สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - admin

หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 30
226
เที่ยวมีนบุรี เดินเพลิน ๆ ตลาดน้ำ พร้อมเสพความรู้ในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น

วันหยุดว่าง ๆ ใครที่อยากออกไปเที่ยว แต่ไม่อยากไปไหนไกล ในกรุงเทพฯ ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ ซึ่งหลาย ๆ พื้นที่เราก็เคยนำเสนอไปบ้างแล้ว เช่น ย่านดุสิต, ย่านเยาวราช, ย่านชุมชนกุฎี, ย่านเจริญกรุง, ย่านบางกอกน้อย ฯลฯ วันนี้ก็มาถึงคิวของย่านมีนบุรี กันบ้างค่ะ ซึ่งก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจซ่อนตัวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกัน

1. ตลาดน้ำขวัญ เรียม

          ตลาดน้ำขวัญ เรียม เป็นตลาดน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ ช่วงระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ มีการจัดตลาดให้มีบรรยากาศย้อนยุค ผสมผสานกับความทันสมัยนิด ๆ แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นพื้นบ้านแบบไทย ๆ พร้อมทั้งยังมีการจำลองชีวิตของชุมชนริมฝั่งคลอง ทั้งการตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ การทอดผ้าป่าทางน้ำ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย

          ส่วนใครที่ชอบกินอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ ราคาย่อมเยา ที่นี่ก็มีร้านค้ามากกว่า 50 ร้าน ให้ได้เดินเลือกซื้อกินกันอย่างจุใจ ทั้งบนบกและในน้ำ เหมาะที่จะมาเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ตักบาตรทางเรือเริ่มเวลา 07.30-08.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำขวัญ เรียม

2. วัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบางเพ็งใต้

          วัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบางเพ็งใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองแสนแสบ เป็นวัดสำคัญในเขตมีนบุรี โดยวัดบำเพ็ญเหนือ จะตั้งอยู่ทางฝั่งซอยเสรีไทย 60 ส่วนวัดบางเพ็งใต้ ตั้งอยู่ทางฝั่งซอยรามคำแหง 187 ทั้งสองวัดสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 มีพระอุโบสถที่สวยงาม พร้อมทั้งสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ ตลาดน้ำขวัญ เรียม ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งคลองแสนแสบในเขตของทั้ง 2 วัด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

3. พิพิธภัณฑ์เรือจิ๋ว

          พิพิธภัณฑ์เรือจิ๋ว ตั้งอยู่เลขที่ 2/173-175 หมู่บ้านบัวขาว ซอย 22 ถนนสุขาภิบาล 3 เป็นสถานที่จัดแสดงเรือจำลองขนาดเล็ก ซึ่งมีหลากหลายแบบ ทั้งเรือไทยและต่างชาติ เช่น เรือสำเภาจีน, เรือใบ, เรือกระแชง, เรืออีโปง และเรือเสด็จประพาสต้น พร้อมทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวชมอู่ต่อเรือ และสาธิตการทำเรือจิ๋วด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์เรือจิ๋ว

4. พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี

          พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี ตั้งอยู่บนถนนสีหบุรานุกิจ ภายในบริเวณสํานักงานเขตมีนบุรี มีลักษณะเป็นอาคารไม้สักทั้งหลัง สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ชื่อเต็มของที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

          ด้านในของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุ สิ่งของ เอกสาร ศิลปวัฒนธรรม และข้อมูลวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติความเป็นมาของเมืองมีนบุรีจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยมีส่วนจัดแสดงเฉลิมพระเกียรติที่มีเก้าอี้ที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อคราวที่เสด็จมาเยือนตั้งอยู่ด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
          เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี


5. ตลาดนัดจตุจักร 2 เมืองมีนบุรี

          ตลาดนัดจตุจักร 2 หรือตลาดเมืองมีน ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสีหบุรานุกิจ มีลักษณะเป็นตลาดซื้อ-ขายสินค้าเหมือนกับที่ตลาดนัดจตุจักร บริเวณสวนจตุจักร เต็มไปด้วยสินค้าครบครัน ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้าแฟชั่น กระเป๋า เครื่องประดับ สินค้ามือสอง ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ราคาไม่แพง

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.

6. สวนบึงกระเทียม

          สวนบึงกระเทียม ตั้งอยู่บริเวณริมถนนหม่อมเจ้าสง่างาม สุประดิษฐ์ มีลักษณะเป็นสวนสาธารณะริมคลองบางชัน ซึ่งจัดตกแต่งให้เป็นสวนหย่อมบรรยากาศร่มรื่น มีไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้พุ่มเล็ก และไม้คลุมดิน โดยรอบพื้นที่กว่า 82 ไร่ และยังออกแบบให้มีเส้นทางวิ่งออกกำลังกาย พร้อมทั้งมีอุปกรณ์ออกกำลังกาย และห้องน้ำไว้รองรับประชาชน

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.

7. ตลาดเก่ามีนบุรี และชุมชนมีนบุรีอุปถัมภ์

          ตลาดเก่ามีนบุรี เป็นตลาดดั้งเดิมของชาวมีนบุรี จะอยู่บริเวณริมถนนสีหบุรานุกิจ ในโซนนี้จะมีสินค้าจำหน่ายมากมาย ทั้งของสด ของแห้ง ผัก-ผลไม้นานาชนิด รวมทั้งของกินอีกหลากหลายประเภท นอกจากโซนนี้แล้วก็ยังมีโซนที่เป็นตลาดเก่าดั้งเดิม ซึ่งจะตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ แต่ได้ถูกไฟไหม้ไป จึงย้ายตลาดไปอยู่ยังที่ตั้งปัจจุบัน

          ตลาดเก่าดั้งเดิมจะมีศาลเจ้าสไตล์จีนสวยงามเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ พร้อมทั้งมีเรือนแถวไม้แบบโบราณให้ได้เดินเที่ยวชม สามารถมาเดินเที่ยวถ่ายรูปชิค ๆ ได้ตลอดทั้งวัน

8. สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9

          ตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนมีนบุรี หน้าเขตมีนบุรี ตรงข้ามศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นสวนสาธารณะบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย พร้อมกับมีเส้นทางเดิน-วิ่ง และออกกำลังกาย รวมทั้งพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ มีสิ่งสำคัญภายในสวน คือ พระบรมรููปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.

9. Cafe du Coq

          Cafe du Coq ตั้งอยู่ในซอยร่มเกล้า 8/1 เป็นร้านกาแฟบรรยากาศดีอีกหนึ่งแห่งของเขตมีนบุรี ร่มรื่นไปด้วยสวนสีเขียว ประดับประดารอบ ๆ ร้านไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และน่านั่งพักผ่อนระหว่างวัน มีที่นั่งให้ลูกค้าเลือกชิลทั้งด้านนอกและภายในห้องปรับอากาศ ในส่วนของกาแฟสด ก็อร่อยเข้มข้น ถูกใจคอกาแฟแน่นอน และยังมีเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้เลือกลิ้มลอง พร้อมทั้งมีเค้กและขนมหวานพร้อมเสิร์ฟอีกหลากหลายเมนู

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Cafe du Coq

10. ARABIA COFFEE

          ARABIA COFFEE ร้านกาแฟที่ไม่ควรพลาดแห่งมีนบุรี โดดเด่นด้วยรสชาติกาแฟที่เข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ เพราะทางร้านมีการเลือกใช้เมล็ดกาแฟอย่างดี ซึ่งปลูกเองในจังหวัดเชียงราย แล้วนำมาคั่วบดเอง พร้อมทำเป็นกาแฟสดพร้อมดื่มอย่างพิถีพิถัน ใครได้ลิ้มลองเป็นต้องติดใจ บรรยากาศในร้านสบาย ๆ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีที่นั่งทั้งภายในร้าน และบริเวณด้านนอก มีเมล็ดกาแฟจำหน่ายด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ARABIA COFFEE SHOP

          นอกจากนี้ในเขตมีนบุรี ก็ยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่น่านั่ง รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกไม่น้อยเลยค่ะ เราจะมาอัปเดตให้เรื่อย ๆ นะคะ :)

ตั๊กออแกไนท์บึงกุ่ม รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบึงกุ่ม
นางรำบึงกุ่มเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบึงกุ่ม
บึงกุ่มรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบึงกุ่ม
รําบวงสรวงพญานาคบึงกุ่ม
ฟ้อนบูชาพญานาคบึงกุ่ม
รําบวงสรวงพญานาคบึงกุ่ม

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


227
เที่ยวกรุงเทพฯย่านบางแค แคร์คนชอบกิน ถิ่นของกินเด็ด กินไม่เสร็จไม่กลับ

1ตลาดบางแค
หนึ่งที่เที่ยวกรุงเทพฯที่มีชื่อเสียงมาก ถ้าเราพูดถึงที่เที่ยวฝั่งธน ย่านบางแค หลายคนต้องรู้จัก
 กันแน่นอน เพราะที่นี่ถือเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ ที่รวมไว้ทั้งของสด อาหาร แล้วก็ยังมีข้าวของเครื่องใช้ ทั้งเครื่องใช้ในบ้าน เสื้อผ้า กางเกง เสื้อหนาว และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่ามาที่ตลาดบางแคที่เดียวได้ครบค่ะ


สับมาตั้งแต่ยังสาว
แต่วันนี้ซังไม่ได้มาหาของสดไปทำกับข้าว หรือหาเครื่องอุปโภคบริโภคนะคะ ฮ่า ๆ ซังจะมาหาของกินบริเวณหน้าตลาด ตอนนี้เขาก็ได้รับการจัดระเบียบให้อยู่ในโซนด้านหน้าให้เรียบร้อย ร้านรวงก็เรียงรายรอให้เราเข้าไปกินของกินบางแคแล้วค่ะ


หวาน ๆ จ้า
สำหรับใครที่มาเที่ยวตลาดบางแคก็สามารถเข้าไปจอดรถด้านหลังตลาด คิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 20 บาท หลังจากจอดรถเรียบร้อยซังก็เดินออกมาด้านหน้าตลาดมาหาของกินกัน เดินไปไม่ทันถึง 8 ก้าว ก็เจอคุณป้าเจ้าของร้านแรกเรียกให้เข้าไปชิมซะแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ร้านแรกเนี่ย ซังภูมิใจนำเสนอมากกกก เพราะเป็นร้านที่กินมาตั้งแต่เด็ก คือร้าน “หัวหมูพะโล้” แต่ทีเด็ดคือ “ลิ้นหมูย่าง” ขายเป็นกิโล เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม น้ำส้ม รสชาติเปรี้ยวกินคู่กับลิ้นหมู ตัดเลี่ยนและเข้ากันดีมาก ตัวลิ้นหมูเหนียวนุ่มกำลังดี พูดตอนนี้ยังน้ำลายไหลอยู่เลย อยากกินอีกกกก


ลอดช่องหวาน ๆ จ้าแม่

ขอชิมหน่อยค่าาาา
เดินไปอีก 1 ก้าว ก็เจอร้านลอดช่องสะกัดดาวรุ่ง งั้นขอกินของหวานดับคาวสักหน่อย จัด
ไปหนึ่งแก้ว หวานหอมชื่นใจ พร้อมไปเดินเที่ยวต่อ ติด ๆ กันก็มีร้านขายของทอด
 จะรอช้าอยู่ไย สั่งเปาะเปี๊ยะทอดกับเผือกทอดมากินให้ลิ้นพอง แล้วปิดท้ายตลาดบางแคที่ร้าน



น้ำจับเลี้ยงเจ้านี้หนูกินมาตั้งแต่เด็ก ๆ 

ของทอดคือนิพพาน
กินรองท้อง? พอให้มีแรง ก็พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวย่านบางแคกันต่อ ที่เที่ยวต่อไปก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กับตลาดบางแคนี่เอง ขับรถไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง โดยที่เที่ยวที่เราจะไปกันต่อก็คือ
 วัดท่ีอยู่กับย่านบางแคมาอย่างเนิ่นนาน อาหารยังไม่ทันย่อย ซังก็เดินทางมาถึงที่ วัดนิมมานรดี แล้วละค่ะ


กินของทอดยั่ว ๆ จ้า~
2วัดนิมมานรดี


มีชื่อเดิมว่าวัดบางแค เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ริมคลองภาษีเจริญ จริง ๆ แล้วใครที่มาจากตลาดบางแคก็สามารถเดินจากตรอกในตลาดบางแคมาได้เรื่อย ๆ จะมาเจอสะพานเชื่อม สามารถเดินมาถึงวัดได้เลย ระหว่างร้านก็จะมีร้านอาหาร ร้านขนม ต่าง ๆ เป็นชุมชน ให้ฟีลลิ่งอบอุ่นเลยค่ะ 


สาธุค่า
แต่สำหรับทางเรานั้นนนน น่าจะเดินไม่ไหว เลยขอขับรถมา มาถึงก็เข้าไปสักการะพระอุโบสถหน้าบัน เป็นสัญลักษณ์ ภ.ป.ร., ศาลาพระสังขจายน์ และศาลาประดิษฐานรูปปั้นหลวงพ่อโต พรหมรังสี เข้ามาสักการะบริเวณในวัด และได้บริจาคเงินค่าโลงศพบริเวณภายในวัด ซังรู้สึกถึงความสงบมากเลยค่ะ มีผู้คนไม่พลุกพล่านมาก


ทำบุญโลงศพค่าาา

สวยงามมากกกก
หลังจากที่ไหว้พระ ทำบุญ กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปเดินเล่นกันต่อ ที่เดินเล่นของเราก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลค่ะ เดินข้ามฝั่งคลองไปนี่เอง เพราะเราเห็นตั้งแต่ขามาแล้ว นั่นก็คือตลาดน้ำวัดนิมมานรดี
ตลาดน้ำวัดนิมมานรดี หรือชื่อเดิมว่า ตลาดน้ำคลองภาษีเจริญ เป็นตลาดที่เก่าแก่มาก อยู่มากว่าร้อยกว่าปี จนได้รับฉายาเป็นตลาด 5 แผ่นดินเลยทีเดียวค่ะ ตัวตลาดตั้งอยู่ริมคลองภาษีเจริญ หรือบริเวณตรงข้ามวัดนิมมานรดีนี่แหละค่า บริเวณนี้เนี่ยถือเป็นชุมชนและแหล่งค้าขายในย่านบางแคมานาน เพราะถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรของคนบางแค แต่หลังจากมีถนนเพชรเกษม บริเวณตลาดน้ำวัดนิมมานรดีก็ซบเซาลง แต่ตอนนี้ก็มีการฟื้นฟูตลาดน้ำแห่งนี้ให้มีชีวิตชีวา ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอีกครั้งค่า


ร้านค้าต่าง ๆ ก็เป็นร้านของคนในชุมชนที่อาศัยกันนี่แหละค่า เดินเล่นกันได้สบาย ๆ เรารู้สึกว่าที่นี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมาก มีความน่ารัก ๆ เป็นกันเองของคนในชุมชน แต่ต้องออกตัวก่อนว่าวันธรรมดาจะมีร้านเปิดน้อย ไม่คึกคักเท่ากับวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ก็ยังพอมีร้านเปิดบ้าง แล้วก็มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นกัน

เดินมานิดนึงเราก็เจอกับร้านอาหารบางแค “ร้านเพ้งง้วน” ร้านข้าวหมูแดงที่มีคุณป้าคอยเสิร์ฟเมนูความอร่อยให้เรา มาถึงร้านข้าวหมูแดงทั้งทีก็ต้องสั่ง “ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ” (ราคา 40 บาท) แต่นอกจากข้าวหมูแดง ร้านนี้ก็ยังมีอาหารตามสั่งด้วย ซังเลยถือโอกาสสั่ง “เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว” (ราคา 40 บาท) มากินด้วย จะได้ลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง (จริง ๆ คืออยากกินส่วนตัวแหละ ดูออก)


กินแล้วนะค้าาาา 
กินข้าวเสร็จก็เดินย้อนมานิดนึงเห็นร้านขายอาหารปลา เลยถือโอกาสให้อาหารน้องปลาสักหน่อย จัดมาค่ะ ขนมปัง 1 กะละมัง (ราคา 20 บาท) ให้น้อง ๆ กินกันได้แบบเต็มอิ่ม เพราะคนให้นั้นอิ่มมาก่อนแล้ว ฮ่า ๆ ให้อาหารน้องปลาเสร็จยังพอมีเวลาว่าง ๆ ก่อนจะไปกินร้านสุดท้ายที่เราตั้งใจไว้ เลยลองหาคาเฟ่ที่ไม่ไกลจากแถวนี้มาก ลองเสิร์ชหาใน Application Wongnai ก็เจอกับร้าน “Let’s Bite” อยู่ในซอยทุ่งมังกร ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ถึงจะไม่ได้อยู่ในย่านบางแคโดยตรง ก็ถือว่าเดินทางมาได้ไม่ไกลมากค่า

4Let’s Bite
ขับรถมาแป๊บเดียวก็สะดุดตากับร้าน “Let’s Bite” หาไม่ยากเลยค่ะ เพราะอยู่บริเวณปากซอย ร้านสีขาวบรรยากาศน่ารัก ที่ดูร่มรื่น สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ด้านในบริเวณที่นั่งติดกระจกเป็นบรรยากาศสบาย ๆ เข้ามาด้านในพี่ ๆ พนักงานก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง


ที่ร้าน “Let’s Bite” มีทั้งเมนูเบเกอรี กาแฟ น้ำผลไม้ เรียกได้ว่ามากันได้ทั้งกับเพื่อน แฟน หรือครอบครัวเลยค่ะ ที่ร้านมีโซนให้เลือกประมาณ 3 โซนค่ะ ก็เลือกนั่งกันได้ตามใจเลย ซังสั่งเมนู “Carrot Cake” (ราคา 95 บาท) แล้วก็ “อเมริกาโนเย็น” (ราคา 60 บาท)


กินแล้วนะค้าาา

หน้าตา น่ากินมากกก
ซังเลือกที่นั่งบริเวณริมกระจกหน้าร้าน บอกเลยว่ามีมุมถ่ายรูปเพียบบบบ จะเดินหรือนั่งมุมไหนก็กลายเป็นคนชิค ๆ ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ฮ่า ๆ เรียกได้ว่าได้กินขนม ดื่มกาแฟ แล้วยังได้รูปสวย ๆ ไปลงใน
 ได้อีกหลายอาทิตย์ค่ะคุณ ใครที่มาเที่ยวย่านบางแคแล้วมองหาร้านน่ารัก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากโซนนั้นมาก ก็มาที่ “Let’s Bite” ได้เลย ได้รูปสวย ๆ เหมือนเราแน่นอน คิกคักคุกคิก

5Best Beef สาขาบางแค
และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง อึ๋ง อึ๋งงงงง จุดหมายปลายทางที่เราเฝ้าฝันถึงมาหลายวัน ร้านเนื้อย่างเจ้าดังที่มาเปิดสาขาใหม่แถวบ้านอย่างร้าน “Best Beef สาขาบางแค” ปิ้งย่างกระทะร้อนที่หลายคนต้องรู้จัก สาขาพี่ใหญ่อย่างสาขาสุขุมวิท และสาขาศรีนครินทร์

และตอนนี้เขาได้เดินทางมาเอาใจคนบางแคอย่างเราแล้ว (ดีใจน้ำตาไหล) สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Best Beef ก็ขออธิบายสั้น ๆ ได้ใจความว่า ร้านนี้เนี่ยเขาเด่นดังเรื่องเนื้อคุณภาพ ในราคาจับต้องได้! มีให้เลือกกินแบบบุฟเฟ่ต์ กินไม่อั้น กินกันไปยาว ๆ มีตั้งแต่บุฟเฟ่ต์ราคา 299 บาท (ยังไม่รวมเครื่องดื่ม), บุฟเฟ่ต์ราคา 369 บาท (น้ำเปล่า+น้ำแข็ง+น้ำอัดลม+ชามะนาว), บุฟเฟ่ต์ 499 บาท (รวมเครื่องดื่ม+รวมเบียร์) เบียร์บุฟเฟ่ต์จะเสิร์ฟให้ขวดต่อขวด โอ้ยยยย คุณขาาา บอกแล้วว่าราคาเขาไม่แรง


