สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - admin

หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 30
256
12 แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เมืองที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

1. เสม็ดนางชี


          จุดชมวิวของจังหวัดพังงา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเก็บเกี่ยวความสวยงามของบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินสวย ๆ ราวกับสรวงสวรรค์ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์นอนบนจุดชมวิวเสม็ดนางชี นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่โดยรอบอีกด้วย เช่น "ท่าเรือบ้านหินร่ม" "ท่าเรืออาบแสงจันทร์" และ "เขาพระอาดหนุ่ม" เป็นต้น รับรองได้เลยว่า คุณจะต้องหลงใหลไปกับความสวยงามที่แสนเรียบง่ายของท้องทะเลพังงาแห่งนี้ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเรื่องที่พักได้ที่ บังหนี โทรศัพท์ 062 208 1390

2. หมู่บ้านบางพัฒน์

     ตั้งอยู่ที่ตำบลบางเตย อำเภอเมือง ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงชายฝั่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ชาวบ้านยังคงประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอัธยาศัยไมตรี ความมีน้ำใจของชาวบ้าน และสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจ รวมถึงนักท่องเที่ยวยังจะได้ชิมอาหารทะเลสด ๆ หรือจะพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุด ๆ

3. เขาไข่นุ้ย

          ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมทิวทัศน์หุบเขาน้อยใหญ่ในท้องทะเลอันดามัน รวมถึงทะเลหมอกสุดอลังการของภาคใต้ แม้แต่ฤดูร้อนก็มีปรากฏให้เห็น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมเขาไข่นุ้ยได้ตลอดทั้งปี สามารถขับรถขึ้นไปได้ แต่ต้องเป็นรถกระบะเท่านั้น และยิ่งถ้าไม่ชินทางไม่แนะนำให้ขับรถขึ้นไปเอง เพราะบางช่วงของเส้นทางจะชัน อาจเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมะพร้าว โทรศัพท์ 0 7644 5281, 08 1187 6199

4. คลองสังเน่ห์

          ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า มีลักษณะเป็นคลองสายสั้น ๆ ล้อมรอบด้วยผืนป่าเล็ก ๆ ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยธรรมชาติ ไฮไลท์อยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือชมต้นไทรโบราณ อายุร่วมร้อยปี ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา รวมถึงได้ชมงูชนิดต่าง ๆ เช่น งูเขียว งูปล้องทอง และงูเหลือม เป็นต้น รวมถึงสัตว์สงวนหายากต่าง ๆ เหล่านี้ เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัดพังงาได้เป็นอย่างดี

5. จุดชมวิวอ่าวโต๊ะหลี

          ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านอ่าวมะขาม อำเภอตะกั่วทุ่ง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวแห่งใหม่ที่อยู่ใกล้กับจุดชมวิวเสม็ดนางชี ความโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือนักท่องเที่ยวจะมองเห็นหินสามก้อนที่เรียงสลับตัวกัน เหมือนกับว่ามีคนไปวางอยู่ในท้องทะเล และจะสวยยิ่งขึ้นไปอีกในช่วงเวลากลางคืน เพราะคุณจะมองเห็นดวงดาวสว่างไสวอยู่เต็มท้องฟ้า มีทั้งที่พักและเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว และสามารถนำรถขึ้นไปจอดด้านบนได้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ใหญ่นพดล โทรศัพท์ 089 591 0569, 087 284 3332 หรือเช่าเต็นท์, กระท่อม ติดต่อได้ที่ บังศักดิ์ โทรศัพท์ 087 893 2822, 082 281 2705

6. ทะเลแหวกแนวสันหลังมังกร เกาะยาวน้อย

          อีกหนึ่งที่เที่ยวอันซีนของจังหวัดพังงา อยู่ที่เกาะยาวน้อย ในช่วงน้ำลด นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความมหัศจรรย์ของสันดอนทราย ที่ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร คล้ายกับสันหลังมังกร เป็นภาพความสวยงามทางธรรมชาติที่ไม่ได้หาดูจากที่ไหนง่าย ๆ ถ้าใครไม่อยากผิดหวังอดเห็นสันหลังมังกรสวย ๆ นักท่องเที่ยวควรเดินทางมาที่เกาะยาวน้อยก่อน แล้วเช่าเรือหางยาวในพื้นที่ ซึ่งคนขับจะรู้เส้นทาง รวมถึงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลงเป็นอย่างดี

7. ธารมรกต หรือคลองนางย่อน

          ตั้งอยู่ที่ตำบลคุระบุรี อำเภอคุระบุรี นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่จะสนุกไปกิจกรรมล่องแพ ความพิเศษอยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามของธารมรกต ที่ทั้งใสและนิ่งคล้ายสีเขียวมรกต จนมองเห็นหินที่อยู่ใต้สระเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังได้ชื่นชมธรรมชาติป่าไม้สวย ๆ โดยการล่องแพจะกินระยะทางยาวประมาณ 3 กิโลเมตร และใช้เวลาในการล่องประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจมีช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับระดับน้ำและจุดที่นักท่องเที่ยวลงล่องแพ สามารถสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ ด.ต. ชนาวุฒิ มีนวล อดีตประธานสภาวัฒนธรรม อ.คุระบุรี โทรศัพท์ 096 636 4488, 089 724 2028

8. ภูตาจอ

          ตั้งอยู่ที่ตำบลเหล อำเภอกะปง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม โดยนักท่องเที่ยวต้องนั่งรถกระบะขึ้นไปเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตลอดทางมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้งต้นไม้ ดอกไม้ป่า และน้ำตก เป็นต้น ใครที่เป็นนักท่องเที่ยวขาลุย น่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย โดยการขึ้นไปยังภูตาจอนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องเหมารถขึ้นไป เพราะเส้นทางค่อนข้างลำบากและต้องอาศัยผู้ที่ชำนาญเส้นทาง และหากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะกางเต็นท์ด้านบน ใครที่ไม่มีเต็นท์ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีบริการเช่าเต็นท์อีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงได้ที่ ลุงรูน โทรศัพท์ 086 272 5531 หรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเหล คุณสมชาย ทิพย์พิมล โทรศัพท์ 086 266 3077

9. สะพานเหล็กโคกขนุน

          ตั้งอยู่ที่บ้านโคกขนุน ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า สะพานแห่งนี้มีความยาวประมาณ 200 เมตร ตามประวัติบอกว่าบริษัท จุติ บุญสูง โคกขนุน จำกัด สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2511 จากเหล็กเรือขุดแร่ เพื่อให้ความสะดวกแก่คนงานและประชาชน ก่อนที่จะหยุดกิจการไป สังเกตให้ดี ๆ บริเวณโดยรอบสะพาน ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมืองขุดแร่ตะกั่วป่า

10. เกาะคอเขา

          เกาะเล็ก ๆ ใกล้กับอำเภอตะกั่วป่า เกาะแห่งนี้อาจยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ถ้าใครลองได้ไปจะต้องตกหลุมรัก ด้วยเพราะที่นี่ยังคงมีธรรมชาติที่เงียบสงบ ทะเลสวย และวิถีชาวเกาะที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมืองกรุง มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกมากมาย เช่น เกาะผ้า เมืองโบราณ และสำนักสงฆ์ทุ่งตึก เป็นต้น รวมถึงที่พักหลากหลายระดับและราคา ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

11. เมืองเก่าตะกั่วป่า

          เดินเล่นชมสีสันของอาคาร บ้านเรือน และสิ่งก่อสร้างตามสไตล์ชิโนโปรตุกีสแบบโบราณ ตามถนนสายสำคัญ 5 สาย คือ ถนนศรีตะกั่วป่า ถนนอุดมธารา ถนนกลั่นแก้ว ถนนมนตรี 2 และถนนหน้าเมือง เป็นถนนสายวัฒนธรรมที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่มีถนนคนเดิน นักท่องเที่ยวจะสนุกและเพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้า ที่พ่อค้าแม่ขายต่างพากันยิ้มแย้ม ให้เลือกดูได้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งยังได้สัมผัสกับมิตรภาพของคนในพื้นที่อีกด้วย

12. วัดถ้ำสุวรรณคูหา

          ตั้งอยู่ที่อำเภอตะกั่วป่า วัดโบราณที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา ตั้งอยู่ภายในภูเขาที่มีถ้ำน้อยใหญ่เป็นจำนวนมากเรียงตัวอยู่ต่อ ๆ กัน มีชื่อเรียกต่างกันออกไป เช่น ถ้ำใหญ่ ถ้ำแจ้ง และถ้ำมืด เป็นต้น ในทางประวัติศาสตร์วัดถ้ำสุวรรณคูหาเป็นถ้ำที่ในอดีตพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์หลายพระองค์ได้เคยเสด็จมาประพาส ดังที่เห็นภายในถ้ำมีพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยจารึกอยู่ และยังเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวจากต่างชาตินิยมแวะเข้ามาเที่ยวชมมากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย

          เป็นยังไงบ้างคะ ? กับที่เที่ยวพังงาที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ กันในวันนี้ บอกเลยว่าแต่ละที่ไม่ธรรมดา จะเห็นได้ว่านอกจากทะเลสวย ๆ ที่นี่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่สวยงามอีกทั้งยังน่าค้นหา ที่รอให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเข้าไปพบเจอ ^ ^
ตั๊กออแกไนท์พังงา รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคพังงา
นางรำพังงาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคพังงา
พังงารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคพังงา
รําบวงสรวงพญานาคพังงา
ฟ้อนบูชาพญานาคพังงา
รําบวงสรวงพญานาคพังงา

  ติดต่อสอบถามเรา        
            



257
12 แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพังงา เมืองที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

1. เสม็ดนางชี

          จุดชมวิวของจังหวัดพังงา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเก็บเกี่ยวความสวยงามของบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินสวย ๆ ราวกับสรวงสวรรค์ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์นอนบนจุดชมวิวเสม็ดนางชี นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่โดยรอบอีกด้วย เช่น "ท่าเรือบ้านหินร่ม" "ท่าเรืออาบแสงจันทร์" และ "เขาพระอาดหนุ่ม" เป็นต้น รับรองได้เลยว่า คุณจะต้องหลงใหลไปกับความสวยงามที่แสนเรียบง่ายของท้องทะเลพังงาแห่งนี้ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเรื่องที่พักได้ที่ บังหนี โทรศัพท์ 062 208 1390

2. หมู่บ้านบางพัฒน์

     ตั้งอยู่ที่ตำบลบางเตย อำเภอเมือง ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงชายฝั่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ชาวบ้านยังคงประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอัธยาศัยไมตรี ความมีน้ำใจของชาวบ้าน และสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจ รวมถึงนักท่องเที่ยวยังจะได้ชิมอาหารทะเลสด ๆ หรือจะพักค้างคืนแบบโฮมสเตย์ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุด ๆ

3. เขาไข่นุ้ย

          ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมทิวทัศน์หุบเขาน้อยใหญ่ในท้องทะเลอันดามัน รวมถึงทะเลหมอกสุดอลังการของภาคใต้ แม้แต่ฤดูร้อนก็มีปรากฏให้เห็น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมเขาไข่นุ้ยได้ตลอดทั้งปี สามารถขับรถขึ้นไปได้ แต่ต้องเป็นรถกระบะเท่านั้น และยิ่งถ้าไม่ชินทางไม่แนะนำให้ขับรถขึ้นไปเอง เพราะบางช่วงของเส้นทางจะชัน อาจเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมะพร้าว โทรศัพท์ 0 7644 5281, 08 1187 6199

4. คลองสังเน่ห์

          ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า มีลักษณะเป็นคลองสายสั้น ๆ ล้อมรอบด้วยผืนป่าเล็ก ๆ ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยธรรมชาติ ไฮไลท์อยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือชมต้นไทรโบราณ อายุร่วมร้อยปี ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา รวมถึงได้ชมงูชนิดต่าง ๆ เช่น งูเขียว งูปล้องทอง และงูเหลือม เป็นต้น รวมถึงสัตว์สงวนหายากต่าง ๆ เหล่านี้ เหล่านี้เป็นสิ่งสะท้อนความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัดพังงาได้เป็นอย่างดี

5. จุดชมวิวอ่าวโต๊ะหลี

          ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านอ่าวมะขาม อำเภอตะกั่วทุ่ง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวแห่งใหม่ที่อยู่ใกล้กับจุดชมวิวเสม็ดนางชี ความโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือนักท่องเที่ยวจะมองเห็นหินสามก้อนที่เรียงสลับตัวกัน เหมือนกับว่ามีคนไปวางอยู่ในท้องทะเล และจะสวยยิ่งขึ้นไปอีกในช่วงเวลากลางคืน เพราะคุณจะมองเห็นดวงดาวสว่างไสวอยู่เต็มท้องฟ้า มีทั้งที่พักและเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว และสามารถนำรถขึ้นไปจอดด้านบนได้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ใหญ่นพดล โทรศัพท์ 089 591 0569, 087 284 3332 หรือเช่าเต็นท์, กระท่อม ติดต่อได้ที่ บังศักดิ์ โทรศัพท์ 087 893 2822, 082 281 2705

6. ทะเลแหวกแนวสันหลังมังกร เกาะยาวน้อย

          อีกหนึ่งที่เที่ยวอันซีนของจังหวัดพังงา อยู่ที่เกาะยาวน้อย ในช่วงน้ำลด นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความมหัศจรรย์ของสันดอนทราย ที่ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร คล้ายกับสันหลังมังกร เป็นภาพความสวยงามทางธรรมชาติที่ไม่ได้หาดูจากที่ไหนง่าย ๆ ถ้าใครไม่อยากผิดหวังอดเห็นสันหลังมังกรสวย ๆ นักท่องเที่ยวควรเดินทางมาที่เกาะยาวน้อยก่อน แล้วเช่าเรือหางยาวในพื้นที่ ซึ่งคนขับจะรู้เส้นทาง รวมถึงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลงเป็นอย่างดี

7. ธารมรกต หรือคลองนางย่อน


          ตั้งอยู่ที่ตำบลคุระบุรี อำเภอคุระบุรี นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่จะสนุกไปกิจกรรมล่องแพ ความพิเศษอยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามของธารมรกต ที่ทั้งใสและนิ่งคล้ายสีเขียวมรกต จนมองเห็นหินที่อยู่ใต้สระเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังได้ชื่นชมธรรมชาติป่าไม้สวย ๆ โดยการล่องแพจะกินระยะทางยาวประมาณ 3 กิโลเมตร และใช้เวลาในการล่องประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจมีช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับระดับน้ำและจุดที่นักท่องเที่ยวลงล่องแพ สามารถสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ ด.ต. ชนาวุฒิ มีนวล อดีตประธานสภาวัฒนธรรม อ.คุระบุรี โทรศัพท์ 096 636 4488, 089 724 2028

8. ภูตาจอ


          ตั้งอยู่ที่ตำบลเหล อำเภอกะปง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม โดยนักท่องเที่ยวต้องนั่งรถกระบะขึ้นไปเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตลอดทางมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้งต้นไม้ ดอกไม้ป่า และน้ำตก เป็นต้น ใครที่เป็นนักท่องเที่ยวขาลุย น่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย โดยการขึ้นไปยังภูตาจอนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องเหมารถขึ้นไป เพราะเส้นทางค่อนข้างลำบากและต้องอาศัยผู้ที่ชำนาญเส้นทาง และหากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะกางเต็นท์ด้านบน ใครที่ไม่มีเต็นท์ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีบริการเช่าเต็นท์อีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงได้ที่ ลุงรูน โทรศัพท์ 086 272 5531 หรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเหล คุณสมชาย ทิพย์พิมล โทรศัพท์ 086 266 3077

9. สะพานเหล็กโคกขนุน

          ตั้งอยู่ที่บ้านโคกขนุน ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า สะพานแห่งนี้มีความยาวประมาณ 200 เมตร ตามประวัติบอกว่าบริษัท จุติ บุญสูง โคกขนุน จำกัด สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2511 จากเหล็กเรือขุดแร่ เพื่อให้ความสะดวกแก่คนงานและประชาชน ก่อนที่จะหยุดกิจการไป สังเกตให้ดี ๆ บริเวณโดยรอบสะพาน ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมืองขุดแร่ตะกั่วป่า

10. เกาะคอเขา

          เกาะเล็ก ๆ ใกล้กับอำเภอตะกั่วป่า เกาะแห่งนี้อาจยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่ถ้าใครลองได้ไปจะต้องตกหลุมรัก ด้วยเพราะที่นี่ยังคงมีธรรมชาติที่เงียบสงบ ทะเลสวย และวิถีชาวเกาะที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมืองกรุง มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกมากมาย เช่น เกาะผ้า เมืองโบราณ และสำนักสงฆ์ทุ่งตึก เป็นต้น รวมถึงที่พักหลากหลายระดับและราคา ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

11. เมืองเก่าตะกั่วป่า

          เดินเล่นชมสีสันของอาคาร บ้านเรือน และสิ่งก่อสร้างตามสไตล์ชิโนโปรตุกีสแบบโบราณ ตามถนนสายสำคัญ 5 สาย คือ ถนนศรีตะกั่วป่า ถนนอุดมธารา ถนนกลั่นแก้ว ถนนมนตรี 2 และถนนหน้าเมือง เป็นถนนสายวัฒนธรรมที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเฉพาะวันอาทิตย์ที่มีถนนคนเดิน นักท่องเที่ยวจะสนุกและเพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้า ที่พ่อค้าแม่ขายต่างพากันยิ้มแย้ม ให้เลือกดูได้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งยังได้สัมผัสกับมิตรภาพของคนในพื้นที่อีกด้วย

12. วัดถ้ำสุวรรณคูหา
          ตั้งอยู่ที่อำเภอตะกั่วป่า วัดโบราณที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา ตั้งอยู่ภายในภูเขาที่มีถ้ำน้อยใหญ่เป็นจำนวนมากเรียงตัวอยู่ต่อ ๆ กัน มีชื่อเรียกต่างกันออกไป เช่น ถ้ำใหญ่ ถ้ำแจ้ง และถ้ำมืด เป็นต้น ในทางประวัติศาสตร์วัดถ้ำสุวรรณคูหาเป็นถ้ำที่ในอดีตพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์หลายพระองค์ได้เคยเสด็จมาประพาส ดังที่เห็นภายในถ้ำมีพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยจารึกอยู่ และยังเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวจากต่างชาตินิยมแวะเข้ามาเที่ยวชมมากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย

          เป็นยังไงบ้างคะ ? กับที่เที่ยวพังงาที่เราเอามาฝากเพื่อน ๆ กันในวันนี้ บอกเลยว่าแต่ละที่ไม่ธรรมดา จะเห็นได้ว่านอกจากทะเลสวย ๆ ที่นี่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่สวยงามอีกทั้งยังน่าค้นหา ที่รอให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเข้าไปพบเจอ ^ ^
ตั๊กออแกไนท์พังงา รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคพังงา
นางรำพังงาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคพังงา
พังงารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคพังงา
รําบวงสรวงพญานาคพังงา
ฟ้อนบูชาพญานาคพังงา
รําบวงสรวงพญานาคพังงา


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


258
12 ที่เที่ยวปัตตานี ปักธงความสนุกแดนใต้ หลงเสน่ห์เข้าไม่รู้ตัว

1. เกาะโลซิน
          ตั้งอยู่ใต้สุดของอ่าวไทย อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางทะเล ทั้งปะการัง ปะการังอ่อน และกัลปังหา รวมถึงสัตว์ทะเลนานาชนิด เช่น ฉลามวาฬ กระเบนราหู โรนัน และกระเบนนก เป็นต้น โดยมีประภาคารที่ตั้งตระหง่าน ทำหน้าที่แสดงสัญลักษณ์ของเกาะ และด้วยความที่เกาะโลซินตั้งอยู่ห่างไกลออกไปในทะเล จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาอาณาเขตพื้นที่ทางทะเลของไทย โดยทำให้ไทยสามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการประกาศน่านน้ำอาณาเขตจากเกาะโลซินออกไป 200 ไมล์ทะเล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่แหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญอย่างก๊าซธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันก็คือพื้นที่พัฒนาร่วม ไทย-มาเลเซีย (Joint Development Area : JDA)

2. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนยะหริ่ง
          ตั้งอยู่บริเวณริมคลองยามู ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนยะหริ่ง ที่นี่นักท่องเที่ยวจะเต็มอิ่มไปกับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้เถา ไม้พื้นล่าง และอีกหลากหลายสายพันธุ์ บางจุดมีระเบียงไว้สำหรับนั่งพัก มีศาลาพักผ่อน หอชมนก เอาไว้ให้ชื่นชมทัศนียภาพแบบเต็มตา ตลอดจนการล่องเรือชมธรรมชาติป่าชายเลนตามลำคลองต่าง ๆ ได้แก่ คลองบางปู คลองกลาง และคลองกอ ที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ สอดประสานไปกับวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างลงตัว

