สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่เที่ยวลำปาง - 10 ที่เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาดลำปาง เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา  (อ่าน 904 ครั้ง)

admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 831
    • ดูรายละเอียด
ที่เที่ยวลำปาง - 10 ที่เที่ยวเมืองต้องห้ามพลาดลำปาง เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา

ถ้าพูดถึงที่เที่ยวลำปาง หลาย ๆ คนจะนึกถึงวัดพระธาตุลำปางหลวง รถม้า กาดกองต้า หรือชามตราไก่ แต่จริง ๆ แล้วลำปางยังมีที่เที่ยวอีกมากมายให้ไปสัมผัส และเราเคยนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวลำปางไปแล้วในกระทู้ เที่ยวลำปางกับ 10 สถานที่สุดประทับใจน่าไปสัมผัส วันนี้เราเลยขอหยิบเอาที่เที่ยวลำปางอื่น ๆ มาแนะนำกันด้วย บอกเลยว่า...ลำปางจะไม่ใช่เมืองทางผ่านสำหรับการเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ อีกต่อไป

1. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

            ก่อนไปเที่ยวที่อื่น ๆ เริ่มแรกเราชวนให้ไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลำปางด้านตะวันตกเฉียงใต้ อำเภอเมืองลำปาง กันก่อนค่ะ สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว โดยมีการสร้างหลักที่หนึ่งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2400 ตามด้วยหลักที่สองในปี พ.ศ. 2416 และหลักที่สามในปี พ.ศ. 2429 ครั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2440 ได้มีการสร้างศาลากลางจังหวัดขึ้น จึงได้นำหลักเมืองนี้มาไว้บริเวณหน้าศาลากลาง และได้สร้างมณฑปครอบหลักเมืองทั้งสามในปี พ.ศ. 2511 ปัจจุบันศาลหลักเมืองเป็นที่เก็บรวบรวมเสาหลักเมืองโบราณอยู่นานนับศตวรรษจากที่ต่าง ๆ และยังเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อดำ" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวลำปางเคารพยิ่ง

2. วัดจองคำ พระอารามหลวง

            ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านหวด อำเภองาว เป็นอีกหนึ่งวัดที่ชาวงาวให้ความเคารพศรัทธา ด้วยเป็นวัดเก่าแก่ มีความสวยงามไม่แพ้วัดไหนในภาคเหนือ สันนิษฐานว่าสร้างโดยชาวไทใหญ่ เพราะอาคารต่าง ๆ ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมแบบศิลปะไทใหญ่ วิหารที่สร้างขึ้นใหม่ ก็ยังคงศิลปะแบบดั้งเดิมไม่ผิดเพี้ยน สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือ "พระมหาเจดีย์พุทธคยา" ซึ่งสร้างจำลองมาจากเจดีย์พุทธคยาในประเทศอินเดีย สูงประมาณ 51 เมตร มีเจดีย์องค์เล็กอยู่รอบทั้ง 4 ทิศ ตกแต่งอย่างสวยงามทั้งด้านนอกและด้านใน

            สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก เจดีย์พุทธคยา วัดจองคำ พระอารามหลวง อ.งาว จ.ลำปาง Bodhgaya WatChongkham

เที่ยวลำปาง

3. วัดพระธาตุดอยพระฌาน

           วัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบบนภูเขาที่เรียกว่า "ดอยพระฌาน" สามารถมองเห็นทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะ เห็นทิวเขาต้นไม้เขียวขจีได้รอบทิศ ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวในช่วงเช้าสามารถชมทะเลหมอกอันงดงามได้อีกด้วย ทั้งนี้วัดมีพื้นที่ 2 ส่วน คือ พื้นที่ด้านล่างซึ่งเป็นตัววัด และพื้นที่บนยอดเขาเป็นที่ตั้งของพระธาตุ ซึ่งต้องขับรถต่อไปจากตัววัดประมาณ 4-5 กิโลเมตร

เที่ยวลำปาง

4. วัดพระเจดีย์ซาวหลัง

            วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของลำปาง ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง ภายในวัดมีสิ่งสำคัญมากมาย เช่น "องค์พระธาตุเจดีย์ซาว" เป็นศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า เชื่อกันว่าหากใครนับได้ครบ 20 องค์ ถือว่าเป็นคนมีบุญ ทั้งนี้ข้างหมู่พระเจดีย์จะมีวิหารหลังเล็กประดิษฐานพระพุทธรูปสำริด ปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน ชาวบ้านเรียกว่าพระพุทธรูปทันใจ, "พระอุโบสถหลังใหญ่" ที่ประดิษฐานพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีพุทธลักษณะงดงาม

          "พิพิธภัณฑสถานเขลางค์นคร" สถานที่แสดงโบราณวัตถุที่ชาวบ้านนำมาถวายเมื่อ พ.ศ. 2526 ชาวบ้านได้ขุดพบพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์หนัก 100 บาท 2 สลึง แล้วนำมามอบให้แก่ทางวัด ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ชื่อว่า "พระแสนแซ่ทองคำ" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยล้านนา อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21 ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้วครึ่ง สูง 15 นิ้ว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุแห่งชาติ

5. วัดศรีชุม

            วัดศรีชุม ตั้งอยู่บริเวณถนนศรีชุม-แม่วะ ตำบลศรีชุม อำเภอเมืองลำปาง นับเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ในประเทศไทย สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2433 โดยคหบดีพม่าชื่ออูโย ผู้ติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานด้านป่าไม้ในประเทศไทย ความโดดเด่นของวัดนี้คือ "พระวิหาร" ที่เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านนาและพม่า มีหลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามมาก และวัดศรีชุมได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2524 ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้พระวิหารทั้งหลังเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เหลือเพียงไม้แกะสลักลวดลายพรรณพฤกษาฉลุโปร่งตรงซุ้มประตูทางขึ้นวิหารเท่านั้น ปัจจุบันได้มีการบูรณะวัดนี้ขึ้นใหม่ และนำชิ้นส่วนเครื่องประดับอาคารที่ถูกไฟไหม้ไปจัดแสดงไว้ด้านหลังวิหาร

