สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - admin

หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 30
286
20 ที่เที่ยวตาก หลากสไตล์เพลิน ๆ น่าเที่ยวตลอดทั้งปี

ที่เที่ยวตาก จังหวัดที่ยังคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ให้เราได้เที่ยวกันแบบเพลิน ๆ ใครวางแผนเที่ยวตากห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด


          ตาก...จังหวัดเล็ก ๆ ที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ แถมยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักจังหวัดตากเพราะน้ำตกทีลอซู แต่ตากยังมีที่เที่ยวดี ๆ มากมายซ่อนอยู่อีกเพียบ แถมเรายังสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ในช่วงวันหยุดสั้น ๆ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ตระเวนไปเยี่ยมเยือน "ที่เที่ยวตาก" กัน ต่อไปครั้งหน้า…ใครที่กำลังเดินทางไปเที่ยวตากจะได้ไปตามเช็กอินกันได้ถูกจุด

1. ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

          ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดโบสถ์มณีศรีบุญเรือง เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อจังหวัดตาก สังเกตได้ว่าจะมีตุ๊กตาทหาร ม้า และไก่ นำมาแก้บนกันเป็นจำนวนมาก งดงามด้วยพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในพระอิริยาบถกำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา และที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกไว้ว่า "พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2277 สวรรคต พ.ศ. 2325 รวม 48 พรรษา" ซึ่งเป็นที่เคารพศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนทั่วไป

2. น้ำตกทีลอซู

          สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดตาก ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ เกิดจากลำน้ำห้วยกล้อทอทั้งสายที่ไหลแผ่ปกคลุมพื้นที่หน้าผากว้าง ก่อนที่จะทะยานลงสู่หน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สูงกว่า 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์

ที่เที่ยวตาก

          ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด หากแต่นักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องระมัดระวังในการเดินทางด้วยเช่นกัน โดยต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผางก่อนทุกครั้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โทรศัพท์ 055 511 142

3. น้ำตกทีลอจ่อ

          น้ำตกทีลอจ่อ หรือน้ำตกสายฝน ความโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้ คือภาพความสวยงามของสายน้ำที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน เมื่อหล่นลงมากระทบเข้ากับหิน ธารน้ำดังกล่าวก็แตกกระจายเป็นฝอย ดูคล้ายกับสายฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า และบางครั้งก็เกิดเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างรุ้งกินน้ำให้เราได้เห็นกัน

ที่เที่ยวตาก

          แนะนำว่าถ้าคุณอยากที่จะเห็นปรากฏการณ์สายรุ้ง ควรมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ปกติแล้วการมาเที่ยวน้ำตกทีลอจ่อ มักจะรวมอยู่ในแพ็กเกจท่องเที่ยวเส้นทางน้ำตกทีลอซู โดยน้ำตกทีลอจ่อจะเป็นน้ำตกทางผ่านของเรือยางที่มุ่งหน้าสู่น้ำตกทีลอซูต่อไปนั่นเอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก TAT TAK

4. น้ำตกทีลอเล

          ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง โดย "ทีลอเล" แปลเป็นภาษากะเหรี่ยงว่า "น้ำตกหิน" โดยมีความสูงอยู่ราว 80 เมตร หากเป็นช่วงน้ำลดจะเห็นโขดหินโผล่เหนือลำน้ำสามารถลงไปยืนเล่นน้ำกันได้ การจะเดินทางไปชมน้ำตกหินกลางแม่น้ำแม่กลองแห่งนี้ได้นั้น ต้องล่องเรือยางเท่านั้น โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่หมู่บ้านปะละทะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใต้สุดของอุ้มผาง นั่งเรือไป 3-4 ชั่วโมง ก็จะไปเจอกับน้ำตกทีลอเล ช่วงที่นิยมล่องแก่งจะอยู่ประมาณเดือนมกราคม-มีนาคม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับน้ำด้วยว่าเยอะหรือน้อยแค่ไหน

5. น้ำตกปิตุ๊โกร

          ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยสามหมื่น อำเภออุ้มผาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูงประมาณ 500 เมตร ถือเป็นน้ำตกแห่งความสวยงาม และเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยลักษณะของน้ำตกจะเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านหน้าผาหินขนาดใหญ่ โดยชั้นน้ำตกที่เป็นไฮไลต์สำคัญ คือชั้นน้ำตกที่ไหลมารวมกันจากด้านซ้ายและขวาเป็นรูปตัววีขนาดใหญ่ จนเกิดม่านสีขาวมองดูคล้ายรูปหัวใจ


6. หาดหัวหิน เขื่อนภูมิพล

          ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่ปิงตอนล่าง รอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ที่นักท่องเที่ยวจะได้เดินเล่นไปบนชายหาดทอดตัวยาวไปกับลำน้ำปิง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองตาก รวมทั้งนักท่องเที่ยวจังหวัดใกล้เคียง ที่พากันเดินทางมาเล่นน้ำ ดื่มด่ำความชุ่มฉ่ำริมชายหาด มีห่วงยางให้เช่าลงเล่นน้ำ และเก้าอี้ชายหาดให้นั่งเล่นชิล ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อนของทุกวัน จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาคลายร้อนริมหาดแม่ปิงแห่งนี้กันไม่ขาดสาย

7. ดอยหลวงตาก

          ดอยสันเขาสวยที่ทอดตัวบนสันขอบอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช โดยนักท่องเที่ยวจะใช้เวลาพิชิตดอยหลวงตากประมาณ 6-7 ชั่วโมง พร้อมกับชื่นชมธรรมชาติสวยตั้งแต่ป่าไผ่ ป่าเต็งรัง มีจุดชมวิวสองจุด จุดแรกชื่อว่า "เขาหน้าลิง" และจุดที่สอง "โล้นหลวง" จุดนี้เป็นจุดที่นักถ่ายภาพทุกคนห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด นักเดินป่ามือใหม่สามารถไปได้ โดยแนะนำให้ออกกำลังกายเตรียมร่างกายให้พร้อม และหากว่าโชคดีอาจจะได้เจอกับทะเลหมอกสวย ๆ ก็ได้นะ

ที่เที่ยวตาก

8. ดอยทูเล

          หรือม่อนทูเล เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในอำเภอท่าสองยาง มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร ชาวปกาเกอะญอเรียกภูเขาแห่งนี้ว่า "ทูเลโค๊ะ" หมายถึง ภูเขาสีทอง เพราะในช่วงหน้าหนาวกลางเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ของทุกปี ทุ่งหญ้าเขียวขจีจะเปลี่ยนเป็นทุ่งสีทองท่ามกลางทะเลหมอกและมีอากาศหนาวเย็น เหมาะสำหรับการกางเต็นท์นอนชมดาวและเก็บภาพอาทิตย์ขึ้นและตกดิน อย่างไรก็ตามหากจะมาสัมผัสดอยแห่งนี้อาจจะต้องใช้พละกำลังกันเยอะหน่อย เนื่องจากเส้นทางการเดินเป็นเส้นทางชัน อีกทั้งต้องขึ้นและลงภูเขาจึงต้องใช้กำลังมากพอดู ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อม

ที่เที่ยวตาก

9. วัดพระบรมธาตุบ้านตาก

          ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหลวง วัดเก่าแก่ที่ผ่านการปฏิสังขรณ์หลายครั้ง ไฮไลต์ที่น่าชมภายในวัดนี้ ได้แก่ อุโบสถซึ่งมีประตูไม้แกะสลักสวยงาม หน้าบันและจั่วเป็นไม้ ส่วนหน้าต่างแกะสลักเป็นพุทธประวัติปิดทอง หัวบันไดเป็นนาค ขณะเดียวกันวิหารของวัดซึ่งเป็นวิหารเก่านั้นมีเพดานสูง 2 ชั้น โดยมีช่องลมอยู่โดยรอบ จึงทำให้อากาศภายในเย็นสบาย และยังมี "พระเจ้าทันใจ" เป็นที่นับถือและศรัทธาของชาวบ้าน ที่ไม่ว่าจะเดินทางมาขอพรด้วยเรื่องอะไรก็สำเร็จดังหวังทุกประการ


10. วัดไทยวัฒนาราม

          วัดไทยใหญ่ที่ตั้งอยู่ในตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2400 โดยนายมุ้ง ชาวเมียนมาจากรัฐฉานที่อพยพครอบครัวมาอาศัยอยู่ในอำเภอแม่สอด และเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้านแม่ตาว สำหรับสิ่งที่น่าสนใจ เช่น พระมหามัยมุนี พระพุทธรูปที่จำลองมาจากพระพุทธมหามุนีอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองมัณฑะเลย์, รูปปั้นหงส์สีทองและเจดีย์โกนวินทรงเครื่องสีทองที่ตั้งตระหง่านอยู่เคียงกัน

11. วัดพระพุทธบาทดอยโล้น

          วัดป่าสายวิปัสสนากรรมฐาน ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลท้องฟ้า อำเภอบ้านตาก มีบรรยากาศอันร่มรื่น แวดล้อมด้วยป่าเขา ไฮไลต์ไม่ควรพลาดคือการไปกราบขอพร "พระมหาสากะยะมุณีศรีสรรเพชร" พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่มีพุทธลักษณะงดงามอย่างยิ่ง มีหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร และสูง 38 เมตร และประดิษฐานอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ก่อนจะไปสักการะ "รอยพระพุทธบาท" ที่อยู่บนภูเขาสูงชัน โดยมีมณฑปสร้างครอบองค์พระพุทธบาทไว้ และในบริเวณเดียวกันยังมีบ่อน้ำธรรมชาติที่เชื่อกันว่าเป็น "บ่อน้ำทิพย์" โดยมีเรื่องเล่าว่าหากมีผู้หญิงไปตักน้ำในบ่อแห่งนี้น้ำในบ่อจะแห้ง แต่ถ้าผู้ชายตักเท่าไรนั้นน้ำในบ่อก็จะไม่หมด

12. อุทยานแห่งชาติแม่เมย

          ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแม่อุสุ และตำบลแม่สอง บรรยากาศโดยรอบสงบร่มรื่นด้วยป่าเขา และมีสถานที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะจุดชมทะเลหมอกภายในอุทยาน ได้แก่ "จุดชมทะเลหมอกหลังที่ทำการอุทยาน" เป็นจุดที่ชมทะเลหมอกได้กว้างไกลและชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก "ม่อนครูบาใส" และ "ม่อนพูนสุดา" อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าและพระอาทิตย์ตกดิน

ที่เที่ยวตาก

          และ "ม่อนกิ่วลม" เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดเพื่อดูพระอาทิตย์ยามเช้าเหนือทะเลหมอก ใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติสวย ๆ มาที่นี่ไม่มีผิดหวัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่เมย โทรศัพท์ 088 290 7964

13. ดอยสอยมาลัย

          ตั้งอยู่ที่ตำบลท้องฟ้า อำเภอบ้านตาก ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม ทางขึ้นดอยสอยมาลัยจะอยู่ติดกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจุดลงทะเบียน โดยเส้นทางระยะแรกเป็นดินโคลนแดง สลับกับทางเริ่มชันขึ้นพอประมาณ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นถิ่นอาศัยของซาลาแมนเดอร์ หรือจิ้งจกน้ำ เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่พบเห็นได้ยากอีกด้วย (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น โทรศัพท์ 055 581 643)

14. น้ำตกลานสาง

          น้ำตกสวยตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติลานสาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก เพราะห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไม่ไกล โดยเดินเลียบตามไหล่เขา แต่ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการเดิน เพราะทางค่อนข้างชันและแคบ ความสวยงามอยู่ที่สายธารน้ำตกที่ไหลพุ่งออกจากซอกเขา แล้วหักเหลี่ยมรวมตัวลงสู่แอ่งน้ำ เป็นภาพความงามของธรรมชาติที่สวยงามสุด ๆ

ที่เที่ยวตาก


15. อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า

          ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร และกิ่งอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ประกอบไปด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์ และยังเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำปิง จึงไม่แปลกที่อุทยานแห่งนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านน้ำตกอันสวยงามหลายแห่ง ที่ไม่ควรพลาดเลย คือ "น้ำตกเต่าดำ" น้ำตกขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ความงดงามของน้ำตกเต่าดำ คือสายน้ำที่ไหลตั้งฉากลงมาอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา และ "น้ำตกคลองวังเจ้า" น้ำตกขนาดกลาง ทั้งยังเป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

ที่เที่ยวตาก

16. น้ำตกพาเจริญ

          น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ จากบริเวณลานจอดรถเดินไปไม่ไกลจะเจอกับน้ำตก เป็นน้ำตกหินปูนที่สวยงามด้วยชั้นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยจำนวนมาก สวยงามและร่มรื่น มีน้ำตลอดปี ช่วงที่สวยที่สุดจะอยู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม การเดินทางจากอำเภอแม่สอด ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1090 ถึง กม.ที่ 37 มีทางแยกเข้าไปประมาณ 700 เมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

17. สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี

          จุดชมวิวแม่น้ำปิงที่ดีที่สุดของจังหวัดตาก เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2525 บนสะพานมีระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร โดยทำหน้าที่เชื่อมตัวเมืองตากกับตำบลป่ามะม่วง โดยเฉพาะในตอนกลางคืนนั้นจะมีการประดับไฟสวยงาม ทำให้ตัวสะพานแลดูสว่างไสวโดดเด่นเหนือผืนน้ำสีเข้ม นอกจากนี้บริเวณโดยรอบสะพานยังมีสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีภูมิทัศน์สวยงาม ให้คุณได้มาเที่ยวกันแบบเพลิน ๆ

ที่เที่ยวตาก

ที่เที่ยวตาก

18. กาดนั่งยอง คล้องย่าม

          กาดหรือตลาดถนนคนเดินริมแม่น้ำปิง ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำปิง จากหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดออกไปราว 1 กิโลเมตร เอกลักษณ์ของที่นี่คือจะตั้งร้านบนแคร่ไม้ไผ่ที่มีความสูงประมาณเข่า ทำให้เวลาเลือกซื้อสินค้าต้องก้มหรือนั่งยอง ๆ ส่วนคำว่าคล้องย่ามนั้น มาจากการที่จังหวัดตากมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เช่น ชาวไทยภูเขา นิยมใช้ย่ามในการใส่ของ จนมีการผลิตย่ามจำหน่ายเป็นสินค้าประจำท้องถิ่น เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 16.00-21.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก กาดนั่งยอง คล้องย่าม จังหวัดตาก

19. ไร่เตรยาวรรณ

          ร้านกาแฟและสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของอำเภอพบพระ เป็นพื้นที่ของ คุณวิชัย เตรยาวรรณ และ คุณขวัญเรือน เตรยาวรรณ มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 70 ไร่ แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ พื้นที่สวนผลไม้-สวนปาล์มประดับ และพื้นที่อยู่อาศัย โดยในพื้นที่อยู่อาศัยนี้ก็แบ่งออกเป็นโซนหลัก ๆ อีก 3 โซน คือ ร้านกาแฟ สวนหิน และบ้านพักส่วนตัว

          ในส่วนของสวนหินและร้านกาแฟเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ฟรี ซึ่งจะมีการจัดสวนอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ พร้อมทั้งสระน้ำกว้างขวาง มีการนำหินรูปร่างสวยงามแปลกตามาจัดแสดงอยู่ทั่วสวน บรรยากาศร่มรื่น และก็ยังมีจุดถ่ายภาพแนวสตรีตอาร์ตเก๋ ๆ ชิค ๆ ให้ได้มาถ่ายรูปกัน ใครอยากปั่นจักรยานก็มีไว้บริการ นอกจากนี้ก็ยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ ให้ไปเซลฟี่อีกเพียบ ส่วนที่ร้านกาแฟก็จะมีเครื่องดื่มเตรียมไว้บริการมากมาย พร้อมทั้งขนมเค้กอร่อย ๆ อีกหลากหลายแบบ ตกแต่งในสไตล์ไทยโบราณผสมผสานยุโรปตะวันตก บรรยากาศสบาย ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ไร่เตรยาวรรณ

20. ไร่ปฐมเพชร

         ไร่กุหลาบขนาดใหญ่ที่ส่งไปขายทั่วประเทศ ตั้งอยู่ที่อำเภอพบพระ มีดอกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายสีสันชูช่อดอกสวยงามละลานตา เดินถ่ายรูปเล่นกันเพลิน ๆ อีกทั้งยังมี "การทำกุหลาบแปรรูป" เป็นกุหลาบอบแห้งที่ยังคงมีสีสันสวยงาม และสามารถอยู่ได้นานถึง 10 ปี กลายเป็นของฝากของที่ระลึกอันล้ำค่า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ไร่ปฐมเพชร

ที่เที่ยวตาก

          ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของที่เที่ยวตากที่น่าสนใจเท่านั้น ใครที่เคยไปเที่ยวตากมาแล้ว และอยากจะแชร์ที่เที่ยวตากดี ๆ ก็บอกเรากันมาด้วยนะ เพราะเราไม่อยากให้เพื่อน ๆ คนอื่นต้องพลาดจุดเช็กอินไปเลยสักจุด ยังไงอย่าลืมหาเวลา แล้วเดินทางไปเที่ยวที่ตากกันเยอะ ๆ นะ ^ ^

ตั๊กออแกไนท์ตาก รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคตาก
นางรำตากเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคตาก
ตากรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคตาก
รําบวงสรวงพญานาคตาก
ฟ้อนบูชาพญานาคตาก
รําบวงสรวงพญานาคตาก



  ติดต่อสอบถามเรา        
            







287
20 ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ เมืองสุดน่ารักที่ห้ามพลาด

ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ ดินแดนแห่งไอหมอกที่เติมเต็มความสดชื่นไปด้วยไอเย็นและความชุ่มฉ่ำ เมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจดจำหลายหลากเส้นทางมีที่ไหนบ้างตามไปชมกันเลย

          เมื่อย่างก้าวเข้าสู่หน้าฝน...แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็จะเต็มไปด้วยความเย็นและความชุ่มฉ่ำ "จังหวัดเพชรบูรณ์" ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี รวมถึงศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลายซึ่งถูกรังสรรค์และถ่ายทอดปรากฏให้เห็นตามวัดวาอารามต่าง ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวม "ที่เที่ยวเพชรบูรณ์" ที่เพื่อน ๆ หลายคนไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนมาฝากกันค่ะ ว่าแล้วเก็บเสื้อผ้า พร้อมชุดกันฝนให้พร้อม แล้วออกไปท่องเมืองสุดน่ารักนี้กันดีกว่า
 
1. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ยอดฮิต

          เริ่มกันที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ถือเป็นหนึ่งในสถานที่นอนรับลมเย็น ๆ พร้อมนอนชมดาวในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี ซึ่งพื้นที่อุทยานเป็นพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมถึง 2 จังหวัด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดชัยภูมิ และด้วยความสมบูรณ์ของอุทยานที่เต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

         ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว เช่น น้ำตกตาดพรานบา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่บนหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร, จุดชมวิวถ้ำผาหงษ์ สำหรับชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น, จุดชมวิวภูค้อ สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมวิวกว้างไกล สามารถมองเห็นภูกระดึงและภูผาจิตได้, สวนสนบ้านแปกหรือดงแปก ป่าที่เต็มไปด้วยต้นสนสองใบขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมทั้งเป็นสถานที่ชมดอกกล้วยไม้ป่าและพรรณไม้แปลกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมได้, ภูผาจิต (ภูด่านอีป้อง) เป็นภูเขาที่มีที่ราบบนยอดเขาคล้ายภูกระดึงเหมาะสำหรับชมวิวป่าสน, น้ำตกเหวทราย เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดที่เกิดขึ้นจากห้วยสนามทราย ซึ่งเป็นแนวแบ่งเขตแดน และป่าเปลี่ยนสีในเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปี ผืนป่าบริเวณนี้จะผลัดใบเปลี่ยนสีอย่างสวยงาม เป็นต้น

         ที่อยู่ : ตำบลน้ำหนาว อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
         เบอร์โทรศัพท์ : 081 962 6236
         เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว (Namnao National Park)

2. ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์

          ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ หรือชื่อเดิมสถานีทดลองเกษตรที่สูงเขาค้อ ตั้งอยู่เลขที่ 51 หมู่ 3 บ้านเสลียงแห้ง ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ เป็นหนึ่งในสถานีทดลองเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจนได้รับการขนานนามให้เป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนในทุก ๆ ฤดู แถมยังสามารถเข้ามาชมแปลงผัก ผลไม้ ที่เป็นพืชเมืองหนาวได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร พร้อมทั้งป่าธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นค้อ สัญลักษณ์ของอำเภอเขาค้ออีกด้วย

         ที่อยู่ : หมู่ที่ 3 ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
         เบอร์โทรศัพท์ : 089 272 0061
         เฟซบุ๊ก : ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์

3. เขาค้อ ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน

          เรียกได้ว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งการพักผ่อนเลยก็ว่าได้ สำหรับอำเภอเขาค้อ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนทุกฤดูกาล สำหรับชื่อเขาค้อนั้นมาจากเดิมบริเวณนี้มีต้นค้อ ซึ่งเป็นต้นไม้ตระกูลปาล์มอยู่เป็นจำนวนมาก และนอกจากอากาศที่เย็นสบายแล้วที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ เช่น อนุสาวรีย์จีนฮ่อ อนุสาวรีย์ทหารอาสาจากหน่วยรบกองพลที่ 93 ซึ่งมาช่วยรบในพื้นที่เขาค้อและเสียชีวิตในการสู้รบ, ฐานอิทธิ จุดชมวิวที่สวยงาม ซึ่งในอดีตเคยเป็นฐานสำคัญทางยุทธศาสตร์ ปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธ จัดแสดงปืนใหญ่ ซากรถถัง และอาวุธที่ใช้สู้รบกันบนเขาค้อ, อนุสาวรีย์ผู้เสียสละจารึกชื่อผู้เสียชีวิตจากการสู้รบในสงคราม เป็นต้น

4. ภูทับเบิก ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ เขียวขจีด้วยไร่ดอกกะหล่ำ

          เมื่อเอ่ยถึงชื่อภูทับเบิก หลายคนต้องนึกถึงวิวภูเขาไร่กะหล่ำปลี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่ของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และด้วยสถานที่ตั้งที่อยู่บนจุดที่สูงที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว เพราะมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถนอนกางเต็นท์ชมดาวในตอนกลางคืน
         
          นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น สถานีวิจัยเพชรบูรณ์แปลงทดลองทับเบิก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แหล่งสาธิตการปลูกพืชเมืองหนาว และวัดป่าภูทับเบิก ซึ่งมีพระมหาเจดีย์โพธิปักขิยธรรม เจดีย์เพชร 37 ยอด บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ธาตุไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสักการะ และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา ให้ได้ถ่ายภาพความสวยงาม

5. ไร่กำนันจุล (ฟาร์มสเตย์)

          กำนันจุล คุ้นวงศ์ เป็นเกษตรกรเจ้าของไร่ส้มที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเพชรบูรณ์มายาวนาน และยังเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ชอบค้นคว้าทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้พัฒนาด้านการเกษตรอยู่เสมอ จนกลายเป็นแหล่งผลิตส้มขนาดใหญ่ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ ทำให้ชื่อเสียงของ "ไร่ส้มกำนันจุล" เป็นที่รู้จักมากขึ้น

          ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเพียบพร้อมไปด้วยผลิตภัณฑ์แปรรูปอร่อย ๆ ที่ผลิตจากวัตถุดิบหลักที่ได้จากไร่, กลุ่มสินค้าผ้าไหมไทย, สินค้าเครื่องสำอางสมุนไพร รวมทั้งเปิดเป็นฟาร์มสเตย์สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนด้วย

         ที่อยู่ : หมุ่ 3 ตำบลวังชมภู อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
         เบอร์โทรศัพท์ : 056 771 555
         เว็บไซต์ : kamnanchul.com
         เฟซบุ๊ก : ไร่กำนันจุล

6. พระตำหนักเขาค้อ

           เป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นที่ทรงงานและแปรพระราชฐานมาประทับแรมในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรงานโครงการในพระราชดำริ และทรงตรวจเยี่ยมราษฎรอำเภอเขาค้อและอำเภอใกล้เคียงในอดีต ตั้งอยู่บนเขาย่า จุดชมวิวเมืองเขาค้อที่สามารถชมได้กว้าง 360 องศา ในส่วนของพระตำหนักเขาค้อเป็นอาคารเชื่อมต่อกันลักษณะรูปวงแหวน 2 ชั้น บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสวนหย่อมที่ปลูกไม้ดอกนานาชนิด มีอากาศที่เย็นสบายเหมาะสำหรับการพักผ่อน บริเวณใกล้ ๆ กันมีบ้านพักทหารม้าซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนได้

         ที่อยู่ : ตำบลเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

7. วัดมหาธาตุ

           วัดเก่าแก่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่บริเวณถนนนิกรบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง สร้างขึ้นเมื่อประมาณ  พ.ศ. 1926 ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพระประธานในพระอุโบสถ มีพระนามว่า "หลวงพ่องาม" และพระประธานในพระวิหารนามว่า "หลวงพ่อเพชรมีชัย" มีพระพุทธรูปบูชา พระเครื่อง พระพิมพ์ต่าง ๆ ตลอดจนวัตถุโบราณอื่น ๆ นอกจากนี้มีพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัย ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย

         ที่อยู่ : ถนนนิกรบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
         เบอร์โทรศัพท์ : 056 713 174
         เฟซบุ๊ก : วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์

8. วัดไตรภูมิ

           ตั้งอยู่บนถนนเพชรรัตน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง วัดโบราณที่ประดิษฐาน "พระพุทธมหาธรรมราชา" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิสมัยลพบุรี หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 13 นิ้ว สูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน พระพักตร์กว้าง มีลักษณะเป็นเหลี่ยม พระโอษฐ์แบะ ประดิษฐานบนโต๊ะบูชาในศาลาไม้ ซึ่งถูกพบครั้งแรกที่แม่น้ำป่าสัก มีจำนวนสององค์ องค์จริงคือองค์บนสุด ส่วนองค์ที่อยู่ด้านล่างหล่อจำลองขึ้นใหม่เพื่อใช้ประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นประจำทุกปี

         ที่อยู่ : ซอยเพชรรัตน์แสงสันต์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์

9. วัดช้างเผือก
 
           วัดเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี ตั้งอยู่ที่ตำบลวังชมภู อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ภายในวัดโดดเด่นด้วยรูปปั้นช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระเวสสันดรชาดก และเป็นที่เก็บรักษาสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยของพระครูวิชิตพัชราจารย์ หรือ "หลวงพ่อทบ" พระศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง บรรจุอยู่ในโลงแก้วภายในมณฑป พร้อมเปิดให้ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์และนักท่องเที่ยวได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

         ที่อยู่ : บ้านยางหัวลม ตำบลวังชมภู อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์

10. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

           ตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นที่สอนปฏิบัติการเจริญสติปัฏฐาน 4 ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบ มีภูเขาที่สูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้นมีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคนได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า "ผาซ่อนแก้ว"

          ที่อยู่ : หมู่ 7 บ้านทางแดง ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
          เฟซบุ๊ก : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
          เว็บไซต์ : phasornkaew.org
 
11. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา)

ที่เที่ยวเพชรบูรณ์

           อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หนองแม่นา) หรือ "ทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งเมืองไทย" สถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูรณ์ มีหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สล.8 (หนองแม่นา) ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานด้านจังหวัดพิษณุโลกประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งจุดท่องเที่ยวด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ส่วนใหญ่เป็นป่าสนธรรมชาติและทุ่งหญ้าสะวันนา ที่มีทิวทัศน์และพรรณไม้ดอกที่สวยงามโดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝน-ฤดูหนาว เหมาะแก่กิจกรรมเดินป่า กางเต็นท์พักแรม และปั่นจักรยานเสือภูเขา

           ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของที่นี่ ได้แก่ ทุ่งนางพญา ป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง ซึ่งตามกิ่งสนจะพบกล้วยไม้ป่าที่สวยงาม เช่น เอื้องชะนีและเอื้องคำปากไก่, แก่งวังน้ำเย็น เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ยาวหลายร้อยเมตร ในระหว่างแก่งแต่ละแก่งเป็นวังน้ำลึกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ค้นพบแมงกะพรุนน้ำจืด และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ผีเสื้อบริเวณริมลำธารหลายชนิด เป็นต้น

          ที่อยู่ : ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
          เบอร์โทรศัพท์ : 088 756 4940

12. ทุ่งทานตะวันที่บึงสามพัน

           ตั้งอยู่บริเวณบ้านเขาพลวง บ้านป่ายาง ตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน มีการปลูกทานตะวันครอบคลุมเต็มไปทั้งพื้นที่กว่าหมื่นไร่ ซึ่งจะบานสะพรั่งต้อนรับสายลมหนาวในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ของทุกปี นอกจากจะได้มาท่องเที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ แล้วที่นี่ยังจัดงาน "ตะวันบานบนภูที่บึงสามพัน" ซึ่งภายในงานก็จัดให้มีกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง เช่น การจัดประกวดดอกทานตะวันที่ใหญ่ที่สุด การประกวดธิดาตะวัน การแปรรูปเมล็ดทานตะวัน และการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมและซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย

           ที่อยู่ : ตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์

13. เนินมหัศจรรย์

           เรียกได้ว่าที่นี่ยังคงรอคอยให้นักท่องเที่ยวไปท้าพิสูจน์กันอยู่เสมอเลยก็ว่าได้ สำหรับเนินมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่บริเวณจุดผ่านเล็ก ๆ อยู่กิโลเมตรที่ 17-18 ของทางหลวงหมายเลข 2258 (นางั่ว-สะเดาะพง) ตำบลริมสีม่วง อำเภอเขาค้อ  ความมหัศจรรย์ของเนินมหัศจรรย์ที่นิยมทดลองกันมากที่สุด คือจอดรถดับเครื่องและปล่อยเกียร์ว่าง รถจะไหลขึ้นเนินสูงได้เองไกลประมาณ 10 เมตร โดยมีการพิสูจน์ปรากฏการณ์ดังกล่าวมาแล้วพบว่าเกิดจากภาพลวงตา เนื่องจากวัดระดับความสูงของเนินจะมีระดับต่ำกว่าช่วงที่เป็นทางขึ้นเนิน ดังนั้นรถจึงถอยหลังตามแรงโน้มถ่วงของโลก

