สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - admin

หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 29
226
เดินทอดน่องท่องฝั่งธนฯ “บางกอกใหญ่-บางกอกน้อย” ยลหลากศาสนสถาน ผ่านเรื่องเล่า

ตั้งแต่มีโครงการ

“กรุงเทพฯ เดินเที่ยว : Walking Bangkok” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นั้น ได้นำเสนอไปหลายเส้นทางจนกลายเป็นที่รู้จัก เพื่อให้ชาวกรุงได้ช่วยกันเผยภาพมนต์เสน่ห์ของเมืองหลวงที่มีหลากหลายเรื่องราว คราวนี้ก็ถึงตาที่ฉันจะได้ร่วมทริปเดินเที่ยวเส้นทางใหม่ ที่ไม่ว่าใครๆ ย่อมรู้จักดี นั่นคือ “ย่านบางกอกใหญ่และบางกอกน้อย” ถือว่าเป็นย่านเก่าแก่ที่มีมานาน ไม่ว่าจะเป็นวัดต่างๆ พร้อมสถานที่ชอปปิ้งยอดฮิตอย่างวังหลัง


การเดินทางของฉันในวันนี้จะเริ่มแรกกันที่ “วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร” หรือ "วัดท้ายตลาด" เป็นวัดโบราณสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดท้ายตลาด เพราะอยู่ต่อจากตลาดเมืองธนบุรี ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชศรัทธาปฏิสังขรณ์ทั้งพระอาราม และทรงขนานนามใหม่ว่า “วัดโมลีโลกย์สุธารามอาวาศวรวิหาร พระอารามหลวง” เรียกสั้นๆ ว่า “วัดโมลีโลกย์สุธาราม” ซึ่งภายหลังเรียกว่า “วัดโมลีโลกยาราม” ซึ่งถ้ามาวัดนี้แล้วไม่ควรพลาดนั่นคือ “พระวิหารฉางเกลือ” เป็นศิลปกรรมไทย-จีน ปูชนียสถานที่เก่าแก่ที่สุดของวัด สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงใช้เป็นสถานที่เก็บเกลือ เพราะสมัยนั้นเกลือมีความสำคัญในการถนอมอาหารในการเดินทัพ นับเป็นยุทธปัจจัยสำคัญในการรบ จึงเรียกกันว่ามีหนึ่งเดียวในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์

พระวิหารแห่งนี้มีลักษณะพิเศษที่หาดูได้ยาก เพราะภายในกั้นเป็น 2 ตอน ตอนหน้าเป็นห้องโถงใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยต่างๆ ส่วนตอนหลังเป็นห้องเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ นามว่า “พระปรเมศ” ผนังและเพดานเขียนลวดลายงดงาม ประตูและหน้าต่างทุกช่องเขียนลายรดน้ำ สวยสดงดงามอย่างยิ่ง


ต่อมาเราเดินเท้ามาถึง “วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร” ที่อยู่ไม่ไกลนัก เป็นพระอารามสำคัญที่เคยเป็นวัดโบราณสมัยอยุธยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงชักชวนสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ร่วมบูรณปฏิสังขรณ์วัดหงส์ เนื่องจากอยู่ใกล้พระราชวังของพระองค์ แต่การยังไม่แล้วเสร็จ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีก็สิ้นพระชนม์ก่อน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงรับพระราชภาระในการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ จนกระทั่งการบูรณะเสร็จแต่ยังไม่บริบูรณ์นัก ก็เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงปฏิสังขรณ์ต่อมาจนแล้วเสร็จสวยงาม และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดหงส์รัตนาราม” นอกจากนั้นวัดหงส์รัตนารามนี้ ถือว่าเป็นวัดประจำพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกด้วย

โดยภายในพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์นวโลหะ "หลวงพ่อแสน" เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถเบื้องหน้าพระองค์พระประธาน จัดเป็นพระพุทธรูปสำคัญและงามเป็นพิเศษแตกต่างจากบรรดาพระพุทธรูปอื่นๆ เป็นพระเก่าโบราณที่หาชมได้ยาก


ออกเดินทางไปที่ วัดนาคกลางวรวิหาร วัดนาคกลางเดิมเป็นวัดโบราณ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ความเป็นมาตอนหนึ่งว่า เดิมมี 3 วัด ซึ่งได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี มีพระพุทธรูปสำคัญที่รู้จักกันดีอย่าง หลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ เป็นพระพุทธรูปปางฉันสมอ หรือปางถือสมอ นั่งขัดสมาธิเพชร ปางมารวรวิชัย ห่มจีวรคล้ายทางจีนและทิเบต พระเกศเป็นแบบบัวตูม พระหัตถ์ซ้ายทรงผลสมอ สันนิษฐานว่าลอยน้ำมาจากทิศเหนือ ถูกอัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ วัดนาคกลางวรวิหาร หลายร้อยปีแล้ว


นอกจากนั้นยังมี “ศาลาสุธรรมภาวนา” ศาลาที่ประทับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานพระพุทธนิมิตฯ (หลวงพ่อทอง) และพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในพระอิริยาบถต่างๆ จำนวน 9 พระองค์ครึ่ง พร้อมทั้งทหารเสือคู่พระทัย ไว้ให้กราบสักการะอีกด้วย


ต่อจากนั้นเราก็เดินทางสู่ "วัดระฆังโฆษิตาราม" ชมหอไตรที่มีความงดงาม หรือในอีกชื่อเรียกว่า “ตำหนักจันทน์” เดิมเคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งทรงรับราชการเป็นที่พระราชวรินทร์เจ้ากรมพระตำรวจนอกฝ่ายขวา ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงรื้อไปถวายวัดบางหว้าใหญ่ ในคราวเสด็จเป็นแม่ทัพไปตีเมืองโคราช เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ จึงโปรดให้ปฏิสังขรณ์เพื่อใช้เป็นหอพระไตรปิฎก โดยขุดพื้นที่บริเวณที่พบระฆังออกเป็นรูปสี่เหลี่ยม ก่ออิฐกั้นเป็นสระแล้วรื้อพระตำหนักจากที่เดิมมาปลูกลงในสระ เมื่อดำเนินการเสด็จโปรดให้มีการสมโภชและปลูกต้นจันทน์ไว้ 8 ต้น อันเป็นเหตุให้เรียกหอไตรนี้ว่า “ตำหนักจันทน์”

ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลศิริราช โดยเดินผ่านสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง "วังหลัง" ซึ่งมี กำแพงวังหลัง ที่เหลือเพียงช่วงเดียวในพื้นที่ได้โชว์ไว้ให้ดูอีกด้วย เมื่อถึงโรงพยาบาลศิริราชแล้ว ฉันเดินไปที่ "พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน" ที่นี่เมื่อก่อนนั้นเคยเป็นสถานีรถไฟบางกอกน้อยมาก่อน รวมทั้งเป็นที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติของวังหลัง หรือ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข, เรื่องราวสงครามมหาเอเชียบูรพา, นิทรรศการกำเนิดโรงพยาบาลศิริราช และภูมิปัญญาบางกอกน้อย เอาไว้เป็นที่ระลึกถึง ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีมากแห่งหนึ่งในประเทศ

พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน

ตั๊กออแกไนท์บางกอกใหญ่ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
นางรำบางกอกใหญ่เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
บางกอกใหญ่รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
ฟ้อนบูชาพญานาคบางกอกใหญ่
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกใหญ่
 

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


227
ที่เที่ยว ที่กินบางกอกน้อย ย่ำรอยประวัติศาสตร์เก่าในกรุงเทพฯ

ใครที่คิดว่าบางกอกน้อยไม่ค่อยจะมีที่ให้เราเดินเที่ยวเล่นเท่าไร อาจจะต้องเปลี่ยนความคิด เพราะย่านนี้มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ และแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เผลอ ๆ บางทีเพื่อน ๆ อาจจะยังไม่เคยรู้จักเลยด้วยซ้ำ

1. ตลาดวังหลัง


          ย่านช้อปปิ้งชื่อดังฝั่งธนบุรี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างท่าน้ำศิริราชและถนนอรุณอมรินทร์ ทุกวันที่นี่จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่บ้างมาจับจ่าย บ้างมาเดินทอดน่อง บ้างมาหาของกินอร่อย ๆ เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่ราคาสินค้าน่าคบน่าซื้อหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้ามือสอง ใครที่อยากจะอัปเดตแฟชั่นใหม่ ๆ เก๋ ๆ มาเที่ยวที่นี่ไม่มีคำว่าผิดหวัง

2. พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน


          ตั้งอยู่ภายในบริเวณโรงพยาบาลศิริราช เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งด้านประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรม และความก้าวหน้าทางการแพทย์ ภายในแบ่งออกเป็นห้องจัดแสดงต่าง ๆ เช่น ห้องศิริราชขัตติยพิมาน, ห้องสถานพิมุขมงคลเขต, มีภาพยนตร์ 4 มิติ ให้ได้ชมเหตุการณ์จริงตั้งแต่ช่วงการสร้างสถานีแห่งนี้ เข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2, ห้องงานพระเมรุสมเด็จเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ และห้องสมเด็จพระบรมราชชนนี บอกเล่าเรื่องราวของโรงเรียนแพทย์ในยุคแรก ที่จะต้องเรียนรู้ผ่าน "หุ่นกายวิภาคมนุษย์" เป็นต้น

3. สถานีรถไฟธนบุรี


          ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ที่นี่เป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนี้ ที่ยังคงใช้สัญญาณหางปลา นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียง ยังมี "โรงรถจักรธนบุรี" ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษาซ่อมแซมรถจักรดีเซลที่สำคัญแห่งหนึ่งของการรถไฟฯ และยังเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำที่เหลืออยู่ของการรถไฟฯ ซึ่งยังคงใช้การได้อีก 5 คัน และได้มีการนำมาวิ่งเป็นขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญ ๆ อยู่เป็นประจำ

4. พิพิธภัณฑ์ชุมชนตรอกข้าวเม่า


          ชุมชนเก่าแก่ย่านบางกอกน้อย ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเป็นหมู่บ้านในสวน เรียกว่า "บ้านข้าวเม่า" เพราะเกือบทุกหลังคาเรือนทำข้าวเม่าขาย พลาดไม่ได้กับการเข้าชม "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านข้าวเม่า" ภายในจัดแสดงวิถีชีวิต อาชีพดั้งเดิม ภาพเก่าเล่าเรื่อง สาธิตภูมิปัญญาการทำขนมไทยโบราณ ตามตำรับดั้งเดิม การกวนกาละแมเม็ด การทำข้าวเม่าหมี่ที่หาทานได้ยาก ซึ่งข้าวของทั้งหมดได้มาจากชาวบ้านในชุมชน ทั้งหมดก็เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาและเห็นอุปกรณ์จริง ๆ นั่นเอง

5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี


          ตั้งอยู่ปากคลองบางกอกน้อย ถนนอรุณอมรินทร์ หรือตรงข้ามสถานีรถไฟบางกอกน้อย เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมเรือพระราชพิธีสำคัญ ที่ล้วนแล้วสวยงามและทรงคุณค่า ทั้งในแง่ศิลปกรรมและประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาฝีมือช่างชั้นเลิศ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี มีจำนวน 2 อาคาร ได้แก่ อาคารสำนักงาน และอาคารจัดแสดงเรือพระราชพิธี จำนวน 2 ลำ จัดแสดงโขนเรือนารายณ์ทรงสุบรรณเก่า ซึ่งเป็นต้นแบบเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ในหลวง รัชกาลที่ 9 และจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ประกอบในพระราชพิธีชลมารค (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ finearts.go.th หรือโทรศัพท์ 02 424 0004

6. ตลาดไร้คาน


          ตั้งอยู่ภายในชุมชนบ้านบุ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนกรุงที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านบุ และเครือข่ายต่าง ๆ ที่มุ่งหวังอยากจะเห็นการฟื้นฟูวิถีชีวิตชุมชนเก่าแก่และวัฒนธรรมชุมชนเอาไว้ ภายในเต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายอาหารคาว-หวาน รวมไปถึงขนมตำรับโบราณหากินยาก เช่น ขนมเรไร, ขนมเบื้องญวน เป็นต้น โดยเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดไร้คาน หรือโทรศัพท์ 084 681 8382)

7. ชุมชนบ้านบุ

          ชุมชนเก่าแก่ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย มีชื่อเสียงในด้านหัตถกรรมการทำ "ขันลงหิน" อันเป็นมรดาสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นสิ่งที่หาดูได้ยาก เพราะได้รับการสืบสานทางภูมิปัญญาน้อยลงด้วยนั่นเอง อีกทั้งยังได้รับการคัดสรรให้เป็นสินค้า OTOP ที่เป็นที่ต้องการทั้งตลาดทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเพราะความประณีตในแต่ละชิ้นงาน ที่สะท้อนศิลปะและภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ชาติใดก็ยากจะลอกเลียนแบบ

8. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร


          อีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยเดินทางมาทำบุญกันที่นี่เป็นจำนวนมาก ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยแล้ว ยิ่งหนาตากว่าทุกวัน ใครที่ไหว้พระในพระอุโบสถเสร็จแล้ว อย่าลืมแวะมาชม "ตำหนักจันทน์" หรือ "หอพระไตรปิฎก" เรือนไม้แฝด 3 หลัง เดิมเป็นตำหนักและหอประทับนั่งของรัชกาลที่ 1 เมื่อตอนที่ยังเป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจนอกฝ่ายขวา ภายในมีพระบรมสาทิสลักษณ์ขนาดใหญ่ของรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ในหอกลาง พร้อมด้วยห้องบรรทม ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชม

9. วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร

          เดิมชื่อวัดทอง ซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จากพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 3 โดดเด่นด้วยภาพวาดฝาผนังในพระอุโบสถ ที่ถือเป็นการประชันฝีมือกันระหว่างจิตรกรฝีมือเยี่ยม อย่างหลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนภาพเนมิราชชาดก กับหลวงเสนีย์บริรักษ์ (คงแป๊ะ) ผู้เขียนภาพมโหสถชาดก

          ด้านในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อศาสดา" พระประธานของพระอุโบสถ ซึ่งมักจะมีคนมากราบไหว้ขอพร หรือบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์ทหาร ตลอดจนบนให้ประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ และเมื่อสำเร็จสมหวัง ก็นิยมแก้บนด้วยการวิ่งม้า แต่ไม่ได้ใช้ม้าจริง ๆ เพียงแค่ใช้คนวิ่ง และมีผ้าขาวม้าเป็นสัญลักษณ์แทนม้าเท่านั้น โดยต้องมาแก้บนที่ใบเสมาแรกทางด้านหน้าของพระอุโบสถ เพราะตรงกับตำแหน่งเดียวกับหลวงพ่อศาสดานั่นเอง

10. วัดอมรินทรารามวรวิหาร

          วัดที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ตำหนักเขียว พระปรางค์ มณฑปพระพุทธบาทจำลอง และที่สำคัญที่สุดคือ หลวงพ่อโบสถ์น้อย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญ เป็นมิ่งขวัญและเป็นที่พึ่งทางใจของชาวเมืองธนบุรี ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่สัญจรผ่านไปมาบนสะพานอรุณอมรินทร์ เป็นต้องยกมือไหว้กันแทบทุกคน

ของอร่อยย่านบางกอกน้อย

          หลังจากตระเวนเที่ยวกันจนเหนื่อย  ก็ถึงเวลามองหาของกินอร่อย ๆ ในย่านบางกอกน้อยกันแล้วค่ะ นอกจากที่เที่ยวจะเด็ดแล้ว ของกินที่นี่ก็จัดได้ว่าเด็ดไม่แพ้กัน เพราะแค่ที่ตลาดวังหลัง ก็เต็มไปด้วยร้านอาหารมาก ซึ่งอร่อยแทบทุกเจ้า แต่นอกจากวังหลัง ที่เป็นเหมือนศูนย์กลางกินที่เที่ยวของคนบางกอกน้อยแล้ว ยังมีร้านอร่อยที่น่าสนใจอยู่อีกเพียบ

1. อรทัย ซูชิวังหลัง


          ร้านซูชิร้านดังในตลาดวังหลัง บอกเลยว่าเป็นร้านซูชิที่คนอออยู่หน้าร้านเยอะมาก มีทั้งลูกค้าที่มานั่งทานที่ร้าน และซื้อหิ้วกลับไปทานที่บ้าน มีเมนูหลากหลายประเภท ทั้งประเภทยำสาหร่าย ประเภทไข่กุ้ง ประเภทปลา ประเภทสลัด ประเภทหน้าข้าวปั้น และประเภทมากิ เห็นเมนูเยอะอย่างนี้บอกเลยนะว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด แถมน้ำจิ้มวาซาบิก็ถึงใจ และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งของทางร้าน เห็นจะเป็นทาโกะยากิ มีให้เลือกชิมหลายไส้ เช่น ไส้กุ้ง ปลาหมึก ทูน่า แซลมอน แฮม หรือปู รับรองความอร่อยแต่ละคำด้วยคุณภาพทั้งสิ้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02 866 8828, 084 138 8334, 089 774 8716)

2. N10 Café


          ร้านคาเฟ่บรรยากาศดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถวตลาดวังหลัง ประทับใจในบรรยากาศ ด้วยลมโกรกพัดมาเย็น ๆ ตลอดเวลา และเมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้าม จะเห็นท่ามหาราช นับเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง ในร้านเน้นการตกแต่งด้วยงานไม้ โทนสีน้ำตาล มีทั้งโซนในร้านและนอกร้าน ส่วนเรื่องขนมหวานที่นี่ก็อร่อยไม่เป็นรองใคร เมนูแนะนำ ได้แก่ "Chocolate Toast" ขนมปังชิ้นใหญ่และหนานุ่ม ที่เสิร์ฟมาคู่กับกล้วยหอมที่หั่นมาแบบพอดีคำ พร้อมไอศกรีมวานิลลา และช็อกโกแลตเข้มข้น ลองได้ตักเข้าปาก จะรู้เลยว่าเป็นความอร่อยที่ลงตัวแบบสุด ๆ (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 088 000 8342)

3. ก๋วยเตี๋ยวตำลึงนายอ้วน


          ร้านอยู่แถวบางขุนนนท์ หลากหลายด้วยเมนูก๋วยเตี๋ยวน่าอร่อย ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ, ก๋วยเตี๋ยวหมู, ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา และอีกสารพัดเมนูก๋วยเตี๋ยว แต่ที่พลาดไม่ได้เห็นจะเป็น "ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง" ที่มาแบบครบเครื่อง แถมน้ำซุปก็ยังกลมกล่อมกำลังดี จะสั่งเบิ้ลอีกชามก็ไม่ว่ากัน นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอีกมากมาย เช่น แกงเขียวหวาน, ต้มจับฉ่าย, ไข่พะโล้ หรือจะเป็นขนมหวานอย่าง ข้าวเหนียวเปียกลำไย เป็นต้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 087 594 5994 หรือ เฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวตำลึง(นายอ้วน)บางขุนนนท์)

4. สายไหมบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง


          ตั้งอยู่ในตลาดวังหลัง เดิมเปิดขายขนมหวาน ก่อนที่จะขยับขยายมาเปิดร้านขายบะหมี่เกี๊ยวกุ้งในภายหลัง ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ อยู่ที่เส้นบะหมี่ไข่ที่สั่งทำมาเป็นพิเศษ สังเกตดูง่าย ๆ เลยว่า เส้นจะเล็กกว่าเส้นบะหมี่ทั่วไป แถมยังเหนียวนุ่มมากกว่าอีกด้วย ทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งอยู่ที่เกี๊ยวกุ้ง ที่แป้งเกี๊ยวสั่งทำแบบพิเศษ และห่อกุ้งเอาไว้ทั้งตัว พอได้ทานคู่กับบะหมี่ หมูแดง ปรุงเครื่องปรุงให้ถูกปากอีกหน่อย ได้รสชาติความอร่อยอย่างแท้จริง และไม่ลืมที่จะสั่งของหวานมาล้างปาก เช่น ซ่าหริ่ม, ทับทิมกรอบ หรือโรตีสายไหม เป็นต้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089 168 6115, 089 449 8024)