          ที่อยู่ : ตำบลตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
          เบอร์โทรศัพท์ : 073 336 290
          เฟซบุ๊ก : สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี

3. สกายวอล์กปัตตานี
          ตั้งอยู่ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (สวนแม่-สวนลูก) มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 12 เมตร และมีทางเดินด้านบนยาว 400 เมตร สำหรับคนที่กลัวความสูง งานนี้อาจมีอาการหวาดเสียวอยู่เล็กน้อย แต่ก็ตื่นเต้นดีใช่เล่น ล้อมรอบด้วยวิวธรรมชาติสวย บรรยากาศดี แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าให้มาช่วงยามเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน วิวที่ตาเห็นจะสวยกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว เผลอ ๆ กลายเป็นภาพประทับใจไปอีกนาน

          ที่อยู่ : สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ปัตตานี ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
4. ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
          หนึ่งในแลนด์มาร์กสถานที่สำคัญของจังหวัด ภายในประดิษฐานรูปแกะสลักของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว พระหมอ เจ้าแม่ทับทิม และองค์พระอีกหลายองค์ อันเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาทั้งคนในพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง เป็นประจำทุกปีจะมีการจัดพิธีแห่เจ้าแม่ลุยน้ำ อันนำมาซึ่งความคุ้มครอง ปกป้องภัย และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เข้าร่วมในพิธี ถือเป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่และอยู่คู่บ้านคู่เมืองปัตตานีมาเป็นเวลาช้านาน
 

           ที่อยู่ : ถนนอาเนาะรู ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
5. มัสยิดกรือเซะ
          มัสยิดเก่าแก่ที่อยู่คู่จังหวัดมายาวนาน มีลักษณะการก่อสร้างเป็นแบบเสากลม ก่ออิฐถือปูนตามแบบศิลปะทางตะวันออกกลาง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงมัสยิด มีฮวงซุ้ยหรือที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งชาวปัตตานีให้ความเคารพศรัทธายิ่งนัก นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่อยู่คู่จังหวัดปัตตานีมาช้านาน

          ที่อยู่ : บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยง ตำบลตันหยงลุโละ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

6. มัสยิดกลางปัตตานี
           สถานที่ที่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของคนในจังหวัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสวยงาม มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น มีอาคารยอดโดมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและมีโดมบริวารทั้ง 4 ทิศ มีหอคอยอยู่สองข้างสูงเด่น ปัจจุบันมัสยิดกลางปัตตานีได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจสำคัญ คือการละหมาดวันละ 5 เวลา เป็นกิจวัตรประจำวัน และใช้ในการละหมาดทุกวันศุกร์ รวมถึงการละหมาดในวันตรุษต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งชาวไทย ชาวมุสลิมทั้งในพื้นที่และต่างประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

           *** เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.30 น. ยกเว้นวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันประกอบศาสนกิจละหมาดประจำสัปดาห์

          ที่อยู่ : ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
          โทรศัพท์ : 073 332 402
7. วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม
           วัดเก่าแก่ที่สร้างมานานกว่า 300 ปี ส่วนใหญ่ผู้คนที่มาที่นี่มักเข้ามากราบสักการะหลวงปู่ทวดอย่างไม่ขาดสาย บริเวณด้านหน้าเป็นที่ตั้งของสถูปหรือมณฑปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวด ซึ่งมีผู้คนมากราบไหว้กันอย่างเนืองแน่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง อย่าง “วิหารหลวงพ่อทวด” “วิหารพระครูวิสัยโสภณ” ตลอดจนพระอุโบสถอาคารไทยหลังงาม นับเป็นอีกหนึ่งศาสนสถานสำคัญของจังหวัด ที่ยังคงทำหน้าที่ยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมจิตใจตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน
          ที่อยู่ : หมู่ที่ 2 ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
          เฟซบุ๊ก : วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม-วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
8. อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว
          อุทยานที่ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ ในท้องที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี อำเภอเมืองยะลา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา และอุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี ในท้องที่ตำบลบ้านโหนด ตำบลเปียน ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ภายในยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกสวยงามมากมาย เช่น น้ำตกทรายขาว, น้ำตกโผงโผง, น้ำตกพระไม้ไผ่ และน้ำตกอรัญวาริน เป็นต้น
          ที่อยู่ : ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
          เบอร์โทรศัพท์ : 073 420 295
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จ.ปัตตานี -Namtok Sai Khao National Park
9. หาดตะโละกาโปร์
          หาดที่มีชื่อเสียงหนึ่งแห่งของจังหวัดปัตตานี เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เสน่ห์ของที่นี่ นั่นคือ หาดทรายขาวสะอาด ทอดตัวขนานไปกับชายฝั่งทะเล มีเรือกอและจอดอยู่เป็นจำนวนมาก เหล่านี้สะท้อนถึงวิถีชีวิตชาวประมงดั้งเดิมที่อยู่คู่กับหาดนี้มานานแรมปี นอกจากนี้ยังประดับประดาด้วยทิวสนและต้นมะพร้าว ไว้เป็นร่มเงาหลบแดดให้แก่ผู้ที่มาเยือนอีกด้วย
          ที่อยู่ : ทางหลวงชนบท ปน.4031 ตำบลตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

10. แหลมตาชี
           เป็นหาดทรายที่ต่อจากหาดตะโละกาโปร์ ความน่าสนใจของที่นี่ นั่นคือ หาดทรายที่มีลักษณะเป็นสันดอนยื่นออกไปในทะเล ซึ่งเกิดจากการทับถมของทรายมารวมกันเป็นระยะเวลานาน จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และวิวธรรมชาติที่สวยงาม เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาชื่นชม ตลอดจนเฝ้าชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ตลอดจนวิถีชีวิตชุมชนชาวประมงที่ยังคงอยู่ ไม่ถูกดูดกลืนและเลือนหายไปตามกาลเวลา
          ที่อยู่ : ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

11. เมืองโบราณยะรัง
          แหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งสมัยพุทธศตวรรษที่ 12 เคยเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนามหายานแห่งอาณาจักรลังกาสุกะ เป็นเมืองท่าที่สำคัญตั้งอยู่ใกล้ทะเล และเป็นดินแดนที่มีบทบาททางเศรษฐกิจ การติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศอย่างกว้างขวาง มีการขุดค้นพบโบราณคดีสำคัญมากมาย ได้แก่ สถูปจำลองดินดิบ, พระพิมพ์ดินเผาและพระพิมพ์ดินดิบรูปแบบต่าง ๆ, เศษภาชนะดินเผา เครื่องถ้วยเปอร์เซียเคลือบสีฟ้าอมเขียว และเศษภาชนะดินเผา เครื่องถ้วยเซลาดอน สีเขียวมะกอก เป็นต้น

          ที่อยู่ : ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

12. ตลาดนัดรูสะมิแล
          ตลาดนัดมือสองที่ทอดตัวยาวไปบนถนนสายรูสะมิแล หน้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มากมายด้วยสินค้าต่าง ๆ ทั้งของกินของใช้ให้เดินเลือกช้อปกันแบบจุใจ และที่สำคัญราคาไม่แพง โดยเฉพาะเสื้อผ้า กางเกง และรองเท้า หลากสีหลายสไตล์ และขาดไม่ได้กับของกินอร่อย ๆ ขนมาหมดทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม ไปที่ตลาดนี้แล้วไม่มีของติดไม้ติดมือกลับมาด้วย เห็นทีว่าเหมือนไปไม่ถึงตลาดนัดรูสะมิแลแน่นอน ทั้งนี้ เปิดทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น.

          ที่อยู่ : ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

          เต็มอิ่มไปกับเสน่ห์ที่เที่ยวปัตตานีกันบ้างแล้ว ซึ่งบางครั้งบางคราวเราอาจมองข้ามไปด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง หากแต่ในความเป็นจริงที่นี่ยังคงความสวยงามเอาไว้อย่างน่าประทับใจ ^

ตั๊กออแกไนท์ปัตตานี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคปัตตานี
นางรำปัตตานี เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคปัตตานี
ปัตตานี รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคปัตตานี
รําบวงสรวงพญานาคปัตตานี
ฟ้อนบูชาพญานาคปัตตานี
รําบวงสรวงพญานาคปัตตานี


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


259
12 ที่เที่ยวนครศรีธรรมราช สนุกครบรส ใครไปต้องประทับใจ
1. สวนตาสรรค์

          แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมถนนเขากลอย อำเภอขนอม ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่เงียบสงบ เรียบง่าย ภายในได้จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ส่วนที่ลงเล่นน้ำและส่วนพื้นที่นั่งให้ปลาตอดเท้า (โดยเสียค่าใช้จ่ายราคา 20 บาท) โดยมีคุณตารังสรรค์ออกมาต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางมาเป็นหมู่คณะ และจะเลือกทำเลเหมาะ ๆ ปูเสื่อ นั่งทานอาหารกินกันแบบชิล ๆ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มุ่งให้เป็นที่เที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089 589 3245 หรือ เฟซบุ๊ก สวนตาสรรค์

2. ล่องแพบ้านวังหอน

          ตั้งอยู่ที่อำเภอชะอวด เป็นชุมชนเก่าที่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างเรียบง่าย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะสนุกไปกับแหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชนอย่างกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ ซึ่งเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่นักท่องเที่ยวสามารถกระโดดน้ำ เล่นน้ำ และล่องแพได้แบบชิล ๆ ท่ามกลางต้นไม้ที่ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง และฟินไปกับสายน้ำเย็น ๆ ลำธารใส ๆ ของคลองวังหอน ซึ่งเป็นคลองธรรมชาติที่เกิดจากป่าต้นน้ำของเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่แม่น้ำปากพนัง แถมยังมีที่พักแบบเต็นท์กระโจมและกระท่อมไม้ไผ่ ให้ได้นอนท่ามกลางป่า ถ้าคุณอยากพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติ ที่นี่เหมาะกับคุณแน่นอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 063 191 6591, 080 695 5656 หรือ เฟซบุ๊ก ล่องแพบ้านวังหอน

3. ตลาดย้อนยุคปากพนัง

          ใครแวะมาเที่ยวปากพนังต้องไม่พลาดแวะมาเที่ยว "ตลาดย้อนยุคปากพนัง" ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองบางฉลาก เป็นอีกหนึ่งตลาดที่สะท้อนภาพบรรยากาศในอดีตของวิถีชีวิตชาวใต้ สนุกสนานและครื้นเครงกับดนตรีที่คอยขับกล่อม เหล่าพ่อค้าแม่ขายต่างแต่งกายย้อนยุค ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับการเดินเที่ยวตลาดอยู่ไม่น้อย พลาดไม่ได้กับการหาของอร่อย ๆ ทั้งของคาวและอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ อย่างหมี่ผัดปากพนัง ข้าวยำ ลูกชุบ ขนมหวานต่าง ๆ รสชาติอร่อยเกือบทุกร้าน ลองใครได้มาเที่ยว เป็นต้องหอบหิ้วของกินไปเต็มมือและเต็มพุง เปิดทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-20.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดย้อนยุค @ ปากพนัง

4. ตลาดริมน้ำเชียรใหญ่

          ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำปากพนัง (คลองเชียรใหญ่) เพลิดเพลินไปกับการชิมขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง สินค้า OTOP ของดีเชียรใหญ่มากมาย พร้อมชมธรรมชาติและทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำ อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือพาย เรือหางยาวเที่ยวชมธรรมชาติ ทัศนียภาพและวิถีชีวิตดั้งเดิมสองฝั่งคลองได้อีกด้วย โดยตลาดริมน้ำเชียรใหญ่ เปิดทุกวันเสาร์ เวลา 15.00-21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลเชียรใหญ่ โทรศัพท์ 075 386 038

5. หาดหินงาม

          ตั้งอยู่ที่อำเภอสิชล เป็นชายหาดที่อยู่ติดกับหาดสิชล และเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เหมาะสำหรับการพักผ่อน และแวะชมทัศนียภาพที่สวยงามของท้องทะเล รวมถึงชมโขดหินและก้อนหินกลมเกลี้ยงสีสันสวยงามที่ประดับตามชายหาด ลักษณะของหาดเป็นหาดหินโค้งยาวขนานกับแนวคลื่นที่ซัดน้ำทะเลเข้าสู่ชายฝั่ง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวที่หาดสิชล นิยมเล่นน้ำและพายเรือคายัก โดยตลอดแนวชายฝั่งมีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

6. ทะเลหมอกกรุงชิง

          ทะเลหมอกกรุงชิง หรือจุดชมวิวเขาเหล็ก ตั้งอยู่ที่อำเภอนบพิตำ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงรักในธรรมชาติ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งสามารถชมได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าเป็นช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการชมทะเลหมอกมากที่สุด หรือถ้าวันไหนที่ฟ้าไม่เป็นใจ ก็อาจเห็นเพียงแค่ทิวทัศน์มุมกว้างบนยอดเขาเหล็กปลอบใจไปแทน แต่เดิมเขาเหล็กเป็นพื้นที่การทำเหมืองแร่ก่อนที่จะปิดตัวลง หลังจากนั้นชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ทั้งนี้เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของเขาเหล็กให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน

7. แหลมตะลุมพุก

          ตั้งอยู่ที่อำเภอปากพนัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักกันมาช้านาน ลักษณะของชายหาดปากพนังเป็นชายหาดยาวไปตามชายฝั่งทะเล มีแหลมตะลุมพุกเป็นแหลมทรายรูปจันทร์เสี้ยวยื่นไปในอ่าวไทย โดยชาวบ้านที่นี่ยังคงเอกลักษณ์อาชีพชาวประมง ว่ากันว่าแหลมตะลุมพุกยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะอาด เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ด้วยเพราะปัจจุบันแหลมตะลุมพุกมีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นแหล่งรวมร้านอาหารซีฟู้ดอร่อย ๆ เคล้าวิวทะเล ให้คุณได้เอร็ดอร่อยอย่างเต็มที่

8. ล่องแก่งคลองกลาย

          คลองกลายเป็นคลองธรรมชาติที่มีต้นน้ำมาจากป่ากรุงชิงซึ่งอยู่บนเทือกเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวงและอุทยานแห่งชาติเขานัน โดยนักท่องเที่ยวจะสนุกไปกับกิจกรรมล่องแก่งคลองกลาย โดยช่วงที่ดีที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เพราะน้ำจะใสและอากาศดีมาก และทำให้การล่องแก่งเป็นไปด้วยความสนุกและความตื่นเต้น โดยเส้นทางจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ระยะ คือ ช่วงแรกระยะทาง 2.5 กิโลเมตร จากปากคลองพิตำถึงลานหินดาน ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และช่วงที่สองระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร จากปากคลองพิตำถึงบ้านทุ่งใน ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 3 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 ระยะ สภาพของแก่งและสายน้ำจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง โทรศัพท์ 075 752 600 หรือเว็บไซต์ krungching.go.th

9. อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง

          ครอบคลุมพื้นที่อำเภอทุ่งสง อำเภอฉวาง อำเภอนาบอน มีสภาพป่าและทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ และมีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี โดยช่วงที่เหมาะสมในการเดินทางมาเที่ยวจะอยู่ในช่วงมกราคม-กรกฎาคม พลาดไม่ได้กับการชื่นชมความสวยงามของ "น้ำตกโยง" อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียง 300 เมตร ประกอบด้วยทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีลักษณะเด่นอยู่ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ลำธารกว้าง และสามารถเล่นน้ำได้ตลอดทั้งลำธาร เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลลงมาเหมือนเกลียวเชือกทำให้เกิดแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รวมถึงยังมีน้ำตกอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกวังปริง, น้ำตกหนานเตย, น้ำตกคูหาสวรรค์, ค่ายผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และยอดเขาเหมน เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง โทรศัพท์ 075 354 967

10. เขาพลายดำ
          แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทะเลใต้ มีลักษณะเป็นภูเขาติดทะเลแนวรอยต่อของเขตอำเภอขนอมและอำเภอสิชล ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวต่างติดใจในบรรยากาศที่แสนสงบ รวมถึงได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ ที่มองเห็นอ่าวท้องยางในมุมกว้าง นอกจากการชมวิวสวย ๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังสนุกไปกับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น เดินเล่นริมหาดชิล ๆ, ขับรถชมวิว, ขี่จักรยานเสือภูเขา, เช่าเรือตกปลา, ชมนกป่าสวย ๆ หรือเดินป่าผจญภัย เป็นต้น โดยที่เขาพลายดำยังทั้งยังมีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการอีกด้วย

11. ดูโลมาสีชมพู

          ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์การท่องเที่ยวชมทะเลขนอมที่พลาดไม่ได้ เพราะที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของโลมาสีชมพู แหวกว่ายเข้ามาปรากฏโฉมให้เห็นในระยะใกล้ ๆ เรียกเสียงฮือฮาให้กับความน่ารักของฝูงโลมาเหล่านี้ โดยโลมาสีชมพูเหล่านี้มีความคุ้นเคยกับคน โดยจะติดตามเรือหางยาวเวลาติดเครื่องเรือและจะว่ายน้ำเข้ามาหาให้เห็นได้อย่างใกล้ชิด การได้มาพบเห็นโลมาสีชมพูเหล่านี้มักมีโอกาสพบเห็นได้ค่อนข้างมาก ยกเว้นช่วงที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจเท่านั้น

12. บ้านคีรีวง

          ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นหมู่บ้านที่มีอากาศบริสุทธิ์ เสน่ห์ของที่นี่ยังคงเต็มเปี่ยมด้วยวิถีชีวิตชาวบ้านดั้งเดิม ที่ยังคงทำอาชีพการทำสวนผลไม้ผสม นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่คีรีวงส่วนใหญ่ มักอยากที่จะมาสัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ อย่างการเช่าจักรยานขี่เที่ยวรอบหมู่บ้าน ขี่เนิบ ๆ ชมวิวเพลิน ๆ โดยจุดเด่นของหมู่บ้านคีรีวงหนีไม่พ้นการซึมซับทัศนียภาพแห่งธรรมชาติ เพราะคีรีวงตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขา ป่าไม้ และสายน้ำ และมีที่พักโฮมสเตย์ให้บริการ การลองชิมอาหารพื้นเมือง ถ้าหากมาในฤดูผลไม้ คุณจะได้อร่อยกับผลไม้นานาชนิดอีกด้วย

          อย่างที่เราได้บอกเอาไว้เลยค่ะว่า "นครศรีธรรมราช" ยังคงเป็นจังหวัดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในแบบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร หลากหลายสถานที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ซึ่งหาไม่ได้ง่าย ๆ ในโลกท่ามกลางกระแสโลกยุคสมัยใหม่ ลองหาวันหยุดยาวสองสามวัน แล้วลงใต้ไปเที่ยวนครศรีธรรมราชกันดูนะคะ แล้วคุณจะรู้เลยว่า เพราะอะไรที่นี่ยังคงความมีเสน่ห์และน่ารักไม่เสื่อมคลาย ^ ^

ตั๊กออแกไนท์นครศรีธรรมราชรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคนครศรีธรรมราช
นางรำนครศรีธรรมราชเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคนครศรีธรรมราช
นครศรีธรรมราชรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคนครศรีธรรมราช
รําบวงสรวงพญานาคนครศรีธรรมราช
ฟ้อนบูชาพญานาคนครศรีธรรมราช
รําบวงสรวงพญานาคนครศรีธรรมราช

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


260
20 ที่เที่ยวตรัง ไปเที่ยวกี่ครั้ง ก็ไม่มีผิดหวัง
1. สถานีรถไฟกันตัง

         ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าค่าย เป็นสถานีรถไฟสุดท้ายของทางรถไฟสายใต้ฝั่งทะเลอันดามัน โดดเด่นด้วยตัวอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา ตกแต่งประดับด้วยมุขเสา ลวดลายฉลุสวยงาม คงแบบฉบับเอกลักษณ์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เอาไว้ได้อย่างสวยงาม ภายในมีข้าวของเครื่องใช้ในอดีตให้เห็นอยู่บ้าง และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สถานีรถไฟกันตังแห่งนี้ ก็ยังคงความคลาสสิกเหนือกาลเวลาเอาไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย

         ที่อยู่ : ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

2. ศาลเจ้าท่ามก๋งเยี่ย

         ตั้งอยู่บริเวณถนนเจิมปัญญา นับเป็นสถานที่ศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องชาวตรังอย่างแท้จริง ไม่ว่าชาวบ้านจะมีทุกข์โศกโรคภัย งานเทศกาลหรือประสบความสำเร็จใด ๆ ก็จะมีผู้คนเข้ามากราบไหว้สักการะอยู่เสมอ ๆ จนเป็นที่เลื่องลือในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ จนทำให้มีผู้คนจากต่างจังหวัดหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้ จนทำให้ชื่อของศาลเจ้าท่ามก๋งเยี่ยกลายเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย

         ที่อยู่ : ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

3. คริสตจักรตรัง

         ตั้งอยู่บริเวณถนนห้วยยอด เป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่อายุเกือบร้อยปี ตัวอาคารสีเหลือง หากแต่ไม่ใช่ด้วยการทาสี แต่เป็นการผสมสีปูนปั้น บรรยากาศสงบ สวยงาม ซึ่งปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้ยังคงถูกใช้งานสำหรับพิธีต่าง ๆ เหมาะแก่การมาถ่ายรูป นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวโบราณสถานของจังหวัดตรังที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดมาเยี่ยมชม

         ที่อยู่ : ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
         เบอร์โทรศัพท์ : 075 222 311
         เฟซบุ๊ก : Trang Church
         เว็บไซต์ : trangchurch.org

4. เกาะกระดาน

         หนึ่งในหลายเกาะสวยของท้องทะเลตรัง เสน่ห์และความสวยงามของเกาะกระดาน อยู่ที่ชายหาดที่มีทรายขาว ละเอียดเหมือนแป้งและน้ำใสจนเห็นแนวปะการัง ซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือถึงชายฝั่งด้านหลัง มีอ่าวเล็ก ๆ และคลื่นลูกโต ๆ พัดมาเป็นระลอกๆ  เหมาะสำหรับการเล่นกระดานโต้คลื่น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวยังเกาะกระดานได้ทั้งแบบเหมาเรือไปเอง หรือจะไปแบบเหมาทัวร์ก็ได้ตามแต่สะดวก

         ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
         เบอร์โทรศัพท์ : 075 829 967
 
5. เกาะไหง

         ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แต่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มของทะเลตรัง มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อย หลงเสน่ห์ความงามของเพชรเม็ดนี้เข้าอย่างจัง ชายหาดที่แสนสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน และธรรมชาติสวยงามราวกับภาพวาด กิจกรรมท่องเที่ยวบนเกาะไหงยอดนิยม เห็นจะหนีไม่พ้นการดำน้ำตื้น เพราะบริเวณจุดดำน้ำอยู่ห่างจากชายหาดไม่ไกล และยังไม่ลึกมากอีกด้วย โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเกาะไหง จะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคม และจะมีฝนตกชุกตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน

         ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
         เบอร์โทรศัพท์ : 075 660 711-2

6. เกาะลิบง

         เกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง เป็นแหล่งอนุรักษ์สัตว์หายากอย่างพะยูน ด้วยมีหญ้าทะเลขึ้นอยู่รอบ ๆ เกาะ นอกจากนี้ยังมีหาดทรายที่สวยงาม เงียบสงบ พร้อมทั้งภูเขาสูงใหญ่ให้ได้ปีนป่าย เดินชมธรรมชาติของป่าเขา พร้อมกันนั้นนักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน ชมพระอาทิตย์ขึ้น-ลงทะเลกับบรรยากาศสุดโรแมนติกอีกด้วย โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน จะมีฝนตกน้อย ทะเลไม่ค่อยมีคลื่นลมแรง จึงเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

         ที่อยู่ : ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

7. เกาะสุกร

         เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง กิจกรรมท่องเที่ยวส่วนใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเกาะสุกร หนีไม่พ้น…การพักผ่อนชายหาด การเช่าเรือไปดำน้ำที่ เกาะเหลาเหลียง และ เกาะตะเกียง เพื่อชมปะการังเจ็ดสี ปะการังนานาชนิด และปลานีโม ซึ่งเหมาะสำหรับการศึกษาเรียนรู้เชิงนิเวศทางทะเล รวมถึงการปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์และการดำรงชีวิตของชาวบ้าน รับรองเลยว่าคุณจะได้รับความประทับใจกลับบ้านไปด้วยแน่นอน

         ที่อยู่ : ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง

8. ถ้ำมรกต

         ถ้ำมรกต หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำน้ำ ตั้งอยู่บริเวณเกาะมุก ความสวยงามของถ้ำมรกตอยู่ที่หาดทรายขาวสะอาด น้ำใสน่าเล่น ปากถ้ำมีลักษณะเป็นโพรงเล็ก ๆ การเข้า-ออกจะต้องลอยคอในน้ำ ลอดถ้ำอันมืดมิด ผ่านเส้นทางคดโค้ง จนทะลุสู่ถ้ำด้านใน เป็นหาดทรายขาว มีป่าไม้เขียวขจี มีโพรงรับแสงสว่างลงมาจากด้านบน และที่สุดแห่งความมหัศจรรย์ อยู่ที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำซึ่งน้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตงดงามยิ่งนัก

          ที่อยู่ : ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

9. เกาะเชือก-เกาะม้า

          อีกหนึ่งจุดดำน้ำที่สวยที่สุดของทะเลตรัง ที่ที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเล พบกับปะการังอ่อนหลากหลายสีสัน ทั้งสีแดง สีส้ม สีม่วง สีเหลือง สีชมพู และอีกมากมาย รวมถึงยังรายล้อมด้วยฝูงปลาทะเลสีสันสวยงาม เช่น ปลานกแก้ว ปลาโนรี ปลาสินสมุทร และปลาลายเสือ เป็นต้น ใครที่หลงรักการเที่ยวทะเล จะพลาดที่นี่ไปไม่ได้เด็ดขาด

          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
          เบอร์โทรศัพท์ : 075 829 967

10. หาดปากเมง

         ตั้งอยู่ที่ตำบลไม้ฝาด ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีลักษณะเป็นชายหาดรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงาม เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน เล่นน้ำ ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ชิมอาหารทะเลสด ๆ เลิศรส รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับการชื่นชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกด้วย

          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
          เบอร์โทรศัพท์ : 075 829 967


11. พระนอนทรงเครื่องโนรา วัดภูเขาทอง

         ตั้งอยู่ภายในวัดภูเขาทอง ชมความงดงามของพระพุทธรูปที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร เป็นพระพุทธรูปโบราณปางปรินิพพานที่สร้างขึ้นในสมัยศรีวิชัย ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นกันบ่อยนัก โดยลักษณะเด่นอยู่ตรงที่พระเศียรทรงเทริดมโนราห์ตามศิลปะของภาคใต้ที่มีความเชื่อกันว่าเทริดนั้นเป็นเครื่องประดับที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นของสูง ทั้งนี้กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดภูเขาทองอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้ให้เป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติแล้วเรียบร้อย

          ที่อยู่ : ตำบลน้ำผุด อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

12. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

         เป็นอุทยานที่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งที่อยู่บนฝั่งและอยู่ในทะเลมากมาย แต่เนื่องจากอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ อยู่ในเขตอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน มีฝนตกชุก คลื่นลมแรง จึงมีกำหนดปิดการท่องเที่ยวประจำปี แต่สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บนฝั่ง สามารถท่องเที่ยวได้ตามปกติตลอดทั้งปี สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ บ่อน้ำร้อน, หาดหยงหลิง-หาดสั้น, เกาะกระดาน, เกาะเชือก, เกาะแหวน และหาดปากเมง เป็นต้น

         ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
         เบอร์โทรศัพท์ : 075 829 967

13. นั่งรถกบ (ตุ๊กตุ๊ก) ชมเมืองเก่า

         รถที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองตรัง พาหนะที่จะพานักท่องเที่ยวสำรวจรอบย่านตัวเมือง เป็นอีกหนึ่งอรรถรสการท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองตรังอย่างแท้จริง โดยจะแวะยังจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายจุด ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวและถ่ายภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านตึกเก่า แวะชิมของอร่อย ที่จะทำให้คุณต้องสนุกและประทับใจแบบไม่ซ้ำใคร

14. พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี

         อยู่ห่างจากเทศบาลกันตังประมาณ 200 เมตร อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ "จวนเก่าเจ้าเมืองตรัง" หรือบ้านพักอดีตเจ้าเมืองตรังพระยารัษฎานุประดิษฐ์ มีลักษณะเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งและเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของท่านอย่างครบถ้วน โดยทายาทตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ดูแลรักษา

          เวลาเเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน หยุดวันจันทร์ (ถ้าตรงกับวันหยุดราชการเปิดตามปกติ และหยุดชดเชยในวันต่อไป) เวลา 08.00-16.30 น.
          ที่อยู่ : ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

15. เขาหัวแตก

         อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดจากการพัฒนาโดยกลุ่มส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาหัวแตก จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวผจญภัยหรือแอดเวนเจอร์ สนุกไปกับกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งพายเรือคายัก เล่นน้ำ ปั่นจักรยาน และเพลินไปกับการถ่ายรูป ท่ามกลางป่าไม้สีเขียวขจี และน้ำสีเขียวมรกต มองแล้วเพลินตาเพลินใจสุด ๆ

          ที่อยู่ : ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง

16. ถ้ำเลเขากอบ

         ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด มีลักษณะเป็นภูเขาผาหินสูงชันสลับซับซ้อน ไฮไลท์เด็ดของการมาเยือนถ้ำเลเขากอบอยู่ที่ถ้ำสุดท้าย นั่นคือ ถ้ำลอดหรือถ้ำมังกร เพราะนักท่องเที่ยวจะต้องนอนราบไปกับเรือ เพื่อลอดเพดานถ้ำส่วนที่ต่ำที่สุด มืดที่สุด และแคบที่สุด เหล่านี้สร้างความตื่นเต้นชวนหวาดเสียวได้ไม่น้อย จนบางช่วงจังหวะของการลอดถ้ำก็อาจทำให้หายใจได้ไม่ทั่วท้อง แถมยังมีความเชื่อด้วยว่าการได้ลอดผ่านจุดนี้ เปรียบเสมือนการนอนลอดผ่านท้องมังกรถือเป็นสิริมงคลยิ่ง

         ที่อยู่ : หมู่ 1 ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
         เบอร์โทรศัพท์ : 075 500 088, 075 500 117
         เฟซบุ๊ก : ถ้ำเลเขากอบ อบต.เขากอบ

17. ถนนคนเดินตรั
         ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟกันตัง ใครอยากมาช้อปแนะนำว่าให้มาช่วงเย็น ๆ เพราะเป็นช่วงที่ถนนคนเดินมีความคึกคักมากที่สุด มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเดินเลือกซื้อของกันอย่างคึกคัก สินค้าที่ขายส่วนมากจะเป็นของกิน ทั้งของกินแบบท้องถิ่น อาหารใต้ อาหารทั่วไป ขนม ของกินเล่น สินค้าที่ระลึก สินค้าหัตถกรรม ศิลปะ และงานฝีมือ ที่สำคัญ…ราคาไม่แพง น่าจับจ่ายซื้อหาเป็นที่สุด

         เวลาเปิด-ปิด : วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.
         ที่อยู่ : ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง

18. น้ำตกโตนเต๊ะ

         ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ โดยมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาบรรทัด ความสวยงามอยู่ที่สายลำธารของน้ำตกที่ไหลผ่านซอกหินแต่ละชั้น ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ชิล ๆ ทั้งยังเป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี ตลอดทางเดินมีพรรณไม้นานาชนิดให้ชม และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติโตนเต๊ะให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมอีกด้วย

         ที่อยู่ : ตำบลช่อง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
         เบอร์โทรศัพท์ : 074 829 573
         เฟซบุ๊ก : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด     

19. สวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย)

         ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ถนนตรัง-ปะเหลียน อำเภอย่านตาขาว ภายในเต็มไปด้วยสวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร พิพิธภัณฑ์พืช และสำหรับคนที่ชอบค้นคว้าด้วยแล้วที่นี่ยังบริการห้องสมุดพฤกษศาสตร์ให้ได้ศึกษาหาความรู้กันอย่างเต็มอิ่ม มีการจัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เลือกได้หลากหลายเส้นทาง และแต่ละเส้นทางนั้นตัดผ่านป่าดิบที่ลุ่มต่ำรวมทั้งป่าพรุซึ่งมีพรรณพืชน่าสนใจมากมาย รวมถึงไฮไลท์เด็ด…เส้นทางสะพานศึกษาธรรมชาติเรือนยอดไม้ (Canopy Walk Way) อีกหนึ่งมุมถ่ายรูปสวยที่ไม่ควรพลาด

          ที่อยู่ : ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง
          เบอร์โทรศัพท์ : 075 291 456
          เฟซบุ๊ก : สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย จังหวัดตรัง

20. ถ้ำเขาช้างหาย
        ถ้ำขนาดใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองตรัง แต่ละปีจะมีผู้คนเดินทางเข้ามาชมถ้ำแห่งนี้จำนวนมาก เนื่องจากภายในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยสุดตระการตามากมาย และคุณจะพบถ้ำใหญ่ ๆ ภายในนั้นถึง 6 ถ้ำด้วยกัน ได้แก่ ถ้ำช้างหาย ถ้ำเพกา ถ้ำทรายทอง ถ้ำโอ่ง ถ้ำลม และถ้ำแม่เฒ่าคล้าย ซึ่งโถงถ้ำแต่ละแห่งที่กล่าวถึงนี้ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเดินชมถ้ำแห่งนี้ค่อนข้างสะดวกสบาย มีการปรับปรุงเส้นทางเดินให้กว้างขวาง ติดตั้งไฟส่องสว่างในแต่ละจุด และบรรยากาศในถ้ำยังเย็นสบายตลอดทั้งปีแม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็ตาม

ตั๊กออแกไนท์จังหวัดตรังรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคจังหวัดตรัง
นางรำจังหวัดตรังเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคจังหวัดตรัง
จังหวัดตรังรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคจังหวัดตรัง
รําบวงสรวงพญานาคจังหวัดตรัง
ฟ้อนบูชาพญานาคจังหวัดตรัง
รําบวงสรวงพญานาคจังหวัดตรัง

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


261
บอกพิกัด 15 ที่เที่ยวชุมพร เต็มอิ่มทั้งธรรมชาติและกิจกรรมสนุก ๆ

12. น้ำตกกะเปาะ
          น้ำตกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่วนอุทยานน้ำตกกะเปาะ มีลักษณะคล้ายฝายรูปโค้ง กว้าง 20 เมตร สูง 2 เมตร ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่ก็มีน้ำไหลตลอดทั้งปี อีกทั้งยังล้อมรอบไปด้วยสวนป่าร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นที่เที่ยวพักผ่อนชิล ๆ นอกจากนี้ใกล้ ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของ “ถ้ำพิสดาร” ด้านในมีหินงอกหินย้อยที่สวย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมความงดงามภายในถ้ำแห่งนี้ได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วนอุทยานน้ำตกกะเปาะ โทร. 077 272 058
13. ชมดอกกาแฟบาน
           ชุมพรเป็นจังหวัดที่ปลูกกาแฟมากอีกแห่งหนึ่งของไทย ในแต่ละปีจะมีการจัดงานเทศกาลดอกกาแฟบานจังหวัดชุมพร โดยจะเริ่มออกดอกบานในช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ที่สำคัญจะส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในช่วงกลางวัน และหอมแรงยิ่งกว่าเดิมในช่วงพลบค่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อำเภอท่าแซะ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับทุ่งกาแฟกลางหุบเขาที่กว้างใหญ่ไพศาล ที่ชูช่อกันออกดอกสีขาวบานสะพรั่ง โดยจะบานในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เท่านั้น

14. หาดทุ่งวัวแล่น
          ชายหาดยอดนิยมของชุมพร ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว เป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ทอดตัวยาวสุดสายตา ลักษณะเป็นชายหาดน้ำตื้นค่อย ๆ ลาดเอียงลงทีละน้อย เหมาะแก่การเล่นน้ำ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ส่วนทางด้านใต้ของหาดติดภูเขาจะเป็นหาดที่มีหินอยู่มากมาย บริเวณหาดมีที่พักบริการอยู่หลากแบบหลายสไตล์ สามารถไปนอนชิล ๆ กันได้

15. เกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่
          เกาะสวรรค์ที่พาคุณดำดิ่งไปยังโลกใต้ทะเล ตั้งอยู่ในเขตอำเภอปะทิว มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ซึ่งทั้งสองเกาะเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้น้ำ ล้อมรอบด้วยปะการัง ดอกไม้ทะเล รวมถึงฝูงปลาน้อยใหญ่ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติแบบสุด ๆ

          สำหรับบริเวณเกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่ จะมีทั้งดอกไม้ทะเล ปะการังสีดำ ปะการังสีเหลืองอ่อน ปะการังสีขาวและปะการังสีทอง ปะการังครก ปะการังถ้วยส้ม อีกทั้งยังมีปลาหลากชนิด เช่น ปลากล้วยแถบเหลือง ปลาข้างเหลือง ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาการ์ตูน และถ้าเกิดว่าวันนั้นโชคดีอาจจะได้เจอเข้ากับฉลามวาฬและกระเบนราหู ที่ว่ายมาอวดโฉมให้ได้พบเห็นกันด้วย สำหรับการไปดำน้ำที่เกาะร้านเป็ด-เกาะร้านไก่ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์ที่มีให้เลือกทั้งแบบวันเดย์ทริปและนอนค้างคืน

ตั๊กออแกไนท์ชุมพรรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคชุมพร
นางรำชุมพรเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคชุมพร
ชุมพรรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคชุมพร
รําบวงสรวงพญานาคชุมพร
ฟ้อนบูชาพญานาคชุมพร
รําบวงสรวงพญานาคชุมพร
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


262
ที่เที่ยวสระบุรี ดีต่อใจ ใกล้ชิดธรรมชาติและวัฒนธรรม ขับรถแป๊บเดียวถึง

1. ตลาดโรงคั่ว

          หรือตลาดประชารัฐวัฒนธรรมโบราณลาวเวียง ตั้งอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์บ้านใร่กาแฟ ตำบลหนองควายโซ อำเภอหนองแซง เป็นตลาดที่จำหน่ายทั้งอาหารและขนมในท้องถิ่น พร้อมทั้งนำเสนอวัฒนธรรมของชาวลาวเวียงที่อยู่ในชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส มีบรรยากาศแบบย้อนยุค ตกแต่งตลาดสไตล์วินเทจด้วยของเก่ามากมาย อีกทั้งในตลาดยังร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด บรรยากาศแบบบ้านไร่บ้านสวน ลมเย็นสบายตลอดทั้งวัน


          อาหารที่ไม่ควรพลาด อาทิ ทอดมันปลา, ทอดมันไข่ยางมะตูม, ผัดไทย, หอยทอด, ราดหน้าโบราณ, ก๋วยเตี๋ยวโบราณ, ส้มตำ, หมูยอย่าง, ข้าวเกรียบว่าว, ขนมถ้วย, เฉาก๊วยนมสด, ข้าวเกรียบปากหม้อ, ขนมดอกจอก, ขนมไทยโบราณ, น้ำสมุนไพรไทย, กาแฟและชาไทยโบราณ และกาแฟสดบ้านไร่ เป็นต้น

          ตลาดโรงคั่ว เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์บ้านใร่กาแฟได้ด้วย ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก บ้านใร่กาแฟ

2. สวนบิ๊กเต้ มวกเหล็ก

          สวนดอกไม้ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก มีลักษณะเป็นสวนเบญจมาศขนาดใหญ่ ปลูกไว้ในโรงเรือนหลากหลายสายพันธุ์และสีสัน เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบดอกไม้สามารถเข้ามาเที่ยวชมและถ่ายภาพกับดอกเบญจมาศได้อย่างใกล้ชิด มีดอกเบญจมาศให้ได้ชมกันตลอดทั้งปี เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมท่านละ 20 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก BigTae Garden สวนบิ๊กเต้


3. ฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค

          ตั้งอยู่ที่ตำบลมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ด้านในร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ โอบล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ มีฟาร์มโคนมและสัตว์หลายชนิดให้ได้ชม พร้อมกับกิจกรรมการป้อนนมโค บางครั้งก็มีการสาธิตให้ชมการรีดนมวัวด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฟาร์มให้ได้ช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพกลับบ้านด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค อสค

4. ตลาดหัวปลี

          ตั้งอยู่ที่ศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ พุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นตลาดพื้นบ้านที่จัดเต็มไปด้วยสินค้าทางการเกษตรและอาหารท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเมลอนตัดมาจากสวนสด ๆ "ไอดิน ฟาร์มเมล่อน", กะหรี่ปั๊บ, อินทผาลัมจากไร่เกษตรสีทอง ผักสด และผลไม้สดส่งตรงจากสวน ตลาดเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดหัวปลี ตลาดสร้างสุข ชุมชนร่วมสร้าง