จัดไปจุก ๆ เต็มโต๊ะเลยจ้า
ทางเราขออนุญาตไม่พูดเยอะ สั่งอาหารมาเตรียมลงเตากันดีกว่า เมนูที่นี่ก็มีทั้ง เนื้อวัว เนื้อไก่ เป็ด ซีฟู้ด อาหาร และผักสด แต่ที่บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ก็คืออออ เมนูพิเศษประจำเดือนที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียน ไม่ซ้ำหน้ากันในแต่ละเดือน นอกจากบุฟเฟ่ต์ก็มีเนื้อแบบ A La Carte เราสั่งเมนู “เสือร้องไห้ออสเตรเลีย” ลายสวย มันแทรกอย่างงดงาม แล้วก็ “เนื้อเสือร้องไห้พิเศษ” เสือไม่ต้องร้องไห้แล้วค่ะ จังหวะนี้ เพราะเราจะร้องไห้แทน ทราบซึ้งกับรสสัมผัส ไม่อยากจะบอกนะคะว่าเราสั่งมาเยอะแค่ไหน ให้ภาพเล่าเรื่องแทน


พร้อมงั่มมมมม

ร้อน ๆ เลยจ้าแม่

เนื้อฉ่ำ ๆ เลยจ่ะ แม่จ๋า
เรื่องคุณภาพและการบริการเนี่ย บอกเลยว่าซังติดใจมาตั้งแต่สาขาแรก ๆ แล้ว ยิ่งมาอยู่ใกล้บ้าน ยิ่งเลิฟเข้าไปใหญ่~ ใครที่อยากมากินตามซังก็ไม่ยากเลยค่ะ เพราะร้านเขาติดกับสถานีรถไฟฟ้า MRT บางแค เดินมาประมาณ 100 เมตร ก็ถึง ส่วนใครที่ขับรถมาก็สบายมาก เพราะมีที่จอดรถให้ถึง 150 คัน! มาเถอะค่ะ ที่จอดรถกว้างกว่าสนามบอล สะดวกมากกกกจริง ๆ 

อิ่มฟินถึงถิ่นที่เที่ยวฝั่งธน ย่านบางแคกันแบบจุก ๆ เที่ยวกรุงเทพฯได้สมใจ (ซังเอง) ฮ่า ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีที่เที่ยวบางแคเพิ่มเติม ก็คอมเมนต์มาบอกกันในเพจ Wongnai Travel ได้เลยค่า น้อมรับความเห็นของทุกคน อีกอย่าง ซังว่ากรุงเทพฯยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจและน่าเดินทางไปทำความรู้จักอีกเพียบ~ แต่สำหรับวันนี้ซังก็หนังท้องตึง (เพราะกินเยอะม้ากกก) และหนังตาหย่อน เดินเที่ยวย่านบางแคเพลินทั้งวัน ทั้งไหว้พระ เดินตลาด หาของกิน เช็กอินคาเฟ่ วันนี้คงต้องขอตัวกลับบ้านก่อน ใครที่อยากมาตามรอยก็มากันได้เลยค่ะ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะค้าทุกคน บ้ายบายยย~

ติดตามบทความที่เที่ยวกรุงเทพฯและที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯกันต่อได้ที่
รวม 25 ตลาดน้ำ ตลาดนัดน่าเที่ยว ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ
เที่ยวกรุงเทพฯ เดินเล่นบางขุนนนท์ สวรรค์ของคนชอบกิน! ฟินด้วยงบหลักร้อย
ที่เที่ยวกรุงเทพฯ แบบงบน้อย 500 ก็เอาอยู่! สำเพ็ง-สะพานพุทธ
เที่ยวกรุงเทพฯงบหลักร้อย สนามหลวง 2 - ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต ของเด็ดฝั่งธน อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/trips/trip-around-bang-khae?ref=ct

ตั๊กออแกไนท์บางแค รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางแค
นางรำบางแค.เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางแค
บางแครําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางแค
รําบวงสรวงพญานาคบางแค
ฟ้อนบูชาพญานาคบางแค
รําบวงสรวงพญานาคบางแค

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


228
บ้านบางเขน แหล่งเช็กอินเสน่ห์วันวานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ

บ้านบางเขน เช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ แห่งใหม่ ที่จะพาคุณสัมผัสเสน่ห์แห่งวันวาน เหมาะสำหรับเป็นที่นั่งชิล ๆ

          บ้านบางเขน จุดเช็กอินแห่งใหม่ย่านบางเขน แหล่งเรียนรู้เรื่องราวในอดีต เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ก้าวแรกเมื่อเดินเข้ามาที่นี่ คุณจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของวันวานที่ยังคงมีชีวิตโลดแล่นและไม่จางหายตามกาลเวลา ที่นี่จึงเหมาะเป็นทั้งที่เที่ยวและที่นั่งชิลแห่งใหม่ที่น่าสนใจ ที่สำคัญเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2560 วันนี้เราเลยจะพาไปเที่ยวกรุงเทพฯ สำรวจทุกซอกอาณาบริเวณของบ้านบางเขนแห่งนี้ไปด้วยกัน

          บ้านบางเขน แหล่งที่เช็กอินแฮงก์เอาท์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ อยู่แถวบริเวณย่านบางเขน ตรงข้ามกับกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และติดกับสวนอาหารบางบัว ความโดดเด่นด้วยลักษณะอาคารตึกไม้ทรงโบราณ ที่มีกลิ่นอายของวันวาน ที่นี่ได้รวบรวมของเก่าสะสมโบราณ ท่ามกลางความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว เหมาะสำหรับการนัดคุยงานและอ่านหนังสือ มีมุมถ่ายรูปเพียบ รวมถึงยังได้ลิ้มลองอาหารจานเด็ดจากทุกท้องถิ่น ขนมหวานและเครื่องดื่มแสนชื่นใจอีกด้วย

          บ้านบางเขนแบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือโซนห้องแอร์

          และโซนโต๊ะนั่งทานอาหารโซนฟู้ดคอร์ท

          ซึ่งแต่ละมุมมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อยู่เพียบไปหมด นอกจากนี้ตอนเช้าใครอยู่ใกล้แถวนั้น สามารถแวะไปทานอาหารเช้าได้ ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-10.00 น. เมนูอาหารเช้า ได้แก่ ไข่กระทะทรงเครื่อง, ไส้กรอกหัวใจไข่ดาว, ออมเล็ตทรงเครื่อง หรือขนมปังไข่ฟู เป็นต้น

          นอกจากเมนูอาหารเช้าแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ ที่จัดมาเสิร์ฟกันถึงที่ ไม่ต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ก็มีของอร่อย ๆ ให้ทานอยู่ตรงหน้า เช่น ขนมปังสังขยา ป้าอนงค์ นนทบุรี, ข้าวแกงใต้ นครศรีธรรมราช, ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ อ่างทอง หรือหมูสะเต๊ะ สะพานใหม่ เป็นต้น รวมถึงเมนูของหวานและเครื่องดื่มที่มีให้เลือกอีกมากมาย

          ขาดไม่ได้กับมุมที่นั่งและมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะถูกตกแต่งด้วยข้าวของวัตถุโบราณของหายาก เช่น โค้กที่ผลิตเป็นขวดแก้วใบแรกเมื่อปี 1894, Coca Cola Swarovski Limited Edition และบ้านโค้ก เป็นต้น และไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็ดูเหมือนว่าน่าถ่ายรูปไปเสียทุกมุม แถมทางร้านยังมีห้องให้นักเรียนและนิสิต นักศึกษาได้มาอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ใครที่อยากหาที่นั่งชิล ๆ ท่ามกลางเสน่ห์แห่งวันวาน เราแนะนำให้คุณมาที่นี่ ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถ เพราะมีพื้นที่จอดรถอย่างเพียงพอ ที่สำคัญเข้าชมฟรี ! ไม่มีเสียเงิน แล้วคุณจะรู้เลยว่าอดีตไม่เคยจากเราไปไหน หากแต่หลบอยู่ในซอกมุมเล็ก ๆ ของกรุงเทพฯ ณ บ้านบางเขน แห่งนี้นี่เอง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก บ้านบางเขน โทรศัพท์ 085 921 6666

ตั๊กออแกไนท์บางเขน รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางเขน
นางรำบางเขนเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางเขน
บางเขนรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางเขน
รําบวงสรวงพญานาคบางเขน
ฟ้อนบูชาพญานาคบางเขน
รําบวงสรวงพญานาคบางเขน


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


229
ไหว้พระเจดีย์เรือสำเภา เที่ยว “บางรัก” ย่านเก่าคึกคักแม้ไม่ใช่วันวาเลนไทน์

1 ใน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ย่านที่ใครหลายคนรู้จัก กับการเป็นย่านเด่นดังและคึกคัก ในการเดินทางมาจดทะเบียนสมรส ในช่วงวันวาเลนไทน์ของทุกๆ ปี แต่ในความเป็นจริงแล้วย่านแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีผู้คนคึกคักมากมายไม่แพ้ที่อื่นๆ เพราะบริเวณนี้ เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างการเดินทางทางเรือและรถไฟฟ้า ที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรีได้  อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้แวะเที่ยวกันอีกด้วยในส่วนของความเป็นมานั้น ก็ถือได้ว่าย่านบางรักแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีประวัติการก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ร.ศ. 127 หรือ พ.ศ. 2450 ในฐานะอำเภอบางรัก เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2515 ได้มีประกาศคณะปฏิวัติจัดตั้งกรุงเทพมหานครขึ้นแทนที่นครหลวงกรุงเทพธนบุรีซึ่งเกิดจากการรวมกันของจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรี อำเภอบางรักจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเขตบางรักจนมาถึงปัจจุบัน

สำหรับการท่องเที่ยวในครั้งนี้ “เที่ยวตามย่าน” จะขอเริ่มต้นกันที่ “วัดยานนาวา” ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างไปไม่ไกลมากจากท่าเรือและสถานีรถไฟฟ้า วัดยานนาวานั้นเป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อ “วัดคอกควาย” เนื่องจากมีชาวทวายมาลงหลักปักฐานอาศัยอยู่ที่บริเวณนี้ และนำกระบือที่เลี้ยงไว้มาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง เรียกชื่อใหม่ว่า “วัดคอกกระบือ” และในรัชกาลที่ 1 ทรงสร้างพระอุโบสถใหม่ขึ้น

เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่พระองค์ทรงใช้เรือสำเภาขนส่งสินค้าไปทำมาค้าขายถึงเมืองจีนและประเทศต่างๆ และเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภาซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย จึงเปลี่ยนชื่อจากวัดคอกกระบือเป็น “วัดยานนาวา” ภายในวัดนั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่และสบายตา มีอาคารสำคัญที่ถูกตกแต่งผสมผสานในแบบทรงไทยให้ได้ชม และยังเป็นที่ตั้งของ พระบรมราชานุสาวรีพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ให้ได้สักการะและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของท่าน

หลังจากไหว้พระขอพรกันเสร็จแล้ว ก็จะขอพาเดินย้อนกลับมาบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้า เพื่อไปยังที่เที่ยวต่อไป ซึ่งนั่นก็คือ “ศาลเจ้าบางรัก” หรือ “ศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว” ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าแบบไหหลำ มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงนักเดินทางชาวจีน 108 คน ที่ล่องเรือสำเภามาค้าขายที่บางรัก แต่ไปถูกฆ่าตายที่เวียดนามเพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโจรสลัด ภายในอาคารศาลเจ้านั้นเป็นที่ประดิษฐานศาลเทพเจ้าของชาวจีน อาทิ เจ้าแม่ทับทิม, บู๊นท๋ากง, เจ้าแม่กวนอิม ให้ผู้ที่แวะเวียนมาได้สักการะขอพร อีกทั้งศาลเจ้าแห่งนี้ก็เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนที่ทำมาค้าขายอยู่ในย่านบางรักแห่งนี้

ถัดมาไม่ไกลมากนักก็จะเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก แหล่งชอปปิ้งและจุดนัดพบของใครหลายคนที่สัญจรผ่านมายังย่านบางรัก อีกทั้งบริเวณด้านข้างของห้างโรบินสัน ยังเป็นที่ตั้งของ “บางรัก บาซาร์”
รองเท้าหลากสไตล์ ภายในร้านขายรองเท้าหนึ่งในหลายๆ ร้าน ที่ “บางรัก บาซาร์”
รองเท้าหลากสไตล์ ภายในร้านขายรองเท้าหนึ่งในหลายๆ ร้าน ที่ “บางรัก บาซาร์”
ตลาดนัดคนเดินเเห่งนี้ ทอดตัวยาวเป็นซอยที่ถูกขนาบด้านข้างด้วยร้านขายสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องประดับ, เครื่องสำอาง ก็มีให้ได้เดินซื้อเดินชมกันอย่างมากมาย โดยร้านค้าจะเริ่มทยอยกันเปิดในช่วงบ่ายคล้อยเย็น ใครหลายคนที่เดินผ่านในจุดนี้ อาจต้องเก็บกระเป๋าไว้เป็นอย่างดี เพราะจะไม่ใช่โจรอย่างเดียวที่จะขโมยเงินคุณ แต่จะเป็นสินค้าน่าชอปนี่แหละที่จะทำให้คุณเสียเงินได้

บริเวณด้านหน้าห้างโรบินสันก็คือ ถนนเจริญกรุง หนึ่งในถนนสายเก่าแก่ของกรุงเทพมหานคร ที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคการสร้างแบบตะวันตกในปี พ.ศ. 2404 ในสมัยรัชกาลที่ 4 และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2407 เมื่อสร้างถนนเสร็จใหม่ๆ นั้น ยังไม่ได้มีการพระราชทานนาม จึงเรียกกันทั่วไปว่า “ถนนใหม่” และชาวต่างชาติเรียกว่า “นิวโรด” (New Road) ชาวจีนเรียก “ซินพะโล้ว” ต่อมาจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามถนนว่า “ถนนเจริญกรุง” ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง

ปัจจุบันสองข้างทางของถนนสายนี้เป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์มากมายหลายรูปแบบมีทั้งแบบเก่าแบบใหม่ให้ได้ชม และยังเป็นที่ตั้งของร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารนานาชนิดๆ,ร้านหนังสือ, ร้านขายสังฆทาน ให้ได้เลือกซื้อเลือกหาอย่างง่ายดาย ที่สำคัญยังเป็นถนนสายที่มีของอร่อยให้เลือกชิมมากมาย ทั้งของคาวของหวาน สามารถเลือกชิมกันได้ตามชอบ (คลิกอ่านเรื่องกินย่านบางรัก)

นอกจากจะเป็นถนนสายการค้าแล้ว ด้วยความที่บางรักเป็นย่านที่มีมายาวนานแล้ว จึงมีอาคารเก่าแก่ต่างๆ เหลือให้ได้มาชมกันด้วย อย่างเช่นที่ “อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก” อาคารเก่าแก่แห่งนี้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 เพื่อใช้เป็นอาคารของกรมไปรษณีย์โทรเลข รูปแบบอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นในยุค Neo-Classicism ผสม Functionalism มีความโดดเด่นคือการประดับประดาโดยใช้เส้นตรงและระนาบ และที่มุมหน้าตึกด้านบนทั้งสองข้าง ได้ประดับปูนปั้นรูปครุฑ ด้านหน้าอาคารเป็นที่ประดิษฐานของ “พระอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุขฯ” พระบิดาการไปรษณีย์ไทย ปัจจุบันอาคารแห่งนี้มีอายุ 70 กว่าปี และกิจการไปรษณีย์ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ในอาคารหลังนี้ แต่จะลดขนาดของศูนย์บริการมาเป็นห้องทางด้านขวาของอาคารแทน จากแต่ก่อนที่ใช้พื้นที่ทั้งอาคาร

ย่านแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งย่านที่น่าสนใจในการผ่านมาท่องเที่ยว เพราะการเดินทางมาย่านบางรักนั้น สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก โดยเป็นจุดเชื่อมต่อของการสัญจรทั้งทางน้ำทางบก หากใครต้องการเดินทางมาโดยใช้รถโดยสารประจำทาง ก็จะมีสาย 1, 15, 35, 75, 77, 163, 504, 544, 547 หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีสะพานตากสิน และจะต้องการสัญจรทางน้ำ ก็สามารถใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาลงท่าสาทร
ตั๊กออแกไนท์บางรัก รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางรัก
นางรำบางรักเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางรัก
บางรักรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางรัก
รําบวงสรวงพญานาคบางรัก
ฟ้อนบูชาพญานาคบางรัก
รําบวงสรวงพญานาคบางรัก



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


230
บางพลัด / บางพลัด ลัดเลาะเที่ยวใน 1 วัน
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 01:06:41 AM »
บางพลัด ลัดเลาะเที่ยวใน 1 วัน

หากพูดถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ เชื่อว่าคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพคงคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี จะเรียกได้ว่าเป็นถนนที่การจราจรหนาแน่นที่สุดสายหนึ่งก็ว่าได้ แต่ในความเป็นเมืองที่ว่านี้ยังมีย่าน บางพลัด ซึ่งเป็นแหล่งการค้าและชุมชนที่อยู่อาศัย มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมที่สวยงามในบรรยากาศสงบเงียบซุกซ่อนอยู่  ใน 1 วัน หรือแค่ครึ่งวัน จะพาไปลัดเลาะเที่ยวในย่านบางพลัดกันค่ะ

10.00 น. มัสยิดบางอ้อ บางพลัด
เริ่มต้นกันแบบสบายในยามสาย กันที่  มัสยิดบางอ้อ  ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 86 ท่ามกลางชุมชนมุสลิมบางอ้อ เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยปลายรัชกาลที่ 5  ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม ลักษณะของสถาปัตยกรรมเป็นแบบเรอเนซองส์ผสมผสานกับอิทธิพลของศาสนาอิสลาม หลังคาเป็นทรงปั้นหยามีชายคาเป็นหลังคาคอนกรีตแบนและมีลูกกรงระเบียงที่มีลวดลายปูนปั้นและเครื่องประดับโดยรอบหลังคา โดยปัจจุบันมีการทำการบูรณะยกอาคารขึ้นเป็นสองชั้นทาสีใหม่ โดยทาสีอาคารเป็นเหลือง อาคารมัสยิดใชัในการประกอบศาสนกิจ 5 เวลา(ละหมาด) และวันสำคัญ

ติดกับมัสยิด คือ อาคารเจริญวิทยาคาร 1 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมเรือนไม้สักแบบขนมปังขิง ลวดลายฉลุตกแต่งพร้อมระบายอากาศงดงามคลาสสิคมาก

ถัดจากอาคารเจริญวิทยา 1  คือ อาคารเจริญวิทยา 2 เป็นอาคารครึ่งไม้ครึ่งปูนสองชั้น ตกแต่งด้วยไม้สักและช่องแสงกระจกสี