5. Chris Steaks & Burgers

          ร้านเบอร์เกอร์เล็ก ๆ แต่อร่อยแถวบางขุนนนท์ ลักษณะร้านเป็นห้องแถวเล็ก ๆ แต่ถึงจะเล็ก ก็อัดแน่นไปด้วยจำนวนลูกค้าที่มาเข้าคิวลิ้มลองความอร่อยเพียบ เมนูแนะนำของทางร้าน คือ "ทาวเวอร์ชีสเบอร์เกอร์แบบชาร์โคลเนื้อ" ความอร่อยอยู่ตรงที่รสชาติของเนื้อที่ได้รับการหมักมาเป็นอย่างดี ไม่เค็มจนเกินไป สั่งมาทานคู่กับ "หอมทอด" ชุบเกล็ดขนมปังเบา ๆ พร้อมด้วยเครื่องดื่มอย่าง "มิกซ์ราสป์เบอรี่โคล่า" เป็นชุดความอร่อยที่แสนจะลงตัว (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 091 847 3772 หรือ เฟซบุ๊ก Chris Steaks & Burgers)

6. อร่อยโอชารส

          ร้านอร่อยเก่าแก่ย่านบางขุนนนท์ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยที่ลูกค้าพร้อมใจรอเข้าคิว เพื่อลิ้มรสความอร่อย ที่ร้านให้บริการอาหารหลากหลายเมนู เช่น "ข้าวคลุกกะปิ" ตัวข้าวหอม รสชาติกลมกล่อม พร้อมด้วยเครื่องเคียงมาแบบไม่ยั้ง, "เปาะเปี๊ยะสด" แป้งบาง พร้อมด้วยกุนเชียงหั่นมากำลังดี ทานพร้อมน้ำจิ้ม เข้ากันอย่างลงตัว และปิดท้ายด้วย "ข้าวผัดปู" เป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องสั่ง เวลาทานใส่น้ำปลาพริกลงไปอีกสักหน่อย อร่อยจนลืมไม่ลง (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02 435 1324, 082 332 7535)

7. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก

          ร้านก๋วยเตี๋ยวดั้งเดิมที่เปิดขายมากว่า 80 ปี และไม่มีสาขาอื่นที่ไหน ตั้งอยู่ตรงบริเวณสามแยกไฟฉาย แน่นอนว่าใครมาที่ร้านต้องมาลอง "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ" ด้วยกันทั้งนั้น สามารถสั่งได้ทั้งแบบน้ำและแบบแห้ง ความอร่อยอยู่ที่เนื้อที่เปื่อยนุ่มกำลังดี และมาพร้อมด้วยเอ็น ลูกชิ้น ตับ และหัวใจ นอกจากอิ่มอร่อยกับเมนูก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังสามารถลิ้มลองเนื้อสะเต๊ะสูตรอิสลาม แม้ทานเปล่า ๆ ไม่จิ้มน้ำจิ้ม ก็อร่อยเหาะสุด ๆ ไปเลย

          บางกอกน้อย จึงเป็นอีกย่านท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่สามารถเที่ยวได้ในหนึ่งวันแบบสบาย ๆ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ถ้าใครยังไม่มีแผนไปเที่ยวที่ไหน ลองมาเที่ยวที่บางกอกน้อยกันดูนะคะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทริปที่สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับการเที่ยวกรุงเทพฯ ของเพื่อน ๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว ^ ^

ตั๊กออแกไนท์บางกอกน้อยรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
นางรำบางกอกน้อยเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
บางกอกน้อยรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย
ฟ้อนบูชาพญานาคบางกอกน้อย
รําบวงสรวงพญานาคบางกอกน้อย


  ติดต่อสอบถามเรา        
            



228
ไหว้พระ 9 วัดฝั่งธนบุรี อิ่มบุญ เสริมมงคลชีวิต

 ไหว้พระ 9 วัดฝั่งธนบุรี ไหว้พระขอพร และน้อมรับสิริมงคลเข้าสู่ชีวิต เพื่อให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ทำได้ง่าย ๆ

          ไหว้พระ 9 วัด  ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวสำหรับใครก็ตามที่อยากเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ทำให้เรื่องของการเข้าวัดทำบุญไม่ได้เป็นเรื่องที่จำกัดอยู่แต่คนแก่อีกต่อไป หากแต่เป็นเรื่องของคนทุกเพศทุกวัย ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำกิจกรรมนี้ได้ และโดยส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นเคยกับการไหว้พระ 9 วัดย่านพระนคร มาคราวนี้เราจะมาลองเปลี่ยนทิศมายังฝั่งธนบุรีกันดูบ้าง เพราะในย่านนี้ก็มีวัดศักดิ์สิทธิ์สำคัญอยู่หลายแห่งไม่ต่างจากฝั่งพระนคร ว่าแล้วไม่รอช้า…เปิดลายแทงออกเดินทางไหว้พระ 9 วัดฝั่งธนบุรี กันเลยดีกว่า

1. วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร

          วัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเรียกกันว่า "วัดท้ายตลาด" ด้วยความที่อยู่ต่อจากตลาดเมืองธนบุรี จนเมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมาสร้างพระราชวัง ก็ได้อาณาบริเวณยาวลงมาครอบคลุมถึงวัดแห่งนี้ด้วย และกลายเป็นวัดในเขตพระราชฐานในพระราชวังกรุงธนบุรี  ภายในวัดจะมีฉางเกลือ หรือ ที่เก็บเกลือ ซึ่งในอดีตเกลือมีความสำคัญมากในการถนอมอาหารรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บอาหารไว้กินในช่วงสงคราม จนเมื่อเกลือเริ่มหมดความสำคัญลง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพระวิหารลักษณะทรงไทยผสมจีน มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ และพระอัครสาวกประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร


          ส่วนพระอุโบสถ มีลักษณะทรงไทยยุคต้นรัตนโกสินทร์ หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ มีช่อฟ้าใบระกาไม้สัก ลงรักปิดกระจก ภายในผนังและเพดานมีภาพเขียนจิตรกรรม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัยสวยงาม ต่อมาได้ถวายพระนามว่า "พระพุทธโมลีโลกนาถ" ว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเป็นที่สักการะของพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร และเหล่าราษฎรมาตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์

2. วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร


          วัดที่สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเศรษฐีชาวจีนที่มีชื่อว่า "นายหง" จนเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรี และได้กำหนดเขตพระราชฐาน วัดหงส์ซึ่งมีอาณาเขตติดกับพระราชฐาน จึงทรงรับวัดนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ ให้เป็นพระอารามหลวงมาตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ได้ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ สร้างศาลาการเปรียญพร้อมทั้งกุฏิ เสนาสนะทั่ววัด มีพระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากได้เข้ามาศึกษา วัดหงส์จึงถือเป็นศูนย์กลางสำคัญทางการศึกษาพระพุทธศาสนาที่สำคัญในสมัยนั้น

          ภายในมีพระอุโบสถหลังใหญ่ มีช่อฟ้าใบระกา ตกแต่งหน้าบันด้วยลวดลายสวยงาม พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองปางมารวิชัย มีพระแสนอยู่เบื้องหน้าพระประธาน ซึ่งเป็นที่นับถือและกราบไหว้ของคนทั่วไป ที่เชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพระแสน อันเป็นความเชื่อสำคัญเกี่ยวกับการไหว้พระที่วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร

3. วัดเครือวัลย์วรวิหาร


          เป็นพระอารามหลวง สร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด บ้างสันนิษฐานว่าพระยาอภัยภูธร และเจ้าจอมมารดาเครือวัลย์ในรัชกาลที่ 3 ผู้เป็นธิดา ได้ปฏิสังขรณ์ใหม่ แล้วถวายเป็นพระอารามหลวง และได้พระราชทานชื่อว่า "วัดเครือวัลย์" ภายในมีพระอุโบสถทรงไทย ประดับช่อฟ้าใบระกา หน้าบันตกแต่งด้วยปูนปั้นลายดอกไม้สวยงาม ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรไว้เป็นโบราณสถาน เนื่องจากผนังภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวในประเทศไทยที่เขียนภาพพระชาติของพระพุทธเจ้าครบทั้ง 500 พระชาติ


          พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปยืน พระหัตถ์ซ้ายทอดลงข้างพระวรกาย พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ ฝ่าพระหัตถ์แบไปด้านหน้า มีพระอัครสาวก คือ พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ยืนอยู่ด้านขวาและซ้าย เป็นหนึ่งในองค์พระประธานองค์ยืนที่สวยสง่า เป็นที่เคารพและศรัทธาแก่ประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก

4. วัดนาคกลางวรวิหาร


          เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ที่มีถาวรวัตถุสำคัญต่าง ๆ อยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ "หลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ประดิษฐานที่มณฑปจัตุรมุข มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลาทรงผลสมอ (ผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยาขนานเอก) จนทำให้ทุกวันนี้คนทั่วไปที่เข้ามาสักการะหลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ ขอให้ตนแคล้วคลาดจากโรคภัยไข้เจ็บให้หายขาด รวมถึงในเรื่องโชคลาภอีกด้วย


          ภายในมีพระอุโบสถ เป็นอาคารลักษณะทรงไทย ก่ออิฐถือปูน ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์สวยงาม เข้ามาภายใน จะเห็นพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด พร้อมทั้งพระพุทธรูปบูชาต่าง ๆ  และพระอัครสาวกเบื้องขวา เบื้องซ้าย เมื่อมองดูรอบตัวโบสถ์ จะเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงาม เกี่ยวกับพุธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดูแล้วชวนให้เพลินตาเพลินใจดีไม่น้อยเลย

5. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร


          วัดโบราณที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมชื่อ "วัดบางหว้าใหญ่" จนต่อมาในรัชกาลที่ 1 มีการขุดค้นพบระฆังโบราณในเขตวัด ประชาชนทั่วไปจึงเรียกวัดระฆังตั้งแต่นั้นมา เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรี มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยเดินทางมาทำบุญกันที่นี่เป็นจำนวนมาก ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยแล้ว ยิ่งหนาตากว่าทุกวัน โดยภายในวัดประกอบไปด้วยศาสนสถานสำคัญมากมาย

          ใครที่ไหว้พระในพระอุโบสถเสร็จแล้ว อย่าลืมแวะมาชม "ตำหนักจันทน์" หรือ "หอพระไตรปิฎก" เรือนไม้แฝด 3 หลัง ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้เงาร่มไม้ใกล้กับพระอุโบสถ เดิมเป็นตำหนักและหอประทับนั่งของรัชกาลที่ 1 เมื่อตอนที่ยังเป็นพระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจนอกฝ่ายขวา ภายในมีพระบรมสาทิสลักษณ์ขนาดใหญ่ของรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ในหอกลาง ความพิเศษของปีกตำหนักด้านซ้ายยังเป็นห้องบรรทม ตรงบานประตูด้านในมีภาพวาดอสุภะ ที่กำลังถูกสัตว์เดรัจฉานฉีกทึ้งแย่งกิน ซึ่งปกติแล้วโดยทั่วไป มักไม่ค่อยมีเจ้านายพระองค์ไหนวาดภาพดังกล่าวในห้องบรรทม อันมีนัยเพื่อเตือนตัวเองในเรื่องวัฏสงสารเวียนว่ายตายเกิด ให้เกิดความรู้สึกปลงอสุภะก่อนที่จะล้มตัวลงนอน

6. วัดอมรินทรารามวรวิหาร


          วัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในประกอบด้วยโบราณสถานสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ตำหนักเขียว พระปรางค์ มณฑปพระพุทธบาทจำลอง และที่สำคัญที่สุดคือ หลวงพ่อโบสถ์น้อย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญ เป็นมิ่งขวัญและเป็นที่พึ่งทางใจของชาวเมืองธนบุรี ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่สัญจรผ่านไปมาบนสะพานอรุณอัมรินทร์ เป็นต้องยกมือไหว้กันแทบทุกคน


          ความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อโบสถ์น้อยมีมากมายนับไม่ถ้วน กลายเป็นตำนานเล่าขานที่บอกต่อ ๆ กันมา ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามาจากเมื่อครั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งองค์หลวงพ่อโบสถ์น้อยได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยจากแรงระเบิด จะมีก็แต่พระเศียรขององค์หลวงพ่อร้าวเท่านั้นเอง เหตุการณ์เหล่านี้กลายเป็นที่กล่าวขานในเหตุอัศจรรย์ดังกล่าว ซึ่งมีประชาชนทั่วไปให้ความศรัทธาและเลื่อมใสองค์หลวงพ่อโบสถ์น้อยเป็นจำนวนมาก

7. วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร

          วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เดิมชื่อวัดทอง ซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จากพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 3 ที่ได้ทรงปฏิสังขรณ์เสนาเสนาะ ถาวรวัตถุและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่ที่โดดเด่นคือภาพวาดฝาผนังในพระอุโบสถ ที่ถือเป็นการประชันฝีมือกันระหว่างจิตรกรฝีมือเยี่ยม อย่างหลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนภาพเนมิราชชาดก กับหลวงเสนีย์บริรักษ์ (คงแป๊ะ) ผู้เขียนภาพมโหสถชาดก

          ด้านในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อศาสดา" พระประธานของพระอุโบสถที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธากันมาก โดยมักมีคนมากราบไหว้ขอพร หรือบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์ทหาร ตลอดจนบนให้ประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ และเมื่อสำเร็จสมหวัง ก็นิยมแก้บนด้วยการวิ่งม้า แต่ไม่ได้ใช้ม้าจริง ๆ เพียงแค่ใช้คนวิ่ง และมีผ้าขาวม้าเป็นสัญลักษณ์แทนม้าเท่านั้น โดยต้องมาแก้บนที่ใบเสมาแรกทางด้านหน้าของพระอุโบสถ เพราะตรงกับตำแหน่งเดียวกับหลวงพ่อศาสดานั่นเอง

8. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร


          พระอารามหลวงชั้นเอก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล สงวนไว้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพระกฐินเป็นประจำทุกปี เมื่อมาถึงวัดอรุณฯ จะไม่เดินไปดูพระปรางค์ก็คงจะเป็นเรื่องแปลกอยู่เสียหน่อย โดยทางวัดเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความงดงามของพระปรางค์แห่งนี้ได้แบบใกล้ชิด ได้เห็นความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ ถ้วยชามสมัยโบราณ เปลือกหอย เป็นลวดลายใบไม้ต่าง ๆ จนอดคิดไม่ได้ว่า ต้องใช้จำนวนแรงงานที่มีความพากเพียรมากแค่ไหนในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีความงดงามได้ขนาดนี้

          ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูป "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ฝาผนังภายในพระอุโบสถทั้ง 4 ด้านมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงดงามอลังการ โดยเป็นเรื่องราวภาพพุทธประวัติฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้มีการซ่อนแซมบางส่วนในสมัยรัชกาลที่ 5 นับเป็นความสวยงามที่ไม่ได้หาชมจากที่ไหนได้ง่าย ๆ เลย

9. วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

          พระอารามหลวงชั้นโท เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดรั้วเหล็ก ใกล้เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ภายในวัดมีสถานที่สำคัญมากมาย เช่น "เขามอ" ภูเขาจำลองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ก่อขึ้นจากหินที่มียอดลดหลั่นกันไปตามลำดับ "พิพิธภัณฑ์พระ ประยูรภัณฑาคาร" หรือ "พรินทรปริยัติธรรมศาลา" สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับให้ความรู้ด้านสิ่งของโบราณในสมัยก่อน "พระบรมธาตุมหาเจดีย์" พระเจดีย์ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 หรือ Award of Excellence จากโครงการประกวดรางวัลเพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ประจำปี พ.ศ. 2556

          ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะปางมารวิชัย ที่มีลักษณะงดงาม โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ ให้ช่างชาวไทยเป็นผู้หล่อ ได้ว่าจ้างช่างลงรักปิดทองมาจากประเทศญี่ปุ่น กล่าวกันว่ามีฝีมือและกรรมวิธีการปิดทองดีเยี่ยม และถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกที่ใช้ช่างปิดทองเป็นชาวต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น

          ใครที่กำลังมองหาเส้นทางไหว้พระทำบุญอยู่นั้น เส้นทางไหว้พระ 9 วัดย่านฝั่งธนบุรี ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเสริมมงคลให้กับชีวิตที่ดีอีกเส้นทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ วัยชรา สามารถเข้าวัดทำบุญได้ด้วยกันทั้งนั้น เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวดี ๆ ที่อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้ลองทำกัน เพราะหากเพียงแค่คุณมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณจะได้พานพบกับความสงบสุขทางจิตใจอย่างแน่นอน

ตั๊กออแกไนท์ธนบุรี รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคธนบุรี
นางรำธนบุรีเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคธนบุรี
ธนบุรีรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคธนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคธนบุรี
ฟ้อนบูชาพญานาคธนบุรี
รําบวงสรวงพญานาคธนบุรี



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


229
กัมปงในดงปรือ ล่องเรือชมสวน กินทองม้วนนมแพะ ที่ทุ่งครุ กรุงเทพฯ

ความน่าสนใจของที่นี่ ก็คือ กิจกรรมกัมปงในดงปรือ เป็นกิจกรรมที่จะพาท่องเที่ยวชุมชนโดยรอบของทุ่งครุ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับชุมชนที่เต็มไปด้วยสวนผลไม้สุดร่มรื่น อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ ส่วนชื่อกัมปงในดงปรือนั้น ก็มาจากคำว่า กัมปง ในภาษามลายู มีความหมายในเชิงว่า ชุมชน ผสมกับคำว่า ดงปรือ เพราะพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ไร่สวน มีต้นปรือขึ้นเยอะมาก จึงเกิดเป็น กัมปงในดงปรือ นั่นเอง
กัมปง ในภาษามลายู มีความหมายในเชิงว่า ชุมชน
พื้นที่โดยรอบมี ต้นปรือ ขึ้นเยอะ
จึงกลายเป็น กัมปงในดงปรือ


          รายละเอียดของกิจกรรมนี้จะเป็นการพาเที่ยวแบบวันเดย์ทริป นักท่องเที่ยวจะได้เริ่มเที่ยวชุมชนตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้พาชม ซึ่งจะได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งล่องเรือไปตามลำคลอง ชมธรรมชาติและบ้านเรือนสองฟากฝั่งอันเงียบสงบ พาแวะเที่ยวชมสุเหร่าเก่าแก่คู่ชุมชน พร้อมทั้งขี่ม้าถ่ายรูปน่ารัก ๆ แล้วไปทำบุญให้อาหารปลากันต่อที่วัด


          จากนั้นก็ไปเที่ยวชมสวนส้มบางมด หรือสวนมะพร้าวน้ำหอม ชิมผลไม้สด ๆ กันจากต้น ถ้าไม่เหนื่อยก็แวะไปหาน้องแพะ ให้อาหารแพะพร้อมชมวิธีการรีดนมแพะ ช่วงกลางวันก็มาอิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวน้ำกะทิ ของดีของเด็ดประจำชุมชน พอเติมพลังแล้วก็ไปลองทำทองม้วนนมแพะและขนมไทยโบราณอื่น ๆ ก่อนกลับบ้านก็สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนไปเป็นของฝากได้ด้วย


          กิจกรรมกัมปงในดงปรือจะมีในวันอาทิตย์แรกของทุกเดือน มีค่าเข้าร่วมกิจกรรมเพียงท่านละ 250 บาท ควรจองล่วงหน้าเพื่อที่ทางชุมชนจะได้จัดสรรกิจกรรมให้เหมาะสมและเพียงพอต่อนักท่องเที่ยว


ที่ตั้ง : ซอยพุทธบูชา 36 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอาทิตย์แรกของทุกเดือน
ราคา : 250 บาท/คน
โทรศัพท์ : 08 3024 8107
เฟซบุ๊ก : กัมปงในดงปรือ
สถานที่จอดรถ : จอดรถฟรี
          วันหยุดนี้ถ้ายังหาสถานที่ไปเช็กอินไม่ได้ ก็ลองพิจารณาชุมชนเล็ก ๆ แห่งนี้กันดูนะคะ อยู่ในกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่เยอะ ใกล้ชิดธรรมชาติ มีของกินอร่อย ๆ พร้อมทั้งกิจกรรมดี ๆ รออยู่มากมาย เป็นวันเดย์ทริปที่เที่ยวได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ลองไปเที่ยวกัน :)