          ที่อยู่ : ตำบลริมสีม่วง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

14. อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ

ที่เที่ยวเพชรบูรณ์

           แหล่งโบราณสถานที่สำคัญอายุกว่า 1,000 ปี ลักษณะเป็นเมืองโบราณที่มีคูน้ำและคันดินล้อมรอบ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,899 ไร่  แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เมืองส่วนใน บนพื้นที่ 1,300 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปเกือบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีช่องทางเข้า-ออก 6 ช่องทาง พื้นที่ภายในเป็นที่ราบลอนคลื่น มีสระน้ำ หนองน้ำกระจายอยู่ทั่วไป พบซากโบราณสถานกว่า 70 แห่ง บางแห่งได้รับการขุดแต่งบูรณะแล้ว และเมืองส่วนนอก บนพื้นที่ 1,589 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าต่อกับเมืองส่วนใน ขนาดเป็น 2 เท่าของเมืองส่วนใน มีช่องทางเข้า-ออก 6 ช่องทาง มีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไป

          ที่อยู่ : ตำบลศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
          เบอร์โทรศัพท์ : 088 858 1290
          เฟซบุ๊ก : อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ

15. ถนนคนเดินไทหล่ม

           ถนนคนเดินไทหล่ม ตั้งอยู่ที่ถนนรณกิจ อำเภอหล่มสัก ตลอดสองฟากฝั่งถนนสายรณกิจนี้ยังคงเป็นบ้านเรือนไม้โบราณ 2 ชั้น ตั้งเรียงราย ซึ่งถือว่าเป็นถนนสายเก่าแก่ของอำเภอหล่มสัก เปิดทุกเย็นวันเสาร์ เวลา 17.00-22.00 น. พ่อค้าแม่ค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอำเภอหล่มสักจะมาตั้งร้านค้าเรียงรายตลอด ถนนเส้นนี้จำหน่ายอาหารพื้นเมืองที่หารับประทานยาก เช่น ขนมจีนไทหล่ม ปิ้งไก่ข้าวเบือ ข้าวหลามพญาลืมแกง ฯลฯ สินค้าพื้นเมือง เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าทำมือของชาวบ้านที่สามารถซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก

          ที่อยู่ : ถนนรณกิจ ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
          เบอร์โทรศัพท์ : 056 701 060
          เฟซบุ๊ก : ถนนคนเดินไทหล่ม

16. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาแดง

          ตั้งอยู่ในอำเภอหล่มสัก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปที่หลายคนอาจจะไม่รู้จักมากนัก แต่ที่นี่กลับแอบซ่อนจุดชมวิวที่สวยงามเอาไว้ นั่นก็คือ "ผาแดง" มีลักษณะที่โดดเด่นด้วยชะง่อนผาที่ยื่นออกไปกลางอากาศ และเมื่อไปยืนอยู่บริเวณใกล้ ๆ ชะง่อนผาก็จะสามารถมองเห็นวิวความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณป่าแดง รวมทั้งยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นได้อย่างโรแมนติกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับตั้งแคมปิ้ง (แต่ต้องเตรียมเสบียงมาเอง) ให้นักท่องเที่ยวได้พักค้างคืนเพื่อสัมผัสธรรมชาติได้อีกด้วย

          ที่อยู่ : ตำบลปากช่อง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

17. เขาตะเคียนโง๊ะ

ที่เที่ยวเพชรบูรณ์

         จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเขาค้อ สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แบบรอบทิศ และมาพร้อมกับบรรยากาศความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน จากจุดชมวิวคุณจะมองเห็นวิวของเทือกเขาสวยอยู่เบื้องหน้า รวมถึงฝืนป่าและถนนที่ทอดตัวยาว ได้นอนดูดาวยามค่ำคืน ตื่นเช้ามารอดูพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมกับทะเลหมอกแบบ 360 องศา เป็นทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงามราวกับสวรรค์เลยทีเดียวเชียว

          ที่อยู่ : ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

18. ทุ่งกังหันลม เขาค้อ

ที่เที่ยวเพชรบูรณ์

ที่เที่ยวเพชรบูรณ์

         ใครอยากมีรูปถ่ายชิค ๆ คู่กับกังหันลมบรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอก ต้องไม่พลาดไปเดินถ่ายรูปเล่นกันที่ทุ่งกังหันลม บ้านเพชรดำ หรือที่เรียกกันว่า ทุ่งกังหันลมเขาค้อ ซึ่งมีกังหันลมสีขาวสูงกว่า 100 เมตร จำนวน 24 ต้น ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา รอบข้างเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ๆ สามารถเดินถ่ายรูปได้อย่างจุใจ อากาศเย็นสบายเพราะตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน

         ที่อยู่ : ตำบลเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

19. แก่งบางระจัน

         แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศของหมู่บ้านหนองแม่นา ที่จะพานักท่องเที่ยวชมธรรมชาติลำน้ำเข็กอันเงียบสงบในช่วงหน้าแล้ง ราวเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ทุกปี โดยมีกลุ่มชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการกิจกรรมท่องเที่ยวในบริเวณนี้ กิจกรรมการท่องเที่ยวมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบค้างแรมในป่า 2 วัน 1 คืน หรือแบบเช้าไปเย็น-กลับ นอกจากนี้ ยังสามารถทำกิจกรรมระยะสั้น โดยนั่งเรือเรือแจวจากแก่งบางระจันไปยังแก่งสอง ไป-กลับใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสวยงามเงียบสงบของป่าต้นน้ำเข็ก ซึ่งอยู่ระหว่างพื้นที่รอยต่อจังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ สวยงามและน่าประทับใจ

         ที่อยู่ : แก่งบางระจัน ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

20. แกรนด์แคนยอนหล่มสัก

         อีกหนึ่งที่เที่ยวสุดอันซีนของเพชรบูรณ์ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากเท่าไร ความสวยงามของสถานที่แห่งนี้อยู่ที่...ชั้นดินที่ยกตัวขึ้นสูงเองตามธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลาเป็นหลายร้อยปี ภาพที่เราเห็นเบื้องหน้าจึงเป็นภูมิทัศน์ที่ทั้งสวยงามและแปลกตา มองดูแล้วเหมือนแกรนด์แคนยอนที่อมเริกาเลยทีเดียว เผลอ ๆ อาจได้รูปสวย ๆ ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วยนะคะ ใครอยากเที่ยวเพชรบูรณ์ในมุมที่ต่างออกไปจากเดิม ลองมาเช็กอินที่นี่กันได้ค่ะ

         ที่อยู่ : บ้านติ้ว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
       
           เรียกได้ว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ ดินแดนที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ว่าแล้วหน้าฝนนี้ลองแวะไปเที่ยวให้ชุ่มฉ่ำกันที่เพชรบูรณ์กันดีกว่าค่ะ

ตั๊กออแกไนท์เพชรบูรณ์ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเพชรบูรณ์
นางรำเพชรบูรณ์เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเพชรบูรณ์
เพชรบูรณ์รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเพชรบูรณ์
รําบวงสรวงพญานาคเพชรบูรณ์
ฟ้อนบูชาพญานาคเพชรบูรณ์
รําบวงสรวงพญานาคเพชรบูรณ์


  ติดต่อสอบถามเรา        
            








288
สถานที่ท่องเที่ยวพิษณุโลก ครบรสความสนุก เช็กอินแบบจุใจ

สถานที่ท่องเที่ยวพิษณุโลก มากมายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ให้นักท่องเที่ยวเดินทางตามมาเช็กอินแบบจุใจ เที่ยวจังหวัดนี้จังหวัดเดียวมีแต่คุ้มกับคุ้ม

         พิษณุโลก หนึ่งในจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ เป็นดินแดนที่โรแมนติกน่าหลงใหล และเที่ยวพักผ่อนได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งอาหารและที่พัก จนทำให้ใครที่มาเยือนต้องประทับใจและกลับมาเที่ยวอีกหลายครั้ง สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนเริ่มชักอยากรู้แล้วว่ามีที่เที่ยวพิษณุโลกที่ไหนให้เราได้ไปเที่ยวบ้าง ในครั้งนี้เรามีที่เที่ยวทั้งเด็ดและสวยมาแนะนำกัน

1. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

         ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ในอดีตพื้นที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทางภาคเหนือ ปัจจุบัน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและประวัติศาสตร์ มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์การสู้รบ, โรงเรียนการเมืองการทหาร, กังหันน้ำ, โรงพยาบาลรัฐ, ลานอเนกประสงค์, สุสาน ท.ป.ท., หมู่บ้านมวลชน เป็นต้น และแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เช่น ลานหินแตก, ลานหินปุ่ม, ผาชูธง, น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร, น้ำตกศรีพัชรินทร์, น้ำตกตาดฟ้า และน้ำตกผาลาด เป็นต้น

         ที่อยู่ : ครอบคลุมพื้นที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
         เบอร์โทรศํพท์ : 055 356 607, 081 596 5977
         เฟซบุ๊ก : ภูหินร่องกล้า ดินแดนประวัติศาสตร์ มหัศจรรย์ธรรมชาติ

ที่เที่ยวพิษณุโลก

2. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

        อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก ด้วยลักษณะที่เป็นเทือกเขาสูง เป็นป่าดิบเขาสลับทุ่งหญ้าและป่าสน จึงทำให้พื้นที่ป่าที่นี่ค่อนข้างมีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก โดยไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นั่นคือ "ภูสอยดาว" ซึ่งสามารถมาท่องเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าหากอยากดูดอกไม้สีสวย ๆ ที่มักจะขึ้นเพื่อรับความชุ่มชื้นในช่วงหน้าฝน ควรจะมาในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทั้งนี้บนลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์เพื่อสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนำเต็นท์มาเองหรือจะเช่าเต็นท์จากทางอุทยานก็ได้

         ที่อยู่ : ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก
         เบอร์โทรศํพท์ : 055 436 793
         เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park

ที่เที่ยวพิษณุโลก

3. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง

         สถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ อำเภอวังทอง อำเภอนครไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และในอำเภอเขาค้อ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้สัตว์ป่านานาชนิดซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยว ซึ่งจุดท่องเที่ยวด้านจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นป่าสนธรรมชาติและทุ่งหญ้าสะวันนา มีทิวทัศน์และพรรณไม้ดอกที่สวยงาม และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ทุ่งนางพญา ป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง ซึ่งตามกิ่งสนจะพบกล้วยไม้ป่าที่สวยงาม เช่น เอื้องชะนีและเอื้องคำปากไก่, แก่งวังน้ำเย็นเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ยาวหลายร้อยเมตร ในระหว่างแก่งแต่ละแก่งเป็นวังน้ำลึกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ค้นพบแมงกะพรุนน้ำจืด และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ผีเสื้อบริเวณริมลำธารหลายชนิด เป็นต้น

         ที่อยู่ : ครอบคลุมพื้นที่อำเภอวังทอง อำเภอนครไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และในอำเภอเขาค้อ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์
         เบอร์โทรศัพท์ : 088 756 4940

ที่เที่ยวพิษณุโลก

4. วัดนางพญา

         ตั้งอยู่ถนนจ่าการบุญ วัดสำคัญที่บรรดาเกจิพระเครื่องรู้จักกันดี เพราะมีสุดยอดพระเป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคี ที่เรียกกันว่า "พระนางพญา" เป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยม มีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดมีพระนางพญาไว้ในครอบครอง จะทำให้ผู้ใต้ปกครองนั้นรู้สึกยำเกรงประดุจนางพญา ปัจจุบันจัดเป็นพระเครื่องที่หายากมากแล้ว สำหรับสถาปัตยกรรมของวัดนางพญานั้นน่าจะเป็น สมัยเดียวกับวัดราชบูรณะ แต่ต่างกันตรงที่วัดนางพญาไม่มีพระอุโบสถ มีแต่วิหารเท่านั้น

         ที่อยู่ : ถนนจ่าการบุญ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก

5. ล่องแพแก่งไฮ

          ตั้งอยู่ที่อ่างเก็บน้ำแก่งไฮ อำเภอนครไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวชิล ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปพักผ่อนชมความสวยงามของธรรมชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวยังสนุกไปกับการล่องแพไม้ไผ่ โดยมีเรือยนต์ลาก พร้อมกับได้นั่งกินอาหารอร่อย ๆ ดื่มด่ำวิวที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา ดูแล้วสบายตา เหมาะกับเป็นที่เที่ยววันหยุดพักผ่อนของทุกคน แนะนำว่าถ้าใครอยากล่องแพ ให้โทรศัพท์จองก่อนล่วงหน้าจะดีที่สุด

          ที่อยู่ : ตำบลหนองกะท้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
          เฟซบุ๊ก : ล่องแพ แก่งไฮ ผู้ใหญ่ฮิปปี้

ที่เที่ยวพิษณุโลก

6. น้ำตกชาติตระการ

         ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ มีทั้งหมดด้วยกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามตามธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป ประกอบด้วย มะลิวัลย์, กรรณิการ์, การะเกด, ยี่สุ่นเทศ, เกศเมือง, เรืองยศ และรจนา นอกจากนี้ภายในอุทยานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีกด้วย เช่น ผาแดง น้ำตกนาจาน ผากระดาน ถ้ำน้ำมุด และถ้ำกา นอกจากนั้นอุทยานฯ ยังมีที่พักสำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างแรมอีกด้วย

         ที่อยู่ : ตำบลชาติตระการ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
         เบอร์โทรศัพท์ : 055 906 522
         เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ Namtok Chat Trakan

ที่เที่ยวพิษณุโลก


7. น้ำตกแก่งซอง

         ตั้งอยู่ในอำเภอวังทอง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวช่วงฤดูหนาว-ฤดูร้อน เพราะจะได้เห็นสายน้ำของน้ำตกแก่งซองไหลเอื่อยสบาย ๆ แต่ในช่วงฤดูฝนอาจไม่ค่อยเหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำสักเท่าไร เพราะกระแสน้ำไหลค่อนข้างแรง คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของ บ้านเรือนต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำตก ซึ่งมาพร้อมกับสะพานแขวนไว้เดินชมแม่น้ำเข็ก รวมทั้งสามารถข้ามไปยัง หมู่บ้านฝั่งตรงข้ามได้นอกจากนี้ไม่ไกลจากน้ำตกแก่งซองอีกด้วยค่ะ

         ที่อยู่ : ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

ที่เที่ยวพิษณุโลก

8. น้ำตกปอย

         ตั้งอยู่บริเวณสวนป่ากระยาง เป็นน้ำตกที่มีลานกว้าง มีชั้นเดียว เวลาสายน้ำตกไหล จะเห็นเป็นลักษณะคล้ายม่านน้ำตก ตกลงมาอย่างสวยงาม บริเวณโดยรอบเป็นสวนป่าเขากระยาง ปลูกไม้ดอกไม้ประดับตกแต่ง มีศาลาพักผ่อน โดยนักท่องเที่ยวสามารถพักเลือกค้างแรม ณ สวนป่ากระยาง แล้วเดินตามเส้นทางดังกล่าวไปจนถึงน้ำตกปอยได้ไม่ลำบาก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจช่วงวันหยุดได้ชิล ๆ

         ที่อยู่ : ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

ที่เที่ยวพิษณุโลก

9. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก

         หนึ่งในสถานที่ล่องแก่งที่ได้ชื่อว่าสนุกสนานที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยระดับความยากของการล่องแก่งลำน้ำเข็กจะอยู่ที่ระดับ 1-5 ซึ่งระดับ 5 จะเป็นระดับที่ยากที่สุด โดยในลำน้ำเข็กจะมีระดับ 5 อยู่ประมาณ 3-4 จุด คือ แก่งซาง, แก่งยาว, แก่งโสภาราม และแก่งนางคอย ทั้งนี้กิจกรรมการล่องแก่งลำน้ำเข็ก จะมีขึ้นในช่วงหน้าฝนของทุกปี (บางปีที่น้ำน้อยก็ล่องไม่ได้) ใครที่สนใจอยากจะล่องแก่ง จะต้องโทรศัพท์สอบถามเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพราะปริมาณน้ำของลำน้ำเข็กนั้นขึ้น-ลงเร็ว หากมีฝนตกหนัก ก็ไม่เหมาะแก่การล่องแก่ง

         ที่อยู่ : ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

10. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี

         ตั้งอยู่ที่ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ในตัวเมืองพิษณุโลก ก่อตั้งโดยจ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ ซึ่งมีความรักและผูกพันกับข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านเมือง จึงตั้งใจที่จะรักษาไว้ให้เป็นคลังความรู้ที่ให้คนไทยทุกคนได้รู้จัก ที่นี่จึงเป็นแหล่งเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรม เปิดให้เราได้เรียนรู้เรื่องราววิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ และภูมิปัญญาไทย ของชาวพิษณุโลกเอาไว้อย่างครบถ้วน และพลาดไม่ได้กับการชม "ควายไม้" สัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ว่าใครต้องมาถ่ายรูปด้วยกันทุกคน

         ที่อยู่ : ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
         เบอร์โทรศัพท์ : 055 212 749
         เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี พิษณุโลก

11. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

         ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก และเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรม ที่ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ให้เคารพบูชา เช่น พระพุทธธูปเข้านิพพาน พระเหลือ พระศรีศาสดา เป็นต้น

         ที่อยู่ : ถนนพุทธบูชา อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก

12. วัดจุฬามณี

         วัดสำคัญเก่าแก่ของจังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่ามีมาก่อนสมัยสุโขทัย และยังเป็นที่ตั้งของเมืองสองแควโบราณก่อนจะมาเป็นเมืองพิษณุโลกในปัจจุบัน ภายในวัดยังคงพบโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญทางพุทธศาสนา คือ "พระพุทธบาทจำลอง" ประดิษฐานอยู่ภายในปรางค์ขอมโบราณ ก่อด้วยศิลาแลง และ "ศิลาจารึก" ที่ฝังอยู่ภายในกำแพงมณฑป และมีพระพุทธรูปสำคัญอีกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อขาว, หลวงพ่อคง, หลวงพ่อดำ และหลวงพ่อเพชร เป็นต้น

         ที่อยู่ : หมู่ 2 ริมน้ำ ตำบลท่าทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก

ที่เที่ยวพิษณุโลก

13. พระราชวังจันทน์

         พระราชวังโบราณ โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานพร้อมทั้งประกาศขอบเขตที่ดินโบราณสถาน เมื่อ พ.ศ.2537 ภายในมีสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ เป็นอาคารจัดแสดงเนื้อหาที่เกี่ยวกับพระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก และพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, วัดวิหารทอง สันนิษฐานว่าเคยเป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารส ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานในอุโบสถวัดสระเกศ, วัดศรีสุคต สันนิษฐานว่าวัดศรีสุคตน่าจะเป็นวัดที่มีอยู่ก่อนการสร้างพระราชวังจันทน์ และวัดโพธิ์ทอง ประกอบด้วยเจดีย์ประธาน ที่เหลือเพียงส่วนฐานเขียง มีเจดีย์รายประจำมุมทั้งสี่มุม เป็นต้น

         ที่อยู่ : ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
       
14. เนินมะปราง
 
         ความโดดเด่นของอำเภอเนินมะปราง นั่นคือธรรมชาติที่สวยงามของภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตา และท้องทุ่งนาสุดกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยป่าเขาสีเขียวขจีสุดอุดมสมบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ ได้แก่ จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย, จุดชมวิวและโฮมสเตย์บ้านรักไทย, ภูเขาหินปูนบ้านมุง, ทุ่งทานตะวันบ้านไร่ภูตะวัน, ชมค้างคาวยามเย็นที่บ้านมุง และน้ำตกถ้ำหมี เป็นต้น นักท่องเที่ยวคนไหนที่ชื่นชอบการเที่ยวในบรรยากาศที่สงบ จะพลาดที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด

         ที่อยู่ : อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก


15. ผาโปกโล้น

         ตั้งอยู่ที่ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 1-2 กิโลเมตร เพื่อชมความงดงามของทะเลหมอกสุดอลังการในยามเช้า ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายและบรรยากาศเงียบสงบ โดยที่หมู่บ้านในตำบลนครชุมก็มีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว

         ที่อยู่ : ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
         เบอร์โทรศัพท์ : 055 009 808
         เฟซบุ๊ก : เขาโปกโล้น

         เป็นยังไงบ้างคะ แต่ละที่เที่ยวพิษณุโลกที่เราเอามาให้ดูกัน แต่ละที่บอกเลยว่าน่าเที่ยวทั้งนั้น แถมยังมีที่เที่ยวหลากหลาย เช็กอินกันได้อย่างจุใจ ใครกำลังคิดไม่ไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี มาเที่ยวที่พิษณุโลกกันนะคะ ^ ^

ตั๊กออแกไนท์พิษณุโลกรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคพิษณุโลก
นางรำพิษณุโลกเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคพิษณุโลก
พิษณุโลกรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคพิษณุโลก
รําบวงสรวงพญานาคพิษณุโลก
ฟ้อนบูชาพญานาคพิษณุโลก
รําบวงสรวงพญานาคพิษณุโลก



  ติดต่อสอบถามเรา        
            








289
เที่ยวพิจิตร ไปยลโฉม 13 ที่เที่ยวเมืองชาละวัน

  เที่ยวพิจิตร เมืองชาละวัน จังหวัดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมา พลาดไม่ได้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ในพิจิตร ที่จะทำให้คุณสนุกอีกขึ้นอีกเป็นกอง

         ถิ่นประสูติพระเจ้าเสือ แข่งเรือยาวประเพณี พระเครื่องดีหลวงพ่อเงิน เพลิดเพลินบึงสีไฟ ศูนย์รวมใจหลวงพ่อเพชร รสเด็ดส้มท่าข่อย ข้าวเจ้าอร่อยลือเลื่อง ตำนานเมืองชาละวัน ... นี่คือคำขวัญของจังหวัดพิจิตร จังหวัดที่หลายคนมักถามว่า "พิจิตร มีอะไรให้เที่ยว" ซึ่งจริง ๆ แล้วที่นี่มีอะไรเจ๋ง ๆ ให้เราได้ค้นหามากมาย

ที่เที่ยวพิจิตร
ภาพจาก SP rabbito / Shutter.com

          จังหวัดพิจิตร เป็นจังหวัดที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ล่วงมาถึงปัจจุบัน พิจิตรก็ยังคงเป็นเมืองที่มีความสงบ สมกับเป็นเมืองพระ ที่มีวัดวาอารามเก่าแก่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง มีโบราณสถาน บึงน้ำขนาดใหญ่ และอื่น ๆ อีกเพียบ วันนี้เราจะไปสำรวจหาของดีกันดูว่าพิจิตรในวันนี้มีที่เที่ยวที่ไหนสวยงามและโดดเด่นบ้าง ตามมาดูกันเลย

1. วัดท่าหลวง

ที่เที่ยวพิจิตร
ภาพจาก kwanchai / Suhtter.com

          เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพิจิตรอายุนับร้อยปี อันเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อเพชร" พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนที่มีอายุกว่า 800 ปี ซึ่งหล่อด้วยทองสำริด และมีพุทธลักษณะงามล้ำเกินคำบรรยาย องค์พระมีหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร ตามประวัติเล่าว่าพระพิจิตรผู้เป็นเจ้าเมืองอยากได้พระประธานมาประดิษฐานที่เมืองพิจิตร เมื่อทัพกรุงศรีอยุธยาเดินทางผ่านเมืองเพื่อไปปราบขบถจอมทองเมืองเชียงใหม่ พระพิจิตรจึงได้ขอร้องแม่ทัพว่าหากปราบขบถเสร็จแล้ว ขอให้หาพระพุทธรูปมาฝาก ครั้นเมื่อเสร็จศึก แม่ทัพนั้นได้อาราธนาพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร ลงแพลูกบวบล่องมาทางแม่น้ำปิง โดยฝากเจ้าเมืองกำแพงเพชรไว้ จากนั้นได้อาราธนาหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้ ณ อุโบสถวัดนครชุมก่อน แล้วจึงย้ายมาประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร จนถึงปัจจุบัน

         ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
         เฟซบุ๊ก : วัดท่าหลวงพระอารามหลวงพิจิตร

2. วัดหัวดง

          ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ตำบลหัวดง อำเภอเมืองพิจิตร ทางตอนใต้ของตัวเมืองพิจิตรไปตามเส้นทางสายพิจิตร-ตะพานหิน ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2413 ผูกพัทธสีมาครั้งแรก พ.ศ. 2468 ความน่าสนใจอยู่ที่การค้นพบพระรูปเหมือนหลวงพ่อเงินขนาดหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว เนื้อนวโลหะ (ทองเหลือง) ที่แทรกขึ้นมาบริเวณต้นอินทนิล เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ซึ่งหลวงพ่อเงินนั้นเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนทั่วไปรู้จักและเคารพนับถือเป็นจำนวนมาก และจากนั้นมาวัดแห่งนี้ก็เป็นที่รู้จักของชาวพิจิตร มีผู้คนแวะเวียนมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย

         ที่อยู่ : ตำบลฆะมัง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
         เฟซบุ๊ก : วัดหัวดง ตำบลหัวดง จังหวัดพิจิตร

3. วัดยางสามต้นวนาราม (วัดไตรยาง)

ที่เที่ยวพิจิตร

          ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลหนองพระ ริมทางหลวงหมายเลข 11 อำเภอวังทรายพูน ความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อเงินวัดไตรยาง" เป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวเมืองพิจิตรมาช้านานแล้ว และยังเลื่องลือไปถึงจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย จนกระทั่งสามารถดึงดูดผู้คนให้เดินทางเข้าเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ ภายในวัดจะได้ชมวิหารหลวงพ่อเงินองค์ใหญ่ พร้อม ๆ กับสักการะรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ดังที่มีมากถึง 25 รูป

         ที่อยู่ : ตำบลหนองพระ อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร

4. พระพุทธเกตุมงคลหรือหลวงพ่อโตตะพานหิน วัดเทวปราสาท

          ชมพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงาม สมสัดส่วน และมีขนาดใหญ่ที่สุดของพิจิตร พระพุทธเกตุมงคล หรือ หลวงพ่อโต นั้นเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร หน้าตักกว้าง 20 เมตร สูง 30 เมตร แท่นสูง 4 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก เมื่อปี พ.ศ. 2508 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2513  ซึ่งถ้าหากเดินทางด้วยรถไฟจะมองเห็นองค์พระเหลืองอร่ามมาแต่ไกล เสมือนเป็นสัญญาณบอกว่าคุณได้เดินทางมาถึงเมืองพิจิตรแล้ว

         ที่อยู่ : ซอยสันติพลาราม 1 ตำบลตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
         เบอร์โทรศัพท์ : 056 621 423
         เฟซบุ๊ก : วัดเทวประสาท

5. ศาลเจ้าแม่ทับทิม


          ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก ทางด้านหลังใกล้ริมทางรถไฟสายเหนือ สายเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 111 สายพิจิตร-สากเหล็ก เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวัดวิจิตราราม ผ่านตลาดท่าฬ่อแล้วเลี้ยวซ้าย ไปสักการะองค์เจ้าแม่ทับทิม (ตุ้ยบ่วยเต่งเหนี่ยง) อันศักดิ์สิทธิ์ ด้านขวาเป็นที่ประทับของเจ้าพ่อกวนอู ด้านซ้ายเป็นที่ประทับของเจ้าพ่อปุ้นเถ่ากงและปุ้นเถ่าม่า

          ตามประวัติกล่าวว่าองค์เจ้าแม่ทับทิมและองค์เจ้าพ่อกวนอู ได้อัญเชิญมาจากเกาะไหหลำ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2410 ในสมัยนั้นเจ้าของอู่ต่อเรือซึ่งตั้งถิ่นฐานทำการค้าที่หมู่บ้านท่าฬ่อเป็นผู้อัญเชิญองค์เจ้าแม่ทับทิมมาจากประเทศจีน ได้บริจาคซุงไม้สักจำนวน 2 แพ เพื่อปลูกสร้างศาลขนาดใหญ่ถวายแด่องค์เจ้าแม่ทับทิมและเจ้าพ่อกวนอู ให้เป็นที่สักการบูชาของชาวบ้านตลอดจนผู้เลื่อมใสศรัทธาทั้งใกล้และไกล ยิ่งกว่านั้นศาลเจ้าแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่สอนหนังสือไทยและหนังสือจีนให้แก่เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน

          ทั้งนี้เพราะความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารของเจ้าพ่อ เจ้าแม่แห่งศาลเจ้าแม่ทับทิมท่าฬ่อ เป็นที่เลื่องลือ ในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงานสักการะเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งมีผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลกันมาร่วมงาน ส่วนใหญ่มาเพื่อแก้บนเรื่องขอมีบุตร

         ที่อยู่ : ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร


6. วัดเขารูปช้าง

ที่เที่ยวพิจิตร

          ตั้งอยู่ที่ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมืองพิจิตร ตามเส้นทางสายพิจิตร-ตะพานหิน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งเพราะมีเจดีย์แบบลังกาตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันมองดูคล้ายช้างนั่นเอง จึงเป็นที่มาของชื่อวัดว่าวัดเขารูปช้าง และเมื่อเดินทางมาถึงแล้ว อยากชวนคุณออกกำลังขา เดินขึ้นไปบันไดนาคที่สูง 136 ชั้น สู่ลานกว้างบนยอดเขา คุณจะมองเห็นวิวเมืองพิจิตรและตัวเมืองตะพานหินได้ชัดเจน โดยเฉพาะยามเย็นที่มีแสงสีทองทาบทอลงมาเติมเสน่ห์เมืองพิจิตร ให้งดงามไปอีกแบบ

          สำหรับเจดีย์เก่าแห่งนี้ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ โดยประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์ มีรั้วรอบองค์เจดีย์ และทางวัดยังได้สร้างวิหารใหญ่ขึ้นอีกหลัง โดยมีเจดีย์เก่าแบบลังกา ทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา นอกจากนี้ยังมีมณฑปแบบจัตุรมุขหลังเก่าอยู่ไม่ไกลกัน ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสำริดและภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องไตรภูมิพระร่วง

         ที่อยู่ : ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร

7. บึงสีไฟ

ที่เที่ยวพิจิตร

          ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร ความยิ่งใหญ่ของบึงสีไฟไม่เพียงเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่เท่านั้น หากที่นี่ยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งแรกของจังหวัดพิจิตร บรรยากาศรอบ ๆ บึงสีไฟ มีความสงบงามและเป็นธรรมชาติ จึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองที่สำคัญแห่งหนึ่งเลยทีเดียว และคงไม่มีใครปฏิเสธว่าพระอาทิตย์ตกกลางบึงสีไฟนั้นคือความงามจับตาในช่วงเย็นที่น่าประทับใจจริง ๆ ซึ่งไฮไลท์น่าสนใจในการมาชมบึงสีไฟ นอกจากวิวพระอาทิตย์ตกกลางบึงสีไฟในช่วงเย็นที่น่าประทับใจแล้ว ยังมีรูปปั้นพญาชาละวัน รูปปั้นจระเข้ด้านหน้าบึงสีไฟ ที่มีความยาวถึง 38 เมตร กว้าง 6 เมตร สูง 5 เมตร

         ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร

8. สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ

          อยู่ในความดูแลของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพิจิตร ภายในประกอบด้วย

         - อาคารเฉลิมพระเกียรติ สร้างเป็นรูป 9 แฉก ยื่นไปในบึงสีไฟ ภายในประกอบด้วยตู้แสดงพันธุ์ปลาฝังในผนัง จำนวน 12 ตู้ ใช้เป็นที่แสดงพันธุ์ปลาแปลกๆ ที่หายากและมีค่า ผนังด้านนอกของตัวอาคารบุเซรามิคสีทอง ทั้ง 9 ด้าน เฉลียงทางเดินด้านนอกตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบดินเผาเป็นภาพในวรรณคดีและประเพณีไทยรวม 9 ภาพ ตรงกลางของตัวอาคารเป็นช่องเปิด สำหรับชมปลาในบึงสีไฟ ซึ่งปลาชนิดต่างๆ มาชุมนุมเพื่อรอกินอาหารที่นักท่องเที่ยวที่มาชมโปรยอาหารให้

        - สะพานยาว 60 เมตร ประกอบด้วยราวสะพาน ซึ่งเป็นท่ออลูมิเนียมพร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่างในตัว

         เหมาะสำหนับเป็นแหล่งศึกษาพันธู์ปลาต่าง ๆ สนุกสนานและเพลิดเพลินกับสีสันโลกใต้น้ำ แวะมาพิจิตรก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะคะ

         ที่อยู่ : ถนนบึงสีไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
         เบอร์โทรศัพท์ : 056 611 309
         เว็บไซต์ :  fisheries.go.th
 
9. อุทยานเมืองเก่าพิจิตร

ที่เที่ยวพิจิตร

          ตั้งอยู่ตำบลโรงช้าง อำเภอเมืองพิจิตร อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายพิจิตร-สามง่าม-วังจิก ทางหลวงหมายเลข 115 และทางหลวงหมายเลข 1068 ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 6 เชื่อกันว่าที่นี่คือที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า สร้างในสมัยพระยาโคตรบอง ประมาณปี พ.ศ. 1601 สังเกตได้จากภายในบริเวณกำแพงเมืองที่มีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่เศษนั้น มีลักษณะเป็นเมืองโบราณ ประกอบไปด้วยกำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า ฯลฯ มีสวนรุกขชาติกาญจนกุมาร ซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2520 ทำให้พื้นที่ภายในมีความร่มรื่นเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ

          ไฮไลท์น่าชม เช่น ศาลหลักเมือง เป็นอาคารแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ด้านบนจะเป็นที่ตั้งของศาลหลักเมือง ส่วนด้านล่างจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระยาโคตรบองซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "พ่อปู่", วัดมหาธาตุ เป็นโบราณสถานก่อด้วยอิฐที่ตั้งอยู่กึ่งกลางเมืองพิจิตรเก่า ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านเก่า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ไม่ควรพลาดชม "พระธาตุเจดีย์" เจดีย์ทรงลังกาซึ่งภายในมีพระเครื่องชนิดต่าง ๆ ซึ่งได้ถูกลักลอบขุดค้นไป

          ถ้ำชาละวัน สัมผัสวรรณคดีชื่อดังเรื่องไกรทอง บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 2 ได้ที่นี่ โดยมีลักษณะเป็นถ้ำลึกลงไปในดิน ด้านหน้ามีรูปปั้นไกรทองและชาละวันที่ทางจังหวัดได้สร้างไว้ มีเรื่องเล่าว่า เมื่อประมาณ 65 ปีมาแล้ว พระภิกษุวัดนครชุมรูปหนึ่งจุดเทียนไขเดินเข้าไปในถ้ำ จนหมดเทียนเล่มหนึ่งก็ยังไม่ถึงก้นถ้ำ จึงไม่ทราบว่าภายในถ้ำชาละวันจะสวยงามวิจิตรพิสดารเพียงใด ปัจจุบันดินพังทลายทับถมจนตื้นเขิน และเกาะศรีมาลา เป็นมูลดินคล้ายเกาะเล็ก ๆ กลางคูเมืองนอกกำแพงเก่า มีคูล้อมรอบเกาะแต่ตื้นเขิน สันนิษฐานว่าแต่เดิมน่าจะเป็นป้อม หรือหอคอยรักษาการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง

        ที่อยู่ : ถนนโยธาธิการ พิจิตร 3063 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร

10. ย่านเก่าวังกรด

          ย่านเก่าวังกรด ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองพิจิตร ห่างจากจากตัวเมืองพิจิตรประมาณ 6 กิโลเมตร อยู่ติดริมแม่น้ำน่านไปทางตะวันออก เป็นย่านพาณิชยกรรมที่เก่าแก่ คนพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาพำนักและก่อร่างสร้างตัวจากการค้าขาย ในอดีตมีความรุ่งเรืองด้านการค้าขายอย่างมาก แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ย่านเก่าวังกรดยังคงสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตและให้ความทรงจำผ่านสถาปัตยกรรมเรือนแถวไม้เก่าแก่ และจากคำบอกเล่าเรื่องทางประวัติศาสตร์ของคนในชุมชน

          ย่านเก่าวังกรดมีสถานที่สำคัญมากมายให้ได้แวะเข้าไปชม ทั้งร้านค้า ร้านยาสมุนไพร และร้านอาหารที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะแบบโบราณที่คนพิจิตรและที่อื่น ๆ ต้องมาลิ้มลองให้ได้ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อวังกลมที่ขึ้นชื่อด้านความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งและศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองได้เป็นอย่างดี  ทั้งหมดนี้เองที่ทำให้วังกรดเป็นเมืองเก่าที่มีเสน่ห์และทรงคุณค่าแก่การอนุรักษ์ให้รุ่นลูกหลานสืบไป

         ที่อยู่ : ถนนเทศบาล 9 ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
         เบอร์โทรศัพท์ : 083 163 0084
         เฟซบุ๊ก :  ย่านเก่าวังกรด ชุมชนเก่าเล่าเรื่อง

11. วัดโรงช้าง

         วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อสมัยพระยาโคตรบองขึ้นครองราชย์ สถานที่แห่งนี้เรียกว่า กองช้าง เพราะเป็นที่พักของกองช้าง ต่อมาได้เรียกกันเพี้ยนไปเป็น คลองช้าง จนกระทั่งทาราชการได้เปิดโรงเรียนประชาบาลขึ้นที่วัดนี้ จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดโรงช้าง บริเวณวัดโรงช้างมีพระพุทธรูปใหญ่อยู่กลางแจ้ง 3 องค์ เป็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย ปางห้ามญาติ และปางไสยาสน์ สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดที่ภายในได้สร้างเป็นห้องลับใต้ดินเพื่อใช้สำหรับเก็บแผ่นอิฐจารึกพระไตรปิฎกจำนวน 84,000 พระธรรมขันธ์ โดยได้เล็งเห็นว่า ในอนาคตอาจมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเช่น สงครามนิวเคลียร์ซึ่งอาจทำให้พระไตรปิฏกสูญหายจากโลกได้

         ที่อยู่ : บ้านโรงช้าง หมู่ 2 ตำบลโรงช้าง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร


12. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์

         สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 พรรษา เมื่อ พ.ศ.2527 มีเนื้อที่ 170 ไร่ เป็นสวนพักผ่อนริมบึงสีไฟ มีสะพานทอดลงน้ำสู่ศาลาใหญ่ที่จัดไว้เป็นที่พักผ่อน นักท่องเที่ยวนิยมมาให้อาหารปลาและชม อาทิตย์อัสดง

         ภายในบึงมีพรรณไม้น้ำต่าง ๆ มีดอกบัวหลวงจำนวนมากและสวยงาม ริมบึงปลูกไม้ดอกไม้ประดับและไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น กลางบึงมีศาลาที่ใช้เป็นที่พักผ่อนชมทิวทัศน์มีสะพานยาวทอดข้ามจากฝั่งถึงศาลา ภายในสวนมีทางเดินสำหรับออกกำลังกาย และประตูทางเข้ามีหอประชุมขนาดใหญ่รูปจระเข้ยักษ์ในตำนานชาละวัน สัญลักษณ์ของจังหวัดพิจิตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไว้ผ่อนคลายชิล ๆ ของชาวเมืองพิจิตร

         ที่อยู่ : บึงสีไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร

13. วัดแก้วพิจิตร

ที่เที่ยวพิจิตร

         พระอารามหลวง ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกงเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี และตั้งอยู่บนถนนแก้วพิจิตร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เป็นวัดเก่าแก่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2422 ในราวรัชกาลที่ 4 ต่อมาในปี พ.ศ. 2461 ได้สร้างพระอุโบสถเพิ่มเติม จึงมีลักษณะทางสถาปัตยกรรม และลวดลายประดับอาคารประสมประสานระหว่างศิลปไทย จีน ยุโรป และเขมร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถที่ฝาผนังด้านนอกมีภาพปูนปั้นเรื่องรามเกียรติ์ ตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ ภายในพระอุโบสถมีภาพวาดบนแผ่นผ้าเกี่ยวกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา เช่น ทศชาติชาดก มารผจญ ทำโดยช่างหลวง ในรัชกาลที่ 6 นอกจากนั้นภายในวัดแก้วพิจิตรยังมีหอพระไตรปิฎก และศาลาตรีมุขที่ท่าน้ำ แถมบรรยากาศภายในวัดยังร่มรื่นอีกด้วย

 
         ที่อยู่ : ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี หมู่ 4 ถนนแก้วพิจิตร ตำบลบางบริบูรณ์ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี

         เป็นยังไงบ้างคะ ? บอกเลยว่าพิจิตรมีที่เที่ยวสวย ๆ อีกเพียบ ทั้งแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมและธรรมชาติ บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร มาเที่ยวแล้ว...รับรองว่าติดใจ

ตั๊กออแกไนท์พิจิตร รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคพิจิตร
นางรำพิจิตรเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคพิจิตร
พิจิตรรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคพิจิตร
รําบวงสรวงพญานาคพิจิตร
ฟ้อนบูชาพญานาคพิจิตร
รําบวงสรวงพญานาคพิจิตร


  ติดต่อสอบถามเรา        
            








290
14 ที่เที่ยวนครสวรรค์ ไปเที่ยวเมื่อไรต้องขอแวะเช็กอิน

 ที่เที่ยวนครสวรรค์สุดฮิต ไปเที่ยวนครสวรรค์เมื่อไรต้องไม่พลาดไปเช็กอิน เที่ยวได้ทั้ง เด็ก ผู้ใหญ่ จะไปกับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว ก็เที่ยวนครสวรรค์ได้แบบสบาย ๆ

          ถ้าพูดถึง "จังหวัดนครสวรรค์"  หลายคนอาจจะนึกถึงขนมสุดอร่อยอย่างโมจิหรือไดฟุกุ แต่นอกเหนือจากของฝากเหล่านี้แล้ว เมืองนครสวรรค์ยังน่าท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองพักผ่อนระหว่างทางของผู้ที่ต้องสัญจรไปมาระหว่างกรุงเทพฯ และภาคเหนือ สามารถที่จะแวะพักเที่ยวชมได้อย่างดีเลยทีเดียว เมืองปากน้ำโพแห่งนี้จะมีอะไรน่าท่องเที่ยวบ้าง ตามไปเก็บข้อมูลกันเลย

1. บึงบอระเพ็ด นครสวรรค์

          บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำมากกว่า 148 ชนิด พืชกว่า 44 ชนิดแล้ว ที่นี่ยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม กลายเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวนครสวรรค์

เที่ยวนครสวรรค์

          สิ่งที่น่าสนใจของบึงบอระเพ็ด ก็คือ "นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร" และ "ปลาเสือตอ" ซึ่งเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ยาก แต่สามารถพบเห็นได้บริเวณบึงบอระเพ็ด นอกจากนี้ยังมีทะเลบัวสีชมพูสดใสให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งเรือชมวิวไปรอบ ๆ บึง หรือจะเที่ยวชมการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภายในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ก็ได้เช่นกัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ buengboraphet.com

 2. อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

          อุทยานแห่งชาติที่มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 558,750 ไร่ หรือ 894 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในอำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ และกิ่งอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ โดยมียอดเขาที่สำคัญคือยอดเขาโมโกจู ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงศก์

          ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์อีกด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองนครสวรรค์ โดยจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ จุดชมวิวกิ่วกระทิง, จุดชมวิวช่องเย็น, น้ำตกแม่กระสา, ยอดเขาโมโกจู, แก่งผาคอยนาง เป็นต้น

 3. อุทยานสวรรค์

          หรือหนองสมบุญ เป็นสวนสาธารณะที่มีความสวยงามและน่าสนใจมาก ๆ ด้วยภายในสวนแห่งนี้นอกจากจะมีต้นไม้นานาพรรณแล้ว ยังมีการจัดแบ่งสัดส่วนและตกแต่งอย่างสวยงาม มีเนื้อที่ประมาณ 314 ไร่ ประกอบไปด้วย หนองน้ำขนาดใหญ่ สนามหญ้า น้ำพุ สถานที่สำหรับออกกำลังกาย สนามเด็กเล่น สนามกีฬา เวทีกลางแจ้ง น้ำตก สวนหย่อม ฯลฯ ที่นี่จึงเป็นสวนสุขภาพและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจชั้นเยี่ยมของชาวนครสวรรค์ โดยในช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีทัศนียภาพที่สวยงาม เหมาะแก่การเที่ยวชม

เที่ยวนครสวรรค์

 4. วัดคีรีวงศ์

          มาถึงเมืองนครสวรรค์ก็ต้องไปไหว้ขอพรเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันสักนิด ซึ่งสถานที่ที่ชาวนครสวรรค์ให้ความเคารพนับถืออย่างมากก็คือ วัดคีรีวงศ์ ซึ่งตั้งอยู่บนเขาดาวดึงส์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวัดคีรีวงศ์ ก็คือองค์มหาเจดีย์พระจุฬามณีเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขา มี 4 ชั้น โดยบริเวณฐานขององค์มหาเจดีย์จะสามารถมองเห็นภูมิทัศน์ที่สวยงามของเมืองนครสวรรค์ได้แบบไกลสุดลูกหูลูกตา มองเห็นทั้งบ้านเรือนของชาวบ้าน บึงบอระเพ็ด ตลาดปากน้ำโพ อุทยานสวรรค์ เขาจอมคีรีนาคพรต และภูเขาน้อยใหญ่มากมาย ยามเย็นจะมีบรรยากาศเย็นสบาย เป็นที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครสวรรค์

เที่ยวนครสวรรค์

          ภายในพระจุฬามณีเจดีย์ ประกอบไปด้วยรูปหล่อเหมือนขนาดเท่าองค์จริงของพระชื่อดังหลายองค์ อาทิ รอยพระพุทธบาทจำลอง 12 ราศี, พระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง, หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปจำลองที่สำคัญของเมืองไทย อาทิ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระพุทธชินราชจำลอง พระพุทธโสธรจำลอง ฯลฯ ไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้กันอีกด้วย

 5. เมืองโบราณจันเสน

          เมืองโบราณจันเสน ตั้งอยู่ที่ตำบลจันเสน มีลักษณะเป็นเมืองโบราณ โดยมีคูเมืองเป็นเนินดินโดยรอบเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมเกือบเป็นวงกลม ปัจจุบันยังเป็นลุ่มน้ำขัง มีร่องรอยของคูเมืองให้เห็นชัดเจน ในบริเวณนี้มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุหลายอย่าง อาทิ พระพิมพ์ต่าง ๆ, ตุ๊กตา, ตะเกียง, ฐานบัว, ธรรมจักร, ขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะ, มีตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก, ใบหอกที่ทำด้วยสำริด เป็นต้น โดยสิ่งของโบราณเหล่านี้มีการเก็บรักษาไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์จันเสน

6. วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์

          อีกหนึ่งวัดที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ ด้วยเป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งอยู่บนยอดเขาโคกเผ่น อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ศรีพุทธคยา ซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย มีการย่อส่วนให้เหมาะสมกับพื้นที่ ตัวเจดีย์สูง 28 เมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงกรวย ในส่วนยอดเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ รอบ ๆ ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น ภายในองค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและการเดินทางได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี (รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีและนครสวรรค์) โทรศัพท์ 0 5651 4651-2



 7. ตลาดน้ำวัดบางประมุง

          สัมผัสวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายกับชุมชนริมฝั่งคลองบางประมุง โดยจะมีตลาดน้ำอยู่ทางด้านหลังวัดบางประมุง ตำบลนครสวรรค์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ ตลาดน้ำจะมีลักษณะเป็นแพเรียงต่อ ๆ กัน ชาวบ้านจะนำสินค้าทางการเกษตร พืชผัก ผลไม้ อาหารพื้นเมือง และสินค้าพื้นเมืองมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เดินเลือกซื้อสินค้ากันอย่างสนุกสนานแล้ว ยังจะได้เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลา การนวดแผนโบราณ การล่องเรือชมวิวริมคลองบางประมุง เป็นต้น โดยตลาดน้ำบางประมุงเปิดให้เที่ยวชมในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น.


8. ทุ่งหินเทิน

          ตั้งอยู่ที่ตำบลปางสวรรค์ อำเภอแม่วงก์ เป็นทุ่งหญ้ากว้างประมาณ 14 ไร่ ซึ่งมีกลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งวางซ้อนกันอยู่หลายแห่ง ลักษณะเหมือนมีคนจับตั้งวาง แต่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยก้อนหินเหล่านี้เป็นหินแกรนิตอายุมากกว่า 210 ล้านปี ขนาดหินก้อนมนใหญ่ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์ โทรศัพท์ 0 5622 1602, 0 5622 1034

9. หอชมเมืองนครสวรรค์

          หอชมเมืองที่ตั้งอยู่ ณ ยอดเขาวัดคีรีวงศ์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ เป็นอาคารหอคอยสูง 32 เมตร มีทั้งหมด 10 ชั้น ในส่วนของชั้นที่ 1 จะเป็นประชาสัมพันธ์และร้านจำหน่ายสินค้า OTOP ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 จะเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน และจากชั้นที่ 4-9 จะเป็นบันไดเวียนเพื่อขึ้นสู่ชั้นที่ 10 ซึ่งเป็นจุดชมวิวเมืองนครสวรรค์ สามารถชมทัศนียภาพโดยรอบได้แบบ 360 องศา มองเห็นธรรมชาติโดยรอบเมืองนครสวรรค์ได้ไกลกว่า 10 กิโลเมตร หอชมเมืองนครสวรรค์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

เที่ยวนครสวรรค์

10. ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม

          เมืองนครสวรรค์มีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่จำนวนไม่น้อย เมืองนครสวรรค์จึงมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างศาลเจ้าอยู่หลายแห่งด้วยเช่นกัน ซึ่งศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิมก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชาวเมืองนครสวรรค์ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ตัวศาลเจ้าตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับตลาดปากน้ำโพ โดยในช่วงตรุษจีนของทุก ๆ ปีจะมีการจัดขบวนแห่องค์เทพเจ้าไปรอบ ๆ ตลาดปากน้ำโพอย่างยิ่งใหญ่ นักท่องเที่ยวจะได้ชมการแสดงต่าง ๆ ในขบวนแห่ แต่หากจะมีมาเที่ยวชมกราบไหว้ขอพรในวันธรรมดาก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00-19.00 น.

เที่ยวนครสวรรค์

11. สะพานไม้ไผ่หมายเลข 8

         สะพานไม้ไผ่แห่งใหม่ของบ้านพนาสวรรค์ อำเภอแม่เปิน โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยลักษณะสะพานไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นเป็นทางเดินหมายเลข 8 สะพานแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือ ของกลุ่มพัฒนาชุมชน กลุ่มชาวนา และกลุ่มชาวบ้าน ที่ต้องการสร้างแลนด์มาร์กแห่งนี้ขึ้นมา เอาไว้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกทั้งยังเป็นที่ที่ไว้สำหรับผ่อนคลายของชาวบ้านในพื้นที่ ได้ออกมาเดินเล่น นั่งเล่น และรับลมเย็นกันแบบชิล ๆ

12. เขาหน่อ - เขาแก้ว

          จุดชมวิวสวย ๆ ของเมืองไทยที่ไม่ควรพลาด เป็นกลุ่มยอดเขาหินปูนรูปทรงสวยงามแปลกตา สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนบนถนนพหลโยธิน ช่วงนครสวรรค์ - กำแพงเพชร ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย พื้นที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เพราะครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสเขาหน่อ โดยเสด็จฯ ภาคเหนือทางชลมารคผ่านแม่น้ำปิง เมื่อปี พ.ศ. 2449 ต่อมาในปี พ.ศ. 2452 ได้พระราชทานสิ่งของให้แก่หลวงพ่อแหยม วัดบ้านแดน อีกด้วย

เขาหน่อ เขาแก้ว

          เขาหน่อ ถูกแยกออกจากเขาแก้วโดยถนนท้องถิ่น ในส่วนของเขาหน่อนั้นจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ "เขานางพันธุรัต" เป็นภูเขาหินปูนลูกเล็ก สามารถเดินขึ้นไปชมวิวได้ ด้านบนมีถ้ำขนาดเล็ก มีพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่และพระพุทธรูปองค์เล็กอยู่ด้านหน้า และ "เขาพระพุทธบาท" เป็นภูเขาลูกใหญ่ ห่างจากเขานางพันธุรัตประมาณ 300 เมตร มีทางบันไดปูนประมาณ 700 ขั้น ให้เดินขึ้นไปชมวิวด้านบนเขา ซึ่งบางช่วงค่อนข้างสูงชัน ด้านบนเป็นจุดชมวิวสูง สามารถมองเห็นทุ่งนาและไร่สวนของชาวบ้านได้ไกลสุดลูกหูลูกตา รวมทั้งยอดเขาแก้วที่อยู่อีกฝั่งด้วย โดยรวม ๆ แล้วใช้เวลาเดินขึ้น-ลงประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง แล้วแต่ความแข็งแรงของร่างกายแต่ละคน ควรเตรียมน้ำและยาดมติดตัวไปด้วย

          เขาหน่อ - เขาแก้ว สามารถเที่ยวได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลบ้านแดน โทรศัพท์ 0 5627 9320

13. ตลาดเจ้าค่ะ

          ตลาดริมแม่น้ำปิงหน้าวัดเขาดินใต้ ตำบลเขาดิน อำเภอเก้าเลี้ยว ใครที่เคยมาเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความน่ารักและความเป็นกันเองของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ขาย ที่พร้อมใจกันแต่งกายชุดไทย พร้อมส่งเสียงร้องเรียกลูกค้าลงท้ายว่า "เจ้าค่ะ" ทุกคำ กลายเป็นว่ายิ่งทำให้เราอยากจะซื้อของมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พบกับหลากหลายความอร่อย ไมว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่นน่ากิน พืช ผัก ผลไม้ และขนมโบราณหากินยาก หรือจะร่วมเรียนรู้และสนุกไปกับการทำขนมชนิดต่าง ๆ เรียกว่าสร้างสีสันให้กับการเที่ยวตลาดได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

          ตลาดเจ้าค่ะ เปิดทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 14.00-21.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาด "เจ้าค่ะ" ริมแม่น้ำปิงหน้าวัดเขาดินใต้

14. พาสาน

          อาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามโดดเด่นและทันสมัย ตั้งอยู่บริเวณปลายเกาะยม จุดบรรจบของแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ในตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสรรค์ โดยได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากการศึกษาสภาพแวดล้อม วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม และประเพณีวัฒนธรรมของชาวปากน้ำโพ มีพื้นที่ใช้สอยภายนอก ลานประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม ลานกิจกรรม สวนริมแม่น้ำ แพท่าน้ำ  พื้นที่ภายใน อันประกอบไปด้วยส่วนแสดงนิทรรศการ ห้องประชุม สำนักงาน จุดชมทัศนียภาพ และอื่น ๆ

เที่ยวนครสวรรค์

          ไม่เพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้เท่านั้นที่มีความน่าสนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนครสวรรค์ยอดนิยม เพราะยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายในจังหวัดแห่งนี้ที่น่าสนใจและน่าไปสัมผัส หากใครไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ ลองไปเที่ยวชมนครสวรรค์กันดูนะคะ นอกจากจะไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนมากมายในแหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิตของไทยแล้ว ยังจะได้พักผ่อนกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่ายอย่างเต็มที่อีกด้วย

ตั๊กออแกไนท์นครสวรรค์ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคนครสวรรค์
นางรำนครสวรรค์เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคนครสวรรค์
นครสวรรค์รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคนครสวรรค์
รําบวงสรวงพญานาคนครสวรรค์
ฟ้อนบูชาพญานาคนครสวรรค์
รําบวงสรวงพญานาคนครสวรรค์



  ติดต่อสอบถามเรา        
            







291
15 ที่เที่ยวกำแพงเพชร สวยได้ใจจนอยากไปเยือน

แนะนำที่เที่ยวกำแพงเพชร จังหวัดน่าเที่ยวของไทย ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งโบราณสถาน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตผู้คนที่เรียบง่าย ใครอยากเที่ยวกำแพงเพชร ลองเข้ามาดูกัน

          กำแพงเพชร อีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวของไทย แต่เชื่อหรือเปล่าว่าน่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้ว่าที่กำแพงเพชรมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตผู้คน ที่ล้วนแต่สร้างเสน่ห์ให้กำแพงเพชร เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในฝันของนักเดินทางหลายคน วันนี้เราเลยอยากขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกำแพงเพชรที่น่าสนใจให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักมากขึ้น ไม่แน่นะว่าคุณอาจตกหลุมรักกำแพงเพชรเข้าโดยไม่รู้ตัว

1. โมโกจู

          ยอดเขาสูงที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อีกหนึ่งสถานที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย เพราะเมื่อไปถึงยอดเขา นักท่องเที่ยวจะเจอกับทิวทัศน์สวยงามตระการตา โดยเส้นทางพิชิตยอดดอยโมโกจู จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชมเพียง 4 เดือนเท่านั้น คือ เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะต้องทำการติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อเป็นผู้นำทางขึ้นเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องค้างแรมกลางป่า และใช้เวลาไป-กลับ ประมาณ 5 วัน 4 คืน ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรฟิตร่างกายมาให้พร้อม

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร
          โทรศัพท์ : 090 579 291
ที่เที่ยวกำแพงเพชร
2. ช่องเย็น

   ที่เที่ยวธรรมชาติยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 28 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจะสัมผัสอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และเป็นจุดดูพระอาทิตย์ตก ณ จุดชมวิวผาสวรรค์ ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง นอกจากอากาศที่นี่จะฟินได้แบบถึงใจแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ชื่นชมกับความสวยงามของพรรณไม้และนกนานาชนิด ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เพราะช่องเย็นมีบริการทั้งบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์

         ที่อยู่ : ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศัพท์ : 090 579 291

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

3. อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

          กลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ ที่ได้รับประกาศให้เป็น "มรดกโลก" จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534 แบ่งออกเป็นโบราณสถานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งมีความแตกต่างกันในการใช้วัสดุก่อสร้าง โบราณสถานด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งเมืองกำแพงเพชร โบราณสถานสร้างด้วยศิลาแลงและมีขนาดใหญ่ ส่วนโบราณสถานฝั่งตะวันตก คือ เมืองนครชุมก่อสร้างด้วยอิฐและมีขนาดเล็ก แต่รูปแบบศิลปะที่ปรากฏนั้นมีลักษณะร่วมสมัยระหว่างสุโขทัยและอยุธยา

         ที่อยู่ : ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศัพท์ : 055 854 736
         เฟซบุ๊ก : อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร : Kamphaeng Phet Historical Park

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

4. วัดพระสี่อิริยาบถ

         วัดขนาดใหญ่และมีโบราณสถานที่เป็นเอกลักษณ์ คือ มณฑปพระสี่อิริยาบถ ทั้งนี้ภายในวัดยังมีโบราณสถานสำคัญต่าง ๆ ประกอบด้วย "มณฑปจตุรมุข" ซึ่งมีรูปแบบเหมือนดังที่พบที่วัดเชตุพนและวัดพระพายหลวง จังหวัดสุโขทัย "พระมหาวิหาร" วิหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าสุด และ "บ่อตัดศิลาแลง" ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด เป็นบ่อที่ใช้ในการตัดศิลาแลงให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ก่อนที่จะนำไปใช้ในการสร้างวัด

        ที่อยู่ : ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศัพท์ : 055 854 736
         เฟซบุ๊ก : อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร : Kamphaeng Phet Historical Park

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

5. น้ำตกคลองลาน

          จุดเด่นของน้ำตกคลองลานอยู่ที่ลำธารที่ไหลเป็นสายยาวเหยียดเหมือนคลอง อีกทั้งยังเป็นน้ำตกที่สูงและใหญ่ เหมาะกับการพักผ่อนตามธรรมชาติและการถ่ายรูปสุด ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนใหญ่นิยมมากินอาหารริมธารน้ำตก ส่วนเด็ก ๆ ก็ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีจุดกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

         ที่อยู่ : ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศํพท์ : 088 407 9915
         เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติคลองลาน - Khlong Lan National Park

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

6. ตลาดย้อนยุคนครชุม

         นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศตลาดแบบย้อนยุค เห็นได้จากการแต่งกายด้วยชุดไทยของพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวนครชุม นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ เช่น สินค้าหัตถกรรม งานจักสาน แวะชิมอาหารโบราณที่หากินได้ยาก รวมถึงการชมการละเล่นพื้นบ้าน การประกวดร้องเพลง และการบรรเลงดนตรีไทย เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมตลาดย้อนยุคนครชุม ได้ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์แรกของเดือน

         ที่อยู่ : ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศัพท์ : 055 738 868
         เฟซบุ๊ก : ตลาดย้อนยุคนครชุม

