This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Messages - admin
หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 30
212
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 08:50:45 PM »
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ บรรยากาศดี รายล้อมด้วยต้นไม้
1. Natura Garden Cafe
เริ่มกันที่คาเฟ่ย่านฝั่งธนบุรีที่ตั้งอยู่ภายในสวนลิ้นจี่อายุมากกว่า 100 ปี ของ “ภูมิใจการ์เด้น” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ท่ามกลางความร่มรื่นของธรรมชาติที่มีอากาศบริสุทธิ์ ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่มาสร้างสรรค์เป็นบ้านสวนริมคลองถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ รอบ ๆ มีแคร่ไม้ไผ่ให้นั่งชิล ๆ รับลมธรรมชาติ สะท้อนภูมิปัญญาชาวสวนดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี ที่มีสะพานไม้เล็ก ๆ เป็นประตูสู่พื้นที่สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ ในส่วนของเครื่องดื่มและอาหารการกินนั้น ขอแนะนำเมนูอย่างอัญชันลาเต้ มอคค่าเย็น ตะลิงปลิงแช่อิ่มโซดา และน้ำลิ้นจี่ที่กินคู่กับเค้กชาไทยหรือเค้กมะพร้าวก็เข้ากันดี มาที่อาหารว่างก็มีให้เลือกชิมมากมาย เช่น เมี่ยงตะลิงปลิงและขนมเบื้องญวน เป็นต้น เอาเป็นว่าหากมีโอกาสอย่าพลาดไปจิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติที่นี่กันนะ
ที่อยู่ : หมู่ 6 ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น. (หยุดวันอังคาร)
เบอร์โทรศัพท์ : 081 733 9812
เฟซบุ๊ก : Natura Garden Cafe
2. หมอกคาเฟ่
ร้านกาแฟในสวนสวยท่ามกลางธรรมชาติสุดร่มรื่น มีลำธารเล็ก ๆ บรรยากาศไม่แออัด โล่ง โปร่ง สบายตา ภายในร้านตกแต่งด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี มีโซนให้เลือกนั่งหลากหลาย ทั้งในห้องแอร์ เอาต์ดอร์ริมน้ำ และในสวน เป็นต้น ส่วนเครื่องดื่มที่น่าลิ้มลอง เช่น อเมริกาโน่น้ำส้ม, น้ำส้มผสมสตรอว์เบอร์รีโซดา, ชาเย็น และเครื่องดื่มอื่น ๆ มากมาย รวมถึงมีอาหารจานเดียวพร้อมรอเสิร์ฟความอร่อย ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยกุ้งแม่น้ำ, สเต๊กแซลมอน, สเต๊กหมูคุโรบูตะ หรือสปาเกตตีเบคอนชิลลี่ เป็นต้น
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น. (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทรศัพท์ : 094 639 2364
เฟซบุ๊ก : หมอก คาเฟ่
3. ร้านปฐม
ร้านกาแฟในสวนย่านทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49/6 ที่นี่เป็นเหมือนพื้นที่พักผ่อนสบาย ๆ เพราะตัวร้านออกแบบมาในลักษณะของเรือนกระจก ถึงจะนั่งอยู่โซนด้านในก็สามารถพักสายตาไปกับต้นไม้สีเขียว ๆ ภายนอกได้ ตัวร้านตกแต่งด้วยกระจกใส ที่รอบล้อมด้วยสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงากับลูกค้าได้นั่งชิลกันแบบเพลิน ๆ โดยทางร้านมีเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกมากมาย อาหารปรุงสดใหม่ทุกวัน พลาดไม่ได้กับกาแฟรสชาติหอมละมุน และน้ำเครื่องดื่มสมุนไพรต่าง ๆ เช่น น้ำฝรั่ง, น้ำมะพร้าว และน้ำมะขาม ที่ลูกค้าสามารถเลือกจากตู้แล้วดื่มกันสด ๆ เดี๋ยวนั้นเลย
ที่อยู่ : 9/2 ซอยสุขุมวิท 49/6 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.30-18.00 (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทรศัพท์ : 02 084 8649
เฟซบุ๊ก : Patom
4. The 66 Cottage
คาเฟ่ในสวนสวนตกแต่งสไตล์อังกฤษผสมคอตเทจขนาดกะทัดรัด ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 66 ล้อมรอบต้นไม้และสนามหญ้าเขียวขจี โล่ง โปร่ง เหมาะสำหรับไปนั่งพักผ่อนชิล ๆ เพลิดเพลินไปกับอรรถรสของเครื่องดื่มและบรรยากาศดี ๆ เติมพลังใจให้ตัวเอง ที่นี่มีบริการทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่โฮมเมดอบใหม่ทุกวัน เช่น Iced Pink Latte (กาแฟนมเย็น), English Toffee Latte (กาแฟลาเต้ผสมไซรัปอิงลิชทอฟฟี่) กินกับขนมอร่อย ๆ อย่างเค้กช็อกโกแลต, เค้กมะพร้าว, เค้กส้มไส้ครีมชีส หรือจะเป็นเมนูอาหารอย่างพิซซ่าแป้งบางโฮลวีต, ข้าวซี่โครงหมูอบ และสเต๊กอกไก่พริกไทยดำ เป็นต้น
ที่อยู่ : 66 ซอยสุขุมวิท 66 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.30-19.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 086 895 0202
เฟซบุ๊ก : The 66 Cottage
5. Little Hideout
ร้านน่านั่งย่านตลิ่งชัน บรรยากาศร่มรื่นอบอุ่นสบาย ๆ เหมือนได้นั่งกินขนมอร่อย ๆ ในสวนหลังบ้าน ตกแต่งโดยรวมออกมาในรูปแบบ Vintage Style มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีขาวและสีน้ำตาล ประดับด้วยโคมไฟที่ช่วยเพิ่มดีเทลการตกแต่งให้ดูเก๋ไก๋มากกว่าเดิม จุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอความใส่ใจและวัตถุดิบนำเข้าต่าง ๆ ที่เป็นพรีเมียมจริง ๆ รวมไปถึงมีเมนูขนมเค้กให้เลือกชิมหลากหลาย โดยเฉพาะเค้กสไตล์ฝรั่งเศสรสละมุน ที่มีจำหน่ายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดพิเศษเท่านั้น การได้ดื่มกาแฟเคล้าขนมเค้กอร่อย ๆ เป็นอะไรที่ลงตัวสุด ๆ ใครที่เป็นสายหวานพลาดไม่ได้นะ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : 172 ถนนฉิมพลี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-19.00 น. (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทรศัพท์ : 081 821 8795
เฟซบุ๊ก : Little Hideout
6. The Hey! 53 Coffee & Kitchen
คาเฟ่ในสวน เปิดโล่ง ย่านพระราม 9 แวดล้อมด้วยความร่มรื่นของสวนสีเขียวขจี เลือกนั่งได้ทั้งในตัวร้านที่เป็นห้องแอร์มีทั้งหมด 2 ชั้น และภายนอกร้านรับลมธรรมชาติ สามารถเอาโน้ตบุ๊กมานั่งทำงานได้ มีอินเทอร์เน็ตฟรี บริการทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม อาหารคาว เช่น สปาเกตตี ข้าวกะเพรากุ้ง สลัด สเต๊ก แซนด์วิช เป็นต้น สำหรับขนมก็มี เช่น มาการอง บลูเบอร์รีชีสพาย เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม บานอฟฟี่ เป็นต้น ส่วนเครื่องดื่มมีกาแฟ โดยมีเมล็ดกาแฟคั่วใหม่ทั้งเมล็ดไทยและเมล็ดต่างประเทศให้เลือก นอกจากนี้ยังมีชา โกโก้ สมูทตี้ และอิตาเลียนโซดา เป็นต้น
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : ซอยพระรามเก้า 53 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 09.00-22.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 09.00-23.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 08 0274 4736
เฟซบุ๊ก : Hey! Coffee
7. Tell Café
ร้านกาแฟสไตล์มินิมอลย่านรามคำแหง โล่ง โปร่ง บรรยากาศอบอุ่นเหมือนไปนั่งชิลบ้านเพื่อน ด้านหลังร้านมีพื้นที่สีเขียว รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ให้ได้สั่งดื่มด่ำกับธรรมชาติเพลิน ๆ หรือจะไปนั่งมองพระอาทิตย์ตกบนดาดฟ้าก็ได้ไม่ว่ากัน ที่นี่ครบครันทั้งเครื่องดื่มและขนมอร่อย ๆ โดยเฉพาะกาแฟสูตรเฉพาะของทางร้านที่ Blend เอง, มัจฉะ/โฮจิฉะ ที่ส่งตรงมาจากเมืองมัตสึเอะ ประเทศญี่ปุ่น, โกโก้แท้จากเบลเยียม รสชาติละมุนลิ้น หรือจะเป็นวาฟเฟิลสูตรพิเศษ กรอบนอก นุ่มใน พร้อมกับไอศครีมโฮมเมดและซอสคาราเมลหอม ๆ รวมถึงมีเมนูอื่น ๆ ที่ทางร้านตั้งใจคัดสรรมามอบให้กับทุกคนที่ได้ไปเยือน
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : 41 ซอยราษฎร์พัฒนา 15 เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 07.30-18.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-19.30 น. (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทรศัพท์ : 062 569 2545, 092 263 9254
เฟซบุ๊ก : TELL Cafe
8. เดอะทรีเฮาส์ หนองจอก
ร้านอาหารและร้านกาแฟในสวนบรรยากาศดี นั่งเพลิน ร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และที่พิเศษมากกว่านั้น เพราะมีบ้านต้นไม้ไว้ให้ลูกค้าได้ขึ้นไปนั่งกินอาหารได้ หรือจะนั่งริมคลองเพลิน ๆ ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ นอกจากเมนูเครื่องดื่มที่มีให้เลือกทั้งกาแฟและอื่น ๆ มากมายแล้ว ยังมีอาหารและของหวานแสนอร่อยไว้คอยจัดเสิร์ฟด้วยเช่นกัน มีทั้งอาหารจานเดียว, ก๋วยเตี๋ยว, ยำ หรือจะเป็นพวกแกงต่าง ๆ ล้วนอร่อยคุ้มค่าทุกเมนู
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : 20 ถนนมิตรไมตรี แขวงคู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.30-20.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 089 810 7576
เฟซบุ๊ก : The Treehouse Nongchok
9. นิยาย
ร้านกาแฟอารมณ์อบอุ่นบรรยากาศในสวน ตกแต่งสไตล์วินเทจ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในบ้านแสนสงบและมีต้นไม้รายล้อมร่มเย็น มีบริการอาหารจานเดียว เช่น สปาเกตตีซอสกุ้ง ข้าวหมูอบน้ำผึ้ง แกงเขียวหวานโรตี และเครื่องดื่มง่าย ๆ เช่น คาราเมลมัคคิอาโต้เย็น ลาเต้เย็น ชาเขียวเย็น นมเย็นชมพู ช็อกโกแลตเย็น และมีขนมเค้กโฮมเมด เช่น บานอฟฟี่ พายฟักทอง เค้กแมคคาเดเมีย เค้กมะพร้าว เป็นต้น
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : ซอยทุ่งมังกร 8 ถนนทุ่งมังกร แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.30-19.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.30 น. (หยุดวันพุธ)
เบอร์โทรศัพท์ : 063 443 1961
เฟซบุ๊ก : นิยาย
10. Flowerpot Café
มาต่อกันที่ Flowerpot Café ร้านกาแฟบรรยากาศสบาย ๆ ในสวนต้นไม้ ร่มรื่นด้วยสีเขียวเย็นตา พร้อมขนมสไตล์การ์เด้นโฮมเมด ทำเองทุกเมนู เหมือนกินอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ โซนในร้าน ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น เผยให้เห็นผนังอิฐสีขาว ส่วนใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ อยากนั่งจิบเครื่องดื่มอร่อย ๆ ในสวน ก็ทำได้ตามอัธยาศัย พลาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่มแนะนำอย่าง Milkshake สั่งคู่กับของหวานอย่างเค้กกระถาง สีสันชวนน่ากิน รสชาติความหวานตัดเข้ากันอย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่คุณจะได้รับรู้ถึงบรรยากาศความหอมหวานที่ลอยอบอวลตลอดทั้งวัน
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : 269/2 ซอยรามคำแหง 21 (แยก 10) ถนนรามคำแหง แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 099 469 5916
เฟซบุ๊ก : FlowerPot Cafe
11. Daydream Believer
ร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่งในซอยพหลโยธิน 12 ตกแต่งด้วยบรรยากาศร้านแสนอบอุ่นในสวนสวยสไตล์อังกฤษ ที่แฝงด้วยสไตล์มินิมอล เน้นโทนสีขาว ดูโล่ง โปร่ง และสบายตา เพื่อให้ทุกคนได้ไปพักผ่อนและอิ่มท้องกันได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงยังมีพื้นที่สำหรับคนรักงานอาร์ตได้นั่งทำงานกันแบบชิล ๆ ที่ร้านพร้อมเสิร์ฟเมนูอาหาร เบเกอรี่โฮมเมด และเครื่องดื่ม มีเชฟจัดมาให้อย่างไม่ยั้ง ทั้งไทยและนานาชาติ ลองหาวันหยุดว่าง ๆ แล้วแวะไปนั่งชิล ๆ จิบกาแฟรสชาติเยี่ยมกันดูสักแก้วนะ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : พหลโยธินซอย 12 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 062 569 7946
