สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จักประเภทของกระจก เลือกให้ใช้ถูกวิธีและประโยชน์ในการใช้งาน  (อ่าน 2090 ครั้ง)

admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 831
    • ดูรายละเอียด
รู้จักประเภทของกระจก เลือกให้ใช้ถูกวิธีและประโยชน์ในการใช้งาน
‘กระจก’ วัสดุที่พบเจอกันบ่อยโดยเฉพาะกับการนำมาใช้งานในโครงการคอนโดมิเนียมแทบจะทุกส่วน แต่รู้หรือไม่ว่ากระจกนั้นมีรูปแบบและคุณสมบัติที่ต่างกันอกไปในกระจกแต่ละประเภทและความเหมาะสมต่อการมช้งานด้วย เข้นการใช้งานในบ้านและคอนโด การใช้กระจกในสำนักงาน หรือใช้นอกสถานที่ วันนี้ ESTOPOLIS จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับกระจกแบบต่างๆให้คุณผู้อ่านได้อ่านกัน

ประเภทของกระจก
กระจกที่เราจะมาพูดถึงนั้นแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือกระจกธรรมดา กระจกกึ่งนิรภัย กระจกนิรภัย กระจกลามิเนต และกระจกฉนวนกันความร้อน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสมแตกต่างกัน

กระจกธรรมดา
กระจกธรรมดา หรือFloat Glass เป็นกระจกที่ใช้งานกันทั่วไป และแย่งออกได้เป็นอัก 2 ประเภทคือ
1.กระจกใส
คือกระจกที่สามารถมองทะลุผ่านตัวกระจกไปได้ โปร่งแสง และให้ภาพสะท้อนที่สมบูรณ์ สามารถมองเห็นได้จากทั้งภายในและภายนอก มีค่าตัดแสงอยู่ที่ประมาณ 8% ส่วนมากจะหนา 12 มิลลิเมตร ค่าการตัดแสงจะเพิ่มขึ้นตามความหนาของกระจก กระจกใสจะไม่ดูดความร้อน แม้ว่าต้องอยู่ด้านนอกอาคารก็ทนอุณหภูมิอากาศได้ดี

2.กระจกสี
กระจกสีเกิดจากการผสมโลหะออกไซด์เข้าไปในขั้นตอนการผลิตทำให้กระจกเกิดสีสัน แต่กระจกสีจะต่างจากกระจกใสตรงที่ดูดความร้อน เพราะการเติมโลหะออกไซด์ลงไป ทำให้ดูดซึมความร้อนเข้ามาภายในอาคารได้มาก แต่กลับกัน กระจกสีช่วยในการกรองแสงหรือลดแสงที่จะเข้ามาได้ดีกว่ากระจกใส ช่วยลดความจ้าของแสงได้ ด้วยความที่กระจกสีสามารถเก็บความร้อนได้ดี จึงควรติดไว้ในที่ที่มีการระบายอากาศ ไม่ควรเอาอะไรไปปิดทับหรือวางใกล้กระจก เพราะจะทำให้กระจกไม่สามารถระบายความร้อนและอาจแตกร้าวได้ง่าย

กระจกกึ่งนิรภัย
กระจกกึ่งนิรภัย หรือ Heat Strengthened Glass
เป็นกระจกที่ผลิตจากกรรมวิธีที่ทันสมัย ด้วยการทำกระจกธรรมดามาผ่านกระบวนการอบความร้อนที่อุณหภูมิสูงประมาณ 700 องศาเซลเซียส แล้วก็ค่อยๆทำให้เนื้อกระตกเย็นลงอย่างช้าๆด้วยการเป่าลมไปที่กระจกทั้ง 2 ด้านทำให้กระจกชนิดนี้มีคุณสมบัติแข็งแกร่งกว่ากระจกธรรมดาถึง 2 เท่า ฝกระจกกึ่งนิรภัยจะสามารถรับแรงอัดของลมได้ดีว่ากระจกธรรมดาที่มีความหนาเท่ากัน นิยมนำไปใช้ในการก่อสร้างกับอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียม เพื่อป้องกันการแตกของกระจกที่มีสาเหตุจากความร้อนสูงภายนอกอาคาร

กระจกนิรภัย
กระจกนิรภัย หรือ Tempered Glass
เป็นกระจกที่นิยมใช้กันมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะเวลาแตกจะกลายเป็นเม็ดเล็กๆคล้ายเม็ดข้าวโพด และไม่มีความคม จึงทำให้เกิดอันตรายและบาดเจ็บได้น้อยกว่ากระจกธรรมดา นอกจากนี้กระจกนิรภัยหรือเทมเปอร์กลาส ยังมีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาถึง 5 เท่า เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพที่เสี่ยงต่อการแตกร้าวง่าย เช่น อากาศร้อนจัดหรือหนาวจัด
จะเห็นว่าปัจจุบันนิยมนำกระจกนิรภัยมาใช้ในการกั้นพื้นที่อาบน้ำหนือ Shower Box ในห้องน้ำคอนโด เพราะในกรณีที่อาบน้ำร้อน กระจกก็จะเกิดเป็นฝ้าเนื่องจากความร้อนในบริเวณดังกล่าว และความเย็นในห้องน้ำหรือด้านนอกห้องน้ำเข้ามาปะทะ อาจทำให้กระจกแตกร้าวได้ในกรณีการใช้กระจกปกติและอาจเกิดอันตราย แต่กระจกนิรภัยช่วยลดปัญหาเหล่านี้ไปได้เพราะมีความแข็งแกร่งสูง

กระจกลามิเนต
คือการนำกระจกนิรภัยหลายๆชั้น ตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปมาประกบกันโดยมรการติดแผ่นฟิล์ม PVB ที่มีคุณสมบัติความเหนียวคั่นไว้ตรงกลาง ทำหน้าที่ยึดแผ่นกระจกให้ติดกัน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงและความปลอดภัยสูง หรือได้รับแรงเลื่อน แรงปะทะบ่อยๆ คุณสมบัติอีกอย่างของ Laminated Glass คือ สามารถลดแสง UV และเสียงรบกวนได้ดี เหมาะกับการนำไปใช้งานเพื่อความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย เช่นการใช้เพื่อกั้นห้องที่ไม่ต้องการให้เกิดเสียงทะลุทั้งเข้าและออก

กระจกฉนวนกันความร้อน
กระจกฉนวนความร้อนเป็นกระจกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ คล้ายๆกับการทำกระจกกึ่งนิรภัย คือการนำกระจก 2 แผ่นมาประกบกัน แล้วนำเฟรมอลูมิเนียมคั่นกลาง กระจกชนิดนี้จะช่วยในด้านการประหยัดพบังงานและกันความร้อนได้ดี ทั้งความร้อนระหว่างภายในและภายนอกอาคาร ป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากด้ายนอก และป้องกันเสียงรบกวนจากด้านนอกได้ดี
ข้อดีอีกอย่างของกระจกฉนวนความร้อนคือ สามารถช่วยประหยัดไฟได้ทางอ้อม เช่นการนำไปใช้มนอาคารสำนักงาน การที่กระจกสามารถลดการเข้ามาของความร้อนภายนอกอาคาร ก็ทำให้เครื่องปรับอากาศด้านในไม่ต้องทำงานหนัก หรือต้องลดอุณหภูมิเพื่อทำความเย็นเพิ่มไปอีก



ติดต่อสอบถามเรา




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2021, 02:50:53 PM โดย admin »