6. วัดปงสนุก

            ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปงสนุก ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง สร้างขึ้นในสมัยเจ้าอนันตยศ ซึ่งเป็นราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (จังหวัดลำพูนในปัจจุบัน) ไฮไลต์สำคัญของวัดนี้คือ "วิหารพระเจ้าพันองค์" ที่ได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก ปี 2008 เป็นวิหารสร้างด้วยไม้ โครงสร้างของวิหารมีลักษณะเป็นมณฑปเปิดโล่งตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูปสี่องค์ พระพักตร์แต่ละองค์ก็หันออกไปยังทิศทั้งสี่ ส่วนหลังคามีลักษณะซ้อนกันสามชั้น รวมไปถึงเสาสี่เหลี่ยมที่ค้ำตัววิหารก็มีลวดลายอันน่าวิจิตรปรากฏให้เห็นอยู่แทบทุกต้น และบริเวณด้านบนรอบในของตัววิหารได้รับการประดับด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวนมากถึง 1,080 องค์ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ วิหารพันองค์ ที่ใช้เรียกกันอย่างติดปาก

7. วัดอักโขชัยคีรี

            ตั้งอยู่บริเวณ กม.ที่ 50 บนทางหลวงหมายเลข 1035 ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม โดดเด่นด้วยวิหารบนเขาสูง ต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 227 ขั้น ด้านบนมีทั้งวิหารและพระธาตุ ภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ เรียกว่า พระศากยมุณีคีรีอักโข ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชาวเมืองแจ้ห่มให้ความเคารพศรัทธาอย่างมาก สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้อยู่ตรงที่ปรากฏการณ์เงาสะท้อนภาพหัวกลับของพระธาตุ ที่จะสามารถชมได้ภายในวิหารชมเงา โดยภาพที่ปรากฏจะเป็นภาพสีของพระธาตุกลับหัวอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีหินไม้โบราณ เป็นซากไม้ดึกดำบรรพ์ให้ชมอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปดูเงาสะท้อนพระธาตุกลับหัว สามารถไปชมได้ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. ของทุกวัน

8.  วัดพระธาตุจอมปิง

            ชวนไปบ้านจอมปิง ตำบลนาแก้ว อำเภอเกาะคา ชมสิ่งมหัศจรรย์แห่งเงาสะท้อนของพระธาตุกลับหัว ผ่านรูเล็ก ๆ บนหน้าต่างที่เผยความงามให้เห็นบนพื้นภายในพระอุโบสถตลอดเวลา ในช่วงที่มีแสงสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน ณ วัดพระธาตุจอมปิง วัดโบราณที่มีตำนานการสร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา นอกจากนี้ยังมีวัตถุโบราณต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณวัดนำมาจัดแสดงให้ได้ศึกษาเรียนรู้กันอีกด้วย

9. วัดบุญวาทย์วิหาร

            วัดหลวงวัดแรกของจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ที่ถนนบุญวาทย์ ตำบลหัวเวียง อำเภอเมืองลำปาง เดิมชื่อ "วัดกลางเมือง" เป็นวัดที่ใช้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของเจ้านายมาแต่โบราณ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2347 สมัยพระเจ้าคำโสม เจ้าผู้ครองนครลำปาง ได้รื้อวิหารหลังเก่าแล้วสร้างใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดหลวงไชยสัณฐาน ต่อมาเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปาง เห็นความทรุดโทรมลงมากจึงรื้อแล้วสร้างใหม่ และให้หล่อพระประธานองค์ใหม่คือ "พระพุทธรุปพระเจ้าตนหลวง" แล้วเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า วัดบุญวาทย์บำรุง ในปี พ.ศ. 2458 วัดบุญวาทย์ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงสามัญชั้นตรี และได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดบุญวาทย์วิหาร"

10. สำนักสงฆ์ดอยวังเฮือ

            ตั้งอยู่บ้านผาลาด ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง สำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งห่างจากชุมชนค่อนข้างมาก จึงทำให้มีความเงียบสงบ ภายในพระวิหารของสำนักสงฆ์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นามว่า โคตมะ สิ่งมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นเมื่อหลวงพ่อภูริปัญโญภิกขุ ได้บอกให้เราค่อย ๆ เอามือไปป้องแสงที่จุดใดจุดหนึ่งของพระพุทธรูปก็ได้ จากเนื้อพระพุทธรูปสีขาวกลับกลายเป็นสีเขียวส่องสะท้อนขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่อให้พวกเราช่วยกันปิดหน้าต่าง และเมื่อความมืดมาเยือน พระพุทธรูปทั้งองค์ก็ได้เรืองแสงสีเขียวปรากฏออกมาให้พวกเราต้องร้องว้าว !! ทันที ซึ่งเมื่อมองไปที่ใบหน้าของพระพุทธรูปก็จะเห็นว่าเป็นพระพักตร์ที่งดงาม แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้มากราบไหว้จึงรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

ตั๊กออแกไนท์ลำปางรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคลำปาง
นางรำลำปางเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคลำปาง
ลำปางรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคลำปาง
รําบวงสรวงพญานาคลำปาง
ฟ้อนบูชาพญานาคลำปาง


  ติดต่อสอบถามเรา