นอกจากตัวมัสยิดที่โดดเด่นแล้ว ยังมีอาคาร 100 ปี มัสยิดบางอ้อ เป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่ในวาระครบรอบ 100 ปี มัสยิดบางอ้อ เพื่อใช้เป็นอาคารเอนดประสงค์และทางเดินเชื่อมไปยังมัสยิด โดยเน้นสถาปัตยกรรมแบบอาหรับโมรอคโค ตัวอาคารโอ่อ่าเป็นสีครีมโดดเด่นประดับด้วยลวดลายกระจกเทาฟ้าบริเวณบานประตู เรียกได้ว่าเมื่อมาถึงพื้นที่ของมัสยิดบางอ้อ ต้องสะดุดตาและตะลึงไปกับความสวยงามของอาคารดังกล่าว ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอาคารที่มีสไตล์ในย่านชุมชนของถนนจรัญสนิทวงศ์ ที่เรารู้จักชื่อและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และใช้สัญจรไปมาอยู่บ่อยครั้ง
นอกจากลวดลายของกระจก และกระเบื้องที่สวยงามแล้ว รูปทรงของอาคารด้านข้างมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมทอดยาว ภายในอาคารสร้างเป็นซุ้มประตูเรียงต่อกัน บริเวณผนังตกตกแต่งด้วยกระเบื้องสีฟ้าพาสเทลมีความคลาสสิค  มีแสงของดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในระหว่างช่องประตู กลายเป็นมุมถ่ายภาพแสนเก๋ ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในอาคารแบบโมรอคโค ผสมผสานกับตะวันออกกลาง
ภายในตัวอาคารก็สวยงามเช่นกัน ลวดลายของหน้าต่าง ประตูมีแสงสาดส่องเข้ามา กลายเป็นมุมแห่งแสงเงาที่ถ่ายภาพได้แบบเก๋ๆ แถมมีลมพัดเข้ามาเย็นสบายมาก  มัสยิดบางอ้อและอาคาร 100 ปี เป็นความงดงามแปลกตาใจกลางกรุง เหมาะมากสำหรับคนชอบถ่ายภาพ เพราะมีมุมสวยเยอะมาก แถมแสงยังสวยด้วย  แต่งตัวมาแบบวินเทจนิดๆ ก็เข้ากันกับสถานที่ดี ในช่วงค่ำทราบมาว่าอาคาร 100ปี จะเปิดไฟซึ่งสวยงามมาก หากมาเก็บภาพช่วงนี้ก็จะสวยงามไปอีกแบบ

11.30 น.  กาแฟบ้านบางอ้อ
ไม่ไกลจากมัสมยิดบางอ้อห่างกันแค่ประมาณ 400 เมตร เราเดินทางไปยังซอยจรัญสนิทวงศ์ซอย 84  เพื่อไปทานอาหารเที่ยงกันที่ กาแฟบ้านบางอ้อ ร้านกาแฟกลางสวนริมถนนจรัญฯ ในย่านชุมชนอย่างถนนจรัญฯที่มีสภาพแวดล้อมเป็นตึกแถวและซอกซอยต่างๆ แถมมีการจราจรหนาแน่น ยังมีร้านอาหารที่มีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ซุกซ่อนอยู่ เป็นร้านที่เหมาะมากสำหรับหลบมุมรถติด มานั่งทานอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อความผ่อนคลาย

ร้านกาแฟอยู่ริมถนน แต่ไม่ต้องขับรถเข้าไปในร้าน ให้เลยเข้าไปยังซอยข้างร้าน คือ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 84  เข้ามาจอดรถด้านหลังร้านที่จอดรถถือว่ามีพอในระดับหนึ่ง  ตัวร้านเป็นบ้านสีขาวขนาดใหญ่ 2 ชั้น แบ่งเป็น 2 โซนคือ เริ่มจากโซนเอาท์ดอร์กลางสวน เหมาะสำหรับนั่งผ่อนคลายอารมณ์ในช่วงแดดร่มลมตก เพราะมีมุมให้นั่งเล่นชิวหลายมุม หรือหากนั่งในโซนห้องแอร์จะมาเดินเล่นถายภาพก็ย่อมได้  บริเวณหน้าร้านมีดนตรีซึ่งเป็นเพลงย้อนยุคสดขับกล่อมด้วย

ส่วนภายในร้านเป็นห้องแอร์ ล้อมรอบด้วยกระจกใส มองออกไปเห็นต้นไม้ร่มรื่นตา ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่ จะมากันแบบครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน หรือไม่ก็มานั่งคนเดียวเพื่อทำงาน

ในส่วนของอาหารส่วนใหญ่ เน้นอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนและไทยฟิวชั่นทั้ง เช่น สปาเก็ตตี้แบบต่างๆ  สลัด ผักโขมอบชีท และมีอาหารจานเดียวอย่างเช่น  ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ข้าวผัดแฮม ข้าวผัดกุ้ง  รวมถึงอาหารไทยโบราณที่หาทานยาก ส่วนเครื่องดื่มก็มีครบ ทั้งชา กาแฟ โกโก้ น้ำผลไม้ รวมถึงของหวานอย่างเช่นฮันนี้โทสต์  เราสั่งสปาเก็ตตี้เบคอนผัดพริกแห้ง  สปาเก็ตตี้ผัดต้มยำกุ้ง ข้าวหนวดหมึกไข่เค็ม ผักโขมอบชีท โรตีทูน่า และหรุ่มซึ่งเป็นอาหารไทยโบราณ รสชาติอาหารโดยรวมถือว่าโอเค แอบติดใจ ชีสลัดโรตีทูน่า น้ำสลัดที่ราดโรตีอร่อยมาก ส่วนเครื่องดื่มรสชาติดีโดยเฉพาะโกโก้เข้มข้นมาก  เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟในย่านชุมชนเมืองที่ให้ความรู้สึกเหมือนั่งเล่นอยู่ที่บ้าน หากใครได้มีโอกาสผ่านไปย่านจรัญสนิทวงศ์น่าจะแวะมาทานอาหารจิบเครื่องดื่มท่ามกลางบรรยากาศในสวนสักที

หรุ่ม คืออาหารว่างของคนไทยโบราณรวมทั้งชาววัง ประดิษฐ์ประดอยจากไข่โรยฝอย ห่อด้วยกุ้งและผักชี พริกสด ซึ่งหาทานได้ที่ชุมชนบางอ้อ

พิกัด 236 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 84 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพ
เวลาทำการ: 10:00 – 21:00น. หยุดทุกวันพุธ

โทร 02 879 0076

13.30 น.  วัดคฤหบดี
ปิดท้ายการเดินทางด้วยการทำบุญ ที่วัดคฤหบดี วัดที่มีชื่อเสียงในย่านจรัญสนิทวงศ์ ตั้งอยู่ในซอย จรัญสนิทวงศ์ 44 ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เชิงสะพานพระราม8  สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์  จุดเด่นของวัดนี้พระอุโบสถที่มีสถาปัตยกรรมตามแบบนิยมสมัยรัชกาลที่ 3   มีลักษณะที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน  ก่ออิฐถือปูน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา และเป็นวัดที่มี “พระแซกคำ” พระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยก่อนสุโขทัย  ศิลปะเป็นแบบเชียงแสนตอนปลายประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ
เมื่อเข้ามาถึงบริเวณวัด สามาถจอดรถบริเวณลานจอดรถ จากนั้นเดินไปยังพระอุโบสถ บรรยากาศภายในวัดค่อนข้างเงียบสงบมีความสวยงามและสะอาดสะอ้าน บริเวณด้านหน้าวัดเป็นที่ตั้งของวิหารจตุรมุข ซึ่งมีหลวงพ่อพระพุทธแซกคำองค์จำลองประดิษฐานอยู่

เมื่อเข้าเดินมาภายในประตูโบสถ์ ก็จะพบกับพระอุโบสถ สถาปัตยกรรม เป็นทรงจีน หลังคาลด ๒ ชั้น ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ และเครื่องถ้วยชาม ซุ้มประตูหน้าต่างเป็นลายปูนปั้นรูปดอกพุดตาน บานประตูหน้าต่างด้านในเขียนลายต้นไม้ และดอกไม้แบบจีน
หลังจากไหว้ พระพุทธแซกคำ เดินออกมาบริเวณริมน้ำเจ้าพระยามองเห็นสะพานพระราม 8  จุดนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุเจดีย์  สร้างแบบทรงเรียบง่ายตามคติพระสถูปที่พุทธคยา บนยอดเป็นรูปจำลองของผอบที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุพร้อมด้วยจารึก เจดีย์นี้สูง 21  เมตร จะเห็นเด่นชัดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกวัดหนึ่งที่ได้มาแล้วชอบมาก เพราะมีความสงบและผู้คนไม่วุ่นวาย แบบไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในย่านชุมชนอย่างจรัญสนิทวงศ์

1 วันสบาย ณ บางพลัด จรัญสนิทวงศ์ เป็นการเดินทางที่ไม่ต้องเหนื่อยขับรถไปที่ไหนให้ไกล ซึ่งจริงๆ แล้วในย่านบางพลัด ยังมีจุดท่องเที่ยวอีกหลายจุดอย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบางพลัด ร้านกาแฟ Eat Art  A Part of Us  แต่จะเปิดเฉพาะวันธรรมดาเลยไม่ได้แวะไป ในเมืองกรุงก็ยังมีมุมสงบ สวยงาม แค่มาบางพลัด ก็จะได้ฟีลของการรีแลกซ์เช่นกัน
ตั๊กออแกไนท์บางพลัด รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางพลัด
นางรำบางพลัดเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางพลัด
บางพลัดรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางพลัด
รําบวงสรวงพญานาคบางพลัด
ฟ้อนบูชาพญานาคบางพลัด
รําบวงสรวงพญานาคบางพลัด


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


231
11 ที่เที่ยวสมุทรปราการ “เมืองปากน้ำ” ที่ห้ามพลาด

11 ที่เที่ยวสมุทรปราการ
“เมืองปากน้ำ” ที่ห้ามพลาด!
1. บางกระเจ้า
บางกระเจ้า

บางกระเจ้า หรือ เกาะสีเขียว ที่มีพื้นที่มากถึง 11,000 ไร่ โอบล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา จนได้รับการยกย่องให้เป็นปอดของกรุงเทพ และ Best Urban Oasis of Asia จากนิตยสารไทม์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถข้ามเกาะไปปั่นจักรยาน ดูนก ดูป่าชายเลน และสัมผัสกับอาการบริสุทธิ์ได้

2. สถานตากอากาศบางปู
ADVERTISEMENT

สถานตากอากาศบางปูนั้น เป็นบริเวณที่เป็นป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ ที่มีการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพที่ดี เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และแหล่งอาศัยของนกนานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนกนางนวล ที่อพยพหนีหนาวจากไซบีเรียมาในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกปี โดยมีจำนวนนกไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัวในแต่ละปี และมีจำนวนนกกว่า 200 ชนิดที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี่

3. เมืองโบราณ สมุทรปราการ
เมืองโบราณ สมุทรปราการ

สถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาเราย้อนกลับไปในอดีต ภายในมีเมืองโบราณจำลอง ได้เราได้เรียนรู้เรื่องราววิถีชีวิตการเป็นอยู่ของคนในสมัยก่อน รวมไปถึงมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำอีกมากมาย ทั้ง ตลาดน้ำ นั่งรถราง ไหว้พระ ปั่นจักรยาน เป็นต้น

ตลาดนัด ตลาดบก ทุกวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ต้นเดือน ภายในตลาดบก มีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งงานแฮนด์เมด งานประดิษฐ์ หัตถกรรม ของเล่นโบราณ ของใช้ ของฝาก อาหาร เครื่องดื่ม ที่ได้คัดสรรมาให้ท่านได้เลือกซื้อ เลือกรับประทานหลากหลายมากมาย ในบรรยากาศ ตลาดนัดโบราณ วันวานที่ยังมีชีวิต และพลาดไม่ได้สำหรับคนรักสุนัข มีการสาธิตการฝึกสุนัข ทำตามคำสั่งโชว์ความสามารถพิเศษของสุนัขแสนรู้

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
ค่าเข้าชม : www.ancientcitygroup.net
รวมบริการ : รถราง จักรยาน และเรือ (สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าเที่ยวชมได้ และมีบริการเช่า รถกอล์ฟไฟฟ้า )

การเดินทาง :

รถยนต์ส่วนตัว : ใช้เส้นทางด่วน ปลายทางที่สำโรง-สมุทรปราการ ถึงสามแยกสมุทรปราการ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท (ไปทางบางปู) ประมาณ กม. 33 เมืองโบราณจะอยู่ทางซ้ายมือ
รถโดยสารสาธารณะ : ใช้รถโดยสารปรับอากาศ สาย ปอ. 511 (สายใต้ใหม่-ปากน้ำ) ลงที่สุดทางแล้วต่อรถสองแถวสาย 36 ซึ่งจะวิ่งผ่านหน้าทางเข้าเมืองโบราณ
สอบถามเพิ่มเติม : 02-323-4094-9
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : เฟสบุ๊คเมืองโบราณ สมุทรปราการ


4. พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
(The Erawan Museum)

พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาศิลปวัตถุมรดกทางวัฒนธรรมด้านต่างๆ เพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลป์ไทย เรียนรู้ศิลปะและศาสนา ที่ส่งเสริมให้คนในสังคม สมัยใหม่ได้รู้จักหลักแห่งศาสนาทั้ง 4 ด้วยเจตนารมณ์และอุดมคติของ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ซึ่งต้องการถ่ายทอดและปลูกฝังด้วยจิตวิญญาณของนักปราชญ์ เพื่อให้มนุษย์ร่วมโลกได้ มีโอกาสเข้าถึงศิลปะและศาสนา อันเป็นรากฐานของอารยธรรม

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.ancientcitygroup.net

5. บางกอก ทรี เฮ้าส์
(Bangkok Tree House)

ที่พักแนว Eco ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม และทำให้เราได้อยู่กับบรรยากาศที่เงียบสงบและใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ ใครจะคิดว่ามีที่พักแบบนี้อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ด้วย การตกแต่งของที่นี่จะมาจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะใช้ไม้ไผ่แทบทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ก็ออกแนวออร์แกนิค รวมไปถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาช่วยทดแทนบางส่วน

นอกจากจะเป็นที่พักแล้ว ที่ตั้งของ บางกอก ทรี เฮ้าส์ ยังอยู่ไม่ไกลจากบางกระเจ้า เราสามารถปั่นจักรยานมาทานของอร่อยๆ ที่นี่ได้ เปิดให้บริการร้านอาหาร เปิดเฉพาะวันศุกร์ – วันอาทิตย์  เวลา 10.00 – 22.00 น. อาหารมีหลากหลาย รวมไปถึงมีอาหารแบบออร์แกนิคด้วย

อ่านเพิ่มเติม : “บางกอก ทรี เฮ้าส์” ที่พักแนว Eco ติดริมแม่น้ำ จ.สมุทรปราการ

6. ไมอามี่ บาซาร์ บางปู
ไมอามี่ บาซาร์ บางปู

เป็นอาณาจักรความสุข ไลฟ์สไตล์มอลล์ ความสนุกครบวงจรแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในย่านบางปู บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ ตอบรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตทั้งร้านอาหาร ร้านนั่งเล่นชื่อดัง ให้คุณสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนแบบสบายๆ พร้อมทั้งร้านค้าแฟชั่นสุดทันสมัย และซูเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่วโมง ให้คุณช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลินตลอดวัน

อ่านเพิ่มเติม : “ไมอามี่ บาซาร์ บางปู” ที่เที่ยวใหม่ ใหญ่สุดในย่านบางปู จ.สมุทรปราการ

7.  Sanctuary Café & Restaurant

 Sanctuary Café & Restaurant ให้บริการอาหารคาว ขนมหวาน รวมถึงเครื่องดื่มหลากหลายประเภท จากบ้านเก่าแก่กว่าร้อยปี ปรับปรุงให้กลายมาเป็นร้านอาหารและร้านขนมหวานแนววินเทจ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราทานข้าวอยู่ที่บ้าน แสนอบอุ่น

ที่อยู่ : ถนนสุขุมวิท ซอย 29 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ 10270

โซนร้านอาหาร : อังคาร-อาทิตย์ 11.00 – 22.00 น.
โซนร้านกาแฟ :ทุกวัน 6.30 – 21.30 น.
โซนสวน : ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 17.00 – 22.00 น.

8. Ceramic Coffee By Sailom Bangpu

ร้านกาแฟสุดชิค ตกแต่งไตล์โมรอคโค โดยจุดเด่นของเขานอกจากจะเป็นร้านกาแฟแล้ว เจ้าของร้านได้นำเอาชิ้นงานเซรามิกต่างๆ ที่ตนเองชื่นชอบมาตกแต่งร้าน ทำให้ดูแปลกตาและทำให้เป็นจุดเด่นของร้านอีกด้วย และถ้าใครสนใจที่นี่ก็มีงานเซรามิกน่ารักๆ จำหน่ายเช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม : เฟสบุ๊คสายลมบางปู, Sailom Bangpu
เปิดให้บริการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.30 น.
ที่ตั้ง : ซอยเทศบาลบางปู 72 จ.สมุทรปราการ

9. Bougain Cafe & Crafts
 คาเฟ่เปิดใหม่ในย่านสำโรง ร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย สร้างบรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะต้นเฟื่องฟ้า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้าน Bougain นั่นเอง ส่วนเมนูของหวานนั้น ไฮไลท์ก็คงจะเป็นโฮมเมดเบเกอรี่ และกาแฟที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี บรรยากาศเหมาะกับการมานั่งชิลท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ

ที่ตั้ง : ซอยสันติคาม 13 อำเภอเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
เปิดให้บริการ : วันธรรมดา (ยกเว้นวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 08.00 – 20.00 น. และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
ข้อมูลเพิ่มเติม : Bougain Cafe & Crafts

10. ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ

เป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพาะเลี้ยงจระเข้เอาไว้กว่า 60,000 ตัว ไฮไลท์คือการโชว์จับจระเข้ด้วยมือเปล่า การแสดงของช้างแสนรู้ การแสดงละครลิง และยังมีสัตว์อื่น ๆ ให้เดินดูอีก เช่น ชะนี, งูเหลือม-งูหลาม, เต่า, นก, อูฐ, ฮิปโปโปเตมัส รวมถึงพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ด้านในจัดแสดงกระดูก และหุ่นจำลองไดโนเสาร์

11. วัดอโศการาม

ที่ตั้งวัดอโศการามปัจจุบันนี้ เดิมเรียกว่า นาแม่ขาว เจ้าของที่ดินคือ นางกิมหงษ์ และนายสุเมธ ไกรกาญจน์ ได้ถวายที่ดินให้สร้างวัดเนื้อที่ประมาณ 53 ไร่


คำว่า อโศการาม เป็นคำสนธิเป็นคำ 2 คำ คือ “ อโศก ” ที่แปลว่า “ ไร้ความเศร้า ” กับคำว่า “ อาราม ” ที่มีความหมายว่า “ แหล่งรื่นรมย์ ” เมื่อนำรวมกันแล้วจะได้ความหมายที่ดีคือ แหล่งรื่นรมย์ที่ไร้ความเศร้าหมอง

ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น “พระธุตังคเจดีย์” เป็นพระเจดีย์สีขาวหมู่รวม 13 องค์ ทุกองค์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุไว้ในผอบทอง เงิน นาก สัญลักษณ์แห่ง “ธุดงควัตร 13 ข้อ”
ตั๊กออแกไนท์บางนา รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางนา
นางรำบางนา เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางนา
บางนา รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางนา
รําบวงสรวงพญานาคบางนา
ฟ้อนบูชาพญานาคบางนา
รําบวงสรวงพญานาคบางนา



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


232
15 ร้านอาหารบางซื่อ ย่านนี้มีแต่ร้านอร่อยเด็ดต้องลอง

 หากใครที่มาย่านบางซื่อแล้วละก็บอกเลย Ryoii มีร้านอาหารมาแนะนำค่ะ ซึ่งแต่ละร้านเด็ดๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารอาหารไทย รวมไปถึงร้านอาหารอีสานรสชาติจัดจ้าน แต่ละร้านรับประกันว่ารสเลิศควรค่าแก่การตามไปชิมแน่นอนค่า บอกเลยใครที่ยังไม่เคยลองต้องมาค่ะ

1
Kosupa Sushi Bar

ร้าน Kosupa Sushi Bar เปิดบริการทุกวัน 11.00-21.30 น.