ตั๊กออแกไนท์ทุ่งครุรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
นางรำทุ่งครุเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
ทุ่งครุรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
รําบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ
ฟ้อนบูชาพญานาคทุ่งครุ
รําบวงสรวงพญานาคทุ่งครุ

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


230
7 ที่เที่ยวพุทธมณฑล จ.นครปฐม ขับรถไม่เกินชั่วโมงก็ได้ชิลใกล้กรุงเทพฯ

          ชวนเที่ยวนครปฐม พาไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวพุทธมณฑล อำเภอเล็ก ๆ ใกล้กรุงเทพฯ ที่มีทั้งที่เที่ยวเชิงเกษตร พิพิธภัณฑ์ จุดถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟบรรยากาศดี
          วันหยุดสั้น ๆ ก็อยากคั่นความเครียดจากงานด้วยการพาตัวเองไปสูดอากาศดี ๆ หรือทำกิจกรรมสนุก ๆ ที่ผ่อนคลาย และยิ่งถ้าอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ได้ก็ยิ่งเลิฟ เราก็เลยจะพาไปรู้จักกับที่เที่ยวนครปฐมอีกจุด อย่าง "พุทธมณฑล" อำเภอชายขอบที่ติดกับกรุงเทพฯ ซึ่งมีที่เที่ยวหลากหลายน่าสนใจ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน
1. พุทธมณฑล
          สถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา บนเนื้อที่กว่า 2,500 ไร่ ในตำบลศาลายา ออกแบบและจัดสรรพื้นที่ได้อย่างสวยงาม ให้กลายเป็นสวนพุทธธรรมบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มีประติมากรรมทางพุทธศาสนาตั้งอยู่ทั่วทั้งสวน โดยจุดสำคัญจะอยู่ที่พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ พระพุทธรูปปางลีลาประจำพุทธมณฑล ออกแบบโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้

          ที่ตั้ง : ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

2. ไชน่าทาวน์ ศาลายา
          โครงการสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นไชนีส กลายเป็นเมืองจีนขนาดย่อมที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียงนิดเดียว โดยด้านในมีทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สะพานต่ออายุ รวมไปถึงร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย มาที่เดียวก็สามารถอิ่มอร่อยกับอาหารแนวสตรีตฟู้ดได้จากทั่วไทย และก็ได้ภาพถ่ายสวย ๆ ในมุมที่ไม่ซ้ำใคร

          ที่ตั้ง : 111 หมู่ 4 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน
          เว็บไซต์ : chinatownsalaya.com
          เฟซบุ๊ก : Chinatown Salaya

3. นาบัวลุงแจ่ม
          สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและเชิงเกษตรใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่อยากให้พลาด เป็นนาบัวขนาดกว้างขวางราว 25 ไร่ ที่ดอกบัวนับพันดอกจะออกดอกชูช่อให้ได้ชมกันทุกวัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นสีชมพูบานเย็น มีสีขาวตัดสลับบ้าง สวยงามเย็นตา สามารถนั่งเรือเข้าไปเก็บบัวได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ การเที่ยวนาบัวลุงแจ่มจะสามารถเที่ยวพ่วงไปกับการเที่ยวชุมชนริมคลองมหาสวัสดิ์ได้ด้วย มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การเที่ยวชมกลุ่มแม่บ้านแปรรูปศาลาดิน สวนกล้วยไม้ สวนผลไม้ บ้านน้ำฟักข้าว และฟังแหล่ประวัติคลอง เป็นต้น

          ที่ตั้ง : หมู่ 3 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
          เฟซบุ๊ก : นาบัว ลุงแจ่ม

4. พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย
           หอสมุด พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ที่เก็บภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ตลอดจนสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และยังมีการสร้างอาคารต่าง ๆ จำลองบรรยากาศสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในธีมต่าง ๆ สวยแปลกตา นอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยกลับบ้านแล้ว ก็ยังจะได้ภาพพอร์เทรตสวย ๆ ไว้อัปโซเชียลด้วย

           ที่ตั้ง : 94 หมู่ 3 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
           เวลาเปิด-ปิด : นัดหมายล่วงหน้าได้ทุกวัน วันละ 7 รอบ ได้แก่ เวลา 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 15.00 น. และ 16.00 น. รอบละไม่เกิน 7 คน
           เว็บไซต์ : fapot.or.th
           เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย Thai Film Museum


5. เดอะศาลายา ไทยโซน
          สถานที่ท่องเที่ยวที่เนรมิตขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับมนตร์เสน่ห์ความเป็นไทย ผ่านศิลปะในรูปแบบต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกัน คือ ตลาดน้ำ, ศิลปหัตถกรรม, พิพิธภัณฑ์หนุมานนคร, ถ้ำชมโชว์, ลานศิลปะนคร, ศาลาตำรายา และร้านขายของที่ระลึก พร้อมทั้งยังมีเธียเตอร์ไนท์โชว์ และสวนป่าธรรมชาติ ให้ได้เที่ยวชมเพลิน ๆ

          ที่ตั้ง : 88/8 หมู่ 5 ถนนศาลายา-บางภาษี ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
          เว็บไซต์ : thesalaya.com
           เฟซบุ๊ก : THE SALAYA

6. ตลาดศาลายา
          ตลาดสดขนาดใหญ่ แหล่งรวมสินค้าทางการเกษตร ผัก-ผลไม้สดจากไร่-สวน และอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอพุทธมณฑล สินค้าและอาหารที่น่าสนใจ เช่น ผัก-ผลไม้ออร์แกนิก, ผัก-ผลไม้นำเข้า, อาหารทะเลสด, กล้วยทอด-มันทอด, ขนมไทยโบราณ, ข้าวเกรียบปากหม้อ, ห่อหมก, เป็ดย่าง, หมูสะเต๊ะ, สลัดผักสด, ข้าวเกรียบปากหม้อ, ทอดมันปลากราย, ข้าวคลุกกะปิ, ขนมครกไส้ทะลัก, หมูกรอบ, ขาหมู, ข้าวเหนียวหมู, อาหารเจ, ข้าวหมกไก่, บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง และข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ทางหลวงชนบท นฐ. 4006 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-16.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ตลาดศาลายา

7. ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และคาเฟ่พุทธมณฑล
         

          ที่ตั้ง : ถนนเลียบทางรถไฟ คลองมหาสวัสดิ์ ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Levee Rooftop Cafe'

         

          ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.30 น.
          เฟซบุ๊ก : Play with cat Cafe - คาเฟ่แมว

         

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
          เฟซบุ๊ก : โอบอวล

          - ลาลูนเฮ้าส์

          ที่ตั้ง : ตำบลคลองโยง อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Lalune House

         

          ที่ตั้ง : 66/112-3 ถนนศาลายา-นครชัยศรี เยื้องกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ประตู 2 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : MuchMellow Salaya

          ที่ตั้ง : ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : PEE NEUNG Coffee House Salaya

 

          ที่ตั้ง : 152 หมู่5 ถนนทวีวัฒนา ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Anya's Place


          ที่ตั้ง : 49 ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
          เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.00-18.30 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.30 น.
          เฟซบุ๊ก : บ้านปายนา

         ที่ตั้ง : ถนนดาวทอง ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
         เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันพฤหัสบดี-อังคาร (ปิดวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 10.30-20.00 น.
         เฟซบุ๊ก : Little Dream Garden ฝันของพ่อ

         วันไหนว่าง ๆ มีเวลาไม่มาก แต่อยากไปเที่ยวพักผ่อนสูดอากาศต่างจังหวัดใกล้ ๆ ก็ลองไปเที่ยวอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม กันดูนะ นาบัวก็มี พิพิธภัณฑ์เสริมความรู้ก็ได้ ช้อปปิ้งของกินอร่อย ๆ ก็ดีเด็ด ไปเที่ยวกันเลย :)

         หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ตั๊กออแกไนท์................ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเราฃ

รำบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
นางรำทวีวัฒนาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
ทวีวัฒนารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
รําบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา
ฟ้อนบูชาพญานาคทวีวัฒนา
รําบวงสรวงพญานาคทวีวัฒนา



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


231
ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตลาดน้ำเมืองกรุง
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวตลาดน้ำเป็นชีวิตจิตใจ ประมาณว่า... ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำลำพญา ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำดอนหวาย ตลาดน้ำ... ฯลฯ ขอให้บอกเถอะ ไปเที่ยวมาหมดแล้ว... เพราะตลาดน้ำแต่ละที่ก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เพราะฉะนั้น การจะเดินทางไปท่องเที่ยว ก็เลยกลายเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย...

         แต่... วันนี้เด็ดกว่าค่ะ เรามีตลาดน้ำในเมืองกรุงมาแนะนำเพื่อน ๆ นัก (ชอบ) เที่ยวกันด้วย นั่นก็คือ... "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" คราวนี้ไม่ใช่แค่ใกล้กรุงเทพฯ นะคะ แต่อยู่ในกรุงเทพฯ เลย (อิอิ) ที่สำคัญ คือ ไปง่ายมาง่าย แถมมีรถเมล์วิ่งผ่านหน้าตลาดอีกด้วย สำหรับใครที่มีเวลาไม่มาก แต่อยากมาสัมผัสบรรยากาศริมน้ำ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแสนร่มรื่น "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" ยินดีต้อนรับค่ะ

         "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" ตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน เป็นตลาดกึ่งชนบทผสมผสานระหว่างชีวิตริมน้ำกับธรรมชาติ มีเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลาประมาณ 07.00 – 16.00 น. พ่อค้าแม่ค้า (ชาวสวนในพื้นที่แถวนั้นนั่นล่ะ) จะเริ่มนำผลผลิตจากสวน ซึ่งมีทั้งพันธุ์ไม้ ผักสด ผลไม้ ปลา และอาหารต่างๆ มาจำหน่ายเหมือนตลาดสดทั่วไป แต่ผลผลิตจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล


ตลาดน้ำตลิ่งชัน


         สำหรับอาหารการกินของตลาดน้ำที่นี่ รับรองว่ามีดีไม่แพ้ที่ไหน ๆ แถมเก๋ไก๋สุดๆ ด้วยการนั่งกินอาหารในแพริมน้ำ ส่วนอาหารนั้นจะมีเรือมาจอดขายอยู่ข้าง ๆ มีทั้งของคาวหวานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟโบราณสูตรเด็ด ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ เต้าหู้ทอด ปลาย่าง ปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ไปจนถึงลาบ ส้มตำ น้ำตก และอาหารอื่น ๆ น่ากินอีกเพียบ ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรแซ่บ ๆ บ้าง ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง (55)

         นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีเรือทัวร์พานักท่องเที่ยวล่องคลองบางเชือกหนัง ชมธรรมชาติ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ริมน้ำสองฝั่งคลองของชาวตลิ่งชัน แวะชมฟาร์มกล้วยไม้ เข้าคลองลัดตานิน ออกคลองบางกอกน้อย เที่ยวฟาร์มงูธนบุรี ให้อาหารปลาวัดปากน้ำฝั่งใต้ โดยให้บริการตั้งแต่เวลา 9.30 - 16.15 น. (เรือออกทุกชั่วโมง) ราคาผู้ใหญ่ 90 - 150 บาท เด็ก 50 - 60 บาท (มีหลายโปรแกรมให้เลือก) ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณนพดล (ประธานประชาคมตลาดน้ำ) โทร. 08-1374-7616 หรือที่สำนักงานเขตตลิ่งชัน โทร.0-2424-1742, 0-2424-5448

         เอาล่ะ... ได้เวลาไปเที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชันกันแล้ว...!!




การเดินทาง

         การเดินทางไปตลาดน้ำตลิ่งชัน สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ จากถนนจรัญสนิทวงศ์เลี้ยวเข้าแยกบางขุนนนท์ไปตามเส้นทางหลัก เมื่อถึงแยกตลิ่งชันให้เลี้ยวซ้าย ขับไปตามทางหลักเรื่อยๆ จะเห็นป้ายสำนักงานเขตตลิ่งชันอยู่ด้านหน้า และหากมาทางถนนบรมราชชนนี ผ่านเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ผ่านสายใต้เก่า เลี้ยวซ้ายตรงไปตามทางเรื่อยๆ จะเห็น สน.ตลิ่งชันอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยนั้นและขับมาตามทางหลักเรื่อยๆ จะเห็นป้ายสำนักงานเขตตลิ่งชันอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีรถเมล์สาย 79 ผ่านอีกด้วย
ตั๊กออแกไนท์ตลิ่งชัน รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
นางรำตลิ่งชัน.เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
ตลิ่งชันรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
รําบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน
ฟ้อนบูชาพญานาคตลิ่งชัน
รําบวงสรวงพญานาคตลิ่งชัน


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


232
เที่ยวกรุงเทพฯ ย่านดุสิตกัน ตะลุย 5 ที่เที่ยว 5 ที่กิน ไปฟินให้สุด ๆ

5 ที่เที่ยวย่านดุสิต

1. สวนสัตว์ดุสิต

          สวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดิน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในย่านนี้เลยค่ะ ด้วยบรรยากาศร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีสัตว์นานาชนิดให้ได้ไปทักทาย อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้เลือกทำ เช่น ให้อาหารปลาที่สะพานปลา การสาธิตการให้อาหารสัตว์หน้าส่วนแสดง ปั่นเรือจักรยานนาวาชมวิวรอบ ๆ สระน้ำกว้างในเขาดิน
นั่งรถพ่วงชมสวนสัตว์เพลิน ๆ ชมการแสดงของแมวน้ำสุดน่ารัก เล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำใจที่สวนน้ำ หรือตื่นตาตื่นใจกับการแสดงกายกรรมจากประเทศเคนยา

          ในส่วนของสัตว์ก็มีการจัดแสดงหลายโซนให้ได้ชมกัน ทั้ง ฮิปโปโปเตมัส, ลิง ค่าง, สัตว์เลื้อยคลาน, หมี, สัตว์ป่าสงวน, โคอาลา, เสือโคร่งและสิงโต หรือสัตว์หากินกลางคืน เป็นต้น ไปที่เดียวได้ทั้งความผ่อนคลาย
และได้ความรู้ในคราวเดียวกันแน่นอน บอกเลยว่าเหมาะกับทุกคน ทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์แน่นอน

          อ้อ ๆ ถ้ามาแล้วไม่เตรียมอาหารมาด้วยก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ที่เขาดินมีศูนย์อาหารร้านรวงให้เลือกมากมาย นั่งกินในแอร์เย็นสบายเลยล่ะ หรือเดินไปแล้วหิวก็จะเจอร้านค้า ซุ้มขนม ร้านกาแฟ เป็นระยะ ๆ เลือกกินได้ตามความถนัดกันได้

          สำหรับค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่คนไทยก็เพียงแค่ 100 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท
เด็ก 70 บาท

          ที่อยู่ : 71 ถนนพระรามที่ 5 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 281 2000
          เว็บไซต์ : www.dusit.zoothailand.org
          เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์ดุสิต Dusit Zoo

2. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร


          วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร อีกหนึ่งวัดสำคัญของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่มุมถนนนครปฐม
ตัดกับถนนศรีอยุธยา ไม่ไกลจากสวนสัตว์ดุสิต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย
และชาวต่างชาติไม่น้อย เพราะภายในวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารมีสถานที่สำคัญและน่าสนใจให้ได้
เที่ยวชมหลายแห่ง


          ที่โดดเด่นและห้ามพลาดมาก ๆ ก็คือ "พระอุโบสถ" ด้วยมีสถาปัตยกรรมแบบไทยสมัยรัตนโกสินทร์ที่สวยงาม ด้านนอกพระอุโบสถประดับด้วยแผ่นหินอ่อนสี่เหลี่ยมสีขาวบริสุทธิ์ หนา 3 เซนติเมตรทั้งหมด ทำให้อาคารมีสีขาวผ่อง สวยสะดุดตา จนได้รับฉายาว่าเป็น The Marble Temple


          นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างที่โดดเด่น มีลักษณะแบบจตุรมุข มุขด้านตะวันออกขยายยาว ด้านเหนือและใต้
มีมุขกระสันต่อกับพระระเบียง หลังคา 4 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสีเหลือง เรียกว่ากระเบื้องกาบู ด้านมุขกระสันทิศเหนือและทิศใต้ 5 ชั้น มีพระระเบียงโอบรอบด้านหลัง และยังมีการตกแต่งส่วนอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกอุโบสถอย่างงดงาม นอกจากจะได้มาทำบุญขอพรไหว้พระแล้ว ก็ยังได้ถ่ายภาพสวย ๆ คู่กับสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าของไทยด้วย

          ที่อยู่ : 69 ถนนนครปฐม แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 282 9686
          เว็บไซต์ : watbenchama.com
          เฟซบุ๊ก : วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

3. พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน

          วังปารุสกวัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวย่านดุสิตที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ ค่ะ ด้วยเป็นพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรม
ที่สวยงาม ที่นี่เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งดำรง
พระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ต่อมาก็ได้พระราชทานให้แก่
สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในยุคการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 วังปารุสกวันก็ได้เป็นกองบัญชาการของคณะรัฐบาล ปัจจุบันได้อยู่ในความดูแล
ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน

          ดั้งเดิมวังปารุสกวันจะมีอยู่ 2 ตำหนักสำคัญ คือ "ตำหนักปารุสก์" และ "ตำหนักสวนจิตรลดา"
แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการดูแลก็ได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนที่เปิดให้เข้าชมก็คือตำหนักสวนจิตรลดา
ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาคารแบบอิตาเลียนวิลล่า ออกแบบโดยมาริโอ ตามาญโญ มีสีเหลืองสวยสะดุดตา ด้านในตกแต่งแบบอาร์ตนูโว บารอค และรอคโคโค

          โดยมีทั้งหมด 2 ชั้น ดังนี้

          ชั้น 1 แบ่งเป็น ห้องนิทรรศการ 1 จัดแสดงประวัติศาสตร์เรื่องราวเกี่ยวกับตำหนักจิตรลดา ห้องประชุม และห้องจดหมายเหตุตำรวจ (ด้านหลัง)

          ชั้น 2 แบ่งเป็น

          - ห้องนิทรรศการ 2 จัดแสดงพระนิรันตราย (จำลอง)

          - ห้องนิทรรศการ 3 แสดงพระบรมฉายาลักษณ์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

          - ห้องนิทรรศการ 4 แสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชดำเนินทรงเปิดค่ายนเรศวร

          - ห้องนิทรรศการ 5 แสดงการจำลองห้องทรงงาน ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมาร ทั้งนี้ยังมีการเปิดให้เข้าชมอาคารกระจก ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์และบทบาทของตำรวจไทยตั้งแต่อดีตสมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน

          ที่อยู่ : 323 ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : วันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 282 5057, 09 7173 4441
          เว็บไซต์ : saranitet.police.go.th
          เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน

4. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้

          พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ สถานที่ท่องเที่ยวย่านดุสิตที่จะพาคุณไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจของดอกไม้ เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมดอกไม้ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ก่อตั้งขึ้นโดย คุณสกุล อินทกุล
เพื่อจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการจัดดอกไม้จากอดีตจนถึงปัจจุบันของประเทศไทย และทวีปเอเชีย รวมถึงงานดอกไม้สดและร่วมสมัยประเภทต่าง ๆ

          สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของที่นี่ก็คืออาคารจัดแสดง มีลักษณะเป็นบ้านโบราณสไตล์โคโลเนียลอายุราว 100 ปี ด้านในแบ่งออกเป็นห้องจัดนิทรรศการทั้งชั้น 1 และชั้น 2 รวม 7 ห้อง รอบ ๆ อาคารจัดเป็นสวนสวยสีเขียวสุดร่มรื่น มีศาลาริมสระน้ำอยู่บริเวณด้านหลังอาคาร

          และยังมี Café BOTANICA คาเฟ่เล็ก ๆ ที่จะให้คุณได้ดื่มด่ำกับชาอุ่น ๆ พร้อมกับขนมหวานหลากหลายชนิด ท่ามกลางบรรยากาศที่งดงามของการตกแต่งด้วยดอกไม้ไทยหลากสีสัน มีกลิ่นดอกไม้หอม ๆ
เพิ่มความผ่อนคลาย ดีต่อใจไม่เบาเหมือนกัน ใครจะนั่งชิลบริเวณริมระเบียงบ้านไม้ก็ได้ หรือจะนั่งบริเวณศาลาด้านหน้าก็มีบรรยากาศดีไม่น้อยหน้ากัน ขนมที่น่าสนใจ เช่น ชุดโฮมเมดสโคน, ชุดขนมไทยโบราณและขนมพื้นบ้านจากประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย, เยลลี่กุหลาบกับไอศกรีม และชีสเค้กญี่ปุ่น เป็นต้น   