เที่ยวสระบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตลาดหัวปลี ตลาดสร้างสุข ชุมชนร่วมสร้าง

5. สวนพฤษศาสตร์พุแค

          ตั้งอยู่ที่ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นพื้นที่ที่รวบรวมพันธุ์พืชทุกชนิด ทั้งที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และขยายพันธุ์พืช โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาค้นคว้าวิจัย พร้อมทั้งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชม เพราะมีบรรยากาศร่มรื่น จัดตกแต่งภูมิทัศน์ให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสวย ๆ มีต้นไม้และดอกไม้หลากหลายชนิด และทุกวันเสาร์จะมีการจัดตลาดในสวน ชิมเพลิน เดินไพร ซึ่งมีทั้งดนตรีในสวน ร้านอาหารอร่อย ๆ ในท้องถิ่น สินค้าทางการเกษตรปลอดสารพิษ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สวนพฤกษศาสตร์พุแค

6. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย

          ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย บริเวณหมู่บ้านแก่งหลุ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยมวกเหล็ก มีลักษณะเป็นชั้นเตี้ย ๆ จำนวน 7 ชั้น รวมระยะทางทั้งสิ้น 490 เมตร แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 1-4 เมตร บางชั้นจะมีแอ่งน้ำตื้น ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นคลายร้อน น้ำใสสะอาด ช่วงที่น่าเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน-เมษายน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โทรศัพท์ 0 3634 6586


7. น้ำตกตายาย

          น้ำตกตายาย ตั้งอยู่ภายในลำคลองมวกเหล็ก ใกล้กับสวนของตาแสวงและยายสงวน เพชรเชื้อ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีแก่งหินขวางอยู่กลางลำน้ำ เกิดเป็นน้ำตกใส สามารถลงเล่นน้ำสุดเย็นฉ่ำได้ตลอดทั้งวัน รอบ ๆ น้ำตกจะมีต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น และยังมีแคร่ไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งชิลกับอากาศเย็น ๆ สุดสดชื่นด้วย

8. น้ำตกสามหลั่น

          ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมือง ประมาณ 300 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดกลาง มีทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณ 2 เมตร จะเป็นขั้นของชั้นหินไหลลดหลั่นกันลงมาอย่างสวยงาม ช่วงที่น้ำไหลเยอะ ๆ สายน้ำจะไหลผ่านชั้นหินทั้งหมดลงมา รอบข้างเป็นต้นไม้น้อยใหญ่สีเขียวขจี ช่วงหน้าฝนจะได้เห็นดอกไม้ป่าที่อยู่ริมน้ำตก สวยงามมาก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น โทรศัพท์ 0 3671 3829, 08 9815 9455 หรืออัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น


9. น้ำตกดงพญาเย็น

          ตั้งอยู่ที่ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก ห่างจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อยประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีชั้นเตี้ย ๆ ลดหลั่นกันไป มีแอ่งน้ำตื้น ๆ ให้ลงเล่นน้ำสุดเย็นฉ่ำเพื่อคลายร้อนกันตลอดทั้งปี ทั้งสองฟากฝั่งของน้ำตกมีต้นไม้นานาพรรณให้ความร่มรื่น อากาศเย็นสบายสดชื่น ชาวบ้านทำแคร่ไม้ไผ่ริมน้ำให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งพักผ่อน ทั้งนี้มีบริการร้านอาหารด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก น้ำตกดงพญาเย็น

เที่ยวสระบุรี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก น้ำตกดงพญาเย็น

10. สวนรุกขชาติมวกเหล็ก

          สถานที่รวบรวมพรรณไม้หลากหลายชนิด พร้อมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ด้วยด้านในมีน้ำตกมวกเหล็กตั้งอยู่ และมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ สะพานมวกเหล็ก-ปากช่อง เรือนเพาะชำ สวนรวมพรรณไม้ สวนวรรณคดี และสวนสมุนไพร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สวนรุกขชาติมวกเหล็ก

11. น้ำตกโกรกอีดก

          ตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 5 บ้านบึงไม้ ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย เป็นหนึ่งในน้ำตกภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่กลางป่าลึก มีหลายชั้น โดยเฉพาะชั้นที่ 7 ที่สูงมากถึงประมาณ 350 เมตร ในฤดูน้ำหลากน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลลงมาผ่านหน้าผาสูงชันนี้ เสียงจะดังกึกก้องไปทั่วผืนป่า โดยรอบของน้ำตกจะมีแต่ต้นไม้ใหญ่ อุดมสมบูรณ์ สวยงามมาก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทรศัพท์ 08 6092 6527


12. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า

          ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย มีเนื้อที่ประมาณเกือบ 14,000 ไร่ เต็มไปด้วยป่าเขา แหล่งน้ำ น้ำตก และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมไปนอนกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ในช่วงหน้าฝนจะมีเห็ดแชมเปญให้ได้ชมกันด้วย

เที่ยวสระบุรี

          สิ่งที่โดดเด่นของที่นี่อีกสิ่งก็คือ น้ำตกเจ็ดคด แบ่งเป็น 3 ช่วงด้วยกัน คือน้ำตกเจ็ดคดเหนือ น้ำตกเจ็ดคดกลาง และน้ำตกเจ็ดคดใต้ มีความสวยงามแตกต่างกันไป สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทรศัพท์ 08 9237 8659, 08 5968 3520 และ 08 0019 2762


13. วัดพระพุทธฉาย

          ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านพระพุทธฉาย ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมืองสระบุรี เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธฉาย หรือ รอยพระพุทธรูป อยู่บนแผ่นหินซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผา มีการสร้างมณฑปครอบไว้ มีการค้นพบตั้งแต่สมัยอยุธยา มีการซ่อมแซมมณฑปเรื่อยมา จนสวยงามเหมือนในปัจจุบัน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ขึ้นไปกราบไหว้ขอพรกับรอยพระพุทธบาทแล้ว ก็ยังจะได้ชมวิวมุมสูงโดยรอบด้วย เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดพระพุทธฉาย สระบุรี


14. วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

          ตั้งอยู่ที่บ้านพระพุทธบาท หมู่ 8 ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท มีปูชนียสถานสำคัญอันเลื่องชื่อคือ รอยพระพุทธบาท ขนาดความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว ลึก 11 นิ้ว ที่ประทับบนแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธ์คีรี ค้นพบในสมัยอยุธยา พระเจ้าทรงธรรม จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างมณฑปชั่วคราวครอบไว้ ปัจจุบันพระมณฑปเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว ผนังด้านนอกปิดทองประดับกระจก บานประตูเป็นงานประดับมุกชั้นเยี่ยม มีบันไดทางขึ้นงดงาม ราวกับทอดลงมาจากสวรรค์ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. (วิหารหลวงจะเปิดให้ชมเฉพาะช่วงที่มีงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท)


15. ทุ่งทานตะวัน

          จังหวัดสระบุรี เป็นแหล่งปลูกดอกทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยมีการปลูกทั้งในอำเภอวังม่วง อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพระพุทธบาท และอำเภอหนองโดน ในแต่ละไร่ก็จะปลูกดอกทานตะวันตั้งแต่ 10-50 ไร่ มีบรรยากาศสวยงามแตกต่างกันออกไป โดยจะเริ่มเที่ยวชมได้ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ของทุกปี


16. ฟาร์มสายทอง

          ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก เป็นฟาร์มเกษตรผสมผสานแบบพอเพียง เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้ผู้ที่สนใจและนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม ภายในฟาร์มบรรยากาศร่มรื่น มีแปลงผัก-ผลไม้หลากหลายชนิด พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์สดและแปรรูปจากผัก-ผลไม้ภายในฟาร์ม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ฟาร์มสายทอง - Saithong Farm


17. ไร่องุ่นภูนวพันธุ์

          ตั้งอยู่เลขที่ 151 หมู่ 12 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีทั้งไร่องุ่น แปลงผัก-ผลไม้นานาชนิดให้ได้เที่ยวชม พร้อมกับมีร้านกาแฟเล็ก ๆ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของทางไร่ไว้บริการ เหมาะแก่การมานั่งดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ กินองุ่นสดใหม่ที่ตัดสดจากไร่ทุกวัน หรือจะถ่ายรูปชิค ๆ กับองุ่นก็ได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ไร่องุ่นภูนวพันธุ์

18. ไร่กุสุมา

          ตั้งอยู่เลขที่ 144 หมู่ 4 ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก เป็นรีสอร์ตที่พักที่มีบริการเครื่องเล่นผจญภัยหลากหลายแบบ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าไปใช้บริการด้วย กิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ Zipline Adventure, Canopy Adventure, Paint Ball และ ATV เป็นต้น โดยกิจกรรมทุกอย่างจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ ป่าไม้เขียวขจีร่มรื่น บรรยากาศชิลมาก ส่วนถ้าใครอยากเล่นน้ำตกเย็น ๆ ให้ฉ่ำใจด้วย แนะนำให้พักกับทางรีสอร์ต เพราะจะได้ทำกิจกรรมครบทุกรูปแบบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ raikusuma.com และ เฟซบุ๊ก Rai Kusuma Resort (ไร่กุสุมา รีสอร์ท)

ตั๊กออแกไนท์สระบุรี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสระบุรี
นางรำสระบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสระบุรี
สระบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสระบุรี
รําบวงสรวงพญานาคสระบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคสระบุรี
รําบวงสรวงพญานาคสระบุรี

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


263
ที่เที่ยวเพชรบุรี เที่ยวสบาย ๆ วันหยุด กับเมืองที่มีดีมากกว่าทะเล

1. ชายหาดชะอำ
          สถานที่ท่องเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เป็นชายหาดที่ทอดขนานไปกับทะเลอ่าวไทยยาวมากถึง 2 กิโลเมตร บริเวณชายหาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ปัจจุบันมีเตียงผ้าใบ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ และที่พักรองรับมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเช่าจักรยานขี่เที่ยวไปตามถนนเลียบชายหาด ถ่ายรูปกับวิวสวย ๆ ของท้องทะเลกว้างใหญ่ ขี่จักรยานไปทางชะอำเหนือ ไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไหว้พระทำบุญที่วัดเนรัญชราราม ถ่ายรูปกับสะพานปลา แวะซื้ออาหารทะเลสดใหม่ นอกจากนี้ มีร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองตลอดแนวชายหาด

          ที่ตั้ง : ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : ชายหาดชะอำ

2. ชายหาดเจ้าสำราญ
          ชายหาดที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมืองเพชรบุรี เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศสวยงาม เงียบสงบ มีประวัติยาวนาน มีการเล่าต่อกันมาว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จไปเยือนชายหาดแห่งนี้ แล้วทรงพอพระราชหฤทัยอย่างมาก จึงประทับแรมอยู่ที่ชายหาดนานหลายวัน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "ชายหาดเจ้าสำราญ" ปัจจุบันก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเที่ยวไม่ขาดสาย มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักครบครัน

          ที่ตั้ง : ตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : ชายหาดเจ้าสำราญ

3. ชายหาดปึกเตียน
          ชายหาดที่อยู่ระหว่างชายหาดเจ้าสำราญและชายหาดชะอำ บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยแนวต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย มีสัญลักษณ์โดดเด่น ก็คือ รูปปั้นของนางผีเสื้อสมุทรและพระอภัยมณี ซึ่งเป็นวรรณคดีของสุนทรภู่ สันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้เป็นชายหาดอันเป็นแรงบันดาลใจให้สุนทรภู่แต่งวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ทั้งนี้ บริเวณชายหาดก็มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักไว้รองรับ

          ที่ตั้ง : ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : ชายหาดปึกเตียน

4. หาดแหลมหลวง
          ชายหาดแห่งแรกของจังหวัดเพชรบุรี ตั้งอยู่บริเวณตำบลแหลมผักเบี้ย เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบมาก นักท่องเที่ยวรู้จักน้อย เหมาะแก่คนที่ต้องการชมชายหาดและท้องทะเลกว้าง ๆ คนน้อย บริเวณชายหาดช่วงหน้าร้อนน้ำจะลงจนเห็นหาดทรายกว้าง ลมแรง ชาวบ้านนิยมมาเล่นว่าวกัน บริเวณนี้จะไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ จึงมีเพียงแค่จุดชมวิวเท่านั้น ไม่มีห้องน้ำ ร้านค้า หรือที่พัก แนะนำให้ไปเที่ยวช่วงประมาณ 07.00-18.00 น.

          ที่ตั้ง : ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ควรไปช่วงกลางวัน
          แผนที่ : หาดแหลมหลวง

5. หาดบางเกตุ
          ตั้งอยู่ทางเหนือของชายหาดชะอำ ห่างกันประมาณเพียงแค่ 6 กิโลเมตรเท่านั้น ชายหาดไม่กว้างมากนัก สามารถเล่นน้ำทะเลได้ บรรยากาศเงียบสงบ เพราะนักท่องเที่ยวยังคงรู้จักน้อย แต่ก็ยังพอมีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักไว้รองรับบ้าง หรือใครอยากกางเต็นท์ก็มีพื้นที่ให้นอนกางเต็นท์ชมดาว ฟังเสียงคลื่นเช่นกัน

          ที่ตั้ง : ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : หาดบางเกตุ

6. หาดชมจันทร์
          ชายหาดเล็ก ๆ ที่อยู่ทางเหนือของหาดเจ้าสำราญ ตั้งอยู่บริเวณริมคลองวัด ในเขตพื้นที่ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม เป็นเหมือนชายหาดส่วนตัว บรรยากาศเงียบสงบมาก มีจุดให้เดินเล่นบนชายหาด ชมวิวท้องทะเลเพลิน ๆ ที่พักบนชายหาดนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบบ้านพัก เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวกับครอบครัว แม้ว่าจะลงเล่นน้ำไม่ได้ แต่ก็สามารถลงไปเล่นได้ทางหาดเจ้าสำราญ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงแค่ราว ๆ 500 เมตรเท่านั้น

          ที่ตั้ง : ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี
          แผนที่ : หาดชมจันทร์

7. เขาอีบิด
          แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเพชรบุรี ตั้งอยู่ใกล้โรงโม่หินเพชรสมุทร ตำบลหนองชุมพลเหนือ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี มีลักษณะเป็นบึงหนองน้ำขนาดเล็กกะทัดรัด มีฉากหลังเป็นแนวทิวต้นสนสวยงาม พร้อมด้วยแนวภูเขาอีบิดรูปทรงสวยงามแปลกตา ถ่ายรูปออกมาคล้ายกับวิวภูเขาในต่างประเทศ ถ่ายรูปแนวเก๋ ๆ ชิค ๆ ได้หลากหลายมุม

          หมายเหตุ : พื้นที่จุดถ่ายรูปเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล อาจจะมีการปิดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าชมในอนาคต และยังอยู่ใกล้โรงโม่หิน ให้ระวังเรื่องฝุ่นด้วย
          ที่ตั้ง : ตำบลหนองชุมพลเหนือ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ควรไปช่วงตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
          แผนที่ : เขาอีบิด

8. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี
          พระราชวังเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 โดยตัวพระราชวังนั้นตั้งอย่างโดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงมากกว่า 90 เมตร มีสิ่งก่อสร้างมากมายทั้งพระที่นั่ง พระตําหนัก วัด และกลุ่มอาคารต่าง ๆ โดยมีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบไทยและตะวันตก จุดที่มองเห็นโดดเด่นจากยอดเขา เช่น พระธาตุจอมเพชร, ศาลาแดง และกลุ่มพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ ในช่วงงานประจำปีจะมีการประดับประดาไฟทั่วทั้งบริเวณพระราชวัง ยามค่ำคืนจะมองเห็นแสงไฟระยิบระยับสวยงาม ทั้งนี้ มีรถเคเบิลคาร์อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
          เว็บไซต์ : phranakhonkhiri.com
          เฟซบุ๊ก : The Fine Arts Department
          แผนที่ : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี

9. พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน)
          พระราชวังฤดูฝนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ถือว่าเป็นพระราชวังที่มีความสวยงาม สถาปัตยกรรมแปลกใหม่ ด้วยมีสถาปัตยกรรมแบบบารอค ผสมผสานกับแนวอาร์ตนูโว ดูทันสมัยคล้ายกับอาคารเก่าแก่ทางฝั่งยุโรป อีกทั้งด้านในยังตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราโอ่อ่า โดดเด่นด้วยโถงบันไดวนที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเขียวมรกต ช่องว่างระหว่างอาคารก็ทำเป็นสวนแบบอังกฤษ มีน้ำพุเย็นตา น่าเที่ยวชม

          ที่ตั้ง : ค่ายรามราชนิเวศน์ ตำบลบ้านหม้อ อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
          แผนที่ : พระรามราชนิเวศน์

10. พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ
          ตั้งอยู่ภายในวัดข่อย ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี เป็นพุทธสถานที่มีความงดงามอย่างมาก มีลักษณะเป็นอาคาร 3 ชั้น จากฐานจนถึงยอดสูง 27 เมตร แต่ละชั้นลดหลั่นจากฐานใหญ่ขึ้นไปเล็ก คล้ายกับทรงสามเหลี่ยม ด้านบนสุดเป็นยอดฉัตร และมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ บริเวณชั้น 2 ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นคล้ายกับผ้ายันต์ มีอักขระพิเศษติดไว้ มีพระพุทธรูปประจำอยู่ 4 ทิศ ส่วนด้านในก็ตกแต่งอย่างสวยงาม ดูคลาสสิกด้วยพื้นและเพดานไม้เนื้อแข็ง พร้อมด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายพุทธศิลป์ ลายเส้นสีทอง พร้อมกับประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีผลงานปูนปั้นตกแต่งไว้ด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          แผนที่ : พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ



1. ชายหาดชะอำ
          สถานที่ท่องเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เป็นชายหาดที่ทอดขนานไปกับทะเลอ่าวไทยยาวมากถึง 2 กิโลเมตร บริเวณชายหาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ปัจจุบันมีเตียงผ้าใบ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำ และที่พักรองรับมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเช่าจักรยานขี่เที่ยวไปตามถนนเลียบชายหาด ถ่ายรูปกับวิวสวย ๆ ของท้องทะเลกว้างใหญ่ ขี่จักรยานไปทางชะอำเหนือ ไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไหว้พระทำบุญที่วัดเนรัญชราราม ถ่ายรูปกับสะพานปลา แวะซื้ออาหารทะเลสดใหม่ นอกจากนี้ มีร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองตลอดแนวชายหาด

          ที่ตั้ง : ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : ชายหาดชะอำ

2. ชายหาดเจ้าสำราญ
          ชายหาดที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ตั้งอยู่ในเขตตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมืองเพชรบุรี เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศสวยงาม เงียบสงบ มีประวัติยาวนาน มีการเล่าต่อกันมาว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จไปเยือนชายหาดแห่งนี้ แล้วทรงพอพระราชหฤทัยอย่างมาก จึงประทับแรมอยู่ที่ชายหาดนานหลายวัน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "ชายหาดเจ้าสำราญ" ปัจจุบันก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเที่ยวไม่ขาดสาย มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักครบครัน

          ที่ตั้ง : ตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : ชายหาดเจ้าสำราญ

3. ชายหาดปึกเตียน
          ชายหาดที่อยู่ระหว่างชายหาดเจ้าสำราญและชายหาดชะอำ บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยแนวต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย มีสัญลักษณ์โดดเด่น ก็คือ รูปปั้นของนางผีเสื้อสมุทรและพระอภัยมณี ซึ่งเป็นวรรณคดีของสุนทรภู่ สันนิษฐานว่าสถานที่แห่งนี้เป็นชายหาดอันเป็นแรงบันดาลใจให้สุนทรภู่แต่งวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ทั้งนี้ บริเวณชายหาดก็มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักไว้รองรับ

          ที่ตั้ง : ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : ชายหาดปึกเตียน

4. หาดแหลมหลวง
          ชายหาดแห่งแรกของจังหวัดเพชรบุรี ตั้งอยู่บริเวณตำบลแหลมผักเบี้ย เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบมาก นักท่องเที่ยวรู้จักน้อย เหมาะแก่คนที่ต้องการชมชายหาดและท้องทะเลกว้าง ๆ คนน้อย บริเวณชายหาดช่วงหน้าร้อนน้ำจะลงจนเห็นหาดทรายกว้าง ลมแรง ชาวบ้านนิยมมาเล่นว่าวกัน บริเวณนี้จะไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ จึงมีเพียงแค่จุดชมวิวเท่านั้น ไม่มีห้องน้ำ ร้านค้า หรือที่พัก แนะนำให้ไปเที่ยวช่วงประมาณ 07.00-18.00 น.

