 2828
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 63,750 ไร่ ประกอบด้วยเกาะมากกว่า 40 เกาะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีสวยงาม พร้อมกับโอบล้อมไปด้วยท้องทะเลสีฟ้าคราม สวยงาม บางเกาะมีหาดทรายขาว โดดเด่น บางเกาะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินเที่ยวชม ซึ่งเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด คือ เกาะวัวตาหลับ เพราะเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และยังเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวที่สวยที่สุดในหมู่เกาะนี้ คือ "จุดชมวิววัวตาหลับ" นักท่องเที่ยวต้องเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และปีนป่ายไปตามภูเขาหินปูนที่แหลมคมเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิว แต่เมื่อขึ้นไปถึงจุดชมวิวแล้วจะได้พบกับทัศนียภาพของหมู่เกาะต่าง ๆ ที่อยู่เหนือผืนน้ำสีเขียวมรกตแบบพาโนรามา พร้อมกับอากาศที่เย็นสบาย
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนได้ที่เกาะวัวตาหลับ ภายในที่พักของทางอุทยาน หรือจะเช่าเหมาเรือจากเกาะสมุยมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับก็ได้เช่นกัน สอบถามรายละเอียดการเดินทางและที่พักได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โทร. 0 7728 6025, 0 7728 0222, 0 7728 6025
เกาะเต่า
เกาะเต่า มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับสถานที่ดำน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยบริเวณเกาะเต่ามีสภาพของธรรมชาติที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปะการัง โดยเฉพาะปะการังอ่อน ซึ่งมีสีสันสดใส อีกทั้งใต้ท้องทะเลก็ยังมีสัตว์ใต้ทะเลหลากหลายชนิด เป็นพื้นที่ที่นักดำน้ำจากทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือน นอกจากนี้บนเกาะเต่าก็ยังมีหาดทรายขาวบริสุทธิ์ ยามกลางวันเงียบสงบ ส่วนในช่วงค่ำคืนจะมีร้านอาหาร คลับบาร์ เปิดให้บริการ สร้างสีสันให้กับเกาะเต่าไม่เหงา บรรยากาศของเกาะเต่านั้นจะมีความโรแมนติก ด้วยเป็นเกาะที่มีน้ำทะเลใส หาดทรายขาว หลายคู่รักเลือกที่จะมาเยือนเกาะเต่าเพื่อถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง หรือใช้เป็นสถานที่สำคัญในการจัดงานแต่งงาน
โรงแรมที่พักบนเกาะเต่า มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น มีหลากหลายแบบให้ได้เลือกพัก ครบครันไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงเรียนสอนดำน้ำ บริษัททัวร์ คลับ บาร์ เป็นสวรรค์ย่อม ๆ ที่จะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม
เกาะเต่า อยู่ห่างจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 110 กิโลเมตร จากเกาะพะงัน ประมาณ 45 เมตร จากเกาะสมุย ประมาณ 64 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดชุมพร ประมาณ 74 กิโลเมตร หากจะเดินทางมาจากแผ่นดินใหญ่การเดินทางจากจังหวัดชุมพรจะมีความสะดวกมากกว่า แต่ถ้ามาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็จะได้แวะเที่ยวเกาะอื่น ๆ ด้วย
เกาะพะงัน
หากพูดถึงเทศกาลฟูลมูน ปาร์ตี้ สิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คือ "เกาะพะงัน" เพราะเกาะแห่งนี้เป็นสถานที่แรก ๆ ในเมืองไทยที่จัดเทศกาลชมจันทร์ ซึ่งมีบรรยากาศที่สุดแสนอบอุ่นและโรแมนติก ด้วยสถานที่จัดงานอยู่บริเวณหาดริ้น ในทุก ๆ ปี จะมีผู้คนมากมายจากทั่วโลกหลั่งไหลมาร่วมเทศกาลนี้ โดยภายในงานจะมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชมคอนเสิร์ต, การเพ้นท์ตัวด้วยสีสะท้อนแสง และการเล่นเกมต่าง ๆ เป็นต้น
นอกจากเทศกาลฟูลมูน ปาร์ตี้ ที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วทั้งโลกแล้ว ที่นี่ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม รอบ ๆ เกาะมีแนวปะการังมากมายให้ได้ดำดิ่งลงไปชื่นชม พร้อมทั้งน้ำทะเลที่ใสสะอาด มองเห็นใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน หาดทรายหลายแห่งขาวสะอาด น่าสัมผัส บนเกาะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีโรงแรมที่พักให้เลือกมากมาย รวมทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านสะดวกซื้อ อีกด้วย