          ที่อยู่ : 315 ถนนสามเสน ซอย 28 แยกองครักษ์ 13 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 0 2669 3633-4
          เว็บไซต์ : ww.floralmuseum.com
          เฟซบุ๊ก : The Museum of Floral Culture

5. ตลาดเทเวศร์

          แหล่งรวมความอร่อยอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ครบถ้วนไปด้วยร้านอาหารและร้านขนมหวาน พร้อมทั้งยังมีสินค้าอื่น ๆ ให้ได้ไปเดินช้อปปิ้งกันอีกเพียบ

          เมื่อมาถึงตลาดเทเวศร์จะพลาดไม่ได้กับการกินอาหารร้านดัง ใครที่ชอบกินข้าวซอยต้องมาลิ้มลองกันที่
"ร้านข้าวซอยแม่สุภาพ" เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี น้ำซุปเข้มข้นได้ใจ กินแกล้มกับผักเครื่องเคียงต่าง ๆ อร่อยแบบ
ต้นตำรับเมืองเหนือเลยทีเดียว

          ถ้าอยากกินประเภทข้าวแนะนำให้มาลิ้มลองข้าวมันไก่ที่ "ร้านมงคลชัย" เนื้อข้าวนิ่ม ไม่มันเกินไป
ทำให้ไม่เลี่ยน ตัวเนื้อไก่ก็แน่น พอได้กินกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้านก็ยิ่งอร่อย มีไก่ทอดและไก่ย่างให้เลือก
อิ่มอร่อยอีกต่างหาก ส่วนถ้าใครชอบประเภทก๋วยเตี๋ยว ขอแนะนำ "ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาลิ้มฮั่วเฮง" เป็นร้านเก่าแก่เปิดมายาวนานหลายสิบปี น้ำซุปอร่อยเข้มข้นกลิ่นหอมนุ่มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมเสิร์ฟมากับเส้นเหนียวนุ่ม ลูกชิ้นปลาเนื้อแน่นและเด้งดึ๋ง อีกทั้งเครื่องอื่น ๆ แบบเต็มชาม อร่อยแบบวางช้อนไม่ได้จริง ๆ

          และถ้าใครชอบกินขนมหวาน ห้ามพลาดเลยกับ "ชิฟฟ่อนเบเกอรี่" เนื้อชิฟฟ่อนนุ่มมาก กลิ่นหอมมาก
มีให้เลือก 3 รสชาติ คือใบเตย กาแฟ และช็อกโกแลต และยังมีแบบโรลกับบัตเตอร์เค้กให้เลือกกิน นอกจากนี้ก็
ยังมีร้านอร่อยอีกมากมาย เช่น กุ๊กชม, ร้านโสภณลูกชิ้นหมู, กิ้วเทเวศร์, ต้นหอม ผักชี, ข้าวต้มเชี่ยวชาญพานิช,
ผัดไทยเทเวศร์ 359, คุณดาวขนมเบื้องไทย, ราดหน้ายอดผัก (สูตร 40 ปี), ข้าวหมกไก่สุวิมล และปาท่องโก๋เสวย เป็นต้น


5 ที่กินย่านดุสิต

          ท่องเที่ยวย่านดุสิต ไหว้พระขอพร ชมพิพิธภัณฑ์ ชมวังเก่าสวย ๆ เดินเล่นเพลินใจไปกับสัตว์น้อยใหญ่
และถ่ายรูปเซลฟี่กันจนหนำใจแล้ว ท้องคงเริ่มหิวกันแล้วใช่ไหม ... ถึงเวลาไปลิ้มลองของอร่อย ๆ ในย่านนี้ ซึ่งมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกมากมาย แถมบางร้านยังอร่อยระดับตำนานอีกด้วย เราเลยคัด 5 ร้านอร่อยย่านดุสิต
มาแนะนำกัน

1. ครัววังวนา

          ครัววังวนา เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารบรรยากาศดีที่สุดของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ภายในสวนสัตว์ดุสิต บริเวณริมสระน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระที่นั่งอนันตสมาคมได้ด้วย ยิ่งถ้าเป็นช่วงเย็น บรรยากาศจะยิ่งโรแมนติก มีลมพัดเย็นสบาย บรรยากาศเงียบสงบ มีแสงไฟสีขาว สีส้มจากจุดต่าง ๆ สะท้อนลงน้ำระยิบระยับ สวยงามสุด ๆ


          ที่ร้านมีที่นั่งให้ลูกค้าได้เลือกสรรหลากหลายมุม มี 2 ชั้นค่ะ ใครอยากนั่งชิลริมสระน้ำชมวิวสวย ๆ ก็ได้ หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะก็มีห้องส่วนตัวไว้รับรอง เมนูอาหารก็ไม่น้อยหน้า จัดหนักจัดเต็มความอร่อยในทุกเมนู เมนูที่ห้ามพลาด
เช่น ปลากะพงวังวนา, ฉู่ฉี่ปูนิ่มผลไม้, ซีฟู้ดห่อหมกมะพร้าวอ่อน, ต้มยำทะเลมะพร้าวอ่อน, เต้าเจี้ยวหลน, ต้มยำปลากะพง, ข้าวตังแกงเนื้อ, กุ้งแช่น้ำปลา, ซี่โครงหมูอบ, ยำสามกรอบ, ผัดเผ็ดเห็ดกุ้ง, ขาหมูอบน้ำแดง, ทอดมันไข่เค็ม และเนื้อแดดเดียว เป็นต้น

          ที่อยู่ : สวนสัตว์ดุสิต ถนนพระรามที่ 5 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 0 2282 1491
          เฟซบุ๊ก : Wangwana Kitchen

2. กินข้าวบ้านเพื่อน


          บ้านไม้สองชั้นที่ถูกดัดแปลงทำเป็นร้านอาหารขนาดกะทัดรัด ตั้งอยู่ในซอยร่วมจิตต์ 3 ตกแต่งแบบเรียบง่าย ในบรรยากาศสุดอบอุ่น เหมือนกับนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านสมชื่อ ที่นี่มีเมนูอาหารหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น
ปูไข่ผัดพริกขี้หนู, ปลาทูต้มมะดัน, แกงเขียวหวานทะเล, ต้มแซ่บซี่โครงหมูอ่อน, ปลากะพงสองใจ และพิซซ่าโฮมเมดหน้าต่าง ๆ เป็นต้น

          ที่อยู่ : 201 ถนนพิชัย แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น. (ปิดวันเสาร์)
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 241 8531
          เฟซบุ๊ก : กินข้าวบ้านเพื่อน

3. ร้านข้าวซอยเชียงใหม่ สุโขทัยซอย 5


          ใครอยากกินอาหารเหนือแท้ ๆ รสชาติอร่อยล้ำ เราชวนไปร้านข้าวซอยเชียงใหม่ ในซอยสุโขทัย 5
เปิดมานานหลายปี การันตีความอร่อยได้จากผู้คนที่เดินเข้า-ออกร้านอย่างไม่ขาดสาย เมนูเด็ดที่อยากให้ลิ้มลอง
คงหนีไม่พ้นข้าวซอยสารพัดเนื้อ ทั้งข้าวซอยไก่, ข้าวซอยหมู, ข้าวซอยเนื้อ และข้าวซอยซี่โครงอ่อน
อ๊ะ ๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีขนมจีนไหหลำ, ข้าวมันไก่, หมูอบน้ำผึ้ง, เนื้ออบไหหลำ, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และก๋วยเตี๋ยวไก่อีกด้วย

          ที่อยู่ : 328/10 ซอยสุโขทัย 5 ถนนสุโขทัย แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 07.00-14.30 น. (ปิดวันอาทิตย์)
          เบอร์โทรศัพท์ : 02 668 4497
          เฟซบุ๊ก : ร้านข้าวซอยเชียงใหม่ สุโขทัยซอย 5
 
4. Friend's Cafe

          Friend's Cafe เป็นร้านกาแฟและร้านอาหารเล็ก ๆ ในซอยสวนอ้อยกลาง ร้านมีสีขาวสะอาดตา
โดดเด่นด้วยป้ายชื่อร้านในยุค 50 ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปด้านในจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่น ตกแต่งโดย
เน้นโทนสีขาวในสไตล์วินเทจ เคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม ขนมหวาน และอาหารจะอยู่ด้านหน้า มีโต๊ะให้เลือกนั่ง
หลากหลายมุม จะมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมาเป็นกลุ่มก็มีมุมสบาย ๆ ให้ได้นั่งชิล


          เครื่องดื่มที่น่าสนใจ เช่น Latte Aunchan, Chocolate Nomsod, Friend’s Coffee และ Strawberry Latte เป็นต้น ส่วนเมนูอาหารก็มีให้เลือกสรรมากมาย เช่น ข้าวกุ้งผัดสะตอ, ข้าวกุ้งผัดขมิ้น, ข้าวไข่ข้นกุ้ง, สปาเกตตีเส้นดำต้มยำทะเล, สปาเกตตีแซลมอนแซ่บ, ข้าวผัดกุ้งพริกขี้หนู เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ซอยสวนอ้อยซอยกลาง ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
          โทรศัพท์ : 09 1964 4669, 08 4542 2414
          เฟซบุ๊ก :  Friend's Cafe

5. สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน


          สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน เป็นร้านอาหารติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่นอกจากจะบรรยากาศดีเริดแล้ว รสชาติอาหารก็ยังอร่อยจนเป็นที่ติดอกติดใจของชาวกรุงเทพฯ ตัวร้านจะอยู่ทางด้านหลังของวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
จอดรถไว้ที่วัดแล้วเลาะมาทางอาคารเทวราชธรรมสถิต เดินเข้าซอยเล็ก ๆ ด้านข้างมาทางด้านหลังก็จะเจอกับ
บ้านไม้สีขาวติดริมแม่น้ำ การตกแต่งเป็นแบบเรียบง่าย มีภาพวาดลวดลายไทยอยู่ในบางมุม ออกแบบให้สามารถมองเห็นวิวรอบด้าน ที่สำคัญคือสามารถมองเห็นสะพานพระราม 8 ได้สวยงามสุด ๆ ลูกค้าจะได้กินลมชมวิวสวย ๆ
ริมสองฟากฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปพร้อมกับการลิ้มรสอาหารไทยสุดอร่อย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ไม่ควรพลาดของกรุงเทพฯ จริง ๆ

          ในส่วนของเมนูอาหารมีให้เลือกหลากหลายเมนู เช่น กุ้งแม่น้ำผัดพริกไทยดำ, กุ้งแม่น้ำผัดพริกเกลือ,
กุ้งแม่น้ำเผา, กุ้งแช่น้ำปลาวาซาบิ, กุ้งซอสมะขาม, เส้นหมี่ผัดเบคอนไข่เค็มโบราณ, ยำตะไคร้, ต้มโคล้งปลาสลิด
เห็ดฟาง, เมี่ยงก๋วยเตี๋ยว, ยำคุณแพท, เมี่ยงคะน้า, หมกปลากรายสมุนไพร, แกงเหลืองกุ้งใหญ่, สะตอผัดกุ้ง
และคั่วกลิ้งหมู เป็นต้น
ตั๊กออแกไนท์ดุสิตรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคดุสิต
นางรำดุสิตเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคดุสิต
ดุสิตรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคดุสิต
รําบวงสรวงพญานาคดุสิต
ฟ้อนบูชาพญานาคดุสิต
รําบวงสรวงพญานาคดุสิต



  ติดต่อสอบถามเรา        
            


233
รวมที่เที่ยวกรุงเทพฯ หลากหลายรสชาติ

1. Habito Mall

          ฮาบิโตะ มอลล์ (Habito Mall) เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ในย่านสุขุมวิท 77 ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป ด้วยการให้ที่นี่เป็นเสมือนดั่งส่วนหนึ่งของชีวิต คุณสามารถที่จะมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ บนพื้นที่แห่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านค้าคุณภาพดีมากมายที่พร้อมให้บริการที่นี่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ Co-Working Space สุดกว้างใหญ่ให้มาปล่อยไอเดียกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะวันไหน ๆ ที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุข

          ที่ตั้ง : ถนนสุขุมวิท 77 ซอยอ่อนนุช 1/1 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sansiri.com, เฟซบุ๊ก Habito Mall

2. โครงการป่าในกรุง


          อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดได้ที่โครงการป่าในกรุง บริเวณถนนสุขาภิบาล 2 ซึ่งเป็นโครงการของกลุ่ม ปตท. ที่จะพัฒนาและส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง โดยรอบพื้นที่กว่า 12 ไร่ของโครงการนี้ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้พื้นล่าง อาทิ กรวยป่า กระเจียว ขันทองพยาบาท พระเจ้าห้าพระองค์ แคแสด จันทน์ชะมด ชุมแสง ชำมะเลียง เต็งรัง ตะเคียนทอง มะกอกน้ำ มะเม่า สะตือ นุ่น สมพง ยางนา เหียง ฉนวน จัน-อิน สมอไทย ทองพันช่าง เป็นต้น

          ทุกต้นได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ทำให้ที่นี่โอบล้อมไปด้วยสีเขียว บรรยากาศเย็นสบาย มีหนองน้ำให้ความเย็นสดชื่น นักท่องเที่ยวจะได้เดินไปบนทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) เพื่อชื่นชมความงดงามโดยรอบพื้นที่และสูดอากาศอันสดชื่น มีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูง พร้อมทั้งอาคารพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้อีกด้วย

          ที่ตั้ง : เลขที่ 81 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
          โทรศัพท์ : 0 2136 6380
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : pttreforestation.com, เฟซบุ๊ก โครงการป่าในกรุง ปตท.

3. บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand)


          บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ พื้นที่ที่จะไม่ปล่อยให้คุณได้ยืนอยู่กับที่นิ่ง ๆ การวิ่งและกระโดดเท่านั้นที่จะทำให้คุณได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ภายในอารีน่าที่มีแทรมโพลีน หรือบอร์ดสปริงเชื่อมต่อกันไปมากว่า 100 ผืน ซึ่งมีสีสันสดใสสวยงาม กระตุ้นอะดรีนาลินในร่างกายให้พุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีกเท่าตัว

          กิจกรรมสุดมันที่จะสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบ๊าวซ์ตีลังกาข้ามแทรมโพลีน การเล่นสแลมดังก์ การวิ่งขึ้นกำแพง การแข่งดอดจ์บอล เป็นต้น ใครอยากได้เหงื่อเพราะการออกกำลังกายที่ไม่ซ้ำจำเจ ต้องพุ่งตัวไปที่นี่เลย

          ที่ตั้ง : ชั้น 5 ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2014 2446
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก :  bounceinc.co.th, เฟซบุ๊ก Bounce Thailand

4. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ (Bangkok Planetarium)


          กลับมาครั้งใหม่สวยงามอลังการสุด ๆ สำหรับท้องฟ้าจำลอง สถานที่ที่จะทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้สนุกไปกับการเที่ยวในจักรวาลอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะในห้องฉายดาว ที่ได้มีการปรับโฉมใหม่จนไฉไลและน่าทึ่งมาก ๆ โดยมีลักษณะเป็นโดมคล้ายท้องฟ้าจริง สามารถฉายดาวต่าง ๆ รวมทั้งดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลได้อย่างครบถ้วน ผู้ชมจะได้เห็นท้องฟ้าจำลองในรูปแบบที่สวยงามแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทีเดียว

          นอกจากนี้ยังมีการแสดงมหัศจรรย์แห่งแสงออโรร่า ซึ่งเป็นการแสดงที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแสงออโรร่าหรือแสงเหนือแสงใต้อันงดงามอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นภายในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาแห่งนี้ยังมีนิทรรศการอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ, นิทรรศการไดโนเสาร์, โลกของแมลง, นิทรรศการเมืองเด็ก, นิทรรศการแสงอาทิตย์ เป็นต้น

          ที่ตั้ง : 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
          โทรศัพท์ : 0 2391 0544, 0 2392 0508, 0 2392 1773
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sciplanet.org, เฟซบุ๊ก ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium

5. โพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok)


          เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ยิ่งในกรุงเทพฯ อากาศก็ยิ่งร้อนระอุ เพราะฉะนั้นต้องหาที่คลายร้อนกันสักหน่อย ซึ่งโพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ ในการไปสลัดความร้อนออกจากร่างกาย ที่นี่เป็นสวนน้ำกลางกรุงและยังเป็นสวนน้ำลอยฟ้าอีกด้วย เพราะตั้งอยู่บนชั้น 6 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา ครบครันไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด อีกทั้งยังตกแต่งด้วยธีมของการ์ตูนซีรีส์สุดฮิตของเกาหลีอย่างโพโรโระ เพนกวินป่วนก๊วนขั้วโลก (Pororo the Little Penguin) วันหยุดว่าง ๆ ไปเติมความเย็นชุ่มฉ่ำให้ร่างกายบ้างก็ดีไม่ใช่เลยทีเดียว

          ที่ตั้ง : ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-19.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
          ค่าบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 บาท, เด็ก 280 บาท, ผู้สูงอายุ 280 บาท และเด็กต่ำกว่า 90 ซม. ฟรี
          โทรศัพท์ : 0 2745 7377
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก :  pororoaquapark.com, เฟซบุ๊ก Pororo Aquapark BKK

6. ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet)


          ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet) ดินแดนสุดตื่นเต้นที่จะพาคุณกลับไปสนุกสนานกับโลกในยุคไดโนเสาร์ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของไดโนเสาร์อย่างตื่นตาตื่นใจ ด้วยการจัดนิทรรศการที่ผสมผสานเทคโนโลยีสุดทันสมัย แบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ Dinosaur District, Stars of Dino, Dino Eye, 4D Deep-World, The Great Volcano & The Extinction Live Show, Raptor X-Treme และ Dino Farm ซึ่งแต่ละโซนจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

          ใครอยากชมวิวกรุงเทพฯ สวย ๆ ก็ขึ้นไปบน Dino Eye หรือถ้าต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟก็ต้องไม่พลาดการแสดง The Great Volcano & The Extinction Live Show แนะนำว่าให้เที่ยวชมทุกจุด แล้วคุณจะได้รับความประทับใจแบบสุด ๆ แน่นอน

          ที่ตั้ง : สุขุมวิท 22 ดิ เอ็มสเฟียร์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 บาท, เด็ก 400 บาท, เด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี แต่มีค่าบริการ Dino Eye 200 บาท และขี่ไดโนเสาร์ 100 บาท
          โทรศัพท์ : 06 3167 6975 , 06 3162 5830
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dinosaurplanet.net, เฟซบุ๊ก Dinosaur Planet

7. เดอะ สตรีท (The Street) รัชดา


          เดอะ สตรีท (The Street) แหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิปบนถนนรัชดาภิเษก ศูนย์รวมความสนุกสนานของการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมากิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ออกกำลังกายที่นี่ก็มีหมด พบกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ หลากหลายแบบ ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าแฟชั่นอีกกว่า 200 ร้านให้เลือกเดินช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ไม่ถูกใจก็เดินวนไป รับรองมีแบบที่สวยและโดนใจแน่นอน

          ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีบ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand) สถานที่ออกกำลังกายสุดชิค ที่จะไม่ทำให้คุณได้อยู่นิ่ง ๆ คุณจะได้ทั้งกระโดดไปมา หรือจะปีนป่ายหน้าผา ก็เลือกเอาตามที่ใจชอบได้เลย ที่สำคัญร้านค้าร้านอาหารบางแห่งยังเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

          ที่ตั้ง : 139 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. บางร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thestreetratchada.com, เฟซบุ๊ก The Street Ratchada

8. The Commons ทองหล่อ


          ไม่ว่าทองหล่อจะวุ่นวายสักแค่ไหน ก็ยังมีที่พักใจสุดเงียบสงบอย่างเดอะ คอมมอนส์ (The Commons) ไว้รอต้อนรับตลอดตั้งแต่เช้าจรดเย็น ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แบบใหม่ ออกแบบให้พื้นที่โปร่งโล่ง และตกแต่งทุกมุมด้วยต้นไม้สีเขียว คล้ายกับเป็นพื้นที่สวนสวย ๆ หลังบ้านที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟสุดอร่อยมากมายให้เลือกเดินชิมลิ้มรส