เฟซบุ๊ก : Daydream Believer
12. Hiddenwoods
ร้านกาแฟโลเคชั่นกรีน ๆ ใกล้กรุงเทพฯ ที่น่าหลงใหล เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ ภายในตัวร้านเป็นห้องเรือนกระจก โปร่งโล่งสบาย เหมาะจะไปพักผ่อนชาร์จแบตฯ เติมพลังกายพลังใจ ทางด้านเมนูเครื่องดื่มจะมีทั้งชา กาแฟ และน้ำผลไม้ หรือช็อกโกแลตคาราเมลสุดเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีอาหารจานเดียว เช่น เส้นใหญ่เบคอนผัดพริกแห้ง สปาเกตตีกุ้งและไข่กุ้ง เป็นต้น รวมทั้งยังมีเบเกอรี่ เช่น ชีสเค้ก เรดเวลเวทบราวนี่ เป็นต้น
ที่อยู่ : ซอยเพชรหึงษ์ 26 ตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ เวลา 10.30-18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 090 974 8234
เฟซบุ๊ก : Hiddenwoods
13. สวนกู เดอะคาเฟ่ by กู โรตีชาชัก
ร้านสุดท้ายขอออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ สักนิด เพื่อไปเยือนร้านแฟรนไชน์ของ กู โรตีชาชัก กันสักหน่อย เป็นคาเฟ่ลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่กลางร่องสวนในอำเภอเมืองนนทบุรี แวดล้อมด้วยธรรมชาติเขียวขจี เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะไปพักผ่อนชิล ๆ ในวันว่าง เพราะได้ทั้งนั่งห้อยขาบริเวณซุ้มไม้ไผ่ สูดอากาศบริสุทธิ์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศดี ๆ แล้วยังได้จิบชา-กาแฟ กินโรตีและอาหารอร่อยหลากหลายเมนูไปพร้อมกัน มีเมนูแนะนำ เช่น ชาชัก (ชาไทย), กาแฟสด, น้ำเสาวรสโซดา, พัฟคั่วกลิ้ง, โรตีชีส, โรตีตูมตาม และโรตีทิชชู่ เป็นต้น แต่ถ้าต้องการอาหารคาวที่นี่ก็มีเสิร์ฟ ไม่ว่าจะเป็นโรตี+แกงเขียวหวาน, สปาเกตตีเส้นดำทะเล, ข้าวซอยสวนกู และปีกไก่ทอดเกลือ เป็นต้น กินข้าวกลางต้นไม้สีเขียวมองแล้วสบายตาสบายใจช่างเป็นอะไรที่ดีต่อใจจริง ๆ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ร้านกาแฟในสวน กรุงเทพฯ
ที่อยู่ : 8 ซอย 8 ตำบลบางกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดวันจันทร์)
เบอร์โทรศัพท์ : 096 775 5553
เฟซบุ๊ก : สวนกู เดอะคาเฟ่
ตั๊กออแกไนท์วังทองหลาง รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาควังทองหลาง
นางรำวังทองหลางเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาควังทองหลาง
วังทองหลางรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาควังทองหลาง
รําบวงสรวงพญานาควังทองหลาง
ฟ้อนบูชาพญานาควังทองหลาง
รําบวงสรวงพญานาควังทองหลาง
ติดต่อสอบถามเรา
213
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 08:13:20 PM »
นั่งชิล กินอาหารเพลิน ๆ แถวลาดพร้าว 71
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ดูเหมือนว่า ซอยลาดพร้าว 71 จะกลายเป็นแหล่งแฮงเอ้าท์แห่งใหม่ ที่ได้รับความนิยมในระยะเวลาอันรวดเร็วซะแล้ว เพราะมีร้านนั่งชิล ๆ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ พูดคุยเพลิน ๆ กินอาหารอร่อยเคล้าเสียงดนตรีเพราะ ๆ เพียบ ก็แหม...อยู่ใกล้ใจกลางเมือง แถมยังเดินทางสะดวกสบาย (รถอาจติดไปนิด อิอิ) หนุ่ม ๆ นักดื่มมีหรือจะพลาด แต่จะมีร้านไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย
ร้านเด็กเลี้ยงแกะ ฟาร์ม & เรสเตอรองท์
ร้านเด็กเลี้ยงแกะ ฟาร์ม & เรสเตอรองท์
ร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ มีฝูงแกะให้มองเพลิน ๆ ส่วนการตกแต่งนั้น เจ้าของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากการไปเที่ยวพักผ่อนรีสอร์ทที่สวนผึ้ง จนหยิบเอามาตกแต่งร้านให้มีกลิ่นอายความเป็นฟาร์มนิด ๆ โดยมีทั้งโซน indoor และ outdoor ให้เลือกนั่งตามใจชอบ หรือใครอยากโชว์พลังเสียงที่นี่ก็มีห้องคาราโอเกะบริการด้วยนะ แหม...มันช่างเหมาะสำหรับนัดเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้สังสรรค์ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ พร้อมรับประทานอาหารเคล้าเสียงดนตรีสดเพราะ ๆ ทุกวัน สำหรับอาหารที่นี่อร่อย ราคาไม่แพง เน้นเสิร์ฟอาหารไทยรสจัด แต่ก็มีบาร์บีคิวปิ้งร้อน ๆ และอาหารญี่ปุ่นหลากเมนูให้เลือกอร่อยอีกด้วย
ที่ตั้ง : 130 ซอยลาดพร้าว 71 (โชคชัย 4 ซอย 6) แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 01.00 น.
โทรศัพท์ : 08 3888 8765
เว็บไซต์ : facebook เด็กเลี้ยงแกะ ฟารม์&เรสเตอร์รอง
ร้านปลาทูแช็ค
ร้านปลาทูแช็ค
ใครชอบกินปลาทูแต่ไม่อยากไปไกลถึงแม่กลอง ต้องไปที่ ร้านปลาทูแช็ค เพราะที่นี่มีเมนูปลาทูหลากหลายให้เลือกชิม เช่น เมี่ยงปลาทู, ปลาทูต้มมะนาว, ไหลบัวต้มกะทิปลาทู และปลาทูย่างซีอิ๊ว ฯลฯ นอกจากเมนูปลาทูอร่อย ๆ แล้ว ยังมีเมนูอื่น ๆ ให้เลือกชิมเพียบ ขอบอกว่าจัดจ้านครบทุกรสชาติจริง ๆ นอกจากนี้ ยังร่มรื่นเพราะปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ รวมถึงตกแต่งร้านออกแนวเรทโทร และเน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้สุดคลาสสิค โดดเด่นด้วยผ้าปูโต๊ะลายไทยสวย ๆ ที่สะท้อนแสงไฟเหลืองนวลมองแล้วสบายตา อีกทั้งบรรยากาศยังมีมนต์เสน่ห์ของวันวานให้สัมผัส เพราะเน้นเปิดเพลงเก่า ๆ เหมาะไปนั่งฟังดนดรีสด จิบเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ แถมยังเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ในหมู่ศิลปิน ทั้งภาพยนต์ ดนตรี และถ่ายภาพ
ที่ตั้ง : 45/109 ซอยลาดพร้าว 71 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2539 5035, 08 9770 3343
เว็บไซต์ : facebook PlatuShack by ช่อฟ้า 089-770-3343
ร้านหัวหิน
ร้านหัวหิน
ใครที่อยากนั่งเพลิน ๆ ริมชายหาด กินดื่มรับลมเย็น ๆ ขอแนะนำให้ไป "ร้านหัวหิน" เพราะที่นี่ยกเอาบรรยากาศชายทะเลมาไว้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสัมผัสกลิ่นอายทะเลแต่ไม่อยากขับรถไปไกล แถมยังมีอาหารอาหารไทยและนานาชาติให้เลือกชิมมากมาย โดยเฉพาะซีฟู้ดที่มีน้ำจิ้มเด็ด ๆ
บ้านไม้สองชั้นสีขาวตั้งตะหง่านอยู่ท่ามกลางพื้นทราย ทางโรยกรวด สระว่ายน้ำแบบโบราณ ที่มีเก้าอี้ผ้าใบ ร่มสีขาว รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นสีขาว แถมยังสร้างบรรยากาศด้วยการประดับตกแต่งรูปถ่ายเกี่ยวกับทะเลหัวหินในยุคเก่าเอาไว้ อีกทั้งมีโซนให้เลือกนั่งมากมาย ทั้งริมสระว่ายน้ำ, ลานโล่งหลังร้านที่มีทรายมาโรยให้เหมือนกับนั่งอยู่ริมชายหาด เงียบสงบเป็นส่วนตัว และโซนห้องแอร์ด้านในตัวบ้าน นอกจากนี้ ยังมีดนตรีสดฟังสบาย ๆ บรรเลงให้ฟังทุกวัน
ที่ตั้ง : 31 ซอยลาดพร้าว 71 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ (จากปากซอยลาดพร้าว 71 ประมาณ 100 เมตร ร้านหัวหินอยู่ทางด้านซ้ายมือ)
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2514 2422
เว็บไซต์ : facebook Hua Hin Ladprao 71
ร้านเบากบาล
ร้านเบากบาล
ร้านอาหารกึ่งผับบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง เหมาะเป็นที่พักผ่อนสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหลังเลิกงาน ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ที่นี่ตกแต่งร้านแนวคันทรี มีกลิ่นอายของความเก่า ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งร้าน ส่วนรสชาติอาหารก็อร่อยจัดจ้าน แต่ที่ต้องสั่ง คือ ต้มแซ่บเอ็นเนื้อ, ยำยอดคะน้า และไข่ตุ๋นต้มยำ เป็นต้น อะ ๆ ขอบอกนิดนึงว่าถึงชื่อร้านจะเบากบาล แต่ขากลับอาจหนักกบาลก็ได้นะ
ที่ตั้ง : ซอยลาดพร้าว 71 (ซอยนาคนิวาส 43) แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-01.00 น.
โทรศัพท์ : 08 0618 1884
เว็บไซต์ : facebook เบากบาล
ร้านอากาโปเซ
ร้านอากาโปเซ
วันศุกร์แห่งชาติใครอยากหาอะไรขม ๆ เย็น ๆ จิบสักนิด ต้องแวะ “ร้านอากาโปเซ” ร้านอาหารบรรยากาศคึกคักตลอดคืน มีดนตรีสดเล่นให้ฟังเพลิน ๆ มีโต๊ะพลูให้แทงกันมันส์ ๆ โดยแบ่งเป็น 2 โซน ให้เลือกนั่ง ทั้งโซนห้องแอร์เย็น ๆ และโซนด้านนอกรับลมสบาย ๆ และหนุ่ม ๆ ที่อยากเซอร์ไพรส์แฟนก็ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีโต๊ะคู่รักไว้บริการด้วยนะ ซึ่งเมื่อมาเป็นคู่รัก (ไม่ว่าจะรักแบบไหน) เค้าจะจัดโต๊ะพิเศษแถมแสนโรแมนติกไว้ให้ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย ส่วนเรื่องอาหารก็มีให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยรสเด็ด อาหารญี่ปุ่น และอาหารกินเล่นหรือกับแกล้ม
ที่ตั้ง : ซอยลาดพร้าว 71 (ปากซอยนาคนิวาส 27) แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด - ปิด : 17.30 - 02.30 น.
โทรศัพท์ : 08 4426 6366
เว็บไซต์ : facebook ร้านนั่งชิวๆ อากาโปเซ
เนิร์ดคลับ Bar & Restaurant
เนิร์ดคลับ Bar & Restaurant
ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่แสนจะอบอุ่น เพราะมีพีอาร์สาวสวย อัธยาศัยดี คุยเก่งมาก มาคอยต้อนรับคุณอยู่ตลอดคืน แถมสาวแต่ละคนยังแต่งตัวเซ็กซี่และใส่แว่นตรงตามคอนเซ็ปท์ชื่อร้านเป๊ะ! ส่วนการตกแต่งร้านก็สบาย ๆ เน้นความโล่ง โปร่ง นั่งชิล ๆ กินเพลิน ๆ ฟังดนตรีสดเพราะ ๆ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้เก๋ ๆ ซึ่งมีทั้งโซนห้องแอร์และด้านนอกให้เลือกนั่งตามความชอบ อีกทั้งยังมีอาหารหลากหลายเมนูให้เลือกชม เช่น ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว, ปลากระพงทอดน้ำปลา และปีกกลางไก่ย่างเขียวหวาน ฯลฯ
ที่ตั้ง : ซอยลาดพร้าว 71 (ซอยนาคนิวาส 
แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด - ปิด : 19.00 - 02.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1552 2283
เว็บไซต์ : facebook เนิร์ด NERD, Bar & Restaurant
ระรื่น Music & Restaurant
ระรื่น Music & Restaurant
ไปนั่งฟังเพลงโดนใจ เชียร์บอลมันส์ ๆ จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ กินอาหารรสเยี่ยมกันที่ ระรื่น Music & Restaurant ร้านอาหารกึ่งผับบรรยากาศดี ๆ ภายในร่มรื่นด้วยต้นไม้และสนามหญ้าโดยรอบ ประหนึ่งเหมือนนั่งปาร์ตี้กับเพื่อนอยู่หน้าบ้าน หรือถ้าไม่อยากนั่งตากลมก็เลือกโซนใต้หลังคา ที่มีพัดลมประจำตัวให้พร้อม แถมยังมีพนักงานสาวสวยในยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์ขาสั้นสุดเซ็กซี่คอยบริการอยู่ ส่วนเมนูอาหารที่แนะนำ เช่น ต้มซุปเปอร์ขาไก่, หมูมะนาว, ทะเลผัดผงกะหรี่, ลาบหมูทอด, ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน, ปลาดิบรวม และปลาซาบะย่างซีอิ้ว ฯลฯ
ที่ตั้ง : ซอยลาดพร้าว71 (ปากซอยนาคนิวาส 3) แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 18.00 - 02:00 น.
โทรศัพท์ : 0 2932 5453, 08 7592 6619 (สำรองที่นั่งหลังบ่ายโมง)
เว็บไซต์ : facebook ระรื่น Music & Restaurant
ร้านปะจำ
ร้านปะจำ
ร้านอาหารชื่อเก๋ที่มีบรรยากาศน่านั่ง มีดนตรีขับกล่อมให้ความเพลิดเพลิน เป็นกันเอง เหมือนนั่งพบปะสังสรรค์พูดคุยกันเบา ๆ อยู่ตามบ้านเพื่อน ที่สำคัญมีสาวสวยระดับพริตตี้มาคอยยิ้มหวาน ๆ รอต้อนรับ จัดหาโต๊ะให้นั่ง รวมถึงบริการรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารด้วยนะ แหม...ช่างเพลินตา เพลินใจซะจริง ๆ ว่าไหม?