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร


7. วัดบรมธาตุนครชุมกำแพงเพชร

          วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองกำแพงเพชร ภายในประอบด้วยศาสนสถานสำคัญ เช่น พระบรมธาตุเจดีย์ภายในบรรจุพระสารีริกธาตุ 9 องค์, ต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ที่พระยาลิไททรงปลูกไว้, พระอุโบสถหลังเก่า, พระวิหาร, วิหารพระนอน, ศาลาเรือนไทย ยังมีศาลาการเปรียญที่ใช้เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมวัตถุโบราณและเรื่องราวต่าง ๆ ของเมืองนครชุมเอาไว้มากมาย เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้แก่ชุมชน ทั้งทางด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตสืบไป

          ที่อยู่ : หมู่ที่ 3 บ้านปากคลองใต้ ตำบลนครชุม อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร


8. บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง (บึงสาป)

          แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอันเกิดจากน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ปราศจากสารเจือปน ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นที่ร่ำลือในเรื่องคุณสมบัติในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ อย่างอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือโรคผัวหนัง จึงทำให้มีทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางกันมาอาบ ดื่ม และกิน บางรายก็นำน้ำกลับไปเพื่อความเป็นสิริมงคล แถมภายในยังมีบ้านพักรับรองให้นักท่องเที่ยวได้นอนค้างคืนอีกด้วย

         ที่อยู่ : หมู่ 3 ตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศัพท์ : องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร โทรศัพท์ 055 718 280-96
         เฟซบุ๊ก : บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

9. สระมรกตกำแพงเพชร

          อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล มีลักษณะเป็นบ่อดินลูกรังขนาดใหญ่ ความสวยงามอยู่ที่ในบ่อมีน้ำสีฟ้าครามสวยงาม นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินผ่านโขดหินต่าง ๆ เพราะน้ำในบ่อลึกประมาณ 8-10 เมตร ซึ่งมีทั้งความลึกและเย็น ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ การเดินเที่ยวชมต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ไปยืนในจุดที่เป็นดินเปราะบาง เพราะอาจจะลื่นล้มลงไปในบ่อได้

         ที่อยู่ : บ้านศรีโยธิน ตำบลหนองปิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

10. ริมแม่น้ำปิง

          สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในตัวเมืองกำแพงเพชร นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากสัมผัสบรรยากาศดี  ๆ ท้องฟ้าสวย ๆ แถมพัดเย็นสบาย นั่งมองแม่น้ำไหลเอื่อย ต้องลองมาที่นี่ดู นอกจากบรรยากาศชิล ๆ แล้ว ทุกวันเสาร์ที่สองและที่สี่ของเดือน ที่นี่จะมีถนนคนเดิน ตั้งแต่แยกศาลเจ้าพ่อเสือ ถึงสามแยกไฟแดงด้านหลังโรงพยาบาลกำแพงเพชร นักท่องเที่ยวสามารถเลือกช้อปสินค้า ชิมอาหารอร่อย ๆ หลากหลายรสชาติ และชมสีสันแห่งแสงไฟที่สะท้อนผืนน้ำและบรรยากาศสวยงามยามค่ำคืนริมฝั่งแม่น้ำปิงได้อีกด้วย

         ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร

ที่เที่ยวกำแพงเพชร

11. สะพานนาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

         แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการปฏิบัติธรรม ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นชมวิวสวย ๆ อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งศิลปวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ตลอดทั้งปีจะมีประเพณีบุญให้เที่ยวชมทั้ง 12 เดือน แต่จะมีบุญใหญ่ ๆ ประจำฤดูกาลทั้ง 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน งานบุญผะเหวดฟังเทศน์มหาชาติ, ฤดูฝน งานบวชนาคหมู่โบราณล้านช้าง และงานบุญบั้งไฟ และฤดูหนาว งานบุญกฐินและลอยกระทง หรือใครอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศทุ่งนาแบบใกล้ชิด สามารถไปนอนกางเต็นท์บนเถียงนาได้อีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นควรสอบถามรายละเอียดกับทางวัดอีกครั้งก่อนเดินทาง (ในปี 2562 ใครอยากเห็นท้องทุ่งนาเขียวขจี แนะนำว่าให้มาเที่ยวช่วงเดือนสิงหาคม 2562 เป็นต้นไป)

         ที่อยู่ : ตำบลระหาน อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศัพท์ : 094 076 2773
         เฟซบุ๊ก : นาบุญวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

ที่เที่ยวกำแพงเพชร


12. น้ำตกเต่าดำ จังหวัดกำแพงเพชร

         น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสูงเกือบ 200 เมตร มีน้ำตลอดปี ใครที่ได้มาเห็นน้ำตกเต่าดำ เป็นต้องประทับใจกับม่านน้ำตกอลังการสวยงาม ไหลเป็นทางยาว และทิ้งดิ่งโจนทะยานแผ่สยายสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ท่ามกลางบรรยากาศรายล้อมของป่าที่เขียวขจี สำหรับการเดินทางมาเที่ยวน้ำตกเต่าดำ สามารถไปนอนพักที่อุทยานได้ หรือหากใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดชนิดนอนฟังเสียงน้ำตก ทางอุทยานยังได้จัดทำลานกางเต็นท์ไว้บริเวณเหนือทางลงน้ำตกเต่าดำ ให้นักนิยมไพรไปกางเต็นท์นอนอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติกันอีกด้วย

         ที่อยู่ :  ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
         โทรศัพท์ : 093 790 0935

14. แก่งเกาะร้อย

         แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เกิดจากคลองสวนหมากเป็นลำธารสลับด้วยแก่งหิน และหาดทรายขาวสะอาด อยู่ท่ามกลางทิวทัศน์แห่งขุนเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยแก่งหินตะปุ่มตะป่ำนับร้อยพันก้อนเรียงรายเป็นลานกว้าง ช่วงกลางมีลำธารน้ำใสไหลผ่านเกาะแก่งหินสีเทาหม่นดูสวยงามยิ่งเหมาะแก่การพักผ่อนเพื่อชื่นชมกับบรรยากาศ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ล่องแพหรือล่องเรือ มีแก่งกีดขวางลำน้ำเชี่ยวอยู่ เหมาะสำหรับการล่องแก่งที่สุด

         ที่อยู่ : ตำบล โป่งน้ำร้อน อำเภอ คลองลาน กำแพงเพชร

15. แก่งผาคอยนาง

         มีลักษณะเป็นแก่งน้ำและแก่งหิน ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ 1,400 เมตร จะมีทางแยกเข้าไปอีก 400 เมตร จะถึงบริเวณแก่งหินขนาดใหญ่ที่มีลำน้ำคลองขลุงไหลผ่าน ซึ่งเป็นลำน้ำสายหนึ่งในหลาย ๆ สายที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง จากบริเวณแก่งเดินขึ้นไปตามลำน้ำอีกประมาณ 350 เมตร จะถึงน้ำตกผาคอยนาง น้ำตกขนาดเล็กที่เด่นและสะดุดตา มีน้ำตก 4 ชั้น รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของกำแพงเพชร

         ที่อยู่ : ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร
        โทรศัพท์ : 090 579 291

          เป็นยังไงบ้าง ? กับสถานที่ท่องเที่ยวกำแพงเพชรที่เราเอาฝากกันในวันนี้ แต่ละที่เที่ยวล้วนแล้วแต่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยกันทั้งนั้น ใครที่เลือกไม่ถูกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองหาวันหยุดยาว ๆ สัก 3 วัน 2 คืน แล้วตระเวนเที่ยวกำแพงเพชรกันดูนะคะ เชื่อแน่ว่าคุณจะต้องประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้อย่างแน่นอน ^ ^

ตั๊กออแกไนท์กำแพงเพชร รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคกำแพงเพชร
นางรำกำแพงเพชรเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคกำแพงเพชร
กำแพงเพชรรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคกำแพงเพชร
รําบวงสรวงพญานาคกำแพงเพชร
ฟ้อนบูชาพญานาคกำแพงเพชร
รําบวงสรวงพญานาคกำแพงเพชร



  ติดต่อสอบถามเรา        
            







292
26 ที่เที่ยวเชียงใหม่
ใกล้ชิดธรรมชาติช่วงหน้าหนาว

1. ชมดอกพญาเสือโคร่ง ณ ขุนช่างเคี่ยน
ชมดอกหญาเสือโคร่ง ณ ขุนช่างเคี่ยน

สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง สีชมพูสดใส มีอยู่หลายที่ด้วยกัน ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานที่เที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งยอดฮิตของภาคเหนือ โดยจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ตั้งอยู่บนเส้นทางเดียวกับทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และดอยปุย ที่นี่มีที่พักคอยให้บริการ แต่ควรสอบถามล่วงหน้าก่อน ที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร 053-944053 หรือ 053-222014

อ่านเพิ่มเติม : 10 สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง รับลมหนาว


2. ดอยอ่างขาง
ชมนางพญาเสือโคร่ง ดอยอ่างขาง เชียงใหม่

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โครงการหลวงที่ได้รับความนิยม เลื่องชื่อเรื่องพืชพันธุ์ โดดเด่นด้วยนางพญาเสือโคร่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและทัศนียภาพอันสวยงาม เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีพันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด และไม้ดอกเมืองหนาวมากกว่า 20 ชนิด สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

เมื่อมาถึงก็สามารถชมแปลงสาธิต ผัก ผลไม้ ต้นนางพญาเสือโคร่งและไม้ดอกเมืองหนาวภายในศูนย์ฯ สามารถขับรถวนเป็นวงกลม ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ยานพาหนะคันละ 50 บาท หรือเยี่ยมหมู่บ้านหลวง สัมผัสชีวิตชาวจีนฮ่อ เยี่ยมหมู่บ้านนอแล สัมผัสวิถีชีวิตชาวปะหล่อง อดีตชนเผ่าดั้งเดิมของพม่า หรือ เดินป่าระยะสั้น ชมความงามธรรมชาติของผืนป่าปลูกทดแทน มีบริการให้ขี่ล่อ เป็นต้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง กับการเดินทางสุดประทับใจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทร : 053-450107-9

ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอ่างขาง โทร : 053-450077


3. สถานีวิจัยเกษตรที่สูงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
สถานีวิจัยเกษตรที่สูงเชียงใหม่ (ขุนวาง)

โครงการหลวงแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมนางพญาเสือโคร่ง สภาพพื้นที่ของโครงการส่วนใหญ่ล้อมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน มีแอ่งที่ราบระหว่างภูเขาเพียงเล็กน้อย มีแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านคือ แม่น้ำขุนวาง  ประชากรในพื้นที่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง รวมทั้งสิ้น 7 หมู่บ้าน ขึ้นอยู่กับตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

มีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ชมแปลงสาธิตไม้ผลเมืองหนาว ชมแปลงปลูกผัก โรงเรือนเห็ดเมืองหนาว แปลงปลูกดอกเบญจมาศหลากสีสัน ชมวิถีชีวิตของชาวเผ่าม้ง และกะเหรี่ยง หรือท่องเที่ยวแบบ เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ (3 กิโลเมตร) ชมทุ่งกุหลาบพันปีสีแดง และ ชมดอกพญาเสือโคร่ง

การเดินทาง : ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ 106 กิโลเมตร  ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข  108 (เชียงใหม่-ฮอด) ก่อนถึงอำเภอจอมทอง มีทางแยกขวามือขึ้นดอยอินทนนท์ ตามทางหลวงหมายเลข 1009 ราว หลัก กม. ที่30-31 มีทางแยกทางขวามือผ่านบ้านขุนกลาง จุดกางเต็นท์ป่าสน ตรงไปอีก 16 กิโลเมตร จนถึงบ้านขุนวางสังเกตป้ายโครงการทางขวามือ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : โทร. 053-939-102, 085-717-0399

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : 10 โครงการหลวง น่าเที่ยว ต้อนรับฤดูหนาว


4. แม่กำปอง
หมู่บ้านเล็กๆ แสนอบอุ่น ในหุบเขา
แม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ แสนอบอุ่น ในหุบเขา

ช่วงหลังมานี้ หมู่บ้านเล็กท่ามกลางหุบเขาอย่าง แม่กำปอง ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบโฮมสเตย์ และด้วยความที่มีธรรมชาติแสนงดงามแบบไม่ต้องปรุงแต่ง ความน่ารักจากผู้คนในหมู่บ้าน ได้สัมผัสวิถีชาวบ้าน ทำให้ที่แห่งนี้จึงเป็นจุดมุ่งหมายที่ใครหลายคนก็อยากมาสัมผัส ^^



บ้านแม่กําปอง เชียงใหม่ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน มีพื้นที่หมู่บ้านทั้งหมดประมาณ 6.22 ตารางกิโลเมตร ระยะทางห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 50 กิโลเมตร

อ่านรีวิวเพิ่มเติม :

บ้านแม่กําปอง เชียงใหม่ (Shutter&Travel)
เมืองน่ายล คนน่ารัก หลบกายพักที่ “แม่กำปอง” จ.เชียงใหม่


5. ไร่ชาวิวสวยในเมืองไทย
ไร่ชา จังหวัดเชียงใหม่
ขอบคุณภาพ คุณ MaCCa www.pixpros.net
อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ก็คงจะเป็น “ไร่ชา” ในเมืองไทยนั้นมีไร่ชาขึ้นชื่อหลายที่ และแต่ละที่นั้นนอกจากจะได้ถ่ายรูปไร่ชาทอดยาวตามขั้นบันไดแล้ว ก็สามารถชิมชากลิ่นหอมๆ ได้อีกด้วย ซึ่งไร่ชาในจังหวัดเชียงใหม่นั้นมีอยู่หลายที่ เช่น

ไร่ชาลุงเดช ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แตง ปลูกชาพันธุ์ดี 2 สายพันธุ์คือ ชาเบอร์ 12 และพันธุ์ก้านอ่อน
ไร่ชาระมิงค์ แหล่งกำเนิดชาแรกของไทย ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 70 ปี ที่นี่ทำไร่ชา และผลิตใบชาในพื้นที่ภูเขาสูง 900-1200 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนดอยเชียงดาว แหล่งต้นน้ำปิง อ. แม่แตง
ไร่ชา 2000 หุบเขาเล็กๆ แต่มากความสวยงาม ด้วยทัศนียภาพแห่งทะเลหมอก และไร่ชา ไร่สตรอเบอร์รี ขั้นบันไดตามเนินเขา เป็นภาพที่คุณจะต้องประทับใจ
อ่านเพิ่มเติม : พากันไปฟิน! 10 ไร่ชาวิวสวยในเมืองไทย หนาวนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว


6. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานฯ แห่งนี้มีชื่อเสียงในการเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว ที่นี่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย ภูมิประเทศโดยทั่วไป เป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อนที่ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำลำธารและมีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย

ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือ

จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก มองเห็นดอยเชียงดาว ทั้งยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมกับความงามอันน่ามหัศจรรย์ของทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ นอกจากนี้ ในช่วงปลายฤดูหนาวจะสะพรั่งไปด้วยดอกไม้ที่มีสีสันสวยงาม
ห้วยน้ำรู หรือ ดอยสามหมื่น ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว ซึ่งมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซอ ทัศนียภาพสวยงาม ชมการปลูกกาแฟอาราบิกาและไม้ผลเมืองหนาว
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น น้ำตกห้วยน้ำดัง โป่งน้ำร้อนท่าปาย น้ำตกแม่เย็น เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เอื้องเงิน เป็นต้น
ที่ตั้ง : ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

ค่าเข้าอุทยานฯ : คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท อัตราค่าบริการ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

...

7. ดอยแสนหวาน ซากุระเบ่งบาน ที่ ขุนแม่ยะ
ดอยแสนหวาน ซากุระเบ่งบาน ที่ ขุนแม่ยะ
ขอบคุณภาพขาก Fa The Pooh
หนึ่งใน ดินแดนแห่งดอกซากุระเมืองไทย ณ ดอยขุนแม่ยะ อยู่บนเส้นทางแม่มาลัย-ห้วยน้ำดัง-ปายกึ่งกลาง เป็นดอยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร เป็นพื้นที่บริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ โครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางพระบรมราชินีนาถฯ ทางเข้าอยู่ตรงข้ามกับด่านตรวจสัตว์ของตำรวจ


8. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เพราะจะขึ้นเหนือทั้งทีต้องไปให้สุด ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่  นอกจากจะไปถ่ายกับป้ายสูงสุดแดนสยามแล้ว ยังมีจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม หรือจะเดินชมความเขียวขจีของผืนป่า ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน และอ่างกา ที่ชวงนี้เปิดให้เข้าไปเดินเล่นในทุ่งหญ้า สูดอากาศรับลมหนาวอย่างเต็มที่

และที่ดอยอินทนนท์ มีจะ พระมหาธาตุเจดีย์ ที่ตั้งคู่กันสององค์ ซึ่งเป็นพระมหาธาตุคู่พระบารมีของรัชกาลที่ 9 และพระราชินี ชื่อว่า พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

อ่านเพิ่มเติม :

ดอยอินทนนท์ เสน่ห์ดึงดูดที่งดงามไม่เปลี่ยนแปลง
พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุคู่พระบารมี รัชกาลที่ 9 และพระราชินี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053 286 728 – 9


9. ผจญผืนป่าจูราสสิก
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์

เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา หรือ อ่างกาหลวง ดอยดินทนนท์ จ.เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยพืชนานาพันธุ์ ภายในมีสะพานไม้ให้เดินระยะทางเกือบ 300 เมตร ถึงจะเป็นเส้นทางสั้น ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความสวยงามปนกับความพิศวง ให้อารมณ์ป่าฝน อากาศเย็นสบาย เหล่าบรรดามอส ไล่ขึ้นตามขอบและราวจับของสะพาน เป็นจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจมากทีเดียว และหากมีฝนตกปรอย ๆ บอกเลยว่ายิ่งงดงามมาก

ที่ตั้ง : อ่างกา อยู่บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ถ้าเริ่มต้นจากยอดดอยฯ ให้เดินมาทางป้ายสูงสุดแดนสยาม ผ่านสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เดินมาจนถึงจุดวัดอุณหภูมิ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา

อ่านเพิ่มเติม : เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์


10. อำเภอแม่แจ่ม


อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเชียงใหม่ท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี สามารถสัมผัสความงามของทะเลหมอกได้ที่ จุดชมวิวดอยม่อนหมาก โดยไม่ต้องง้อดอยสุดฮิตอื่นๆ

จุดเด่นของอำเภอแม่แจ่มนั้น อยู่ที่ ความสวยงามอลังการของนาขั้นบันได ที่ข้าวเริ่มจะออกรวงสีเหลืองทองในช่วงหน้าหนาว อีกทั้งชมบ้านป่าบงเปียง หมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ให้เราได้อิ่มเอิบ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 053 276 140 – 1

อ่านเพิ่มเติม : จ่าย 900 บาท กับ วิวธรรมชาติที่เห็นแล้วต้องอึ้ง! ณ โกวิทกระท่อมปลายนา


11. นาขั้นบันได
นาขั้นบันได เชียงใหม่
ขอบคุณภาพจาก Namee Be Bear (http://www.thetrippacker.com/th/nameebebear)
นาขั้นบันได นาข้าวที่ปลูกตามไหล่เขา เป็นอีกหนึ่งวิวสวยขั้นเทพ ไฮไลท์ของที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาชมความงามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหน้าฝนหรือหน้าหนาว การมาเที่ยวชมแนวสันเขาเต็มไปด้วยนาขั้นบันไดสวยงาม สามารถเที่ยวได้ 2 ช่วงด้วยกันคือ ช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือน ก.ย. ก็จะได้เห็นความเขียวขจี และช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. – พ.ย. ก็จะได้สัมผัสข้าวสีเหลืองทอง ออกรวง

นาขั้นบันไดในจังหวัดเชียงใหม่นั้น มีด้วยกันหลายที่ เช่น

นาข้าวขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม
นาข้าวขั้นบันไดบ้าน กองกาน อ.แม่แจ่ม
นาข้าวขั้นบันได แม่ปาน อ.แม่แจ่ม
นาข้าวขั้นบันได บ้านตีนผา อ. แม่แจ่ม
นาข้าวขั้นบันได แม่กลางหลวง อ.จอมทอง
นาข้าวขั้นบันได บ้านผาหมอน
 นาข้าวขั้นบันได โครงการหลวงขุนแปะ อ.จอมทอง
นาข้าวขั้นบันได บ้านแม่ระมีดน้อย อ.อมก๋อย
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : ชมวิวขั้นเทพ กับ 10 ที่เที่ยวนาขั้นบันได ในเมืองไทย


12. พระธาตุดอยสุเทพ
pic22

เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา มีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน


13. ดอยม่อนจอง
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย
http://thai.tourismthailand.org/ ดอยม่อนจอง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
http://thai.tourismthailand.org/
ดอยม่อนจอง ตั้งอยู่ในเขตลึกของป่าอมก๋อย ทิศตะวันออกจรดเขื่อนภูมิพล ทิศตะวันตกติดกับถนนสายอมก๋อย-บ้านแม่ตื่น ทิศเหนือจรดกับพื้นที่อำเภอดอยเต่า ทิศใต้จรดกับลำห้วยแม่ตื่นที่ไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย จุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง เรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต

ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ต้นกุหลาบพันปีจะออกดอกสีแดงสะพรั่งดึงดูดนกสวยงามนานาชนิดให้มาลิ้มรสน้ำหวาน กลายเป็นของแถมให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดตาเพลินใจไม่น้อย

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : เพลินลมหนาว หาวเป็นไอ ดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่




14. ดอยหลวงเชียงดาว
ทัศนียภาพ 360 องศา ที่ต้องสัมผัส
ดอยหลวงเชียงดาว ทัศนียภาพ 360 องศา ที่ต้องสัมผัส
ขอบคุณรูปภาพจากคุณ Popumon Papulop (facebook.com/thaipapulop)
ดอยเชียงดาว อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว มีลักษณะเป็นเทือกเขา ภูเขาหินปูน ประกอบไปด้วยยอดเขาสูงหลายยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ “ดอยหลวงเชียงดาว” สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของบ้านเรา สูงพอจะทำให้ “น้ำ” ท้อใจ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,225 เมตร รองจากดอยอินทนนท์ และดอยผ้าห่มปก

เป็นที่ตั้งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อุณหภูมิตามปกติจะถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกตลอดปีโดยเฉพาะในฤดูหนาวและฤดูฝน อากาศหนาวเย็นตลอดฤดูหนาวและฤดูฝนอากาศชุ่มชื้นมาก เป็นแหล่งที่มีพืชพรรณหลากหลายและมีหลายชนิดที่เป็นพืชถิ่นเดียวไม่พบในส่วนอื่น ๆ ของประเทศไทย มีทั้งพืชเขตร้อน, กึ่งเขตร้อนและพืชเขตอบอุ่น จึงเป็นสถานที่ ๆ พบความหลากหลายทางชีวภาพมาก เป็นแหล่งนิยมสำหรับการดูนก มีนกอาศัยอยู่ที่นี่มากกว่า 300 ชนิด รวมถึงสัตว์ป่าชนิดอื่นที่หายาก เช่น ผีเสื้อสมิงเชียงดาว, ไก่ฟ้าหางลายขวาง, กวางผา รวมถึงเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน เป็นต้น

อ่านและดูภาพเพิ่มเติม : งามเกินห้ามใจ! ดอยหลวงเชียงดาว พร่างพราวดั่งสรวงสวรรค์


15. อุทยานหลวงราชพฤกษ์

การได้ไปเที่ยวชมความงามของธรรมชาติและดอกไม้งามๆ หลากหลายสายพันธุ์ ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ นั้นบอกเลยว่า ไปครั้งเดียวก็ไม่พอ ไปครั้งเดียวก็เที่ยวไม่หมด! ตั้งอยู่ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง เคยใช้เป็นสถานที่ที่ใช้จัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 และ มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่มีดอกไม้งามหลากหลายสายพันธุ์ ชูช่อ เบ่งบานนับแสนนับล้านดอก

มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด การจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรและอื่น ๆ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษางานวิจัย และเป็นแหล่งพบปะกันในกลุ่มเกษตรกร ภายในพื้นที่มีการจัดภูมิสถาปัตย์อย่างสวยงาม

ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด! คือ

หอคำหลวง
สวนองค์กรเฉลิมพระเกียรติ
สวนนานาชาติ
สวนไทย
อาคารโลกแมลง (Bug World) เป็นต้น
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : เที่ยว “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เชียงใหม่ ชมดอกไม้บาน ต้อนรับลมหนาว


16. กิ่วแม่ปาน
กิ่วแม่ปาน
ขอบคุณภาพจาก emaginfo.com
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน เป็นหนึ่งในมุมชมวิวทิวทัศน์บนขุนเขาของเชียงใหม่ ที่ยังคงสมบูรณ์และหาดูได้ยากในประเทศไทย แม้กิ่วแม่ปานจะไม่มีอะไรมาก แต่ที่นี่ก็คือจุดรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มาแรงเช่นกัน

เส้นทางสู่กิ่วแม่ปาน คือเส้นทางของถนนจอมทอง ที่มุ่งสู่ดอยอินทนนท์ เพียงแต่อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 42 ณ จุดนี้ เรากำลังจะเริ่มต้นเดินเท้าเข้าไปใน “เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน-ดอยอินทนนท์” ทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะอยู่ริมถนนพอดี เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน มีระยะทางการเดิน 3 กิโลเมตร มีทั้งเดินในป่าและสันดอย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : กิ่วแม่ปาน สำหรับนักเดินป่ามือใหม่


17. หน้าผาจูบกัน อุทยานแห่งชาติออบหลวง
หน้าผาจูบกัน อุทยานแห่งชาติออบหลวง

ก็เป็นอีกแห่งที่น่าสนใจ และยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ คุณจะได้เห็นทัศนียภาพอันแปลกตา ของภูผา ป่าไม้ สายน้ำ และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ในที่เดียวกัน

ออบหลวง เป็นสถานที่น่าเที่ยวที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ความสวยงามและน่าเกรงขามไว้ในที่เดียวกัน เป็นเพราะว่าลักษณะทางภูมิศาสตร์ของออบหลวงที่เบื้องล่างเป็นแม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวผ่านช่องเขาขาด ซึ่งช่องเขานี้มีลักษณะเป็นผาสูงชัน และแคบมาก บีบทางน้ำไหลให้แคบเข้า ดังนั้นแม่น้ำตรงนี้จึงเชี่ยวจัด เกิดเสียงน้ำกระทบหน้าผาดังสนั่นโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมช่องเขาขาดสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของออบหลวง อีกทั้งมีบริการบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : หน้าผาจูบกัน อุทยานแห่งชาติออบหลวง จ.เชียงใหม่

ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติออบหลวง : คนไทย ผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 40 บาท และเด็กจะอยู่ที่ 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

สอบถามเพิ่มเติมที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง โทร. 0 5-322-9272 หรือสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2-562-0760 หรือสำรองที่พักด้วยตนเองที่เว็ปไซต์ www.dnp.go.th


18. เที่ยวป่าสนสลับสี โครงการหลวงวัดจันทร์
เที่ยวป่าสนสลับสี โครงการหลวงวัดจันทร์

เมื่อลมหนาวเดินทางมาถึง ป่าสนของ อ.กัลยาณิวัฒนา อำเภอลำดับ 878 ของประเทศไทย จะเริ่มผลัดใบรับฤดูหนาวเปลี่ยนสีเขียวของป่าที่ได้รับน้ำตลอดฤดูฝนให้เป็นสีสันตระการตา ไล่สีตั้งแต่เหลืองและน้ำตาลของต้นสนแดงและส้มของต้นเมเปิล ภาพที่เห็นคล้ายผืนผ้าใบไร้ขอบเขต ที่ถูกละเลงสีด้วยพู่กันธรรมชาติ และความที่แต่ละต้นมีการไล่ลำดับสีแตกต่างกัน ยิ่งทำให้ความสวยงามของเฉดสียิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ สนสองใบและสนสามใบของที่นี่เป็นป่าสนธรรมชาติผืนใหญ่ที่สุดของประเทศไทย

จากหมู่บ้านที่ต้องเผชิญความลำบากก่อน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงโปรดเกล้าให้พัฒนาจนกลายเป็น “โครงการหลวงหมู่บ้านวัดจันทร์” เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฏรกระทั่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกในปัจจุบัน

ไฮไลท์อยู่ที่ สัมผัสความอลังการของป่าสนใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพลิดเพลินกับหลากสีสันของใบไม้งามตามธรรมชาติ เช่น ใบเมเปิ้ลสีแดงส้ม ที่พร้อมใจผลัดใบในช่วงเดือนมกราคม –กุมภาพันธ์ของทุกปี ใกล้กันมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่หากมาเยือนในยามเช้าจะได้ยลสายหมอกแห่งความหนาวจับกลุ่มลอยฟุ้งเหนือผิวน้ำ ปกคลุมทิวสนจนกลายเป็นวิวสุดงดงามและยังมีจักรยานให้ปั่นดื่มด่ำอากาศบริสุทธิ์, เดินศึกษาป่าสนหรือคลุกคลีไมตรีจิตจากชาวบ้านปากะญอได้ตามอัธยาศัย หรือ ปั่นจักรยานชมเส้นทางธรรมชาต ที่สวยมากใครมียกใส่รถไปได้เลย

การเดินทาง : จากเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่อ.แม่ริม เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 ที่มุ่งหน้าสู่อ.ปายก่อนเข้าอ.ปายประมาณ 13 กิโลเมตรจะมีทางแยกซ้ายเข้าถนนหมายเลข 1265 ไปอีกประมาณ 40กิโลเมตรทางค่อนข้างคดเคี้ยวแต่เป็นถนนลาดยางตลอดทางมีรถโดยสารสองแถวสีเหลือง(เชียงใหม่–สะเมิง–วัดจันทร์) ทุกวันจากสถานีขนส่งช้างเผือกอ.เมืองเชียงใหม่หรือสามารถเลือกต่อรถจากอ.ปายจ.แม่ฮ่องสอนแต่ควรตรวจสอบเวลารถก่อนเดินทาง


19. ดอยผ้าห่มปก หรือ อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
ดอยผ้าห่มปก หรือ อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก

อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก  หรือชื่อเดิมคือ ดอยผ้าห่มปก ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนของทิวเขาผีปันน้ำ สภาพป่าส่วนใหญ่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เชิงเขาเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ ริมลำธารเป็นป่าดิบแล้ง ส่วนบนยอดเขาสูงจะเป็นป่าสน เป็นต้นน้ำของแม่น้ำฝาง มีความสูงตั้งแต่ 400 – 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีหมอกปกคลุมจัดและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