          บรรยากาศโดยทั่วไปจึงดูผ่อนคลาย ไม่วุ่นวาย สามารถมานั่งเล่น นั่งพักผ่อน หรือนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน ถ้าหิวก็แค่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะได้กินอาหารสุดอร่อยมากมายหลากหลายเมนู โอ้ว ! แค่นี้ชีวิตก็แฮปปี้แล้ว :)

          ที่ตั้ง : 335 ซอยทองหล่อ 17 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 08.00-24.00 น.
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก The COMMONS

9. สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market)


          สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market) มาร์เกตมอลล์สุดชิคในย่านพระราม 4 แค่ดีไซน์ภายนอกของอาคารก็ทำให้คนกรุงหลงใหลไปไม่น้อย เพราะออกแบบในสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์ ให้มีกลิ่นอายของสถานีรถไฟ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ที่ตั้งของโครงการเคยมีสายรถไฟสายแรกของประเทศไทยอย่างสายปากน้ำวิ่งผ่าน

          ภายในโครงการยังออกแบบตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่เก๋ไก๋ โปร่งโล่งน่ามาเดินเล่นพักผ่อนสุด ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ไว้รอต้อนรับมากมาย จะมาเช้า สาย บ่าย เย็นก็เต็มที่กับชีวิตได้เหมือนกัน

          ที่ตั้ง : 3654 ถนนพระราม4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 09.00-21.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2249 8854
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Suanplern Market - สวนเพลิน มาร์เก็ต

10. ณ กรุงเทเวศร์


          ณ กรุงเทเวศร์ เป็นโครงการร้านค้าติดแอร์ และตลาดที่อยู่ท่ามกลางชุมชนเก่าแก่อย่างชุมชนเทเวศร์ ภายในโครงการเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของอดีตในสมัยรัชกาลที่ 6 ด้วยอาคารต่าง ๆ มีสถาปัตยกรรมตามสมัยนั้น รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ก็มีกลิ่นอายของอดีตด้วยเช่นกัน และยังมีต้นไม้ร่มรื่นสีเขียวขจี อากาศเย็นสบาย

          เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายแบบ ไล่ไปตั้งแต่ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น และอาหารหลากหลายแบบ ณ กรุงเทเวศร์ จึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ดีของคนกรุงเทพฯ อีกหนึ่งแห่ง

          ที่ตั้ง : 164-172 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 09.00-10.00 น.
          โทรศัพท์ : 09 7009 3604
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก ณ กรุงเทเวศร์

11. เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT)


          เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT) แหล่งช้อปปิ้งสุดทันสมัยย่านพระราม 2 ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ออกแบบอาคารให้ความโดดเด่นทันสมัย โปร่งโล่ง น่าเดินเที่ยวพักผ่อน มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถอันกว้างขวาง

          ภายในอาคารของเดอะ ไบรท์ จะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ มากมาย จะอาหารไทย หรืออาหารนานาชาติที่นี่ก็มีให้บริการ บริเวณด้านบนของอาคารยังเป็นพื้นที่สวนสีเขียว จัดไว้เพื่อให้ได้นั่งพักผ่อนกันอีกด้วย

          ที่ตั้ง : 15/6 ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thebright.cc, เฟซบุ๊ก THE BRIGHT

12. ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market)


          ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market) ตลาดปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นที่เดียวในกรุงเทพฯ ซึ่งมีปลาทะเล ปูทะเล และซีฟู้ด หลากหลายแบบให้เลือกซื้อ มีทั้งแบบสดและแบบแช่แข็ง คัดเลือกคุณภาพมาแล้วอย่างดี ใครที่ชอบทานอาหารทะเลสด ๆ หรือเนื้อปลาดิบสไตล์ญี่ปุ่น สามารถมาเลือกเพื่อไปทำกินเองได้เลย หรือถ้าไม่ถนัดทำกินเอง ที่นี่ก็มีบาร์อาหารพร้อมเสิร์ฟไว้บริการด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีผัก-ผลไม้คุณภาพพรีเมียมไว้จำหน่ายอีกด้วย

          ที่ตั้ง : 163/6 ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2260 6522
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Shinsen Fish Market

ตั๊กออแกไนท์ดินแดงรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคดินแดง
นางรำดินแดงเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคดินแดง
ดินแดงรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคดินแดง
รําบวงสรวงพญานาคดินแดง
ฟ้อนบูชาพญานาคดินแดง
รําบวงสรวงพญานาคดินแดง

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


234
15 ที่เที่ยวปทุมธานี ครบรสความสนุก อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่เอื้อม

1. พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

          พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยกับความสัมพันธ์ในด้านการเกษตรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งจะจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และโครงการพระราชพิธีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในอาคาร นำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการเกษตรและวิถีเกษตรไทยผ่านสื่อผสมผสานที่ทันสมัย และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งเป็นฐานเรียนรู้การทำการเกษตรต่าง ๆ

          อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท (กรณีเข้าชมต่อหนึ่งอาคาร)

          ที่ตั้ง : ตรงข้ามโรงพยาบาลการุญเวช นวนคร ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : wisdomking.or.th, พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
 
2. ร้านกาแฟชายทุ่ง

           ร้านกาแฟชายทุ่ง เป็นร้านกาแฟที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดขึ้น เป็นร้านกาแฟขนาดกะทัดรัด ภายนอกเป็นอาคารสีขาวชั้นเดียว รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ตกแต่งและออกแบบอย่างสวยงาม ผสมผสานระหว่างสไตล์ไทยและโมเดิร์น ให้บริการเครื่องดื่มมากมายหลากหลายเมนู พร้อมด้วยขนมหวานโฮมเมดสุดอร่อย บริเวณด้านหลังของร้านยังมีบ่อปลา แปลงนาสาธิต แปลงผักสวนครัว และแปลงสมุนไพร ให้ได้เดินเข้าไปศึกษากันอีกด้วย

            ที่ตั้ง : โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรชุมชนเมืองในพื้นที่ดินเปรี้ยว บริเวณถนนรังสิต-นครนายก ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

           เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.

           เฟซบุ๊ก : กาแฟชายทุ่ง

3. ตลาดอิงน้ำสามโคก

          ตลาดอิงน้ำสามโคก เป็นตลาดบรรยากาศน่ารัก ตามแบบวิถีชาวบ้านที่เรียบง่าย ตั้งอยู่ริมคลองบางเตยและแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในตลาดเป็นนชุมชนเก่าแก่ บ้านเรือนจะเป็นเรือนแถวไม้แบบดั้งเดิม มีของกินอร่อย ๆ ให้ได้เลือกกินเพียบ พร้อมทั้งมีร้านขายของชำที่จำหน่ายสินค้าโบราณ ให้ได้มาย้อนวัยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟริมน้ำ ร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี ให้แวะพักใจชิล ๆ อีกต่างหาก

           ที่ตั้ง : ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น.

          เฟซบุ๊ก : ตลาดอิงน้ำสามโคก ชุมชนตลาดเก่าบางเตย

4. วัดเจดีย์หอย

           วัดเจดีย์หอย เป็นวัดที่มีโบราณสถานสำคัญอย่างเจดีย์หอยโบราณตั้งอยู่ ซึ่งเจดีย์ดังกล่าวก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2538 โดยพระครูสุนทรคุณธาดา หรือหลวงพ่อทองกลึง สุนทโร เจดีย์นี้หอยนี้ได้สร้างขึ้นมาจากซากหอยโบราณที่ฝังตัวอยู่ใต้พื้นดินและมีอายุนับพัน ๆ ปี ซึ่งขุดพบได้บริเวณวัดนั่นเอง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพระพุทธรูป ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ จำนวนมาก ให้ได้เที่ยวชมกันด้วย

           ที่ตั้ง : หมู่ 4 ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

           เฟซบุ๊ก : วัดเจดีย์หอย จ.ปทุมธานี

5. วัดป่าคลอง 11

          วัดป่าคลอง 11 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว้างกว่า 16 ไร่ เป็นวัดที่ประชาชนเชื่อกันว่ามีพญานาคทำหน้าที่ปกปักรักษา ด้านในโดดเด่นด้วยโบสถ์ไม้กลางสระน้ำ มีรูปปั้นพญานาคแกะสลักล้อมรอบ พร้อมทั้งมีรูปปั้นพญานาคตั้งอยู่รอบ ๆ วัดด้วย ประชาชนที่ศรัทธาก็มักจะเดินทางมากราบไหว้ขอพร หากมีเวลาก็จะอยู่ถือศีลเพื่อเพิ่มบุญบารมีกันด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.


6. วัดโบสถ์

          วัดโบสถ์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นวัดเก่าแก่และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดปทุมธานี ด้วยมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อเหลือประดิษฐานอยู่ อีกทั้งยังมีรูปปั้นเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ สูงมากถึง 28 เมตร ให้พุทธศาสนิกชนได้เดินทางมากราบไหว้ขอพร และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้สร้างพระพุทธโสธรองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพ่อโตด้วย นอกจากนี้ยังมีโบราณสถาน และโบราณวัตถุ พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้ได้มาทำบุญเสริมบารมีกัน

          ที่ตั้ง : ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

          เฟซบุ๊ก : วัดโบสถ์ สมเด็จโต หลวงพ่อโสธร องค์ใหญ่ สามโคก ปทุมธานี

7. ตลาดระแหง 100 ปี

          ตลาดระแหง 100 ปี ตั้งอยู่ในชุมชนเก่าแก่ริมคลองระแหง บ้านเรือนเป็นเรือนแถวไม้เก่าแก่ อายุมากกว่า 100 ปี บรรยากาศสบาย ๆ โดดเด่นด้วยร้านขายของชำแบบโบราณ พร้อมด้วยร้านอาหารเก่าแก่ที่เสิร์ฟแต่อาหารอร่อย ๆ เช่น ร้านแปโภชนา ร้านอากง เมี่ยงคำอิกคิว ก๋วยเตี๋ยวโบราณตาพ้ง เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าจะเปิดคึกคักเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์

          เฟซบุ๊ก : ตลาดระแหง 100 ปี ปทุมธานี

8. วัดปัญญานันทาราม


          วัดปัญญานันทาราม ก่อตั้งโดยพระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปทุมุตฺตโร) หรือที่เรารู้จักกันคือ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เป็นวัดที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพศรัทธา ด้วยมีหลักปฏิบัติที่เรียบง่าย มีเหตุและผลตามหลักพระพุทธศาสนา คำสอนของหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตได้จริง โดยมีกิจกรรมงานเผยแผ่พระศาสนา โดยมุ่งเน้นการศึกษา อบรมปฏิบัติธรรม และเผยแผ่ธรรมะ เปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าร่วมตลอดทั้งปี ทั้งนี้บรรยากาศในวัดก็เงียบสงบ ในวันพระก็มีการทำบุญตักบาตรใต้ร่มไม้ร่มรื่น เหมาะแก่การไปทำบุญกับครอบครัว มีเจดีย์พุทธคยาจำลองให้ได้มาเที่ยวชมกันด้วย

          ที่ตั้ง : เลขที่ 1 หมู่ 10 ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : watpanya.org, วัดปัญญานันทาราม - สถานที่ที่ทำให้เกิดปัญญา

9. วัดเจดีย์ทอง


          วัดเจดีย์ทอง เป็นอีกวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา โดยชาวมอญที่อพยพหนีพม่าจากเมืองเมาะตะมะ สิ่งที่สำคัญของวัดนี้ ได้แก่ เจดีย์ทอง มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงรามัญ เจดีย์ประธานมีสีทองอร่ามตา ล้อมรอบด้วยเจดีย์องค์เล็กสวยงามสะดุดตา นอกจากนี้ก็ยังมีพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร แบบทรงมอญ ทำมาจากแก้วหยกประดิษฐานอยู่ด้วย

          ที่ตั้ง : หมู่ 1 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

10. ดรีมเวิลด์


          ดรีมเวิลด์ เป็นสวนสนุกและสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีเนื้อที่กว้างขวางมากกว่า 160 ไร่ ซึ่งประกอบไปด้วยเอนเตอร์เทนเมนต์มากมาย ทั้งเครื่องเล่น สวนน้ำ สวนสัตว์ ทะเลสาบขนาดใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจ อาทิ เมืองหิมะ, ทอร์นาโด, เฮอริเคน, สกายโคสเตอร์, ไวกิ้ง, แกรนด์แคนยอน, ซูเปอร์สแปลช, ปราสาทผีสิง, เคเบิลคาร์, เรือบั๊มพ์, จักรยานน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

          อัตราค่าเข้าชม : เริ่มต้น เด็ก 200 บาท ผู้ใหญ่ 250 บาท

          ที่ตั้ง : 62 หมู่ 1 ถนนรังสิต-องครักษ์ (กม.7) ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.

          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dreamworld.co.th, Dream World

11. บ้านครูธานี หอมชื่น


          บ้านครูธานี หอมชื่น เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการทำนา และการใช้ชีวิตสุดเรียบง่ายตามวิถีชีวิตของเกษตรกรชาวไทย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปมาเข้าชมบ้านเรือนไทยภาคกลางและร่วมเรียนรู้เกี่ยวกับการทำนาตามแบบดั้งเดิมกันแบบเป็นหมู่คณะ บางครั้งก็เปิดให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาที่ทางครูธานี หอมชื่น กำหนด โดยจะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บไข่ในเล้าไก่ การทำความรู้จักกับควายไทย การเล่นเครื่องเล่นโบราณ การดำนาในท้องนาจริง ๆ ฯลฯ ซึ่งเหมาะกับการเที่ยวแบบครอบครัว สามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่เฟซบุ๊ก บ้านนาครูธานี

          ที่ตั้ง : ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปุทมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดเฉพาะวัน-เวลา ที่มีกิจกรรม ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊ก

          เฟซบุ๊ก : บ้านนาครูธานี

12. ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า

          ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงบริเวณปากคลองบางหลวงเชียงราก อยู่ในบริเวณเดียวกับวัดศาลเจ้า และอยู่ใกล้กับวัดมะขาม เป็นตลาดในร่ม มีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน เป็นแหล่งรวบรวมร้านอาหารอร่อย ๆ ของจังหวัดปทุมธานี ที่น่าสนใจ อาทิ ร้านกุยช่ายต้นโพธิ์, กุยช่ายเจ้มล, ห่อหมกตาเรศ, ก๋วยเตี๋ยวโบราณนายทองสุข, หมูสะเต๊ะแม่สังเวียน, ก๋วยเตี๋ยวเรือนไม้, ป้าป่องกุ้งทอด เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน (วันจันทร์ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิด ยกเว้นวัดหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

          เฟซบุ๊ก : ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า - วัดมะขาม ปทุมธานี

13. พิพิธภัณฑสถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          พิพิธภัณฑสถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเครื่องปั้นดินเผาโบราณจำนวนกว่า 16,000 รายการ ที่อาจารย์สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย มอบให้ เป็นอาคารชั้นเดียว มีบางส่วนอยู่ใต้ดิน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเตาเผาโบราณ ด้านในอาคารจัดแสดงเรื่องพัฒนาการของเครื่องปั้นดินเผาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประวัติเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นสินค้าออกของประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งเครื่องปั้นดินเผาโบราณมากมาย

           ที่ตั้ง : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต เลขที่ 9/1 หมู่ที่ 5 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

           เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.

           เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : museum.bu.ac.th, Southeast Asian Ceramics Museum

14. ท้องฟ้าจำลองรังสิต

          ท้องฟ้าจำลองรังสิต หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการศึกษาให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ โดยมีการฉายภาพยนตร์ทางวิทยาศาสตร์และการบรรยายดาว เป็นกิจกรรมที่ขึ้นชื่อ ซึ่งจะมีรอบการแสดงทุกวันอังคาร-อาทิตย์ รอบละ 160 ที่นั่ง 45 นาที/รอบ เรื่องที่จัดแสดง อาทิ Origin of life, The Secrets of Gravity, Polaris, Kaluokahina, From Earth to the University, การบรรยายดาว เป็นต้น

          ค่าเข้าชม : คนละ 30 บาท

          ที่ตั้ง : เลขที่ 5หมู่ 2 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) วันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.

          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : rscience.go.th, ท้องฟ้าจำลองรังสิต

15. บ้าน ๑,๐๐๐ไม้ Cafe' & Farm

          บ้าน ๑,๐๐๐ไม้ Cafe' & Farm เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศน่านั่งพักผ่อน ด้วยร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และสวนน่ารัก ๆ มีแปลงผัก บ่อน้ำ นาข้าวเล็ก ๆ ให้ได้มาเดินชมกันชิล ๆ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์จะมีการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก ๆ ให้ได้มาสนุกสนานกับวิถีชีวิตของเกษตรกรแบบเรียบง่าย สนุกกันได้ทั้งครอบครัว

          ที่ตั้ง : 48/8 หมู่ 6 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.

          เฟซบุ๊ก : บ้าน๑,๐๐๐ไม้cafe'&farm

           ปทุมธานี ใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้ แล้วยังมีที่เที่ยวให้ได้ไปเช็กอินหลากหลายแบบด้วย วันไหนว่าง ๆ ก็พากันไปเที่ยวได้นะคะ ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง วันเดียวเที่ยวได้สบายมาก เป็นตัวเลือกของการพักผ่อนวันหยุดที่ดีทีเดียว :)

ตั๊กออแกไนท์ดอนเมือง รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคดอนเมือง
นางรำดอนเมืองเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาดอนเมือง
ดอนเมืองรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคดอนเมือง
รําบวงสรวงพญานาคดอนเมือง
ฟ้อนบูชาพญานาคดอนเมือง
รําบวงสรวงพญานาคดอนเมือง

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


235
พาไปเช็กอิน “จอมทอง” อำเภอนี้ ต้องลองมาเที่ยว

“จอมทอง” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอำเภอท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดยอดฮิต จุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ต้องมาเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ และผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่จะมีที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ และต้องมาเช็คอิน มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

1.พระธาตุศรีจอมทอง

เริ่มต้นกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่อำเภอมาอย่างยาวนาน และมีประวัติเล่าขานที่น่ารับชม “พระธาตุศรีจอมทอง” พระธาตุเก่าแก่สวยงาม สีทองเด่นอร่าม (พระธาตุประจำปีชวด) เป็นที่เคารพนับถือของชาวเหนือ ที่ใครผ่านมาที่อำเภอจอมทอง ต้องแวะเข้ามากราบไหว้กันเป็นประจำ

2.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ถ้าหากมาถึงที่อำเภอจอมทองกันแล้วไม่ได้มาเที่ยวเช็คอินที่นี่ เหมือนกับว่ามาไม่ถึง กับจุดเช็คอินท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์” อุทยานท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะทำให้คุณได้เพลินตาไปกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมถ่ายรูปกับป้าย “จุดสูงสุดแดนสยาม” ไว้เป็นที่ระลึก

3.บ้านแม่กลางหลวง

สัมผัสบรรยากาศของวิวทิวทัศน์ทุ่งนาขั้นบันได ที่เรียงรายสวยงามลงเป็นขั้น ๆ ท่ามกลางความเงียบสงบ ณ “บ้านแม่กลางหลวง” หรือที่รู้จักคุ้นหูกันดีในชื่อ “แม่กลางหลวง” สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติ และเพลินตาไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย

4.นาขั้นบันไดบ้านผาหมอน

เพลินตา สบายใจไปกับนาขั้นบันไดที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของอำเภอจอมทอง “บ้านผาหมอน” เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เงียบสงบ และโดดเด่นด้วยนาขั้นบันไดที่เรียงรายสวยงาม พร้อมบ้านพักของชุมชนให้ได้มาพักแรม ชมบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติที่นี่อย่างใกล้ชิด

5.น้ำตกแม่กลาง

“น้ำตกแม่กลาง” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ จุดแวะเที่ยวเล่นน้ำผ่อนคลาย ก่อนเข้าสู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สัมผัสสายน้ำอันเย็นฉ่ำที่ตกผ่านหน้าผาขนาดใหญ่ สวยงาม ไหลลงมาสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ ให้ได้มานั่งเล่นน้ำ แช่น้ำ และที่สำคัญมีน้ำไหลตลอดทั้งปี