ส่วนการตกแต่งร้านเน้นความเรียบง่าย โล่ง โปร่ง เพราะยกหลังคาสูงเพื่อเปิดโล่งรับลมเย็น ๆ สำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศส่วนตัวสักนิด ที่นี่ก็มีชั้นลอยไว้รองรับคนที่อยากจัดเลี้ยงสังสรรค์เฉพาะกลุ่ม แถมอาหารก็รสชาติจัดจ้าน และเมนูห้ามพลาด ได้แก่ เมี่ยงปลาทู, หมูผัดพริกขี้หนูสวน, ปลากระพงทอดน้ำปลา และต้มยำกุ้งน้ำรสเด็ด
ที่ตั้ง : ซอยลาดพร้าว 71 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ (อยู่ในซอยด้านขวามือข้างร้านอาหารไต้ก๋ง)
เวลาเปิด - ปิด : 18.30 – 01.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2932 8425
เว็บไซต์ : facebook Pajam Restaurant
แหละนี่คือร้านนั่งชิล ๆ ในซอยลาดพร้าว 71 ที่เราหยิบมาแนะนำกัน หนุ่ม ๆ ที่อยากนัดรวมพลเพื่อนนซี้มาปาร์ตี้มันส์ ๆ เม้าท์เพลิน ๆ ลองเลือกดูกันดูนะคร้าบบบ
ตั๊กออแกไนท์ลาดพร้าวรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคลาดพร้าว
นางรำลาดพร้าวเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคลาดพร้าว
ลาดพร้าวรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคลาดพร้าว
รําบวงสรวงพญานาคลาดพร้าว
ฟ้อนบูชาพญานาคลาดพร้าว
รําบวงสรวงพญานาคลาดพร้าว
ติดต่อสอบถามเรา
216
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 07:00:03 PM »
พาเพื่อนต่างชาติเที่ยวที่ไหนดี 20 ที่เที่ยวกรุงเทพฯ และใกล้เคียง อะเมซิ่ง ไทยแลนด์
1. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดน้ำตลิ่งชัน และตลาดน้ำขวัญเรียม
ตลาดน้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติมักไปเดินเที่ยวชมกัน เพราะนอกจากจะได้ซึมซับกับบรรยากาศวิถีชีวิตคนท้องถิ่นแล้ว ก็ยังจะได้ลองกินอาหารและขนมไทยพื้นบ้านอร่อย ๆ เมนูแปลกใหม่อีกด้วย และยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชน พืชผัก-ผลไม้สด ๆ จากสวนมาจำหน่ายมากมาย และบางตลาดน้ำยังมีกิจกรรมล่องเรือ พาชมชุมชนอันเงียบสงบรอบ ๆ พร้อมทั้งพาเที่ยวไหว้พระทำบุญที่วัดต่าง ๆ รับรองว่าถูกใจเพื่อนต่างชาติแน่นอน
สำหรับใครที่ไม่มีเวลาพาเพื่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ ก็มีตลาดน้ำน่าเดินอยู่หลายแห่ง แต่ที่ดูแล้วน่าจะสะดวกมากที่สุดนั่นก็คือ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน และตลาดน้ำขวัญเรียม โดยทั้ง 3 แห่งจะไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าเที่ยวชม
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำคลองลัดมะยม - Ladmayom Floating Market
ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน
ตลาดน้ำขวัญเรียม
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำขวัญ เรียม
2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
มาเที่ยวถึงกรุงเทพฯ ทั้งที นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็มักจะอยากเห็นความงดงามของวัดไทยสวย ๆ ซึ่งวัดที่อยากจะแนะนำก็คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ในโซนเดียวกัน สามารถจัดเป็นทริปทัวร์วัดได้ใน 1 วัน
สำหรับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นอกจากจะเป็นวัดในพระราชวังหลวงแล้ว ก็ยังเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของไทยด้วย อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมตามแบบสมัยรัตนโกสินทร์ที่สวยงามสมบูรณ์แบบ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย อีกทั้งยังจะได้เยี่ยมชมอาคารบางส่วนในพระบรมมหาราชวังอีกด้วย
ที่ตั้ง : ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
เที่ยววัดพระแก้ว ไหว้พระทำบุญให้ประทับใจ ควรรู้ 20 สิ่งเหล่านี้
ส่วนวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการนวดแผนไทยโบราณเท่านั้น แต่สถาปัตยกรรมและกลุ่มอาคารต่าง ๆ ก็สวยงดงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะรูปปั้นยักษ์ที่มีสีกายเป็นสีแดงและสีเขียว ลักษณะคล้ายยักษ์ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ อันเป็นยักษ์ต้นกำเนิดของตำนานการเกิดท่าเตียน นอกจากนี้ก็ยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ หลายมุมเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดสำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหลังจากได้รับการปรับปรุงบูรณะใหม่ก็ได้กลายเป็นจุดเช็กอินห้ามพลาดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยไปแล้ว ด้วยพระปรางค์ใหญ่ที่มีลวดลายของกระเบื้องคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่สวยงาม ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
ที่ตั้ง : ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.
11 เรื่องน่ารู้วัดอรุณฯ ศาสนสถานงานศิลป์ชั้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
3. มิวเซียมสยาม
พิพิธภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจอันดับต้น ๆ ของไทย ด้วยการจัดการแสดงที่มีลูกเล่นหลากหลายไม่น่าเบื่อ ตั้งอยู่ในอาคารเก่าสไตล์โคโรเนียลสีเหลืองสดใส ด้านในจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศไทย รวมทั้งวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกิจกรรมสร้างสรรค์ ทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจง่ายและสนุกสนานไปกับการเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ โดยจะมีทั้งนิทรรศการถาวรชุด "ถอดรหัสไทย" และนิทรรศการหมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนมาให้ได้ชม พร้อมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดอยู่เรื่อย ๆ
ที่ตั้ง : 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เเวลา 10.00-18.00 น.
เว็บไซต์ : museumsiam.org
4. ปากคลองตลาด
ตลาดดอกไม้สดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้วมากนัก ที่นี่มีดอกไม้มากมายตั้งวางขายเรียงรายอยู่ริมถนนและตรอกซอกซอยต่าง ๆ ลองคิดภาพว่าดอกไม้นานาพรรณหลากสีสันอยู่รวม ๆ กันนับพันนับหมื่นดอกมันจะสวยขนาดไหน และยังมีกลิ่นหอมฟุ้งอบอวล มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เดินถ่ายรูปกันสนุกไปเลยล่ะ
ในย่านปากคลองตลาดยังมีร้านกาแฟบรรยากาศสวย ๆ ชิค ๆ ซ่อนตัวอยู่หลายร้าน อาทิ Floral Cafe at Napasorn, Farm to Table Hideout, Cafe No. 5 เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเดินลัดเลาะริมน้ำมาเดินเล่นที่ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ได้ด้วย มีร้านอาหารและบาร์ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลายร้าน สามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม เห็นแสงสีทองสะท้อนแม่น้ำระยิบระยับ กับภาพของวัดอรุณฯ และชุมชนสองฟากฝั่งแม่น้ำ วิวดี อาหารอร่อย รับรองว่าถูกใจเพื่อนชาวต่างชาติแน่นอน
ที่ตั้ง : แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง แต่บรรยากาศจะคึกคักในช่วงกลางคืนจนถึงช่วงเช้า
5. ถนนเยาวราช
ถนนเยาวราช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างบอกกันว่าเป็น The Must ของกรุงเทพฯ กันเลยทีเดียว เพราะเป็นถนนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของบรรยากาศ อีกทั้งยังมีร้านอาหารแนวสตรีตฟู้ดให้ได้เดินชิมลิ้มลองมากกว่า 100 ร้านค้า ทั้งริมถนนและตรอกซอกซอยเล็ก ๆ เดินไปตรงไหนก็มีร้านอาหารให้แวะลองกินสนุกสนาน
แผนที่ร้านอร่อยในเยาวราชยามค่ำคืน
ร้านที่น่าสนใจ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เตาถ่าน, ป้าจิน หอยแครงลวก, ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช, ฮั่วเซ่งฮง, ก๋วยจั๊บ อ้วนโภชนา, ครัวพรสมัย, ลอดช่องสิงคโปร์ เจ้าแรก แยกหมอมี สามแยกเจริญกรุง, หมูสะเต๊ะแปลงนาม, บะหมี่เกี๊ยวปูทะเล วงเวียนโอเดียน, บะหมี่จับกัง, หมี่หวานเจ๊หมวย และเจ้นิดปลาหมึกย่าง เป็นต้น
ที่ตั้ง : ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ร้านอาหารชื่อดังมักจะเปิดกันช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
ตะลุยเยาวราชกลางคืน ตระเวนหาของกินร้านอร่อย
6. ตลาดนัดจตุจักร
ถ้าอยากพาเพื่อนไปช้อปปิ้งสินค้าราคาไม่แพง ก็ต้องที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อรวมกว่า 8,000 ร้านค้า ซึ่งมีมากกว่า 8 ประเภท ทั้งผักและผลไม้ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของฝากของที่ระลึก สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ ร้านอาหารปรุงสุก อาหารสำเร็จรูป อาหารสด และเบ็ดเตล็ด เดินเลือกซื้อกันให้จุใจไปเลย
ที่ตั้ง : สวนจตุจักร ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00-17.00 น. และจะมีร้านค้าตั้งขายบริเวณถนนรอบนอกราว ๆ 17.00-21.00 น.
7. พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน
พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่ที่ไม่ไกลจากย่านสยาม โดยจะอยู่ในซอยเกษมสันต์ 2 ติดกับคลองแสนแสบ มีลักษณะเป็นเรือนไทยโบราณที่สร้างจากไม้สัก ซึ่งดั้งเดิมนั้นเป็นบ้านของ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน ผู้ก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยจิม ทอมป์สัน ปัจจุบันด้านในของบ้านจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัตถุโบราณและศิลปะร่วมสมัย โดยเฉพาะงานศิลปกรรมของเอเชีย และยังมีมุมให้ได้ชมกระบวนการการทอผ้าไหมไทย พร้อมกับร้านอาหารไทยฟิวชั่นให้บริการด้วย
ที่ตั้ง : ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
8. สนามมวยลุมพินี และสนามมวยราชดำเนิน
ถ้าเพื่อนชาวต่างชาติเป็นคนชอบกีฬา ก็ต้องไม่พลาดที่จะพาเพื่อนไปดูศิลปะการต่อสู้แบบไทย ๆ อย่างมวยไทย ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็มีสนามที่น่าสนใจให้ไปชมอยู่ 2 แห่ง คือ สนามมวยลุมพินี และสนามมวยราชดำเนิน โดยจะมีการแข่งขันให้ชมเกือบทุกวัน ราคาบัตรแตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่ 500 บาท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ lumpineemuaythai.comและ Rajadamnern Stadium
สนามมวยลุมพินี
ที่ตั้ง : ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร, ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. (ปิดวันจันทร์, พุธ, พฤหัสบดี และอาทิตย์)
สนามมวยราชดำเนิน
ที่ตั้ง : ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันพุธ-พฤหัสบดี และวันอาทิตย์-จันทร์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.
9. ภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
บรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดของกรุงเทพฯ โดดเด่นด้วยภูเขาจำลองสูงราว ๆ 59 เมตร มีพระบรมบรรพตสีเหลืองทองตั้งอยู่ด้านบนสง่างาม ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ไหว้พระขอพรแล้ว ก็ยังจะได้ชมวิวกรุงเทพฯ ในมุมสูงด้วย บริเวณพระบรมบรรพตจะเปิดโล่งกว้าง สามารถเดินชมได้โดยรอบ ควรแต่งกายสุภาพ แนะนำให้ไปช่วงเช้าหรือช่วงเย็น แดดจะไม่ร้อนมากนัก นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 344 ขั้น เพราะฉะนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสักนิด ไม่มีค่าเข้าชม
ที่ตั้ง : วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
10. คอมมูนิตี้มอลล์ และพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ถ้าถามหาพื้นที่ที่มีบรรยากาศชิล ๆ ของกรุงเทพฯ หนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยามเย็นจะมีบรรยากาศสบาย ๆ ลมพัดเย็นตลอด ได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน บางคอมมูนิตี้มอลล์ก็จะมีร้านอาหาร บาร์เล็ก ๆ ให้นั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ฟังเพลงเบา ๆ บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อยเลยล่ะ สถานที่ที่น่าสนใจก็มีทั้งเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, ไอคอนสยาม, ล้ง 1919, ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค, ท่ามหาราช, สวนสันติชัยปราการ เป็นต้น
11. ดินเนอร์ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา
การล่องเรือเพื่อดินเนอร์ในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกกิจกรรมดี ๆ ที่จะทำให้เพื่อนต่างชาติได้อีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยที่น่าประทับใจ เพราะจะได้ชมวิวบ้านเรือนสองฟากฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มตา พร้อมกับวิวของสะพานต่าง ๆ ที่เรือแล่นผ่าน อีกทั้งยังจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินจากบนเรือ เห็นแสงไฟระยิบระยับจากอาคารบ้านเรือนสะท้อนลงน้ำ มีวิวของอาคารสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งเรียงราย บอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้วิวแม่น้ำดัง ๆ ในต่างประเทศเลยทีเดียว
12. ถนนข้าวสาร และย่านเสาชิงช้า
สัญลักษณ์อันโดดเด่นอีกแห่งของกรุงเทพฯ ก็ต้องขอยกให้กับเสาชิงช้า ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บริเวณด้านหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร มีลักษณะเป็นเสาชิงช้าขนาดใหญ่ สีแดงสดสวยสง่า เหมาะแก่การมาถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังเป็นชุมชนเก่าแก่ มีอาคารบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลให้เดินถ่ายรูปเล่นหลายจุด พร้อมกับมีร้านอาหารอร่อย ๆ แนวสตรีตฟู้ดให้บุกชิมมากมาย เย็น ๆ ก็เดินไปเที่ยวถนนข้าวสาร ชมบรรยากาศอันคึกคักของถนนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ใครอยากนั่งพักก็มีบาร์น่านั่งให้บริการหลายร้าน พร้อมกับอาหารอร่อย ๆ เพียบ
13. ตลาดนัดรถไฟ รัชดา และตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์
นอกจากจตุจักรแล้ว ตลาดนัดยามค่ำคืนที่น่าสนใจของกรุงเทพฯ ก็ยังมีที่ตลาดนัดรถไฟ รัชดา และตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งขายสินค้าราคาไม่แพง มีทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ สินค้ามือสอง อุปกรณ์โทรศัพท์ ฯลฯ และที่เด็ดสุด ๆ ก็คือ ร้านอาหาร มีร้านอาหารมากมายให้เลือกชิมลิ้มลอง ทั้งข้าวแกงแบบไทย ๆ ส้มตำไก่ย่างแซ่บ ๆ ยำซีฟู้ดสุดซี้ด รวมมิตรทะเลถัง ก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปเข้มข้นรสเด็ด ลูกชิ้นปิ้งหอม ๆ เนื้อนุ่ม ผลไม้สดหั่นชิ้นหวานฉ่ำ น้ำผลไม้ ชาไทย เครื่องดื่มต่าง ๆ พร้อมทั้งขนมหวานละลานตา ช้อปปิ้งสนุก กินฟิน ในราคาไม่แพง
ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์
ที่ตั้ง : แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-01.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดนัดรถไฟ
ตลาดนัดรถไฟ รัชดา
ที่ตั้ง : ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-01.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดนัดรถไฟ รัชดา : Train Night Market Ratchada
14. ชมวิวกรุงเทพฯ มุมสูง
เวลาไปเที่ยวเมืองใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ เราก็มักจะไปเที่ยวชมหอคอยชมเมือง หรือออบเซอร์เวชั่น เดค ของตึกสูง ๆ เพื่อชมวิวเมืองในมุมสูง สำหรับในกรุงเทพฯ ก็มีเหมือนกัน โดยสถานที่ที่น่าสนใจจะมีอยู่ 2 แห่ง นั่นก็คือ ตึกใบหยก 2 และตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร โดยจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับตึกใบหยก 2 นักท่องเที่ยวจะสามารถขึ้นไปชมวิวได้จากชั้น 77 และชั้นบนสุดของตึก ก็คือ ชั้น 84 โดยจะเป็นดาดฟ้าเปิดโล่ง สามารถหมุนได้ มองเห็นวิวรอบกรุงเทพฯ ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
ที่ตั้ง : ซอยราชปรารภ 3 ถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-02.00 น.