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-869-9724

Kosupa Sushi Bar ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านบางโพค่ะ ร้านนี้เขามาในคอนเซ็ปต์วัตถุดิบพรีเมียมในราคาย่อมเยา เพราะซูชิเริ่มต้นเพียงคำละ 10 บาท! มีให้เลือกหลายหน้า ส่วนใครสายปลาส้ม รับรองไม่มีผิดหวัง เพราะร้านนี้ใช้ปลาแซลมอนส่งตรงจากนอร์เวย์ ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างดีอีกด้วย รับประกันว่าได้ทานปลาแซลมอนกันแบบฟินๆ สดฉ่ำหวานแน่นอนค่าา สำหรับเมนูของทางร้านจะมีให้เลือกทานหลากหลายทั้งซูชิ ดงบุริ ซาชิมิ อุด้ง และราเมงค่ะ โดยราคาอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 79-399 บาทค่ะ

Facebook Kosupa Sushi B...
35% Complete35% Complete0% Complete (danger)(99 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ063-869-9724
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการทุกวัน 11.00-21.30 น.
ประเภทร้านJapanese ( อาหารญี่ปุ่น )Sushi Sashimi ( ซูชิ ซาซิมิ )เดลิเวอรี่ gojek ( เดลิเวอรี่ gojek )

2
งัว

ร้าน งัว เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 10.30-14.00 น. และ 17.00-20.30 น.

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 093-008-1089

          งัว ร้านบะหมี่เส้นสดย่านบางซื่อค่ะ ขอบอกเลยว่าใครสายเส้นห้ามพลาด! เพราะร้านนี้จะเป็นร้านบะหมี่เส้นสดโฮมเมดล้วนๆ ทานแล้วรับประกันความเหนียวนุ่ม ซดกับน้ำซุปร้อนๆ ฟินมากกก และอีกหนึ่งทีเด็ดก็คือเส้นสดของที่นี่จะทานคู่กับเนื้อริบอายรมควัน โดยทางร้านจะเลือกใช้เนื้อออสเตรเลียนำเข้า บอกเลยว่าดีงามทั้งเส้นทั้งเนื้อ! สำหรับเมนูจะมีให้เลือกทานไม่ได้เยอะมาก แต่เด็ดทุกเมนู เช่น บะหมี่เส้นสดเนื้อรวม, บะหมี่เส้นสดเนื้อริบอายรมควัน บะหมี่เส้นสดเนื้อสับไข่ดิบ และบะหมี่เส้นสดเนื้อซี่โครงตุ๋น ราคาจะอยู่ที่ชามละ 120-140 บาทค่ะ

Facebook งัว
31% Complete39% Complete0% Complete (danger)(88 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่712 ถนนเตชะวณิช แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ093-008-1089
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการทุกวัน 10.30-14.00 น. และ 17.00-20.30 น.
ประเภทร้านUdon Ramen ( อุด้ง ราเมน )เดลิเวอรี่ gojek ( เดลิเวอรี่ gojek )
3
Kousen Japanese Restaurant
Gateway at Bangsue

ร้าน Kousen Japanese Restaurant เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 10.00-20.30 น.+

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-297-0108

 Kousen Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพพรีเมียมที่ขนทัพเมนูอาหารญี่ปุ่นมามากกว่า 100 เมนู! สำหรับพิกัดร้าน Kousen นั้นมีถึง 2 สาขาด้วยกันคือสาขา The Crystal SB ราชพฤกษ์ และสาขาน้องใหม่อย่าง Gateway At Bangsue ค่ะ สำหรับเมนูอาหารของทางร้าน ขอบอกเลยว่าสาวกอาหารญี่ปุ่นจะต้องประทับใจ! เพราะเมนูของทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารทานเล่น, ซูชิ, มากิ โรล, เทอริยากิ, เทปันยากิน, ดงบุริ, ยำ และสลัด แต่ถ้าหากจะถามถึงเมนูเด็ดๆ ทางร้านก็มีเมนูเด็ดแนะนำอยู่เพียบ เช่น สลัดอโวคาโด้ (230 บาท), โควเซน ซาชิมิ (1,900 บาท), สเต็กซีฟู้ด (510 บาท) และยากินิกุเนื้อ (360 บาท) เป็นต้น สำหรับเมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายไม่แพ้กันทั้งน้ำอัดลม, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำผลไม้ปั่น อีกทั้งยังมาพร้อมโปรโมชั่นรีฟีลน้ำชาเขียวเย็นแบบไม่อั้นอีกด้วยน้าาา

สอบถามเพิ่มเติม

สาขา Gateway บางซื่อ ชั้น 3 โทร 092-856-4224/ 02-297-0108
สาขา SB The Crystal ราชพฤกษ์ ชั้น 2 โซนนอก โทร 02-102-5729/ 091-489-8333
Inbox Facebook Kousen Japanese Restaurant
อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่
เมนูอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียมให้เลือกทานเพียบ!
สเต็กซีฟู้ด (510 บาท ลดเหลือ 255 บาท)

สเต็กเนื้อ (360 บาท ลดเหลือ 180 บาท)

สลัดอาโวคาโด้ (230 บาท ลดเหลือ 115 บาท)

Facebook Kousen Japanes...
70% Complete0% Complete8% Complete (danger)(692 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่ชั้น 3 Gateway At Bangsue แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ092-856-4224, 02-297-0108
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการทุกวัน 10.00-20.00 น.
ประเภทร้านJapanese ( อาหารญี่ปุ่น )
4
ชิมไทย

ร้าน ชิมไทย เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 11.00-22.00 น.

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 086-708-2345

          ร้านอาหารชิมไทย อาหารไทยรสชาติอร่อยพร้อมกับบรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นสีขาวทำให้เวลามองรู้สึกสบายตา อาหารของที่นี้มีให้เลือกสั่งมานั่งทานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปูผัดผงกะหรี่ที่ให้เนื้อปูชิ้นใหญ่มาก แกงเผ็ดเป็ดย่างรสชาติเข้มข้นเผ็ดกำลังดี ยำตะไคร้กุ้งสดที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องสมุนไพรนานชนิดอย่างตะไคร้ หอมแดงพร้อมเครื่องยำอย่างกุ้งแห้ง ต่อด้วยปอเปี๊ยะแฮมชีสจิ้มกับน้ำจิ้มซอสมะนาวสูตรเด็ดของทางร้าน และปิดท้ายด้วยของหวานเอาใจคนชอบทานหวานอย่าง shibuya honey toast สำหรับราคาอาหารจะอยู่ที่ 70-300 บาทค่ะ

Facebook ชิมไทย
70% Complete0% Complete20% Complete (danger)(1.4k Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่812/21 ซอยประชาชื่น 24 ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
เบอร์ติดต่อ086-708-2345
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 น.
ประเภทร้านThai ( อาหารไทย )Delivery ( เดลิเวอร์รี่ )
5
โตเป็ดย่าง - บางโพ

ร้านโตเป็ดย่าง - บางโพ เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 08.00-14.30 น.

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-912-6395

          โตเป็ดย่าง ร้านเป็ดย่างรสชาติต้นตำรับ ที่เปิดให้บริการอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2524 ใครที่ชื่นชอบเป็ดย่างหนังกรอบๆ ต้องลองเลยค่ะ เป็ดที่นี่จะเป็ดสูตรลับเฉพาะหมักด้วยสมุนไพร 7 ชนิด อร่อยการันตีด้วยรางวัลมากมาย รวมถึงยังอร่อยระดับเชลล์ชวนชิมอีกด้วย! เมนูเด็ดแน่นอนก็ต้องยกให้เมนูเป็ดย่างของที่ร้าน จะสั่งมาทานเปล่าๆ ก็มีให้เลือกทานทั้งแบบทั้งตัว 500 บาท / ครึ่งตัว 250 บาท / จาน 120 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีแบบข้าวหน้าเป็ด และบะหมี่เป็ดอีกด้วยนะคะ หรือถ้าหากใครอยากจะลองทานเมนูอื่นๆ ทางร้านก็ยังมีหมูกรอบ และอาหารจีนต้นตำรับให้เลือกทานค่ะ โดยราคาอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 50-500 บาทค่ะ

Facebook โตเป็ดย่าง - บ...
34% Complete36% Complete0% Complete (danger)(98 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่ประชาราษฎร์ สาย 1 ซอย 20 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ02-912-6395
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการทุกวัน 08.00-14.30 น.
ประเภทร้านChinese ( อาหารจีน )Order rice and curry ( อาหารจานเดียว ตามสั่ง ข้าวแกง )เดลิเวอรี่ gojek ( เดลิเวอรี่ gojek )
6
มะเก่า ข้าว เตี๋ยว เปรี้ยวปาก

ร้านมะเก่า ข้าว เตี๋ยว เปรี้ยวปาก เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 09.00-22.00 น.

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 062-338-3400
        มะเก่า ข้าว เตี๋ยว เปรี้ยวปาก ร้านอาหารที่เกิดจากความชื่นชอบในการทานอาหารสตรีทฟู้ดจากเยาวราชค่ะ ร้านนี้จึงเป็นการรวบรวมเมนูอาหารสตรีทฟู้ดมาไว้ที่นี่ทั้งอาหารไทย-จีน ทำออกมาในสูตรดั้งเดิม โดยเน้นที่คุณภาพและราคาย่อมเยาเข้าถึงได้สำหรับลูกค้าทุกคนค่ะ สำหรับเมนูของทางร้านนั้นจะมีให้เลือกทานทั้งข้าวผัดกุนเชียง ข้าวผัดต้มยำกุ้ง ข้าวผัดกะเพรา โจ๊กทรงเครื่องโบราณ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น เต้าหู้โรงเจ เฉาก๊วยโบราณ และเมนูเครื่องดื่มค่ะ สำหรับราคาอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 40-120 บาทค่ะ

Facebook มะเก่า ข้าว เต...
27% Complete43% Complete0% Complete (danger)(78 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่โครงการ The Rest Area บริเวณด่านชำระค่าผ่านทางประชาชื่น (ขาออก) แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ062-338-3400
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการทุกวัน 09.00-22.00 น.
ประเภทร้านNoodles ( ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ )เดลิเวอรี่ gojek ( เดลิเวอรี่ gojek )
7

ร้าน About Beef Lava Grill สามารถนั่งทานที่ร้านได้

เปิดบริการวันจันทร์-วันศุกร์ 16.00-23.00 น. (วันหยุดเปิด 15.00 น.)

          สำหรับร้านนี้ใครที่รู้ตัวว่าชอบทานบุฟเฟ่ต์บอกเลยว่าไม่ควรพลาดกับร้าน About Beef Lava Grill ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่มาพร้อมเนื้อพรีเมี่ยมรวมไปถึงซีฟู๊ด และอาหารญี่ปุ่นให้เลือกอีกมากมาย ซึ่งบอกได้เลยร้านนี้มีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีมาโดยเฉพาะ เช่น เนื้อ กุ้ง และปลาดิบ ราคาบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นที่ 399/ 499/ 599 บาท ทานได้ 2 ชั่วโมง ซึ่งบุฟเฟ่ต์ของทางร้านเป็นราคา Net ไม่มี Service charge และไม่มี vat *** พิเศษเด็กความสูงต่ำกว่า 100 ซม. ไม่คิดเงิน ความสูง 100-120 เซนติเมตร ทางร้านคิดครึ่งราคา

Facebook About Beef Lav...
70% Complete0% Complete30% Complete (danger)(2.0k Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น (2)
ที่อยู่About Beef 949/1 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ089-500-3344
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการวันจันทร์-วันศุกร์ 16.00-23.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 15.00-23.00 น. (ครัวปิด 22.00 น.)
ประเภทร้านGrill BBQ ( ปิ้งย่าง บาร์บิคิว )
8
ไก่ย่างจรูญแดง

ร้านไก่ย่างจรูญแดงสามารถนั่งทานที่ร้านได้ และมีบริการเดลิเวอรี่

เปิดบริการ 07.00-19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)

สำรองที่นั่งและบริการรถรับส่งถึงร้าน โทร  02-585-4999,​ 02-912-3251

            หากจะพูดถึงไก่ย่างในย่านบางซื่อแล้วละก็ ขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้านไก่ย่างจรูญแดง ร้านไก่ย่างที่ได้คำร่ำลือมาว่านอกจากจะมีรสชาติอร่อยเป็นสูตรเฉพาะแล้ว ทางร้านยังเลือกใช้ไก่ที่มีคุณภาพ และสดใหม่อยู่เสมอ โดยไก่ที่ทางร้านนำมาย่างก็จะมี ไก่บ้านที่มีเนื้อแน่น ส่วนไก่ทั่วไปก็จะนำไปย่างให้หนังกรอบกำลังดี ทานคู่กับเมนูเด็ดอย่าง ส้มตำ ลาบ และข้าวเหนียว บอกได้เลยว่าฟินมากๆ เลยค่ะ ส่วนราคาอยู่ที่ประมาณ 50-300 บาทค่ะ

Facebook ร้านไก่ย่างจรู...
70% Complete0% Complete8% Complete (danger)(693 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่67/6 ซ.ประชาราษฎร์ 4 ถ.ประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ02-585-4999
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการวันจันทร์-วันเสาร์ 07.00-19.00 น. ปิดวัอาทิตย์
ประเภทร้านThai ( อาหารไทย )
9
ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา อ.เสนา(ลุงชลอ)

ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา อ.เสนา(ลุงชลอ) สามารถนั่งทานที่ร้านได้

เปิดบริการทุกวัน 08.00-16.00 น.

สอบถามเพิ่มเติมโทร 081-919-8352
    ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา อ.เสนา(ลุงชลอ) ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าดังในย่านบางซื่อที่เปิดมานานกว่า 10 ปี ขอบอกเลยว่าใครที่สายเส้นๆ ห้ามพลาด! ร้านนี้เขาเด็ดจริงตั้งแต่น้ำซุปรสชาติเข้มข้น แถมมีให้เลือกทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และก๋วยเตี๋ยวหมู ขนทัพมาครบครันเนื้อสด เนื้อเปื่อย และเครื่องใน ซึ่งตัวร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และก๋วยเตี๋ยวหมูเขาจะเปิดแยกกันน้า สำหรับราคาก๋วยเตี๋ยวก็ย่อมเยาเอื้อมถึง ชามละ 30 บาท พิเศษ 40-50 บาทค่ะ ทานคู่กับกากหมูเจียวกรอบๆ ชามละ 20 บาท มื้อนี้รับรองว่าฟินนน~ ขอแอบกระซิบบอกนิดนึงว่าร้านนี้เขาเป็นร้านยอดฮิตในย่านนี้ ถ้าหากใครไปในวันหยุดอาจจะต้องโทรสอบถามก่อนนะคะว่าของหมดรึยัง รู้ข้อมูลครบครันขนาดนี้แล้วก็ห้ามพลาด ตามไปชิมกันได้เลยค่าาา

Facebook ก๋วยเตี๋ยวเรือ...
70% Complete0% Complete2% Complete (danger)(313 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่968 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ081-919-8352
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการทุกวัน 08.00-16.00 น. (วันหยุดจะแจ้งทางแฟนเพจ)
ประเภทร้านNoodles ( ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ )
10
กะเพราเนื้อบางโพ

ร้านกะเพราเนื้อบางโพสามารถนั่งทานที่ร้านได้ และมีบริการเดลิเวอรี่

เปิดบริการวันจันทร์-วันศุกร์ 11.00-14.00 น., 16.00-20.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ 11.00-20.00 น. (ปิดวันพุธ)
            กะเพราเนื้อบางโพ ร้านกะเพรารสจัดจ้านในย่านบางซื่อ พิกัดร้านจะอยู่ข้างๆ รพ.บางโพค่ะ ใครที่เป็นสายเนื้อตัวจริงรู้แล้วต้องตามไปชิมให้ได้เลยน้า เพราะร้านกะเพราเนื้อบางโพเขาใช้เฉพาะเนื้ออสเตรเลียเท่านั้นค่ะ  เรียกได้ว่ารับประกันคุณภาพเนื้อที่ดีอย่างแน่นอนนน~ สำหรับเมนูของทางร้านจะมีให้เลือกทานทั้งกะเพราะเนื้อสไลซ์, กะเพราะเนื้อชิ้น และกะเพราะเนื้อสับ รวมไปถึงเมนูเนื้อน้ำมันหอยและเมนูผัดกระเทียม แถมยังมีเมนูสเต็กเป็นบางช่วงให้ทานด้วย แต่ถ้าหากใครไม่ใช่สายเนื้อ ทางร้านก็ยังมีวัตถุดิบอื่นๆ เช่น หมูสับ, หมูชิ้น, กุ้งสับ และผัดกะหล่ำปลี แค่เมนูก็เย้ายวนชวนไปทานแล้ววว สำหรับราคาอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 55-120 บาทค่ะ

Facebook กะเพราเนื้อบางโพ
70% Complete0% Complete5% Complete (danger)(475 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่ซอยคลองสวน แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ094-045-4662
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการวันจันทร์, วันอังคาร และวันพฤหัสบดี-วันศุกร์ 11.00-14.00 น., 16.00-20.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ 11.00-20.00 น. ปิดวันพุธ
ประเภทร้านOrder rice and curry ( อาหารจานเดียว ตามสั่ง ข้าวแกง )
11
ครัวโต้ก้า Restaurant & Cafe'

ครัวโต้ก้า Restaurant & Cafe' สามารถนั่งทานที่ร้านได้

เปิดบริการ 09.30-22.30 น. (ชาบูเริ่มขาย 11.30 น.) ปิดวันอาทิตย์

           ครัวโต้ก้า Restaurant & Cafe' ร้านอาหารที่มาพร้อมเมนูหลากหลายตอบโจทย์คนหลายกลุ่มหลายวัยมากกกก ซึ่งร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงเช้าเปิด 09.30-16.00 น. เมนูช่วงเช้าจะมีให้เลือกทานทั้งก๋วยเตี๋ยว, ขาหมู, เล้งแซ่บ, ติ่มซำ,ชาบู และน้ำแข็งไส ส่วนช่วงเย็นจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 17.30-22.00 น. เมนูหลากหลายไม่แพ้ช่วงเช้าค่ะ เช่น สเต็ก, สปาเกตตี, ขาหมูเยอรมัน,อาหารไทย และชาบู! ในส่วนของชาบูจะมีให้เลือกทาน 2 ราคา คือ 199 บาท และ 299 บาท (รวมเครื่องดื่ม) ขอบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไลน์อาหารเยอะมากกก! แถมยังมีบริการจัดเลี้ยงสังสรรค์อีกด้วยนะคะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งร้านที่ตอบโจทย์ใครหลายๆ คนเลย ถ้าหากใครจะตามไปทาน พิกัดร้านอยู่ข้างๆ สน.เตาปูน จุดสังเกตคือมีหุ่น Ironman รอต้อนรับอยู่ด้านหน้าเลยค่าาา