เกาะพะงัน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 168 ตารางกิโลเมตร มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร การเดินทางมายังเกาะพะงันสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือดอนสัก หรือจะเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะสมุยก่อน แล้วไปเที่ยวยังเกาะพะงันก็ได้ เพราะมีเรือจากเกาะสมุยไปยังเกาะพะงันด้วยเช่นกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7728 8817-9
เกาะนางยวน
เกาะนางยวน เป็นอีกหนึ่งเกาะในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ติด 1 ใน 10 เกาะที่น่าพักผ่อนมากที่สุดในโลก เกาะนางยวนตั้งอยู่ทางทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า เอกลักษณ์ของเกาะนางยวน ก็คือเกาะทั้ง 3 เกาะ ถูกเชื่อมต่อกันด้วยสันทรายสีขาวสะอาด ภูเขาทั้ง 3 ลูกเขียวขจีไปด้วยต้นไม้และล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าคราม
เกาะนางยวน มีพื้นที่ไม่มาก มีที่พักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น จึงทำให้ที่นี่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินเล่นบนสันทราย นอนอาบแดด อ่านหนังสือ ดำน้ำดูปะการังโดยรอบ ๆ เกาะ หรือแม้กระทั่งการพายเรือคายักชมความงดงามของเกาะนางยวนก็สนุกไม่น้อยเลยทีเดียว สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อไปถึงเกาะนางยวนก็คือการเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ขึ้นไปยังจุดชมวิวบริเวณบนยอดเขาของเกาะทางด้านซ้าย เพื่อไปชมทัศนียภาพที่สวยงามของสันทรายที่เชื่อมเกาะทั้ง 3 ไว้ ความสวยงามของวิวบนนี้จะทำให้คุณไม่อยากเดินกลับไปยังด้านล่างเลยทีเดียว
ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวเกาะนางยวนก็คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม เพราะจะมีคลื่นลมสงบ ท้องฟ้าสดใส แต่ในช่วงอื่น ๆ ก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน และไม่วุ่นวายเท่ากับช่วงไฮซีซั่นอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์มายังเกาะเต่าหรือเกาะพะงันก่อน แล้วค่อยมาที่เกาะนางยวน หรือจะไปขึ้นเรือที่อ่าวทุ่งมะขามน้อย จังหวัดชุมพร ก็ได้ ซึ่งจะมีระยะทางที่ใกล้กว่าการเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เที่ยวป่าเขา
อุทยานแห่งชาติเขาสก
อุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 645.52 ตารางกิโลเมตร มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ และสัตว์ป่านานาชนิด บริเวณทางด้านเหนือของอุทยานเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ด้วยภายในทะเลสาบมีภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา ตั้งตระหง่านอยู่บนผืนน้ำใสอย่างสง่างาม และบริเวณโดยรอบทะเลสาบ มีแพที่พักต่าง ๆ มากมาย ไว้บริการนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถที่จะมาพักผ่อนบนแพ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์ ยามเช้าจะมีสายหมอกคลอเคลียกับผืนน้ำ มีแสงของพระอาทิตย์ส่องลงมาสะท้อนเบา ๆ เป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ บางรีสอร์ทมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานมากมาย อาทิ การพายเรือแคนู, การเที่ยวถ้ำน้ำทะลุ, การเล่นกระดานสไลเดอร์, การว่ายน้ำในทะเลสาบ เป็นต้น
น้ำตกตาดฟ้า
หากไม่อยากไปเที่ยวทะเล ที่สุราษฎร์ธานีก็มีที่เที่ยวแบบน้ำตกป่าเขาให้ได้เที่ยวชมเช่นกัน ซึ่ง "น้ำตกตาดฟ้า" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ห้ามพลาด ด้วยเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมากที่สุดของที่นี่ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ตำบลลำพูน อำเภอบ้านนาสาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 8 ชั้น โดยแต่ละชั้นก็มีความสูงและชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป อาทิ ริมไผ่ วังเตย หนานเตย ริมไทร ริมไทรน้อย วังเย็น วังต้นผึ้ง และดาดฟ้า ซึ่งชั้นที่สูงและสวยที่สุดคือชั้นที่ 8 ชื่อว่าชั้นตาดฟ้า มีความสูง 1,250 เมตร บริเวณโดยรอบน้ำตกเป็นป่าเขียวขจี อากาศสดชื่น เย็นสบาย มีจุดให้นั่งปิกนิกและเล่นน้ำหลายจุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น โทร. 0 7791 8611