เว็บไซต์ : baiyokehotel.com
ส่วนตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร จะโดดเด่นด้วยมหานคร สกายวอล์ก บนชั้น 78 ซึ่งมีลักษณะเป็นดาดฟ้าเปิดโล่งกว้าง มีส่วนที่เป็นพื้นกระจกใสยื่นออกไปนอกอาคาร เพิ่มความหวาดเสียวอีกเท่าตัว เป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวชม
ที่ตั้ง : ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : kingpowermahanakhon.co.th และเฟซบุ๊ก King Power Mahanakhon
ที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ
15. ตลาดร่มหุบ แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
ตลาดร่มหุบ แม่กลอง ตั้งอยู่ภายในตลาดแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เป็นตลาดสุดฮิตของนักท่องเที่ยว ด้วยมีความแปลกอยู่ตรงที่เป็นตลาดบนรางรถไฟที่ยังใช้งานอยู่ โดยช่วงเวลาที่รถไฟแล่นเข้า-ออกจากสถานีผ่านตลาด พ่อค้าแม่ค้าก็จะช่วยกันเก็บข้าวของและหุบร่มลงให้พ้นขบวนรถไฟอย่างรวดเร็ว เป็นภาพแปลกตาที่หาชมได้ยาก จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยว
ที่ตั้ง : ตลาดแม่กลอง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : สามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน มีรอบเวลารถไฟเข้า-ออกสถานีแม่กลองทั้งหมดวันละ 8 รอบ โดยเที่ยวขาเข้าเวลา 08.30 น., 11.10 น., 14.30 น. และ 17.40 น. ส่วนเที่ยวขาออกเวลา 06.20 น., 09.00 น., 11.30 น. และ 15.30 น.
16. ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา อยู่ห่างจากตลาดสดแม่กลองประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นตลาดริมน้ำเก่าแก่ บรรยากาศชิล ๆ มีบ้านเรือนแถวไม้ทรงไทยตั้งเรียงรายทั้งสองฟากฝั่งคลองวัดจุฬามณี ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก ในวันหยุดบ้านเรือนต่าง ๆ จะเปิดให้บริการคึกคัก และยังมีเรือร้านค้าพายเข้ามาขายอาหารพื้นบ้าน อาหารซีฟู้ด และสินค้าทางการเกษตรเต็มคลอง ราคาไม่แพง เลือกเดินสั่งกินได้ตามความชอบใจ สามารถนั่งกินชิล ๆ ได้บริเวณริมแม่น้ำ
ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน แต่ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
17. บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ
สำหรับสายธรรมชาติ ก็ขอแนะนำให้ลองพาเพื่อนไปเที่ยวบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ปอดใหญ่ของกรุงเทพฯ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด มีเส้นทางปั่นจักรยานให้ปั่นชมธรรมชาติและชุมชนรอบ ๆ เกาะ พร้อมทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลาดน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้ไปแวะพักเที่ยวชม จุดที่น่าสนใจ อาทิ สวนป่าเกดน้อมเกล้า, สวนน้ำตาลมะพร้าวลุงพงษ์ศักดิ์, เส้นทางจักรยานเลียบคลอง (ถนนมรกต), บ้านผลิตภัณฑ์ลูกประคบธัญพืช, บ้านสวนศิลป์, ศูนย์อนุรักษ์ลำพูบางกระสอบ, ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง, วัดบางน้ำผึ้งนอก, วัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย, สวนศรีนครเขื่อนขันธ์, พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย เป็นต้น
18. เมืองโบราณ สมุทรปราการ
เมืองโบราณ สมุทรปราการ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้เพื่อนชาวต่างชาติได้เห็นถึงความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทยที่อยู่ทั่วทั้งเมืองไทยภายในหนึ่งวัน เพราะที่นี่ได้จำลองงานสถาปัตยกรรมอันสวยงามและทรงคุณค่าของไทยไว้นับร้อยรูปแบบ ซึ่งก็มีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังของไทยเพียบ ไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทจำลอง, ศาลาพระอรหันต์, เขาพระสุเมรุ, วิหารวัดภูมินทร์ น่าน, เรือนทับขวัญ, คุ้มขุนแผน, สวนรามเกียรติ์, วัดจองคำ ลำปาง, วิหารสุโขทัย, พระมหาธาตุเจดีย์ สุโขทัย, พระธาตุจอมกิตติ จังหวัดเชียงราย, ปราสาทหินพนมรุ้ง, ปราสาทหินพิมาย เป็นต้น
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 7 296/1 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
เวลาเปิด-ปิด : สามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
เว็บไซต์ : muangboranmuseum.com
19. เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในท้องที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่เพียงแค่ราว ๆ 4.2 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งมีเส้นทางให้ขี่จักรยานวนไปได้รอบเกาะ ความโดดเด่นของเกาะเกร็ดไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะที่นี่เป็นชุมชนชาวมอญเก่าแก่ ก็จะมีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ ยังคงสืบทอดการปั้นเครื่องปั้นดินเผาและการทำขนมไทยโบราณ เมื่อมาเที่ยวที่นี่ยังไม่ควรพลาดกับการกินทอดมันหน่อกะลา อาหารท้องถิ่นของชาวเกาะเกร็ด พร้อมทั้งการนั่งเรือชมวิวรอบ ๆ เกาะ และการกินอาหารอร่อย ๆ กับร้านอาหารริมแม่น้ำ ปัจจุบันมีร้านอาหารเก๋ ๆ และร้านกาแฟบรรยากาศดีเปิดให้บริการหลายแห่งด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน แต่บรรยากาศจะคึกคักในช่วงวันหยุด
20. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวไทยและอยุธยา เต็มไปด้วยโบราณสถานและโบราณวัตถุอายุมากกว่า 600 ปี ซึ่งบางสถานที่ยังคงเป็นปราสาทและวัดวาอารามสวยสมบูรณ์ จุดเช็กอินที่ห้ามพลาด อาทิ พระราชวังโบราณ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์, วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, วัดพระราม, วัดพนัญเชิง, วัดธรรมิกราช, วัดใหญ่ชัยมงคล, เพนียดคล้องช้าง เป็นต้น
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. (บางสถานที่อาจจะปิดเร็วหรือช้าแตกต่างกันไป สอบถามได้ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา)
เฟซบุ๊ก : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา Ayutthaya Historical Park
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้นนะคะที่น่าพาเพื่อนชาวต่างชาติไปเที่ยวกัน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ในเมืองไทยอีกหลายแห่งที่น่าพาเพื่อนไป เอาไว้เราจะเอามานำเสนออีกเรื่อย ๆ นะคะ 
ตั๊กออแกไนท์ราชเทวี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคราชเทวี
นางรำราชเทวีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคราชเทวี
ราชเทวีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคราชเทวี
รําบวงสรวงพญานาคราชเทวี
ฟ้อนบูชาพญานาคราชเทวี
รําบวงสรวงพญานาคราชเทวี
ติดต่อสอบถามเรา
217
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 06:59:12 PM »
พาเพื่อนต่างชาติเที่ยวที่ไหนดี 20 ที่เที่ยวกรุงเทพฯ และใกล้เคียง อะเมซิ่ง ไทยแลนด์
1. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดน้ำตลิ่งชัน และตลาดน้ำขวัญเรียม
ตลาดน้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติมักไปเดินเที่ยวชมกัน เพราะนอกจากจะได้ซึมซับกับบรรยากาศวิถีชีวิตคนท้องถิ่นแล้ว ก็ยังจะได้ลองกินอาหารและขนมไทยพื้นบ้านอร่อย ๆ เมนูแปลกใหม่อีกด้วย และยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชน พืชผัก-ผลไม้สด ๆ จากสวนมาจำหน่ายมากมาย และบางตลาดน้ำยังมีกิจกรรมล่องเรือ พาชมชุมชนอันเงียบสงบรอบ ๆ พร้อมทั้งพาเที่ยวไหว้พระทำบุญที่วัดต่าง ๆ รับรองว่าถูกใจเพื่อนต่างชาติแน่นอน
สำหรับใครที่ไม่มีเวลาพาเพื่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ ก็มีตลาดน้ำน่าเดินอยู่หลายแห่ง แต่ที่ดูแล้วน่าจะสะดวกมากที่สุดนั่นก็คือ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน และตลาดน้ำขวัญเรียม โดยทั้ง 3 แห่งจะไม่มีค่าธรรมเนียมเข้าเที่ยวชม
ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำคลองลัดมะยม - Ladmayom Floating Market
ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน
ตลาดน้ำขวัญเรียม
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำขวัญ เรียม
2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
มาเที่ยวถึงกรุงเทพฯ ทั้งที นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็มักจะอยากเห็นความงดงามของวัดไทยสวย ๆ ซึ่งวัดที่อยากจะแนะนำก็คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ในโซนเดียวกัน สามารถจัดเป็นทริปทัวร์วัดได้ใน 1 วัน
สำหรับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม นอกจากจะเป็นวัดในพระราชวังหลวงแล้ว ก็ยังเป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองของไทยด้วย อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมตามแบบสมัยรัตนโกสินทร์ที่สวยงามสมบูรณ์แบบ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย อีกทั้งยังจะได้เยี่ยมชมอาคารบางส่วนในพระบรมมหาราชวังอีกด้วย
ที่ตั้ง : ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
เที่ยววัดพระแก้ว ไหว้พระทำบุญให้ประทับใจ ควรรู้ 20 สิ่งเหล่านี้
ส่วนวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการนวดแผนไทยโบราณเท่านั้น แต่สถาปัตยกรรมและกลุ่มอาคารต่าง ๆ ก็สวยงดงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะรูปปั้นยักษ์ที่มีสีกายเป็นสีแดงและสีเขียว ลักษณะคล้ายยักษ์ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ อันเป็นยักษ์ต้นกำเนิดของตำนานการเกิดท่าเตียน นอกจากนี้ก็ยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ หลายมุมเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดสำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหลังจากได้รับการปรับปรุงบูรณะใหม่ก็ได้กลายเป็นจุดเช็กอินห้ามพลาดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยไปแล้ว ด้วยพระปรางค์ใหญ่ที่มีลวดลายของกระเบื้องคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่สวยงาม ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
ที่ตั้ง : ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.
11 เรื่องน่ารู้วัดอรุณฯ ศาสนสถานงานศิลป์ชั้นเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
3. มิวเซียมสยาม
พิพิธภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจอันดับต้น ๆ ของไทย ด้วยการจัดการแสดงที่มีลูกเล่นหลากหลายไม่น่าเบื่อ ตั้งอยู่ในอาคารเก่าสไตล์โคโรเนียลสีเหลืองสดใส ด้านในจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศไทย รวมทั้งวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกิจกรรมสร้างสรรค์ ทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจง่ายและสนุกสนานไปกับการเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ โดยจะมีทั้งนิทรรศการถาวรชุด "ถอดรหัสไทย" และนิทรรศการหมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนมาให้ได้ชม พร้อมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดอยู่เรื่อย ๆ
ที่ตั้ง : 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เเวลา 10.00-18.00 น.