Facebook ครัวโต้ก้า Res...
70% Complete0% Complete3% Complete (danger)(370 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่649/6 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ063-427-6999
เวลา เปิด-ปิดเปิดบริการวันจันทร์-วันเสาร์ 09.30-22.30 น. (ชาบูขายในเวลา 11.30-22.30 น.) ปิดวันอาทิตย์
ประเภทร้านSuki Shabu ( สุกี้ ชาบู )Noodles ( ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ )
12
นงนุชเป็ดย่าง ตลาดเตาปูน
ร้านนงนุชเป็ดย่าง ตลาดเตาปูนสามารถนั่งทานที่ร้านได้ และมีบริการเดลิเวอรี่
เปิดบริการทุกวัน 06.30-17.30 น.
 สำหรับใครที่ชอบทานข้าวหน้าเป็ดต้องมาร้านนี้เลยค่ะ ร้านนงนุชเป็ดย่าง ร้านจะตั้งอยู่ที่ตลาดเตาปูนซึ่งเป็นร้านเล็กๆ มีเมนูเด็ดไว้มัดใจลูกค้ากับเมนู ข้าวหน้าเป็ด และขนมจีนน้ำยา นอกจากนี้ยังมีข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบให้เลือกอีกมากมาย และหากใครที่ต้องการซื้อเป็ดเป็นตัวทางร้านก็มีขายค่ะ ส่วนราคาเมนูเริ่มต้นที่ 40 บาทขึ้นไป
Facebook นงนุชเป็ดย่าง ...
70% Complete0% Complete8% Complete (danger)(646 Clicks)

รายละเอียด
ความคิดเห็น
ที่อยู่ตลาดเตาปูน ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800
เบอร์ติดต่อ081-585-5091
เวลา เปิด-ปิดเปิดให้บริการ 06.30-17.30 น.
ประเภทร้านOrder rice and curry ( อาหารจานเดียว ตามสั่ง ข้าวแกง )
13
ประทุมทิพย์ผัดไทย

ร้านประทุมทิพย์ผัดไทยสามารถนั่งทานที่ร้านได้ และมีบริการเดลิเวอรี่

ตั๊กออแกไนท์บางซื่อ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางซื่อ
นางรำบางซื่อเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางซื่อ
บางซื่อรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางซื่อ
รําบวงสรวงพญานาคบางซื่อ
ฟ้อนบูชาพญานาคบางซื่อ
รําบวงสรวงพญานาคบางซื่อ

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


233
ที่เที่ยวกรุงเทพ ตลาดน้ำขวัญเรียม ตลาดน้ำสุดชิล ในเมืองกรุง กิน ช้อป เพลินๆ

 จากนิยายอมตะที่สร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายเวอร์ชั่น กลายมาเป็น ตลาดน้ำ สุดแสนคลาสสิค ริมคลองแสนแสบ จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ ตลาดน้ำขวัญเรียม ตลาดน้ำในกรุงเทพ ที่คนกรุงต้องห้ามพลาดค่ะ บอกเลยว่าจบครบทุกความชิลที่นี่ ตามเราไปเที่ยวกันเลยจ้า

        ตลาดน้ำขวัญเรียม เป็นตลาดน้ำกลางกรุงริมคลองแสนแสบที่ร่มรื่น สร้างขึ้นจากแนวคิดการจำลองวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลองแสนแสบ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตริมน้ำถึงคนรุ่นหลังค่ะ ตลาดน้ำนี้ ซึ่งที่นี่จะมีแลนด์มาร์คสำคัญคือ สะพานเชื่อม สองฝั่งวัดบำเพ็ญเหนือ เสรีไทย 60 และวัดบางเพ็งใต้รามคำแหง 18 ค่ะ และด้วยสะพานเรือที่เชื่อมระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและ วัดบางเพ็งใต้ ที่นี่จึงเป็นตลาดน้ำแห่งแรกที่มีสะพานเรือเชื่อมต่อวัฒนธรรมสองฝั่งคลองให้อยู่ร่วมกันค่ะ

        ก่อนจะเข้าโซน ตลาดน้ำขวัญเรียม มาแวะให้อาหารน้องม้า และน้องแพะกันสักหน่อยค่ะ บอกเลยว่าที่นี่เหมือนเป็นฟาร์มเล็กๆ เลยค่ะ เพราะเค้ามีทั้งม้า แพะ นกฟลามิงโก้ เป็ด และหงส์ เพลินตา เพลินใจกันสุดๆ ไปเลย คนรักสัตว์ต้องถูกใจแน่นอน

        ว่าแล้วก็ไปเดินชมตลาดกันเลยดีกว่าค่ะ ภายในตลาดมีทั้งของอร่อย ของใช้ต่างๆ ให้ได้ลองชิม ช้อป เป็นของฝากกลับบ้านมากมาย รับรองว่างานนี้สายกินต้องอิ่มท้อง ร้องฟินกันแน่นอนจ้า ไม่ว่าจะเป็นทองม้วนสด ขนมเบื้อง ชาชักโบราณ หรือจะเป็นหมูย่างเมืองตรัง เรียกได้ว่าอร่อยทุกร้านจริงค่ะๆ นอกจากนี้ก็ยังเอาใจสายช้อปด้วยสินค้า Otop และสินค้าแฟชั่นต่างๆ ด้วยน้า

 
        บอกเลยว่าอีกหนึ่งความน่ารักของที่นี่ก็คือ ห้องน้ำติดแอร์ ภายในห้องน้ำใช้ชื่อเรียกแยกห้องน้ำหญิง และห้องน้ำชาย ว่าขวัญ และเรียม แถมภายในห้องน้ำยังมีแกลอรี่เล็กๆ น่ารัก บรรยากาศดีติดแอร์ จากที่เดินตลาดอาจจะมีร้อนบ้าง เมื่อเข้าห้องน้ำแล้ว ก็สมกับชื่อห้องสุขาจริงๆ ค่ะ ฮ่าาาๆ


        เมื่อข้ามมายังอีกฝั่งของตลาด นั่นก็คือฝั่งทาง วัดบางเพ็งใต้ เราจะเจอกับ ศาลขวัญเรียม ซึ่งเป็นตำนานของคลองแสนแสบ ผู้คนต่างเดินทางมากราบไว้ขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต ไม่ว่าจะขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก ปัญหาชีวิตต่างๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่พึ่งทางใจของชาวบ้านเลยค่ะ


การเดินทาง ไปยัง ตลาดน้ำขวัญเรียม
เส้นทางที่ 1 : ถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) / รถเมล์ 27 ปอ. 502 / รถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดค่ะ วิ่งตรงมาจาก The Mall บางกะปิ ผ่านสวนสยาม จะเจอปากทางเข้าวัดเลี้ยวเข้ามา วัดบำเพ็ญเหนือ ทางด้านขวา ต้องไปเลี้ยวกลับ
เส้นทางที่ 2 ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) / รถเมล์ 113 58 ปอ. 113 514 / รถยนต์ส่วนตัว วิ่งตรงมาจาก ม.รามคำแหง ผ่านแยกบ้านม้าผ่านซอย มิสทีนเข้ามาวัดบางเพ็งใต้ อยู่ทางซ้ายมือ รถยนต์ส่วนตัวที่มาเที่ยวทางตลาดน้ำขวัญเรียม ทางตลาดมีที่จอดรถให้ฟรี
ตั๊กออแกไนท์บางกะปิ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางกะปิ
นางรำบางกะปิเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางกะปิ
บางกะปิรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางกะปิ
รําบวงสรวงพญานาคบางกะปิ
ฟ้อนบูชาพญานาคบางกะปิ
รําบวงสรวงพญานาคบางกะปิ

 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


234
เดินทอดน่องท่องฝั่งธนฯ “บางกอกใหญ่-บางกอกน้อย” ยลหลากศาสนสถาน ผ่านเรื่องเล่า

ตั้งแต่มีโครงการ

“กรุงเทพฯ เดินเที่ยว : Walking Bangkok” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นั้น ได้นำเสนอไปหลายเส้นทางจนกลายเป็นที่รู้จัก เพื่อให้ชาวกรุงได้ช่วยกันเผยภาพมนต์เสน่ห์ของเมืองหลวงที่มีหลากหลายเรื่องราว คราวนี้ก็ถึงตาที่ฉันจะได้ร่วมทริปเดินเที่ยวเส้นทางใหม่ ที่ไม่ว่าใครๆ ย่อมรู้จักดี นั่นคือ “ย่านบางกอกใหญ่และบางกอกน้อย” ถือว่าเป็นย่านเก่าแก่ที่มีมานาน ไม่ว่าจะเป็นวัดต่างๆ พร้อมสถานที่ชอปปิ้งยอดฮิตอย่างวังหลัง


การเดินทางของฉันในวันนี้จะเริ่มแรกกันที่ “วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร” หรือ "วัดท้ายตลาด" เป็นวัดโบราณสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดท้ายตลาด เพราะอยู่ต่อจากตลาดเมืองธนบุรี ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชศรัทธาปฏิสังขรณ์ทั้งพระอาราม และทรงขนานนามใหม่ว่า “วัดโมลีโลกย์สุธารามอาวาศวรวิหาร พระอารามหลวง” เรียกสั้นๆ ว่า “วัดโมลีโลกย์สุธาราม” ซึ่งภายหลังเรียกว่า “วัดโมลีโลกยาราม” ซึ่งถ้ามาวัดนี้แล้วไม่ควรพลาดนั่นคือ “พระวิหารฉางเกลือ” เป็นศิลปกรรมไทย-จีน ปูชนียสถานที่เก่าแก่ที่สุดของวัด สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงใช้เป็นสถานที่เก็บเกลือ เพราะสมัยนั้นเกลือมีความสำคัญในการถนอมอาหารในการเดินทัพ นับเป็นยุทธปัจจัยสำคัญในการรบ จึงเรียกกันว่ามีหนึ่งเดียวในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์

พระวิหารแห่งนี้มีลักษณะพิเศษที่หาดูได้ยาก เพราะภายในกั้นเป็น 2 ตอน ตอนหน้าเป็นห้องโถงใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยต่างๆ ส่วนตอนหลังเป็นห้องเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ นามว่า “พระปรเมศ” ผนังและเพดานเขียนลวดลายงดงาม ประตูและหน้าต่างทุกช่องเขียนลายรดน้ำ สวยสดงดงามอย่างยิ่ง


ต่อมาเราเดินเท้ามาถึง “วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร” ที่อยู่ไม่ไกลนัก เป็นพระอารามสำคัญที่เคยเป็นวัดโบราณสมัยอยุธยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงชักชวนสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ร่วมบูรณปฏิสังขรณ์วัดหงส์ เนื่องจากอยู่ใกล้พระราชวังของพระองค์ แต่การยังไม่แล้วเสร็จ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีก็สิ้นพระชนม์ก่อน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงรับพระราชภาระในการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ จนกระทั่งการบูรณะเสร็จแต่ยังไม่บริบูรณ์นัก ก็เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงปฏิสังขรณ์ต่อมาจนแล้วเสร็จสวยงาม และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดหงส์รัตนาราม” นอกจากนั้นวัดหงส์รัตนารามนี้ ถือว่าเป็นวัดประจำพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกด้วย

โดยภายในพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์นวโลหะ "หลวงพ่อแสน" เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเบื้องหน้าพระองค์พระประธาน จัดเป็นพระพุทธรูปสำคัญและงามเป็นพิเศษแตกต่างจากบรรดาพระพุทธรูปอื่นๆ เป็นพระเก่าโบราณที่หาชมได้ยาก


ออกเดินทางไปที่ วัดนาคกลางวรวิหาร วัดนาคกลางเดิมเป็นวัดโบราณ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ความเป็นมาตอนหนึ่งว่า เดิมมี 3 วัด ซึ่งได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี มีพระพุทธรูปสำคัญที่รู้จักกันดีอย่าง หลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ เป็นพระพุทธรูปปางฉันสมอ หรือปางถือสมอ นั่งขัดสมาธิเพชร ปางมารวรวิชัย ห่มจีวรคล้ายทางจีนและทิเบต พระเกศเป็นแบบบัวตูม พระหัตถ์ซ้ายทรงผลสมอ สันนิษฐานว่าลอยน้ำมาจากทิศเหนือ ถูกอัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ วัดนาคกลางวรวิหาร หลายร้อยปีแล้ว


นอกจากนั้นยังมี “ศาลาสุธรรมภาวนา” ศาลาที่ประทับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานพระพุทธนิมิตฯ (หลวงพ่อทอง) และพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในพระอิริยาบถต่างๆ จำนวน 9 พระองค์ครึ่ง พร้อมทั้งทหารเสือคู่พระทัย ไว้ให้กราบสักการะอีกด้วย


ต่อจากนั้นเราก็เดินทางสู่ "วัดระฆังโฆษิตาราม" ชมหอไตรที่มีความงดงาม หรือในอีกชื่อเรียกว่า “ตำหนักจันทน์” เดิมเคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งทรงรับราชการเป็นที่พระราชวรินทร์เจ้ากรมพระตำรวจนอกฝ่ายขวา ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงรื้อไปถวายวัดบางหว้าใหญ่ ในคราวเสด็จเป็นแม่ทัพไปตีเมืองโคราช เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์เพื่อใช้เป็นหอพระไตรปิฎก โดยขุดพื้นที่บริเวณที่พบระฆังออกเป็นรูปสี่เหลี่ยม ก่ออิฐกั้นเป็นสระแล้วรื้อพระตำหนักจากที่เดิมมาปลูกลงในสระ เมื่อดำเนินการเสด็จโปรดให้มีการสมโภชและปลูกต้นจันทน์ไว้ 8 ต้น อันเป็นเหตุให้เรียกหอไตรนี้ว่า “ตำหนักจันทน์”

ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลศิริราช โดยเดินผ่านสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง "วังหลัง" ซึ่งมี กำแพงวังหลัง ที่เหลือเพียงช่วงเดียวในพื้นที่ได้โชว์ไว้ให้ดูอีกด้วย เมื่อถึงโรงพยาบาลศิริราชแล้ว ฉันเดินไปที่ "พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน" ที่นี่เมื่อก่อนนั้นเคยเป็นสถานีรถไฟบางกอกน้อยมาก่อน รวมทั้งเป็นที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติของวังหลัง หรือ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข, เรื่องราวสงครามมหาเอเชียบูรพา, นิทรรศการกำเนิดโรงพยาบาลศิริราช และภูมิปัญญาบางกอกน้อย เอาไว้เป็นที่ระลึกถึง ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีมากแห่งหนึ่งในประเทศ

พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน

ตั๊กออแกไนท์บางกอกใหญ่ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
นางรำบางกอกใหญ่เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
บางกอกใหญ่รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
ฟ้อนบูชาพญานาคบางกอกใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


235
ที่เที่ยว ที่กินบางกอกน้อย ย่ำรอยประวัติศาสตร์เก่าในกรุงเทพฯ

ใครที่คิดว่าบางกอกน้อยไม่ค่อยจะมีที่ให้เราเดินเที่ยวเล่นเท่าไร อาจจะต้องเปลี่ยนความคิด เพราะย่านนี้มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ และแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เผลอ ๆ บางทีเพื่อน ๆ อาจจะยังไม่เคยรู้จักเลยด้วยซ้ำ

1. ตลาดวังหลัง


          ย่านช้อปปิ้งชื่อดังฝั่งธนบุรี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างท่าน้ำศิริราชและถนนอรุณอมรินทร์ ทุกวันที่นี่จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่บ้างมาจับจ่าย บ้างมาเดินทอดน่อง บ้างมาหาของกินอร่อย ๆ เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่ราคาสินค้าน่าคบน่าซื้อหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้ามือสอง ใครที่อยากจะอัปเดตแฟชั่นใหม่ ๆ เก๋ ๆ มาเที่ยวที่นี่ไม่มีคำว่าผิดหวัง

2. พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน


          ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงพยาบาลศิริราช เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งด้านประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม และความก้าวหน้าทางการแพทย์ ภายในแบ่งออกเป็นห้องจัดแสดงต่าง ๆ เช่น ห้องศิริราชขัตติยพิมาน, ห้องสถานพิมุขมงคลเขต, มีภาพยนตร์ 4 มิติ ให้ได้ชมเหตุการณ์จริงตั้งแต่ช่วงการสร้างสถานีแห่งนี้ เข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2, ห้องงานพระเมรุสมเด็จเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ และห้องสมเด็จพระบรมราชชนนี บอกเล่าเรื่องราวของโรงเรียนแพทย์ในยุคแรก ที่จะต้องเรียนรู้ผ่าน "หุ่นกายวิภาคมนุษย์" เป็นต้น

3. สถานีรถไฟธนบุรี


          ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ที่นี่เป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนี้ ที่ยังคงใช้สัญญาณหางปลา นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียง ยังมี "โรงรถจักรธนบุรี" ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษาซ่อมแซมรถจักรดีเซลที่สำคัญแห่งหนึ่งของการรถไฟฯ และยังเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำที่เหลืออยู่ของการรถไฟฯ ซึ่งยังคงใช้การได้อีก 5 คัน และได้มีการนำมาวิ่งเป็นขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญ ๆ อยู่เป็นประจำ

4. พิพิธภัณฑ์ชุมชนตรอกข้าวเม่า


          ชุมชนเก่าแก่ย่านบางกอกน้อย ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเป็นหมู่บ้านในสวน เรียกว่า "บ้านข้าวเม่า" เพราะเกือบทุกหลังคาเรือนทำข้าวเม่าขาย พลาดไม่ได้กับการเข้าชม "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านข้าวเม่า" ภายในจัดแสดงวิถีชีวิต อาชีพดั้งเดิม ภาพเก่าเล่าเรื่อง สาธิตภูมิปัญญาการทำขนมไทยโบราณ ตามตำรับดั้งเดิม การกวนกาละแมเม็ด การทำข้าวเม่าหมี่ที่หาทานได้ยาก ซึ่งข้าวของทั้งหมดได้มาจากชาวบ้านในชุมชน ทั้งหมดก็เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาและเห็นอุปกรณ์จริง ๆ นั่นเอง

5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี


          ตั้งอยู่ปากคลองบางกอกน้อย ถนนอรุณอมรินทร์ หรือตรงข้ามสถานีรถไฟบางกอกน้อย เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมเรือพระราชพิธีสำคัญ ที่ล้วนแล้วสวยงามและทรงคุณค่า ทั้งในแง่ศิลปกรรมและประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาฝีมือช่างชั้นเลิศ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี มีจำนวน 2 อาคาร ได้แก่ อาคารสำนักงาน และอาคารจัดแสดงเรือพระราชพิธี จำนวน 2 ลำ จัดแสดงโขนเรือนารายณ์ทรงสุบรรณเก่า ซึ่งเป็นต้นแบบเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ในหลวง รัชกาลที่ 9 และจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ประกอบในพระราชพิธีชลมารค (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ finearts.go.th หรือโทรศัพท์ 02 424 0004

6. ตลาดไร้คาน


          ตั้งอยู่ภายในชุมชนบ้านบุ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนกรุงที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านบุ และเครือข่ายต่าง ๆ ที่มุ่งหวังอยากจะเห็นการฟื้นฟูวิถีชีวิตชุมชนเก่าแก่และวัฒนธรรมชุมชนเอาไว้ ภายในเต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายอาหารคาว-หวาน รวมไปถึงขนมตำรับโบราณหากินยาก เช่น ขนมเรไร, ขนมเบื้องญวน เป็นต้น โดยเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดไร้คาน หรือโทรศัพท์ 084 681 8382)

7. ชุมชนบ้านบุ

          ชุมชนเก่าแก่ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย มีชื่อเสียงในด้านหัตถกรรมการทำ "ขันลงหิน" อันเป็นมรดาสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นสิ่งที่หาดูได้ยาก เพราะได้รับการสืบสานทางภูมิปัญญาน้อยลงด้วยนั่นเอง อีกทั้งยังได้รับการคัดสรรให้เป็นสินค้า OTOP ที่เป็นที่ต้องการทั้งตลาดทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเพราะความประณีตในแต่ละชิ้นงาน ที่สะท้อนศิลปะและภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ชาติใดก็ยากจะลอกเลียนแบบ

8. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร


          อีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยเดินทางมาทำบุญกันที่นี่เป็นจำนวนมาก ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยแล้ว ยิ่งหนาตากว่าทุกวัน ใครที่ไหว้พระในพระอุโบสถเสร็จแล้ว อย่าลืมแวะมาชม "ตำหนักจันทน์" หรือ "หอพระไตรปิฎก" เรือนไม้แฝด 3 หลัง เดิมเป็นตำหนักและหอประทับนั่งของรัชกาลที่ 1 เมื่อตอนที่ยังเป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจนอกฝ่ายขวา ภายในมีพระบรมสาทิสลักษณ์ขนาดใหญ่ของรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ในหอกลาง พร้อมด้วยห้องบรรทม ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชม

9. วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร

          เดิมชื่อวัดทอง ซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จากพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 3 โดดเด่นด้วยภาพวาดฝาผนังในพระอุโบสถ ที่ถือเป็นการประชันฝีมือกันระหว่างจิตรกรฝีมือเยี่ยม อย่างหลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนภาพเนมิราชชาดก กับหลวงเสนีย์บริรักษ์ (คงแป๊ะ) ผู้เขียนภาพมโหสถชาดก

          ด้านในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อศาสดา" พระประธานของพระอุโบสถ ซึ่งมักจะมีคนมากราบไหว้ขอพร หรือบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์ทหาร ตลอดจนบนให้ประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ และเมื่อสำเร็จสมหวัง ก็นิยมแก้บนด้วยการวิ่งม้า แต่ไม่ได้ใช้ม้าจริง ๆ เพียงแค่ใช้คนวิ่ง และมีผ้าขาวม้าเป็นสัญลักษณ์แทนม้าเท่านั้น โดยต้องมาแก้บนที่ใบเสมาแรกทางด้านหน้าของพระอุโบสถ เพราะตรงกับตำแหน่งเดียวกับหลวงพ่อศาสดานั่นเอง

10. วัดอมรินทรารามวรวิหาร

          วัดที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ตำหนักเขียว พระปรางค์ มณฑปพระพุทธบาทจำลอง และที่สำคัญที่สุดคือ หลวงพ่อโบสถ์น้อย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญ เป็นมิ่งขวัญและเป็นที่พึ่งทางใจของชาวเมืองธนบุรี ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่สัญจรผ่านไปมาบนสะพานอรุณอมรินทร์ เป็นต้องยกมือไหว้กันแทบทุกคน

ของอร่อยย่านบางกอกน้อย

          หลังจากตระเวนเที่ยวกันจนเหนื่อย  ก็ถึงเวลามองหาของกินอร่อย ๆ ในย่านบางกอกน้อยกันแล้วค่ะ นอกจากที่เที่ยวจะเด็ดแล้ว ของกินที่นี่ก็จัดได้ว่าเด็ดไม่แพ้กัน เพราะแค่ที่ตลาดวังหลัง ก็เต็มไปด้วยร้านอาหารมาก ซึ่งอร่อยแทบทุกเจ้า แต่นอกจากวังหลัง ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางกินที่เที่ยวของคนบางกอกน้อยแล้ว ยังมีร้านอร่อยที่น่าสนใจอยู่อีกเพียบ

1. อรทัย ซูชิวังหลัง


          ร้านซูชิร้านดังในตลาดวังหลัง บอกเลยว่าเป็นร้านซูชิที่คนอออยู่หน้าร้านเยอะมาก มีทั้งลูกค้าที่มานั่งทานที่ร้าน และซื้อหิ้วกลับไปทานที่บ้าน มีเมนูหลากหลายประเภท ทั้งประเภทยำสาหร่าย ประเภทไข่กุ้ง ประเภทปลา ประเภทสลัด ประเภทหน้าข้าวปั้น และประเภทมากิ เห็นเมนูเยอะอย่างนี้บอกเลยนะว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด แถมน้ำจิ้มวาซาบิก็ถึงใจ และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งของทางร้าน เห็นจะเป็นทาโกะยากิ มีให้เลือกชิมหลายไส้ เช่น ไส้กุ้ง ปลาหมึก ทูน่า แซลมอน แฮม หรือปู รับรองความอร่อยแต่ละคำด้วยคุณภาพทั้งสิ้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02 866 8828, 084 138 8334, 089 774 8716)

2. N10 Café


          ร้านคาเฟ่บรรยากาศดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถวตลาดวังหลัง ประทับใจในบรรยากาศ ด้วยลมโกรกพัดมาเย็น ๆ ตลอดเวลา และเมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้าม จะเห็นท่ามหาราช นับเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง ในร้านเน้นการตกแต่งด้วยงานไม้ โทนสีน้ำตาล มีทั้งโซนในร้านและนอกร้าน ส่วนเรื่องขนมหวานที่นี่ก็อร่อยไม่เป็นรองใคร เมนูแนะนำ ได้แก่ "Chocolate Toast" ขนมปังชิ้นใหญ่และหนานุ่ม ที่เสิร์ฟมาคู่กับกล้วยหอมที่หั่นมาแบบพอดีคำ พร้อมไอศกรีมวานิลลา และช็อกโกแลตเข้มข้น ลองได้ตักเข้าปาก จะรู้เลยว่าเป็นความอร่อยที่ลงตัวแบบสุด ๆ (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 088 000 8342)

3. ก๋วยเตี๋ยวตำลึงนายอ้วน


          ร้านอยู่แถวบางขุนนนท์ หลากหลายด้วยเมนูก๋วยเตี๋ยวน่าอร่อย ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ, ก๋วยเตี๋ยวหมู, ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา และอีกสารพัดเมนูก๋วยเตี๋ยว แต่ที่พลาดไม่ได้เห็นจะเป็น "ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง" ที่มาแบบครบเครื่อง แถมน้ำซุปก็ยังกลมกล่อมกำลังดี จะสั่งเบิ้ลอีกชามก็ไม่ว่ากัน นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอีกมากมาย เช่น แกงเขียวหวาน, ต้มจับฉ่าย, ไข่พะโล้ หรือจะเป็นขนมหวานอย่าง ข้าวเหนียวเปียกลำไย เป็นต้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 087 594 5994 หรือ เฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวตำลึง(นายอ้วน)บางขุนนนท์)

4. สายไหมบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง


          ตั้งอยู่ในตลาดวังหลัง เดิมเปิดขายขนมหวาน ก่อนที่จะขยับขยายมาเปิดร้านขายบะหมี่เกี๊ยวกุ้งในภายหลัง ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ อยู่ที่เส้นบะหมี่ไข่ที่สั่งทำมาเป็นพิเศษ สังเกตดูง่าย ๆ เลยว่า เส้นจะเล็กกว่าเส้นบะหมี่ทั่วไป แถมยังเหนียวนุ่มมากกว่าอีกด้วย ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งอยู่ที่เกี๊ยวกุ้ง ที่แป้งเกี๊ยวสั่งทำแบบพิเศษ และห่อกุ้งเอาไว้ทั้งตัว พอได้ทานคู่กับบะหมี่ หมูแดง ปรุงเครื่องปรุงให้ถูกปากอีกหน่อย ได้รสชาติความอร่อยอย่างแท้จริง และไม่ลืมที่จะสั่งของหวานมาล้างปาก เช่น ซ่าหริ่ม, ทับทิมกรอบ หรือโรตีสายไหม เป็นต้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089 168 6115, 089 449 8024)

5. Chris Steaks & Burgers

          ร้านเบอร์เกอร์เล็ก ๆ แต่อร่อยแถวบางขุนนนท์ ลักษณะร้านเป็นห้องแถวเล็ก ๆ แต่ถึงจะเล็ก ก็อัดแน่นไปด้วยจำนวนลูกค้าที่มาเข้าคิวลิ้มลองความอร่อยเพียบ เมนูแนะนำของทางร้าน คือ "ทาวเวอร์ชีสเบอร์เกอร์แบบชาร์โคลเนื้อ" ความอร่อยอยู่ตรงที่รสชาติของเนื้อที่ได้รับการหมักมาเป็นอย่างดี ไม่เค็มจนเกินไป สั่งมาทานคู่กับ "หอมทอด" ชุบเกล็ดขนมปังเบา ๆ พร้อมด้วยเครื่องดื่มอย่าง "มิกซ์ราสป์เบอรี่โคล่า" เป็นชุดความอร่อยที่แสนจะลงตัว (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 091 847 3772 หรือ เฟซบุ๊ก Chris Steaks & Burgers)

6. อร่อยโอชารส

          ร้านอร่อยเก่าแก่ย่านบางขุนนนท์ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยที่ลูกค้าพร้อมใจรอเข้าคิว เพื่อลิ้มรสความอร่อย ที่ร้านให้บริการอาหารหลากหลายเมนู เช่น "ข้าวคลุกกะปิ" ตัวข้าวหอม รสชาติกลมกล่อม พร้อมด้วยเครื่องเคียงมาแบบไม่ยั้ง, "เปาะเปี๊ยะสด" แป้งบาง พร้อมด้วยกุนเชียงหั่นมากำลังดี ทานพร้อมน้ำจิ้ม เข้ากันอย่างลงตัว และปิดท้ายด้วย "ข้าวผัดปู" เป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องสั่ง เวลาทานใส่น้ำปลาพริกลงไปอีกสักหน่อย อร่อยจนลืมไม่ลง (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02 435 1324, 082 332 7535)

7. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก

          ร้านก๋วยเตี๋ยวดั้งเดิมที่เปิดขายมากว่า 80 ปี และไม่มีสาขาอื่นที่ไหน ตั้งอยู่ตรงบริเวณสามแยกไฟฉาย แน่นอนว่าใครมาที่ร้านต้องมาลอง "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ" ด้วยกันทั้งนั้น สามารถสั่งได้ทั้งแบบน้ำและแบบแห้ง ความอร่อยอยู่ที่เนื้อที่เปื่อยนุ่มกำลังดี และมาพร้อมด้วยเอ็น ลูกชิ้น ตับ และหัวใจ นอกจากอิ่มอร่อยกับเมนูก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังสามารถลิ้มลองเนื้อสะเต๊ะสูตรอิสลาม แม้ทานเปล่า ๆ ไม่จิ้มน้ำจิ้ม ก็อร่อยเหาะสุด ๆ ไปเลย

          บางกอกน้อย จึงเป็นอีกย่านท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่สามารถเที่ยวได้ในหนึ่งวันแบบสบาย ๆ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ถ้าใครยังไม่มีแผนไปเที่ยวที่ไหน ลองมาเที่ยวที่บางกอกน้อยกันดูนะคะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทริปที่สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับการเที่ยวกรุงเทพฯ ของเพื่อน ๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว ^ ^

ตั๊กออแกไนท์บางกอกน้อยรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
นางรำบางกอกน้อยเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
บางกอกน้อยรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
ฟ้อนบูชาพญานาคบางกอกน้อย
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย


  ติดต่อสอบถามเรา        
            



236
ไหว้พระ 9 วัดฝั่งธนบุรี อิ่มบุญ เสริมมงคลชีวิต

 ไหว้พระ 9 วัดฝั่งธนบุรี ไหว้พระขอพร และน้อมรับสิริมงคลเข้าสู่ชีวิต เพื่อให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ทำได้ง่าย ๆ

          ไหว้พระ 9 วัด  ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับใครก็ตามที่อยากเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ทำให้เรื่องของการเข้าวัดทำบุญไม่ได้เป็นเรื่องที่จำกัดอยู่แต่คนแก่อีกต่อไป หากแต่เป็นเรื่องของคนทุกเพศทุกวัย ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำกิจกรรมนี้ได้ และโดยส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นเคยกับการไหว้พระ 9 วัดย่านพระนคร มาคราวนี้เราจะมาลองเปลี่ยนทิศมายังฝั่งธนบุรีกันดูบ้าง เพราะในย่านนี้ก็มีวัดศักดิ์สิทธิ์สำคัญอยู่หลายแห่งไม่ต่างจากฝั่งพระนคร ว่าแล้วไม่รอช้า…เปิดลายแทงออกเดินทางไหว้พระ 9 วัดฝั่งธนบุรี กันเลยดีกว่า

1. วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร

          วัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเรียกกันว่า "วัดท้ายตลาด" ด้วยความที่อยู่ต่อจากตลาดเมืองธนบุรี จนเมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมาสร้างพระราชวัง ก็ได้อาณาบริเวณยาวลงมาครอบคลุมถึงวัดแห่งนี้ด้วย และกลายเป็นวัดในเขตพระราชฐานในพระราชวังกรุงธนบุรี  ภายในวัดจะมีฉางเกลือ หรือ ที่เก็บเกลือ ซึ่งในอดีตเกลือมีความสำคัญมากในการถนอมอาหารรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บอาหารไว้กินในช่วงสงคราม จนเมื่อเกลือเริ่มหมดความสำคัญลง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพระวิหารลักษณะทรงไทยผสมจีน มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ และพระอัครสาวกประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร


          ส่วนพระอุโบสถ มีลักษณะทรงไทยยุคต้นรัตนโกสินทร์ หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ มีช่อฟ้าใบระกาไม้สัก ลงรักปิดกระจก ภายในผนังและเพดานมีภาพเขียนจิตรกรรม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัยสวยงาม ต่อมาได้ถวายพระนามว่า "พระพุทธโมลีโลกนาถ" ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเป็นที่สักการะของพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร และเหล่าราษฎรมาตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์

2. วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร


          วัดที่สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเศรษฐีชาวจีนที่มีชื่อว่า "นายหง" จนเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรี และได้กำหนดเขตพระราชฐาน วัดหงส์ซึ่งมีอาณาเขตติดกับพระราชฐาน จึงทรงรับวัดนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ ให้เป็นพระอารามหลวงมาตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ได้ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ สร้างศาลาการเปรียญพร้อมทั้งกุฏิ เสนาสนะทั่ววัด มีพระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากได้เข้ามาศึกษา วัดหงส์จึงถือเป็นศูนย์กลางสำคัญทางการศึกษาพระพุทธศาสนาที่สำคัญในสมัยนั้น

          ภายในมีพระอุโบสถหลังใหญ่ มีช่อฟ้าใบระกา ตกแต่งหน้าบันด้วยลวดลายสวยงาม พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองปางมารวิชัย มีพระแสนอยู่เบื้องหน้าพระประธาน ซึ่งเป็นที่นับถือและกราบไหว้ของคนทั่วไป ที่เชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพระแสน อันเป็นความเชื่อสำคัญเกี่ยวกับการไหว้พระที่วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร

3. วัดเครือวัลย์วรวิหาร


          เป็นพระอารามหลวง สร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด บ้างสันนิษฐานว่าพระยาอภัยภูธร และเจ้าจอมมารดาเครือวัลย์ในรัชกาลที่ 3 ผู้เป็นธิดา ได้ปฏิสังขรณ์ใหม่ แล้วถวายเป็นพระอารามหลวง และได้พระราชทานชื่อว่า "วัดเครือวัลย์" ภายในมีพระอุโบสถทรงไทย ประดับช่อฟ้าใบระกา หน้าบันตกแต่งด้วยปูนปั้นลายดอกไม้สวยงาม ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรไว้เป็นโบราณสถาน เนื่องจากผนังภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวในประเทศไทยที่เขียนภาพพระชาติของพระพุทธเจ้าครบทั้ง 500 พระชาติ


          พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปยืน พระหัตถ์ซ้ายทอดลงข้างพระวรกาย พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ ฝ่าพระหัตถ์แบไปด้านหน้า มีพระอัครสาวก คือ พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ยืนอยู่ด้านขวาและซ้าย เป็นหนึ่งในองค์พระประธานองค์ยืนที่สวยสง่า เป็นที่เคารพและศรัทธาแก่ประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก

4. วัดนาคกลางวรวิหาร


          เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ที่มีถาวรวัตถุสำคัญต่าง ๆ อยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ "หลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ประดิษฐานที่มณฑปจัตุรมุข มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลาทรงผลสมอ (ผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยาขนานเอก) จนทำให้ทุกวันนี้คนทั่วไปที่เข้ามาสักการะหลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ ขอให้ตนแคล้วคลาดจากโรคภัยไข้เจ็บให้หายขาด รวมถึงในเรื่องโชคลาภอีกด้วย


          ภายในมีพระอุโบสถ เป็นอาคารลักษณะทรงไทย ก่ออิฐถือปูน ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์สวยงาม เข้ามาภายใน จะเห็นพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด พร้อมทั้งพระพุทธรูปบูชาต่าง ๆ  และพระอัครสาวกเบื้องขวา เบื้องซ้าย เมื่อมองดูรอบตัวโบสถ์ จะเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงาม เกี่ยวกับพุธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูแล้วชวนให้เพลินตาเพลินใจดีไม่น้อยเลย

5. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร


          วัดโบราณที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมชื่อ "วัดบางหว้าใหญ่" จนต่อมาในรัชกาลที่ 1 มีการขุดค้นพบระฆังโบราณในเขตวัด ประชาชนทั่วไปจึงเรียกวัดระฆังตั้งแต่นั้นมา เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยเดินทางมาทำบุญกันที่นี่เป็นจำนวนมาก ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยแล้ว ยิ่งหนาตากว่าทุกวัน โดยภายในวัดประกอบไปด้วยศาสนสถานสำคัญมากมาย

          ใครที่ไหว้พระในพระอุโบสถเสร็จแล้ว อย่าลืมแวะมาชม "ตำหนักจันทน์" หรือ "หอพระไตรปิฎก" เรือนไม้แฝด 3 หลัง ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้เงาร่มไม้ใกล้กับพระอุโบสถ เดิมเป็นตำหนักและหอประทับนั่งของรัชกาลที่ 1 เมื่อตอนที่ยังเป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจนอกฝ่ายขวา ภายในมีพระบรมสาทิสลักษณ์ขนาดใหญ่ของรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ในหอกลาง ความพิเศษของปีกตำหนักด้านซ้ายยังเป็นห้องบรรทม ตรงบานประตูด้านในมีภาพวาดอสุภะ ที่กำลังถูกสัตว์เดรัจฉานฉีกทึ้งแย่งกิน ซึ่งปกติแล้วโดยทั่วไป มักไม่ค่อยมีเจ้านายพระองค์ไหนวาดภาพดังกล่าวในห้องบรรทม อันมีนัยเพื่อเตือนตัวเองในเรื่องวัฏสงสารเวียนว่ายตายเกิด ให้เกิดความรู้สึกปลงอสุภะก่อนที่จะล้มตัวลงนอน

6. วัดอมรินทรารามวรวิหาร


          วัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ตำหนักเขียว พระปรางค์ มณฑปพระพุทธบาทจำลอง และที่สำคัญที่สุดคือ หลวงพ่อโบสถ์น้อย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญ เป็นมิ่งขวัญและเป็นที่พึ่งทางใจของชาวเมืองธนบุรี ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่สัญจรผ่านไปมาบนสะพานอรุณอัมรินทร์ เป็นต้องยกมือไหว้กันแทบทุกคน


          ความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อโบสถ์น้อยมีมากมายนับไม่ถ้วน กลายเป็นตำนานเล่าขานที่บอกต่อ ๆ กันมา ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามาจากเมื่อครั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งองค์หลวงพ่อโบสถ์น้อยได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยจากแรงระเบิด จะมีก็แต่พระเศียรขององค์หลวงพ่อร้าวเท่านั้นเอง เหตุการณ์เหล่านี้กลายเป็นที่กล่าวขานในเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว ซึ่งมีประชาชนทั่วไปให้ความศรัทธาและเลื่อมใสองค์หลวงพ่อโบสถ์น้อยเป็นจำนวนมาก

7. วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร

          วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เดิมชื่อวัดทอง ซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จากพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 3 ที่ได้ทรงปฏิสังขรณ์เสนาเสนาะ ถาวรวัตถุและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่ที่โดดเด่นคือภาพวาดฝาผนังในพระอุโบสถ ที่ถือเป็นการประชันฝีมือกันระหว่างจิตรกรฝีมือเยี่ยม อย่างหลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนภาพเนมิราชชาดก กับหลวงเสนีย์บริรักษ์ (คงแป๊ะ) ผู้เขียนภาพมโหสถชาดก

          ด้านในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อศาสดา" พระประธานของพระอุโบสถที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธากันมาก โดยมักมีคนมากราบไหว้ขอพร หรือบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์ทหาร ตลอดจนบนให้ประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ และเมื่อสำเร็จสมหวัง ก็นิยมแก้บนด้วยการวิ่งม้า แต่ไม่ได้ใช้ม้าจริง ๆ เพียงแค่ใช้คนวิ่ง และมีผ้าขาวม้าเป็นสัญลักษณ์แทนม้าเท่านั้น โดยต้องมาแก้บนที่ใบเสมาแรกทางด้านหน้าของพระอุโบสถ เพราะตรงกับตำแหน่งเดียวกับหลวงพ่อศาสดานั่นเอง

8. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร


          พระอารามหลวงชั้นเอก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล สงวนไว้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพระกฐินเป็นประจำทุกปี เมื่อมาถึงวัดอรุณฯ จะไม่เดินไปดูพระปรางค์ก็คงจะเป็นเรื่องแปลกอยู่เสียหน่อย โดยทางวัดเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความงดงามของพระปรางค์แห่งนี้ได้แบบใกล้ชิด ได้เห็นความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ ถ้วยชามสมัยโบราณ เปลือกหอย เป็นลวดลายใบไม้ต่าง ๆ จนอดคิดไม่ได้ว่า ต้องใช้จำนวนแรงงานที่มีความพากเพียรมากแค่ไหนในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีความงดงามได้ขนาดนี้

          ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูป "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ฝาผนังภายในพระอุโบสถทั้ง 4 ด้านมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงดงามอลังการ โดยเป็นเรื่องราวภาพพุทธประวัติฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้มีการซ่อนแซมบางส่วนในสมัยรัชกาลที่ 5 นับเป็นความสวยงามที่ไม่ได้หาชมจากที่ไหนได้ง่าย ๆ เลย

9. วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

          พระอารามหลวงชั้นโท เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดรั้วเหล็ก ใกล้เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ภายในวัดมีสถานที่สำคัญมากมาย เช่น "เขามอ" ภูเขาจำลองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ก่อขึ้นจากหินที่มียอดลดหลั่นกันไปตามลำดับ "พิพิธภัณฑ์พระ ประยูรภัณฑาคาร" หรือ "พรินทรปริยัติธรรมศาลา" สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับให้ความรู้ด้านสิ่งของโบราณในสมัยก่อน "พระบรมธาตุมหาเจดีย์" พระเจดีย์ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 หรือ Award of Excellence จากโครงการประกวดรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี พ.ศ. 2556

          ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะปางมารวิชัย ที่มีลักษณะงดงาม โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ให้ช่างชาวไทยเป็นผู้หล่อ ได้ว่าจ้างช่างลงรักปิดทองมาจากประเทศญี่ปุ่น กล่าวกันว่ามีฝีมือและกรรมวิธีการปิดทองดีเยี่ยม และถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกที่ใช้ช่างปิดทองเป็นชาวต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น

          ใครที่กำลังมองหาเส้นทางไหว้พระทำบุญอยู่นั้น เส้นทางไหว้พระ 9 วัดย่านฝั่งธนบุรี ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเสริมมงคลให้กับชีวิตที่ดีอีกเส้นทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ วัยชรา สามารถเข้าวัดทำบุญได้ด้วยกันทั้งนั้น เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวดี ๆ ที่อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ลองทำกัน เพราะหากเพียงแค่คุณมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณจะได้พานพบกับความสงบสุขทางจิตใจอย่างแน่นอน

ตั๊กออแกไนท์ธนบุรี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคธนบุรี
นางรำธนบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคธนบุรี
ธนบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคธนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคธนบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคธนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคธนบุรี



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


237
กัมปงในดงปรือ ล่องเรือชมสวน กินทองม้วนนมแพะ ที่ทุ่งครุ กรุงเทพฯ

ความน่าสนใจของที่นี่ ก็คือ กิจกรรมกัมปงในดงปรือ เป็นกิจกรรมที่จะพาท่องเที่ยวชุมชนโดยรอบของทุ่งครุ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับชุมชนที่เต็มไปด้วยสวนผลไม้สุดร่มรื่น อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ ส่วนชื่อกัมปงในดงปรือนั้น ก็มาจากคำว่า กัมปง ในภาษามลายู มีความหมายในเชิงว่า ชุมชน ผสมกับคำว่า ดงปรือ เพราะพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ไร่สวน มีต้นปรือขึ้นเยอะมาก จึงเกิดเป็น กัมปงในดงปรือ นั่นเอง
กัมปง ในภาษามลายู มีความหมายในเชิงว่า ชุมชน
พื้นที่โดยรอบมี ต้นปรือ ขึ้นเยอะ
จึงกลายเป็น กัมปงในดงปรือ


          รายละเอียดของกิจกรรมนี้จะเป็นการพาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป นักท่องเที่ยวจะได้เริ่มเที่ยวชุมชนตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้พาชม ซึ่งจะได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งล่องเรือไปตามลำคลอง ชมธรรมชาติและบ้านเรือนสองฟากฝั่งอันเงียบสงบ พาแวะเที่ยวชมสุเหร่าเก่าแก่คู่ชุมชน พร้อมทั้งขี่ม้าถ่ายรูปน่ารัก ๆ แล้วไปทำบุญให้อาหารปลากันต่อที่วัด


          จากนั้นก็ไปเที่ยวชมสวนส้มบางมด หรือสวนมะพร้าวน้ำหอม ชิมผลไม้สด ๆ กันจากต้น ถ้าไม่เหนื่อยก็แวะไปหาน้องแพะ ให้อาหารแพะพร้อมชมวิธีการรีดนมแพะ ช่วงกลางวันก็มาอิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวน้ำกะทิ ของดีของเด็ดประจำชุมชน พอเติมพลังแล้วก็ไปลองทำทองม้วนนมแพะและขนมไทยโบราณอื่น ๆ ก่อนกลับบ้านก็สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนไปเป็นของฝากได้ด้วย


          กิจกรรมกัมปงในดงปรือจะมีในวันอาทิตย์แรกของทุกเดือน มีค่าเข้าร่วมกิจกรรมเพียงท่านละ 250 บาท ควรจองล่วงหน้าเพื่อที่ทางชุมชนจะได้จัดสรรกิจกรรมให้เหมาะสมและเพียงพอต่อนักท่องเที่ยว


ที่ตั้ง : ซอยพุทธบูชา 36 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอาทิตย์แรกของทุกเดือน
ราคา : 250 บาท/คน
โทรศัพท์ : 08 3024 8107
เฟซบุ๊ก : กัมปงในดงปรือ
สถานที่จอดรถ : จอดรถฟรี
          วันหยุดนี้ถ้ายังหาสถานที่ไปเช็กอินไม่ได้ ก็ลองพิจารณาชุมชนเล็ก ๆ แห่งนี้กันดูนะคะ อยู่ในกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่เยอะ ใกล้ชิดธรรมชาติ มีของกินอร่อย ๆ พร้อมทั้งกิจกรรมดี ๆ รออยู่มากมาย เป็นวันเดย์ทริปที่เที่ยวได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ลองไปเที่ยวกัน :)

ตั๊กออแกไนท์ทุ่งครุรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
นางรำทุ่งครุเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
ทุ่งครุรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
รําบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
ฟ้อนบูชาพญานาคทุ่งครุ
รําบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


238
7 ที่เที่ยวพุทธมณฑล จ.นครปฐม ขับรถไม่เกินชั่วโมงก็ได้ชิลใกล้กรุงเทพฯ

          ชวนเที่ยวนครปฐม พาไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวพุทธมณฑล อำเภอเล็ก ๆ ใกล้กรุงเทพฯ ที่มีทั้งที่เที่ยวเชิงเกษตร พิพิธภัณฑ์ จุดถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟบรรยากาศดี
          วันหยุดสั้น ๆ ก็อยากคั่นความเครียดจากงานด้วยการพาตัวเองไปสูดอากาศดี ๆ หรือทำกิจกรรมสนุก ๆ ที่ผ่อนคลาย และยิ่งถ้าอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ได้ก็ยิ่งเลิฟ เราก็เลยจะพาไปรู้จักกับที่เที่ยวนครปฐมอีกจุด อย่าง "พุทธมณฑล" อำเภอชายขอบที่ติดกับกรุงเทพฯ ซึ่งมีที่เที่ยวหลากหลายน่าสนใจ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน
1. พุทธมณฑล
          สถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา บนเนื้อที่กว่า 2,500 ไร่ ในตำบลศาลายา ออกแบบและจัดสรรพื้นที่ได้อย่างสวยงาม ให้กลายเป็นสวนพุทธธรรมบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มีประติมากรรมทางพุทธศาสนาตั้งอยู่ทั่วทั้งสวน โดยจุดสำคัญจะอยู่ที่พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ พระพุทธรูปปางลีลาประจำพุทธมณฑล ออกแบบโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้

          ที่ตั้ง : ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

2. ไชน่าทาวน์ ศาลายา
          โครงการสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นไชนีส กลายเป็นเมืองจีนขนาดย่อมที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียงนิดเดียว โดยด้านในมีทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สะพานต่ออายุ รวมไปถึงร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย มาที่เดียวก็สามารถอิ่มอร่อยกับอาหารแนวสตรีตฟู้ดได้จากทั่วไทย และก็ได้ภาพถ่ายสวย ๆ ในมุมที่ไม่ซ้ำใคร

          ที่ตั้ง : 111 หมู่ 4 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน
          เว็บไซต์ : chinatownsalaya.com
          เฟซบุ๊ก : Chinatown Salaya

3. นาบัวลุงแจ่ม
          สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและเชิงเกษตรใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่อยากให้พลาด เป็นนาบัวขนาดกว้างขวางราว 25 ไร่ ที่ดอกบัวนับพันดอกจะออกดอกชูช่อให้ได้ชมกันทุกวัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นสีชมพูบานเย็น มีสีขาวตัดสลับบ้าง สวยงามเย็นตา สามารถนั่งเรือเข้าไปเก็บบัวได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ การเที่ยวนาบัวลุงแจ่มจะสามารถเที่ยวพ่วงไปกับการเที่ยวชุมชนริมคลองมหาสวัสดิ์ได้ด้วย มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การเที่ยวชมกลุ่มแม่บ้านแปรรูปศาลาดิน สวนกล้วยไม้ สวนผลไม้ บ้านน้ำฟักข้าว และฟังแหล่ประวัติคลอง เป็นต้น

          ที่ตั้ง : หมู่ 3 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
          เฟซบุ๊ก : นาบัว ลุงแจ่ม

4. พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย
           หอสมุด พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ที่เก็บภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตลอดจนสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และยังมีการสร้างอาคารต่าง ๆ จำลองบรรยากาศสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในธีมต่าง ๆ สวยแปลกตา นอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยกลับบ้านแล้ว ก็ยังจะได้ภาพพอร์เทรตสวย ๆ ไว้อัปโซเชียลด้วย

           ที่ตั้ง : 94 หมู่ 3 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
           เวลาเปิด-ปิด : นัดหมายล่วงหน้าได้ทุกวัน วันละ 7 รอบ ได้แก่ เวลา 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 15.00 น. และ 16.00 น. รอบละไม่เกิน 7 คน
           เว็บไซต์ : fapot.or.th
           เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย Thai Film Museum


5. เดอะศาลายา ไทยโซน
          สถานที่ท่องเที่ยวที่เนรมิตขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับมนตร์เสน่ห์ความเป็นไทย ผ่านศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกัน คือ ตลาดน้ำ, ศิลปหัตถกรรม, พิพิธภัณฑ์หนุมานนคร, ถ้ำชมโชว์, ลานศิลปะนคร, ศาลาตำรายา และร้านขายของที่ระลึก พร้อมทั้งยังมีเธียเตอร์ไนท์โชว์ และสวนป่าธรรมชาติ ให้ได้เที่ยวชมเพลิน ๆ

          ที่ตั้ง : 88/8 หมู่ 5 ถนนศาลายา-บางภาษี ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
          เว็บไซต์ : thesalaya.com
           เฟซบุ๊ก : THE SALAYA

6. ตลาดศาลายา
          ตลาดสดขนาดใหญ่ แหล่งรวมสินค้าทางการเกษตร ผัก-ผลไม้สดจากไร่-สวน และอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอพุทธมณฑล สินค้าและอาหารที่น่าสนใจ เช่น ผัก-ผลไม้ออร์แกนิก, ผัก-ผลไม้นำเข้า, อาหารทะเลสด, กล้วยทอด-มันทอด, ขนมไทยโบราณ, ข้าวเกรียบปากหม้อ, ห่อหมก, เป็ดย่าง, หมูสะเต๊ะ, สลัดผักสด, ข้าวเกรียบปากหม้อ, ทอดมันปลากราย, ข้าวคลุกกะปิ, ขนมครกไส้ทะลัก, หมูกรอบ, ขาหมู, ข้าวเหนียวหมู, อาหารเจ, ข้าวหมกไก่, บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง และข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ทางหลวงชนบท นฐ. 4006 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-16.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ตลาดศาลายา

7. ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาเฟ่พุทธมณฑล
         

          ที่ตั้ง : ถนนเลียบทางรถไฟ คลองมหาสวัสดิ์ ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Levee Rooftop Cafe'

         

          ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.30 น.
          เฟซบุ๊ก : Play with cat Cafe - คาเฟ่แมว

         

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
          เฟซบุ๊ก : โอบอวล

          - ลาลูนเฮ้าส์

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Lalune House

         

          ที่ตั้ง : 66/112-3 ถนนศาลายา-นครชัยศรี เยื้องกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ประตู 2 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : MuchMellow Salaya

          ที่ตั้ง : ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : PEE NEUNG Coffee House Salaya

 

          ที่ตั้ง : 152 หมู่5 ถนนทวีวัฒนา ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Anya's Place


          ที่ตั้ง : 49 ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.00-18.30 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.30 น.
          เฟซบุ๊ก : บ้านปายนา

         ที่ตั้ง : ถนนดาวทอง ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
         เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันพฤหัสบดี-อังคาร (ปิดวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 10.30-20.00 น.
         เฟซบุ๊ก : Little Dream Garden ฝันของพ่อ

         วันไหนว่าง ๆ มีเวลาไม่มาก แต่อยากไปเที่ยวพักผ่อนสูดอากาศต่างจังหวัดใกล้ ๆ ก็ลองไปเที่ยวอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กันดูนะ นาบัวก็มี พิพิธภัณฑ์เสริมความรู้ก็ได้ ช้อปปิ้งของกินอร่อย ๆ ก็ดีเด็ด ไปเที่ยวกันเลย :)

         หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ตั๊กออแกไนท์................ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเราฃ

รำบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
นางรำทวีวัฒนาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
ทวีวัฒนารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
รําบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
ฟ้อนบูชาพญานาคทวีวัฒนา
รําบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


239
ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำเมืองกรุง
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวตลาดน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ประมาณว่า... ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำลำพญา ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำดอนหวาย ตลาดน้ำ... ฯลฯ ขอให้บอกเถอะ ไปเที่ยวมาหมดแล้ว... เพราะตลาดน้ำแต่ละที่ก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เพราะฉะนั้น การจะเดินทางไปท่องเที่ยว ก็เลยกลายเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย...

         แต่... วันนี้เด็ดกว่าค่ะ เรามีตลาดน้ำในเมืองกรุงมาแนะนำเพื่อน ๆ นัก (ชอบ) เที่ยวกันด้วย นั่นก็คือ... "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" คราวนี้ไม่ใช่แค่ใกล้กรุงเทพฯ นะคะ แต่อยู่ในกรุงเทพฯ เลย (อิอิ) ที่สำคัญ คือ ไปง่ายมาง่าย แถมมีรถเมล์วิ่งผ่านหน้าตลาดอีกด้วย สำหรับใครที่มีเวลาไม่มาก แต่อยากมาสัมผัสบรรยากาศริมน้ำ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแสนร่มรื่น "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" ยินดีต้อนรับค่ะ

         "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" ตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน เป็นตลาดกึ่งชนบทผสมผสานระหว่างชีวิตริมน้ำกับธรรมชาติ มีเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลาประมาณ 07.00 – 16.00 น. พ่อค้าแม่ค้า (ชาวสวนในพื้นที่แถวนั้นนั่นล่ะ) จะเริ่มนำผลผลิตจากสวน ซึ่งมีทั้งพันธุ์ไม้ ผักสด ผลไม้ ปลา และอาหารต่างๆ มาจำหน่ายเหมือนตลาดสดทั่วไป แต่ผลผลิตจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล


ตลาดน้ำตลิ่งชัน


         สำหรับอาหารการกินของตลาดน้ำที่นี่ รับรองว่ามีดีไม่แพ้ที่ไหน ๆ แถมเก๋ไก๋สุดๆ ด้วยการนั่งกินอาหารในแพริมน้ำ ส่วนอาหารนั้นจะมีเรือมาจอดขายอยู่ข้าง ๆ มีทั้งของคาวหวานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟโบราณสูตรเด็ด ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ เต้าหู้ทอด ปลาย่าง ปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ไปจนถึงลาบ ส้มตำ น้ำตก และอาหารอื่น ๆ น่ากินอีกเพียบ ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรแซ่บ ๆ บ้าง ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง (55)

         นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเรือทัวร์พานักท่องเที่ยวล่องคลองบางเชือกหนัง ชมธรรมชาติ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ริมน้ำสองฝั่งคลองของชาวตลิ่งชัน แวะชมฟาร์มกล้วยไม้ เข้าคลองลัดตานิน ออกคลองบางกอกน้อย เที่ยวฟาร์มงูธนบุรี ให้อาหารปลาวัดปากน้ำฝั่งใต้ โดยให้บริการตั้งแต่เวลา 9.30 - 16.15 น. (เรือออกทุกชั่วโมง) ราคาผู้ใหญ่ 90 - 150 บาท เด็ก 50 - 60 บาท (มีหลายโปรแกรมให้เลือก) ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณนพดล (ประธานประชาคมตลาดน้ำ) โทร. 08-1374-7616 หรือที่สำนักงานเขตตลิ่งชัน โทร.0-2424-1742, 0-2424-5448

         เอาล่ะ... ได้เวลาไปเที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชันกันแล้ว...!!