บ่อน้ำพุร้อนท่าสะท้อน
บ่อน้ำพุร้อนท่าสะท้อน ตั้งอยู่ที่บ้านห้วย หมู่ที่ 6 ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน โดยเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดออกมาจากใต้ผืนดิน วัดอุณหภูมิได้ประมาณ 70 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีส่วนผสมของหินปูน หรือสารละลายแคลเซียมคาร์บอเนตอยู่ด้วย ชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมักจะไปแช่น้ำร้อนกันเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างงกาย ช่วยกระตุ้นระบบประสาท เป็นต้น โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณนี้ให้มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีบ่อแยกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปแช่ท่ามกลางต้นไม้มากมายโดยรอบ
น้ำตกวิภาวดี
น้ำตกวิภาวดี อยู่ห่างจากจากอำเภอเมืองประมาณ 38 กิโลเมตร อยู่ในเขตอำเภอเมืองวิภาวดี เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่มีความสวยงาม มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาแดน มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นก็มีความสูงและความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่สวยที่สุด ได้แก่ ชั้นที่ 2 ด้วยเป็นชั้นที่มีหน้าผาสูงมากถึง 15-20 เมตร น้ำจำนวนมหาศาลจะไหลลงมาตามหน้าผาหินอย่างสวยงาม ลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะว่ายน้ำเล่นได้ในบริเวณนี้ บริเวณโดยรอบน้ำตกเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี มีอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน ซึ่งช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวชมน้ำตกก็คือช่วงเดือนมกราคม-เมษายน เพราะมีน้ำเยอะ ทำให้เห็นความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้อย่างชัดเจน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลตะกุกใต้ โทร. 0 7731 9019
ที่เที่ยวอื่น ๆ
คลองร้อยสาย
คลองร้อยสาย เป็นบริเวณที่แม่น้ำตาปีแยกออกมาเป็นคลองมากมายกว่าร้อยสาย ตั้งอยู่ในตำบลบางใบไม้ ตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมชนบริเวณนี้เรียกว่า "ชุมชนในบาง" ชาวบ้านจะปลูกบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งคลอง ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีการสัญจรทางน้ำ ซึ่งตลอดทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ยังคงมีต้นจากให้เห็นแน่นขนัด ชาวบ้านในชุมชนยังคงรักษาประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมบรรยากาศริมฝั่งคลองแล้ว ก็ยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนด้วย อาทิ ชมสาธิตการจักสานงานหัตถกรรม, ชมฟาร์มหอยนางรม, เที่ยวชมวัดใบไม้, ชิมน้ำมะพร้าวน้ำหอม และผลไม้มากมาย, เยี่ยมชมศูนย์สาธิตการฝึกลิงเพื่อการเกษตร, เรียนรู้วิถีชีวิตของประมงพื้นบ้าน และชมป่าชายเลน เป็นต้น
ไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งเรือชมหิ่งห้อยนับพันตัวในคลอง ซึ่งหิ่งห้อยจะเกาะอยู่บริเวณต้นไม้ริมคลองมากมาย ส่องแสงสีเหลืองทองระยิบระยับให้เห็นตลอดทั้งฝั่งคลอง เมื่อเรือเข้าไปใกล้กับต้นไม้ก็จะเห็นว่ามีหิ่งห้อยเกาะอยู่ตามใบไม้มากมาย เป็นภาพที่หาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ในชุมชนชาวบ้านบางหลังเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้พัก หรือจะไปพักในตัวเมืองก็ได้เช่นกัน เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7728 8817-9
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ที่ 50 หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา เป็นศาสนสถานที่สำคัญของศาสนาพุทธ เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลักษณะสถาปัตยกรรมของพระบรมธาตุแบบศรีวิชัย ประดับประดาโดยรอบ พร้อมกับการตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม ฐานกว้าง 4 วา 2 ศอก ยาว 5 วา มีหน้ามุข หน้าบัน และบราลีทุกชั้น องค์พระบรมธาตุฯ มีสีขาวสว่างสวยงาม บริเวณวัดเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้มากมาย มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา, พระวิหารหลวง, พระวิหารคด ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 7743 1090, 0 7743 1402