มีดอยสำคัญได้แก่ ดอยฟ้าห่มปก ดอยปู่หมื่น ดอยแหลม และดอยอ่างขาง สภาพป่าทั่วไปมีความอุดมสมบูรณ์และเป็นป่าต้นน้ำแห่งแม่น้ำฝาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากตั้งแค้มป์พักแรม ต้องไปที่ กิ่วลม เท่านั้น เนื่องจากทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้พักแรมบนยอด ดอยฟ้าห่มปก เพราะเป็นหน้าผาสูงชัน อาจเกิดอันตรายได้ง่าย

สถานที่น่าสนใจ :

โป่งน้ำร้อนฝาง มีน้ำแร่ทั้งปี เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-20.00 น.
น้ำตกโป่งน้ำดัง น้ำตกหินปูนขนาดเล็ก แต่มีเสน่ห์ไม่แพ้น้ำตกขนาดใหญ่ มีถ้ำเล็กๆ ให้เข้าไปรับความชุ่มฉ่ำ
ถ้ำห้วยบอน เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ลึกประมาณ 300 เมตร เมื่อเข้าไปกลางถ้ำจะพบโถงถ้ำใหญ่ ซึ่งจุคนได้ประมาณ 40-50 คน สภาพแวดล้อมภายในเต็มไปด้วยเสาหินและหินงอกหินย้อยขนาดต่างๆ ให้ความตื่นตาไม่น้อย
การเดินทาง : จากเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ถึงตัวเมืองฝางตรงไปจนพบสามแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายไป 9 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางชัดเจนตลอดทาง เป็นถนนลาดยาง จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ จะมีรถรับจ้างคอยบริการรับส่งสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก อีกประมาณ 10 กม.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก โทร. 053 453 517-8 ต่อ 104หรือติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 หรือสำรองที่พักด้วยตนเองที่  www.dnp.go.th


20. อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ทะเลเชียงใหม่
อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ทะเลเชียงใหม่

ขึ้นเหนือก็เที่ยวทะเลได้! ห้วยตึงเฒ่า เป็นทะเลสาบน้ำจืด เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง เป็นโครงการหมู่บ้านตัวอย่างตามพระราชดำริ และได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่เขตทหาร โดยอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ใช้ในศูนย์เกษตรกรรมทหารฯ และราษฎรบริเวณใกล้เคียง

จุดเด่นของที่นี่ คือ ทิวทัศน์อันงดงามของอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ และบริเวณอ่างเก็บน้ำยังมีหาดทรายคล้ายชายทะเล ที่ทุกคนสามารถเล่นน้ำได้ ทั้งยังมีบริการห่วงยาง เรือพาย จักรยานน้ำให้เช่าในราคาย่อมเยา ส่วนใครที่ชอบตกปลา ก็มีซุ้มแพสำหรับตกปลาบริเวณสันเขื่อน ขณะเดียวกันหลายคนยังจะได้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมกระโดดหอ เกมโซน เพ้นท์บอล รถเอทีวี และเครื่องเล่นต่างๆ ภายในบริเวณอ่างเก็บน้ำอีกด้วย

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ที่ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางโดยจากตัวเมือง เริ่มต้นจากสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เลียบคลองชลประทานผ่านโรงเรียนนวมินทร์ ฯ – มูลนิธิขาเทียม – กรมทางหลวง – ททบ.5 – สถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ และเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานคลองชลประทาน เข้าสู่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า

ค่าธรรมเนียมเข้าอ่างเก็บน้ำ : คนละ 20 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า มณฑลทหารบกที่ 33 โทร.0 5312 1119 หรือเว็บไซต์ www.rta.mi.th/hueytuengtao

วันเปิดทำการ :
วันจันทร์ – วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ :
09.00 – 17.00


21. สวนสนบ่อแก้ว
นามิเมืองไทย ไม่ต้องบินไปถึงเกาหลี
สวนสนบ่อแก้ว นามิเมืองไทย ไม่ต้องบินไปถึงเกาหลี

แหล่งท่องเที่ยวที่ยังมีความเป็นอันซีนของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอฮอด จ.เชียงใหม่ บนเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง กม.ที่ 36 อยู่เลยอุทยานแห่งชาติออบหลวงไปประมาณ 22 กม. เป็นพื้นที่ทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่าง ๆ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำพันธุ์มาจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และไต้หวัน เพื่อทดลองหาพันธุ์ที่เหมาะสมมาเป็นไม้เบิกนำ เพื่อปลูกบนป่าเสื่อมโทรมบนดอยทางภาคเหนือ ต้นสนที่นำมาปลูกมีอายุกว่า 40 ปี เพราะปลูกในช่วงปี พ.ศ.2509-2510 จำนวนหลายพันต้น เรียงรายเป็นระเบียบบนลานโล่งเตียนด้านหน้า

ทั้งนี้ สวนสน ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษและเป็นแปลงทดลองปลูกพืชจำนวนสนสามใบ และยูคาลิปตัส ในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ อากาศของที่นี่ชื้นและเย็นตลอดปี

วันเปิดทำการ  :  วันจันทร์ – วันอาทิตย์  เวลา 08.00 น. – 17.00 น.
ติดต่อสอบถาม  :  โทร. 0 5324 8604  ,  0 5324 8607


22.  ดอยค้ำฟ้า
 ดอยค้ำฟ้า

 ดอยค้ำฟ้า หรือ กิ่วใจหาย แหล่งท่องเที่ยวอันซีนเชิงอนุรักษ์ ที่มีผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ตั้งอยู่ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่  มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,834 เมตร ไฮไลท์สำคัญคือการชมทะเลหมอก ที่เบื้องหลังคือยอดดอยหลวงเชียงดาว มันช่างงดงามยิ่งนัก

เหมาะสำหรับผู้มีใจรักธรรมชาติ พักแรมแบบกางเต็นท์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบปิด ก่อนขึ้นไปต้องโทรแจ้ง หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่งายก่อน เนื่องจากถนนเป็นเส้นทางลำลอง หน้าฝนต้องใช้ 4×4 หน้าหนาว 4×2 ผ่านได้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ดอยค้ำฟ้า ฟ้าอยู่ค้ำคน คนไม่อยู่ค้ำฟ้า

การเดินทาง

จากเชียงใหม่-เชียงดาว และใช้เส้นทาง เชียงดาว-เวียงแหง ขับไปจนถึง สะพานข้าม ห้วยน้ำกัด ขวามือจะมีป้ายดอยค้ำฟ้า บอกชัดเจนประมาณหลัก ก.ม ที่ 26-27 ดอยค้ำฟ้าจะอยู่ก่อนหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคอง ถ้าถึงหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคอง ถือว่าเลยไปแล้ว ให้กลับรถ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย  โทร. 081 992 7346


23. อุทยานผาช่อ

เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติสุด UNSEEN ของเชียงใหม่ ผาช่อ เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมฝน จนทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปี หรือพันปีก่อนบริเวณแห่งนี้ เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิง ตะกอนแม่น้ำปิงก่อตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ ผ่านกลายเวลาและถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา คล้ายกับที่แพะเมืองผีในจังหวัดแพร่ หรือฝั่งต้าในจังหวัดพะเยา มีลวดลายที่สวยงามและมีขนาดใหญ่มีความสูงราว 30 เมตร สูง เทียบเรือนยอดไม้ ครอบคลุมพื้นที่อาณาบริเวณกว้าง

การเดินทาง : ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นไกด์นำทางพาเดินเข้าไปชมผาช่อ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เที่ยวได้ครบ



24. น้ำตกรักจัง หรือ น้ำตกผาดอกเสี้ยว
ดอยอินทนนท์
น้ำตกรักจัง หรือ น้ำตกผาดอกเสี้ยว ดอยอินทนนท์

น้ำตกผาดอกเสี้ยว หรือน้ำตกรักจัง ตั้งอยู่บ้านแม่กลางหลวง ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์น้ำตกผาดอกเสี้ยวนั้นมีทั้งหมด 10 ชั้น แต่ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือนคือชั้นที่ 7 เพราะสายน้ำจากน้ำตกชั้นบนไหลตกลงมากระทบชั้นล่าง มีความสูงราว 20 เมตร สวยงามตระการตา ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกผาดอกเสี้ยวก็มาจากชื่อต้นเสี้ยวซึ่งเป็นไม้เด่นบริเวณน้ำตกนั้นเอง

การเดินทาง : เริ่มต้นที่การเดินทางมายัง บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่ซ้ายมือบริเวณกิโลเมตรที่ 26 ของเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ จากนั้นให้เข้าไปที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อติดต่อมัคคุเทศก์นำทาง เป็นชาวบ้านท้องถิ่นที่จะพาเราลัดเลาะไปตามลำธารและป่าดง เส้นทางเดินป่ามีทั้งทางราบและทางชัน ที่จะทำให้คนไม่ค่อยออกกำลังกายได้ขาสั่น ด้วยระยะทาง 3 กิโลเมตร เป้าหมายอยู่ที่น้ำตกชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุด และเป็นชั้นที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์รักจังนั่นเอง

อ่านและดูภาพเพิ่มเติม : ฟังเสียงลำธาร วิมานแห่งความสุข ต้อง… น้ำตกรักจัง


25. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์%e0%b9%87%e0%b8%88%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0

เดิมทีมีชื่อว่า “สวนพฤกษศาสตร์แม่สา” ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ประจำภาคเหนือของประเทศไทย ต่อมาองค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” ที่นี่มีสภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบและที่สูงสลับกันเป็นชั้นๆ ในระดับ 300-970 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะการจัดสวนจะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้นานาชนิดได้เข้าไป ศึกษาหาความรู้

ไฮไลท์ : อาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม, เรือนกล้วยไม้ไทย,  เส้นทางศึกษาธรรมชาติ 4 เส้นทาง (เส้นทางน้ำตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) ระยะทาง 300 เมตร, เส้นทางสวนรุกชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตร, เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กิโลเมตร, เส้นทางพันธุ์ไม้ประจำจังหวัด ระยะทาง 800 เมตร)

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 12 สายแม่ริม-สะเมิง

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 8.30-17.00 น.
ค่าธรร

293
10 ที่กิน-เที่ยวเชียงราย
อยากชวนไปสโลว์ไลฟ์ด้วยกัน!.

1. ไร่รื่นรมย์ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์
ไร่รื่นรมย์ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์


 ไร่รื่นรมย์ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ เชียงราย  ไร่รื่นรมย์ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ เชียงราย

คนรุ่นใหม่ตอนนี้หันมาดูแลและใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น รวมถึงชอบเที่ยวสถานที่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นด้วย และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เกิด ไร่รื่นรมย์ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ขึ้นมา ซึ่งเป็นความตั้งใจของเจ้าของที่อยากให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพดวยการทานอาหารแบบออร์แกนิค พร้อมกับสร้างประสบการณ์ให้กับคนที่สนใจในเรื่องการทำนา ทำไร่แบบออร์แกนิค และอยู่กับธรรมชาติ

ไร่ปลูกพืชผักแบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) ตั้งอยู่ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย มีพื้นที่กว่า 80 ไร่ แบ่งออกเป็นสัดส่วน ทั้งที่พักนอนเต้นท์ ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนา ที่จะทำให้เราได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ตลอดเวลา เรียนรู้ธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้งและสอดคล้องกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว เต้นท์พักมีสำหรับ 2 ท่าน , 3ท่าน และ 4 ท่าน


“ชีวิตธรรมดา” ร้านกาแฟเล็กๆ อันแสนอบอุ่นที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกกอันสวยงามในจังหวัดเชียงราย ที่ “ชีวิตธรรมดา” ให้บริการอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มที่ทำขึ้นจากวัตถุดิบสดใหม่

นั่งอยู่ท่ามกลางมวลดอกไม้ เสียงนกร้อง สายน้ำไหลและอากาศที่สดชื่น หยุดวันเวลาที่รีบเร่งและมีโอกาสได้ซึมซับสุนทรียภาพจากธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะที่นี่เชื่อว่าชีวิตควรจะเนิบช้า เรียบง่ายและสวยงาม มาใช้เวลาดื่มด่ำกับชีวิตธรรมดาที่ “ชีวิตธรรมดา” อย่างเต็มที่นานเท่าที่เราต้องการกันดีกว่า!


3. เรียวกัง คาเฟ่ (RYOKAN CAFE’)


ด้วยบรรยากาศรายล้อมที่มีความคลับคล้ายกับชนบทของประเทศญี่ปุ่น ผนวกกับความชอบในวัฒนธรรม อันสงบลุ่มลึกของชาวญี่ปุ่น ทำให้เจ้าของได้เริ่มต้นสร้างร้านกาแฟเล็กๆ ขึ้นมาก่อน โดยใช้ชื่อว่า “เรียวกัง คาเฟ่” (Ryokan Cafe’) ขึ้นมา





ก่อนที่ เชียงรายเรียวกัง จะเปิดบริการห้องพักแบบญี่ปุ่น ได้เริ่มต้นจากการเปิดร้านกาแฟ แบบ Open Air ให้คอกาแฟ ทั้งหลายได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศท้องทุ่ง กลิ่นกรุ่นวัฒนธรรมญี่ปุ่น พร้อมลิ้มรสกาแฟ และเครื่องดื่มกว่าร้อยชนิด นอกจากนี้ทาง เรียวกังคาเฟ่ ยังมีเมนูพิเศษ อาหารจานเดียวแนว ฟิวชั่นญี่ปุ่นล้านนา ที่คัดสรรมาให้นักชิมทั้งหลายมาลิ้มลอง จนติดใจต้องแวะมาชิมอยู่เสมอ

ที่อยู่ : 134 หมู่ 4 ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย 57250
โทรศัพท์ : 081-868-3010
เปิดให้บริการ : ทุกวัน เวลา 9.00-18.30 น.

ร้านกาแฟเท่ๆ ที่ตั้งอยู่ทามกลางต้นไม้ ป่าสีเขียว ที่ชวนให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าข้างในจะสวยและบรรยากาศดีเพียงใด สมกับชื่อร้านที่ว่า The Wanderer ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดร่องเสือเต้นมากนัก และถึงแม้จะเป็นใหม่ได้ไม่นานแต่ก็กำลังเป็นที่นิยมมากๆ มานั่งจิบกาแฟ ทานขนมอร่อยๆ ฟังเสียงธรรมชาติ นก บลาๆ มันได้ฟิลลิ่งสุดๆ อีกทั้งที่นั่งภายในร้านก็มีมุมเยอะมากๆ ทั้งเรือนกระจก หรือนั่งติดริมแม่น้ำกก

ที่อยู่ : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
โทรศัพท์ : 089 755 4666 , 083 456 6627
เปิดให้บริการ : ทุกวัน 08.00 – 20.00 น.
Facebook : The Wanderer – เดอะ วอนเดอเรอร์



5. ไร่ชาฉุยฟง


ไร่ชาฉุยฟงเป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี เป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ปัจจุบันมี 2 แห่ง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ในอำเภอแม่จัน เชียงราย ก่อนถึงบ้านเทอดไทย ซึ่งเป็นไร่ชาแห่งที่ 2 เปิดได้ประมาณ 2 ปีกว่า มีพื้นที่กว้างและได้บรรยากาศ ของไร่ชาที่ กว้างใหญ่ ปลูกโค้งวนไปตามไหล่เขา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแวะถ่ายภาพและชมความงามได้หลายจุด

ที่อยู่ : ตำบล แม่จัน อำเภอ แม่จัน เชียงราย 57110
โทรศัพท์ : 053 771 563
เปิดทำการ : 8.30 – 17.30



 6. พิพิธภัณฑ์ บ้านดำ
พิพิธภัณฑ์ บ้านดำ

พิพิธภัณฑ์ บ้านดำ  พิพิธภัณฑ์ บ้านดำ

สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติที่มีฝือทางด้านจิตรกรรม ปฏิมากรรม ซึ่งท่านได้สร้างผลงานศิลปะไว้มากมาย บอกเลยว่าเคยเห็นครั้งแรกสวยสะดุดตามากๆ ถึงแต่จะเป็นที่ดำที่ทำให้รู้สึกถึงความดุดันก็ตาม แต่ก็สวยมากๆ ทีเดียวค่ะ

บ้านดำ เป็นกลุ่มบ้าน ศิลปะล้านนา ทุกหลังจะทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อบ้านดำและยังเป็นสีโปรดของ อ.ถวัลย์ อีกด้วย มีทั้งหมด 36 หลัง จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ในบ้านแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากนี้ยังมีเขาสัตว์ เช่น เขากวาง เขาควาย และกระดูกสัตว์ เช่นกระดูกช้าง ประดับด้วย ซึ่งบ้านเหล่านี้อาจารย์ไม่ได้สร้างเพื่ออยู่อาศัย แต่สร้างเพื่อเก็บสะสมสิ่งของต่างๆ

อ่านเพิ่มเติม : พิพิธภัณฑ์ บ้านดำ


7. วัดร่องขุ่น
วัดร่องขุน

วัดร่องขุน วัดร่องขุน

วัดชื่อดังและเป็นวัดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย สร้างโดยท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งการสร้างวัดนี้ท่านได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 3 สิ่ง คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ท่านได้สร้างงานพุทธศิลป์ถวายเป็นงานศิลปะประจำรัชกาลที่ ๙ ซึ่งลักษณะของวัดร่องขุน ถอดแบบมาจากวัดมิ่งเมือง จังหวัดน่าน

อ่านเพิ่มเติม : วัดร่องขุน



8. ไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด

ไร่บุญรอด ไร่บุญรอด

เดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ กันที่ไร่ชา หรือทำกิจกรรม เช่น ให้อาหารสัตว์ แอดเวนเจอร์ซิปไลน์ เสร็จแล้วไปทานข้าวเย็นกันที่ ร้านภูภิรมย์ (Phu Phi Rom) เป็นร้านอาหารที่อยู่ในไร่บุญรอด และเป็นอีกจุดชมวิวยามเย็น เห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆ อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : ไร่บุญรอด



9. วัดร่องเสือเต้น
วัดร่องเสือเต้น

วัดร่องเสือเต้น วัดร่องเสือเต้น

เป็นอีกหนึ่งวัดสวยที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนเชียงราย วัดนี้สวยมากๆ เล่นสีสันสดใส น้ำเงินฟ้าเหลือบม่วง โดดเด่นมากๆ สร้างเป็นลวดลายกนกและผสมความดุดันเข้าด้วยกัน สร้างโดยคุณ สล่านก หรือนายพุทธา กาบแก้ว ลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โดนท่านนิยามพระวิหารแห่งนี้ว่า เป็นทิพยสถาน คือเป็นการสรรเสริญพระพุทธเจ้าทั้งในรูปแบบของประติมากรรมและจิตรกรรม เมื่อคนเข้าไปมีจิตใจดีก็จะรักษาศีลก่อให้เกิดสมาธิและปัญญาตามมา

อ่านเพิ่มเติม : วัดร่องเสือเต้น



10. วัดพระแก้วเชียงราย
วัดพระแก้วเชียงราย
วัดพระแก้วเชียงราย
วัดพระแก้วเชียงราย คือวัดที่เราเดินทางมาถึงเป็นที่ต่อไป ที่วัดแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของพระแก้วมรกต ซึ่งพระแก้วมรกตถูกค้นพบ ณ วัดแห่งนี้ ต่อมาจึงย้ายไปประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในกรุงเทพฯ

อ่านเพิ่มเติม : วัดพระแก้วเชียงราย



11. ร้านมาลองเต๊อะ
ร้านมาลองเต๊อะ

ร้านมาลองเต๊อะ ร้านมาลองเต๊อะ

เป็นร้านอาหารเหนือ รักสุขภาพ รสชาติอร่อย มีเมนูหลากหลายที่เราเองก็ยังไม่เคยทานมาก่อน ร้านน่ารัก บริการเป็นเอง ได้เห็นธรรมชาติสวยๆ รอบข้างด้วย

 

ถัดไปข้างๆ ก็จะเป็น ขัวศิลปะ เป็นศิลป์สถานซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของกลุ่มศิลปินเชียงรายที่ตั้งใจสร้างหอศิลป์สำหรับแสดงงานและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยอาจารย์เฉลิมชัย ซึ่งจะมีการจัดแสดงศิลปะของศิลปินเชียงราย ตอนที่เราไปนั้นกำลังจัดแสดงศิลปะที่รำลึกถึงอ.ถวัลย์ ดัชนี

อ่านเพิ่มเติม : ขัวศิลปะ – ร้านมาลองเต๊อะ



12. Eat Sleep Cafe & Bed
Eat Sleep Cafe & Bed

อีท สลีฟ คาเฟ่ แอนด์ เบด (Eat Sleep Cafe and Bed) ที่พักเล็กๆ สไตล์มินิมอล และมีความน่ารักแบบญี่ปุ่น เน้นตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลผสมกับสีขาว ที่ทำให้ดูโล่งโปร่งสบาย เหมาะกับทริปสโลว์ไลฟ์จริงๆ ทีนี่มีห้องพัก 5 ห้อง การมาพักที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน บริการอบอุ่นและเป็นกันเองมากๆ นอกจากที่พักแล้ว อีท สลีฟ คาเฟ่ แอนด์ เบด ยังมีคาเฟ่เปิดให้บริการด้วย ทั้งขนมและเครื่องดื่ม


ที่ตั้ง : ถนน แควหวาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
คาเฟ่ เปิดให้บริการ : ทุกวัน 9.00-20.00 น.
โทรศัพท์ : 091 067 8272
Facebook : Eat Sleep Cafe & Bed



13. Melt in your Mouth Chiangrai
 Melt in your Mouth Chiangrai

ร้านอาหารขึ้นชื่อเมืองเชียงราย ใครมาเที่ยวต้องแวะให้ได้! เที่ยวเมืองไทยยังไงให้ดูเหมือนเที่ยวเมืองนอก ต้องมาร้านนี้ Melt in your Mouth เป็นร้านอาหารสไตล์อังกฤษรอบๆ บริเวณตกแต่งและปกคลุมไปด้วยต้นไม้หลายชนิด โดยเฉพาะต้นเหลืองชัชวาล เวลาออกดอกสีเหลืองพร้อมๆ กันแล้วจะสวยมากๆ ภายในร้านตกแต่งโทนสีขาว ดูคลาสสิค ส่วนเมนูอาหารของที่นี่นอกจากจะตกแต่งอาหารสวย มีไอเดียอาหารแปลกใหม่น่าทานแล้ว ยังอร่อยอีกด้วย มีลูกเล่นให้เราสนุกไปกับการทานอาหาร ฟิน!!





ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
โทรศัพท์ : 052 020 549
เปิดให้บริการ : ทุกวัน 08.30 – 20.30 น.
Facebook : Melt in your Mouth Chiangrai

นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาตั๋วเครื่องบินไปเชียงราย แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงรายกับ Traveloka เลย เพราะว่าสามารถเปรียบเทียบตั๋วได้แค่เพียงปลายนิ้วคลิก
แถมทราเวลโลก้าก็ยังมี Feature ใหม่ ให้คุณได้เปรียบเทียบตั๋วเครื่องบินในราคาที่ถูกที่สุดเลือกจองตั๋วเครื่องบินไม่ว่าจะเป็นทั้งราคา และเที่ยวบินที่คุณต้องการ ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปเชียงราย >>> คลิก
ที่นอกจากตั๋วเครื่องบินแล้ว ยังมีบริการรถเช่าเชียงราย สำหรับใครที่อยากเช่ารถเที่ยวเอง หรือว่าจัด Road Trip ที่เชียงราย
ก็สามารถใช้บริการได้ดังนี้ >>> เช่ารถเชียงราย ทริปหน้าหากกำลังมองหาตัวช่วยในการจัดทริป แนะนำให้กดคลิกเข้าไปใน Traveloka กันได้เลย

ตั๊กออแกไนท์เชียงราย รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเชียงราย
นางรำเชียงรายเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเชียงราย
เชียงรายรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเชียงราย
รําบวงสรวงพญานาคเชียงราย
ฟ้อนบูชาพญานาคเชียงราย
รําบวงสรวงพญานาคเชียงราย

 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            





294
เช็คอิน “10 ที่เที่ยวนครพนม” ชิลล์เมืองริมโขง สนุกครบทุกรสชาติ

วนเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเมืองน่ารักริมฝั่งโขง “นครพนม” ที่หลายคนไปแล้วแอบหลงรัก เพราะมีที่เที่ยวหลากหลายสไตล์ เหมาะกับทุกวัย ไปแล้วสนุกครบทุกรสชาติ ตั้งแต่เข้าวัดไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมวิวริมโขง ช้อปปิ้งบนถนนคนเดิน จะวางแผนไปเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน ก็ฟินได้ง่ายๆ ตามมาเที่ยวกันได้เลย!

นครพนม  เมืองน่ารัก บรรยากาศชิล ริมแม่น้ำโขง

มีแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของเมืองนครพนม

เมืองที่ “สุขที่สุด” ต้องลองมาเยือนสักครั้ง! และขอแนะนำ “10 ที่เที่ยวนครพนม” ชิลล์เมืองริมโขง สนุกครบทุกรสชาติ ต้องห้ามพลาด!

1.วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

พระอารามหลวงชั้นเอกซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระธาตุพนม โบราณสถานที่มีประวัติยาวนานนับพันปี โดยตามตำนานพระธาตุพนม หรืออุรังคนิทานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระอานนท์ เสด็จมาถึงดินแดนแถบนี้ ได้ทรงพยากรณ์ที่ตั้งเมืองมรุกขนคร (นครพนม) เอาไว้

ต่อมาหลังการเสด็จปรินิพพาน พระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ เข้าบรรจุภายในอุโมงค์ที่ก่อขึ้นบริเวณนี้ ก่อนที่จะเกิดการบูรณะปฏิสังขรณ์ต่อมาจนมีลักษณะเป็นองค์พระธาตุศิลปะอีสานที่งดงามในปัจจุบัน โดยพระธาตุพนมถือเป็น พระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอกด้วย

ที่ตั้ง : อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

เวลาเปิด-ปิด : 05:00-21:00 น. ทุกวัน

โทร. : 094 543 5888

2.พระธาตุท่าอุเทน

พระธาตุคู่เมืองนครพนม สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2455 โดยจำลองแบบมาจากพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ รวมทั้งพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ซึ่งนอกจากความสง่างามขององค์พระธาตุแล้ว ลวดลายปูนปั้นรอบองค์พระธาตุที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธชาดก ก็น่าชมน่าศึกษาในรายละเอียดไม่แพ้กัน

โดยทุกปีจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 นอกจากนี้ พระธาตุท่าอุเทนยังถือเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันศุกร์ เชื่อกันว่าหากมานมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์เปรียบดั่งพระอาทิตย์

ที่ตั้ง : อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น. ทุกวัน

โทร. : 042 581 484

บรรยากาศริมแม่น้ำโขง

บริเวณหน้าวัดพระธาตุท่าอุเทน

3.พระธาตุเรณู 

โดดเด่นน่าชมด้วยสีชมพูพาสเทลที่ทาลงบนลวดลายปูนปั้นที่สวยงามขององค์พระธาตุอย่างตั้งใจ องค์พระธาตุสร้างในปี พ.ศ.2461 โดยจำลองแบบมาจากสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีความสูงที่ 35 เมตร ส่วนภายในองค์พระธาตุบรรจุทั้งพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน ของมีค่า และเครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง ถือเป็นพระธาตุประจำของคนที่เกิดวันจันทร์

เชื่อว่าหากใครมานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์ ส่วนอุโบสถใกล้กันประดิษฐาน พระองค์แสน ศิลปะแบบลาว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำปางสมาธิซึ่งมีพุทธลักษณะงดงามมากองค์หนึ่งด้วย

ที่ตั้ง : ต.เรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม

เวลาเปิด-ปิด : 06:00-19:00 น. ทุกวัน

โทร. : 042 251 416

ไหว้พระธาตุเรณู เพื่อความเป็นสิริมงคล

4.ถนนคนเดินนครพนม

อยู่ที่ ถ.ชยางกูร ซึ่งเป็นถนนเลียบโขงในตัวเมืองนครพนม บรรยากาศยามเย็นจึงชิลน่าเดินมาก โดยจุดที่จัดเป็นถนนคนเดินจะอยู่บริเวณหอนาฬิกาเก่าแก่ของเมือง เรียงรายด้วยร้านรวงยาวร่วมๆ กิโลเมตร มีทั้งของกินของใช้สารพัด ที่โดดเด่นก็เช่น ผ้าย้อมครามที่นำมาตัดเป็นชุดและกระเป๋ารวมทั้งของกระจุกกระจิกหลายแบบ น่าซื้อมาก

ส่วนของกิน ก็มีเยอะ ทั้งแบบซื้อเดินกิน ไปจนถึงร้านนั่งกินดื่มเก๋ๆ ก็มีให้เลือกหลายร้าน โดยบางร้านก็สามารถนั่งชมวิวโขงได้ด้วย เรียกว่ามาเดินเล่นที่นี่จะได้เสพทั้งความสวยของบ้านเก่าริมโขง วิวโขงยามเย็น ช้อปของฝาก และอิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายในคราวเดียว

ที่ตั้ง : ถ.สุนทรวิจิตร ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม

เวลาเปิด-ปิด : 07:00-21:00 น. เปิดวันศุกร์-อาทิตย์

โทร. : 042 512 005

5.พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมิตรภาพ

หมู่บ้านเก่าแก่ที่อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามนายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศเวียดนาม ระหว่างปีพ.ศ. 2467–2474

ซึ่งประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ได้ใช้ชีวิตอยู่นานถึง 7 ปี และได้ใช้บ้านพักแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับติดต่อประสานงานและเคลื่อนไหวในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยชาติ จึงถือได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกอบกู้อิสรภาพให้แก่ประเทศเวียดนาม

ส่วนพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม บ้านลุงโฮที่สร้างขึ้นใหม่ จำลองชีวิตสมัยต่างของท่านประธานาธิบดี โฮจิมินห์ ไว้ตั้งแต่เด็ก และในสมัยที่อยู่ในประเทศไทยด้วย

ส่วนบ้านที่เคยเป็นที่พักของท่านโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีเวียดนามเป็นบ้านชั้นเดียวก็ยังคงอยู่สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะที่จะเป็นที่ศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในอดีตของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวเวียดนามจำนวนมากให้ความสนใจเข้ามาเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้

ที่ตั้ง : บ้านนาจอก หมู่ที่ 5 ตำบลหนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม

6.พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการ (หลังเก่า)