6.น้ำตกแม่ยะ

ชมความสวยงามของสายน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบน เป็นสายน้ำที่ไหลลงมาเป็นแบบขั้นบันได จนได้ขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และเป็นน้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย กับชื่อที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดี “น้ำตกแม่ยะ” น้ำตกขนาดใหญ่ ไหลลดหลั่นลงมาประมาณ 30 ชั้น ให้คุณได้มาเที่ยวชมละอองน้ำที่กระจายสวยงาม และเป็นม่านน้ำในช่วงหน้าฝน รอบข้างเป็นป่าไม้พรรณไม้ร่มรื่นเหมาะสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ

7.น้ำตกแม่เตี๊ยะ

เที่ยวชมความอลังการของน้ำตกกลางป่าลึก ขนาด 4 ชั้น “น้ำตกแม่เตี๊ยะ” น้ำตกขนาดใหญ่ และสวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติออบหลวง รอบข้างรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ให้บรรยากาศที่สุดแสนร่มรื่น และให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับสายน้ำที่ชุ่มฉ่ำใจ

8.เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

จุดท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ และโด่งดังที่สุดภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน” จุดชมวิวทิวทัศน์ที่จะทำให้คุณได้ฟิน อิน ธรรมชาติ กับเส้นทางธรรมชาติระยะทาง 3 กิโลเมตร เต็มอิ่มไปด้วยความสวยงาม เดินรับสายลมเย็น ๆ ชมวิวทิวทัศน์ ถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์กันให้ชุ่มฉ่ำปอด

9.ดอยผาตั้ง

สัมผัสธรรมชาติ รับชมความสวยงามของสายหมอก ทิวเขา และวิวทิวทัศน์สีเขียว ๆ ที่อุดมสมบูรณ์บน “ดอยผาตั้ง” สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติ และความเงียบสงบ รวมไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ม่อนน้องแกะ” สุดน่ารัก ขนนิ่ม ๆ ให้ได้มาเล่น มาถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด และที่นี่ยังถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวดอกพญาเสือโคร่งที่ขึ้นชื่อกันอีกด้วย

10.ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย บ้านขุนแปะ

เพลินตาไปกับดอกไม้สีสันสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ภายใน “โครงการหลวงขุนแปะ” ชมความสวยงามของ “ดอกไฮเดรนเยีย” ที่บานสะพรั่งไปทั่วทุ่งแบบไม่ต้องไปไกลถึงเวียดนาม แค่มาที่อำเภอจอมทองก็ฟินแล้ว

ตั๊กออแกไนท์จอมทอง รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคจอมทอง
นางรำจอมทองเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคจอมทอง
จอมทองรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคจอมทอง
รําบวงสรวงพญานาคจอมทอง
ฟ้อนบูชาพญานาคจอมทอง
รําบวงสรวงพญานาคจอมทอง

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


236
เที่ยวมีนบุรี เดินเพลิน ๆ ตลาดน้ำ พร้อมเสพความรู้ในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น

วันนี้ก็มาถึงคิวของย่านมีนบุรี กันบ้างค่ะ ซึ่งก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจซ่อนตัวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกัน

1. ตลาดน้ำขวัญ เรียม

          ตลาดน้ำขวัญ เรียม เป็นตลาดน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ ช่วงระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ มีการจัดตลาดให้มีบรรยากาศย้อนยุค ผสมผสานกับความทันสมัยนิด ๆ แต่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นพื้นบ้านแบบไทย ๆ พร้อมทั้งยังมีการจำลองชีวิตของชุมชนริมฝั่งคลอง ทั้งการตักบาตรพระสงฆ์ทางเรือ การทอดผ้าป่าทางน้ำ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย

          ส่วนใครที่ชอบกินอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ ราคาย่อมเยา ที่นี่ก็มีร้านค้ามากกว่า 50 ร้าน ให้ได้เดินเลือกซื้อกินกันอย่างจุใจ ทั้งบนบกและในน้ำ เหมาะที่จะมาเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ตักบาตรทางเรือเริ่มเวลา 07.30-08.00 น.
          เฟซบุ๊ก : ตลาดน้ำขวัญ เรียม

2. วัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบางเพ็งใต้

          วัดบำเพ็ญเหนือ และวัดบางเพ็งใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองแสนแสบ เป็นวัดสำคัญในเขตมีนบุรี โดยวัดบำเพ็ญเหนือ จะตั้งอยู่ทางฝั่งซอยเสรีไทย 60 ส่วนวัดบางเพ็งใต้ ตั้งอยู่ทางฝั่งซอยรามคำแหง 187 ทั้งสองวัดสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 มีพระอุโบสถที่สวยงาม พร้อมทั้งสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ ตลาดน้ำขวัญ เรียม ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งคลองแสนแสบในเขตของทั้ง 2 วัด เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

3. พิพิธภัณฑ์เรือจิ๋ว

          พิพิธภัณฑ์เรือจิ๋ว ตั้งอยู่เลขที่ 2/173-175 หมู่บ้านบัวขาว ซอย 22 ถนนสุขาภิบาล 3 เป็นสถานที่จัดแสดงเรือจำลองขนาดเล็ก ซึ่งมีหลากหลายแบบ ทั้งเรือไทยและต่างชาติ เช่น เรือสำเภาจีน, เรือใบ, เรือกระแชง, เรืออีโปง และเรือเสด็จประพาสต้น พร้อมทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวชมอู่ต่อเรือ และสาธิตการทำเรือจิ๋วด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์เรือจิ๋ว

4. พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี

          พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี ตั้งอยู่บนถนนสีหบุรานุกิจ ภายในบริเวณสํานักงานเขตมีนบุรี มีลักษณะเป็นอาคารไม้สักทั้งหลัง สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ชื่อเต็มของที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

          ด้านในของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุ สิ่งของ เอกสาร ศิลปวัฒนธรรม และข้อมูลวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติความเป็นมาของเมืองมีนบุรีจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยมีส่วนจัดแสดงเฉลิมพระเกียรติที่มีเก้าอี้ที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อคราวที่เสด็จมาเยือนตั้งอยู่ด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
          เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี


5. ตลาดนัดจตุจักร 2 เมืองมีนบุรี

          ตลาดนัดจตุจักร 2 หรือตลาดเมืองมีน ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสีหบุรานุกิจ มีลักษณะเป็นตลาดซื้อ-ขายสินค้าเหมือนกับที่ตลาดนัดจตุจักร บริเวณสวนจตุจักร เต็มไปด้วยสินค้าครบครัน ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้าแฟชั่น กระเป๋า เครื่องประดับ สินค้ามือสอง ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ราคาไม่แพง

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.

6. สวนบึงกระเทียม

          สวนบึงกระเทียม ตั้งอยู่บริเวณริมถนนหม่อมเจ้าสง่างาม สุประดิษฐ์ มีลักษณะเป็นสวนสาธารณะริมคลองบางชัน ซึ่งจัดตกแต่งให้เป็นสวนหย่อมบรรยากาศร่มรื่น มีไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้พุ่มเล็ก และไม้คลุมดิน โดยรอบพื้นที่กว่า 82 ไร่ และยังออกแบบให้มีเส้นทางวิ่งออกกำลังกาย พร้อมทั้งมีอุปกรณ์ออกกำลังกาย และห้องน้ำไว้รองรับประชาชน

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.

7. ตลาดเก่ามีนบุรี และชุมชนมีนบุรีอุปถัมภ์

          ตลาดเก่ามีนบุรี เป็นตลาดดั้งเดิมของชาวมีนบุรี จะอยู่บริเวณริมถนนสีหบุรานุกิจ ในโซนนี้จะมีสินค้าจำหน่ายมากมาย ทั้งของสด ของแห้ง ผัก-ผลไม้นานาชนิด รวมทั้งของกินอีกหลากหลายประเภท นอกจากโซนนี้แล้วก็ยังมีโซนที่เป็นตลาดเก่าดั้งเดิม ซึ่งจะตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ แต่ได้ถูกไฟไหม้ไป จึงย้ายตลาดไปอยู่ยังที่ตั้งปัจจุบัน

          ตลาดเก่าดั้งเดิมจะมีศาลเจ้าสไตล์จีนสวยงามเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ พร้อมทั้งมีเรือนแถวไม้แบบโบราณให้ได้เดินเที่ยวชม สามารถมาเดินเที่ยวถ่ายรูปชิค ๆ ได้ตลอดทั้งวัน

8. สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9

          ตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนมีนบุรี หน้าเขตมีนบุรี ตรงข้ามศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นสวนสาธารณะบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย พร้อมกับมีเส้นทางเดิน-วิ่ง และออกกำลังกาย รวมทั้งพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ มีสิ่งสำคัญภายในสวน คือ พระบรมรููปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.

9. Cafe du Coq
         Cafe du Coq ตั้งอยู่ในซอยร่มเกล้า 8/1 เป็นร้านกาแฟบรรยากาศดีอีกหนึ่งแห่งของเขตมีนบุรี ร่มรื่นไปด้วยสวนสีเขียว ประดับประดารอบ ๆ ร้านไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และน่านั่งพักผ่อนระหว่างวัน มีที่นั่งให้ลูกค้าเลือกชิลทั้งด้านนอกและภายในห้องปรับอากาศ ในส่วนของกาแฟสด ก็อร่อยเข้มข้น ถูกใจคอกาแฟแน่นอน และยังมีเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้เลือกลิ้มลอง พร้อมทั้งมีเค้กและขนมหวานพร้อมเสิร์ฟอีกหลากหลายเมนู

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.
          เฟซบุ๊ก : Cafe du Coq

10. ARABIA COFFEE

ตั๊กออแกไนท์คันนายาว รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคคันนายาว
นางรำคันนายาวเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคคันนายาว
คันนายาวรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคคันนายาว
รําบวงสรวงพญานาคคันนายาว
ฟ้อนบูชาพญานาคคันนายาว
รําบวงสรวงพญานาคคันนายาว

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


237
รวมที่เที่ยวกรุงเทพฯ หลากหลายรสชาติ

วันนี้เราจึงได้รวบรวม 12 ที่เที่ยวกรุงเทพฯ 2016 ที่น่าสนใจมาไว้ให้ที่นี่แล้ว ไม่ต้องไปไกลถึงต่างจังหวัดก็สามารถที่จะเพลิดเพลินได้ จะมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง...ไปดูกัน

1. Habito Mall

          ฮาบิโตะ มอลล์ (Habito Mall) เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ในย่านสุขุมวิท 77 ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป ด้วยการให้ที่นี่เป็นเสมือนดั่งส่วนหนึ่งของชีวิต คุณสามารถที่จะมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ บนพื้นที่แห่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านค้าคุณภาพดีมากมายที่พร้อมให้บริการที่นี่ อีกทั้งยังมีพื้นที่ Co-Working Space สุดกว้างใหญ่ให้มาปล่อยไอเดียกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะวันไหน ๆ ที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุข

          ที่ตั้ง : ถนนสุขุมวิท 77 ซอยอ่อนนุช 1/1 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sansiri.com, เฟซบุ๊ก Habito Mall

2. โครงการป่าในกรุง

          อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชุ่มปอดได้ที่โครงการป่าในกรุง บริเวณถนนสุขาภิบาล 2 ซึ่งเป็นโครงการของกลุ่ม ปตท. ที่จะพัฒนาและส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง โดยรอบพื้นที่กว่า 12 ไร่ของโครงการนี้ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มีทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้พื้นล่าง อาทิ กรวยป่า กระเจียว ขันทองพยาบาท พระเจ้าห้าพระองค์ แคแสด จันทน์ชะมด ชุมแสง ชำมะเลียง เต็งรัง ตะเคียนทอง มะกอกน้ำ มะเม่า สะตือ นุ่น สมพง ยางนา เหียง ฉนวน จัน-อิน สมอไทย ทองพันช่าง เป็นต้น

          ทุกต้นได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ทำให้ที่นี่โอบล้อมไปด้วยสีเขียว บรรยากาศเย็นสบาย มีหนองน้ำให้ความเย็นสดชื่น นักท่องเที่ยวจะได้เดินไปบนทางเดินลอยฟ้า (Sky Walk) เพื่อชื่นชมความงดงามโดยรอบพื้นที่และสูดอากาศอันสดชื่น มีหอคอยให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูง พร้อมทั้งอาคารพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้อีกด้วย

          ที่ตั้ง : เลขที่ 81 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)
          โทรศัพท์ : 0 2136 6380
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : pttreforestation.com, เฟซบุ๊ก โครงการป่าในกรุง ปตท.

3. บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand)

          บ๊าวซ์ ไทยแลนด์ พื้นที่ที่จะไม่ปล่อยให้คุณได้ยืนอยู่กับที่นิ่ง ๆ การวิ่งและกระโดดเท่านั้นที่จะทำให้คุณได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ภายในอารีน่าที่มีแทรมโพลีน หรือบอร์ดสปริงเชื่อมต่อกันไปมากว่า 100 ผืน ซึ่งมีสีสันสดใสสวยงาม กระตุ้นอะดรีนาลินในร่างกายให้พุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีกเท่าตัว

          กิจกรรมสุดมันที่จะสร้างสรรค์ขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบ๊าวซ์ตีลังกาข้ามแทรมโพลีน การเล่นสแลมดังก์ การวิ่งขึ้นกำแพง การแข่งดอดจ์บอล เป็นต้น ใครอยากได้เหงื่อเพราะการออกกำลังกายที่ไม่ซ้ำจำเจ ต้องพุ่งตัวไปที่นี่เลย

          ที่ตั้ง : ชั้น 5 ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2014 2446
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก :  bounceinc.co.th, เฟซบุ๊ก Bounce Thailand

4. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ (Bangkok Planetarium)

          กลับมาครั้งใหม่สวยงามอลังการสุด ๆ สำหรับท้องฟ้าจำลอง สถานที่ที่จะทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้สนุกไปกับการเที่ยวในจักรวาลอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะในห้องฉายดาว ที่ได้มีการปรับโฉมใหม่จนไฉไลและน่าทึ่งมาก ๆ โดยมีลักษณะเป็นโดมคล้ายท้องฟ้าจริง สามารถฉายดาวต่าง ๆ รวมทั้งดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลได้อย่างครบถ้วน ผู้ชมจะได้เห็นท้องฟ้าจำลองในรูปแบบที่สวยงามแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทีเดียว

          นอกจากนี้ยังมีการแสดงมหัศจรรย์แห่งแสงออโรร่า ซึ่งเป็นการแสดงที่ให้ความรู้เกี่ยวกับแสงออโรร่าหรือแสงเหนือแสงใต้อันงดงามอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นภายในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาแห่งนี้ยังมีนิทรรศการอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ, นิทรรศการไดโนเสาร์, โลกของแมลง, นิทรรศการเมืองเด็ก, นิทรรศการแสงอาทิตย์ เป็นต้น

          ที่ตั้ง : 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
          โทรศัพท์ : 0 2391 0544, 0 2392 0508, 0 2392 1773
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : sciplanet.org, เฟซบุ๊ก ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium

5. โพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok)

          เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ยิ่งในกรุงเทพฯ อากาศก็ยิ่งร้อนระอุ เพราะฉะนั้นต้องหาที่คลายร้อนกันสักหน่อย ซึ่งโพโรโระ อควา พาร์ค กรุงเทพฯ (Pororo Aquapark Bangkok) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ ในการไปสลัดความร้อนออกจากร่างกาย ที่นี่เป็นสวนน้ำกลางกรุงและยังเป็นสวนน้ำลอยฟ้าอีกด้วย เพราะตั้งอยู่บนชั้น 6 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา ครบครันไปด้วยเครื่องเล่นนานาชนิด อีกทั้งยังตกแต่งด้วยธีมของการ์ตูนซีรีส์สุดฮิตของเกาหลีอย่างโพโรโระ เพนกวินป่วนก๊วนขั้วโลก (Pororo the Little Penguin) วันหยุดว่าง ๆ ไปเติมความเย็นชุ่มฉ่ำให้ร่างกายบ้างก็ดีไม่ใช่เลยทีเดียว

          ที่ตั้ง : ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-19.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
          ค่าบัตรเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 บาท, เด็ก 280 บาท, ผู้สูงอายุ 280 บาท และเด็กต่ำกว่า 90 ซม. ฟรี
          โทรศัพท์ : 0 2745 7377
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก :  pororoaquapark.com, เฟซบุ๊ก Pororo Aquapark BKK

6. ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet)

          ไดโนซอร์ แพลนเน็ต (Dinosaur Planet) ดินแดนสุดตื่นเต้นที่จะพาคุณกลับไปสนุกสนานกับโลกในยุคไดโนเสาร์ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาของไดโนเสาร์อย่างตื่นตาตื่นใจ ด้วยการจัดนิทรรศการที่ผสมผสานเทคโนโลยีสุดทันสมัย แบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ Dinosaur District, Stars of Dino, Dino Eye, 4D Deep-World, The Great Volcano & The Extinction Live Show, Raptor X-Treme และ Dino Farm ซึ่งแต่ละโซนจะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

          ใครอยากชมวิวกรุงเทพฯ สวย ๆ ก็ขึ้นไปบน Dino Eye หรือถ้าต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟก็ต้องไม่พลาดการแสดง The Great Volcano & The Extinction Live Show แนะนำว่าให้เที่ยวชมทุกจุด แล้วคุณจะได้รับความประทับใจแบบสุด ๆ แน่นอน

          ที่ตั้ง : สุขุมวิท 22 ดิ เอ็มสเฟียร์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
          ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 บาท, เด็ก 400 บาท, เด็กสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี แต่มีค่าบริการ Dino Eye 200 บาท และขี่ไดโนเสาร์ 100 บาท
          โทรศัพท์ : 06 3167 6975 , 06 3162 5830
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : dinosaurplanet.net, เฟซบุ๊ก Dinosaur Planet

7. เดอะ สตรีท (The Street) รัชดา

          เดอะ สตรีท (The Street) แหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิปบนถนนรัชดาภิเษก ศูนย์รวมความสนุกสนานของการใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมากิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ออกกำลังกายที่นี่ก็มีหมด พบกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ หลากหลายแบบ ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าแฟชั่นอีกกว่า 200 ร้านให้เลือกเดินช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ไม่ถูกใจก็เดินวนไป รับรองมีแบบที่สวยและโดนใจแน่นอน

          ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีบ๊าวซ์ ไทยแลนด์ (Bounce Thailand) สถานที่ออกกำลังกายสุดชิค ที่จะไม่ทำให้คุณได้อยู่นิ่ง ๆ คุณจะได้ทั้งกระโดดไปมา หรือจะปีนป่ายหน้าผา ก็เลือกเอาตามที่ใจชอบได้เลย ที่สำคัญร้านค้าร้านอาหารบางแห่งยังเปิด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

          ที่ตั้ง : 139 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. บางร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thestreetratchada.com, เฟซบุ๊ก The Street Ratchada

8. The Commons ทองหล่อ

       ไม่ว่าทองหล่อจะวุ่นวายสักแค่ไหน ก็ยังมีที่พักใจสุดเงียบสงบอย่างเดอะ คอมมอนส์ (The Commons) ไว้รอต้อนรับตลอดตั้งแต่เช้าจรดเย็น ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แบบใหม่ ออกแบบให้พื้นที่โปร่งโล่ง และตกแต่งทุกมุมด้วยต้นไม้สีเขียว คล้ายกับเป็นพื้นที่สวนสวย ๆ หลังบ้านที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟสุดอร่อยมากมายให้เลือกเดินชิมลิ้มรส

          บรรยากาศโดยทั่วไปจึงดูผ่อนคลาย ไม่วุ่นวาย สามารถมานั่งเล่น นั่งพักผ่อน หรือนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน ถ้าหิวก็แค่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะได้กินอาหารสุดอร่อยมากมายหลากหลายเมนู โอ้ว ! แค่นี้ชีวิตก็แฮปปี้แล้ว :)

          ที่ตั้ง : 335 ซอยทองหล่อ 17 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 08.00-24.00 น.
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก The COMMONS

9. สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market)