หมู่บ้านพุมเรียงและแหลมโพธิ์
หมู่บ้านพุมเรียงและแหลมโพธิ์ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในอำเภอ ไชยา โดยอยู่ห่างจากตัวอำเภอไปประมาณ 7 กิโลเมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม หมู่บ้านพุมเรียงโดดเด่นในเรื่องการทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผ้าไหมยกดิ้นเงินหรือดิ้นทอง จึงทำให้งานทอผ้าไหมที่นี่สวยงามไม่เหมือนกับที่ไหน เป็นงานทอที่มีความละเอียด จึงมีคุณภาพดี มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ อาทิ ลายราชวัตร ลายดอกโคม ลายดอกพิกุล ลายนพเก้า และลายยกเบ็ด ส่วนหมู่บ้านแหลมโพธิ์อยู่ห่างจากหมู่บ้านพุมเรียงไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับทะเล มีชายทะเลที่งดงาม มีอาหารทะเลอันขึ้นชื่อคือ "หอยขาว" จะมีเพียงแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
พิพิธเมืองคนดี
พิพิธเมืองคนดี ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการ พร้อมวีดิทัศน์จอมัลติมีเดีย ในเรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์ต่าง ๆ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยแบ่งเป็นโซนใหญ่ได้ 4 โซน ได้แก่ โซน 1 ภาพบอกเล่าเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, โซน 2 ภาพเหตุการณ์สำคัญในอดีตของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เช่น การพระราชทานนามของ "จังหวัดสุราษฎร์ธานี" โดยรัชกาลที่ 6 หรือภาพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2, โซน 3 แสดงวิถีชีวิตของชาวท่าข้าม และโซน 4 แสดงโบราณสถานสำคัญและหลักฐานต่าง ๆ
พิพิธเมืองคนดี เปิดให้นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษาประชาชนทั่วไปเข้าเที่ยวชม โดยเปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. เข้าชมฟรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 08 1891 8599, 0 7731 1833
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกมากมายรอให้คุณได้ไปสัมผัส รวมทั้งความเป็นมิตรไมตรีของคนท้องถิ่น หากอยากรู้ว่าคนเมืองสุราษฎร์ฯ จะน่ารักมากมายแค่ไหน ก็ต้องไปสัมผัสกันด้วยตัวเองสักครั้ง ![ยิ้ม :)](https://xn--1-twfr4fvawck5a2fxa3b.com/Smileys/default/smiley.gif)
ตั๊กออแกไนท์สุราษฎร์ธานี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสุราษฎร์ธานี
นางรำสุราษฎร์ธานีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสุราษฎร์ธานี
รําบวงสรวงพญานาคสุราษฎร์ธานี
ฟ้อนบูชาพญานาคสุราษฎร์ธานี
รําบวงสรวงพญานาคสุราษฎร์ธานี
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
252
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 12:48:53 AM »
12 ที่เที่ยวสงขลา ล่องแดนใต้สุดฟินที่เมืองสองทะเล
1. ย่านเมืองเก่าสงขลา
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีถนนสายสำคัญน่าเดินเที่ยวอยู่ 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปคู่กับภาพ Street Art พร้อมออกลีลาท่าทางได้เต็มเหนี่ยว ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็ยังได้เดินทอดน่องชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่งดงาม ที่สะท้อนเรื่องราวความเป็นมาของชาวสงขลา ทั้งห้องแถวไม้แบบจีน ตึกคลาสสิกสไตล์ชิโน-โปรตุกีส
การเที่ยวบริเวณย่านเมืองเก่าสงขลา นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมได้ด้วยตนเอง หรือจะใช้บริการรถรางนำเที่ยว ซึ่งให้บริการทุกวัน วันละ 5 รอบ คนละ 30 บาท โดยจุดเริ่มต้นเส้นทางอยู่ที่ สวนประวัติศาสตร์ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครสงขลา โทรศัพท์ 074 311 015
2. บ้านรำแดง