สำหรับใครที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมการก่อสร้างเก่าแก่ภายในเมืองนครพนม ต้องไม่พลาดที่จะเดินทางมาที่นี่ “พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม” (หลังเก่า) ที่ยังคงเอกลักษณ์ความสวยงามตามแบบฉบับตะวันตก ซึ่งได้รับอิทธิพลการสร้างมาจากฝรั่งเศส ในสมัยสงครามอินโดจีน

ที่นี่นอกเหนือจากจะเป็นจวนผู้ว่าฯ ในอดีตแล้ว ยังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ รวบรวมเอาของเก่าๆ ทั้งหลายที่หาชมได้ยาก และเป็นของที่ใช้กันจริง ๆ ในจวนหลังนี้ อีกทั้งยังมีภาพเรื่องราวเก่า ๆ เกี่ยวกับนครพนมให้ได้ศึกษา ประวัติความเป็นมาของเมืองนครพนมด้วย

ที่ตั้ง : ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

บรรยากาศภายใน

พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการ (หลังเก่า)

7.สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)

ว่ากันว่าที่นี่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

สะพานแห่งนี้เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ฝั่งประเทศไทย ที่บ้านห้อม ต.อาจสามารถ จ.นครพนม กับพื้นที่ฝั่งลาวอยู่ที่บ้านเวินใต้ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ใช้เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้าและการท่องเที่ยว มีความยาวรวม 780 เมตร มีช่องลอดกว้าง 60 เมตร สูง 10 เมตร 2 ช่วง ความกว้างสะพาน 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง

สำหรับสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) แห่งนี้เป็นหนึ่งในแนวทางพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ (ไทย-ลาว) ตามยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสายเอเชีย หรือ Asian Highway สาย AH 15

ที่ตั้ง : บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

8.อุโมงค์นาคราช

ที่เที่ยวบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความสวยงามและพักผ่อนออกกำลังกายไปในตัว กับ”อุโมงค์นาคราช” เส้นทางจักรยานที่เชื่อมจากเขื่อนแม่น้ำโขง ผ่านด้านหลังกองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นรข.นครพนม มีรูปแบบเป็นอุโมงค์ ระยะทางยาวถึง 307 เมตร พร้อมมีการติดตั้งโครงอุโมงค์ด้วยแผงเหล็กตะแกรง และระบบรักษาความปลอดภัยถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ท่องเที่ยวที่สามารถมาเดินเล่น หรือปั่นชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำโขงได้อย่างใกล้ชิด

ที่ตั้ง : อ.เมือง จ.นครพนม


9.พญาศรีสัตตนาคราช

มานครพนมรอบนี้ต้องไม่พลาดแวะมาสักการะพญาศรีสัตตนาคราชสิ่งศักดิ์สิทธิ์และแลนด์มาร์กเมืองนครพนม ตั้งอยู่บนลานศรีสัตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณหน้าสำนักงานป่าไม้ ถ.สุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม

สำหรับเอกลักษณ์เด่นของ “พญาศรีสัตตนาคราช” คือการสร้างองค์พญานาคสีเหลืองทองขนาดใหญ่ ตามความเชื่อของชาวริมโขงทั้งไทยและลาว ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมและสักการะขอพรกันเป็นจำนวนมาก

ที่ตั้ง: อ.เมือง จ.นครพนม

10.วัดนักบุญอันนาหนองแสง

แลนด์มาร์คสวยๆ บน ถ.สุนทรวิจิตร เลียบริมแม่น้ำโขง ตัวโบสถ์คริสต์ก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 ถูกออกแบบโดยบาทหลวงเอดัวร์โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบโบราณมีเอกลักษณ์ของคนหลายเชื้อชาติเข้าด้วยกันทั้งไทย, จีน, ลาว และเวียดนาม

เมื่อเดินเข้ามายังบริเวณเบื้องหน้าของโบสถ์ นักท่องเที่ยวจะสะดุดตากับหอคอยคู่ที่ตั้งอยู่เหนืออาคารขึ้นไป ปลายยอดแหลมดูเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ซึ่งเดิมที่นี่เปิดให้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ภายหลังที่มีการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลก โบสถ์แห่งนี้ก็ได้รับความเสียหายจนกระทั่งมีการสถานที่ประกอบพิธีใหม่ขึ้น แต่ตัวโบสถ์เดิมก็มีการบูรณะขึ้นใหม่ ตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมโคโรเนียล ส่วนอาคารสีเหลืองด้านข้างก็สวยโดดเด่นเช่นกัน ซึ่งเปิดเป็น มูลนิธิบาทหลวงเอดัวร์นำลาภ นั่นเอง

ที่ตั้ง : ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม

ตั๊กออแกไนท์นครพนม รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคนครพนม
นางรำนครพนมเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคนครพนม
นครพนมรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคนครพนม
รําบวงสรวงพญานาคนครพนม
ฟ้อนบูชาพญานาคนครพนม
รําบวงสรวงพญานาคนครพนม



  ติดต่อสอบถามเรา        
            




295
สถานที่ท่องเที่ยวชัยภูมิ ลัดเลาะแดนอีสาน ดื่มด่ำธรรมชาติที่ลงตัว

ที่เที่ยวชัยภูมิ หนึ่งในดินแดนภาคอีสานที่น่าเที่ยว และยังคงเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวชัยภูมิ ที่ไหนน่าสนใจ วันนี้เรามีมาฝากแล้ว



        ชัยภูมิ นับเป็นหนึ่งในจังหวัดภาคอีสานที่มีความสวยงาม และมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ อยู่มากมาย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่น่าจะคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ของทุ่งดอกกระเจียว ที่สวยงามและโด่งดังระดับประเทศ แต่นั่นเป็นเพียงหนึ่งในแง่มุมความสวยงามทั้งหมดที่ชัยภูมิมี วันนี้เราจะมาเก็บเกี่ยวความสวยงามของที่เที่ยวชัยภูมิให้มากขึ้นกัน ลองดูธรรมชาติและที่เที่ยวในอีกหลาย ๆ มุมของชัยภูมิ รับรองเลยว่าคุณจะต้องรักชัยภูมิเข้าอย่างจัง

1. มอหินขาว

          หนึ่งในที่เที่ยวแลนด์มาร์กของชัยภูมิ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีลักษณะเป็นเสาหินและแท่งหินขนาดใหญ่ เสน่ห์ของมอหินขาวไม่ได้อยู่ที่รูปทรงหินที่ดูแปลกตาเท่านั้น ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวคนไหนได้ไปเที่ยวในช่วงฤดูฝน หากสังเกตดี ๆ บริเวณลานดินจะล้อมรอบด้วยทุ่งดอกไม้ป่าสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์และผืนป่าที่เขียวขจี อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย พร้อมทั้งเป็นลานกางเต็นท์เพื่อนอนชมทะเลดาวที่โรแมนติกที่สุดอีกด้วย

          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลซับสีทอง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
        โทรศัพท์ : 093 093 9193
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

2. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม

          พระเอกของที่นี่คงหนีไม่พ้นทุ่งดอกกระเจียว ถึงแม้ว่าอาจจะต้องเสี่ยงเจอกับฝน แต่เชื่อเถอะว่าคุ้มค่า เพราะคุณจะได้ยลโฉมความสวยงามของดอกกระเจียวสีชมพูกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ตลอดเส้นทางที่ทอดยาวคดเคี้ยวไปตามจุดต่าง ๆ ที่เอื้อให้เราได้เดินถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามกันได้อย่างจุใจ และแวะชม "ลานหินงาม" จุดท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ที่เต็มไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ รูปร่างแปลกตา โดยทิวทัศน์ที่มองจากบนลานหินนี้ก็สวยงามไม่น้อยเลยเช่นกัน

         หมายเหตุ  ทางอุทยานแห่งชาติปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี
         ที่อยู่ : ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ
         เบอร์โทรศัพท์ : 044 890 105
         เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม Pa Hin Ngam National Park

3. อุทยานแห่งชาติไทรทอง

          มีพื้นที่ครอบคลุมป่าบนเทือกเขาพังเหย มีสถานที่เที่ยวธรรมชาติที่น่าสนใจหลากหลาย อย่างการยลโฉมความสวยงามทุ่งดอกกระเจียว (โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเหมารถที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) ซึ่งจะบานสลับกับทุ่งดอกไม้ต่าง ๆ ทั้งดอกดุสิตา สร้อยสุวรรณา กระดุมเงิน กระดุมทอง เอื้องนวลจันทร์ หรือจะเป็นการชมวิวธรรมชาติในมุมสูงที่ "ผาหำหด" ที่มีลักษณะเป็นแท่นหินยื่นออกไปจากหน้าผา เรียกได้ว่าทั้งเสียวและสวยในเวลาเดียวกัน บริเวณดังกล่าวยังมีสถานที่กางเต็นท์ และกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมาย อย่างการโรยตัว และศึกษาเส้นทางธรรมชาติ

           หมายเหตุ  ทางอุทยานแห่งชาติปิดการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2564
         ที่อยู่ : ตำบลวังตะเฆ่ อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ
         เบอร์โทรศัพท์ : 089 282 3437
         เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติไทรทอง Sai Thong National Park


4. น้ำตกตาดโตน

          ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตน เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี แต่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม โดยลำธารจะไหลไปตามความกว้างของหน้าผา ไหลลงมาเป็นม่านน้ำตกขนาดใหญ่ ดูสวยงามตื่นตาตื่นใจ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ตรงบริเวณแอ่งน้ำด้านบน และบริเวณด้านล่างของหน้าผา ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำมากกระแสน้ำเชี่ยวกราก ก็ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

         ที่อยู่ : สุดทางหลวงหมายเลข 2051 (ชัยภูมิ-น้ำตกตาดโตน) อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
         เบอร์โทรศัพท์ : 044 104 002
         เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติตาดโตน - Tatton National Park


5. อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

          แนะนำว่าใครที่อยากมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ควรจะเป็นฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงที่มีความสวยงามที่สุด ซึ่งในระหว่างเส้นทางเดินป่าจะมีต้นเต็งรังออกดอกสะพรั่งสีสวยงาม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกขับรถขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่จุดชมวิวภูแลนคาก่อน ซึ่งสามารถจอดรถทิ้งไว้ได้ และมีเส้นทางเดินป่าจากจุดชมวิวนี้เลาะไปตามหน้าผา โดยจะผ่านสถานที่ต่าง ๆ เช่น ลานหินแตก ผากล้วยไม้ เป็นต้น หรือถ้ามีเวลาน้อย จะแวะชม "ป่าหินปราสาท" ซึ่งมีก้อนหินก้อนใหญ่ให้คุณได้ปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ มองเห็นผืนป่าเต็งรังและทุ่งหญ้าลดหลั่นไปตามแนวลาดของภูเขาได้อย่างสวยงามเช่นกัน

          ที่อยู่ : ตำบลห้วยต้อน อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ
          เบอร์โทรศัพท์ : 093 093 9193
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

6. จุดชมวิวสุดแผ่นดิน

       จุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม มีความสูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเล จากบริเวณด้านบนจุดชมวิว นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวธรรมชาติของผืนป่าสีเขียวสลับซับซ้อนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ในจังหวัดลพบุรี และพื้นที่ราบซึ่งมีบ้านเรือนชาวบ้าน เป็นภาพความสวยงามที่น่าประทับใจแบบสุด ๆ นอกจากนี้บริเวณหน้าผายังมีลมพัดเย็นสบายให้เรารู้สึกสดชื่นอยู่ตลอดเวลา ได้ยืนชมวิวสวย ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาได้ยากแบบนี้ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง แนะนำว่าควรไปช่วงฤดูฝน และไปแต่เช้าตรู่ จะได้เห็นทะเลหมอกสวย ๆ เป็นของแถม
         
          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตำบลบ้านไร่ จังหวัดชัยภูมิ
          เบอร์โทรศัพท์ : 044 890 105
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม Pa Hin Ngam National Park

7. จุดชมวิวเทือกเขาพังเหย

          ตั้งอยู่บริเวณบ้านเจียง อำเภอภักดีชุมพล ริมทางหลวงหมายเลข 225 (ชัยภูมิ-นครสวรรค์) ประมาณกิโลเมตรที่ 70 จุดชมวิวแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวมาเช็กอิน ด้วยเพราะเดินทางสะดวก สามารถเอารถมาจอดแวะข้างทาง และชมวิวทิวทัศน์ข้างทางได้เลย แถมยังมีร้านค้าของชาวบ้านไว้คอยบริการ ที่จุดชมวิวนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับบรรยากาศยามเย็นของชั่วโมงที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน และยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ไว้เอาใจนักท่องเที่ยวที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติให้มากขึ้น

         ที่อยู่ : ตำบลโป่งนก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ


8. ศาลเจ้าพ่อพญาแล

          ตั้งอยู่ริมหนองปลาเฒ่า ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางความเชื่อและความศรัทธาของคนในจังหวัด เข้ามากราบไหว้ขอพรพระยาภักดีชุมพล หรือเจ้าพ่อแล ที่เป็นดั่งเจ้าบ้านเจ้าเมืองของชัยภูมิ และยังเป็นที่เคารพเลื่อมใสทั้งจากนักท่องเที่ยวและจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย บริเวณโดยรอบศาลมีจุดนั่งพักผ่อนริมน้ำที่มีต้นมะขามใหญ่ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่ทหารเวียงจันทน์ประหารชีวิตท่าน ยังไงถ้าใครมาถึงชัยภูมิแล้วอย่าลืมแวะเวียนมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลกันนะคะ

         ที่อยู่ : ถนนหฤทัย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
 


9. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว

          อยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยว 3 อำเภอ คือ อำเภอภูเขียว อำเภอคอนสาร และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ โดยทำหน้าที่ดูแลอนุรักษ์สัตว์ป่า การเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง และเนื้อทราย เป็นต้น ปกติสถานีจะเปิดให้เข้าได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าแก่คณะที่ติดต่อล่วงหน้า

         ที่อยู่ : อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
         เบอร์โทรศัพท์ : 081 708 0170

10. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง

          อยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยว 3 อำเภอ คือ อำเภอภูเขียว อำเภอคอนสาร และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ภายในอุดมด้วยธรรมชาติสวยงาม และสัตว์ป่าหลายชนิด ดังนั้นเวลาที่นักท่องเที่ยวขับรถเข้ามาในพื้นที่ ควรที่จะขับช้า ๆ เพราะสัตว์ป่าเหล่านี้ใช้เส้นทางร่วมกับเรา พลาดไม่ได้กับไฮไลต์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ได้แก่ "ทุ่งกะมัง" เป็นที่ราบทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ลักษณะคล้ายแอ่งกะละมังอยู่กลางผืนป่า พื้นที่โดยรอบเป็นป่าดิบเขา ไม่แน่ว่านักท่องเที่ยวอาจจะได้เจอเข้ากับเนื้อทรายอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่ควรเข้าไปกวนการดำรงชีวิตของสัตว์ แค่เฝ้ามองห่าง ๆ เท่านั้นพอ

         ที่อยู่ : ครอบคลุมพื้นที่ป่าในเขตอำเภอคอนสาร เกษตรสมบูรณ์ และหนองบัวแดง  จังหวัดชัยภูมิ
         เบอร์โทรศัพท์ : 02 561 4292-3 ต่อ 711

11. เขื่อนลำปะทาว

          ตั้งอยู่ที่บ้านหลุบช้างพลาย ตำบลเก่าย่าดี อำเภอแก้งคร้อ ประกอบด้วยเขื่อน 2 แห่ง คือ เขื่อนบนและเขื่อนล่าง โดยเขื่อนบนถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของชาวชัยภูมิและจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากมีห้วยลำปะทาวที่กว้างใหญ่ มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีหาดทรายน้ำจืดที่น่าเที่ยวชมโดยเฉพาะยามเย็น แถมอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ซึ่งทำอาชีพหลัก คือ เกษตรกรรม เช่น สวนลำไย สวนสับปะรด สวนยางพารา ไร่มันสำปะหลัง และไม้ผลพืชไร่ต่าง ๆ ลดหลั่นกันไปตามเนินเขาหลาย ๆ ลูก ดูสวยงามแปลกตา

         ที่อยู่ : ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ

12. เขื่อนจุฬาภรณ์

          ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งพระ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี ภายในบริเวณเขื่อนมีบ้านพัก ร้านอาหารไว้รับรองนักท่องเที่ยว เรือสำหรับให้ล่องชมอ่างเก็บน้ำ มีจุดชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อน ศูนย์ทดลองพืชเมืองหนาว และหอดูดาว และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ "พระพุทธสิริสัคคราชจำลอง" (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) มีไม้ป่านานาชนิดพร้อมศาลาพรมพิสมัยสำหรับนั่งพักผ่อน และ "ศาลาชมวิวหลุบควน" จุดชมวิวอยู่ที่ระดับความสูงมากกว่า 800 เมตร

         ที่อยู่ : อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
         เบอร์โทรศัพท์ : บ้านพักรับรองของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต โทรศัพท์ 044 861 669 บ้านพักสถานีทดลองและฝึกอบรมเขื่อนจุฬาภรณ์ (ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น) โทรศัพท์ 043 3849 69 ต่อ 2787
         เฟซบุ๊ก : บ้านพักรับรองเขื่อนจุฬาภรณ์

13. ตำหนักเขียว

          ตั้งอยู่ภายในบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2493 ปัจจุบันตำหนักเขียวเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจทั่วไปเข้าชม โดยมีการจัดแสดงเป็น 2 ส่วน ชั้นล่างจัดแสดงผ้ามัดหมี่ ซึ่งผ้าบางชิ้นมีอายุมากกว่า 100 ปี ส่วนที่สอง ชั้นบนจัดแสดงห้องต่าง ๆ ที่เคยใช้เป็นที่ประทับของในหลวง รัชกาลที่ 9 เช่น ห้องพระสุธารส ห้องเสด็จประพาส ห้องเจ้าเมือง ห้องเครื่อง รวมทั้งพระบรมฉายาลักษณ์ที่เก็บรวบรวมไว้เพื่อการศึกษา

         ที่อยู่ : ถนนบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ

14. น้ำตกเทพประทาน

          ตั้งอยู่ตำบลบ้านไร่  เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ อยู่ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงามประมาณ 7 กิโลเมตร มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน ตัวชั้นน้ำตกมีลักษณะค่อนข้างแบน มีหินขนาดใหญ่เป็นลานกว้างลดหลั่นกันลงไปเป็นชั้นเตี้ย ๆ เป็นน้ำตกที่เหมาะสำหรับการไปพักผ่อน ด้วยเพราะยังมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม

         ที่อยู่ :  ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ

15. น้ำผุดทับลาว

         ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม เป็นสถานที่รวบรวมพรรณไม้ท้องถิ่นชนิดต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัยและใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป ชาวอําเภอคอนสารนับถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ชาวอําเภอคอนสาร จะทําพิธี “สรงน้ำผุด” ขึ้น ซึ่งชาวบ้านจะทําพิธีนี้เป็นประจําทุกปีสืบทอดกันมาเป็นประเพณีจนถึงปัจจุบัน

         ที่อยู่ : บ้านผาเบียด หมู่ 2 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ

16. วัดป่าเทพอินทรประดิษฐ์

         วัดที่สร้างจากความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน มีพระอุโบสถสีทองอร่าม มีทั้งเจดีย์ทองและองค์พญานาคราชสีทองประดิษฐานล้อมรอบพระอุโบสถ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบ คนส่วนใหญ่นิยมมาทำบุญและปฏิบัติธรรม และที่สำคัญอยู่ในเส้นทางก่อนถึงทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม ไหว้พระทำบุญเสร็จก็มาเที่ยวที่นี่ต่อกันได้เลย

         ที่อยู่ : ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ
         เบอร์โทรศัพท์ : 044 100 376

17. ผาเกิ้ง

          ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยต้อน เป็นผาที่มีลักษณะเหมือนพระจันทร์ เพราะที่บริเวณหน้าผามีหินก้อนใหญ่เป็นชะง่อนยื่นออกไปลักษณะครึ่งวงกลม ชาวบ้านมองดูแล้วเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว จึงเรียกผานี้ว่าผาเกิ้ง คำว่า เกิ้ง เป็นคำภาษาอีสานแท้ ซึ่งชาวอีสานเรียกดวงจันทร์ว่า อีเกิ้ง ที่นี่เหมาะแก่การเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งผาเกิ้งจะอยู่ฝั่งภูแลนคา มีจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน

         ที่อยู่ : ตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ

         และอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ แต่น้อยคนจะรู้จัก นั่นคือ "ภูคิ้ง" มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ซึ่งมีความสูงที่สุดของป่าภูเขียว ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติในมุมสูง มองออกไปเบื้องหน้าจะเห็นหน้าผาสูงชัน มีลานหินกว้างยื่นมาจากหน้าผา สามารถมองเห็นเขื่อนห้วยกุ่ม ภูกระดึง ภูแลนคา ภูเวียง หากมองลงไปตรงหุบเขาแคบ ๆ ด้านล่างจะเห็นทุ่งนา ไร่สวน เขื่อน อ่างเก็บน้ำ แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างมีความอ่อนไหวต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติ ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไป สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ภูคิ้ง หรือโทรศัพท์ 099 783 2597

          นาทีนี้คงไม่ต้องบอกแล้วว่า "ชัยภูมิ" ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีที่เที่ยวที่น่าสนใจ และยังคงอุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม เหมาะเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวพักผ่อนเพื่อเติมพลังในช่วงวันหยุด ได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์และสดชื่น ถ้าใครกำลังมองหาที่เที่ยวสวย ๆ สักที่ ชัยภูมิน่าจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในชั่วโมงนี้  ^ ^

ตั๊กออแกไนท์ชัยภูมิ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคชัยภูมิ
นางรำชัยภูมิเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคชัยภูมิ
ชัยภูมิรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคชัยภูมิ
รําบวงสรวงพญานาคชัยภูมิ
ฟ้อนบูชาพญานาคชัยภูมิ
รําบวงสรวงพญานาคชัยภูมิ



  ติดต่อสอบถามเรา        
            




296
12 ที่เที่ยวสกลนคร เมืองน่ารักมากเสน่ห์แห่งแดนอีสาน

 ที่เที่ยวสกลนคร อีกหนึ่งจังหวัดภาคอีสานน่าไปเยือน เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ วิถีชีวิตผู้คน และศิลปวัฒนธรรมที่น่าค้นหา


         สกลนคร อีกหนึ่งจังหวัดเด่นในภาคอีสาน หลัง ๆ มานี้กระแสการท่องเที่ยวจังหวัดสกลนครเริ่มเป็นที่สนใจในหมู่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้วยเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งเก่าแก่และสวยงามซ่อนอยู่มากมาย ตลอดจนวิถีชีวิตที่น่าสนใจของผู้คน จนทำให้สกลนครเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่ามาเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน และเราไม่ขอพลาดหยิบเอาลิสต์ที่เที่ยวสกลนครมาฝาก เผื่อว่าใครแวะมาเที่ยวที่นี่จะได้ไม่พลาดเช็กอินกัน

1. วัดพระธาตุเชิงชุม

         ตั้งอยู่บริเวณถนนเจริญเมือง ศาสนสถานคู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัด องค์พระธาตุงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ที่วิจิตรบรรจงด้วยงานช่างสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยววัดพระธาตุเชิงชุมต้องไม่พลาดนมัสการ "หลวงพ่อพระแสน" ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และให้พรในเรื่องโชคลาภ จนชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือและทำให้ปัจจุบันมีประชาชนเข้ามากราบไหว้พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระแสนเป็นจำนวนมาก



2. พระธาตุภูเพ็ก

         ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปนมัสการพระธาตุจะต้องขึ้นบันไดประมาณ 491 ขั้น ซึ่งสร้างอยู่บนยอดเขาภูพาน และเพราะด้วยทางขึ้นค่อนข้างชันและไกล ที่นี่นับเป็นโบราณสถานชื่อดัง อันเป็นสถานที่แสดงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่สามารถบ่งชี้ตำแหน่งดวงอาทิตย์ในจักรราศีได้อย่างแม่นยำ ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเพ็ก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวเมืองสกลนครและวิวทะเลสาบหนองหารที่สวยงามอีกด้วย



3. วัดป่าสุทธาวาส

         ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขเกษม อำเภอเมือง เป็นสถานที่ที่ละสังขารของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ทั้งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ภายในมีหุ่นขี้ผึ้งซึ่งบรรจุอัฐิธาตุของพระอาจารย์เอาไว้อีกด้วย รวมถึงคุณยังจะได้เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอาคารรูปแบบที่เรียบง่าย เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ อันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัตรปฏิบัติตลอดการใช้ชีวิตของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ นั่นเอง


4. วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง

         ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง เป็นปราสาทหินที่ได้รับอิทธิพลศิลปะขอม องค์เจดีย์เป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนที่เป็นหลังคาและยอด ปัจจุบันหักพังหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่องค์พระธาตุ ซึ่งประกอบด้วยปรางค์องค์เดียว สร้างด้วยหินทรายบนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ และเชื่อกันว่าเป็นฝีมือของผู้หญิงสร้างทั้งหมด เพื่อแข่งขันกับผู้ชายที่สร้างพระธาตุภูเพ็ก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเคารพทั้งคนในและนอกจังหวัดสกลนครเป็นจำนวนไม่น้อย



5. พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์

         เป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2518 บริเวณเทือกเขาภูพาน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้แผนที่ทางอากาศและเสด็จฯ สำรวจเส้นทางป่าเขา น้ำตก เพื่อกำหนดเขตพื้นที่ก่อสร้างพระตำหนักด้วยพระองค์เอง ภายหลังทรงใช้เป็นที่ประทับในช่วงแปรพระราชฐานมาประทับเพื่อทรงติดตามโครงการพระราชดำริในภาคอีสาน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชน ข้าราชการเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จตามภารกิจ และเข้าชมบริเวณพระตำหนักชั้นนอก



6. อุทยานแห่งชาติภูพาน

         มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตอำเภอเมืองสกลนคร อำเภอพรรณานิคม อำเภอภูพาน อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร และอำเภอสมเด็จ อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระธาตุภูเพ็ก, ถ้ำเสรีไทย, น้ำตกคำหอม, ผานางเมิน และลานสาวเอ้, น้ำตกห้วยใหญ่ และน้ำตกปรีชาสุขสันต์ เป็นต้น รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติต่าง ๆ ที่ล้วนแล้วแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติภูพานได้เป็นอย่างดี


7. วัดถ้ำผาแด่น

         ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านดงน้อย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของจังหวัดสกลนคร มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยงานแกะสลักบนหน้าหินผาแสนวิจิตร โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติเอาไว้อย่างน่าสนใจ ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง และเพราะด้วยทำเลที่ตั้งของวัดอยู่บนภูเขาสูง ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น ภายในยังมีลานชมวิว เอาไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปสวยอีกด้วย



8. บ้านท่าแร่

         ตั้งอยู่ริมหนองหาร เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศ ทั้งยังเป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี กิจกรรมท่องเที่ยวที่พลาดไม่เมื่อมาเที่ยวที่นี่ เห็นจะเป็นการชมสวยงามของบ้านโบราณทรงยุโรปสวยงาม และในทุกวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส โดยชาวบ้านจะตกแต่งโคมไฟรูปดาวไว้ที่หน้าบ้าน จากนั้นเป็นการเฉลิมฉลองในหมู่ชาวคริสต์ เป็นอีกหนึ่งงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุขแทบจะในทุกพื้นที่ของบ้านท่าแร่


9. โค้งปิ้งงู

         ถนนสายหนึ่งในจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีเส้นทางโค้งคดเคี้ยวเหมือนการเอางูมาปิ้ง เป็นทางขึ้น-ลงลาดชัน ดังนั้นผู้ขับขี่อาจจะต้องระมัดระวังความปลอดภัยเป็นพิเศษ และยังมีน้ำตกในบริเวณนี้หลายแห่งที่น่าเที่ยวชม เช่น น้ำตกเหวสินธุ์ชัย น้ำตกสามหลั่น และน้ำตกสาวไห้ เป็นต้น หรือถ้าเกิดว่าขับรถแล้วรู้สึกเหนื่อย ก็มีจุดพักรถให้เพื่อน ๆ ได้แวะถ่ายภาพ มีสวนเล็ก ๆ เอาไว้ให้คุณได้เดินเล่นชิล ๆ ยืดเส้นยืดสายอีกด้วย


10. ทะลสาบหนองหาร

          ทะเลสาบสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตชุมชนโดยรอบ ตั้งอยู่บริเวณอำเภอเมืองและอำเภอโพนนาแก้ว ที่นี่เป็นแหล่งรับน้ำตกของลำห้วยต่าง ๆ หลายสาย และยังอำนวยประโยชน์ในด้านการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และการประมงให้กับชุมชนรอบ ๆ ซึ่งภายในหนองหารมีเกาะต่าง ๆ มากมาย เช่น เกาะดอนสวรรค์ บนเกาะมีวัดร้างและพระพุทธรูปเก่าแก่, เกาะแก้ว เกาะดอนสะคาม และเกาะดอนสะทุง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวหนองหาร ที่ตั้งอยู่ที่ทางหลวงหมายเลข 22 กิโลเมตรที่ 168 ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง ให้ได้ไปดื่มด่ำกับความงดงามของทะเลสาบหนองหาร

ทะเลสาบหนองหาร

11. ถนนคนเดินผ้าคราม

         ตั้งอยู่บริเวณย่านเมืองเก่าสกลนคร หรือหน้าวัดพระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน ใครที่ชอบและหลงใหลในผ้าครามอยู่แล้ว ลองมาเที่ยวที่นี่รับรองเลยว่าคุณจะต้องชอบมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว นอกจากเสื้อผ้าครามสวย ๆ แล้ว ยังมีพวกของน่ารัก ๆ ที่ทำจากผ้าลายครามอีกเพียบ เช่น ผ้าคาดเอว, พวงกุญแจ, กระเป๋า, ผ้าคาดหัว และผ้าพันคอ เป็นต้น โดยถนนคนเดินที่นี่จะเปิดช่วงเย็น ๆ ของวันเสาร์และอาทิตย์ มาเที่ยวสกลนครลองแวะมาเที่ยวกันดูนะคะ


12. อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ

         ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบึงหนองหาร ใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมบัวพันธุ์ต่าง ๆ รวมทั้งยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดสกลนคร โดดเด่นด้วยสะพานไม้สีแดงที่ทอดยาวให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมบึงบัวอย่างใกล้ชิด หรือจะนั่งรับลมเย็น ๆ ในศาลากลางบึง ก็สามารถทำได้ตามอัธยาศัย