          ที่ตั้ง : ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ควรไปช่วงกลางวัน
          แผนที่ : หาดแหลมหลวง

5. หาดบางเกตุ
          ตั้งอยู่ทางเหนือของชายหาดชะอำ ห่างกันประมาณเพียงแค่ 6 กิโลเมตรเท่านั้น ชายหาดไม่กว้างมากนัก สามารถเล่นน้ำทะเลได้ บรรยากาศเงียบสงบ เพราะนักท่องเที่ยวยังคงรู้จักน้อย แต่ก็ยังพอมีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักไว้รองรับบ้าง หรือใครอยากกางเต็นท์ก็มีพื้นที่ให้นอนกางเต็นท์ชมดาว ฟังเสียงคลื่นเช่นกัน

          ที่ตั้ง : ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤษภาคม เพราะช่วงหน้าฝนอาจจะมีแมงกะพรุน และคลื่นลมแรง ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ
          แผนที่ : หาดบางเกตุ

6. หาดชมจันทร์
          ชายหาดเล็ก ๆ ที่อยู่ทางเหนือของหาดเจ้าสำราญ ตั้งอยู่บริเวณริมคลองวัด ในเขตพื้นที่ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม เป็นเหมือนชายหาดส่วนตัว บรรยากาศเงียบสงบมาก มีจุดให้เดินเล่นบนชายหาด ชมวิวท้องทะเลเพลิน ๆ ที่พักบนชายหาดนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบบ้านพัก เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวกับครอบครัว แม้ว่าจะลงเล่นน้ำไม่ได้ แต่ก็สามารถลงไปเล่นได้ทางหาดเจ้าสำราญ ซึ่งอยู่ห่างกันเพียงแค่ราว ๆ 500 เมตรเท่านั้น

          ที่ตั้ง : ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี
          แผนที่ : หาดชมจันทร์

7. เขาอีบิด
          แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเพชรบุรี ตั้งอยู่ใกล้โรงโม่หินเพชรสมุทร ตำบลหนองชุมพลเหนือ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี มีลักษณะเป็นบึงหนองน้ำขนาดเล็กกะทัดรัด มีฉากหลังเป็นแนวทิวต้นสนสวยงาม พร้อมด้วยแนวภูเขาอีบิดรูปทรงสวยงามแปลกตา ถ่ายรูปออกมาคล้ายกับวิวภูเขาในต่างประเทศ ถ่ายรูปแนวเก๋ ๆ ชิค ๆ ได้หลากหลายมุม

          หมายเหตุ : พื้นที่จุดถ่ายรูปเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล อาจจะมีการปิดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าชมในอนาคต และยังอยู่ใกล้โรงโม่หิน ให้ระวังเรื่องฝุ่นด้วย
          ที่ตั้ง : ตำบลหนองชุมพลเหนือ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ควรไปช่วงตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
          แผนที่ : เขาอีบิด

8. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี
          พระราชวังเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 โดยตัวพระราชวังนั้นตั้งอย่างโดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงมากกว่า 90 เมตร มีสิ่งก่อสร้างมากมายทั้งพระที่นั่ง พระตําหนัก วัด และกลุ่มอาคารต่าง ๆ โดยมีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบไทยและตะวันตก จุดที่มองเห็นโดดเด่นจากยอดเขา เช่น พระธาตุจอมเพชร, ศาลาแดง และกลุ่มพระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ ในช่วงงานประจำปีจะมีการประดับประดาไฟทั่วทั้งบริเวณพระราชวัง ยามค่ำคืนจะมองเห็นแสงไฟระยิบระยับสวยงาม ทั้งนี้ มีรถเคเบิลคาร์อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
          เว็บไซต์ : phranakhonkhiri.com
          เฟซบุ๊ก : The Fine Arts Department
          แผนที่ : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี

9. พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน)
          พระราชวังฤดูฝนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ถือว่าเป็นพระราชวังที่มีความสวยงาม สถาปัตยกรรมแปลกใหม่ ด้วยมีสถาปัตยกรรมแบบบารอค ผสมผสานกับแนวอาร์ตนูโว ดูทันสมัยคล้ายกับอาคารเก่าแก่ทางฝั่งยุโรป อีกทั้งด้านในยังตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราโอ่อ่า โดดเด่นด้วยโถงบันไดวนที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเขียวมรกต ช่องว่างระหว่างอาคารก็ทำเป็นสวนแบบอังกฤษ มีน้ำพุเย็นตา น่าเที่ยวชม

          ที่ตั้ง : ค่ายรามราชนิเวศน์ ตำบลบ้านหม้อ อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
          แผนที่ : พระรามราชนิเวศน์

10. พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ
          ตั้งอยู่ภายในวัดข่อย ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี เป็นพุทธสถานที่มีความงดงามอย่างมาก มีลักษณะเป็นอาคาร 3 ชั้น จากฐานจนถึงยอดสูง 27 เมตร แต่ละชั้นลดหลั่นจากฐานใหญ่ขึ้นไปเล็ก คล้ายกับทรงสามเหลี่ยม ด้านบนสุดเป็นยอดฉัตร และมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ บริเวณชั้น 2 ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นคล้ายกับผ้ายันต์ มีอักขระพิเศษติดไว้ มีพระพุทธรูปประจำอยู่ 4 ทิศ ส่วนด้านในก็ตกแต่งอย่างสวยงาม ดูคลาสสิกด้วยพื้นและเพดานไม้เนื้อแข็ง พร้อมด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายพุทธศิลป์ ลายเส้นสีทอง พร้อมกับประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีผลงานปูนปั้นตกแต่งไว้ด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          แผนที่ : พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฏิ

ตั๊กออแกไนท์เพชรบุรีรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเพชรบุรี
นางรำเพชรบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเพชรบุรี
เพชรบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเพชรบุรี
รําบวงสรวงพญานาคเพชรบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคเพชรบุรี
รําบวงสรวงพญานาคเพชรบุรี

  ติดต่อสอบถามเรา        
            



264
10 ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ แหล่งท่องเที่ยวสังสรรค์สุดสัปดาห์

1. อุทยานราชภักดิ์


          แหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมและสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ทั้ง 7 พระองค์ ได้แก่

          - พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สมัยกรุงสุโขทัย)
          - สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา)
          - สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา)
          - สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สมัยกรุงธนบุรี)
          - พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
          - พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
          - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)

          อันเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ โดยจัดสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานราชภักดิ์ หรือโทรศัพท์ 032 900 607

2. ถ้ำพระยานคร


          ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ความสวยงามของสถานที่แห่งนี้อยู่ที่ เพดานของถ้ำมีลักษณะเป็นโพรงที่แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาได้ ภายในถ้ำจะมีบ่อน้ำที่เรียกว่า "บ่อพระยานคร" นอกจากนี้ยังมี "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเจ้าพระยานครเป็นผู้ค้นพบคราร่วมเสด็จประพาสในรัชกาลที่ 5 และต่อมาพระมหากษัตริย์อีกหลายพระองค์ ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนินมายังที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โทรศัพท์ 032 821568

3. อุทยานแห่งชาติกุยบุรี


          ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอปราณบุรี และอำเภอสามร้อยยอด เป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าและสวยงาม พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ซึ่งเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติก็มีหลายเส้นทาง แต่ไม่สูงชันมากนัก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักและชื่นชอบธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี โทรศัพท์ 032 646 292

4. เขาช่องกระจก


          มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวประจวบฯ ในบริเวณวัดธรรมิการามวรวิหาร ยอดเขามีช่องทะลุโปร่งคล้ายกรอบกระจก ทั้งนี้บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองและพระเจดีย์ และบนลานยอดเขานี่เอง จะเป็นบริเวณที่คุณมองเห็นทิวทัศน์เขาตะนาวศรี อ่าวประจวบฯ เขาตาม่องล่าย เขาล้อมหมวก และตัวเมืองประจวบฯ ได้โดยรอบอีกด้วย

5. อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง


          เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความโดดเด่นอยู่ที่สายน้ำตกสวย เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และมีกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน เช่น "น้ำตกห้วยยาง" น้ำตกขนาดเล็กแต่มีถึง 9 ชั้น โดยชั้นที่สวยที่สุดคือชั้นที่ 4 ที่มีจุดชมวิวรับแสงตะวันยามเช้า, "น้ำตกเขาล้าน" เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผาสูง, "น้ำตกห้วยหินดาษ"เป็นน้ำตกขนาด 5 ชั้น ตั้งอยู่ในซอกเขาที่ค่อนข้างสูงชัน และ "น้ำตกขาอ่อน (ทับมอญ)" น้ำตกขนาด 9 ชั้นและสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง โทรศัพท์ 084 701 2795, 081 898 4758

6. พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ


          ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงภายในวัดทางสาย ใกล้กับหาดบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ที่คณะสงฆ์วัดทางสาย คณะกรรมการเทิดพระเกียรติประชาชนชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกันสร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามวิจิตรตระการตา การออกแบบทั้งภายในและภายนอกมีความละเอียดและวิจิตรบรรจง

7. เกาะทะลุ


          ตั้งอยู่ในฝั่งอ่าวไทย ในเขตตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังและสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ มีจุดดำน้ำเลื่องชื่ออยู่ด้วยกัน 2 จุด คืออ่าวกรวดและอ่าวเทียน นักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจไปกับปลาสีสันแปลก ๆ ปะการังหลากชนิด ทั้งปะการังโขด ปะการังเขากวาง ไม่แน่ว่าอาจได้เห็นหอยมือเสือตัวใหญ่ ที่ทำเอาคุณต้องอึ้งและทึ้งไปเลยทีเดียว

8. หาดผาแดง

          แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีลักษณะเป็นแนวผาสีแดงลวดลายสวยงาม ตั้งตระหง่านท้าคลื่นลม เหล่านี้เป็นร่องรอยของการกัดเซาะคลื่นและลมทะเลจากธรรมชาติล้วน ๆ เสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้อยู่ที่ นักท่องเที่ยวจะยังคงได้สัมผัสกับวิถีประมงแบบท้องถิ่น เห็นเรือประมงลำเล็ก ที่รอคอยการออกจากฝั่ง เด็ก ๆ ชาวทะเลตามพ่อแม่มาที่หาด หรือแม้กระทั่งการแกะหอยตามก้อนหิน เหล่านี้เป็นภาพวิถีชุมชนที่เราไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก

9. วัดห้วยมงคล


          หนึ่งในวัดสำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยว ที่ไม่ว่าใครเดินทางมาเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ ต้องแวะมาสักการะด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุด คนจะเยอะเป็นพิเศษ และอาจหาที่จอดรถยากอยู่เสียหน่อย แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้เลย

10. จุดชมวิวหินเหล็กไฟ

          มีชื่อเรียกอีกหนึ่งอย่างว่า "เขาเรดาร์" ที่นี่เป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวได้รอบทั้ง 4 ทิศ บริเวณด้านบนเขา จะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) โดยชาวหัวหินได้ร่วมกันสร้างไว้ เพื่อเป็นที่รำลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้นำความเจริญมาสู่เมืองหัวหิน

ตั๊กออแกไนท์ประจวบคีรีขันธ์รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคประจวบคีรีขันธ์
นางรำประจวบคีรีขันธ์เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคประจวบคีรีขันธ์
ประจวบคีรีขันธ์รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคประจวบคีรีขันธ์
รําบวงสรวงพญานาคประจวบคีรีขันธ์
ฟ้อนบูชาพญานาคประจวบคีรีขันธ์
รําบวงสรวงพญานาคประจวบคีรีขันธ์



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


265
10 ที่เที่ยวกาญจนบุรี จุดเช็กอินยอดฮิต น่าไปเก็บให้ครบในปีนี้

1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

          มาถึงกาญจนบุรีแล้วถ้าไม่ได้มาเช็กอินที่สะพานข้ามแม่น้ำแควก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะที่นี่เป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยแรงงานของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ตัวสะพานสร้างด้วยเหล็กแทนของเดิมที่เป็นสะพานไม้ ใช้สำหรับเป็นเส้นทางเดินของรถไฟที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานีน้ำตกไทรโยค ไฮไลต์ของการเที่ยวชมที่นี่จะอยู่ในช่วงที่รถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะซื้อตั๋วรถไฟนั่งข้ามสะพานได้ด้วย และในช่วงที่ไม่มีรถไฟวิ่งผ่านก็สามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมและถ่ายรูปบนสะพานได้เช่นกัน แนะนำว่าให้ลองมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารริมแม่น้ำใกล้ ๆ กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อชมวิวยามเย็น บรรยากาศสบาย ๆ ชิลไปอีกแบบ

          ที่ตั้ง : ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี

2. วัดถ้ำเสือ

          แลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ พร้อมด้วยวิหารรูปทรงผสมผสานระหว่างสไตล์ไทย-จีน อยู่บนยอดเขา นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินขึ้นบันได 157 ขั้น ขึ้นไปด้านบน หรือจะใช้บริการรถรางไฟฟ้าก็ได้ นอกจากพระพุทธรูปปางประทานพรแล้ว ก็ยังมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่บนยอดปราสาทเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทด้วย และจากบริเวณวัดก็สามารถมองเห็นวิวมุมสูงบริเวณรอบ ๆ ได้อย่างสวยงามมาก ๆ ถ้ามาช่วงเย็นก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางบรรยากาศของท้องทุ่งนาและป่าเขา เรียกได้ว่าอิ่มทั้งบุญและใจกันเลยทีเดียว

          ที่ตั้ง : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

3. ต้นจามจุรียักษ์

          ต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีขนาดใหญ่มาก รัศมีทรงพุ่มของต้นประมาณ 25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางของร่มเงายาวประมาณ 51.75 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปเป็นพื้นที่กว้าง บรรยากาศร่มรื่น ใกล้ ๆ กันนั้นเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่จามจุรี สามารถมากราบไหว้ขอพรกันได้ทุกวัน

          ค่าเข้าชม : ฟรี
          ที่ตั้ง : ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี

4. น้ำตกไทรโยคน้อย และน้ำตกไทรโยคใหญ่

          น้ำตกไทรโยคน้อย และน้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของกาญจนบุรีมาตั้งแต่อดีต ด้วยมีความสวยงามและสามารถเข้าเที่ยวชมได้ง่าย สำหรับน้ำตกไทรโยคน้อย ตั้งอยู่บริเวณริมถนนแสงชูโต ใกล้กับสถานีรถไฟน้ำตก มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูน สูงประมาณ 15 เมตร ในช่วงที่มีน้ำเยอะ ๆ สายน้ำตกจะไหลลงมาจากด้านบนอย่างสวยงาม มีแอ่งน้ำด้านล่าง สามารถเล่นน้ำได้ ส่วนน้ำตกไทรโยคใหญ่ ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำแควน้อย จะต้องนั่งเรือจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยคเข้าไปเที่ยวชม ที่นี่มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนเช่นกัน สูงประมาณ 10 เมตร แผ่กว้างไปตามหน้าผาของภูเขา สายน้ำมากมายจะไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย เป็นน้ำตกที่สวยงามแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติไทรโยค ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : 08.30-16.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 3468 6024, 08 9028 1958 (อุทยานแห่งชาติไทรโยค)

5. เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔

          สถานที่ท่องเที่ยวแบบย้อนยุค มีการตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ ให้มีบรรยากาศที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนไทยบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เหมาะแก่การแต่งชุดไทยสวย ๆ ไปเที่ยวถ่ายรูปคู่กับอาคารต่าง ๆ จุดที่น่าสนใจ เช่น สะพานหัน, ย่านการค้า, หอชมเมือง, เรือนเดี่ยว, เรือนคหบดี, โรงครัว, เรือนหมู่, เรือนแพ, ลานมะลิ, เรือนไทยหมู่ เป็นต้น ช่วงกลางวันก็มาเดินเที่ยวถ่ายรูป พอตกเย็นก็รับประทานมื้อค่ำแบบไทยแท้บนเรือนไทยหมู่ เป็นอีกบรรยากาศที่ไม่ควรพลาด ทั้งนี้ เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ เปิดเมืองเต็มรูปแบบเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือวิถีใหม่ในวันที่ 5 มิถุนายน 2563

          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 120 บาท (หากเช่าชุดไทยด้วย ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 300 บาท)
          ที่ตั้ง : 168 หมู่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
          โทรศัพท์ :  0 3454 0884-86
          เว็บไซต์ : mallika124.com
          เฟซบุ๊ก : เมืองมัลลิกา ร.ศ.124

6. มีนา คาเฟ่

          จุดเช็กอินสุดฮิตอีกแห่งของอำเภอท่าม่วง เป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนากว้างใหญ่ ในช่วงหน้าทำนารอบ ๆ ร้านก็จะกลายเป็นท้องนาสีเขียวขจี บรรยากาศดีต่อใจสุด ๆ ซึ่งทางร้านก็ได้ออกแบบให้มีที่นั่งที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้แบบชัดเจน พร้อมทั้งที่นั่งบริเวณริมระเบียงนอกร้านติดกับนาข้าว ซึ่งนอกจากวิวของธรรมชาติรอบด้านแล้วก็ยังสามารถมองเห็นวิวของวัดถ้ำเสืออีกด้วย ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ตรงที่สะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปในท้องนา เป็นมุมถ่ายรูปชิค ๆ ที่ไม่ว่าใครได้มาเป็นต้องมาแชะภาพสวย ๆ เก็บไว้ นอกจากนี้ก็ยังมีมุมสวย ๆ ให้เลือกถ่ายรูปอีกเพียบ

          ที่ตั้ง : 75/18 หมู่ 3 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.
          เฟซบุ๊ก : มีนา cafe' , Kanchanaburi

7. รักษ์คันนา

          ร้านกาแฟและร้านก๋วยเตี๋ยวบรรยากาศดีของจังหวัดกาญจนบุรี ที่นักท่องเที่ยวต่างหลงรัก เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทุ่งนากว้างใหญ่เช่นกัน อยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำเสือ จากตัวร้านก็สามารถมองเห็นวิวของวัดถ้ำเสือได้ด้วย และด้วยความที่ร้านสร้างจากวัสดุธรรมชาติ จึงกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบด้าน มีสะพานทางเดินทอดยาวไปกลางทุ่งนาเช่นกัน จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนระหว่างวันของทริปเที่ยวกาญจนบุรีที่ดีเลยทีเดียว

          ที่ตั้ง : 88 หมู่ 5 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.
          เฟซบุ๊ก : รักษ์คันนา กาญจนบุรี

8. ถนนคนเดินปากแพรก

          ถนนคนเดินที่จัดขึ้นบริเวณเมืองเก่าของอำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นย่านเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ บ้านเรือนต่าง ๆ เป็นรูปทรงโคโลเนียลผสมผสานกับบ้านตึกแถวไม้และปูน ทอดขนานไปกับแม่น้ำแควใหญ่ ในทุกวันเสาร์จะมีการจัดถนนคนเดิน ชาวบ้านในพื้นที่จะนำสินค้าดีเด่นมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา มีทั้งอาหารพื้นเมืองและสินค้าแฮนด์เมด ราคาย่อมเยา เดินกิน เที่ยว ถ่ายรูปกันได้ยาว ๆ ตลอดคืน แต่ถ้าไม่ได้มาตรงกับช่วงที่มีถนนคนเดิน ก็สามารถแวะมาถ่ายรูปชิค ๆ กับบ้านเรือนเก่าได้เช่นกัน 

          ที่ตั้ง : ถนนปากแพรก ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ถนนคนเดินปากแพรก

9. ล่องแพแม่น้ำแคว

          แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่ เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีทัศนียภาพงดงาม สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยวิวสวย ๆ บางช่วงก็เป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์ บางช่วงก็เป็นแนวภูเขาสูงใหญ่ บางช่วงก็เป็นไร่สวนของชาวบ้าน การได้นั่งเรือชมวิว จึงเป็นเหมือนการชาร์จพลังกับธรรมชาติที่ดีมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโรงแรม รีสอร์ตต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นอยู่เหนือแม่น้ำแควด้วย ใครที่อยากพักผ่อนกับสายน้ำบอกเลยว่าไม่ควรพลาด และที่เด็ดสุด ๆ ก็คือ การล่องแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวจะได้กระโดดเล่นน้ำกันอย่างชุ่มฉ่ำใจ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

10. น้ำพุร้อนหินดาด
 
          บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี ถูกค้นพบโดยทหารชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์และบริเวณโดยรอบให้เหมาะสมแก่การให้บริการแช่น้ำพุร้อนของประชาชน มีการทำเป็นบ่อปูนซีเมนต์หลาย ๆ บ่อ หลากหลายความลึก เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงทุกเพศทุกวัย การแช่น้ำพุร้อนเป็นการช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และช่วยดูแลผิวหนัง ระบบไหลเวียนของเลือด นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาใช้บริการที่นี่กันตลอดทั้งปี

ตั๊กออแกไนท์กาญจนบุรีรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
นางรำอเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
กาญจนบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคกาญจนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


266
10 ที่เที่ยวกาญจนบุรี จุดเช็กอินยอดฮิต น่าไปเก็บให้ครบในปีนี้

1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

          มาถึงกาญจนบุรีแล้วถ้าไม่ได้มาเช็กอินที่สะพานข้ามแม่น้ำแควก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะที่นี่เป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยแรงงานของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ตัวสะพานสร้างด้วยเหล็กแทนของเดิมที่เป็นสะพานไม้ ใช้สำหรับเป็นเส้นทางเดินของรถไฟที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานีน้ำตกไทรโยค ไฮไลต์ของการเที่ยวชมที่นี่จะอยู่ในช่วงที่รถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะซื้อตั๋วรถไฟนั่งข้ามสะพานได้ด้วย และในช่วงที่ไม่มีรถไฟวิ่งผ่านก็สามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมและถ่ายรูปบนสะพานได้เช่นกัน แนะนำว่าให้ลองมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารริมแม่น้ำใกล้ ๆ กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อชมวิวยามเย็น บรรยากาศสบาย ๆ ชิลไปอีกแบบ

          ที่ตั้ง : ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี

2. วัดถ้ำเสือ

          แลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ พร้อมด้วยวิหารรูปทรงผสมผสานระหว่างสไตล์ไทย-จีน อยู่บนยอดเขา นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินขึ้นบันได 157 ขั้น ขึ้นไปด้านบน หรือจะใช้บริการรถรางไฟฟ้าก็ได้ นอกจากพระพุทธรูปปางประทานพรแล้ว ก็ยังมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่บนยอดปราสาทเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทด้วย และจากบริเวณวัดก็สามารถมองเห็นวิวมุมสูงบริเวณรอบ ๆ ได้อย่างสวยงามมาก ๆ ถ้ามาช่วงเย็นก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางบรรยากาศของท้องทุ่งนาและป่าเขา เรียกได้ว่าอิ่มทั้งบุญและใจกันเลยทีเดียว

          ที่ตั้ง : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.