ตั้งอยู่ที่อำเภอสิงหนคร ที่นี่เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิถีความสัมพันธ์ระหว่างต้นตาลโตนด ท้องนา ต้นไผ่ และคน ที่ร่วมกันสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น จนทำให้ชุมชนรำแดง กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ โดยเฉพาะบ้านใบตาล ที่มีอายุกว่า 100 ปี ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนแห่งนี้ทั้งหมดด้วยกัน 7 ฐาน ประกอบด้วย ฐานการบริหารงานขององค์การบริการส่วนตำบลรำแดง, วิถีตาลโตนด, ครัวรำแดง, วัดป่าขวาง, หัตถกรรมพื้นบ้าน, เศรษฐกิจพอเพียง และแหล่งผลิตปอเทือง (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อบต.รำแดง โทรศัพท์ 086 488 2549 หรือ เว็บไซต์ ramdang.go.th)
3. เกาะยอ
เกาะเล็ก ๆ ใจกลางทะเลสาบสงขลา เสน่ห์ของเกาะยออยู่ที่ภูมิทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรยากาศสไตล์บ้าน ๆ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะยอ ดูการทำประมง การเลี้ยงปลา ชมกระชังปลาสามน้ำ ซึ่งเป็นวิถีที่ชาวเกาะยอเลี้ยงกันมาเป็นระยะเวลาช้านาน และเป็นที่ร่ำลือกันว่าปลากะพงของเกาะยอขึ้นชื่อในเรื่องความสด เนื้อนิ่ม และอร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
4. วัดท้ายยอ
วัดเก่าแก่คู่เมืองสงขลาไม่ต่ำกว่า 200 ปี นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่สวยงามของ "กุฏิเรือนไทยปั้นหยา" กุฏิเรือนไทยที่สร้างด้วยไม้งดงาม และยังคงเอกลักษณ์ด้วยการใช้กระเบื้องดินเผาเกาะยอและกระเบื้องลอนแบบเก่า นอกจากนี้วัดท้ายยอยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ เช่น บ่อน้ำโบราณ สระน้ำโบราณ โรงเรือพระ และหอระฆัง รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของ "เขาเพหารหรือเขาวิหาร" ประดิษฐานเจดีย์ทรงลังกาที่งดงาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง
5. น้ำตกโตนงาช้าง
ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ประกอบด้วยน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น ได้แก่ โตนบ้า, โตนปลิว, โตนงาช้าง, โตนดำ, โตนน้ำปล่อย, โตนฤาษีคอยบ่อ และโตนเหม็ดชุน แต่ชั้นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยงาม เห็นจะเป็น "โตนงาช้าง" โดยจะเป็นชั้นที่สายน้ำตกไหลมาบรรจบกันสองสาย ดูยิ่งใหญ่อลังการ และยังมองเห็นทิวทัศน์สวย ๆ ได้โดยรอบ และการเดินเท้าขึ้นมายังน้ำตกชั้นนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวัง เพราะทางเดินค่อนข้างชันและลื่นอยู่พอสมควร
6. สวนลุงวี
แหล่งท่องเที่ยวสวนเกษตรบนเกาะยอ ที่ทำการเพาะปลูก "จำปาดะขนุน" ผลไม้ขึ้นชื่อของเกาะยอ รสชาติหวานและมีกลิ่นหอมเหมือนจำปาดะ เมื่อสุกแล้วผิวข้างนอกจะเหมือนขนุน ปัจจุบันจำปาดะขนุนได้มีการขยายพันธุ์และนำมาเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายบนเกาะยอ และกำลังเป็นผลไม้ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น จนกลายเป็นผลไม้อัตลักษณ์ประจำท้องถิ่น และมีส่วนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมบรรยากาศความสวยงามบนเกาะยอมากยิ่งขึ้น (สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 093 580 5783)
7. สวนสองทะเล
เป็นสวนสาธารณะ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ความน่าสนใจของที่นี่ คือ เป็นจุดที่อยู่ระหว่างทะเลสาบสงขลาและทะเลฝั่งอ่าวไทย เมื่อมองไปโดยรอบ นักท่องเที่ยวจะเจอเข้ากับทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงยังได้พบกับปะติมากรรมพญานาคพ่นน้ำ ที่งดงามด้วยลวดลายสลักสวยงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่มักมาถ่ายภาพกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีศูนย์กีฬาทางน้ำ และลานอเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เอาไว้คอยให้บริการ
8. สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสงขลา
สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะได้เรียนรู้และสนุกไปกับโลกของสัตว์น้ำ ภายในประกอบด้วยการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำและนิทรรศการต่าง ๆ ตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ปลา ส่วนแสดงระบบนิเวศ ภูเขา ลำธาร สัตว์น้ำจืด และป่าโกงกาง รวมทั้งกิจกรรมโชว์การให้อาหารปลา โดยนักดำน้ำที่มีให้ชมกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารปลาฉลามขี้เซาเจ้าบิ๊กอันดา เต่าตนุตัวโต และเหล่าปลาน้อยใหญ่อีกมากมาย เพิ่มเติมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการขับรถโกคาร์ท รถเอทีวี และสปาเท้า เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนที่น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวหลายคน (เปิดวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.30-16.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.30-16.45 น. หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ เช็คราคาและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สงขลาอควาเรียม หรือ www.songkhlaaquarium.com และโทรศัพท์ 074 322 787, 074 322 899, 088 788 1457 และ 088 788 1458)
9. หาดสะกอม
ชายหาดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ด้วยเพราะเป็นชายหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบ และยังมีนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก และยังคงอบอวลไปด้วยวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านและการทำประมงท้องถิ่น เราจึงยังคงเห็นเรือประมงทั้งลำน้อยลำใหญ่ ทั้งแล่นอยู่ในทะเลและจอดอยู่ตามชายฝั่งตลอดแนวชายหาด ที่นี่จึงเป็นเหมือนสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แบบชิล ๆ
10. หาดชลาทัศน์
เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องมาจากหาดสมิหลา หาดทรายขาวสะอาด นักท่องเที่ยวจะสามารถเดินเล่นและเล่นน้ำได้ตลอดแนวชายหาด ภายใต้การให้ร่มเงาของทิวสน แถมยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ซึ่งในอีกมุมหนึ่งของหาดชลาทัศน์ ที่นี่ยังเป็นสวนสาธารณะที่ประชาชนไว้สำหรับพักผ่อน โดยทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีประชาชนมาปั่นจักรยานบนถนนชลาทัศน์กันเป็นจำนวนไม่น้อย
11. หาดสมิหลา
มาถึงสงขลาทั้งที จะพลาดไม่มาเช็กอินที่นี่ก็ดูเหมือนว่าจะมาไม่ถึงสงขลา พร้อมด้วยสัญลักษณ์รูปปั้นนางเงือก หาดทรายที่นี่ขึ้นชื่อได้ว่าขาวละเอียด มีแนวป่าสนร่มรื่น เมื่อทอดสายตาออกไป ก็จะเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเกาะหนู เกาะแมว บรรยากาศโดยรอบหาดสมิหลาเรียกได้ว่าเงียบสงบ รวมถึงยังสนุกไปกับกิจกรรมทางน้ำ เช่น บานาน่าโบ๊ท เจ็ตสกี และแล่นเรือใบ เป็นต้น ไม่ต้องห่วงในเรื่องความปลอดภัย เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด
12. เขาตังกวน
ตั้งอยู่ในตัวเมืองสงขลาใกล้กับหาดสมิหลา มีลักษณะเป็นเนินเขาสูง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมองเห็นทิวทัศน์เมืองสงขลาได้โดยรอบ บนยอดยังเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลา ซึ่งสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้พระราชทานเงินหลวง ให้เป็นทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์ และในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอุดลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุในองค์พระเจดีย์ อีกทั้งในเดือนตุลาคมของทุกปี จะมีงานพิธีห่มผ้าองค์พระเจดีย์ และประเพณีตักบาตรเทโว และลากพระของสงขลาอีกด้วย
ใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวสงขลา ลองเอาที่เที่ยวสงขลาที่เราได้ลิสต์มา เอาไปปรับใช้ให้เข้ากับทริปของเพื่อน ๆ กันดูนะคะ เราบอกได้เลยว่า…สงขลาในวันนี้ ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เรียบง่ายแต่น่าค้นหา ที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องประทับใจในมนต์เสน่ห์นี้ด้วยกันทุกคน ^ ^
ตั๊กออแกไนท์สงขลา รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสงขลา
นางรำสงขลาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสงขลา
สงขลารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสงขลา
รําบวงสรวงพญานาคสงขลา
ฟ้อนบูชาพญานาคสงขลา
รําบวงสรวงพญานาคสงขลา
ติดต่อสอบถามเรา
![](https://ga.lnwfile.com/_/ga/_raw/z2/y8/4u.gif)
หน้า: 1 ... 15 16 [17] 18 19 ... 30