เว็บไซต์ : museumsiam.org
4. ปากคลองตลาด
ตลาดดอกไม้สดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระแก้วมากนัก ที่นี่มีดอกไม้มากมายตั้งวางขายเรียงรายอยู่ริมถนนและตรอกซอกซอยต่าง ๆ ลองคิดภาพว่าดอกไม้นานาพรรณหลากสีสันอยู่รวม ๆ กันนับพันนับหมื่นดอกมันจะสวยขนาดไหน และยังมีกลิ่นหอมฟุ้งอบอวล มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้เบ่งบาน เดินถ่ายรูปกันสนุกไปเลยล่ะ
ในย่านปากคลองตลาดยังมีร้านกาแฟบรรยากาศสวย ๆ ชิค ๆ ซ่อนตัวอยู่หลายร้าน อาทิ Floral Cafe at Napasorn, Farm to Table Hideout, Cafe No. 5 เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเดินลัดเลาะริมน้ำมาเดินเล่นที่ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ได้ด้วย มีร้านอาหารและบาร์ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลายร้าน สามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม เห็นแสงสีทองสะท้อนแม่น้ำระยิบระยับ กับภาพของวัดอรุณฯ และชุมชนสองฟากฝั่งแม่น้ำ วิวดี อาหารอร่อย รับรองว่าถูกใจเพื่อนชาวต่างชาติแน่นอน
ที่ตั้ง : แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง แต่บรรยากาศจะคึกคักในช่วงกลางคืนจนถึงช่วงเช้า
5. ถนนเยาวราช
ถนนเยาวราช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างบอกกันว่าเป็น The Must ของกรุงเทพฯ กันเลยทีเดียว เพราะเป็นถนนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของบรรยากาศ อีกทั้งยังมีร้านอาหารแนวสตรีตฟู้ดให้ได้เดินชิมลิ้มลองมากกว่า 100 ร้านค้า ทั้งริมถนนและตรอกซอกซอยเล็ก ๆ เดินไปตรงไหนก็มีร้านอาหารให้แวะลองกินสนุกสนาน
แผนที่ร้านอร่อยในเยาวราชยามค่ำคืน
ร้านที่น่าสนใจ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เตาถ่าน, ป้าจิน หอยแครงลวก, ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช, ฮั่วเซ่งฮง, ก๋วยจั๊บ อ้วนโภชนา, ครัวพรสมัย, ลอดช่องสิงคโปร์ เจ้าแรก แยกหมอมี สามแยกเจริญกรุง, หมูสะเต๊ะแปลงนาม, บะหมี่เกี๊ยวปูทะเล วงเวียนโอเดียน, บะหมี่จับกัง, หมี่หวานเจ๊หมวย และเจ้นิดปลาหมึกย่าง เป็นต้น
ที่ตั้ง : ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ร้านอาหารชื่อดังมักจะเปิดกันช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
ตะลุยเยาวราชกลางคืน ตระเวนหาของกินร้านอร่อย
6. ตลาดนัดจตุจักร
ถ้าอยากพาเพื่อนไปช้อปปิ้งสินค้าราคาไม่แพง ก็ต้องที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อรวมกว่า 8,000 ร้านค้า ซึ่งมีมากกว่า 8 ประเภท ทั้งผักและผลไม้ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของฝากของที่ระลึก สัตว์เลี้ยง ต้นไม้ ร้านอาหารปรุงสุก อาหารสำเร็จรูป อาหารสด และเบ็ดเตล็ด เดินเลือกซื้อกันให้จุใจไปเลย
ที่ตั้ง : สวนจตุจักร ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00-17.00 น. และจะมีร้านค้าตั้งขายบริเวณถนนรอบนอกราว ๆ 17.00-21.00 น.
7. พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน
พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่ที่ไม่ไกลจากย่านสยาม โดยจะอยู่ในซอยเกษมสันต์ 2 ติดกับคลองแสนแสบ มีลักษณะเป็นเรือนไทยโบราณที่สร้างจากไม้สัก ซึ่งดั้งเดิมนั้นเป็นบ้านของ เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน ผู้ก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยจิม ทอมป์สัน ปัจจุบันด้านในของบ้านจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัตถุโบราณและศิลปะร่วมสมัย โดยเฉพาะงานศิลปกรรมของเอเชีย และยังมีมุมให้ได้ชมกระบวนการการทอผ้าไหมไทย พร้อมกับร้านอาหารไทยฟิวชั่นให้บริการด้วย
ที่ตั้ง : ซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
8. สนามมวยลุมพินี และสนามมวยราชดำเนิน
ถ้าเพื่อนชาวต่างชาติเป็นคนชอบกีฬา ก็ต้องไม่พลาดที่จะพาเพื่อนไปดูศิลปะการต่อสู้แบบไทย ๆ อย่างมวยไทย ซึ่งในกรุงเทพฯ ก็มีสนามที่น่าสนใจให้ไปชมอยู่ 2 แห่ง คือ สนามมวยลุมพินี และสนามมวยราชดำเนิน โดยจะมีการแข่งขันให้ชมเกือบทุกวัน ราคาบัตรแตกต่างกันออกไป เริ่มตั้งแต่ 500 บาท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ lumpineemuaythai.comและ Rajadamnern Stadium
สนามมวยลุมพินี
ที่ตั้ง : ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร, ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น. (ปิดวันจันทร์, พุธ, พฤหัสบดี และอาทิตย์)
สนามมวยราชดำเนิน
ที่ตั้ง : ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันพุธ-พฤหัสบดี และวันอาทิตย์-จันทร์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.
9. ภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
บรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดของกรุงเทพฯ โดดเด่นด้วยภูเขาจำลองสูงราว ๆ 59 เมตร มีพระบรมบรรพตสีเหลืองทองตั้งอยู่ด้านบนสง่างาม ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ไหว้พระขอพรแล้ว ก็ยังจะได้ชมวิวกรุงเทพฯ ในมุมสูงด้วย บริเวณพระบรมบรรพตจะเปิดโล่งกว้าง สามารถเดินชมได้โดยรอบ ควรแต่งกายสุภาพ แนะนำให้ไปช่วงเช้าหรือช่วงเย็น แดดจะไม่ร้อนมากนัก นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นบันไดประมาณ 344 ขั้น เพราะฉะนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสักนิด ไม่มีค่าเข้าชม
ที่ตั้ง : วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
10. คอมมูนิตี้มอลล์ และพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ถ้าถามหาพื้นที่ที่มีบรรยากาศชิล ๆ ของกรุงเทพฯ หนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยามเย็นจะมีบรรยากาศสบาย ๆ ลมพัดเย็นตลอด ได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน บางคอมมูนิตี้มอลล์ก็จะมีร้านอาหาร บาร์เล็ก ๆ ให้นั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ฟังเพลงเบา ๆ บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อยเลยล่ะ สถานที่ที่น่าสนใจก็มีทั้งเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, ไอคอนสยาม, ล้ง 1919, ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค, ท่ามหาราช, สวนสันติชัยปราการ เป็นต้น
11. ดินเนอร์ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา
การล่องเรือเพื่อดินเนอร์ในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกกิจกรรมดี ๆ ที่จะทำให้เพื่อนต่างชาติได้อีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยที่น่าประทับใจ เพราะจะได้ชมวิวบ้านเรือนสองฟากฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มตา พร้อมกับวิวของสะพานต่าง ๆ ที่เรือแล่นผ่าน อีกทั้งยังจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินจากบนเรือ เห็นแสงไฟระยิบระยับจากอาคารบ้านเรือนสะท้อนลงน้ำ มีวิวของอาคารสูงริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งเรียงราย บอกเลยว่าสวยงามไม่แพ้วิวแม่น้ำดัง ๆ ในต่างประเทศเลยทีเดียว
12. ถนนข้าวสาร และย่านเสาชิงช้า
สัญลักษณ์อันโดดเด่นอีกแห่งของกรุงเทพฯ ก็ต้องขอยกให้กับเสาชิงช้า ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บริเวณด้านหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร มีลักษณะเป็นเสาชิงช้าขนาดใหญ่ สีแดงสดสวยสง่า เหมาะแก่การมาถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังเป็นชุมชนเก่าแก่ มีอาคารบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลให้เดินถ่ายรูปเล่นหลายจุด พร้อมกับมีร้านอาหารอร่อย ๆ แนวสตรีตฟู้ดให้บุกชิมมากมาย เย็น ๆ ก็เดินไปเที่ยวถนนข้าวสาร ชมบรรยากาศอันคึกคักของถนนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ใครอยากนั่งพักก็มีบาร์น่านั่งให้บริการหลายร้าน พร้อมกับอาหารอร่อย ๆ เพียบ
13. ตลาดนัดรถไฟ รัชดา และตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์
นอกจากจตุจักรแล้ว ตลาดนัดยามค่ำคืนที่น่าสนใจของกรุงเทพฯ ก็ยังมีที่ตลาดนัดรถไฟ รัชดา และตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งขายสินค้าราคาไม่แพง มีทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ สินค้ามือสอง อุปกรณ์โทรศัพท์ ฯลฯ และที่เด็ดสุด ๆ ก็คือ ร้านอาหาร มีร้านอาหารมากมายให้เลือกชิมลิ้มลอง ทั้งข้าวแกงแบบไทย ๆ ส้มตำไก่ย่างแซ่บ ๆ ยำซีฟู้ดสุดซี้ด รวมมิตรทะเลถัง ก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปเข้มข้นรสเด็ด ลูกชิ้นปิ้งหอม ๆ เนื้อนุ่ม ผลไม้สดหั่นชิ้นหวานฉ่ำ น้ำผลไม้ ชาไทย เครื่องดื่มต่าง ๆ พร้อมทั้งขนมหวานละลานตา ช้อปปิ้งสนุก กินฟิน ในราคาไม่แพง
ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์
ที่ตั้ง : แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-01.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดนัดรถไฟ
ตลาดนัดรถไฟ รัชดา
ที่ตั้ง : ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-01.00 น.
เฟซบุ๊ก : ตลาดนัดรถไฟ รัชดา : Train Night Market Ratchada
14. ชมวิวกรุงเทพฯ มุมสูง
เวลาไปเที่ยวเมืองใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ เราก็มักจะไปเที่ยวชมหอคอยชมเมือง หรือออบเซอร์เวชั่น เดค ของตึกสูง ๆ เพื่อชมวิวเมืองในมุมสูง สำหรับในกรุงเทพฯ ก็มีเหมือนกัน โดยสถานที่ที่น่าสนใจจะมีอยู่ 2 แห่ง นั่นก็คือ ตึกใบหยก 2 และตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร โดยจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับตึกใบหยก 2 นักท่องเที่ยวจะสามารถขึ้นไปชมวิวได้จากชั้น 77 และชั้นบนสุดของตึก ก็คือ ชั้น 84 โดยจะเป็นดาดฟ้าเปิดโล่ง สามารถหมุนได้ มองเห็นวิวรอบกรุงเทพฯ ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
ที่ตั้ง : ซอยราชปรารภ 3 ถนนราชปรารภ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-02.00 น.
เว็บไซต์ : baiyokehotel.com
ส่วนตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร จะโดดเด่นด้วยมหานคร สกายวอล์ก บนชั้น 78 ซึ่งมีลักษณะเป็นดาดฟ้าเปิดโล่งกว้าง มีส่วนที่เป็นพื้นกระจกใสยื่นออกไปนอกอาคาร เพิ่มความหวาดเสียวอีกเท่าตัว เป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวชม
ที่ตั้ง : ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : kingpowermahanakhon.co.th และเฟซบุ๊ก King Power Mahanakhon
ที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ
15. ตลาดร่มหุบ แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
ตลาดร่มหุบ แม่กลอง ตั้งอยู่ภายในตลาดแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เป็นตลาดสุดฮิตของนักท่องเที่ยว ด้วยมีความแปลกอยู่ตรงที่เป็นตลาดบนรางรถไฟที่ยังใช้งานอยู่ โดยช่วงเวลาที่รถไฟแล่นเข้า-ออกจากสถานีผ่านตลาด พ่อค้าแม่ค้าก็จะช่วยกันเก็บข้าวของและหุบร่มลงให้พ้นขบวนรถไฟอย่างรวดเร็ว เป็นภาพแปลกตาที่หาชมได้ยาก จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยว
ที่ตั้ง : ตลาดแม่กลอง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : สามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน มีรอบเวลารถไฟเข้า-ออกสถานีแม่กลองทั้งหมดวันละ 8 รอบ โดยเที่ยวขาเข้าเวลา 08.30 น., 11.10 น., 14.30 น. และ 17.40 น. ส่วนเที่ยวขาออกเวลา 06.20 น., 09.00 น., 11.30 น. และ 15.30 น.
16. ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำอัมพวา อยู่ห่างจากตลาดสดแม่กลองประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นตลาดริมน้ำเก่าแก่ บรรยากาศชิล ๆ มีบ้านเรือนแถวไม้ทรงไทยตั้งเรียงรายทั้งสองฟากฝั่งคลองวัดจุฬามณี ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก ในวันหยุดบ้านเรือนต่าง ๆ จะเปิดให้บริการคึกคัก และยังมีเรือร้านค้าพายเข้ามาขายอาหารพื้นบ้าน อาหารซีฟู้ด และสินค้าทางการเกษตรเต็มคลอง ราคาไม่แพง เลือกเดินสั่งกินได้ตามความชอบใจ สามารถนั่งกินชิล ๆ ได้บริเวณริมแม่น้ำ
ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน แต่ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
17. บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ
สำหรับสายธรรมชาติ ก็ขอแนะนำให้ลองพาเพื่อนไปเที่ยวบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ปอดใหญ่ของกรุงเทพฯ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด มีเส้นทางปั่นจักรยานให้ปั่นชมธรรมชาติและชุมชนรอบ ๆ เกาะ พร้อมทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลาดน้ำ และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้ไปแวะพักเที่ยวชม จุดที่น่าสนใจ อาทิ สวนป่าเกดน้อมเกล้า, สวนน้ำตาลมะพร้าวลุงพงษ์ศักดิ์, เส้นทางจักรยานเลียบคลอง (ถนนมรกต), บ้านผลิตภัณฑ์ลูกประคบธัญพืช, บ้านสวนศิลป์, ศูนย์อนุรักษ์ลำพูบางกระสอบ, ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง, วัดบางน้ำผึ้งนอก, วัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย, สวนศรีนครเขื่อนขันธ์, พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย เป็นต้น
18. เมืองโบราณ สมุทรปราการ
เมืองโบราณ สมุทรปราการ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้เพื่อนชาวต่างชาติได้เห็นถึงความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทยที่อยู่ทั่วทั้งเมืองไทยภายในหนึ่งวัน เพราะที่นี่ได้จำลองงานสถาปัตยกรรมอันสวยงามและทรงคุณค่าของไทยไว้นับร้อยรูปแบบ ซึ่งก็มีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังของไทยเพียบ ไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทจำลอง, ศาลาพระอรหันต์, เขาพระสุเมรุ, วิหารวัดภูมินทร์ น่าน, เรือนทับขวัญ, คุ้มขุนแผน, สวนรามเกียรติ์, วัดจองคำ ลำปาง, วิหารสุโขทัย, พระมหาธาตุเจดีย์ สุโขทัย, พระธาตุจอมกิตติ จังหวัดเชียงราย, ปราสาทหินพนมรุ้ง, ปราสาทหินพิมาย เป็นต้น
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 7 296/1 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
เวลาเปิด-ปิด : สามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
เว็บไซต์ : muangboranmuseum.com
19. เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในท้องที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่เพียงแค่ราว ๆ 4.2 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งมีเส้นทางให้ขี่จักรยานวนไปได้รอบเกาะ ความโดดเด่นของเกาะเกร็ดไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะที่นี่เป็นชุมชนชาวมอญเก่าแก่ ก็จะมีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ ยังคงสืบทอดการปั้นเครื่องปั้นดินเผาและการทำขนมไทยโบราณ เมื่อมาเที่ยวที่นี่ยังไม่ควรพลาดกับการกินทอดมันหน่อกะลา อาหารท้องถิ่นของชาวเกาะเกร็ด พร้อมทั้งการนั่งเรือชมวิวรอบ ๆ เกาะ และการกินอาหารอร่อย ๆ กับร้านอาหารริมแม่น้ำ ปัจจุบันมีร้านอาหารเก๋ ๆ และร้านกาแฟบรรยากาศดีเปิดให้บริการหลายแห่งด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน แต่บรรยากาศจะคึกคักในช่วงวันหยุด
20. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวไทยและอยุธยา เต็มไปด้วยโบราณสถานและโบราณวัตถุอายุมากกว่า 600 ปี ซึ่งบางสถานที่ยังคงเป็นปราสาทและวัดวาอารามสวยสมบูรณ์ จุดเช็กอินที่ห้ามพลาด อาทิ พระราชวังโบราณ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์, วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, วัดพระราม, วัดพนัญเชิง, วัดธรรมิกราช, วัดใหญ่ชัยมงคล, เพนียดคล้องช้าง เป็นต้น
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. (บางสถานที่อาจจะปิดเร็วหรือช้าแตกต่างกันไป สอบถามได้ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา)
เฟซบุ๊ก : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา Ayutthaya Historical Park
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้นนะคะที่น่าพาเพื่อนชาวต่างชาติไปเที่ยวกัน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ในเมืองไทยอีกหลายแห่งที่น่าพาเพื่อนไป เอาไว้เราจะเอามานำเสนออีกเรื่อย ๆ นะคะ
ตั๊กออแกไนท์ราชเทวี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคราชเทวี
นางรำราชเทวีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคราชเทวี
ราชเทวีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคราชเทวี
รําบวงสรวงพญานาคราชเทวี
ฟ้อนบูชาพญานาคราชเทวี
รําบวงสรวงพญานาคราชเทวี
ติดต่อสอบถามเรา
221
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 02:14:40 AM »
9 ร้านคาเฟ่ย่านพระโขนง พิกัดนั่งชิลที่ทำให้เราหลงรักได้ง่าย ๆ
1. The Orange's Tea
ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ แห่งย่านพระโขนง โดดเด่นด้วยการนำเสนอรูปแบบคาเฟ่ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการนำเสนอวัฒนธรรมการดื่มชา เพื่อเอาใจคอรักชาทั้งหลาย ได้ลิ้มลองรสชาติชาต่าง ๆ กันจนฟินกันไปข้าง ทางร้านต่างเลือกสรรและคัดเอาคุณภาพชาชั้นดี ทั้งจากไทย จีน ไต้หวัน และศรีลังกา มาผลิตเป็นเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Monday Not So Blue, Hipster Moroccan Nitro, Dark Paradise Iced Tea และ Rose Chai-Latte เป็นต้น แต่ละเมนูหอมอร่อยชื่นใจ คุ้มค่าแก่การเยือน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30-19.30 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
ที่อยู่ : ซอยสุขุมวิท 69 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 099 446 6687
เฟซบุ๊ก : The Orange's Tea
2. ไล-บรา-รี่
ตั้งอยู่ภายในโครงการ Naiipa Art Complex ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่สีเขียว โดยอยู่ชั้นล่างสุดของตัวอาคาร ตัวร้านทำด้วยกระจกบานใหญ่ หลากหลายด้วยเมนูเครื่องดื่มที่ชวนให้คุณมาลิ้มลอง เช่น ไล-บรา-รี่เย็น, Black Honey, เอสเพรสโซ่ร้อน เป็นต้น สั่งมาทานคู่กับวาฟเฟิล เมนูยอดฮิตของทางร้าน น่าจะเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่สร้างความรื่นรมย์ให้กับคุณด้ไม่ยาก
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
ที่อยู่ : ภายในโครงการ Naiipa Art Complex สุขุมวิท 46 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 130 5987
เฟซบุ๊ก : ไล-บรา-รี่
3. Chant's
ร้านคาเฟ่ที่มาพร้อมสไตล์อบอุ่นและคลาสสิก ถึงแม้ว่าร้านจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็อบอวลไปด้วยความอบอุ่น มีที่นั่งให้ลูกค้าได้เลือกนั่งแบบสบาย ๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนอบอุ่น ใครที่ชอบกินกาแฟ พลาดไม่ได้กับเมนู “Iced Cappuccino” ที่ชงได้ออกมากลมกล่อม รวมถึงยังมีเมนูของกินอื่น ๆ อย่าง "พิซซ่ากล้วย" และ "คลับแซนด์วิชทูน่าชีส" ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.30 น.
ที่อยู่ : ซอยสุขุมวิท 58 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 094 256 6235
เฟซบุ๊ก : Chant's
4. TREE HUB
อีกหนึ่งร้านคาเฟ่บรรยากาศดีของย่านประโขนง โดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านในบรรยากาศร่มรื่นของหมู่มวลต้นไม้ อารมณ์เหมือนว่าได้มานั่งเล่นตรงสนหลังบ้าน แถมเจ้าของร้านก็อัธยาศัยดีน่ารัก ยิ่งเชื้อเชิญให้เราอยากนั่งชิลไปอีกนาน ๆ พลาดไม่ได้กับ "มอคค่า" กาแฟที่ผสมกันอย่างลงตัวกับความหอมที่ได้จากผงโกโก้แท้ รวมถึงยังมีเมนูอาหารน่ากิน อย่าง สปาเกตตี กับข้าวผัดพริกแกง ซึ่งทางร้านปรุงเครื่องแกงเอง อร่อยถูกกใจคนกินแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
ที่อยู่ : ซอยวชิรธรรมสาธิต 43 ถนนสุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 081 700 2114
เฟซบุ๊ก : TREE HUB
5. The 64 Cafe'
ร้านคาเฟ่และร้านอาหารน่ารัก ๆ อีกหนึ่งร้านย่านพระโขนง โดดเด่นด้วยบรรยากาศการตกแต่งร้านสบาย ๆ ชิล ๆ อารมณ์เหมือนว่ามานั่งเล่นที่บ้านเพื่อน มากมายด้วยเมนูเครื่องดื่มและอาหารหน้าตาน่ากิน แถมรสชาติถูกปาก บริการเป็นกันเอง และที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามสั่ง, อาหารฟิวชั่น สั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว เข้ากันแบบกำลังดี
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
ที่อยู่ : ซอยสุขุมวิท 64 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 095 729 9547
เฟซบุ๊ก : The 64 Cafe' Phunnawithi Station
6. B Bake
ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ เหมาะสำหรับคนที่รักการกินเบเกอรีอร่อย ๆ เพราะที่ร้านพร้อมเสิร์ฟเบอเกอรีโฮมเมดที่อบใหม่และสดทุกวัน ด้วยเพราะความตั้งใจของเจ้าของที่อยากให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเบเกอรีอร่อย ๆ ในราคาที่แสนจะเป็นเอง มีให้เลือกมากมาย อย่าง Red Velvet Cake, Coconut Homemade Cake สั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มแสนอร่อย Espresso Soda, Thai Tea Cube และSparkling Fruity นั่งเพลินจนลืมเวลากันเลยทีเดียวเชียว
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-18.30 น.
ที่อยู่ : โครงการ The Marter อุดมสุข ถนนสุขุมวิท 103 เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 095 494 2224
เฟซบุ๊ก : B Bake
7. INK & LION Café
ร้านกาแฟคุณภาพในย่านซอยเอกมัย 2 โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งร้านด้วยกำแพงอิฐเปลือยเปล่า เน้นโทนน้ำตาลอบอุ่น มีโซนแกลอรี่โชว์งานศิลปะให้ได้ดูกันเพลิน ๆ (สลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อย ๆ) จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของที่นี่ นั่นคือ เมนูกาแฟต่าง ๆ เช่น Latte, Cold Brew และ Iced White เป็นต้น แต่ละเมนูล้วนคัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างดี รวมถึงยังมีเมนูขนมน่าทานอย่างวาฟเฟิลและเค้ก สั่งมาทานคู่กัน เป็นความอร่อยที่พอดีเว่อร์
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
ที่อยู่ : ซอยสุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 002 6874
เฟซบุ๊ก : INK & LION Café
8. Cedar242
ร้านคาเฟ่น่ารัก บรรยากาศเป็นกันเอง ด้วยเพราะความตั้งแต่แรกของเจ้าของ ที่จะให้ร้านนี้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนเข้ามากินอาหารและเครื่องดื่มเหมือนกับคนในครอบครัวทำให้กิน ใครที่ชอบกินกาแฟ เราขอแนะนำให้คุณลองกินลาเต้ร้อนดู รับรองว่านุ่มละมุน หอมหวานสุด ๆ และยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ มากมาย รอให้คุณได้แวะเข้ามาลิ้มลอง ร้านน่านั่ง ราคาถูกใจแบบนี้ จะพลาดได้ยังไงกัน
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 07.30- 17.00 น.
ที่อยู่ : ซอยพงษ์เวชอนุสรณ์ 1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 094 698 9245
เฟซบุ๊ก : Cedar242
9. LOCAL HAND Coffee
อีกหนึ่งร้านกาแฟย่านพระโขนงที่คอกาแฟทั้งหลายต้องมาเช็กอิน บรรยากาศร้านร่มรื่น เน้นความสบาย ๆ และเป็นกันเอง มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่ง จะติดชิลนั่งริมหน้าต่าง มองผู้คนเดินผ่านไป-ผ่านมา หรือจะนั่งด้านนอกร้าน ก็ชิลไม่แพ้กัน มีเมนูเครื่องดื่มแนะนำให้เลือกมากมาย เช่น Matcha Latte, Americano และ Dirty coffee (Japanese Kaffee) เป็นต้น ซึ่งถ้าใครกินกาแฟที่ร้านแล้วเกิดติดใจ ก็สามารถซื้อเมล็ดกลับไปชงต่อที่บ้านได้อีกด้วยนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.