         บอกเลยนะว่านี่เป็นเพียงแค่บางส่วนของที่เที่ยวสกลนครเท่านั้นเอง สกลนครยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจซ่อนอยู่อีกเพียบ เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ครบครัน ให้เพื่อน ๆ ได้ไปพักผ่อนและเที่ยวกันได้อย่างเพลิน ๆ แบบไม่มีเบื่อเลย ^ ^

ตั๊กออแกไนท์สกลนคร รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสกลนคร
นางรำสกลนครเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสกลนคร
สกลนครรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสกลนคร
รําบวงสรวงพญานาคสกลนคร
ฟ้อนบูชาพญานาคสกลนคร
รําบวงสรวงพญานาคสกลนคร


  ติดต่อสอบถามเรา        
            




297
12 ที่เที่ยวขอนแก่น แดนอีสานบ้านเฮา สนุกแบบไม่มีเบื่อ

ที่เที่ยวขอนแก่น หลากหลายสไตล์ม่วนคักแบบไม่รู้เบื่อ ใครวางแผนจะมาเที่ยวขอนแก่นอยู่แล้วละก็ ลองดูเช็กลิสต์ที่เที่ยวขอนแก่นเหล่านี้กัน


          ขอนแก่น จังหวัดอีสานบ้านเฮา ด้วยความที่ขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่ของภาคอีสาน จึงทำให้ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่คึกคักด้วยหมู่มวลของนักท่องเที่ยว จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลากหลายรูปแบบ รวมถึงที่เที่ยวตามอำเภอต่าง ๆ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ไม่แพ้ในตัวเมือง ดังที่เราได้เคยเขียนกระทู้ “ที่เที่ยวขอนแก่น มาเมื่อไรต้องไปเช็กอิน” ไว้แล้ว วันนี้เราจะมาเสาะหาที่เที่ยวขอนแก่นอื่น ๆ กัน รับรองว่าสวย สนุก และประทับใจไม่แพ้กัน

1. จุดชมวิวหินช้างสี

ที่เที่ยวขอนแก่น


          ตั้งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ นพ.3 หินช้างสี เขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง บริเวณรอยต่อของอำเภอบ้านฝางและอำเภออุบลรัตน์ เป็นจุดชมวิวที่อยู่บนหน้าผาสูง สามารถมองเห็นวิวของเขื่อนอุบลรัตน์ได้แบบสวยสะกดใจ และยังอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกับหินช้างสี ซึ่งเป็นลานหินทรายขนาดใหญ่ ตั้งเรียงรายแฝงอยู่ทั่วผืนป่า มีทั้งก้อนเล็กก้อนใหญ่ มีสีสันสวยงาม มีสะพานไม้เชื่อมระหว่างหินบางก้อนด้วย รวมทั้งมีจุดไฮไลต์ก็คือน้ำในโพรงหิน โดยในฤดูฝน จะมีน้ำไหลผ่านออกมาตามซอกหินแคบ ๆ คล้ายกับน้ำตก

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติน้ำพอง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น
          เบอร์โทรศัพท์ : 096 739 7920
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

2. สวนสัตว์ขอนแก่น

ที่เที่ยวขอนแก่น


          สวนสัตว์ขอนแก่น หรือสวนสัตว์เขาสวนกวาง ตั้งอยู่อำเภอเขาสวนกวาง แหล่งท่องเที่ยวของคนรักสัตว์ป่า ละลานตาด้วยสัตว์ต่าง ๆ เช่น ยีราฟ ม้าลาย นกกระจอกเทศ นกอีมู และกูดูใหญ่ เพลิดเพลินกับการแสดงสัตว์ที่รวบรวมเอาสัตว์พันธุ์ต่าง ๆ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไฮไลต์ห้ามพลาด นั่นคือ สะพานเดินชมสัตว์ (Sky Walk) สวนสัตว์ขอนแก่น ที่มีความยาวประมาณ 100 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ของอำเภอเขาสวนกวาง, อำเภอน้ำพองและเขื่อนอุบลรัตน์ ด้านล่างของสะพานเดินชมสัตว์ จะเห็นม้าลาย ยีราฟ และนกกระจอกเทศ อีกด้วย

          ที่อยู่ : หมู่ที่ 8 ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น
          เบอร์โทรศัพท์ : 086 459 4192
          เว็บไซต์ : khonkaen.zoothailand.org
          เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์ขอนแก่น khonkaen zoo

3. ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง

ที่เที่ยวขอนแก่น


          ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ก่อเกิดขึ้นจากการที่ นายสุธรรม แย้มนิยม อดีตนักธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณี ได้ขุดค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นแรกของไทยที่อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2519 ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนบริการ ได้แก่ ร้านขายของที่ระลึก ห้องอาหาร ห้องบรรยาย ส่วนวิชาการ ได้แก่ ห้องปฏิบัติการ ห้องทำงาน ห้องสมุด และส่วนนิทรรศการ ได้แก่ ห้องจัดแสดงชั้นล่างและชั้นบน จัดแสดงนิทรรศการการกำเนิดโลก หิน แร่ ซากดึกดำบรรพ์ และหุ่นจำลองไดโนเสาร์

          ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น
          เบอร์โทรศัพท์ : 043 438 204-6
          เว็บไซต์ : dmr.go.th

4. บึงหนองโคตร

          บึงธรรมชาติกลางเมืองขอนแก่น ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนและออกกำลังกายของประชาชนทั่วไป เพราะมีทางเท้าสำหรับออกกำลังกาย หรือเลือกจะเดินเล่นชมวิวธรรมชาติของบึงหนองโคตร ก็ได้บรรยากาศความชิลไปอีกแบบ มีสนามฟุตบอล, สนามบาสเกตบอล, ลานแอโรบิก, สนามเด็กเล่น และอุปกรณ์การออกกำลังกายต่าง ๆ รวมถึงยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมและจัดงานประเพณีต่าง ๆ อีกด้วย

          ที่อยู่ : ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

5. ศิลาโฮมสเตย์

ที่เที่ยวขอนแก่น

          หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนเติมพลังให้กับชีวิต ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบแล้ว ยังมีกิจกรมท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น สัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตชุมชน, สักการะหลักพระธรรมศักดิ์สิทธิ์, ย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ, ใส่บาตรข้าวเหนียว, ลิ้มรสอาหารรสแซ่บ, ร่วมทำขนมพื้นถิ่นอีสาน และเรียนรู้วิถีชาวสวนดอกไม้ เป็นต้น

          ที่อยู่ : หมู่ที่ 6 ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดข่อนแก่น
          เบอร์โทรศัพท์ : 082 478 9614
          เฟซบุ๊ก : Sila Homestay – ศิลาโฮมสเตย์จังหวัดขอนแก่น

6. สวนมิตรภาพขอนแก่น-หนานหนิงวัฒนธรรมไทย-จีน

ที่เที่ยวขอนแก่น

          สถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ภายในบึงแก่นนคร สัญลักษณ์แสดงสายสัมพันธ์ไทย-จีน ที่มีให้กันมานานกว่า 20 ปี สำหรับภายในประกอบด้วยอาคารวัฒนธรรมและสวนมิตรภาพ มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น มีศาลาพักผ่อน 2 หลัง เป็นศาลาหกเหลี่ยม, ศาลาทางเชื่อม และประติมากรรมหนานหนิง พร้อมด้วยซุ้มประตู, น้ำตก, สระน้ำ และลานอเนกประสงค์ พร้อมประดับลวดลายมังกรนูนต่ำและงานประติมากรรมไฉ่ซิงเอี้ยอย่างสวยงาม

          ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

7. อุโมงค์ต้นไม้หลังคุ้มสีฐาน

ที่เที่ยวขอนแก่น

          ที่เที่ยวสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและชอบถ่ายรูป ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีลักษณะเป็นสะพานเดินลัดเลาะใต้อุโมงค์ต้นไม้ เป็นระยะทางยาวกว่า 360 เมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวจะเจอกลุ่มต้นไทรยักษ์ แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่น รวมถึงอาจจะได้เจอเข้ากับสัตว์จำพวกนก กระรอก และแมลงนานาชนิด มีศาลาพักผ่อนให้คุณได้นั่งเล่นชิล ๆ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวขอนแก่นที่น่ามาอยู่ไม่น้อย

          ที่อยู่ : อยู่ด้านหลังคุ้มสีฐาน (สวนนี้เชื่อมต่อระหว่างพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยากับหอศิลปวัฒนธรรม) มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

8. สวนสาธารณะบึงทุ่งสร้าง

ที่เที่ยวขอนแก่น

          บึงน้ำและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของเมืองอีกแห่งหนึ่ง โดยจัดให้มีเกาะ เพื่อเป็นสวนสุขภาพของเมือง และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้ปรับภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม มีการเพาะปลูกพรรณไม้ดอกและไม้ประดับ จัดสร้างสนามเด็กเล่น บริเวณออกกำลังกาย ศาลาพักร้อน บ่อน้ำขนาดใหญ่ภายในสวน และยังมีสวนนกขนาดใหญ่อยู่ภายในสวนสาธารณะอีกด้วย

          ที่อยู่ : ถนนจอมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

9. Aura Farm

ที่เที่ยวขอนแก่น


          สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งการเรียนรู้ เชิงเกษตรรูปแบบใหม่ ที่ครบวงจรแห่งเดียวในจังหวัดขอนแก่น ประกอบไปด้วยพื้นที่ 2 โซน คือ โซนการท่องเที่ยว และโซนศูนย์การเรียนรู้ เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ทั้งยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย เช่น ร้าน กิน เตี๋ยว กัน, ร้านทีโบน สเต๊ก, ร้านไก่ย่างบัวตอง, ร้านควอนตัม สเต๊กเฮาส์, ร้านขนมจีนบุฟเฟ่ต์, ร้าน Chummy Coffee และร้านโดนนม เป็นต้น

          ที่อยู่ : อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น
          เบอร์โทรศัพท์ : 087 716 9669
          เว็บไซต์ : aura-farm.com
          เฟซบุ๊ก : Aura Farm

10. จุดชมวิวช่องเขาขาด

          เป็นจุดแบ่งเขตจังหวัดรอยต่อระหว่างจังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดขอนแก่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยว มักจะเลือกที่นี่เป็นจุดชมวิวมุมสูงของทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ในมุมกว้าง เนื่องจากเป็นมุมสูงอยู่ช่วงสันเขาภูพานคำ ทำให้เห็นทัศนียภาพมุมกว้าง แถมยังเหมาะกับการชมวิวพระอาทิตย์ตก ซึ่งมองเห็นสันภูเก้าได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ใครอยากมาซึมซับบรรยากาศธรรมชาติสวย ๆ ลองมาเที่ยวกันดูค่ะ

          ที่อยู่ : ก่อนถึงทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ ประมาณ 100 เมตร อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

11. Khonkaen Exotic Pet and Night Safari

ที่เที่ยวขอนแก่น


          สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดขอนแก่น ที่ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับสัตว์น้อยใหญ่ และสัตว์หายากหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็น ม้าแคระ, อัลปาก้า, กวางดาว, วอลลาบี, นกฮูก และสโนวี่อาว เป็นต้น แบ่งเป็นหลากหลายโซน เช่น Silver forest, Rainforest, Basque maxi cola, Golden land, Stone age และ Wonder red way เป็นต้น นอกจากสัตว์แปลก ๆ แล้วยังมีมุมสวย ๆ มีจุดนั่งเล่นเอาไว้พักผ่อนชิล ๆ อารมณ์เหมือนมาเดินเล่นที่สวนหย่อมหน้าบ้าน ล้อมรอบด้วยพรรณไม้จากต่างแดน เอาไว้ให้คุณได้ถ่ายรูปอีกด้วย

          ที่อยู่ : ถนนมิตรภาพ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
          เบอร์โทรศัพท์ : 088 192 1555
          เฟซบุ๊ก :  Khonkaen Exotic Pet and Night Safari

12. วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง

ที่เที่ยวขอนแก่น
อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ น้ำตกบ๋าหลวง มีจุดให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจด้วยกัน 3 จุด จุด
แรกบริเวณตัวน้ำตกบ๋าหลวง เป็นลานหินกว้าง จุดที่สองชื่อว่า "น้ำย้อย" เป็นบริเวณที่มีผาน้ำตกสูง เมื่อน้ำตกลงมาจากผาน้ำตกน้ำจะมาขังบริเวณแอ่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ และจุดที่สามชื่อว่า "อ่างนางลอย" มีลักษณะคล้ายอ่างน้ำหลายอ่างเชื่อมต่อกัน แต่ละอ่างลดหลั่นกันตามระดับความสูงของลักษณะภูมิประเทศ

          ที่อยู่ : ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น
          เบอร์โทรศัพท์ : 089 861 3461
          เฟซบุ๊ก : วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

          ตอนนี้ไม่บอกก็รู้แล้วนะคะ ว่าขอนแก่นเต็มไปด้วยที่เที่ยวเจ๋ง ๆ อยู่เพียบเลย รอแค่เพื่อน ๆ หาเวลาว่างแล้วไปเช็กอินกัน เราเชื่อว่าด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดีของชาวขอนแก่น จะทำให้การเที่ยวขอนแก่นเต็มไปด้วยความสนุกและความประทับใจอย่างแน่นอน ^ ^

ตั๊กออแกไนท์ขอนแก่น รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคขอนแก่น
นางรำขอนแก่นเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคขอนแก่น
ขอนแก่นรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคขอนแก่น
รําบวงสรวงพญานาคขอนแก่น
ฟ้อนบูชาพญานาคขอนแก่น
รําบวงสรวงพญานาคขอนแก่น

[/size]
  ติดต่อสอบถามเรา        
            



298
เที่ยวอำนาจเจริญ จังหวัดที่ 75 ของประเทศไทย

 ทำความรู้จักสถานที่เที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญ เมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ น่าอยู่ และมีแหล่งท่องเที่ยวน่าไปเยือนเพียบ

  เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวทางภาคอีสาน หลายคนมักจะนึกถึงจังหวัดใหญ่ที่เป็นหัวเมืองทางการค้าและการคมนาคม จนบางครั้งอาจมองข้ามจังหวัดเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงไป วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเล็ก ๆ ที่น่าอยู่อย่าง "จังหวัดอำนาจเจริญ" ไปดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญมีอะไรน่าไปเยือนบ้าง

1. พระมงคลมิ่งเมืองและพุทธอุทยาน
     
          มาเริ่มต้นกันที่แรกด้วยการเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอำนาจเจริญ กับ "พระมงคลมิ่งเมือง" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "พระใหญ่" ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองจังหวัดอำนาจเจริญ ภายในเต็มไปด้วยหินดานและปกคลุมไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด ซึ่งถูกปรับปรุงให้เป็น "พุทธอุทยาน" ส่วน "พระมงคลมิ่งเมือง" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์พระหน้าตักกว้าง 11 เมตร ความสูงจากระดับพื้นดินถึงยอดเปลวรัศมี 20 เมตร ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียเหนือ (ปาละ) ที่แผ่มายังภาคอีสานของไทยเมื่อพันปีมาแล้ว โดยการกราบขอพรจากองค์พระมงคลมิ่งเมืองนั้น ส่วนมากนิยมขอพรให้คลายความทุกข์โศกร้อนใจ และบนบานให้ประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ

เที่ยวอำนาจเจริญ

ที่เที่ยวอำนาจเจริญ

          นอกจากนี้บริเวณด้านหลังของพระมงคลมิ่งเมือง ยังมีพระพุทธรูปลักษณะแปลกอีก 2 องค์ คือ "พระละฮาย" หรือในภาษาอีสานเรียกว่า "พระขี่ล่าย" หมายถึงไม่สวยงาม ด้วยการเรียกตามลักษณะรูปลักษณ์ของพระพุทธรูปแบบโบราณ ซึ่งพบครั้งแรกในหนองน้ำในครั้งที่ปรับปรุงฝายกั้นน้ำ เมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยมีความเชื่อว่าเป็นพระที่ให้โชคลาภ ที่มักมีชาวบ้านมากราบไหว้ขอพรอยู่เสมอ

2. วัดถ้ำแสงเพชร

          วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนสายอำนาจเจริญ-เขมราฐ เป็นวัดสำคัญในจังหวัด ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง มีความโดดเด่นอยู่ที่วิหารที่ตั้งอยู่บนยอดเขาของวัด ทางด้านทิศเหนือของวิหารมีถ้ำขนาดใหญ่ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงาม นอกจากนี้ในบริเวณวัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์ชา สุภัทโท สาขาที่ 5 ของวัดหนองป่าพง ที่มีความเงียบสงบ และมีบรรยากาศที่เย็นสบายเหมาะสำหรับการนั่งสมาธิเป็นอย่างมาก

เที่ยวอำนาจเจริญ

          นอกจากนี้ใกล้ ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของ "วัดสี่แยกแสงเพชร" วัดที่มีความงดงามอีกแห่งหนึ่งของอำนาจเจริญ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น รูปปั้นเหมือนหลวงปู่ชา, พระพุทธรูปปางไสยาสน์ และอุโบสถหลังงามที่บริเวณด้านหน้ามีรูปปั้นพญานาคและสิงโตสีขาวตั้งอยู่ เป็นต้น

วัดสี่แยกแสงเพชร

3. พระธาตุนาป่าแซง

          พระธาตุนาป่าแซง หรือพระธาตุพนมจำลอง ตั้งอยู่ในตำบลนาป่าแซง อำเภอปทุมราชวงศา ก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2520 โดยพระครูสิทธิพัฒนาภรณ์ ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ 113 องค์ ถูกบรรจุไว้ที่ยอดพระธาตุและกลางพระธาตุ โดยองค์พระธาตุมีความสูงเท่ากับพระธาตุพนมองค์เดิมทุกประการ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าถ้าใครที่ได้มากราบไหว้พระธาตุนาป่าแซงเท่ากับการได้กราบไหว้บูชาพระธาตุพนม ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จตามที่ขอ มีอำนาจบารมีสูงส่ง ผู้คนนับหน้าถือตาเป็นผู้นำแก่บุคคลทั่วไป

เที่ยวอำนาจเจริญ


4. อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน

          อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีชื่ออีกอย่างว่า อ่างเก็บน้ำห้วยปลาแดก ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของบ้านพุทธมงคล ตำบลบุ่ง อำเภอเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ไปทางทิศเหนือเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น โดยเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน สามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุดมากถึง 21.94 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกทั้งบริเวณสันเขื่อนที่มีความยาวถึง 1,300 เมตร และความกว้างหน้าสันเขื่อน 6 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบ มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก


5. เขาคีรีวงกตภูมะโรง

          เป็นพื้นที่ภูเขาขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เพราะเต็มไปด้วยผืนป่าที่ยังคงความสมบูรณ์ อีกทั้งยังสามารถพบเห็นสัตว์ป่าได้หลายชนิด ซึ่งจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ ได้แก่ ถ้ำดานหิน โขดหินที่เรียงตัวกันอยู่ หน้าผาสูงและชะง่อนผา ซึ่งเหมาะแก่การใช้เป็นที่พักผ่อนเดินป่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยได้เป็นอย่างดี

6. หมู่บ้านหมอลำหนองปลาค้าว

          หมู่บ้านต้นแบบตามโครงการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเชิงอนุรักษ์ในจังหวัดอำนาจเจริญ ตั้งอยู่ที่ตำบลปลาค้าว อำเภอเมือง ภายในหมู่บ้านมีชาวบ้านเชื้อสายภูไท และที่สำคัญคือเป็นหมู่บ้านที่มีคณะหมอลำมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงหมอลำ ด้วยการพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น รวมทั้งมีการฝึกหมอลำน้อย เพื่อฝึกสอนในเรื่องการออกเสียง จับจังหวะ และการฟ้อนรำท่าที่ถูกต้องเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมให้คงอยู่ นอกจากนี้ยังเปิดเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ในรูปแบบเฮือนโบราณบ้านอีสาน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สนใจมาสัมผัสวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมชมการแสดงและเรียนรู้หมอลำกลอน, หมอลำซิ่ง และเดี่ยวพิณ-แคน พร้อมทั้งเยี่ยมชมวัตถุโบราณภายในพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านได้อีกด้วย สำหรับผู้สนใจสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก โฮมสเตย์บ้านปลาค้าว อำนาจเจริญ

7. เที่ยวริมแม่น้ำโขงที่ชานุมาน

          แหล่งท่องเที่ยวริมโขงสวย ๆ ตั้งอยู่ภายในอำเภอชานุมาน มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขงระยะทาง 38 กิโลเมตร ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 80 กิโลเมตร บริเวณนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมความงามของทัศนียภาพ 2 ฝั่งโขงที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง (กุมภาพันธ์-พฤษภาคม) จะสามารถเห็นเกาะแก่งได้หลายแห่ง เช่น แก่งต่างหล่าง ตั้งอยู่ที่บ้านศรีสมบูรณ์ ห่างจากตัวอำเภอชานุมานประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะของแก่งต่างหล่างคือเป็นโขดหินขรุขระอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นหินศิลาแลงคล้ายชามหรืออ่าง สามารถชมความสวยงามของแอ่งน้ำได้ในหน้าแล้ง เหมาะเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจอย่างมาก

8. อุทยานดงลิงดอนเจ้าปู่

          มีลักษณะเป็นป่าเบญจพรรณมีเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ ความโดดเด่นอยู่ที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะเจ้าลิงแสม อีกทั้งยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนให้ความเคารพและศรัทธา เพราะเป็นที่ตั้งของศาลปู่ตาที่สิงสถิตของเจ้าปู่ (พรานที) ซึ่งในช่วงเดือนห้า (บุญสงกรานต์) และเดือนหก (บุญบั้งไฟ) ชาวพนาจะมาร่วมกันจัดงานและนำบั้งไฟมาถวายเจ้าปู่ (พรานที) เป็นประจำทุกปี เพื่อเสริมสิริมงคลแก่พี่น้องชาวพนามาจนถึงปัจจุบัน

ที่เที่ยวอำนาจเจริญ


9. สวนเกษตรชิตสกนธ์

          ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน 42 หมู่ 14 อำเภอเมือง สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในสวนแห่งนี้ จะได้พบกับไร่ดาวเรืองขนาดใหญ่ กินพื้นที่กว่า 30 ไร่ พร้อมสัมผัสความสวยงามของทุ่งดอกดาวเรืองอเมริกันพันธุ์ Sovereign Gold พืชผัก สมุนไพร และพรรณไม้หายากหลายชนิด และนอกจากจะได้ชมวิวสวย ๆ ของ "สวนเกษตรชิตสกนธ์" แล้ว ที่นี่ยังมีบริการชิตสกนธ์ รีสอร์ท สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมานอนพักผ่อนริมทุ่งดอกไม้สวย ๆ ได้อีกด้วย สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Chitsakon Flowerland

10. วัดพระเหลาเทพนิมิตร

          ปิดท้ายที่วัดดังตั้งอยู่ในอำเภอพนา ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องเดินทางไปสักการะให้ได้ คือ วัดพระเหลาเทพนิมิตร ซึ่งภายในมี "พระเหลาเทพนิมิตร" พระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับนั่งขัดสมาธิราบ ลงรักปิดทองงดงาม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2263 ซึ่งว่ากันว่ามีลักษณะที่งดงามมาก โดยจัดอยู่ในกลุ่มพระพุทธรูปศิลปะแบบลาวสกุลช่างเวียงจันทน์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะทางล้านนา เพราะด้วยเค้าพระพักตร์เปลวรัศมีที่ยืดสูงขึ้น สัดส่วนของพระเหลาและพระบาท ซึ่งคล้ายคลึงกับที่ปรากฏอยู่ในกลุ่มพระพุทธรูปไม้และสำริดที่สร้างขึ้นระหว่างปลายพุทธศตวรรษที่ 23 ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดพระเหลาเทพนิมิต

ที่เที่ยวอำนาจเจริญ

ตั๊กออแกไนท์อำนาจเจริญ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคอำนาจเจริญ
นางรำอำนาจเจริญเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคอำนาจเจริญ
อำนาจเจริญรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคอำนาจเจริญ
รําบวงสรวงพญานาคอำนาจเจริญ
ฟ้อนบูชาพญานาคอำนาจเจริญ
รําบวงสรวงพญานาคอำนาจเจริญ



  ติดต่อสอบถามเรา        
            




299
เลาะอีสาน 15 ที่เที่ยวอุบลราชธานี ชิคซะจนอยากให้ไป !
 อุบลราชธานี อีสานใต้ หลายคนอาจไม่แน่ใจว่า ถ้าไปเที่ยวอุบลฯ มีไรให้ดู มีไรให้เที่ยวอยู่บ้าง วันนี้ตามเราไปเบิ่งแรงๆ แล้วจะอึ้งว่า ที่เที่ยวอุบล ชิคและชิลไม่เบา กับ 15 ที่เที่ยวอุบลราชธานี ชิคซะจนอยากให้ไป! มีทั้งวัดที่สวยงาม ธรรมชาติที่น่าเที่ยว ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!

1. ทุ่งดอกไม้ดงนาทาม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
 
       ใครที่อยากไปถ่ายรูปสวยๆ สะบัดกระโปรงพริ้วๆ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ เราจะชวนไปเช็คอินกันที่ ทุ่งดอกไม้ดงนาทาม ที่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ค่ะ ที่นี่จะเต็มไปด้วยกอดดงนาทามและดอกไม้ป่าหลายชนิดที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งเป็นทุ่งชูช่อเอนไหวรับลมหนาว โดยจะบานช่วงปลายเดือนตุลาคม-ธันวาคม ของทุกปี

ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/qEYyzUVcHoDW1RFGA
เปิดให้เข้าชม : 04.30-17.30 น.
โทร : 0-4525-2581
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Phataem-National-Park
==============


 

2. ผาชะนะได
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ผาชะนะได ที่เที่ยวอุบล จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น

  ผาชะนะได ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ค่ะ ด้วยความที่ส่วนของหน้าผา ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของประเทศไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการคำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดแรกของประเทศไทยค่ะ ใครที่อยากไปรับแสงแรกของวัน ชมพระอาทิตย์ขึ้นคนแรกในประเทศไทย มาที่นี่ได้เลย!
   
นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มีทิวทัศน์เบื้องล่างเป็นแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยและลาว อีกทั้งในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสวยงามของทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงกันได้ที่นี่อีกด้วยค่ะ
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/hX5TKkAGAzXxhy919
เปิดให้เข้าชม : 04.30-17.30 น.
โทร : 0-4525-2581
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Phataem-National-Park
==============

 

3. เสาเฉลียง
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
 
เสาเฉลียง อีกหนึ่งแลนด์มาร์คน่าเที่ยวใน อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ค่ะ โดยไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การไปถ่ายรูป และชมความอลังการของ เสาหินเห็ดยักษ์ อายุกว่าล้านปี ที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของธรรมชาติ แต่ละเสาสูงประมาณ 20 เมตร เหมือนยุคจูราสิคสุดๆ

  เสาแต่ละต้นนั้นเกิดจากหินทรายใน 2 ยุค คือ ส่วนที่มีลักษณะคล้ายดอกเห็ดที่อยู่ด้านบนเป็นหินทรายยุคครีเตเซียส ที่มีอายุประมาณ 130 ล้านปีมาแล้ว ส่วนอีกยุค คือ หินทรายยุคไดโนเสาร์ อายุประมาณ 180 ล้านปี เป็นส่วนต้นของเสาหินท่อนล่างค่ะ เป็นประติมากรรมธรรมชาติที่ต้องไปเห็นด้วยตาสักครั้ง

ดูรีวิวเต็มๆ ที่ เสาเฉลียง เสาหินเห็ดยักษ์ อายุกว่าล้านปี ที่เที่ยวอุบลราชธานี


ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/T1S3KebGvcPBLk8EA
เปิดให้เข้าชม : 04.30-17.30 น.
โทร : 0-4525-2581
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Phataem-National-Park
==============

 

4. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว
 

       วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่เรียกกันว่า วัดเรืองแสง ค่ะ เป็นอีกหนึ่ง วันสวย อุบลราชธานี เลยทีเดียว ตั้งอยู่ที่ อำเภอสิรินธร เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงโดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์ หรือเขาไกรลาศ มาไว้ที่นี่

      บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทอง จุดเด่นของวัดคือการได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืนนั่นเอง สายถ่ายรูปบอกเลยว่าต้องฟินแน่ๆ ได้รูปสวยอลังกลับไปแน่นอน

ดูรีวิวเต็มๆ ที่ วัดสวย เรืองแสง วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว อุบลราชธานี อัศจรรย์แห่งแรงศรัทธา

 

ที่อยู่ : ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/4acVrsE15oeq6TXd8
เปิดให้เข้าชม : 06.00-21.00 น.
โทร : 08-1993-9835
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watphuprao
==============

 

5. สามพันโบก
 

สามพันโบก ที่เที่ยวอุบล เที่ยวอีสาน

      สามพันโบก หรือ แกรนด์แคนยอนเมืองไทย ที่เที่ยวดังอีกแห่งของอุบลราชธานี ที่ธรรมชาติครีเอทออกมาให้งดงามอีกแห่งในเมืองไทยค่ะ สามพันโบกเป็นกลุ่มหินทรายแนวเทือกเขาภูพานตอนปลาย ที่ทอดตัวยาวริมฝั่งโขงไทยและลาว เรียงตัวทอดยาวเป็นสันดอนขนาดใหญ่ มีขนาดพื้นที่ถึง 10 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว
      ความงดงามอลังการของสามพันโบก ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ หินแต่ละก้อนที่ถูกกัดเซาะเว้าแหว่ง บางแห่งเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่จนสามารถแทรกตัวเข้าไปอยู่ได้เหมือนภาพศิลปะ ไฮไลท์ก็คือ การได้ไปถ่ายภาพโบกที่มีชื่อว่า “มิกกี้เม้าส์” จ้า แก่งหินจะโผล่พ้นน้ำประมาณเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม และช่วงที่ดีที่สุดคือตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไปจ้า


ที่ตั้ง : ตำบลบ้านสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/i7s1M4pnRugCWxXH6
เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน
โทร : -
เว็บไซต์ : -
==============

 

6. น้ำตกห้วยหลวง
อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย
 

      น้ำตกห้วยหลวง เป็นน้ำตกสยที่ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย เป็นอุทยานฯ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย และอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีค่ะ ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศลาวและประเทศกัมพูชาอีกด้วย ผืนป่าที่นี่จึงมีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์มากๆ ค่ะ

       แน่นอนว่าไฮไลท์ของอุทยานฯ ก็คือ น้ำตกห้วยหลวง หรือ น้ำตกบักเตว แห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ไหลตกจากหน้าผาสูง 45 เมตร ถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และงดงามที่สุดของภาคอีสานตอนล่าง อลังการมากๆ ทีเดียว ใครที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติ ต้องไม่พลาดแวะไปเช็คอินจ้า

ที่ตั้ง : บ้านแก้งเรือง ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวยจังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/y5aHdBcXvDKTowYRA
เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.00 น.
โทร : 0-4532-6759
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/nachaluay34280
==============

 

7. ผาโสก
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

     ผาโสก หนึ่งในที่เที่ยวสวย และอันซีน ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ค่ะ ที่นี่เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติ ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา ที่เราสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของแม่น้ำโขง ภูเขา และผืนป่าเบื้องล่าง สำหรับช่วงที่สวยงามที่สุดที่เหมาะกับการไปเที่ยวผาโสก ก็คือในช่วงหน้าฝนค่ะ เพราะจะมีน้ำเยอะ ทำให้พอเห็นน้ำตกเล็กๆ จากบริเวณแอ่งน้ำได้ แต่ก็ต้องลุยกันหน่อย เพราะการเดินทางไปที่นั้นไม่ง่ายเลย

ดูรีวิวเต็มๆ ที่ Unseen ผาโสก นอนแช่อ่างน้ำธรรมชาติ ชมวิวหลักล้าน

ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/qEYyzUVcHoDW1RFGA
เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน
โทร : 0-4525-2581
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Phataem-National-Park
==============

 

8. สวนสัตว์อุบลราชธานี
 
     สวนสัตว์อุบลราชธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติดงฟ้าห่วน ห่างจากตัวจังหวัดเพียง 5 กิโลเมตร ความน่าสนใจของสวนสัตว์อุบลราชธานีก็คือ แนวคิดจะทำให้เป็นสวนสัตว์ที่สมบูรณ์ที่สุดในภูมิภาคอีสาน ด้วยพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และการออกแบบจึงเน้นให้ผสมกลมกลืนไปกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของผืนป่าอันสมบูรณ์ได้มากที่สุดค่ะ

      ที่นี่จำแนกสัตว์เป็น 4 ประเภท ได้แก่ สัตว์กีบไทย มี 4 ชนิด ได้แก่ เก้ง ละมั่งพันธุ์พม่า เนื้อทราย กวางป่า สัตว์กีบต่างประเทศ มี 3 ชนิด ได้แก่ ซิก้า บาราซิง แบล็คบั๊ค สัตว์แอฟริกา มี 5 ชนิด ได้แก่ ยีราฟ นกกระจอกเทศ วอเตอร์บั๊ค ไนอาล่า ม้าลาย และอาณาจักรสัตว์นักล่า คนรักสัตว์ น้องๆ หนูๆ ต้องได้เที่ยว!