3. ต้นจามจุรียักษ์

          ต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีขนาดใหญ่มาก รัศมีทรงพุ่มของต้นประมาณ 25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางของร่มเงายาวประมาณ 51.75 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปเป็นพื้นที่กว้าง บรรยากาศร่มรื่น ใกล้ ๆ กันนั้นเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่จามจุรี สามารถมากราบไหว้ขอพรกันได้ทุกวัน

          ค่าเข้าชม : ฟรี
          ที่ตั้ง : ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี

4. น้ำตกไทรโยคน้อย และน้ำตกไทรโยคใหญ่

          น้ำตกไทรโยคน้อย และน้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของกาญจนบุรีมาตั้งแต่อดีต ด้วยมีความสวยงามและสามารถเข้าเที่ยวชมได้ง่าย สำหรับน้ำตกไทรโยคน้อย ตั้งอยู่บริเวณริมถนนแสงชูโต ใกล้กับสถานีรถไฟน้ำตก มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูน สูงประมาณ 15 เมตร ในช่วงที่มีน้ำเยอะ ๆ สายน้ำตกจะไหลลงมาจากด้านบนอย่างสวยงาม มีแอ่งน้ำด้านล่าง สามารถเล่นน้ำได้ ส่วนน้ำตกไทรโยคใหญ่ ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำแควน้อย จะต้องนั่งเรือจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยคเข้าไปเที่ยวชม ที่นี่มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนเช่นกัน สูงประมาณ 10 เมตร แผ่กว้างไปตามหน้าผาของภูเขา สายน้ำมากมายจะไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย เป็นน้ำตกที่สวยงามแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติไทรโยค ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : 08.30-16.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 3468 6024, 08 9028 1958 (อุทยานแห่งชาติไทรโยค)

5. เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔

          สถานที่ท่องเที่ยวแบบย้อนยุค มีการตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ ให้มีบรรยากาศที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนไทยบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เหมาะแก่การแต่งชุดไทยสวย ๆ ไปเที่ยวถ่ายรูปคู่กับอาคารต่าง ๆ จุดที่น่าสนใจ เช่น สะพานหัน, ย่านการค้า, หอชมเมือง, เรือนเดี่ยว, เรือนคหบดี, โรงครัว, เรือนหมู่, เรือนแพ, ลานมะลิ, เรือนไทยหมู่ เป็นต้น ช่วงกลางวันก็มาเดินเที่ยวถ่ายรูป พอตกเย็นก็รับประทานมื้อค่ำแบบไทยแท้บนเรือนไทยหมู่ เป็นอีกบรรยากาศที่ไม่ควรพลาด ทั้งนี้ เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ เปิดเมืองเต็มรูปแบบเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือวิถีใหม่ในวันที่ 5 มิถุนายน 2563

          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 120 บาท (หากเช่าชุดไทยด้วย ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 300 บาท)
          ที่ตั้ง : 168 หมู่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
          โทรศัพท์ :  0 3454 0884-86
          เว็บไซต์ : mallika124.com
          เฟซบุ๊ก : เมืองมัลลิกา ร.ศ.124

6. มีนา คาเฟ่

          จุดเช็กอินสุดฮิตอีกแห่งของอำเภอท่าม่วง เป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนากว้างใหญ่ ในช่วงหน้าทำนารอบ ๆ ร้านก็จะกลายเป็นท้องนาสีเขียวขจี บรรยากาศดีต่อใจสุด ๆ ซึ่งทางร้านก็ได้ออกแบบให้มีที่นั่งที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้แบบชัดเจน พร้อมทั้งที่นั่งบริเวณริมระเบียงนอกร้านติดกับนาข้าว ซึ่งนอกจากวิวของธรรมชาติรอบด้านแล้วก็ยังสามารถมองเห็นวิวของวัดถ้ำเสืออีกด้วย ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ตรงที่สะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปในท้องนา เป็นมุมถ่ายรูปชิค ๆ ที่ไม่ว่าใครได้มาเป็นต้องมาแชะภาพสวย ๆ เก็บไว้ นอกจากนี้ก็ยังมีมุมสวย ๆ ให้เลือกถ่ายรูปอีกเพียบ

          ที่ตั้ง : 75/18 หมู่ 3 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.
          เฟซบุ๊ก : มีนา cafe' , Kanchanaburi

7. รักษ์คันนา

          ร้านกาแฟและร้านก๋วยเตี๋ยวบรรยากาศดีของจังหวัดกาญจนบุรี ที่นักท่องเที่ยวต่างหลงรัก เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทุ่งนากว้างใหญ่เช่นกัน อยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำเสือ จากตัวร้านก็สามารถมองเห็นวิวของวัดถ้ำเสือได้ด้วย และด้วยความที่ร้านสร้างจากวัสดุธรรมชาติ จึงกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบด้าน มีสะพานทางเดินทอดยาวไปกลางทุ่งนาเช่นกัน จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนระหว่างวันของทริปเที่ยวกาญจนบุรีที่ดีเลยทีเดียว

          ที่ตั้ง : 88 หมู่ 5 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.
          เฟซบุ๊ก : รักษ์คันนา กาญจนบุรี

8. ถนนคนเดินปากแพรก

          ถนนคนเดินที่จัดขึ้นบริเวณเมืองเก่าของอำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นย่านเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ บ้านเรือนต่าง ๆ เป็นรูปทรงโคโลเนียลผสมผสานกับบ้านตึกแถวไม้และปูน ทอดขนานไปกับแม่น้ำแควใหญ่ ในทุกวันเสาร์จะมีการจัดถนนคนเดิน ชาวบ้านในพื้นที่จะนำสินค้าดีเด่นมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา มีทั้งอาหารพื้นเมืองและสินค้าแฮนด์เมด ราคาย่อมเยา เดินกิน เที่ยว ถ่ายรูปกันได้ยาว ๆ ตลอดคืน แต่ถ้าไม่ได้มาตรงกับช่วงที่มีถนนคนเดิน ก็สามารถแวะมาถ่ายรูปชิค ๆ กับบ้านเรือนเก่าได้เช่นกัน 

          ที่ตั้ง : ถนนปากแพรก ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
          เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ถนนคนเดินปากแพรก

9. ล่องแพแม่น้ำแคว

          แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่ เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีทัศนียภาพงดงาม สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยวิวสวย ๆ บางช่วงก็เป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์ บางช่วงก็เป็นแนวภูเขาสูงใหญ่ บางช่วงก็เป็นไร่สวนของชาวบ้าน การได้นั่งเรือชมวิว จึงเป็นเหมือนการชาร์จพลังกับธรรมชาติที่ดีมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโรงแรม รีสอร์ตต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นอยู่เหนือแม่น้ำแควด้วย ใครที่อยากพักผ่อนกับสายน้ำบอกเลยว่าไม่ควรพลาด และที่เด็ดสุด ๆ ก็คือ การล่องแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวจะได้กระโดดเล่นน้ำกันอย่างชุ่มฉ่ำใจ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

10. น้ำพุร้อนหินดาด
 
          บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี ถูกค้นพบโดยทหารชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์และบริเวณโดยรอบให้เหมาะสมแก่การให้บริการแช่น้ำพุร้อนของประชาชน มีการทำเป็นบ่อปูนซีเมนต์หลาย ๆ บ่อ หลากหลายความลึก เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงทุกเพศทุกวัย การแช่น้ำพุร้อนเป็นการช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และช่วยดูแลผิวหนัง ระบบไหลเวียนของเลือด นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาใช้บริการที่นี่กันตลอดทั้งปี

ตั๊กออแกไนท์กาญจนบุรี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
นางรำกาญจนบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
กาญจนบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคกาญจนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคกาญจนบุรี


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


267
20 สถานที่ท่องเที่ยวสระแก้ว เมืองชายแดนที่มีของดีซ่อนไว้เพียบ

1. ศาลหลักเมือง

          จังหวัดสระแก้วได้รับการฟหม่ลำดับที่ 74 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536 เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน จึงมีมติให้สร้างศาลหลักเมืองแบบปรางค์ในปริมณฑลสวนกาญจนาภิเษก ตำบลท่าเกษม อำเภอเมือง พร้อมทั้งจัดทำเสาหลักเมืองจากต้นชัยพฤกษ์ที่มีคุณลักษณะต้องตามโบราณประเพณี มีขนาดเส้นรอบวง ที่โคนต้น 120 นิ้ว สูง 229 นิ้ว ภายในติดแผ่นทองดวงเมืองสระแก้ว ที่นี่จึงเป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของชาวสระแก้ว

2. พระสยามเทวาธิราชจำลอง

          รูปจำลองพระสยามเทวาธิราช ตั้งอยู่ที่ถนนมหาดไทย อำเภออรัญประเทศ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518 เป็นการจำลองรูปพระสยามเทวาธิราชในประวัติศาสตร์ครั้งแรกโดยพระอุทัย ธรรมธารี (พระอาจารย์เส็ง) วัดป่ามะไฟ ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้างเหรียญจำลองใน พ.ศ. 2508 และได้หล่อพระสยามเทวาธิราชจำลอง ขนาดสูงประมาณ 1.29 เมตร และเมื่อเกิดเหตุการณ์ชายแดนด้านอรัญประเทศ-กัมพูชา ได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ชายแดนเพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจแก่พี่น้องประชาชน

3. วัดนครธรรม

          ตั้งอยู่ที่ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร สิ่งที่น่าสนใจของวัดนครธรรมแห่งนี้ คือ "หลวงพ่อขาว" หรือ "หลวงพ่อปูน" พระพุทธรูปโบราณปางสมาธิ สร้างด้วยปูน ลักษณะกำลังนั่งขัดสมาธิ หน้าตักกว้าง 130.9 เซนติเมตร และสูง 199 เซนติเมตร ถูกค้นพบเมื่อประมาณ พ.ศ. 2468 ไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างเมื่อใด เพียงแต่มีคำบอกเล่าสืบกันมาว่า เมื่อครั้งที่ได้อัญเชิญหลวงพ่อขาวมาจากวัดร้างบ้านจิก ในปี พ.ศ. 2468 ขณะที่อัญเชิญมาได้มีภิกษุเห็นน้ำพระเนตรของหลวงพ่อไหลออกมา พร้อมกันนั้นได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก นอกจากนี้ภายในวิหารหลวงพ่อขาวยังประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากวัดปมะดุลลาราชะมหาวิหาร เมืองรัตนปุระ ประเทศศรีลังกา

4. วัดสระแก้ว

          อีกหนึ่งวัดที่แนะนำให้เยือน สำหรับ "วัดสระแก้ว" ตั้งอยู่ที่บ้านท่ามะเดื่อ ตำบลสระแก้ว อำเภอเมือง เพื่อสักการะรูปหล่อ "หลวงพ่อทอง" หรือ "พระครูรัตนสราธิคุณ" อดีตเจ้าอาวาสวัดสระแก้ว เป็นพระภิกษุที่มีความเมตตาสูง เป็นที่เคารพรักของประชาชนทั่วไปอบรมเผยแพร่หลักธรรมของพระพุทธศาสนา และมีความรู้ความสามารถด้านวิชาแพทย์แผนโบราณ ช่วยเหลือบำบัดรักษาผู้ป่วยโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ นอกจากนี้ยังเป็นพระภิกษุผู้ทรงวิทยาคุณด้านไสยศาสตร์ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนในท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป

5. พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

          ตั้งอยู่ริมถนนสายสระแก้ว-อรัญประเทศ ก่อนถึงตัวที่ว่าการอำเภอวัฒนานครเล็กน้อย สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีพระปรีชาสามารถในการทำศึกสงครามเพื่อปกป้องราชอาณาจักร ตั้งแต่ครั้งยังดำรงตำแหน่งพระยศเป็นสมเด็จพระมหาอุปราช ในการปกป้องพระราชอาณาจักรทางด้านตะวันออก พระองค์ได้ยกทัพมาปราบปรามอริราชศัตรู ซึ่งลักลอบเข้ามาโจมตีกวาดต้อนผู้คนบริเวณชายแดนอยู่เนือง ๆ โดยในปี พ.ศ. 2124 ได้ทรงยกทัพมาปราบปรามครั้งแรก ต่อมาในปี 2125 จึงได้โปรดให้ตั้งค่ายคูเมือง ปลูกยุ้งฉางข้าวลำเลียงไว้ที่ค่ายพระทำนบ (บริเวณ อ.วัฒนานคร ในปัจจุบัน)  และได้ยกทัพมาปราบปรามอริราชศัตรูอย่างราบคาบในปีนั้น

6. ปราสาทสด๊กก๊อกธม

          โบราณสถานที่ใหญ่และสำคัญของจังหวัดสระแก้ว อีกทั้งยังเป็นโบราณสถานขอมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเสม็ด ตำบลโคกสูง อำเภอตาพระยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 14เพื่อใช้ประดิษฐานรูปเคารพและใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อในลัทธิศาสนาฮินดู โบราณสถานประกอบด้วยองค์ปราสาท 3 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออกมีคูน้ำล้อมรอบ 4 ด้าน มีกำแพงแก้ว 2 ชั้น ชั้นนอกทำด้วยศิลาแลง ชั้นในทำด้วยหินทราย ตัวปราสาทก่อด้วยหินทราย

          นอกจากนี้สิ่งที่ถือว่าเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ คือ การค้นพบศิลาจารึก 2 หลัง ที่จารึกด้วยอักษรขอมโบราณ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกถึงอายุการสร้างปราสาทสด๊กก๊อกธมแห่งนี้ ทั้งยังบอกถึงวัตถุประสงค์ของการสร้างจารึกหลักที่ 2 โดยปัจจุบันจารึกทั้ง 2 ถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร

7. ปราสาทเขาน้อยสีชมพู


          ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ ตั้งอยู่บนเขาน้อย ต้องเดินบันไดขึ้นไปถึง 254 ขั้น สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 12 และได้รับการบูรณะในพุทธศตวรรษที่ 15 และยังคงความสำคัญเรื่อยมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 16 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติจากกรมศิลปากร ในปี พ.ศ.2478 โดยเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นศาสนถานในศาสนาฮินดู ที่ประกอบด้วยปรางค์ 3 หลัง ได้แก่ ปรางค์ทิศเหนือ ปรางค์องค์กลาง และปรางค์ทิศใต้

8. ปราสาทเขาโล้น

          มรดกอารยธรรม "อังควร์พนม" ที่หลงเหลืออยู่ในจังหวัดสระแก้ว ตั้งอยู่ที่บ้านเจริญสุข ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นปราสาทประจำเมืองซึ่ งมีลักษณะคล้ายกับปราสาทเขาน้อย สันนิษฐานว่าเดิมทีเดียวมีปรางค์ทั้งหมด 4 หลัง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงปรางค์องค์กลาง ส่วนปราสาทด้านหน้า 2 หลัง และด้านหลัง 1 หลัง เหลือเพียงซากปรักหักพังไว้เท่านั้น

9. ละลุ


          ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทางธรณีที่เกิดจากการยุบตัวหรือพังทลายของดิน ทั้งสายฝน กระแสลมพัดกระหน่ำ ผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน ดินที่แข็งจะคงอยู่ในขณะที่ดินอ่อนก็จะพังทลายและถูกกัดกร่อนลงไปเกิดเป็นแท่งหินเป็นรูปร่างลักษณะแตกต่างกัน มองคล้ายกำแพงเมืองหรือเสาหิน เหมือนกันกับ "แพะเมืองผี"ที่จังหวัดแพร่ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ละลุ" ที่แปลมาจากภาษาเขมรแปลว่า "ทะล"

10. เขาฉกรรจ์


          ภูเขาหินปูนสามลูกต่อเนื่องกันตั้งอยู่ภายในวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ ตำบลเขาฉกรรจ์ อำเภอเขาฉกรรจ์ มีหน้าผาสูงชันทำมุมเกือบตั้งฉากกับพื้นดิน มีจุดสูงสุดของยอดเขาสูงประมาณ 324 เมตรจากระดับน้ำทะเล ภายในถ้ำมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอยู่ถึง 12 แห่ง อาทิ ถ้ำหนุมาน ถ้ำมหาสิงห์ถ้ำน้ำทิพย์ ถ้ำแก้วพลายชุมพล ซึ่งในถ้ำต่าง ๆ เหล่านี้เป็นที่อาศัยของฝูงค้างคาวจำนวนมากที่พร้อมใจกันบินออกหากินในตอนเวลาพลบค่ำ


11. อุทยานแห่งชาติปางสีดา


          อุทยานแห่งชาติแห่งที่ 41 ของประเทศไทย ครอบคลุมท้องที่อำเภอตาพระยา อำเภอวัฒนานคร อำเภอเมืองจังหวัดสระแก้ว และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่า มีสภาพธรรมชาติและเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง จุดเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำตกปางสีดา น้ำตกผาตะเคียน กลุ่มน้ำตกแควมะค่า กลุ่มน้ำตกถ้ำค้างคาว ภูเขาเจดีย์ ฟอสซิลไดโนเสาร์ แหล่งดูนกน้ำอ่างเก็บน้ำพระปรง แหล่งดูผีเสื้อ จนได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งดูผีเสื้อแห่งภาคตะวันออก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ park.dnp.go.th

12. น้ำตกแก่งสะเดา

          น้ำตกแก่งสะเดา ตั้งอยู่ที่บ้านแก่งสะเดา ซอย 6 ตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ดินของ นายเฉลิมศักดิ์ โสดสุภาพ ผู้ใหญ่บ้าน มีลักษณะเป็นแก่งหินที่ขวางอยู่กลางลำน้ำสาขาของคลองพระสะทึง รวมทั้งมีฝายที่ทางผู้ใหญ่บ้านได้สร้างขึ้นเองเพื่อนำน้ำมาใช้ในการทำเกษตรกรรมในที่ดินของตน จึงทำให้มีพื้นที่ที่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ สิ่งที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือระหัดวิดน้ำ มีลักษณะเป็นกังหันไม้ไผ่ ซึ่งทางผู้ใหญ่ได้สร้างขึ้นเองเพื่อวิดน้ำในการใช้ทำเกษตรกรรม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมน่าเที่ยวอย่างการล่องแก่งคลองพระสะทึงให้ได้ไปสนุกสนานกันด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก น้ำตกบ้านแก่งสะเดา

13. อ่างเก็บน้ำพระปรง

          อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัดสระแก้ว มีความจุถึง 97 ล้านลูกบาศก์เมตร จนเกือบจะเรียกว่า "เขื่อน" เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สร้างกั้นต้นน้ำห้วยพระปรงซึ่งเป็นลำน้ำที่ไหลลงมาจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา จากสภาพป่าที่สมบูรณ์กลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ปลานานาชนิด ทำให้ชาวบ้านแถวนี้หลังจากว่างเว้นจากการทำไร่ ทำนาจึงหารายได้เสริมด้วยการจับปลาขาย