          สวนเพลิน มาร์เก็ต (Suanplern Market) มาร์เกตมอลล์สุดชิคในย่านพระราม 4 แค่ดีไซน์ภายนอกของอาคารก็ทำให้คนกรุงหลงใหลไปไม่น้อย เพราะออกแบบในสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์ ให้มีกลิ่นอายของสถานีรถไฟ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ที่ตั้งของโครงการเคยมีสายรถไฟสายแรกของประเทศไทยอย่างสายปากน้ำวิ่งผ่าน

          ภายในโครงการยังออกแบบตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่เก๋ไก๋ โปร่งโล่งน่ามาเดินเล่นพักผ่อนสุด ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ไว้รอต้อนรับมากมาย จะมาเช้า สาย บ่าย เย็นก็เต็มที่กับชีวิตได้เหมือนกัน

          ที่ตั้ง : 3654 ถนนพระราม4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 09.00-21.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2249 8854
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Suanplern Market - สวนเพลิน มาร์เก็ต

10. ณ กรุงเทเวศร์

          ณ กรุงเทเวศร์ เป็นโครงการร้านค้าติดแอร์ และตลาดที่อยู่ท่ามกลางชุมชนเก่าแก่อย่างชุมชนเทเวศร์ ภายในโครงการเต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศของอดีตในสมัยรัชกาลที่ 6 ด้วยอาคารต่าง ๆ มีสถาปัตยกรรมตามสมัยนั้น รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่าง ๆ ก็มีกลิ่นอายของอดีตด้วยเช่นกัน และยังมีต้นไม้ร่มรื่นสีเขียวขจี อากาศเย็นสบาย

          เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายแบบ ไล่ไปตั้งแต่ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น และอาหารหลากหลายแบบ ณ กรุงเทเวศร์ จึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ดีของคนกรุงเทพฯ อีกหนึ่งแห่ง

          ที่ตั้ง : 164-172 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 09.00-10.00 น.
          โทรศัพท์ : 09 7009 3604
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก ณ กรุงเทเวศร์

11. เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT)

          เดอะ ไบรท์ (The BRIGHT) แหล่งช้อปปิ้งสุดทันสมัยย่านพระราม 2 ที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ออกแบบอาคารให้ความโดดเด่นทันสมัย โปร่งโล่ง น่าเดินเที่ยวพักผ่อน มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถอันกว้างขวาง

          ภายในอาคารของเดอะ ไบรท์ จะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ มากมาย จะอาหารไทย หรืออาหารนานาชาติที่นี่ก็มีให้บริการ บริเวณด้านบนของอาคารยังเป็นพื้นที่สวนสีเขียว จัดไว้เพื่อให้ได้นั่งพักผ่อนกันอีกด้วย

          ที่ตั้ง : 15/6 ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
          เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : thebright.cc, เฟซบุ๊ก THE BRIGHT

12. ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market)

          ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต (Shinsen Fish Market) ตลาดปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นที่เดียวในกรุงเทพฯ ซึ่งมีปลาทะเล ปูทะเล และซีฟู้ด หลากหลายแบบให้เลือกซื้อ มีทั้งแบบสดและแบบแช่แข็ง คัดเลือกคุณภาพมาแล้วอย่างดี ใครที่ชอบทานอาหารทะเลสด ๆ หรือเนื้อปลาดิบสไตล์ญี่ปุ่น สามารถมาเลือกเพื่อไปทำกินเองได้เลย หรือถ้าไม่ถนัดทำกินเอง ที่นี่ก็มีบาร์อาหารพร้อมเสิร์ฟไว้บริการด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีผัก-ผลไม้คุณภาพพรีเมียมไว้จำหน่ายอีกด้วย

          ที่ตั้ง : 163/6 ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2260 6522
          เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก Shinsen Fish Market

          เช็กลิสต์แล้วยังมีที่ไหนที่ยังพลาดไปหรือเปล่าคะ ถ้ายังมีสถานที่ไหนยังไม่ได้ไปเดินเที่ยว วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ว่าง ๆ ลองไปเดินเล่น พักผ่อนสมองกันนะคะ ไปต้องไปไกลถึงต่างจังหวัด ก็ผ่อนคลายได้เหมือนกัน :)
หมายเหตุ : ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2559

ตั๊กออแกไนท์เขตคลองเตย รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
นางรำเขตคลองเตยเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
เขตคลองเตยรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
รําบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย
ฟ้อนบูชาพญานาคเขตคลองเตย
รําบวงสรวงพญานาคเขตคลองเตย

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


238
คลองสามวา / สถานที่ท่องเที่ยว คลองสามวา
« เมื่อ: กันยายน 01, 2021, 01:36:25 AM »
สถานที่ท่องเที่ยว คลองสามวา

Check in 1  วัดโฝวกวงซัน

เริ่มกันที่สายบุญก่อน มุ่งไปที่ “ สถาบันพุทธศาสนา เถรวาทมหายาน วัดโฝวกวงซัน คู้บอน ” เป็นวัดสาขาจากไต้หวัน ตั้งอยู่ที่ถนนคู้บอน เขตคลองสามวา กรุงเทพ ภายในศาสนสถานกว้างขวาง ตัวอาคารงดงามอลังการด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับวัดทางไต้หวัน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพหลายองค์ให้กราบไหว้ขอพร ทั้งรูปหล่อพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระประธานทั้ง 3 พระองค์ สักการะพระแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ขอพรเหล่าเทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมและพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยงที่สวยงามน่าสนใจ ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพอีกแห่งหนึ่งด้วย

สำหรับการเดินทางปักหมุดโดยใช้ google maps พิมพ์ว่า “สถาบันพุทธศาสนาเถรวาท-มหายาน โฝวกวงวัน ” วัดไม่ได้ปิดนะคะ แค่ประตูใหญ่ด้านหน้าจะปิดไว้เท่านั้นเองคนส่วนใหญ่เลยเข้าใจว่ายังไม่เปิด ให้เข้าประตูถัดไปที่มีป้อมร ป ภ ตรวจนะคะ สามารถนำรถเข้าไปจอดในวัดได้เลย ภายในสถานที่ได้ออกแบบพุทธวิหารทั้งหมดเป็นศิลปะแบบไต้หวัน​ผสมผสานจีน ประกอบไปด้วย พระอุโบสถ วิหารพระอวโลกิเตศวร เจดีย์พุทธรังษี ห้องวิปัสสนา หอฉัน ห้องเรียนพุทธศาสนา ห้องประชุม เรือนรับรอง กุฏิพระ หอพระไตรปิฎก (ห้องสมุด) หอระฆัง และหอกลอง เป็นต้น รวมทั้งลานจอดรถและสวนดอกไม้ เมื่อเข้าไปข้างในให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในประเทศจีน หรือไต้หวัน บรรยากาศคล้ายกำลังเดินเข้าไปในพระราชวัง

อาคารทั้งหมดวางผังเป็นสี่เหลี่ยม มีทางเดินหินอ่อนไปจนถึงตัวบันไดเข้าสู่ตัวพระอุโบสถ ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามอลังการ ประดับด้วย หินขัด หินแกะสลัก ไม้แกะสลักพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านหน้ามีกำแพงหินแกะสลักลวดลายมังกรที่อ่อนช้อยสวยงาม

ภายในอาคารโอ่อ่า ประดิษฐานรูปหล่อพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นองค์พระประธานทั้งสามองค์ สีทองสวยงามอร่ามตา รวมทั้งมีลวดลายแกะสลักอันอ่อนช้อยของเจ้าแม่กวนอินประดับบนกำแพงขนาบข้างองค์พระ

จากนั้นเดินไปต่อยัง อาคารที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สูงตระหง่าน สีทองโดดเด่น สง่างาม รอบอาคารตกแต่งสวนแบบจีน รวมถึงมีรูปปั้นเทพจีนประดับรอบอาคาร เป็นการเดินชมวัดแบบจีนที่ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ และที่สำคัญนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก และไม่มีคณะทัวร์จีนเยอะ เดินเที่ยวชมบรรยากาศ ถ่ายรูปได้แบบสบายๆ

ใต้เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่เป็นอาคารประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 4 ปาง  ทั้ง ปรางค์ประธานบุตร ปางประทานพร ปางประทานทรัพย์ และปางประธานโชคลาภ เปฌนอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์​ พื้นที่กว้างขวางสงบเงียบ มีสถาปัตยกรรมรวมทั้งประติมากรรมที่สวยงามอลังการ รวมทั้งเทพเจ้าจีนหลายองค์ให้กราบไหว้​ขอพร ที่สำคัญอยู่ในกรุงเทพ โซนคู้บอน รามอินทรา ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางมาก 

Check in 2   Swai คาเฟ่ สไตล์อิงลิชคอทเทจ

ต่อด้วยนั่งพักจิบเครื่องดื่มดีๆ  ที่ Swai café (สไว) พิกัดตั้งอยู่ในโครงการบ้าน เป็นร้านเล็กๆสไตล์อิงลิชคอจเทจ  ตกแต่งโทนสีฟ้าขาวแบบพาสเทลรายล้อมด้วยสวย ร่มรื่น มีบึงบัวขนาบข้าง มาพร้อมกับเครื่องดื่มและเมนูของหวาน ที่บอกได้เลยว่า รสชาติดีมาก เป็นความอร่อยที่เกินความหมายที่แท้ทรู ไม่ได้คิดว่าจะมีคาเฟ่น่ารัก แถมเครื่องดื่มดี ซุกซ่อนอยู่ในบริเวนทางเข้าหมู่บ้านย่านคลองสามวาด้วย  แถมเจ้าของร้านน่ารัก บริการดีเยี่ยม

ภายนอกร้านกว้างขวางเป็นที่นั่งแบบเอาท์ดอร์ บรรยากาศกลางสวนสีเขียว มองเห็นบึงบัวที่อยู่บริเวณด้านข้าง มีมุมให้เลือกนั่งหลายมุม

ส่วนภายในร้านเป็นแบบห้องแอร์ ให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตา ด้วยเฟอร์นิเจอร์มไม้สีขาว มีโต๊ะนั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์สุดเก๋ ริมหน้าต่างกระจกที่สามารถมองเห็นวิวสวนข้างนอกได้  ทางร้านมีจำหน่ายสินค้าออแกนิคด้วย ทั้ง ไข่ไก่ และผัก  ราคาไม่แพง สามารถอุดหนุนกลับบ้านกันได้

เมนูของร้านเน้นเครื่องดื่มและของหวาน แนะนำต้องสั่ง โรตีวัฟเฟิล มีให้เลือกท๊อปปิ้งหลายแบบ ทั้งนมน้ำตาล  นมโอวัลติน แป้งกรอบมากทานเพลิน เพิ่งเคยทานจากทีนี่ครั้งแรก ที่นำแป้งโรตีมาประกอบร่างให้หน้าตาเหมือนวัฟเฟิล ติดดาวความอร่อยแบบสิบ สิบ ส่วนเครื่องดื่มสำหรับคนที่ไม่โปรดกาแฟล้วนแบบเราสั่ง กาแฟส้ม รสชาติดีอีกเช่นกัน ทางร้านใช้น้ำส้มแท้ผสมกับกาแฟที่ไม่เข้มและได้กลิ่นกาแฟแรงจนเกินไป ทานแล้วรสชาติกำลังพอดี เป็นครั้งแรกที่ทานเครื่องดื่มนี้แล้วไม่รู้สึกแบบอึนและเวียนหัว

สไวคาเฟ่

241 ถนนไทยรามัญ คลองสามวา กรุงเทพ

เปิดให้บริการ อังคาร – อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 07:30 น.- 18:00 น.

เฟสบุค คลิ๊ก สไวคาเฟ่

Check in 3  วิหารเสด็จพ่อพระศิวะ

กลับมาที่สายบุญต่อที่  วิหารเสด็จพ่อพระศิวะ ตั้งอยู่ในซอย คู้บอน 27  รามอินทรา 71 กม.8 เป็นศาสนสถานที่เงียบสงบและงดงามประดิษฐานเทวรูปองค์พระมหาศิวะเทพองค์ใหญ่สีทองอลังการ  อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานเหล่ามหาเทพ และเทพพรหมต่าง ๆ มากมาย
เมื่อไปถึงในพื้นที่อันดับแรก คือ เข้าไปไหว้องค์เทพ สามารถซื้อของบูชาด้านหน้าชุดละ 200 บาท โดยเริ่มจากขอพรพระศิวะ พระเเม่กวนอิม และพระประจำวันเกิด  นอกจากนี้ยังมีองค์เทพอีกมากมาย ทั้ง พระพิฆเนศ พระแม่กาลี พระราม พระลักษมณ์ รวมถึงเทพของพม่าอย่างเทพทันใจ
จากนั้นเดินไปยังวิหาร จะผ่านสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีความงดงามตามแบบฉบับของอินเดีย มีรูปปั้นช้าง 2 ตัวและองค์เทพ สระน้ำรวบรวมเอาน้ำจากแหล่งกำเนิด 3 ที่ ได้แก่ คือ น้ำจากเขาไกรลาศ จากสุวรรณวิหาร เมืองอมฤตสา และจากแม่น้ำคงคา เมืองพาราณสี

ขึ้นไปยังชั้นสองของวิหารจะเจอกับรูปปั้นองค์เทพพระศิวะ และพระแม่อุมา ให้กราบไหว้ขอพร   จากจุดนี้เดินไปยังอาคารที่ประดิษฐานพระศิวะองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 9.99 เมตร และมีความสูง 16 เมตร ยิ่งมาในช่วงบ่ายแก่ๆ ยามที่มีแสงแดดส่องกระทบองค์พระศิวะยิ่งเพิ่มความมีมนต์ขลังและศักดิ์สิทธิ์

ก่อนกลับแวะไปอีกบริเวณหนึ่งเป็นที่ประดิษฐานมหาโพธิสัตว์กวนอิม หน้าตักกว้าง 18 เมตร สูง 21 เมตร พร้อมด้วยเทวรูปสาวกเจ้าชาย-เจ้าหญิง ซึ่งมีความสูง 11 เมตร แต่ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง วิหารเสด็จพ่อพระศิวะ ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์และสงบร่มรื่น  ให้ทุกคนที่มาเยือนเกิดความรู้สึกได้รับความสุขกาย สบายใจกลับไป

Check in 4  Lowbattery  คาเฟ่ สไตล์มินิมอล

Lowbattery Coffee  คาเฟ่คลุมโทนสีดำ ขาวในสไตล์มินิมอลที่มีความคูลสุดๆ พิกัดอยู่ในซอยคู้บอน 26 ถนนรามอินทรา ร้านตั้งอยู่เลยจากปากซอยมาเล็กน้อย หน้าร้านมีพื้นที่ไม่มาก แต่สามารถไปจอดรถเลียบถนนในซอยแล้วเดินมานิดหน่อย ตัวร้านเป็นทรงสีเหลี่ยมสีดำแบบเรียบๆแต่เก๋ ด้านหน้ามีชื่อและสัญลักษณ์ของร้านเป็นรูป Lowbattery สีขาวแดง ตัดกับพื้นสีดำ เป็นจุดถ่ายภาพจุดแรกที่ทุกคนต้องหยุดแชะภาพ

เข้ามาถึงเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มและขนมได้เลยค่ะ สั่งแล้วจ่ายเงินรับกริ่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อออเดอร์ของเราเสร็จแล้ว ระหว่างรอก็เดินถ่ายภาพตามมุมต่างๆได้ ภายในร้านไม่กว้างมาก ข้างในเป็นส่วนของที่นั่ง ซึ่งเป็นอาคารแบบกล่องสี่เหลี่ยม สีขาว

ระหว่างอาคารมีทางเดินเล็กๆเป็นร่องพื้นโรยด้วยหิน สามารถแทรกตัวเข้าไปถ่ายภาพได้ รวมถึงมุมมิมอลกับเจ้าต้นกระบองเพชร เป็นร้านที่ตกแต่งแบบเรียบๆคลุมโทนได้ดี ถ่ายภาพออกมาก็จะแนวๆ หน่อย มีบันไดทางขึ้นไปยังดาดฟ้า ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพฮิตอีกหนึ่งจุด

เมนูของร้านมีทั้งเครื่องดื่มและเบอเกอรี่ และอาหารจานเดียว เครื่องดื่มมีหลายเมนู ทั้ง Black Heaven น้ำมะพร้าวสดตบด้วยช็อตกาแฟนุ่ม ชาออแกนิกเย็น โกโก้ ชาเขียว ชานม ซึ่งมีการดีไซน์เครื่องดื่มแต่ละเมนูได้แปลกใหม่  สั่งโกโก้มินท์ คือ รสชาติดีงาม  โกโก้มีความเข้มข้นได้ความหอมของมินท์เข้าจมูกช่วยให้สุดชื่นไม่น้อย

ตั๊กออแกไนท์คลองสามวา รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคคลองสามวา
นางรำคลองสามวาเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคคลองสามวา
คลองสามวารําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคคลองสามวา
รําบวงสรวงพญานาคคลองสามวา
ฟ้อนบูชาพญานาคคลองสามวา
รําบวงสรวงพญานาคคลองสามวา

  ติดต่อสอบถามเรา        
            


239
One Day Trip เที่ยวย่านฝั่งธนบุรี เดินทางสบาย ๆ ด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม และสายสีทอง

1. ตะลุยกินของอร่อยตลาดพลู
          ตลาดพลู ย่านการค้าที่มีความคึกคักมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินที่หลากหลายเมนูยังคงความอร่อยไว้ไม่เสื่อมคลาย มีนักชิมมากหน้าหลายตาแวะเวียนไปกินเมนูอร่อยกันแทบทุกวัน บางร้านต้องต่อคิวยาวนานก็อดทนยืนรอ เพื่อให้ได้ลิ้มรสเมนูในดวงใจ ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใหญ่โต เป็นเพียงร้านค้าริมทางที่มีการสืบทอดสูตรกันมารุ่นต่อรุ่น

          เมนูที่น่าสนใจในตลาดพลู เรียกได้ว่าไม่ต้องนับ เพราะเยอะมากจริงๆ เช่น ขนมกุยช่ายแป้นศรี, ข้าวหมูแดงนายอ้า, สุณีข้าวหมูแดง, นิ-อ่าง ไอศกรีมกะทิไข่แข็ง, ขนมไทยโบราณ ปากซอยเทอดไท 25, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ต.จันทร์เพ็ญ, เย็นตาโฟ, ขนมเค้กโบราณ, หมี่กรอบจีนหลี, เจ๊บิ เปาะเปี๊ยะสด, กระเพาะปลาขันน้ำ, ผัดไทลูกชายบางสะแก, เล็กหงษ์ ข้าวต้มปลา, สรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทย, ฉอเล้ง หมี่กระเฉด, หลีเฮง คั่วไก่, กระเพาะปลานายบ๊วย, บะหมี่ตงเล้ง และขนมเบื้องญวนสุอาภา เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีตลาดพลู
2. อิ่มพุงกางไปกับของกินในตำนานย่านท่าดินแดง
          ถนนท่าดินแดง เป็นถนนที่มีชีวิตชีวามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยเป็นจุดเชื่อมต่อของท่าเรือดินแดงริมแม่น้ำเจ้าพระยากับถนนสายหลักอย่างถนนสมเด็จเจ้าพระยา และถนนลาดหญ้า และยังมีตรอกซอกซอยเล็ก ๆ ให้เลี้ยวลัดเลาะไปยังถนนสายอื่น ๆ ได้อีกด้วย พร้อมทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหารอร่อยเด็ดมากมาย จึงทำให้ย่านนี้ไม่เคยหลับใหล ผู้คนต่างแวะเวียนมาลิ้มลองของอร่อยกันทุกวัน