การเดินทาง

         การเดินทางไปตลาดน้ำตลิ่งชัน สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ จากถนนจรัญสนิทวงศ์เลี้ยวเข้าแยกบางขุนนนท์ไปตามเส้นทางหลัก เมื่อถึงแยกตลิ่งชันให้เลี้ยวซ้าย ขับไปตามทางหลักเรื่อยๆ จะเห็นป้ายสำนักงานเขตตลิ่งชันอยู่ด้านหน้า และหากมาทางถนนบรมราชชนนี ผ่านเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ผ่านสายใต้เก่า เลี้ยวซ้ายตรงไปตามทางเรื่อยๆ จะเห็น สน.ตลิ่งชันอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยนั้นและขับมาตามทางหลักเรื่อยๆ จะเห็นป้ายสำนักงานเขตตลิ่งชันอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีรถเมล์สาย 79 ผ่านอีกด้วย
ตั๊กออแกไนท์ตลิ่งชัน รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
นางรำตลิ่งชัน.เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
ตลิ่งชันรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
รําบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
ฟ้อนบูชาพญานาคตลิ่งชัน
รําบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


240
เที่ยวกรุงเทพฯ ย่านดุสิตกัน ตะลุย 5 ที่เที่ยว 5 ที่กิน ไปฟินให้สุด ๆ

5 ที่เที่ยวย่านดุสิต

1. สวนสัตว์ดุสิต

          สวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดิน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในย่านนี้เลยค่ะ ด้วยบรรยากาศร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีสัตว์นานาชนิดให้ได้ไปทักทาย อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้เลือกทำ เช่น ให้อาหารปลาที่สะพานปลา การสาธิตการให้อาหารสัตว์หน้าส่วนแสดง ปั่นเรือจักรยานนาวาชมวิวรอบ ๆ สระน้ำกว้างในเขาดิน
นั่งรถพ่วงชมสวนสัตว์เพลิน ๆ ชมการแสดงของแมวน้ำสุดน่ารัก เล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำใจที่สวนน้ำ หรือตื่นตาตื่นใจกับการแสดงกายกรรมจากประเทศเคนยา

          ในส่วนของสัตว์ก็มีการจัดแสดงหลายโซนให้ได้ชมกัน ทั้ง ฮิปโปโปเตมัส, ลิง ค่าง, สัตว์เลื้อยคลาน, หมี, สัตว์ป่าสงวน, โคอาลา, เสือโคร่งและสิงโต หรือสัตว์หากินกลางคืน เป็นต้น ไปที่เดียวได้ทั้งความผ่อนคลาย
และได้ความรู้ในคราวเดียวกันแน่นอน บอกเลยว่าเหมาะกับทุกคน ทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์แน่นอน

          อ้อ ๆ ถ้ามาแล้วไม่เตรียมอาหารมาด้วยก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ที่เขาดินมีศูนย์อาหารร้านรวงให้เลือกมากมาย นั่งกินในแอร์เย็นสบายเลยล่ะ หรือเดินไปแล้วหิวก็จะเจอร้านค้า ซุ้มขนม ร้านกาแฟ เป็นระยะ ๆ เลือกกินได้ตามความถนัดกันได้

          สำหรับค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่คนไทยก็เพียงแค่ 100 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท
เด็ก 70 บาท

          ที่อยู่ : 71 ถนนพระรามที่ 5 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 281 2000
          เว็บไซต์ : www.dusit.zoothailand.org
          เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์ดุสิต Dusit Zoo

2. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร


          วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร อีกหนึ่งวัดสำคัญของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่มุมถนนนครปฐม
ตัดกับถนนศรีอยุธยา ไม่ไกลจากสวนสัตว์ดุสิต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย
และชาวต่างชาติไม่น้อย เพราะภายในวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารมีสถานที่สำคัญและน่าสนใจให้ได้
เที่ยวชมหลายแห่ง


          ที่โดดเด่นและห้ามพลาดมาก ๆ ก็คือ "พระอุโบสถ" ด้วยมีสถาปัตยกรรมแบบไทยสมัยรัตนโกสินทร์ที่สวยงาม ด้านนอกพระอุโบสถประดับด้วยแผ่นหินอ่อนสี่เหลี่ยมสีขาวบริสุทธิ์ หนา 3 เซนติเมตรทั้งหมด ทำให้อาคารมีสีขาวผ่อง สวยสะดุดตา จนได้รับฉายาว่าเป็น The Marble Temple


          นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างที่โดดเด่น มีลักษณะแบบจตุรมุข มุขด้านตะวันออกขยายยาว ด้านเหนือและใต้
มีมุขกระสันต่อกับพระระเบียง หลังคา 4 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสีเหลือง เรียกว่ากระเบื้องกาบู ด้านมุขกระสันทิศเหนือและทิศใต้ 5 ชั้น มีพระระเบียงโอบรอบด้านหลัง และยังมีการตกแต่งส่วนอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกอุโบสถอย่างงดงาม นอกจากจะได้มาทำบุญขอพรไหว้พระแล้ว ก็ยังได้ถ่ายภาพสวย ๆ คู่กับสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าของไทยด้วย

          ที่อยู่ : 69 ถนนนครปฐม แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 282 9686
          เว็บไซต์ : watbenchama.com
          เฟซบุ๊ก : วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

3. พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน

          วังปารุสกวัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวย่านดุสิตที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ ค่ะ ด้วยเป็นพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรม
ที่สวยงาม ที่นี่เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งดำรง
พระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ต่อมาก็ได้พระราชทานให้แก่
สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในยุคการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 วังปารุสกวันก็ได้เป็นกองบัญชาการของคณะรัฐบาล ปัจจุบันได้อยู่ในความดูแล
ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน

          ดั้งเดิมวังปารุสกวันจะมีอยู่ 2 ตำหนักสำคัญ คือ "ตำหนักปารุสก์" และ "ตำหนักสวนจิตรลดา"
แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการดูแลก็ได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนที่เปิดให้เข้าชมก็คือตำหนักสวนจิตรลดา
ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาคารแบบอิตาเลียนวิลล่า ออกแบบโดยมาริโอ ตามาญโญ มีสีเหลืองสวยสะดุดตา ด้านในตกแต่งแบบอาร์ตนูโว บารอค และรอคโคโค

          โดยมีทั้งหมด 2 ชั้น ดังนี้

          ชั้น 1 แบ่งเป็น ห้องนิทรรศการ 1 จัดแสดงประวัติศาสตร์เรื่องราวเกี่ยวกับตำหนักจิตรลดา ห้องประชุม และห้องจดหมายเหตุตำรวจ (ด้านหลัง)

          ชั้น 2 แบ่งเป็น

          - ห้องนิทรรศการ 2 จัดแสดงพระนิรันตราย (จำลอง)

          - ห้องนิทรรศการ 3 แสดงพระบรมฉายาลักษณ์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

          - ห้องนิทรรศการ 4 แสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชดำเนินทรงเปิดค่ายนเรศวร

          - ห้องนิทรรศการ 5 แสดงการจำลองห้องทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมาร ทั้งนี้ยังมีการเปิดให้เข้าชมอาคารกระจก ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์และบทบาทของตำรวจไทยตั้งแต่อดีตสมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน

          ที่อยู่ : 323 ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : วันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 282 5057, 09 7173 4441
          เว็บไซต์ : saranitet.police.go.th
          เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน

4. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้

          พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ สถานที่ท่องเที่ยวย่านดุสิตที่จะพาคุณไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจของดอกไม้ เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมดอกไม้ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ก่อตั้งขึ้นโดย คุณสกุล อินทกุล
เพื่อจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการจัดดอกไม้จากอดีตจนถึงปัจจุบันของประเทศไทย และทวีปเอเชีย รวมถึงงานดอกไม้สดและร่วมสมัยประเภทต่าง ๆ

          สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของที่นี่ก็คืออาคารจัดแสดง มีลักษณะเป็นบ้านโบราณสไตล์โคโลเนียลอายุราว 100 ปี ด้านในแบ่งออกเป็นห้องจัดนิทรรศการทั้งชั้น 1 และชั้น 2 รวม 7 ห้อง รอบ ๆ อาคารจัดเป็นสวนสวยสีเขียวสุดร่มรื่น มีศาลาริมสระน้ำอยู่บริเวณด้านหลังอาคาร

          และยังมี Café BOTANICA คาเฟ่เล็ก ๆ ที่จะให้คุณได้ดื่มด่ำกับชาอุ่น ๆ พร้อมกับขนมหวานหลากหลายชนิด ท่ามกลางบรรยากาศที่งดงามของการตกแต่งด้วยดอกไม้ไทยหลากสีสัน มีกลิ่นดอกไม้หอม ๆ
เพิ่มความผ่อนคลาย ดีต่อใจไม่เบาเหมือนกัน ใครจะนั่งชิลบริเวณริมระเบียงบ้านไม้ก็ได้ หรือจะนั่งบริเวณศาลาด้านหน้าก็มีบรรยากาศดีไม่น้อยหน้ากัน ขนมที่น่าสนใจ เช่น ชุดโฮมเมดสโคน, ชุดขนมไทยโบราณและขนมพื้นบ้านจากประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย, เยลลี่กุหลาบกับไอศกรีม และชีสเค้กญี่ปุ่น เป็นต้น   

          ที่อยู่ : 315 ถนนสามเสน ซอย 28 แยกองครักษ์ 13 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 0 2669 3633-4
          เว็บไซต์ : ww.floralmuseum.com
          เฟซบุ๊ก : The Museum of Floral Culture

5. ตลาดเทเวศร์

          แหล่งรวมความอร่อยอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ครบถ้วนไปด้วยร้านอาหารและร้านขนมหวาน พร้อมทั้งยังมีสินค้าอื่น ๆ ให้ได้ไปเดินช้อปปิ้งกันอีกเพียบ

          เมื่อมาถึงตลาดเทเวศร์จะพลาดไม่ได้กับการกินอาหารร้านดัง ใครที่ชอบกินข้าวซอยต้องมาลิ้มลองกันที่
"ร้านข้าวซอยแม่สุภาพ" เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี น้ำซุปเข้มข้นได้ใจ กินแกล้มกับผักเครื่องเคียงต่าง ๆ อร่อยแบบ
ต้นตำรับเมืองเหนือเลยทีเดียว

          ถ้าอยากกินประเภทข้าวแนะนำให้มาลิ้มลองข้าวมันไก่ที่ "ร้านมงคลชัย" เนื้อข้าวนิ่ม ไม่มันเกินไป
ทำให้ไม่เลี่ยน ตัวเนื้อไก่ก็แน่น พอได้กินกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้านก็ยิ่งอร่อย มีไก่ทอดและไก่ย่างให้เลือก
อิ่มอร่อยอีกต่างหาก ส่วนถ้าใครชอบประเภทก๋วยเตี๋ยว ขอแนะนำ "ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาลิ้มฮั่วเฮง" เป็นร้านเก่าแก่เปิดมายาวนานหลายสิบปี น้ำซุปอร่อยเข้มข้นกลิ่นหอมนุ่มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมเสิร์ฟมากับเส้นเหนียวนุ่ม ลูกชิ้นปลาเนื้อแน่นและเด้งดึ๋ง อีกทั้งเครื่องอื่น ๆ แบบเต็มชาม อร่อยแบบวางช้อนไม่ได้จริง ๆ

          และถ้าใครชอบกินขนมหวาน ห้ามพลาดเลยกับ "ชิฟฟ่อนเบเกอรี่" เนื้อชิฟฟ่อนนุ่มมาก กลิ่นหอมมาก
มีให้เลือก 3 รสชาติ คือใบเตย กาแฟ และช็อกโกแลต และยังมีแบบโรลกับบัตเตอร์เค้กให้เลือกกิน นอกจากนี้ก็
ยังมีร้านอร่อยอีกมากมาย เช่น กุ๊กชม, ร้านโสภณลูกชิ้นหมู, กิ้วเทเวศร์, ต้นหอม ผักชี, ข้าวต้มเชี่ยวชาญพานิช,
ผัดไทยเทเวศร์ 359, คุณดาวขนมเบื้องไทย, ราดหน้ายอดผัก (สูตร 40 ปี), ข้าวหมกไก่สุวิมล และปาท่องโก๋เสวย เป็นต้น


5 ที่กินย่านดุสิต

          ท่องเที่ยวย่านดุสิต ไหว้พระขอพร ชมพิพิธภัณฑ์ ชมวังเก่าสวย ๆ เดินเล่นเพลินใจไปกับสัตว์น้อยใหญ่
และถ่ายรูปเซลฟี่กันจนหนำใจแล้ว ท้องคงเริ่มหิวกันแล้วใช่ไหม ... ถึงเวลาไปลิ้มลองของอร่อย ๆ ในย่านนี้ ซึ่งมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกมากมาย แถมบางร้านยังอร่อยระดับตำนานอีกด้วย เราเลยคัด 5 ร้านอร่อยย่านดุสิต
มาแนะนำกัน

1. ครัววังวนา

          ครัววังวนา เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารบรรยากาศดีที่สุดของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ภายในสวนสัตว์ดุสิต บริเวณริมสระน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระที่นั่งอนันตสมาคมได้ด้วย ยิ่งถ้าเป็นช่วงเย็น บรรยากาศจะยิ่งโรแมนติก มีลมพัดเย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบ มีแสงไฟสีขาว สีส้มจากจุดต่าง ๆ สะท้อนลงน้ำระยิบระยับ สวยงามสุด ๆ


          ที่ร้านมีที่นั่งให้ลูกค้าได้เลือกสรรหลากหลายมุม มี 2 ชั้นค่ะ ใครอยากนั่งชิลริมสระน้ำชมวิวสวย ๆ ก็ได้ หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะก็มีห้องส่วนตัวไว้รับรอง เมนูอาหารก็ไม่น้อยหน้า จัดหนักจัดเต็มความอร่อยในทุกเมนู เมนูที่ห้ามพลาด
เช่น ปลากะพงวังวนา, ฉู่ฉี่ปูนิ่มผลไม้, ซีฟู้ดห่อหมกมะพร้าวอ่อน, ต้มยำทะเลมะพร้าวอ่อน, เต้าเจี้ยวหลน, ต้มยำปลากะพง, ข้าวตังแกงเนื้อ, กุ้งแช่น้ำปลา, ซี่โครงหมูอบ, ยำสามกรอบ, ผัดเผ็ดเห็ดกุ้ง, ขาหมูอบน้ำแดง, ทอดมันไข่เค็ม และเนื้อแดดเดียว เป็นต้น

          ที่อยู่ : สวนสัตว์ดุสิต ถนนพระรามที่ 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 0 2282 1491
          เฟซบุ๊ก : Wangwana Kitchen

2. กินข้าวบ้านเพื่อน


          บ้านไม้สองชั้นที่ถูกดัดแปลงทำเป็นร้านอาหารขนาดกะทัดรัด ตั้งอยู่ในซอยร่วมจิตต์ 3 ตกแต่งแบบเรียบง่าย ในบรรยากาศสุดอบอุ่น เหมือนกับนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านสมชื่อ ที่นี่มีเมนูอาหารหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น
ปูไข่ผัดพริกขี้หนู, ปลาทูต้มมะดัน, แกงเขียวหวานทะเล, ต้มแซ่บซี่โครงหมูอ่อน, ปลากะพงสองใจ และพิซซ่าโฮมเมดหน้าต่าง ๆ เป็นต้น

          ที่อยู่ : 201 ถนนพิชัย แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น. (ปิดวันเสาร์)
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 241 8531
          เฟซบุ๊ก : กินข้าวบ้านเพื่อน

3. ร้านข้าวซอยเชียงใหม่ สุโขทัยซอย 5


          ใครอยากกินอาหารเหนือแท้ ๆ รสชาติอร่อยล้ำ เราชวนไปร้านข้าวซอยเชียงใหม่ ในซอยสุโขทัย 5
เปิดมานานหลายปี การันตีความอร่อยได้จากผู้คนที่เดินเข้า-ออกร้านอย่างไม่ขาดสาย เมนูเด็ดที่อยากให้ลิ้มลอง
คงหนีไม่พ้นข้าวซอยสารพัดเนื้อ ทั้งข้าวซอยไก่, ข้าวซอยหมู, ข้าวซอยเนื้อ และข้าวซอยซี่โครงอ่อน
อ๊ะ ๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีขนมจีนไหหลำ, ข้าวมันไก่, หมูอบน้ำผึ้ง, เนื้ออบไหหลำ, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และก๋วยเตี๋ยวไก่อีกด้วย

          ที่อยู่ : 328/10 ซอยสุโขทัย 5 ถนนสุโขทัย แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 07.00-14.30 น. (ปิดวันอาทิตย์)
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 668 4497
          เฟซบุ๊ก : ร้านข้าวซอยเชียงใหม่ สุโขทัยซอย 5
 
4. Friend's Cafe

          Friend's Cafe เป็นร้านกาแฟและร้านอาหารเล็ก ๆ ในซอยสวนอ้อยกลาง ร้านมีสีขาวสะอาดตา
โดดเด่นด้วยป้ายชื่อร้านในยุค 50 ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปด้านในจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่น ตกแต่งโดย
เน้นโทนสีขาวในสไตล์วินเทจ เคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารจะอยู่ด้านหน้า มีโต๊ะให้เลือกนั่ง
หลากหลายมุม จะมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมาเป็นกลุ่มก็มีมุมสบาย ๆ ให้ได้นั่งชิล


          เครื่องดื่มที่น่าสนใจ เช่น Latte Aunchan, Chocolate Nomsod, Friend’s Coffee และ Strawberry Latte เป็นต้น ส่วนเมนูอาหารก็มีให้เลือกสรรมากมาย เช่น ข้าวกุ้งผัดสะตอ, ข้าวกุ้งผัดขมิ้น, ข้าวไข่ข้นกุ้ง, สปาเกตตีเส้นดำต้มยำทะเล, สปาเกตตีแซลมอนแซ่บ, ข้าวผัดกุ้งพริกขี้หนู เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ซอยสวนอ้อยซอยกลาง ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
          โทรศัพท์ : 09 1964 4669, 08 4542 2414
          เฟซบุ๊ก :  Friend's Cafe

5. สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน


          สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน เป็นร้านอาหารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่นอกจากจะบรรยากาศดีเริดแล้ว รสชาติอาหารก็ยังอร่อยจนเป็นที่ติดอกติดใจของชาวกรุงเทพฯ ตัวร้านจะอยู่ทางด้านหลังของวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
จอดรถไว้ที่วัดแล้วเลาะมาทางอาคารเทวราชธรรมสถิต เดินเข้าซอยเล็ก ๆ ด้านข้างมาทางด้านหลังก็จะเจอกับ
บ้านไม้สีขาวติดริมแม่น้ำ การตกแต่งเป็นแบบเรียบง่าย มีภาพวาดลวดลายไทยอยู่ในบางมุม ออกแบบให้สามารถมองเห็นวิวรอบด้าน ที่สำคัญคือสามารถมองเห็นสะพานพระราม 8 ได้สวยงามสุด ๆ ลูกค้าจะได้กินลมชมวิวสวย ๆ
ริมสองฟากฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปพร้อมกับการลิ้มรสอาหารไทยสุดอร่อย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ไม่ควรพลาดของกรุงเทพฯ จริง ๆ

          ในส่วนของเมนูอาหารมีให้เลือกหลากหลายเมนู เช่น กุ้งแม่น้ำผัดพริกไทยดำ, กุ้งแม่น้ำผัดพริกเกลือ,
กุ้งแม่น้ำเผา, กุ้งแช่น้ำปลาวาซาบิ, กุ้งซอสมะขาม, เส้นหมี่ผัดเบคอนไข่เค็มโบราณ, ยำตะไคร้, ต้มโคล้งปลาสลิด
เห็ดฟาง, เมี่ยงก๋วยเตี๋ยว, ยำคุณแพท, เมี่ยงคะน้า, หมกปลากรายสมุนไพร, แกงเหลืองกุ้งใหญ่, สะตอผัดกุ้ง
และคั่วกลิ้งหมู เป็นต้น
ตั๊กออแกไนท์ดุสิตรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคดุสิต
นางรำดุสิตเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคดุสิต
ดุสิตรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคดุสิต
รําบวงสรวงพญานาคดุสิต
ฟ้อนบูชาพญานาคดุสิต
รําบวงสรวงพญานาคดุสิต



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 30