ที่อยู่ : ถนนวชิรธรรมสาธิต แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 064 865 4465
เฟซบุ๊ก : LOCAL HAND Coffee
ตั๊กออแกไนท์พระโขนง รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคพระโขนง
นางรำพระโขนงเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคพระโขนง
พระโขนงรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคพระโขนง
รําบวงสรวงพญานาคพระโขนง
ฟ้อนบูชาพญานาคพระโขนง
รําบวงสรวงพญานาคพระโขนง
ติดต่อสอบถามเรา
222
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 02:09:46 AM »
แหล่งท่องเที่ยวอยุธยา พร้อมเปิดบริการหลังประกาศคลายล็อกดาวน์
- วัดไชยวัฒนาราม
ส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ แต่ละมุมของฐานมีปรางค์ประจำทิศตั้งอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสมัยอยุธยาตอนต้น นอกจากนี้ก็ยังมีจุดอื่น ๆ ที่ห้ามพลาด เช่น ระเบียงคด, พระอุโบสถ, เมรุ, ภาพปูนปั้น, พระประธาน เป็นต้น
- วัดมหาธาตุ
วัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ภายในประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร ความน่าสนใจของวัดมหาธาตุ ได้แก่ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ตั้งอยู่ในรากโพธิ์ และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของวัด, เจดีย์แปดเหลี่ยม, วิหารเล็ก, พระปรางค์ประธาน, จิตรกรรมฝาผนัง, วิหารหลวง และพระอุโบสถ เป็นต้น
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดราชบูรณะ
อีกหนึ่งวัดสำคัญของอยุธยา สิ่งที่สำคัญของวัดแห่งนี้ก็คือ องค์ปรางค์ประธาน เพราะเป็นสถานที่เก็บของมีค่าจำนวนมากในอดีต พร้อมทั้งมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยาตอนต้นผสมผสานศิลปะจีนอยู่ด้วย ปัจจุบันของมีค่าต่าง ๆ ได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดพระราม
ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเมืองเก่าอยุธยา ใกล้กับสวนสาธารณะพระราม เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามมาก ๆ ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตโอ่อ่า โดดเด่นด้วยพระปรางค์ตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเขมร และมีบึงน้ำกว้างใหญ่อยู่หน้าวัด หรือที่เรียกกันว่าบึงพระรามนั่นเอง
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดกุฎีดาว
ไม่ปรากฏประวัติการสร้างชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าสร้างช่วงเวลาเดียวกับวัดมเหยงคณ์ เนื่องจากลักษณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม เป็นแบบอยุธยาตอนปลายในช่วงเวลาเดียวกัน ครั้งหนึ่งวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่พระราชวงศ์กรุงศรีอยุธยาเคารพเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่เคยเป็นที่ประทับของพระเทพมุนี พระราชาคณะในสมัยกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่เจรจา ประนีประนอม เหตุการณ์ในครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรอีกด้วย
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดมเหยงคณ์
เดิมเป็นพระอารามหลวงฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่เคยสำคัญยิ่งในสมัยอยุธยา โดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ทรงสร้างขึ้น และได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้งในหลายสมัย ปัจจุบันเป็นวัดร้างที่สภาพโบราณสถานและโบราณวัตถุที่ยังเหลืออยู่ได้ปรักหักพังไปมาก แต่ก็พอมีเค้าเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงศิลปะการก่อสร้างอันประณีตงดงามและระดับความสำคัญของพระอารามแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดพระศรีสรรเพชญ์
อดีตเคยเป็นวัดประจำพระราชวังเช่นเดียวกันกับวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์จะมีเจดีย์สำคัญ 3 องค์ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกา ตั้งเรียงรายเป็นสัญลักษณ์อย่างสวยงาม และยังมีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างที่สำคัญอื่น ๆ เช่น พระวิหาร หอระฆัง และพระอุโบสถ เป็นต้น
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วิหารพระมงคลบพิตร
พระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปบุทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น เมื่อ พ.ศ. 2499 จอมพล ป. พิบูลสงครามได้บูรณะวิหารพระมงคลบพิตรใหม่ทั้งหมดดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เพื่อให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเคยใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระยุพราชและพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ภายในมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ น่าสนใจ ได้แก่ กำแพงและประตูวัง, พลับพลาจตุรมุข, พระที่นั่งพิมานรัตยา, พระที่นั่งพิสัยศัลลักษณ์ และตึกที่ทำการภาค
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
ภายในจัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของกรุงศรีอยุธยา และของมีค่าต่าง ๆ มีทั้งหมด 3 อาคาร ได้แก่ 1. หมู่อาคารเรือนไทย สร้างอยู่ในสระน้ำ มีลักษณะเป็นเรือนไทยภาคกลาง ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของผู้คนในอดีต 2. อาคารศิลปะในประเทศไทย มี 2 ชั้น จัดแสดงศิลปวัตถุสมัยต่าง ๆ ที่รวบรวมได้จากจังหวัดอยุธยา และ 3. อาคารเจ้าสามพระยา จัดแสดงศิลปวัตถุสำคัญ ๆ จากสมัยอยุธยา
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
ที่เที่ยวอยุธยาเปิดให้บริการวันที่ 23 พฤษภาคม 2563
- วัดพนัญเชิงวรวิหาร
หนึ่งในวัดสำคัญของอยุธยา ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ศิลปะสมัยอู่ทองตอนปลาย นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ พระพุทธรูปปูนปั้น 3 องค์ภายในพระอุโบสถ, พระวิหารเขียน, พระวิหารหลวง, ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก เป็นต้น
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดใหญ่ชัยมงคล
สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ ก็คือ พระเจดีย์ชัยมงคล หรือพระเจดีย์ใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในปี พ.ศ. 2135 เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงทำศึกยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่า ที่ตำบลหนองสาหร่าย เมืองสุพรรณบุรี จึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดนี้เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ต่อมาชาวบ้านก็เรียกวัดนี้ว่า วัดใหญ่ชัยมงคล
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดสุวรรณดาราราม
ตั้งอยู่ริมป้อมเพชร มากมายด้วยสิ่งที่น่าสนใจ ล้ำค่าด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถ ที่ยังคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเทพชุมนุมที่ผนังอุโบสถ, พระทอง (ในพระวิหาร), เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุหลังพระวิหาร และเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิของพระชนกนาถในรัชกาลที่ 1
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดท่าการ้อง
วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ นามว่า “พระพุทธรัตนมงคล” หรือที่เรียกกันว่า “หลวงพ่อยิ้ม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมถึงบริเวณโดยรอบยังได้รับการตกแต่งสวยงามและร่มรื่นน่าเที่ยวชมอีกด้วย
- วัดหน้าพระเมรุ
พลาดไม่ได้กับการนมัสการ "หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ และมีพระลักษณะสวยงามที่สุดองค์หนึ่ง ตลอดจนความสวยงามของ "พระวิหารน้อย" ภายในมีพระคันธารราฐ พระพุทธรูปศิลาเขียวสมัยทวารวดี และภาพจิตรกรรมฝาผนังงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
- วัดธรรมาราม
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระอุโบสถศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ก่อผนังหุ้มกลองหน้า-หลังเชื่อมผนังเป็นหน้าบันยันอกไก่ และปั้นปูนเป็นรูปลายเครือเถา ประดับถ้วยชาม และปั้นปูนลวดลายตรงที่เป็นช่อฟ้าใบระกา
- วัดพุทไธศวรรย์
ความโดดเด่นของวัดพุทไธศวรรย์ คือ "พระมหาธาตุ" หรือปรางค์ประธานสีขาวสะอาดตา มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบปราสาทขอม รวมถึงวิหารพระพุทไธศวรรย์, พระอุโบสถ, ตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์, พระอนุสาวรีย์กษัตริย์ 3 พระองค์และจิตรกรรมฝาผนัง เป็นต้น
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
วัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระปรางค์ใหญ่เป็นประธานหลักของวัด และยังมีพระอุโบสถสมัยอยุธยาซึ่งมีลายดาวเพดานจำหลักไม้งดงามมาก ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่มีความสวยงามมากวัดหนึ่ง
- วัดสะตือ
ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2413 ซึ่งเป็นที่นับถือของคนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ต่างนิยมเดินทางมากราบไหว้เพื่อเสริมสิริมงคล รวมถึงขอพรและโชคลาภต่าง ๆ แก่ตัวเองและครอบครัว ซึ่งมักจะสัมฤทธิผลตามที่ใจหวัง
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดตะโก
วัดชื่อดังอันเนื่องจากเป็นที่จำพรรษาของหลวงพ่อรวย เกจิอาจารย์ชื่อดัง ทั้งยังเป็นพระเกจิที่มีจริยวัตรงดงามปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดตะโก จนอายุครบอุปสมบท ก็อุปสมบทที่วัดตะโก เป็นพระนักพัฒนานำเอาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่วัดตะโกมาตลอดหลายสิบปี
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดเชิงท่า
สิ่งสำคัญภายในวัดก็คือ "ปรางค์ห้ายอดสมัยอยุธยา" มีการก่อฐานพระปรางค์เป็นทรงแท่งสี่เหลี่ยมจัตุรัสและสร้างวิหารยื่นออกไปเป็นรูปกากบาทหรือไม้กางเขน ทางทิศใต้สร้างเป็นวิหารขนาดใหญ่เป็นมหาปราสาทยอดปรางค์ หาชมได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ยังมีธรรมาสน์ปิดทองคำเปลวงดงามตั้งอยู่ภายในศาลาการเปรียญ โดยเชื่อกันว่าลายจำหลักไม้หน้าบันนั้นเป็นของดั้งเดิมที่เหลือรอดมาจากครั้งกรุงแตก
ที่เที่ยวอยุธยาที่เปิดให้บริการแล้ว
- ตลาดโก้งโค้ง
ตลาดโบราณย้อนยุค ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ แบบสมัยอยุธยา เพลิดเพลินด้วยการเลือกซื้อข้าวของต่าง ๆ ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ขนมโบราณ ผลไม้ต่าง ๆ รับชมการรำวงกลองยาว และการทำบุญตักบาตรเหรียญ
- ตลาดน้ำอโยธยา
ตลาดท่องเที่ยวชื่อดังของอยุธยา สัมผัสบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ มีระเบียงริมน้ำให้นักท่องเที่ยวไว้นั่งหย่อนขาสัมผัสสายน้ำเย็นชื่นใจ หลากหลายด้วยเมนูอาหารอร่อย ๆ ทั้งของคาว-ของหวาน เช่น ผัดไทย, ทอดมัน, ก๋วยเตี๋ยว, น้ำพริกปลาทู, ส้มตำรสเด็ด, ขนมครกไข่นกกระทา, ถุงทอง, หมูระเบิด, ไก่ระเบิด, หอยครกกระทะร้อน และยำต่าง ๆ เป็นต้น
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
- วัดพระงาม
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
หนึ่งในไฮไลต์ของวัดพระงาม นั่นคือ ซุ้มประตู ที่ปกคลุมด้วยรากต้นโพธิ์มาเป็นเวลานานกว่าร้อยปี จนได้รับการขนานนามว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” ซึ่งไม่ว่าใครไปที่นี่ ต่างก็ต้องไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเอง แล้วจะรู้สึกได้ถึงความสวยงามและมนตร์เสน่ห์อย่างยากที่จะหาคำมาบรรยาย
- วัดภูเขาทอง
วัดภูเขาทองสถาปนาขึ้นในสมัยสมเด็จพระราเมศวร เมื่อปี พ.ศ. 1930 ภายในมีเจดีย์ภูเขาทองเป็นมหาเจดีย์สำคัญ มีความสูงถึง 90 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชมบริเวณด้านบนรอบเจดีย์ดูวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม, สักการะพระพุทธรูป, ชมรอยพญานาค และวิหารแกลบ เป็นต้น
- พุทธอุทยานมหาราช หลวงปู่ทวด
ที่เที่ยวอยุธยา เปิด
ชมความงดงามของรูปเหมือน “หลวงปู่พ่อทวด” เหยียบน้ำทะเลจืด สร้างจากปูนหุ้มสัมฤทธิ์เคลือบสีทองทั้งองค์ นับได้ว่าเป็นรูปเหมือนพระสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งบริเวณใกล้เคียงกันยังมี “ตลาดหลวงปู่ทวด” ให้ได้เดินเลือกซื้อของกิน ของฝาก และของที่ระลึกมากมาย
ทั้งนี้ ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอยุธยาที่ยังคงปิดให้บริการอยู่ (ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2563) ได้แก่ โฮมสเตย์ ไทรน้อย, เกาะเกิดและรางจระเข้, ป้อมเพชร, ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด, หมู่บ้านโปรตุเกส, พระราชวังบางปะอิน, หมู่บ้านญี่ปุ่น และหมู่บ้านฮอลันดา
หากแต่นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการดังต่อไปนี้
1. เข้า-ออก ผ่านจุดเข้า-ออกที่กำหนด โดยสแกน QR code "ไทยชนะ" หรือลงทะเบียนเข้าชม
2. ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าชม
3. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
4. สวมใส่หน้ากากอนามัย
5. รักษาระยะห่างในที่ที่มีผู้เข้าชมจำนวนมาก
ในส่วนของร้านอาหาร ร้านขายของอื่น ๆ นั้น ส่วนใหญ่เปิดให้บริการเกือบทั้งหมดแล้ว โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด เช่น การเว้นระยะห่าง การทำความสะอาด และการใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น
ตั๊กออแกไนท์อยุธยารับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคอยุธยา
นางรำอยุธยาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคอยุธยา
อยุธยารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคอยุธยา
รําบวงสรวงพญานาคอยุธยา
ฟ้อนบูชาพญานาคอยุธยา
รําบวงสรวงพญานาคอยุธยา
ติดต่อสอบถามเรา
225
« เมื่อ: กันยายน 02, 2021, 01:51:55 AM »
พาลูกลั้ลลา 20 ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ๆ
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คุณพ่อคุณแม่มักจะมองหาที่เที่ยวสำหรับเด็ก ๆ กันอยู่ จริง ๆ แล้วที่เที่ยวสำหรับเด็กมีมากมายให้เลือกหลายประเภท ทั้งสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ สวนน้ำ และสวนสนุก วันนี้เราเลยรวบรวมที่เที่ยวสำหรับเด็ก เผื่อไว้เป็นตัวเลือกให้คุณพ่อและคุณแม่ได้พาเจ้าตัวน้อยออกไปสนุกสนานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กัน
1. SEA LIFE Bangkok Ocean World กรุงเทพฯ
เปิดประสบการณ์โลกใต้ทะเลให้กับเจ้าตัวน้อย สัมผัสดาวทะเลตัวจริงเสียงจริง พร้อมไฮไลต์น่ารักจากเพนกวินน้อย ดำดิ่งไปกับมุมมอง 360 องศา ภายในอุโมงค์ยักษ์ใต้ท้องทะเล และแอบทำตัวเนียนไปกับเหล่าสัตว์น้ำใน "โอเชียน วอล์กเกอร์" อย่าลืมร่วมพิสูจน์ความมหัศจรรย์โลกใต้ทะเลไปด้วยกันนะ
ที่ตั้ง : ชั้น B1-B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 687 2000
เว็บไซต์ : sealifebangkok.com
เฟซบุ๊ก : SEA LIFE Bangkok Ocean World
2. สวนนงนุช
หนึ่งในสถานที่ชื่นชมความงามความยิ่งใหญ่ ของสวนสวยระดับโลกกว่า 50 สวน จัดตกแต่งด้วยต้นไม้นานาพรรณจากทั่วโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ และนอกจากนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาชมความสวยงามของสวนอย่างสนุกสนานแล้ว สามารถเพิ่มความสนุกด้วยกิจกรรมและการแสดงแบบตื่นตาตื่นใจมากมาย สนุกไปกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น กิจกรรมนั่งรถชมสวนสวยแบบ VIP, นวดแผนโบราณ, ให้อาหารปลาช่อนอเมซอน หรือ Arapaima, ปั่นจักรยานน้ำ, นั่งช้างชมสวนสวย, เดินเล่นบนสกายวอล์ก, รถชมสวนสวย, ปั่นจักรยานชมสวน และพรรณไม้, โครงการรักษ์ต้นไม้ ลดโลกร้อน และกิจกรรมออกค่ายในสวนนงนุช เป็นต้น เที่ยวเพลินสนุกได้ทั้งวัน
ที่เที่ยวสำหรับเด็ก
ที่เที่ยวสำหรับเด็ก
และพลาดไม่ได้กับ "หุบเขาไดโนเสาร์" (Dinosaur Valley) มาร่วมกันย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายพันล้านปีก่อน พบกับ ไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธ์ุแบบเสมือนจริง สุดยิ่งใหญ่ อลังการตื่นตาตื่นใจ เป็นอีกหนึ่งโซนที่เอาใจเด็ก ๆ ทั้งหลาย ได้มาสนุกเดินเล่นและถ่ายรูปกับไดโนเสาร์ด้วยกัน เห็นทีว่าเราจะได้เห็นการฟื้นคืนชีพไดโนเสาร์ก็คราวนี้ !