          ร้านอาหารท่าดินแดงที่อยู่ในลิสต์ไม่ควรพลาด เช่น บะหมี่ท่าดินแดง, ร้านอาหารจานเดียวกุ๊กกุ๊กไก่, ร้านท่าดินแดงโภชนา, ตี๋ หมูสะเต๊ะ, ร้านส้มตำอิ่มครบรส, ธ. ก๋วยจั๊บญวน, ข้าวมันไก่ป้าเล็ก, โอวกี่หมูสะเต๊ะ, ก๋วยจั๊บเจ๊หลา, ข้าวพระรามลงสรง ท่าดินแดง, ข้าวขาหมู IMF, ก๋วยเตี๋ยวไก่ป้าดำ, ราดหน้านายฉุน ท่าดินแดงซอย 3, ข้าวต้มปลานายฮ้อ ท่าดินแดง, ก๋วยเตี๋ยวเป็ดรสเด็ด, นมสดท่าดินแดง และโบ๊กเกี้ยท่าดินแดง เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีคลองสาน หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีคลองสาน
3. ช้อปปิ้ง ชมวิวริมแม่น้ำ และอิ่มอร่อยกับอาหารไทย/นานาชาติ ณ ไอคอนสยาม
          ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า 50 ไร่  ที่นอกจากจะนำเสนอประสบการณ์เหนือระดับในการช้อปปิ้ง ไอคอนสยามยังเป็นศูนย์การค้าที่รวบรวมศิลปะ ประเพณีท้องถิ่น นวัตกรรม สถาปัตยกรรมระดับโลกได้อย่างลงตัว  ไอคอนสยามประกอบด้วยลักชัวรี่แบรนด์ แบรนด์ชั้นนำระดับนานาชาติ และของไทย ร้านอาหารชื่อดัง ซุปเปอร์มาร์เก็ต สุขสยาม ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง Takashimaya จากญี่ปุ่น ตลอดจน Entertainment หลากหลายประเภท อาทิเช่น ลานริเวอร์ พาร์ค ที่มีการแสดงระบำสายน้ำ แสง สี เสียง มัลติมีเดีย ที่ยาวและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  รวมถึงศูนย์การประชุมระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วย

การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีเจริญนคร หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีเจริญนคร
4. ตะลุยช้อปปิ้งสินค้าราคาเบา ๆ กินอาหารสตรีตฟู้ด พักผ่อนคาเฟ่ชิล ๆ ย่านคลองสาน
          ด้วยความที่ย่านคลองสานเป็นจุดต่อเรือโดยสารทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา เรือข้ามฟากไปยังฝั่งบางรัก และรถไฟฟ้า BTS จึงทำให้ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย พร้อมทั้งตลาดขนาดใหญ่อันเป็นแหล่งรวมสินค้าราคาเบา ๆ นับร้อยร้านค้า บรรยากาศคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน แถมยังมีร้านหนังสือและคาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ อย่าง The Jam Factory รวมถึงร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ด้านในของที่นี่ให้ไปนั่งชิลแวะพักเหนื่อยระหว่างวันได้ด้วย

          ร้านอาหารอร่อยย่านคลองสานที่อยากแนะนำ เช่น บัวลอยไข่เค็ม ท่าน้ำคลองสาน, ร้านพูนเลิศ เป็ดย่าง, BKK Grill, ข้าวต้มเจ๊เหมี่ยว เจริญรัถ, อาหารจีนกอกใจเจ๋าเหล่า, ร่มโพธิ์ ร้านอาหารอีสานรสเด็ด, ดวงดีทะเลเผา, ข้าวมันไก่ สมหมาย ถนนเจริญรัถ และเจริญรัถเป็ดพะโล้ เป็นต้น

การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีคลองสาน หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีคลองสาน
5. สักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ลิ้มรสอาหารอร่อยเด็ดวงเวียนใหญ่
          ย่านที่คึกคักอีกแห่งของฝั่งธนบุรี เพราะเป็นจุดต่อรถโดยสารสาธารณะ และรถไฟไปยังแถบชานเมือง มีจุดแลนด์มาร์กสำคัญก็คือ พระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2497 โดยได้ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ออกแบบ ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณวงเวียน ใกล้กับตลาดวงเวียนใหญ่

          สิ่งที่น่าสนใจของย่านนี้ก็คือ ร้านอาหาร ซึ่งมีร้านอร่อย ๆ เก่าแก่ซ่อนตัวอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสมศักดิ์ปูอบ, ผัดไทยรสเด็ด, เจริญไทย สุกี้เจ้าเก่า, จุ่มลาดหญ้าหน้าสหกรณ์, ไข่หวานบ้านซูชิ, ข้าวซอยแม่สะเรียง, ครัวเฮงเฮง, หอยแครงลวกเจ้ภา, เหวินหลงก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา, ผัดไทยนรกแตก, ร้านรุ่งฟ้า, หมูสะเต๊ะสมมิตร, บะหมี่เยาวราช ตากสิน 4 และสุดแซ่บยำมะม่วงปูม้า, เฝอหม้อไฟ, ทอดมันปลา และสุกี้สไตล์เวียดนาม เป็นต้น


การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็ลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย แล้วก็ต่อรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

เส้นทางชมวิถีชุมชน
6. สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนคลองบางหลวง
          ชุมชนเก่าแก่ริมคลองบางกอกใหญ่ที่ยังคงมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ผสมผสานทั้งความเป็นจีนและไทยไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ชาวบ้านยังคงสัญจรไป-มาในชุมชนโดยใช้เรือหางยาว ตลอดสองฝั่งคลองจะมีทั้งวัดวาอาราม ร้านขายของชำเก่าแก่ ร้านอาหารดั้งเดิม และสถานที่ท่องเที่ยวอย่างบ้านศิลปินให้ได้เที่ยวชม นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเช่าเหมาเรือนั่งชมวิถีชีวิตของชาวบ้านได้


          สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น บ้านศิลปิน ศูนย์รวมงานศิลปะต่าง ๆ รวมถึงการแสดงหุ่นละครเล็ก, วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร ที่ประดิษฐานพระพุทธเทวนฤมิตพิชิตมาร, ร้านอนันต์การค้า ร้านขายของชำเก่าแก่ที่อยู่คู่คลองมายาวนานหลายสิบปี และวัดประดู่ฉิมพลี สถานที่ตั้งของเจดีย์กลมทรงรามัญ เป็นต้น

การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีบางหว้า แล้วต่อเรือโดยสารจากท่าเรือบางหว้าไปลงที่คลองบางหลวง
7. เที่ยวเพลิน ๆ ท่ามกลางบรรยากาศไทย-จีน และไหว้ขอพรเจ้าแม่ทับทิม ณ ล้ง 1919
          ที่เที่ยวฝั่งธนบุรีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มายาวนาน โดยเนรมิตท่าเรือเก่าแก่ให้ฟื้นคืนชีพกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงมรดกวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่นในเรื่องของศิลปะไทย-จีน มีร้านค้าให้เดินชมเพลิน ๆ พร้อมด้วยร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมไปถึงพื้นที่พักผ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา

          นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมเดินทางไปสักการะ “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” หรือเจ้าแม่ทับทิม ที่ประดิษฐานอยู่คู่ “ฮวย จุ่ง ล้ง” มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2393 โดยองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วทำขึ้นจากไม้ มีทั้งหมด  3 ปาง ได้แก่ ปางเด็กสาว ปางผู้ใหญ่ และปางผู้สูงอายุ โดยทั้ง 3 ปาง ชาวจีนได้นำขึ้นเรือมาจากประเทศจีน เมื่อถึงประเทศไทยก็ได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก LHONG 1919

การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นเปลี่ยนสถานีอีกครั้งที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่สถานีคลองสาน หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็เปลี่ยนเป็นสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วไปลงที่สถานีคลองสาน
เส้นทางไหว้พระเสริมบุญ
8. ไหว้พระขอพร วัดปากน้ำภาษีเจริญ
          พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง มีสถาปัตยกรรมและศิลปวัตถุที่อยู่คู่วัดมา เช่น หอพระไตรปิฎก และตู้พระไตรปิฎกทรงบุษบก ซึ่งเป็นฝีมือช่างหลวงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญของเขตภาษีเจริญ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล, พระพุทธธรรมกายเทพมงคล พระพุทธรูปปางสมาธิซึ่งสูงกว่า 69 เมตร, รูปหล่อเหมือนหลวงพ่อสด, หอสังเวชนีย์มงคลเทพนิรมิต และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เป็นต้น
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้จากทุกสถานี หากมาจากทางเคหะฯ สุขุมวิท หมอชิต ให้เปลี่ยนเป็นสายสีลม (สายสีเขียวเข้ม) ได้ที่สถานีสยาม จากนั้นลงที่สถานีตลาดพลู/วุฒากาศ หรือถ้าหากมาจากทางบางหว้า ก็ลงที่สถานีตลาดพลู/วุฒากาศ โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย แล้วก็ต่อรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
          สำหรับคนที่ต้องการหาสถานที่เที่ยวพักผ่อนในกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ฝั่งธนบุรีก็เป็นอีกย่านที่น่าสนใจไม่น้อย มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกครบทุกสไตล์ ได้ทั้งสายกิน สายบุญ สายเที่ยวเดินชิลและช้อปปิ้ง แถมยังใช้เวลาไม่เยอะ มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้แล้ว หากวางแผนจะเดินทางไปเที่ยวในช่วงนี้ ก็อย่าลืมป้องกันและดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจาก Covid-19 กันด้วยนะ

ตั๊กออแกไนท์คลองสานรับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคคลองสาน
นางรำคลองสานเพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคคลองสาน
คลองสานรําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคคลองสาน
รําบวงสรวงพญานาคคลองสาน
ฟ้อนบูชาพญานาคคลองสาน
รําบวงสรวงพญานาคคลองสาน


  ติดต่อสอบถามเรา        
            


240
20 ที่เที่ยวกระบี่ จดลงลิสต์ แล้วตามไปเช็กอินกันเพลิน ๆ
1. สระมรกต

          ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองท่อม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประมง โดยมีต้นกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ ไฮไลต์อยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับสระน้ำธรรมชาติที่มีสีเขียวเหมือนมรกตขนาดใหญ่ และมีความใสจนมองเห็นพื้นหินข้างล่างได้อย่างชัดเจน รอบ ๆ บริเวณยังมีศาลาเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์ รวมถึงยังได้เพลิดเพลินกับการว่ายน้ำเล่น ท่ามกลางร่มไม้ใหญ่แบบชิล ๆ

2. ทะเลแหวก

          หนึ่งในที่เที่ยวสุดอันซีนของกระบี่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งมีที่มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติเมื่อยามน้ำลด ที่จะพัดพาเอาเม็ดทรายมารวมกัน ณ ที่นี้ และเผยให้เห็นแนวสันทรายยาวเชื่อมต่อได้ระหว่าง 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไป-มาระหว่างเกาะ ท่ามกลางบรรยากาศน้ำสวยทะเลใสของกระบี่

3. เขาขนาบน้ำ

          สัญลักษณ์สำคัญของกระบี่ มีลักษณะเป็นเขาสองลูก ตั้งตระหง่านขนาบแม่น้ำกระบี่ ซึ่งไม่ว่าใครมาเยือนตัวเมืองกระบี่ ก็สามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด ที่สำคัญ…นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้อีกด้วย ภายในประกอบด้วยหินงอกหินย้อย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่เคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมาก (แต่ปัจจุบันไม่มีหลงเหลือแล้ว) ใครชอบกิจกรรมแนวผจญภัยนิด ๆ ลองมาเที่ยวที่นี่กันดู

4. อ่าวนาง

          เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา และเป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของกระบี่ ด้วยเพราะเป็นจุดต่อเรือไปยังที่ต่าง ๆ ได้สะดวก จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเที่ยวที่อ่าวนางเป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นหาดทรายทอดยาว มีถนนเลียบชายหาด มีภูเขาคั่นระหว่างชายหาด ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตา และยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

ที่เที่ยวกระบี่

5. ป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ

          ตั้งอยู่ที่บ้านหนองจิก ที่นี่มีแหล่งน้ำจืดที่ใสสะอาดเสียจนมองเห็นพื้นน้ำเบื้องล่าง ประดับด้วยรากไม้ป่าหลุมพีที่เลื้อยไปเลื้อยมา ยิ่งเมื่อแดดสาดแสงลงมาจับต้องแอ่งน้ำเหล่านี้ ยิ่งก่อให้เกิดประกายระยิบระยับ นักท่องเที่ยวจะได้เดินชมธรรมชาติบนสะพานไม้ระแนง ทอดตัวเลื้อยไปตามแอ่งน้ำ บางช่วงมีเก้าอี้ไม้นั่งพัก นั่งชมทัศนียภาพสองข้างทาง หรือเติมดีกรีผจญภัยอีกนิดด้วยการพายคายักล่องไปตามแนวป่าโกงกาง ก็ได้อรรถรสการท่องเที่ยวไปอีกแบบ

6. น้ำตกร้อนคลองท่อม

          ตั้งอยู่ในเขตอำเภอคลองท่อม บริเวณบ้านบางคราม-บ้านบางเตียว มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติกลางป่ารองรับน้ำตก ที่ไหลมาพร้อมกับสายน้ำแร่ และเป็นธารน้ำพุร้อนผุดที่ขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติ ในอุณหภูมิพอเหมาะที่นักท่องเที่ยวสามารถลงไปแช่ได้ ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถบำบัดอาการไขข้ออักเสบ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และเกี่ยวกับผิวหนัง พร้อมกับธรรมชาติแนวป่าอันร่มรื่น

7. หมู่เกาะห้อง

          ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งหาดสองหาดติดกันโดยกั้นด้วยโขดหินตรงกลาง น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่การดำน้ำ ตกปลา รวมถึงยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสวย ๆ อีกด้วย


8. หาดไร่เลย์

          ตั้งอยู่ในตำบลอ่าวนาง เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา และสามารถปีนได้ตลอดทั้งปี และถูกภูเขาล้อมรอบทุกด้าน ทำให้ผู้คนที่จะเดินทางมาเที่ยวหาดไร่เลต้องนั่งเรือเพียงอย่างเดียว ซึ่งนี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งทำให้ชาวบ้านที่หาดไร่เลย์ ยังไม่ถูกเทคโนโลยีหรือความเจริญกลืนกิน รวมถึงวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย โดยที่ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว

9. น้ำตกธารโบกขรณี

          ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีลักษณะเป็นธารน้ำธรรมชาติไหลลงมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ไล่ระดับกัน นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ บรรยากาศร่มรื่นและสามารถเห็นทัศนียภาพของรากไม้ต่าง ๆ ที่ชอนไชอยู่ตามแอ่งน้ำอย่างสวยงาม
10. วัดถ้ำเสือ

          ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 5-6 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พลาดไม่ได้กับการสักการะขอพรจาก "เจ้าแม่กวนอิม" ซึ่งตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัด สูงเด่นเป็นสง่า รวมถึงการพิชิตบันได 1,200 ขั้น เพื่อขึ้นไปสักการะ "พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่" ซึ่งตั้งอยู่บนดอย อีกทั้งยังมองเห็นทิวทัศน์กระบี่ได้โดยรอบ
11. สุสานหอย

          ตั้งอยู่ที่ชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 17 กิโลเมตร สภาพเป็นลานหินกว้างยื่นลงไปในทะเล เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ จะเห็นเป็นซากหอยอัดแน่นจนกลายเป็นหาดหินริมทะเล ทั้งนี้ สุสานหอย คือซากดึกดำบรรพ์ของหอยขมน้ำจืด ที่ทับถมจับตัวกันบนชั้นหินลิกไนต์และหินดินดาน กลายเป็นลานหินขนาดกว้างใหญ่อยู่ริมทะเล

12. หมู่เกาะปอดะ

          ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากชนิดที่ยังสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งดึงดูดของนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมได้เกือบตลอดปี และเป็นจุดที่ตกปลาได้ดีเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมมากนัก สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง เพื่อเดินทางมาเที่ยวยังเกาะแห่งนี้ได้โดยสะดวก

13. หาดนพรัตน์ธารา

          เดิมชาวบ้านเรียกว่า "หาดคลองแห้ง" เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายทะเลยาวเหยียด เมื่อน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดได้

14. อ่าวท่าเลน

          แหล่งพายเรือคายักของจังหวัดกระบี่ บริเวณนี้เป็นโตรกผาสูงตระหง่าน น้ำทะเลสีเขียวใส และป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด เช่น ลิงแสม ปลา ปู ค้างคาว ที่สามารถมองเห็นได้อย่างใกล้ชิด ด้วยเพราะความสมบูรณ์ทางธรรมชาติแบบนี้นี่เอง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพายเรือคายักเพื่อการพักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์ในวันหยุดท่องเที่ยวสบาย ๆ

15. เกาะลันตา

          ประกอบด้วย เกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อย โดดเด่นด้วยชายหาดยาวเรียงรายต่อเนื่องกันถึง 13 หาด เพียบพร้อมด้วยที่พักหลากสไตล์ หลายราคา รวมถึงนักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชนที่แสนสงบของชาวไทย-จีน ชาวไทย-มุสลิม ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข

16. เกาะไก่

          เป็นหนึ่งในสามเกาะที่ทำให้เกิดสันทรายที่เราเรียกว่า "ทะเลแหวก"  ที่เรียกว่าเกาะไก่ก็เพราะว่าทางด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลม ๆ เมื่อมองขึ้นไปแล้วคล้ายคอไก่ เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทราย แต่จุดเด่นของที่นี่คือน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว มองเห็นปลาแหวกว่ายอยู่เต็มไปหมด เป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำที่สวยแห่งหนึ่งของทะเลกระบี่เลยทีเดียว

17. อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

          เป็นอุทยานทางบกแห่งเดียวของจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนในแนวเหนือจรดใต้ มียอดเขาพนมเบญจาซึ่งสูง 1,397 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงที่สุดในกระบี่ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามทั้งลำธาร น้ำตก ถ้ำ และมีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น สมเสร็จ เลียงผา หมีควาย เสือปลา และมีนกที่สามารถพบเห็นได้มากมาย เช่น นกอินทรี นกเงือก นกหัวขวาน เป็นต้น

18. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม

          ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านบางเตียว ตำบลคลองท่อมเหนือ ไฮไลท์อยู่ที่ทางเดินศึกษาธรรมชาติทีนา โจลิฟฟ์ (ทุ่งเตียว)  ผู้ริเริ่มความคิดที่จะอนุรักษ์ป่าดิบชื้นผืนนี้ไม่ให้ถูกทำลาย ตลอดทางนักท่องเที่ยวจะได้ความรู้จากป้ายบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องราวของนกแต้วแร้วท้องดำ นกป่าที่หาดูและชมได้ยากในประเทศไทย และนกอีกนานาชนิด เช่น นกเขาเปล้า นกโพระดก นกเขียวคราม นกปรอด นกกินปลี นกปลีกล้วย และกระรอกพันธุ์ต่าง ๆ เป็นต้น

19. อ่าวมาหยา

          ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวจากภาพยนตร์เรื่อง เดอะ บีช (The Beach) ลักษณะอ่าวเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ น้ำทะเลสีเขียวมรกตสดใส กับหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์นุ่มเท้าด้วย ที่เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสบรรยากาศทะเลที่แสนงดงามแห่งนี้ด้วยตาตัวเอง ทั้งนี้ ด้วยปัญหาสภาพแวดล้อมทางทะเลที่เสื่อมโทรมบริเวณอ่าวมาหยา ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปิดการท่องเที่ยวหาดทรายและชายฝั่งบริเวณอ่าวมาหยาอย่างไม่มีกำหนด เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาสวยดังเดิม

20. เกาะจำ

          ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเกาะศรีบอยา มีทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านเกาะปู หมู่บ้านเกาะจำ และหมู่บ้านติงไหร ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงมีวิถีชีวิตเฉกเช่นชาวเล รวมถึงยังทำสวนยางพารา เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่ นั่นคือ ความเงียบสงบ ด้วยเพราะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว จึงเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนอย่างแท้จริง

ตั๊กออแกไนท์กระบี่ รับงานแสดงละครรำ รำถวายแก้บนตามงานพิธีมงคลต่างๆ 
รับงานแสดงไทย โขน ละคร ฟ้อน รำ ทุกประเภท งบประมาณตามตกลงและพอใจ
รับงานแสดงไทย รำอวยพร รำแก้บน รำหน้าไฟ ผลงานของเรา
รำบวงสรวงพญานาคกระบี่
นางรำกระบี่ เพลงรําถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ
พิธีรำบวงสรวงพญานาคกระบี่
กระบี่ รําบวงสรวงพญานาคประวัติ
ชุดรําบวงสรวงพญานาคกระบี่
รําบวงสรวงพญานาคกระบี่
ฟ้อนบูชาพญานาคกระบี่
รําบวงสรวงพญานาคกระบี่

  ติดต่อสอบถามเรา        
            



หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 29