ที่อยู่ : 112 หมู่ 17 ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/ovYpvWHWNXgRe4jH9
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
โทร : 09-3320-9369
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/สวนสัตว์อุบลราชธานี
==============


9. พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ Ubon
 
      พิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติ Ubon ตั้งอยู่ที่ถนนเทพโยธี ทางเข้าสนามบิน ตรงข้ามสนามไดรฟ์กอล์ฟของ กองบิน 21 ค่ะ ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย อีกแห่งของอุบลฯ ที่ต้องไปแวะ ด้านในเป็นพื้นที่แสดงภาพวาด 3 มิติ กว่า 200 ภาพ 17 โซน เปิดให้เดินชมภาพ และถ่ายภาพฮิปๆ ชิลๆ

 

ที่อยู่ : 416 ถนนเทพโยธี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/6nbXkzcv1T7HkkZk8
เปิดให้เข้าชม : 10.00-18.00 น.
โทร : 09-6196-6636
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/3DgalleryUbon
==============

 

10. วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย
 
      วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ก่อนถึงโขงเจียมประมาณ 7 กิโลเมตร บริเวณถ้ำเป็นสำนักสงฆ์ มีทางเดินไปยังถ้ำเล็กๆ หรือที่เรียกกันว่า ถ้ำเหวสินธุ์ชัย ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ที่งดงาม และมีชื่อในการปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด

      ที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมนักท่องเที่ยวควรใช้ความสงบในการเยี่ยมชม บริเวณพระนอนมีน้ำตกไหลจากหน้าผาด้านบนผ่านลงมาสวยงาม และสงบ เหมาะกับการไปพักผ่อนจิตใจค่ะ

 

ที่อยู่ : ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/AUpo3pQbvcQQB98b8
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
==============

 

11. จุดชมวิวแม่น้ำสองสี
โขงเจียม
 

       แม่น้ำสองสี ที่โขงเจียม อุบลราชธานี เป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน จึงเกิดการเปรียบต่างสีน้ำของแม่น้ำทั้งสองสาย คือ แม่น้ำมูลที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้เป็นที่เรียกกันว่า “โขงสีปูน มูลสีคราม” ค่ะ

      นอกจากจุดชิมวิว ลาดริมตลิ่งหน้าวัดโขงเจียม และที่หมู่บ้านห้วยหมาก ที่สามารถชมแม่น้ำสองสีได้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งเรือไปชมทัศนียภาพริมฝั่งโขงได้อีกด้วย

ที่อยู่ : ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/hgNujbntsHJVbUtx6
เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน
โทร : -
เว็บไซต์ : -
==============

12. วัดพระธาตุหนองบัว
 
      วัดพระธาตุหนองบัว เป็นวัดสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดประดิษฐาน พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2500 ซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย นั่นเอง

     นอกจากที่วัดจะมีบรมสารีริกธาตุให้กราบไหว้แล้ว ยังมีกลิ่นอายวัฒนธรรมอันล้ำค่า มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติอีกแห่งหนึ่งด้วยค่ะ

 

ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/w5r1zRz8XEucJpFR8
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
โทร : 08-0165-4711
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/วัดพระธาตุหนองบัว
==============

 

13. อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
 

      อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอโขงเจียม และอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ค่ะ ความสวยงามของที่นี่อยู่ที่ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ และสัตว์ป่ามากมายทั้ง  กวาง หมีหมา หมีคน นกนานาชนิด และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมี ดอนตะนะ ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่กลางลำน้ำมูล มีหาดทราย ไว้สำหรับไปนั่งเล่นได้ค่ะ

      อีกทั้งไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือ สะพานแขวน ถ่ายรูปสวยๆ เป็นสะพานแขวนไว้สำหรับให้คนเดินข้ามที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นจุดชมวิวสองฝั่งของแม่น้ำมูลได้ฟินสุดๆ เลยค่ะ

ดูรีวิวเต็มๆ ที่ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อุบลราชธานี จุดชมวิวแม่น้ำโขง สุดสวยแดนอีสาน

 

ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/P391GajMqDu7R9wt7
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
โทร : 0-4525-2722
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/KaengTanaNP
==============

 

14. น้ำตกแสงจันทร์
 

      น้ำตกแสงจันทร์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า น้ำตกลงรู แห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งนาเมือง อำเภอโขงเจียม ค่ะ  ชื่อของน้ำตกนั้น มาจากลักษณะของสายน้ำที่ไหลผ่านลงรูหินนั่นเอง ซึ่งรูขนาดใหญ่ที่น้ำตกไหลผ่านนี้ เกิดขึ้นเพราะน้ำที่กัดเซาะ ทำให้เป็นอะไรที่สวยงาม อันซีนมากค่ะ สำหรับชื่อ น้ำตกแสงจันทร์ นั้นก็มาจากสายน้ำตกที่เป็นละออง ผ่านช่องหินลงมาคล้ายแสงจันทร์นั่นเอง

น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกลงรู อุบลราชธานี


ที่อยู่ : บ้านทุ่งนาเมือง ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/SNgx5EAU6wxLAbGa6
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
==============

 

15. ตลาดวารินชำราบ
 


 

ที่อยู่ : ถนนประทุมเทพภักดี ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/tuqRxNDLQQuxUUzz5
เปิดให้เข้าชม : 05.00-21.00 น.

ตั๊กออแกไนท์ อุบลราชธานี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาค อุบลราชธานี
นางรำ อุบลราชธานีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาค อุบลราชธานี
 อุบลราชธานีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาค อุบลราชธานี
รําบวงสรวงพญานาค อุบลราชธานี
ฟ้อนบูชาพญานาค อุบลราชธานี
รําบวงสรวงพญานาค อุบลราชธานี



  ติดต่อสอบถามเรา        
            







300
20 ที่เที่ยวอุดรธานี เยือนถิ่น อีสาน ม่วนหลาย เที่ยวสนุกไม่มีคำว่าเบื่อ

วันนี้เราจะพาไปเที่ยว อีสาน กันที่ จังหวัดอุดรธานี ถิ่นธรรมชาติสวย วัดสวย เมืองงาม มีทั้ง ศิลปะ วัฒนธรรม เราเลยจัดเต็มที่เที่ยวปังๆ ห้ามพลาดของอุดรฯ มาให้ทุกคนไปตามเช็คอินกัน บอกเลยงานครบ จบ แบบที่สายเที่ยวต้องการแน่นอน ไปค่า ไปดูกันเลยว่า 20 ที่เที่ยวอุดรธานี จะมีที่ไหนกันบ้าง

ที่เที่ยวอุดรธานี

1. ทะเลบัวแดง

     ทะเลบัวแดง บึงหนองหาน แหล่งน้ำธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดใน อุดรธานี โดยมีพื้นที่กว่า 22,500 ไร่ และยังเป็นที่เที่ยวดังที่ไม่มีใครไม่รู้จักอีกด้วย เพราะถ้าพูดถึงทุ่งบัวแดง อุดรธานีถือว่าเป็นที่แรกและเป็นแหล่งต้นกำเนิดเลยค่ะ โดยบัวนั้นจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาวของทุกปี สำหรับจุดขื้นเรือนั้นก็จะมีอยู่หลายท่าเรือด้วยกัน สามารถเลือกที่สะดวกได้ค่ะ ในการล่องเรือนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เราจะได้ชมความสวยงามของบัวแดง และนกน้ำที่ออกมาหากินตามธรรมชาติ รวมไปถึงควายที่ลงมาหากินในทะเลบัวแดงด้วยค่
ที่อยู่ : ทะเลสาบหนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : ท่าเรือท่าเดียม https://goo.gl/maps/YycAGkx4eU7ptNAdA                                        ท่าเรือเชียงแหว https://goo.gl/maps/cN16RoteyMm5qjXW9                                                ท่าเรือดอนคง https://goo.gl/maps/1bZH37LKjk6Hjiju8
เปิดให้เข้าชม : 05.00-11.00 น.
โทร : ททท.สำนักงานอุดรธานี 0-4232-5407
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/tatudon
=====================

 

2. คำชะโนด
 

คำชะโนด อุดรธานี

 คำชะโนด จะเป็นลักษณะของเกาะป่า ที่มีน้ำล้อมรอบตัว กว่า 20 ไร่ และถูกปกคลุมไปด้วยต้นคำชะโนดสูงไปทั้งเกาะเลย แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่โด่งดังขึ้นมาก็คือ เรื่องของความเชื่อที่สืบทอดมานั่นเอง เพราะจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันอยู่สามอย่าง คือ ศาลหลวงปู่ศรีสุทโธ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และ ลานต้นคำชะโนดใหญ่ โดยทั้งสามจุดนี้ จะเป็นจุดที่คนนิยมไปไหว้ขอพรกันอย่างมาก เรียกได้ว่าหนาแน่นกันทุกพื้นที่เลย ใครอยากไปไหว้ขอพรนั้น แนะนำว่าให้ไปก่อนเที่ยงนะคะ เพราะคนจะน้อยกว่าช่วงเวลาอื่นมาก จะได้ขอพรแบบไม่เร่งรีบกันจนเกินไปค่ะ

ที่เที่ยวอุดรธานี พญานาค คำชะโนด
ที่อยู่ : 64 หมู่ 11 ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/ArvjpGJPCFtZT82e9
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

3. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
 

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง อุดรธานี

 

     พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง ที่สร้างขึ้นในพื้นที่ของ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง หนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่สำคัญที่สุดของไทยนี้ และยังได้รับเลือกเป็นแหล่ง มรดกโลกทางวัฒนธรรม อีกด้วยค่ะ โดยภายในจะจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ มากมาย ทั้ง เรื่องราวของชาวไทพวน งานศึกษาทางด้านโบราณคดีที่บ้านเชียง การขุดค้นพบโบราณวัตถุต่างๆ เป็นต้น รวมถึงยังมี ร้านค้าขายของฝากของที่ระลึก จากการมาเยี่ยมชมบ้านเชียง ให้เราได้ซื้อติดไม้ติดมือกันกลับไปอีกด้วยค่ะ

ที่เที่ยวอุดรธานี บ้านเชียง


ที่อยู่ : หมู่ที่ 13 ถนนสุทธิพงษ์ ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/uccAVb5Gb9fV7iYZ8
เปิดให้เข้าชม : 09.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
โทร : 0-4223-5040
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/bcnmfinearts
=====================

 

4. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท
 

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท

 

     มาที่เที่ยวดัง ของ อุดรธานี อีกแห่ง อย่าง อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ที่แสดงถึงอารายธรรมของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิประเทศ โดยพื้นที่นี้จะเป็นหินทรายที่ถูกสร้างขึ้นจากขบวนการกัดกร่อนจากธรรมชาตินั่นเองค่ะ จะเห็นได้จากรูปร่างรูปทรงที่สวยแปลกตา ไม่เหมือนที่ไหน ซึ่งหินทรายนี้จะมีอายุกว่า 130 ล้านปีเลยทีเดียว ในแต่ละรูปร่างของหินก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ทั้ง ถ้ำพระ หีบศพพ่อตา หอนางอุสา เป็นต้น

ที่เที่ยวอุดรธานี อุทยานประวัติศาสตร์

amnat30 / Shutterstock.com

 

ที่อยู่ : 194 หมู่ 8 ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/UoQE3trbfi58sVKx8 
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย 20 บาท , ต่างชาติ 100 บาท
โทร : 0-4225-1350
เว็บไซต์ : -
=====================

 

5. วัดป่าภูก้อน
 

วัดป่าภูก้อน อุดรธานี

chai photographer / Shutterstock.com

 

     มาถึง วัดสวย ของ อุดรธานี ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ วัดป่าภูก้อน เพราะวิหารของวัดป่าภูก้อนนั้นจะสวยงามสะดุดตาเป็นอย่างมาก ภายในจะมีการตกแต่งอย่างสวยงามเช่นกัน ทั้ง ภาพพุทธประวัติและภาพทศชาติ ภาพปั้นนูนต่ำที่หล่อด้วยทองแดง พระบรมสารีริกธาตุบรรจุในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา รวมไปถึงอีกไฮไลท์อย่าง พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาวที่สร้างด้วยการเอาหินอ่อนนำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อนด้วยกันค่ะ งดงามขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงมากขนาดนี้


วัดสวย อุดรธานี

Waraphorn Aphai / Shutterstock.com


ที่อยู่ : 99 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/HqpLdwioxv4kACGP7
เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.00 น.
โทร : 08-2835-0668
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watpaphukon/
=====================

 

6. วัดสันติวนาราม
 

วัดสันติวนาราม อุดรธานี

 

     วัดสันติวนาราม วัดที่โดดเด่นด้วย พระอุโบสถทรงดอกบัว ตั้งอยู่กลางน้ำอย่างสวยงาม และที่สำคัญมีเพียงหนึ่งเดียวในไทยเท่านั้นด้วย ด้านในอุโบสถนั้นจะตกแต่งผนังด้วยรูปภาพเกี่ยวกับ​พุทธ​ประวัติอย่างสวยงามมาก โดยพระอุโบสถดอกบัวนี้ จะมีขนาด 19x19 เมตร มีดอกบัวทั้งหมด 24 กลีบ พร้อมกับ พญานาค 2 ตัวบริเวณด้านหน้า และ มีสะพานทางไว้สำหรับเดินเข้าไปได้ถึงตัวอุโบสถเลย ใครชอบเที่ยววัดสวย บอกเลยว่าวัดนี้ห้ามพลาดค่ะ


 

ที่เที่ยววัด อุดรธานี

Bangprikphoto / Shutterstock.com

 

ที่อยู่ : หมู่ 11 ตําบลบ้านเชียง อําเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/gsPyPw5vBNwvRnrh9 
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

7. วัดโพธิสมภรณ์
 

วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี

 

     วัดโพธิสมภรณ์ ที่ประดิษฐาน พระพุทธรัศมี พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย อายุกว่า 600 ปี และ พระพุทธรูปศิลาแลง ปางประธานพร สมัยลพบุรี อายุ 1,300 ปี ที่ชาวเมืองอุดรฯ นั้น ให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมากเลยค่ะ รวมถึงยังเป็นวัดพระอารามหลวง ที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ปลายรัชกาลที่ 5 ด้วยค่ะ เก่าแก่แบบนี้ ต้องไปสักการะขอพรไหว้เสริมสิริมงคลกันแล้วนะคะ


ที่เที่ยวอุดรธานี วัดสวย

Anna ART / Shutterstock.com

 

ที่อยู่ : ถนนเพาะนิยม เลขที่ 22 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/gpLMDyUg5HN2W33L7 
เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

8. ทุ่งดอกไม้ บ้านห้วยสำราญ
 

ทุ่งดอกไม้ บ้านห้วยสำราญ

 

     สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรชื่อดังของ อุดรธานี ต้องที่ ทุ่งดอกไม้ บ้านห้วยสำราญ เลยค่ะ โดยที่นี่จะมีการปลูกดอกไม้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ดอก ไม้ประดับ และเก็บเกี่ยวกันตลอดทั้งปีด้วยค่ะ ที่นี่เลยได้ชื่อว่าเป็น หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ เพราะชาวบ้านจะนิยมปลูกดอกไม้ ทั้งเพื่อบูชาพระ และส่งขายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านนั่นเองค่ะ โดยในช่วงที่ดอกไม้เริ่มบานนั้นคือ ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม บอกเลยว่ามุมสวยทุกมุมค่ะ เตรียมกล้องให้พร้อมก็ไปกันได้เลย

ที่อยู่ : บ้านห้วยสำราญ 14 หมู่ 9 ตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/7mWenR57uDg8Ng2r5
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : 20 บาท
โทร : 09-3414-0975
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/093PP
=====================

 

9. หมู่บ้านคีรีวงกต
 

หมู่บ้านคีรีวงกต อุดรธานี

 

     หมู่บ้านคีรีวงกต เป็นหมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ล้อมรอบไปด้วยทิวเขาสีเขียวขจี ของอุทยานแห่งชาติน้ำโสม-นายูง มีลำน้ำที่ไหลผ่าน ทำให้ที่นี่มีอากาศดีไปตลอดทั้งปีเลย แต่ในช่วงฤดูหนาวนั้น ก็จะหนาวมาก ใครชอบลมหนาวน่าจะถูกใจ โดยภายในหมู่บ้านนั้ จะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้ชมวิถีชีวิตต่างๆ สามารถเที่ยวแบบทั้ง one day trip หรือจะนอนชิลๆ โฮมสเตย์ สักคืนสองคืนก็ได้เลยค่ะ


ที่เที่ยวอุดรธานี คีรีวงกต

 

ที่อยู่ : ตำบลนาแค อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/intdipYjeaHYfgEU9
เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน
โทร : 09-3414-0975
เว็บไซต์ : -
=====================

 

10. เขื่อนห้วยหลวง
 

เขื่อนห้วยหลวง อุดรธานี

 

     มาถึงเขื่อนสวยของ อุดรธานี กันบ้างค่ะ ต้องมาที่ เขื่อนห้วยหลวง แห่งนี้เลย เพราะโดยรอบนั้นมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามมาก เต็มไปด้วยสีเขียวของป่าเขา และยังมีลมเย็นๆ ให้เราได้นั่งชิลกันอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้น จะนิยมมานั่งชิล ล่องแพ ตกปลา ชมวิวทิวทัศน์กันที่นี่ค่ะ ใครชอบบรรยากาศแบบนี้ มาชิลกันได้เลย หรือจะมาถ่ายรูปก็ชิคมากเหมือนกันนะคะ


จุดชมวิวสวย อุดรธานี


ที่อยู่ : ตำบลโคกสะอาด อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/X33tB8qE3zjQ3PJy5 
เปิดให้เข้าชม : 06.00-20.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

11. อ่างน้ำพาน
 

อ่างน้ำพาน ที่เที่ยวอุดรธานี

Dendae11 / Shutterstock.com

 

     อ่างน้ำพาน เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีกแห่งของภาคอีสาน ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 3 ตำบลเลยทีเดียว โดยมีพื้นที่รวมกว่า 4,300 ไร่ ค่ะ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของชาวอุดรฯ โดยไฮไลท์ก็คือ การล่องแพ นั่นเองค่ะ เป็นการลองแพออกไปกลางอ่างเก็บน้ำ เพื่อทานอาหาร เครื่องดื่มพร้อมกับชมวิวสวยๆ ค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่ให้เต็มร้อยไปเลย

ที่เที่ยวอีสาน อุดรธานี

Attasit saentep / Shutterstock.com

 

ที่อยู่ : หมู่ที่ 2 ตำบลเชียงดา อำเภอสร้างคอม จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/wzj6kfxqc3P88HDF7
เปิดให้บริการ : 05.00- 18.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

12. พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี
 

พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

PixHound / Shutterstock.com

 

     พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เป็นอาคารที่มีเอกลักษณ์สุดๆ เมื่อก่อนนั้นจะเป็น ตึกราชินูเก่า หรือ อาคารโรงเรียนราชินูทิศ ที่สร้างขึ้นมาตามพระดำริของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นั่นเองค่ะ โดยเน้นความคลาสสิคประยุกต์กับความเป็นไทย ต่อมาก็ได้มีการปรับปรุงมาเป็น พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ โดยมีการจัดแสดงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เมืองอุดรธานี อย่างมากมายเลย

ที่เที่ยวพิพิธภัณฑ์ อุดรธานี

Sumeth anu / Shutterstock.com

 

ที่อยู่ : พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ถนนโพศรี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/QeEWDgvfeM6WVrDW7 
เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
โทร : -
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/udmuseum/
=====================

 

13. ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน
 

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี

 

     ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ศูนย์ที่รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม และหลักปรัชญา ของคนไทยเชื้อสายจีนเอาไว้ โดยภายในจะตกแต่งด้วยสวนสไตล์แบบจีน มีไม้มงคลจีนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ต้นเครามังกร ต้นหลิว ต้นไผ่ดำ หงส์ฟู่ ที่ล้อมรอบอยู่ที่บริเวณสระบัว มีกลิ่นอายความเป็นจีนอย่างมากเลยค่ะ ส่วนด้านในนั้น อาคารพิพิธภัณฑ์คุณธรรม ที่เล่าถึงเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดอุดรธานีนั่นเองค่ะ



ที่อยู่ : 888 ถนนศาลเจ้าเนรมิต ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/henpXoto7uYBfbTH7
เปิดให้เข้าชม : 09.00-19.00 น.
โทร : 0-4224-2333
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/puya.udonthani
=====================

 

14. ภูฝอยลม
 

ภูฝอยลม อุดรธานี

Peeraphat / Shutterstock.com

 

     ภูฝอยลม หรือ อุทยานล้านปีภูฝอยลม สถานที่ที่รอบล้อมไปด้วยภูเขามากมาย รวมถึงมีดอกไม้สวยๆ ในสวนรวมพรรณไม้อีกด้วยค่ะ อีกทั้งบรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่เหมาะมากๆ สำหรับการมาเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ ส่วนใครที่ชอบนอนกางเต็นท์ ดูดาวในตอนกลางคืน ก็บอกเลยว่าเหมาะมากๆ ยิ่งถ้ามาช่วงหน้าหนาวนะคะ บอกเลยว่าฟินสุดๆ


ที่เที่ยวอุดรธานี หน้าหนาว


ที่อยู่ : เขตป่าสงวนแห่งชาติพันดอน-ปะโค อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/aQ7foXUq5de5wxJE7 
เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
โทร : 0-4291-0902 , 0-4225-0207 , 08-9710-2633
เว็บไซต์ : -
=====================

 

15. สวนสาธารณะหนองประจักษ์
 

สวนสาธารณะหนองประจักษ์ อุดรธานี

 

     สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม สวนสาธารณะใจกลางเมืองอุดรธานีนี้ เป็นพื้นที่ของหนองน้ำขนาดใหญ่ที่มีเกาะกลางน้ำ ถือว่าเป็นแลนมาร์คสำคัญของจังหวัด ที่ชาวอุดรฯ จะนิยมมาทำกิจกรรมต่างๆ เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย เล่นกีฬา เดินเล่นชมวิว หรือจะมาถ่ายรูปสวยๆ ก็ได้เลยค่ะ เพราะมีทั้งมุมสะพานสวยๆ ที่เชื่อมระหว่างเกาะมีน้ำพุ หรือ หอนาฬิกา ก็แชะสนุกได้ทั้งนั้นค่ะ


ที่อยู่ : ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/vSwqZ56WxMZoYrQK8
เปิดให้เข้าชม : 06.00-20.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

16. สวนธรรมชาติ ( สวนลิง )
 

สวนธรรมชาติ สวนลิง อุดรธานี

 

     สวนธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่า สวนลิง เป็นสวนสาธารณะที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของ อำเภอกุมภวาปี ค่ะ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของของลิงมากกว่า 300 ตัวด้วยกัน ซึ่งภายในจะเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้มากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไม้เต็ง ไม้แดง ไม่ยาง ไม้ค้างคาว กระเบาลิง มะขามไก่ รวมไปถึง สมุนไพร ส่วนใครอยากจะให้อาหารน้องลิง ก็สามารถทำได้เลยค่ะ แต่แนะนำว่าใช้ความระมัดกันด้วยนะคะ แม้ว่าลิงจะชินกับคนแล้ว แต่ก็ระวังไว้ดีกว่าค่ะ


ที่เที่ยวธรรมชาติ สวนลิง อุดรธานี

 

ที่อยู่ : สวนธรรมชาติ ตำบลกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/feEm4aTWPtiUeTnE8 
เปิดให้เข้าชม : 05.00-20.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

17. อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม
 

อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม อุดรธานี

 

     อุทยานแห่งชาตินายูง-น้ำโสม เป็นอุทยานที่มีพื้นที่คลอบคลุมขนาดใหญ่ และเป็นรอยต่อ 3 จังหวัดด้วยกันค่ะ คือ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดเลย และ จังหวัดหนองคาย รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายอีกด้วย ทั้ง น้ำตกยูงทอง จุดชมวิวผาแดง น้ำตกตาดน้อย เป็นต้น รวมถึงมีเส้นทางเดินป่า ให้สายลุยรักการผจญภัยไปเที่ยวลุยป่ากันด้วยค่ะ

 

ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติ อุดรธานี จุดชมวิวผาแดง

 

ที่อยู่ : หมู่ 2 บ้านสว่าง ตำบลนายูง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/94tWifkAqcHDHw927
เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Nayungnamsom/
=====================

 

18. น้ำตกคอยนาง
 

น้ำตกคอยนาง อุดรธานี

 

     น้ำตกคอยนาง ตั้งอยู่ใน เขตวนอุทยานน้ำตกคอยนาง โดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นแรกจะมีความสูงประมาณ 4 เมตร ส่วนชั้นที่ 2 นั้น จะสูงกว่า 5 เมตรค่ะ เป็นน้ำตกมีความสวยงามมาก ซึ่งในบริเวณน้ำตกก็จะมีลานหินกว้าง เหมาะมานั่งชิลพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด รวมถึงบริเวณรอบๆ ยังมีความสงบและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติสวยๆ อีกด้วย งานนี้ต้องซึมซับกันให้เต็มที่ไปเลยค่ะ

 

ที่เที่ยวน้ำตก อุดรธานี

 

ที่อยู่ : ตำบลแสงสว่าง อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/mugXsH2bnwnEEe3P8
เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

19. น้ำตกธารงาม
 

น้ำตกธารงาม อุดรธานี

 

     น้ำตกธารงาม เป็นน้ำตกขนาดเล็กๆ แต่มีธารน้ำไหลและมีแอ่งน้ำให้เล่นมากมายหลายจุดด้วยกัน รวมทั้งยังล้อมรอบด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย ที่สำคัญเดินทางไปมายาก อยู่ห่างจากจุดจอดรถแค่เพียง 300-400 เมตรเท่านั้น เป็นน้ำตกที่เที่ยวง่ายและน่าเที่ยวมากๆ สำหรับหน้าฝนชุ่มชื้นๆ แบบนี้ ถ้าได้ไปนอนเล่นในน้ำเย็นๆ คงจะดีไม่น้อยเลย

 

ที่เที่ยวหน้าฝน น้ำตกสวย อุดรธานี

 

ที่อยู่ : ตำบลทับกุง อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี
พิกัด :  https://goo.gl/maps/ixP8Fvw9pAhHvq9o7
เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
โทร : -
เว็บไซต์ : -
=====================

 

20. ศาลหลักเมืองอุดรธานี
 

ศาลหลักเมืองอุดรธานี

Chadon Nakmai / Shutterstock.com

 

     ศาลหลักเมืองอุดรธานี หรือที่เรียกกันว่า ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุดรธานี นั้น ถือว่าเป็นศูนย์รวมความเคารพและความศรัทธา ของชาวเมืองอุดรธานีเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะนิยมมาสักการะบูชากัน ทั้ง หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง และ ท้าวเวสสุวัณ โดยมีความเชื่ออีกว่า ถ้าหากเดินเข้าประตูไหนก็ให้ออกประตูนั้น จะทำให้ได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ รวมถึงตัวอาคารของศาลหลักเมือง ยังเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ที่ผสมผสานศิลปะของภาคอีสานอีกด้วย ทั้งสวยและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ สายบุญต้องห้ามพลาดแล้วค่ะ

ตั๊กออแกไนท์อุดรธานี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคอุดรธานี
นางรำอุดรธานีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคอุดรธานี
อุดรธานีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคอุดรธานี
รําบวงสรวงพญานาคอุดรธานี
ฟ้อนบูชาพญานาคอุดรธานี
รําบวงสรวงพญานาคอุดรธานี



  ติดต่อสอบถามเรา        
            







หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 30