ที่ตั้ง : ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 038 238 061-63
เว็บไซต์ : nongnoochtropicalgarden.com
เฟซบุ๊ก : สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
3. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลอง) กรุงเทพฯ
แหล่งเรียนรู้เรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ ตื่นตาตื่นใจกับนิทรรศการต่าง ๆ ทั้งในห้องฉายดาว และส่วนแสดงนิทรรศการรอบห้องฉายดาว ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหัวข้อการแสดงทุก ๆ 2 เดือน ที่นี่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และห้วงอวกาศอย่างสนุกสนานและตื่นเต้น
ที่ตั้ง : 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 391 0544, 02 3920508, 02 392 1773
เว็บไซต์ : sciplanet.org
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ
4. อุทยานการเรียนรู้ TK Park กรุงเทพฯ
เด็ก ๆ จะได้บ่มเพาะปลูกฝังทัศนคติและนิสัยรักการอ่าน การคิดจนเป็นนิสัย เพราะที่นี่มีจำนวนหนังสือและสื่อการเรียนรู้มากมาย ทำให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยความคิดและจินตนาการริเริ่มสร้างสรรค์กันอย่างเต็มที่ ตลอดจนให้เด็กได้มีโอกาสแสดงผลงานและแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันกับผู้อื่น
ที่ตั้ง : 999/9 อาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 17 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 264 5963-5
เว็บไซต์ : tkpark.or.th
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก TKpark อุทยานการเรียนรู้
5. Batcat Museum & Toys Thailand กรุงเทพฯ
พิพิธภัณฑ์แบทแมนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งเจ้าของพิพิธภัณฑ์ได้เก็บรวบรวมสะสมของเล่นแบทแมนจากทั่วโลกนานกว่า 10 ปี เพื่อมาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ภายในแบ่งเป็นโซน Gotham City, Movie Hero Zone และ Batcat's Store & Souvenir และอย่าลืมแวะ BatBarang Cafe' ร้านกาแฟและเครื่องดื่มสุดเก๋ งานนี้เด็กคนไหนพลาดไปเสียดายแย่
ที่ตั้ง : 3701 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 375 9006
เฟซบุ๊ก : Batcat Museum & Toys Thailand
6. คิดส์ซาเนีย กรุงเทพฯ (Kidzania Bangkok)
แหล่งเรียนรู้สุดสนุกกับบทบาทอาชีพแบบผู้ใหญ่ในเมืองเสมือนจริง โดยให้เด็กสวมบทบาทเป็นอาชีพต่าง ๆ เช่น นักบิน แอร์โฮสเตส นักดับเพลิง หมอ พยาบาล นายธนาคาร นักธุรกิจ นักร้อง นักแสดง ตำรวจ หรือช่างเสริมสวย และอาชีพอื่นอีกมากมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ที่อยากจะทำอาชีพที่ตนเองใฝ่ฝัน
ที่ตั้ง : ชั้น 5 สยามพารากอน
เบอร์โทรศัพท์ : 02 683 1888
เว็บไซต์ : bangkok.kidzania.com
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก KidZania Bangkok
7. พิพิธภัณฑ์เด็ก (Kids Museum) กรุงเทพฯ
สถานที่ที่จะทำให้เด็ก ๆ ทุกคนได้เพลิดเพลิน ทั้งยังเสริมทักษะการเรียนรู้ การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ความกล้าแสดงออก ฯลฯ สนุกไปกับนิทรรศการต่าง ๆ มากมาย ทั้งวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี เทคโนโลยีใกล้ตัว ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อมาที่นี่เด็ก ๆ จะได้ปลดปล่อยจินตนาการและความสนุกสนานอย่างเต็มที่
ที่ตั้ง : สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนกำแพงเพชร 4 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 615 7333, 02 272 4500
เว็บไซต์ : cdm-bangkok.com
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 "จตุจักร"
8. บ้าน ๑,๐๐๐ไม้ Cafe & Farm จังหวัดปทุมธานี
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว สิ่งที่น่าสนใจของที่นี่ ก็คือ การทำกิจกรรมแบบครอบครัว เด็ก ๆ สามารถมาเรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกรกับพ่อแม่ได้ในวันหยุด มีแปลงข้าวให้ลองดำนาด้วยมือตัวเอง มีเรือให้พายเล่นในสระน้ำ ทำไข่เค็มด้วยตัวเองได้ มาลองปลูกผัก เก็บผัก รดน้ำต้นไม้ ใช้เวลา 1 วันได้คุ้มค่าสุด ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีขนมอร่อย ๆ และเครื่องดื่มเย็น ๆ ไว้บริการด้วยค่ะ
ที่ตั้ง : ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 091 998 2466
เฟซบุ๊ก : บ้าน๑,๐๐๐ไม้cafe'&farm
9. มิวเซียมสยาม (Museum Siam) กรุงเทพฯ
พิพิธภัณฑ์แนวใหม่ที่ให้มุมมองความรู้กับเด็ก ๆ อย่างที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับสื่อการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีใหม่ ๆ และกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อสำหรับเด็กอีกต่อไป
ที่ตั้ง : 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 225 2777
เว็บไซต์ : museumsiam.org
เฟซบุ๊ก : Museum Siam
10. สวนสยามทะเล-กรุงเทพฯ (Siamparkcity)
สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ภายใต้เงาต้นไม้ร่มครึ้ม เด็ก ๆ จะได้เพลิดเพลินสนุกสนานไปกับคลื่นทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เครื่องเล่นชั้นนำชนิดต่าง ๆ และบรรดาธีมปาร์กที่ใช้บริการได้ทั้งครอบครัว สมกับเป็นดินแดนแห่งความสนุกสนาน ที่จะทำให้วันหยุดของเหล่าเด็กน้อยอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืม
ที่ตั้ง : 203 ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 919 7200
เว็บไซต์ : siamparkcity.com
เฟซบุ๊ก : Siamparkcity สวนสยามทะเล-กรุงเทพฯ
11. ฟันเนเรี่ยม (Funarium) กรุงเทพฯ
สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ มีพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนเด็กเล็ก (เป็นพื้นที่เพิ่มพัฒนาการของเด็กเล็ก บนพื้นผิวนุ่ม ๆ ลื่นไหลไปกับสไลเดอร์) โซนเด็กโต (สนุกกับเครื่องเล่นปีนป่าย กระโดด คลาน และทรงตัว) โซนกีฬา (มีการจัดลานขี่จักรยานและสนามบาสเกตบอล เพื่อฝึกทักษะทางด้านกีฬา) และโซนบ่อน้ำบ่อทราย (ให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินไปกับการกระโดดไปมาในแอ่งน้ำและก่อปราสาททราย)
ที่ตั้ง : 111/1 สุขุมวิท 26 กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 665 6555
เฟซบุ๊ก : Funarium Bangkok
12. สวนสนุกเพลย์ไทม์ (Playtime Thailand) กรุงเทพฯ
สวนสนุกเด็กในร่มที่เป็นแหล่งการเรียนรู้เพื่อกระตุ้นพัฒนาการเด็กอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยพลังความสนุกและจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัด มีเครื่องเล่นหลากหลายที่เสริมสร้างการพัฒนาร่างกายและสมองของเด็ก ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานในด้านความปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
ที่ตั้ง : พาร์คเลน เอกมัย ชั้น 3-4 18 ซอยเอกมัย 18 ถนนสุขุมวิท 63 ตำบลคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 382 0077
เว็บไซต์ : playtime.co.th
เฟซบุ๊ก : Playtime Thailand
13. Line Village Bangkok : The Digital Adventure
สวนสนุกในร่มแห่งแรกของโลกไลน์เฟรนด์ สัมผัสการเดินทางแสนสนุก แบ่งปันความสุข พร้อมเก็บความประทับใจไม่รู้จบในโลกแห่งจินตนาการที่ LINE VILLAGE BANGKOK แอดเวนเจอร์พาร์คแห่งแรกในโลก LINE FRIENDS Character กับประสบการ์ณสุดพิเศษในหมู่บ้าน กับ บราวน์และผองเพื่อนสุดน่ารัก โคนี่ แซลลี่ ช็อกโก มูน เจมส์ บอส เอ็ดเวิร์ด เจสสิก้า ลีโอนาร์ด เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าลิขสิทธิ์จาก LINE FRIENDS ที่รวมหลากหลายไอเทมคาแรกเตอร์ บอกเลยว่าถูกใจเด็ก ๆ แน่นอน
ที่ตั้ง : ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 095 503 6666
เฟซบุ๊ก : LINE Village Bangkok
14. มอลลี่ แฟนตาเซีย แอนด์ คิดส์ซูน่า (Aeon Fantasy) กรุงเทพฯ
สนามเด็กเล่นในร่มสำหรับเด็กและครอบครัวให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน โดยมีเครื่องเล่นที่มุ่งพัฒนาทักษะทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวและกฎระเบียบสังคมต่าง ๆ ผ่านเครื่องเล่นที่ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์อย่างมีมาตรฐาน
ที่ตั้ง : มีทั้งหมด 9 สาขา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Kidzooona & Molly Fantasy Thailand
เบอร์โทรศัพท์ : 02 108 2652, 02 023 5762, 02 001 2041
เว็บไซต์ : aeonfantasy.co.th
เฟซบุ๊ก : Kidzooona & Molly Fantasy Thailand
15. Imaginia Playland กรุงเทพฯ
สวนสนุกสุดไฮเทค ที่จะพาเด็ก ๆ ไปเสริมสร้างจินตนาการ ภายในมีโซนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Art Gallery ให้เด็ก ๆ แต่งแต้มสีภาพบนจอทัชสกรีนได้เอง หรือจะเป็นโซน Wonder Car ให้เด็ก ๆ ลงสีรถบนหน้าจอทัชสกรีน และภาพจะปรากฏขึ้นบนรถขนาดใหญ่ จากนั้นไปสนุกต่อกับโซน Shadow Forest ขยับร่างกายไปมา สร้างแสงและเงาให้ดูมีปีกแบบเท่ ๆ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสำหรับเด็ก ที่ทำให้ทุกคนได้ปลุกจินตนาการสร้างสรรค์อย่างเต็มที่
ที่ตั้ง : ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ชั้น 3 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 02 664 8338
เว็บไซต์ : imaginiaplayland.com
เฟซบุ๊ก : Imaginia Playland
16. พิพิธภัณฑ์ของเล่น Tooney Venue (Toy Museum) จังหวัดนนทบุรี
สถานที่ที่รวบรวมของเล่น ของสะสมจากการ์ตูนที่เจ้าของพิพิธภัณฑ์เป็นผู้เก็บรวบรวมไว้ มาที่นี่เด็ก ๆ จะได้สัมผัสกับความทรงจำเก่า ๆ ผ่านเรื่องราวของตัวการ์ตูน ภาพยนตร์ต่าง ๆ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในอดีตอีกครั้ง
ที่ตั้ง : 69/275 หมู่ 1 ซอยศรีสมาน 8 ถนนศรีสมาน ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 089 103 6303
เว็บไซต์ : tooneymuseum.com
เฟซบุ๊ก : Tooney Toy Museum
17. พัทยาดอลฟิน เวิลด์ จังหวัดชลบุรี
"พัทยาดอลฟิน เวิลด์" ชมโชว์โลมาแสนรู้ ที่จะมาสร้างสีสัน และความเพลิดเพลินในโชว์การแสดงสุดตื่นตาตื่นใจที่จะทำให้เหล่าเด็ก ๆ ต้องทึ่ง รวมถึงยังมีสถานที่บริการเพื่อการพักผ่อนในรูปแบบต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น นั่งรถม้า ขับรถเอทีวี ปีนหน้าผาจำลอง เป็นต้น
ที่ตั้ง : 44/8 หมู่ 9 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 038 051 790-6
เว็บไซต์ : pattayadolphins-world.com
เฟซบุ๊ก :Pattaya Dolphin World
18. พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมี (Teddy Island Pattaya) จังหวัดชลบุรี
พิพิธภัณฑ์ที่จะมอบความสุขและความสนุกสนานให้กับเด็ก ๆ ชมความน่ารักและถ่ายรูปคู่ อุ้ม และกอดกับเท็ดดี้แบร์ได้ตามใจชอบ โดยเฉพาะโซนเทพนิยาย ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางสามารถนั่งพักผ่อน มีสไลเดอร์ไว้ให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่น มีบ้านต้นไม้และสถานที่อื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับเด็ก ๆ อย่างแน่นอน
ที่ตั้ง : 436/49 หมู่ 9 ซอย 1 ถนนเลียบชายหาด ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 038 411 285
เว็บไซต์ : teddybearmuseumpattaya.com
เฟซบุ๊ก : Teddybear Museum Pattaya
19. สวนน้ำ Cartoon Network Amazone จังหวัดชลบุรี
สวนน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 35 ไร่ ร่วมสนุกสนานไปกับบรรดากองทัพการ์ตูนฮีโร่ยอดฮิตจากซีรีส์การ์ตูนดังมากมาย เช่น Ben 10, The Powerpuff Girls, Johnny Bravo และ The Amazing World of Gumball เป็นต้น รวมถึงเครื่องเล่นนานาชนิด รับรองว่าเด็กคนไหนมาที่นี่ได้พกความสนุกกลับบ้านไปเต็มกระเป๋า
ที่ตั้ง : 888 หมู่ 8 ถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 038 237 797
เว็บไซต์ : cartoonnetworkamazone.com
เฟซบุ๊ก : Cartoon Network Amazone
20. คาเมล รีพับบลิค จังหวัดเพชรบุรี
ตั้งอยู่บนพื้นที่ 35 ไร่ในรูปแบบสวนสนุกสไตล์โมร็อกโก ภายในถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ "โซนเครื่องเล่น" ที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด และทันสมัย "โซนสวนสัตว์" เป็นแหล่งรวบรวมสัตว์หาดูยากหลายชนิด และโซนสุดท้าย คือ "ร้านค้า" มีการจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย
ที่ตั้ง : ถนนเพชรเกษม ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ เพชรบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 092 269 5055
เว็บไซต์ : camel-republic.com
เฟซบุ๊ก : Camel Republic สวนอูฐ ชะอำ
ตั๊กออแกไนท์ปทุมวัน รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคปทุมวัน
นางรำปทุมวันเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคปทุมวัน
ปทุมวันรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคปทุมวัน
รําบวงสรวงพญานาคปทุมวัน
ฟ้อนบูชาพญานาคปทุมวัน
รําบวงสรวงพญานาคปทุมวัน
ติดต่อสอบถามเรา
หน้า: 1 ... 13 14 [15] 16 17 ... 30
แสดงกระทู้