14. ตลาดโรงเกลือ


          ตลาดการค้าชายแดนขนาดใหญ่ที่คนทั่วไปรู้จักดี ตั้งอยู่ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ เป็นตลาดใหญ่ที่ประกอบด้วยตลาดย่อย ๆ อีก 5 ตลาด ได้แก่ตลาดโรงเกลือเก่า ตลาดเทศบาล 2 ตลาดโกลเด้นเกต ตลาดเดชไทยและตลาดเบ็ญจวรรณ มีร้านค้ารวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 3,000 ห้อง

15. สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น

          "สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น" ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ถนนจันทบุรี-สระแก้ว ตำบลวังใหม่ อำเภอวังสมบูรณ์ เกิดจากการรวมตัวกันของเกษตรกรเพื่อประสบปัญหาพืชไร่ราคาตกต่ำ จึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพมาเลี้ยงโคนมแทนการปลูกพืชไร่ จนทุกวันนี้มีโคนมนับหมื่นตัวมีปริมาณนมวันละหลายสิบตันเป็นแหล่งผลิตน้ำนมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีโรงผลิตนมภายใต้แบรนด์ "นมวังน้ำเย็น" ทั้งนมพาสเจอร์ไรด์ นมเปรี้ยวส่งไปจำหน่ายตามโครงการนมโรงเรียนในหลายจังหวัด นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมกระบวนการผลิตพร้อมกับเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีในบริเวณร้านค้า ด้านหน้าสหกรณ์เป็นของฝากเพื่อสุขภาพ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wangnamyendairy.com

16. น้ำตกเขาตะกรุบ


          น้ำตกขนาดใหญ่กลางป่าสูง 50 เมตร มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน สายน้ำจะไหลจากหน้าผาที่สูงชันเกือบ 90 องศา ลงสู่เบื้องล่างก่อนจะไหลลงสู่น้ำตกเล็กอีกชั้นหนึ่ง ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมน้ำตกจะสวยมากเป็นพิเศษ บริเวณทางขึ้นน้ำตกเป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาแน่นและเฟิร์นหลายชนิดแทรกขึ้นตามหลืบหิน เส้นทางก่อนถึงลานไทรอาจพบร่องรอยของช้างป่าที่มีชุกชุมในป่าแถบนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น และเส้นทางเดียวกันนี้เหมาะสำหรับการเดินดูนกและดูผีเสื้อ

17. ถ้ำเขาศิวะ

          ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด ถ้ำแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกนามหนึ่งว่า “ถ้ำน้ำ” เหตุเพราะไม่เพียงเป็นถ้ำลึก 500 เมตรเท่านั้น หากยังมีระดับน้ำสูงตั้งแต่ 10-220 เซนติเมตร หลากไหลอยู่ภายในถ้ำ ก่อเกิดหินงอกหินย้อยตระการตาสวยงามกระจายทั่วบริเวณ ที่บางจุดมีลักษณะคล้ายม่านซึ่งมีสายน้ำไหลลงมาราวกับน้ำตกขนาดเล็ก อากาศภายในถ้ำเขาศิวะแห่งนี้ไหลเวียนตลอด ทำให้นักท่องเที่ยว ที่เดินชมถ้ำรู้สึกสบาย ไม่อึดอัดแต่อย่างใด

          ทั้งนี้การไปเที่ยวถ้ำเขาศิวะควรมีผู้นำทาง โดยติดต่อได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองไก่เถื่อน และต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยควรมีอุปกรณ์ที่จำเป็นติดตัวไปด้วย เช่น ไฟฉายกันน้ำ ไฟแช็ก และควรสวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าสบาย ๆ ไม่อุ้มน้ำ

18. ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง

          ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเลื่อม ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด และต้องเดินขึ้นไปยังถ้ำระยะทางราว 700 เมตร ร่มรื่นด้วยป่าและต้นจันผาที่ชุมชนช่วยกันอนุรักษ์และปลูกเพิ่มจากเดิมที่กำลังจะสูญพันธุ์ เป็นถ้ำขนาดกลางที่อยู่ในภูเขาที่ทอดยาวขนานไปกับพื้นดิน ที่ปากถ้ำมีลมเย็นพัดผ่านช่องเขาเข้าไปในถ้ำทำให้มีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา ส่งผลให้ภายในถ้ำเย็นสบายตลอดทั้งปี

          ภายในถ้ำจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่

          จุดที่ 1 : ลานกว้างรูปไข่ที่มีหินสีขาวนวลวางเรียงกันราวธรรมชาติบรรจงจัดวาง

          จุดที่ 2 : อุโมงค์ขนาดใหญ่ที่มีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา

          จุดที่ 3 : ห้องมุขประดับเพชร ภายในละลานตาด้วยหินงอกหินย้อยเป็นมุขทรงเจดีย์ หรือทรงรูปไข่สีขาวที่ระยิบระยับด้วยเกล็ดทรายในยามต้องแสงไฟ

          จุดที่ 4 : ประตูปราสาทถ้ำเพชรโพธิ์ทอง ซึ่งมีหินปากประตูนวลสีขาวเรียบเนียน และมีหินงอกหินย้อยดูคล้ายพระพุทธรูป จุดนี้คือไฮไลต์ของถ้ำเพชรโพธิ์ทองที่ทุกคนต้องเข้ามาชมความงดงาม

19. สวนน้ำสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถ

          สวนน้ำแห่งนี้ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และด้วยทัศนียภาพที่สวยงามในยามเย็นของอ่างเก็บน้ำชลประทานขนาดใหญ่ ที่นี่จึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสระแก้ว ว่ากันว่าภาพพระอาทิตย์อัสดงเหนือทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาดี ๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

20. โรงเรียนกาสรกสิวิทย์

          โรงเรียนที่ฝึกสอนกระบือหรือควายให้สามารถทำการเกษตรได้ ก่อเกิดจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานวโรกาสให้ นายสมจิตต์ และ นางมณี อิ่มเอย น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมือง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นเพื่อฝึกกระบือให้ทำการเกษตร และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้ผู้ที่สนใจได้มาเรียนรู้วัฒนธรรมการเกษตรท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เดินเที่ยวชมนาข้าวอันกว้างใหญ่ ชมบ้านดินที่แสนเย็นฉ่ำ ชมการสาธิตการทำนาและการฝึกกระบือ รวมทั้งเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียง นอกจากนี้ก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟไว้บริการด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ kasorn.com

ตั๊กออแกไนท์สระแก้ว รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคสระแก้ว
นางรำสระแก้วเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคสระแก้ว
สระแก้วรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคสระแก้ว
รําบวงสรวงพญานาคสระแก้ว
ฟ้อนบูชาพญานาคสระแก้ว
รําบวงสรวงพญานาคสระแก้ว

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


268
เที่ยวปราจีนบุรีทั้งที อย่าพลาด 12 ที่เที่ยวยอดนิยม

      "ปราจีนบุรี" จังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ที่รุ่มรวยทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวเหลือเฟือและหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ งานเทศกาล วัฒนธรรมประเพณี รวมถึงโบราณสถาน โบราณวัตถุต่าง ๆ เหล่านี้ยังส่งเสริมให้จังหวัดปราจีนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเสน่ห์และน่าหลงใหล หากใครได้ลองไปเที่ยวดูสักครั้งหนึ่ง เป็นต้องติดใจอยากที่จะกลับไปที่นั่นอีกครั้งอย่างแน่นอน ลองไปดูสิว่าจังหวัดปราจีนบุรีมีอะไรที่ทำให้เราน่าหลงใหลได้บ้างกัน
 
1. ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ
 

           ตั้งอยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ ตำบลโคกปีบ เป็นต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เชื่อกันว่าต้นโพธิ์ต้นนี้เป็นหน่อจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย มีอายุมากกว่า 2,000 ปี มีตำนานเล่าขานกันมาว่า พระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าครองเมืองศรีมโหสถ ทรงมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา จึงได้ส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวตรัสรู้ แล้วนำกิ่งโพธิ์ที่ว่ามาปลูกที่วัดแห่งนี้ ปัจจุบันต้นโพธิ์ต้นนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อถึงวันวิสาขบูชาในแต่ละปี จะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ ปัจจุบันใต้ต้นโพธิ์ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ไว้ให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา รวมถึงระเบียงคตรอบต้นโพธิ์ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

2. วัดแก้วพิจิตร

           วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยเศรษฐีชาวปราจีนบุรี ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้สร้างและบูรณะวัดแห่งนี้ สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ด้วยการก่ออิฐถือปูน โดดเด่นด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของพระอุโบสถ ภายในประดิษฐานพระประธานปางอภัย ภายในถ่ายทอดเรื่องราวของเส้นสายลายศิลป์ระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรป และเขมร กำเนิดเกิดเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งรามเกียรติ์ ภาพพุทธประวัติทศชาติชาดก ตลอดจนลวดลายอันอ่อนช้อยงดงามที่ประดับอยู่บริเวณเชิงบันไดขึ้นพระอุโบสถ ด้านหน้าพระอุโบสถ มีอาคารคอนกรีตที่สร้างตามสถาปัตยกรรมแบบยุโรป เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวบเอาสิ่งของต่าง ๆ ทั้งของเก่า เครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ให้ผู้คนทั่วไปได้ศึกษา
 
3. ดาษดาแกลเลอรี่
 
 
          หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นของจังหวัดปราจีนบุรี ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจกับความสุขสดชื่น ความสวยงาม สำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบดอกไม้ บนพื้นที่กว่า 750 ไร่ ภายในจัดแสดงสวนดอกไม้ในเรือนกระจกขนาดใหญ่ ทุก ๆ โอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญในรอบปี เช่น งานปีใหม่ วันวาเลนไทน์ ทางดาษดาแกลอรี่จะมีการจัดนิทรรศการดอกไม้ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการจัดธีมงานที่ไม่ซ้ำแบบกันเลยทีเดียว นอกจากสวนดอกไม้สวย ๆ ที่ต่างหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาให้ชมแล้วนั้น ภายในยังมี Dasada Gallery Shop ร้านจำหน่ายดอกไม้ของของชำร่วย ที่ตกแต่งด้วยชิงช้าน้องหมีคู่สุดน่ารัก และ "ร้านกาแฟและไอศกรีม ลา ลันลา" ขายเบเกอรี่ กาแฟ และไอศกรีมจากดอกไม้หลากหลายรสชาติ ที่รอพร้อมเสิร์ฟจากพนักงานในร้านที่ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมากให้ตลอดเวลา ทั้งนี้ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก dasadaflower หรือโทรศัพท์ 061 404 5000
 
4. เขาทุ่ง
 
 
           ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้านอำเภอนาดี ได้รับฉายาว่าเป็นภูกระดึงแห่งภาคตะวันออก โดยรอบบริเวณบนเขาทุ่งมีลักษณะเป็นที่ราบทุ่งหญ้า เมื่อขึ้นไปยังบริเวณดังกล่าวจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ความสวยงามของที่นี่จะทำให้นักท่องเที่ยวรีบหยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์กันแทบไม่ทัน นอกจากวิวที่สวยแล้วธรรมชาติโดยรอบบริเวณของที่นี่ยังสวยงามไม่แพ้กัน ตลอดเส้นทางเราจะเห็นต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด เหล่าบรรดาดอกไม้ที่ชูช่อให้เห็นเป็นระยะ ๆ ที่สร้างสร้างสีสันทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อจนเกินไปนัก ซึ่งช่วยบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อีกทั้งมีแหล่งศึกษาธรรมชาติ และเดินป่าผจญภัยอีกด้วย ทั้งนี้ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก prachindaily
 
5. The Verona at Tublan
 

           แหล่งท่องเที่ยวสไตล์อิตาลี ที่เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งและพักผ่อนแห่งใหม่ในจังหวัดปราจีนบุรี ตั้งยู่ท่ามกลางขุนเขา โดยการออกแบบและการตกแต่งได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองเวโรน่า (Verona) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในแคว้นเวเนโต้ของประเทศอิตาลี ภายในประกอบด้วยร้านค้ามากมายกว่า 100 ร้านค้า ด้วยเพราะการตกแต่งที่สวยงามทำให้ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจำลองสะพาน ทะเลสาบ และแบบทรงอาคารที่ตกแต่งสีสันอย่างสวยงามลงตัว แถมยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น นั่งเรือกอนโดลา นั่งรถม้า ให้อาหารสัตว์ เล่นเครื่องเล่นสนุก ๆ เป็นต้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับพาครอบครัว เพื่อน คนรัก มาเดินซื้อของ และแวะทานอาหารอร่อย ๆ แถมช่วงเย็นยังมีดนตรีสดให้ได้ฟังกันอย่างเพลิดเพลิน ทั้งนี้ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก veronaattublan หรือ โทรศัพท์ 096 324 4423


6. พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
 
          อาคารสีเหลืองสไตล์บารอคริมแม่น้ำปราจีนบุรี ด้วยความสวยงามของตัวอาคารทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ จากเดิมที่ความตั้งใจของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรใช้ทรัพย์สินส่วนตัวสร้างตึกหลังนี้ เพื่อเป็นที่ประทับรับเสด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ทรงสวรรคตไปเสียก่อน ต่อมาจึงใช้เพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและเชื้อพระวงศ์อีกหลายพระองค์ จนถึงปี พ.ศ. 2482 อาคารหลังนี้ก็ได้ถูกมอบให้ทางราชการใช้เป็นอาคารพักผู้ป่วย และได้รับการบูรณะปรับเปลี่ยนการใช้งานอาคารมาเรื่อย ๆ จน "ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร" หลังนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ที่คอยให้คำแนะนำการใช้ยาสมุนไพร โดยมีแพทย์เฉพาะทางดูแลอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าถ้าใครมีอาการเจ็บป่วยตรงไหนอย่างไร ก็สามารถมาสอบถามกันได้โดยตรงจากที่นี่ ทั้งนี้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ abhaiherb.com หรือโทศัพท์ 037 213 610, 037 211 289
 
7. พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์
 
          พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ หรือพิพิธภัณฑ์ตะเกียง เป็นแหล่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ตะเกียง" ประเภทต่าง ๆ เป็นจำนวนมากกว่า 10,000 ดวง ซึ่งแขวนอยู่ทั่วบริเวณพิพิธภัณฑ์ ทั้งลานจอดรถ ห้องน้ำ ตลอดจนตามอาคารต่าง ๆ โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่เจ้าของพิพิธภัณฑ์รับซื้อของเก่าพวกเหล็ก เศษโลหะ หนึ่งในเศษเหล็กเหล่านั้นดันมีตะเกียงเจ้าพายุติดมาด้วย จนมีผู้สนใจเริ่มมาสอบถามและให้ราคาที่ค่อนข้างสูง หลังจากนั้นจึงได้เก็บสะสมและรวบรวมเพื่อจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ โดยแบ่งเป็น 4 อาคารหลัก ๆ ได้แก่ อาคารราชาวดี อาคารลีลาวดี อาคารชวนชม และอาคารเจ้าพายุ ซึ่งในแต่ละตัวอาคารจะจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณต่าง ๆ แต่เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปยังเพดาน พื้นที่แทบทุกตารางนิ้วถูกจับจองด้วยตะเกียงเจ้าพายุ ที่ผลิตจากทั่วทุกมุมโลก และรวบรวมไว้ให้เราได้ชมที่นี่ที่เดียว ทั้งนี้ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์-พิพิธภัณฑ์ตะเกียง หรือโทรศัพท์ 037 218 511, 037 218 512, 081 295 8218, 081 864 8218
 
8. แก่งหินเพิง
 
 
          สถานที่ล่องแก่งยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในแต่ละปีจังหวัดปราจีนบุรีจะมีการจัด "เทศกาลล่องแก่งหินเพิง" ตลอดทุกช่วงฤดูฝน ยิ่งทำให้ชื่อเสียงการเล่นล่องแก่งที่ "แก่งหินเพิง" เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยแก่งหินเพิงมีลักษณะเป็นลำน้ำใสใหญ่ ต้นธารน้ำมีต้นกำเนิดจากยอดเขาใหญ่แล้วไหลเรื่อยมาจนถึงบริเวณแก่งหินเป็นระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร แต่ส่วนที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้เป็นกิจกรรมล่องแก่งได้เป็นระยะทางสั้น ๆ เพียงแค่ 3-4 กิโลเมตร ตรงบริเวณส่วนปลายของลำน้ำ โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าหน้าที่จะพายเรือยางของเราผ่านแก่งสำคัญ ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง, แก่งผักหนามล้อม, แก่งวังบอน, แก่งลูกเสือ, แก่งวังยาว, แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า เป็นต้น ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 8 กลุ่มจังหวัดเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โทรศัพท์ 037 312 282, 037 312 284
 
9. อุทยานแห่งชาติทับลาน
 
 
อุทยานแห่งชาติทับลาน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติทับลาน
 
          ด้วยลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติทับลานที่ประกอบด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับต่อเนื่องเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ภูมิทัศน์ของอุทยานแห่งนี้มีความสวยงาม และเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำหลาย ทั้งนี้ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น "เขามะค่า" ชมทัศนียภาพทิวทัศน์บนภูเขาที่สวยงาม, "เขื่อนลำปลายมาศ" มีกิจกรรมล่องเรือ ล่องแพ และสามารถลงเล่นน้ำได้, "น้ำตกบ่อทอง" เป็นน้ำตกที่สวยงามมากหากได้มาในช่วงฤดูฝน แวะชม "ป่าลาน" ป่าลานผืนใหญ่แห่งสุดท้ายของประเทศไทย มีต้นลานเป็นพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ในวงศ์ปาล์ม มีใบใหญ่เป็นรูปพัดคล้ายใบตาล และ "ผาเก็บตะวัน" ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ทั้งยังเป็นที่ตั้งของหลักแบ่งเขตระหว่างจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น ทั้งนี้ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ tourismthailand.org หรือโทรศัพท์ 037 486 771, 037 219 408

10. น้ำตกเขาอีโต้
 
          ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านพระ ลักษณะน้ำตกเป็นลำธารน้ำที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สภาพทั่วไปเป็นป่าโปร่ง จุดเด่นของน้ำตกเขาอีโต้นั่นคือนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปนั่งพักผ่อนตามแนวโขดหินของตัวน้ำตก เพื่อสัมผัสกับสายน้ำที่ไหลผ่านตลอดแนวหิน อีกทั้งภายในตัวน้ำตกมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่คอยทำหน้าที่ให้ร่มเงา นักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกมุมสำหรับนั่งพักผ่อนได้ตามใจชอบ ที่นี่ยังมีจุดชมวิวผาหินซ้อน มีลักษณะเป็นหน้าสูง สามารถเดินขึ้นไปเพื่อชมทัศนียภาพเมืองปราจีนบุรี และชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน มีสายลมเย็น ๆ ที่โบกมาทักทาย ช่วยให้การพักผ่อนของเราผ่อนคลายได้มากขึ้นเลยทีเดียว

11. โบราณสถานเมืองศรีมโหสถ
 
          เมืองโบราณสมัยทราวดีขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน ภายในเมืองมีโบราณสถาน เนินดิน สระน้ำ บ่อน้ำกระจัดกระจายกว่า 100 แห่ง โบราณสถานที่สำคัญในเมืองศรีมโหสถประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถานกลางเมือง เป็นหมู่เทวาลัย ฐานก่อด้วยศิลาแลง ด้านบนก่อด้วยอิฐ ด้านหลังมีบ่อน้ำก่อด้วยศิลาแลง โบราณวัตถุที่ขุดพบ ได้แก่ เทวรูปต่าง ๆ และเศษเครื่องปั้นดินเผา สมัยลพบุรี สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ และโบราณสถานสระแก้ว เป็นโบราณสถานที่เป็นสระน้ำโบราณ สระน้ำขุดลงไปในชั้นของศิลาแลงธรรมชาติ ตัวสระเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีทางลงทำเป็นขั้นบันได ผนังขอบสระทุกด้านมีการแกะสลักภาพนูนต่ำเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น รูปช้าง สิงห์ หมู กินรี งูพันเสา สัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์ชั้นสูง สถานแห่งนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความสนใจในโบราณสถาน เป็นตำราความรู้นอกห้องเรียนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง
 
12. อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์
 
          อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณเชิงเขาอีโต้ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางความเป็นธรรมชาติ จากปากทางเข้าอ่างเก็บน้ำให้เลี้ยวซ้ายจะมีถนนขึ้นไปจนถึงยอดเขาเพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร และช่วงกิโลเมตรที่ 6 จะเป็น "เนินพิศวง" หรือ "เนินมหัศจรรย์" ยาวประมาณ 150 เมตร หากจอดรถแล้วปล่อยเกียร์ว่างไว้รถจะไหลขึ้นเนินได้ ซึ่งเกิดจากภาพลวงตาจากภูมิประเทศโดยรอบ

          สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวบนอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถ เดิน หรือปั่นจักรยานไปตามแนวสันเขื่อน ถ้าจะให้ดีขอแนะนำว่าให้มาในช่วงเช้า ๆ ที่อากาศยังไม่ร้อนมาก และยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าหนาว อากาศกำลังเย็นสบาย รับรองว่าคุณจะได้สูดอากาศสดชื่นอย่างเต็มปอด ทั้งยังได้ชมความสวยงามของพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ส่องแสงเรืองรองบนท้องฟ้า หรือถ้าเกิดว่ามาในช่วงเช้าไม่ทัน ก็สามารถมานั่งรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับชมวิวธรรมชาติที่ร้านอาหารอร่อย ๆ ตามบริเวณริมอ่างเก็บน้ำได้เช่นกัน

          ไม่น่าเชื่อว่า "ปราจีนบุรี" จังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้จะมีที่เที่ยวเยอะแยะมากมายขนาดนี้ นี่อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งของที่ท่องเที่ยวทั้งหมดเท่านั้นนะคะ ยังมีของดีของเด็ดที่แอบซ่อนอยู่เพียบ ของอย่างนี้มันต้องลองไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยตาตัวเอง แล้วคุณจะพบกับความสุขกับการเดินทางไปยังจังหวัดปราจีนบุรีเที่ยวนี้อย่างแน่นอน

ตั๊กออแกไนท์ปราจีนบุรี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคปราจีนบุรี
นางรำปราจีนบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคปราจีนบุรี
ปราจีนบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคปราจีนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคปราจีนบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคปราจีนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคปราจีนบุรี

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


269
10 ที่เที่ยวตราด จังหวัดมากเสน่ห์ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง
1. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
          ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด ตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอเมืองตราด เป็นศาลหลักเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น แตกต่างจากที่อื่นตรงที่มีสถาปัตยกรรมแบบเก๋งจีน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือเสาหลักเมือง ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านมาก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นพร้อมกับวัดโยธานิมิต เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยังเป็นพระยาวชิรปราการ เดินทางมารวบรวมไพร่พลเพื่อกู้ชาติที่เมืองตราด อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญของที่นี่คือศิวลึงค์ศิลา พบที่บ้านห้วยแร้ง อำเภอเมืองตราด และในวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี จะมีการจัดงาน "วันงานพลีเมือง" ที่ชาวจีน เรียกกันว่า "วันเซี่ยกงแซยิด" ซึ่งหมายถึงวันเกิดของเจ้าพ่อหลักเมืองนั่นเอง
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
2. ศาลเจ้าแม่ทับทิม
          ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองใหญ่ สร้างขึ้นในช่วง พ.ศ. 2472-2474 และมีการจัดงานเทศกาลประจำปีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2507 จนถึงปัจจุบัน และเนื่องจากมีประชาชนมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก ทำให้สถานที่คับแคบ คณะกรรมการบริหารศาลเจ้าแม่ทับทิมจึงมีมติให้ก่อสร้างศาลหลังใหม่ขึ้น จัดพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2545 เวลา 11.49 น. ส่วนศาลหลังเก่านั้นยังคงอนุรักษ์ไว้
3. วัดไผ่ล้อม
          วัดที่มีความสำคัญที่สุดต่อการศึกษาของจังหวัดตราด ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง ตำบลบางพระ อำเภอเมือง ด้วยเป็นที่พำนักของท่านเจ้าคุณพระวิมลเมธาจารย์ วรญาณนุรักษ์ สังฆปราโมก บิดาแห่งการศึกษาจังหวัดตราดนั่นเอง นอกจากนี้ผู้มาเยือนยังจะได้ชมสวนพุทธธรรมที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม และเจดีย์พิพิธภัณฑ์สามท่านเจ้าคุณ ปูชนียบุคคลผู้เป็นที่เคารพบูชาของชาวตราดยิ่งนัก
วัดไผ่ล้อม
4. วัดโยธานิมิต หรือวัดโบสถ์
          เป็นวัดหลวงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดตราด สร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชรวบรวมไพร่พลที่เมืองตราด แต่เสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของบรรดาข้าราชการตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้เปลี่ยนมาทำพิธีที่วัดไผ่ล้อม ภายในวัดมีพระอุโบสถศิลปะแบบอยุธยา มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก ปัจจุบันกลายเป็นพระวิหาร เรียกว่า วิหารโยธานิมิต และเป็นที่เก็บโบราณวัตถุ เช่น หนังสือใบลาน คัมภีร์เทศน์และรอยพระพุทธบาท
5. วัดบุปผาราม (วัดปลายคลอง)
          วัดเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดตราด ตั้งอยู่ที่บ้านปลายคลอง ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมือง โดยชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดปลายคลอง" สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2191) ต่อมาภายหลังท่านพระครูคุณสารพิสุทธิ์ (หลวงพ่อโห) อดีตเจ้าอาวาสในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะถาวรวัตถุในวัด จนมาถึงสมัยปัจจุบัน

          ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์วัดบุปผาราม แหล่งรวบรวมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปทองบุเงิน พระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยยุโรป กลองมโหระทึก, ภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ภายในพระอุโบสถและวิหารพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งเป็นภาพที่เขียนขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์โดยฝีมือช่างท้องถิ่น มีการผสมผสานศิลปะจีนและวรรณคดีจีน แสดงให้เห็นว่าวัดแห่งนี้อาจได้รับการอุปถัมภ์จากชาวจีนที่มาค้าขายแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกในสมัยนั้น ฯลฯ

6. วัดคีรีวิหาร
          ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเลื่อน อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี เดิมชื่อว่า วัดท่าเลื่อน หรือ วัดภูเขายวน ตั้งอยู่ในทำเลซึ่งมองเห็นวิวทิวทัศน์ของป่าเขาและท้องทะเลได้อย่างชัดเจน อาณาบริเวณวัดมีความสงบ ร่มรื่นด้วยสวนป่าสักที่ปลูกเรียงรายเป็นระเบียบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือน จะได้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่น่าสนใจภายในวัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระอุโบสถหลังใหญ่ พระเจดีย์ เรือนรับรองสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กุฏิธรรมสารอุทิศและกุฏินิรมิตสามัคคี ศาลาการเปรียญ วิหารจีนอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธอุดมสมบูรณ์ พระอวโลกิเตศวร และพระสังกัจจายน์ ที่ผู้คนนิยมเข้ามาสักการบูชาอยู่เสมอ
7. เกาะช้าง
          เกาะที่เปรียบเสมือนเป็นอัญมณีของท้องทะเลตราด อุดมด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ใครที่อยากสัมผัสเกาะช้างในบรรยากาศที่เงียบสงบ แนะนำให้มาบริเวณหาดทางตอนใต้ หรือใครที่อยากสัมผัสสีสันความสนุกคึกคัก แนะนำว่าให้มาบริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ชายหาดที่มีชื่อเสียงของเกาะช้าง ได้แก่ หาดคลองสน, หาดทรายขาว, หาดคลองพร้าว และหาดไก่แบ้ เป็นต้น โดยแต่ละหาดจะเชื่อมยาวถึงกัน แถมบริเวณรอบ ๆ เกาะช้าง ก็ยังมีเกาะน้อยใหญ่สวย ๆ อีกมากมายที่สวยงามไม่แพ้กัน เช่น เกาะช้างน้อย, เกาะเหลายา, เกาะคลุ้ม, เกาะง่าม และเกาะหมาก เป็นต้น บอกเลยว่าธรรมชาติแต่ละเกาะ สวยงามประทับใจคนไปเที่ยวแน่นอน
8. พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด
          พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด ตั้งอยู่บริเวณถนนสันติสุข ใกล้กับศาลากลางจังหวัดตราด และอนุสาวรีย์เสด็จพ่อ ร.5 โดดเด่นด้วยอาคารไม้เก่าแก่ มีลักษณะเป็นเรือนไม้เสาปูน ยกพื้น ใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา ภายในจัดแสดงถึงประวัติของเมืองตราด เรื่องราวสำคัญต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดตราด พร้อมทั้งวัฒนธรรมประเพณีของคนตราด อีกทั้งยังแนะนำถึงสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ห้ามพลาดของจังหวัดตราด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก ๆ ที่อยากให้มาเยือนเมื่อมาเที่ยวตราด

9. พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5
          พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดตราด ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนตราดให้ความสำคัญมาก เพราะตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีการเสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ ประมาณ 24 ครั้ง โดยเฉพาะเมืองตราดที่พระองค์เสด็จประพาสมากถึง 12 ครั้งด้วยกัน จึงทำให้ชาวตราดมีความผูกพันกับในหลวง รัชกาลที่ 5 อย่างมาก หากใครวางแผนไปเที่ยวตราดก็อย่าลืมแวะไปที่อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 กันนะ
10. เกาะหมาก
          ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างและเกาะกูด เสน่ห์ของเกาะหมากอยู่ที่ความเงียบสงบ ไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวบันเทิงมากนัก น้ำทะเลใสแจ๋ว จะเล่นน้ำหรือชมปะการังสวย ก็ทำได้จุใจ แนะนำว่าการไปเที่ยวเกาะหมากควรไปเที่ยวแบบค้างคืน เพราะว่าตัวเกาะอยู่ห่างจากฝั่งค่อนข้างมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวควรซื้อแพ็กเกจจากทางที่พักบนเกาะหมากไปก่อนล่วงหน้า จะเป็นการสะดวกที่สุด สำหรับกิจกรรมห้ามพลาดบนเกาะหมาก นั่นคือ การดำน้ำ ซึ่งจุดที่สามารถดำน้ำชมปะการังได้อย่างสวยงาม ได้แก่ บริเวณหมู่เกาะรัง, เกาะยักษ์ใหญ่, เกาะยักษ์เล็ก และเกาะมะปริง เป็นต้น

ตั๊กออแกไนท์ตราด รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคตราด
นางรำตราดเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคตราด
ตราดรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคตราด
รําบวงสรวงพญานาคตราด
ฟ้อนบูชาพญานาคตราด
รําบวงสรวงพญานาคตราด

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


270
10 ที่เที่ยวจันทบุรี หลากหลายความสนุก อยากเที่ยวแบบไหนจัดเลย

1. อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ

           เริ่มกันกับสถานที่แรกคือ "อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ" เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี เนื่องจากสภาพป่าในบริเวณนี้มีหลากหลายและอุดมสมบูรณ์รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายากจำนวนมาก ซึ่งภายในยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ "น้ำตกกระทิง" มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาคิชฌกูฏ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มี 13 ชั้น, "ยอดเขาพระบาท" ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฎ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนา โดยสามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้

          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะกำหนดจัดงานนมัสการพระบาทพลวง ณ เขาคิชฌกูฏ เป็นประจำทุกปีในช่วงขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งประชาชนจะนิยมไปนมัสการรอยพระบาทพลวงเป็นจำนวนมากเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง

          + เขาคิชฌกูฏ 2563 นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง วันที่ 25 มกราคม - 24 มีนาคม

2. ตึกแดง

           ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ บริเวณท่าเรือแหลมสิงห์ ใกล้กับคุกขี้ไก่ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 30 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 เดิมเป็นที่ตั้งของป้อมพิฆาตปัจจามิตร ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ต่อมาเมื่อฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรีได้รื้อป้อมแห่งนี้ลง และสร้างตึกแดงขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักและกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส เป็นตึกชั้นเดียว สีแดง หลังคามุงกระเบื้อง และเปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 08.30-16.30 น.

3. คุกขี้ไก่

         ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 ตั้งอยู่ใกล้กับตึกแดง เมื่อฝรั่งเศสได้เข้ายึดจันทบุรีในกรณีพิพาท เรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก ผนังก่ออิฐ มีช่องระบายอากาศอยู่สองแถว หลังคาโปร่ง เล่ากันว่าเป็นคุกที่ทรมานมาก เพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลราดศีรษะนักโทษที่ถูกคุมขังตลอดเวลา


4. ค่ายตากสิน

         ตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวง ภายในประกอบด้วยอาคารเก่าแก่หลายแห่งมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบยุโรป นั่นก็เพราะว่าที่นี่เคยเป็นที่ตั้งค่ายกองกำลังของทหารฝรั่งเศสในช่วง ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทหารฝรั่งเศสได้สร้างอาคารไว้หลายหลัง เช่น อาคารกองรักษาการณ์ทหารฝรั่งเศส, อาคารที่คุมขัง, อาคารกองบัญชาการทหาร, อาคารคลังพัสดุ, อาคารที่พักทหารรักษาการณ์ฝรั่งเศส, อาคารซ่อมบำรุงและสรรพาวุธ, คลังกระสุนปืนดินดำ เป็นต้น


         การเข้าเที่ยวชมค่ายตากสิน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมเฉพาะในโซนศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและอาคารโบราณสถานต่าง ๆ เท่านั้น เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถนำรถเข้าไปจอดบริเวณด้านในค่ายได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง โทรศัพท์ 0 3865 5420
 

5. สถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 2 ลุ่มน้ำเวฬุ

           ตั้งอยู่บริเวณบ้านท่าสอน ตำบลบ่อ อำเภอขลุง มีพื้นที่ 120,000 ไร่ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 18 กิโลเมตร บนเส้นทางถนนสุขุมวิท ประมาณ กิโลเมตร ที่ 374-375 เป็นป่าชายเลนลุ่มน้ำเวฬุ อยู่ในความดูแลของสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน จันทบุรี) ป่าชายเลนมีพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น โกงกาง แสม ลำพู แต่ละจุดแสดงจะมีป้ายสื่อความหมายไว้ โดยไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของที่นี่คือการชมหิ่งห้อยในป่าชายเลน โดยไม่ต้องลงเรือ เพราะมีถนนคนเดินยาว 2 กิโลเมตรครึ่ง ลดเลี้ยวเข้าไปในป่าชายเลน มีหิ่งห้อยนับแสนตัวเปล่งแสงระยิบระยับตลอดสองข้างทาง มีที่จอดรถกว้างขวางก่อนจะเข้าป่าชายเลน
 
           ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน จันทบุรี) โทรศัพท์ 061 683 0926 หรือเฟซบุ๊ก ศูนย์การเรียนรู้เชิงนิเวศป่าชายเลนท่าสอน จ.จันทบุรี

6. เที่ยวย่านท่าหลวง เที่ยวชมย่านเก่าริมแม่น้ำ

           ย่านท่าหลวงตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง เป็นย่านการค้าเก่าของเมืองจันทบูรณ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี เป็นชุมชนย่านเก่าแก่ของจีนและญวนมาตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ และรุ่งเรืองมากในสมัยรัชกาลที่ 5 สามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศย้อนยุคอย่างสบาย ๆ มองหาอาคารเรือนแถวที่สร้างตามแบบโคโลเนียล ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมลูกครึ่งฝรั่งผสมจีน ลักษณะอาคารเรียงโค้งกันเป็นแถว และประดับชายคาด้วยแป้นไม้แกะฉลุลวดลายโปร่งตา


           ร้านค้าหลายร้านยังคงสภาพแบบดั้งเดิมไว้ เช่น ร้านตัดผมเรือนไม้, ร้านขายยาจีนแผนโบราณ, บ้านหลวงราชไมตรี ผู้ได้รับฉายา "บิดาแห่งยางพาราภาคตะวันออก" คหบดีแห่งย่านท่าหลวง ซึ่งบุกเบิกการค้ายางพาราในจังหวัดนี้ ตัวบ้านสร้างแบบโคโลเนียล และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง "โหมโรง" และละคร "อยู่กับก๋ง" ทั้งนี้ แวะร้านไอศกรีม "จรวด" เป็นทั้งร้านอร่อย และโรงงานแรกของจังหวัดที่ใช้เครื่องจักรผลิตไอศกรีมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 เป็นต้นมา ซึ่งยังคงบรรยากาศเก่าแก่ของตัวอาคารแบบโคโลเนียลไว้ และแวะที่ร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ ชื่อร้าน "ทำสี" ที่ขายดี เช่น เสื้อยืด โปสการ์ด แม่เหล็กติดตู้เย็น และของใช้จุกจิก

           - 12 ที่พักจันทบุรีในเมือง นอนสบาย เดินทางเที่ยวแสนสะดวก

          - 10 ร้านกาแฟจันทบุรี บรรยากาศดีต่อใจ มาแล้วต้องเช็กอินให้ครบ

          - เที่ยวจันทบุรี 2 วัน 1 คืน แวะนอนพักโฮมสเตย์ เดินเล่นชุมชนริมน้ำชิล ๆ

7. อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
 
           ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแหลมสิงห์ บนเทือกเขาสระบาป มีเนื้อที่ 84,063 ไร่ มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ และยังสัตว์ป่าต่าง ๆ หลายชนิดเช่น โดยที่มาของชื่อน้ำตกคือคำว่า "พลิ้ว" กล่าวกันว่าเป็นภาษาชอง ซึ่งเป็นเจ้าของถิ่นเดิม แปลว่า ทราย หรือ หาดทราย แต่เข้าใจกันว่าน้ำตกพลิ้วคงจะได้ชื่อมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งชอบขึ้นในดินปนทราย เป็นไม้เถามีดอกเป็นผลเล็กขนาดลูกเกด สีเหลืองอมแดง ขึ้นทั่วไปในแถบนี้ สำหรับน้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

8. หาดเจ้าหลาว

           ชายหาดชื่อดังที่ตั้งอยู่ในตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ อยู่ทางทางด้านตะวันออกของอ่าวคุ้งกระเบน และอยู่ก่อนถึงตัวเมืองจันทบุรี 60 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่มีชื่อแห่งหนึ่งของเมืองจันท์ เพราะมีชายหาดที่สวยงาม มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว หาดทรายจะเป็นสีแดงละเอียด ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของหาดทรายเมืองจันท์ รวมทั้งหาดทรายของหาดเจ้าหลาวยังทอดยาวไปจดเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกทำมากมาย เช่น เล่นน้ำทะเล, บานาน่าโบ๊ต, ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งเพียง 2 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีเรือท้องกระจกให้บริการอีกด้วย

          - 10 ที่พักหาดเจ้าหลาว พักผ่อนยาว ๆ เคล้าบรรยากาศริมทะเล

          - 5 ทะเลจันทบุรี บรรยากาศเป็นส่วนตัวดีต่อใจ เที่ยววนไปก็ไม่เบื่อ

9. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

           เป็นสถานที่สำคัญสำหรับศึกษาค้นคว้าและวิจัย เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดจันทบุรีโครงการหนึ่งที่ศูนย์ทำขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษาสภาพธรรมชาติ ก่อให้เกิดความเข้าใจระบบนิเวศในป่าชายเลน และรู้จักใช้ทรัพยากรเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือ สะพานเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริใช้เวลาเพียง 30-45 นาที บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1,600 เมตร มีจุดสื่อความหมายธรรมชาติอยู่ตามบริเวณจุดต่าง ๆ เป็นแหล่งอาหารธรรมชาติ ตลอดจนแหล่งสมุนไพรสำหรับชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบอีกด้วย

           สำหรับที่นี่เปิดทุกวันเวลา 06.30-18.00 น. การเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้าที่ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นอกจากนี้ ทางศูนย์ยังมีบริการบ้านพักสำหรับบริการหน่วยงานรัฐที่ไปจัดอบรมสัมมนาโดยติดต่อล่วงหน้า โทรศัพท์ 0 3936 9216-8 โทรสาร 0 3936 9219 หรือ fisheries.go.th และ เฟซบุ๊ก ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

10. ถนนอัญมณี

           "ถนนอัญมณี" หรือ "ตลาดพลอย" ตั้งอยู่ภายในบริเวณถนนศรีจันท์และซอยกระจ่าง นับเป็นถนนเศรษฐกิจของจังหวัด เพราะเป็นที่ตั้งของร้านเจียระไนพลอยและร้านค้าอัญมณีต่าง ๆ ซึ่งอาจนับได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นตลาดค้าพลอยเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ในวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ยังสามารถเห็นบรรยากาศการซื้อขายพลอยของพ่อค้าพลอย ที่เดินทางมาจากที่ต่าง ๆ กันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ตั๊กออแกไนท์จันทบุรีรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคจันทบุรี
นางรำจันทบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคจันทบุรี
จันทบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคจันทบุรี
รําบวงสรวงพญานาคจันทบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคจันทบุรี
รําบวงสรวงพญานาคจันทบุรี



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 ... 30